ชีวิตที่ไม่ปกติดำเนินมาจนครบเดือน แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นให้เห็น เอียนและคริสตอฟเหมือนหายตัวไปจากโลกใบนี้ ชาคริตไม่สามารถจับการเคลื่อนไหวหรือตามหาอีกฝ่ายเจอ แต่แทนที่จะสบายใจ เขายิ่งกังวลใจมากขึ้นกว่าเดิม ตราบเท่าที่อีกฝ่ายยังไม่ตายและหมดลมหายใจไปต่อหน้าเขาก็ไม่มีวันรู้สึกสบายใจ กินอิ่มนอนหลับได้หรอก วันนี้ร้านสามพี่น้องสาขาแรกเปิดงานเทศกาลขนมไทยของทางร้าน ฤชาต้องมาเป็นคนเปิดงานและโชว์ตัวประชาสัมพันธ์กับผู้มาทำข่าว วันนี้เขามาในชุดเชฟสีขาวสะอาด ผมยาวตรงสีดำสลวยถูกมัดรวบไว้ด้านหลังอย่างเรียบร้อย จนปัจจุบันนี้ฤชาก็ยังคงไว้ผมยาวอยู่เช่นเดิม " เชฟฤชาคะ ไฮไลท์วันนี้มีอะไรบ้างคะ " นักข่าวหญิงของช่องทีวีออนไลน์ชื่อดังเข้าสัมภาษณ์ " พวกขนมไทยประยุกต์ครับ ทำให้ทานง่ายขึ้น ปรับรสชาติให้กล่อมกล่อมและไม่หวานมากจนเกินไป ทดลองขอตัวอย่างได้ที่ซุ้มหน้าร้านนะครับ " ฤชากล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส วันนี้มีแค่นาวีที่มาช่วยดูแลงาน ส่วนชลธีติดเรียนจึงไม่ได้มาอยู่ช่วยงานของที่ร้านด้วย " บึ้ม!!! " เสียงระเบิดตามมาด้วยแรงอัดปะทะจนกระจกร้านกระจายเกลื่อน ฤชารู้ตัวอีกทีเขาก็ได้ยินแต่เสียงวิ้งไปทั้งหู นอนหน้าแนบพื้น ชาหนึบไปทั้งตัว ตาของเขาพร่าเบลอจับภาพไม่ค่อยได้แต่ท่าที่เห็นราง ๆ คือรอบด้านวุ่นวายไปหมด คนวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น มีคนนอนแบบเขาบนพื้นอีกหลายคน กลิ่นไหม้เข้าจมูกมาเป็นระยะ จากนั้นเขาก็นึกถึงนาวีน้องชายของตนได้ ฤชาพยายามยันตัวลุกแต่เขาไร้เรี่ยวแรงที่จะเคลื่อนไหว จากนั้นก็รู้สึกถึงคนมาสัมผัสที่ตัว " ชา ชา พี่! " เสียงแว่วจากที่ไกล ๆ ก่อนจะค่อยชัดเจน " วี? " " อย่าพึ่งขยับ หลังพี่มีแต่เศษกระจก " เลือดสีแดงได้ไหลอาบย้อมชุดเชฟสีขาวบริเวณแผ่นหลังจนกลายเป็นสีแดงเข้ม นาวีใจเสีย เขาได้โทรติดต่อไปยัง 191 และเรียกรถพยาบาลแล้ว แต่พี่ชายของเขากำลังเสียเลือดมากจนน่าตกใจ นาวีทำอะไรไม่ถูก เขารู้แต่ว่าห้ามขยับตัวคนบาดเจ็บเพื่อป้องกันการบาดเจ็บซ้ำซ้อนและเขาไม่อาจห้ามเลือดได้เนื่องจากบาดแผลเกิดจากระจกที่ทิ่มเข้าไปตามเนื้อ เขาไม่กล้าที่จะดึงออก กลัวยิ่งเป็นการเร่งให้เลือดไหลเร็วมากกว่าเดิม เขาได้แต่จิกทึ้งผมตัวเองไปมาด้วยความกังวลแลพใจเสีย นาวีเองก็บาดเจ็บแต่ไม่มาก เขาอยู่ค่อนข้างไกลจากบริเวณนั้นพอสมควร นอกจากแผลถลอกปอกเปิกตามตัวที่ล้มกลิ้งกับหูอื้อแล้ว นอกนั้นเขาไม่มีอาการอย่างอื่น ผิดกับพี่ชายตนเองที่อาการหนัก " ชา อย่าเป็นอะไรนะ พี่...อดทนไว้ นึกถึงเนยไว้ ชา อย่าหลับ อย่าพึ่งหลับ คุยกับวีก่อน " นาวีพยายามเรียกพี่ชายของตนให้ได้สติ แต่ฤชารู้สึกว่าตนเองนั้นง่วงเหลือเกิน เขาอยาจะหลับตาลงและนอนหลับไปเดี๋ยวนั้นให้ได้ " ชา ทนไว้ อย่าหลับ รถพยาบาลจะมาแล้ว " เขตกรุงเทพฯ นั้นรถติดอย่างมาก แต่โชคดีที่บริเวณนั้นอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลและทุกคนบนถนนช่วยกันเปิดทางให้รถพยาบาลผ่าน รถพยาบาลและกู้ภัยหลายสิบคันทยอยกันเข้ามาในบริเวณที่เกิดเหตุเพื่อนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลให้ไวที่สุด ฤชาถูกนำขึ้นรถพยาบาลคันหนึ่ง เนื่องจากมีการเสียเลือดมาก จึงต้องรีบให้เลือดเป็นการด่วน โชคดีที่กรุ๊ปเลือดของฤชาไม่ใช่กลุ่มขาดแคลน แต่อาการก็ยังน่าเป็นห่วงอยู่มาก นาวีทิ้งร้านเอาไว้และรีบตามไปที่โรงพยาบาล และติดต่อน้องชายคนเล็กทันที " น้ำ พี่ชาเข้าโรงพยาบาล รีบมาที่ โรงพยาบาล XXX ด่วนเลย " " ห๊ะ! พี่ชาเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น!? " " รีบมา มาถึงแล้วค่อยคุย พี่ไปดูอาการพี่ชาก่อน " นาวีรีบวางสายก่อนจะเดินไปคุยกับแพทย์และพยาบาลผู้ดูแล " คุณใช่ญาติของคนไข้หรือเปล่าคะ " " ใช่ครับ ผมเป็นน้องชาย " " คนไข้บาดเจ็บหนักต้องได้รับการผ่าตัดด่วน รบกวนคุณเซ็นเอกสารยินยอมรับการผ่าตัดโดยเร็ว เราจะนำคนไข้เข้ารับการรักษาทันที " วินาทีนี้นาวีมือสั่นไปเซ็นไป เขาทำอะไรไม่ถูกจริง ๆ เขากลัวเสียพี่ชายคนเดียวของเขาไป! เมื่อได้รับเอกสาร ทีมแพทย์รีบเข็นรถที่มีร่างของฤชาเข้าห้องผ่าตัดทันที นาวีนั่งรอที่ส่วนเฝ้ารอของญาติ ไม่เกินครึ่งชั่วโมงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เป็นชลธีที่โทรมา เขาบอกตึกกับชั้นให้อีกฝ่ายและวางสายไป " พี่วี พี่ชาเป็นไงบ้าง แฮก " ชลธีที่รีบวิ่งมาตลอดทางรีบเข้าไปเขย่าแขนถามพี่ชายคนรองที่หน้าซีดเผือด กำโทรศัพท์ในมือแน่น " เข้าห้องผ่าตัดอยู่ " นาวีตอบเสียงแหบแห้ง " แล้วพี่ล่ะ หาหมอหรือยังพี่ก็อยู่ตรงนั้นไม่ใช่รึไง! " ชลธีเห็นสภาพชุดสูทของพี่ชายที่มีรอยขาดลุ่ยและเลอะเทอะ จึงรู้ว่าเจ้าตัวมัวแต่สนใจแต่อาการของฤชาจนลืมดูตัวเอง " พี่วี ไปหาหมอเดี๋ยวนี้ พี่ต้องเช็กนะ พี่อย่าทำแบบนี้ " " พี่ไม่กล้าทิ้งชาไว้น้ำ เลือดเต็มไปหมด เลือดเต็มไปหมดเลย " นาวียกมือที่เปื้อนเลือดของตนขึ้นมาแล้วซบหน้าลงไปร้องไห้เสียงดัง ตั้งแต่พวกเขาเสียพ่อกับแม่ไปด้วยอุบัติเหตุ ก็มีกันอยู่แค่สามคนพี่น้องเท่านั้น การเสียใครคนใดคนหนึ่งไปเป็นเรื่องที่รับไม่ได้เช่นกัน ชลธีเดินลงไปนั่งยอง กอดเอวพี่ชายคนรองแน่น แล้วหลั่งน้ำตาออกมา " " วี พี่ต้องไปให้หมอตรวจ ถ้าน้ำเสียพี่ไปอีกคน เท่ากับน้ำไม่เหลือใครแล้วนะ เข้าใจไหม " ชลธีร้องไห้ สองพี่น้องกอดกันแน่น พลพิทักษ์ได้แต่ยืนนิ่งอยู่ใกล้ ๆ คอยเตรียมช่วยเหลือ หลังจากรอให้ทั้งสองพี่น้องสงบอารมณ์ พลพิทักษ์ก็อาสาพานาวีไปตรวจสภาพร่างกาย โดยชลธีขอเป็นฝ่ายอยู่รอพี่ชายใหญ่ที่กำลังผ่าตัดแทน " พล ฝากพี่วีด้วย " " ไม่ต้องห่วงน้ำ ผมพาพี่วีไปตรวจร่างกายก่อนนะ " พลเดินไปพร้อมกับนาวี นาวียังคงเหลียวหลังกลับมามองที่หน้าห้องผ่าตัดเป็นระยะ " พี่ชาต้องไม่เป็นอะไรแน่ ๆ ครับ พี่วี " พลพิทักษ์พยายามพูดปลอบใจพี่ชายของคนรัก " ขอบใจมากพล ยังไงถ้าพวกพี่เป็นอะไร ฝากดูแลเจ้าน้ำด้วยนะ " " พี่อย่าพูดแบบนั้นครับ ต้องไม่มีใครเป็นอะไรแน่นอน ผมเชื่อแบบนั้น หมอไทยเก่งครับ ยังไงพี่ชาก็ต้องรอดครับ ผมเชื่อในฝีมือของหมอไทย " " อืม " นาวีถูกพาไปแจ้งกับพยาบาลที่รับเรื่องดูแลเหตุระเบิดที่ร้านสามพี่น้องและถูกพยาบาลเอ็ดก่อนจะรีบพาไปตรวจร่างกายอย่างรวดเร็ว พลนึกขำในใจที่นาน ๆ จะเห็นนาวีทำหน้าจ๋อยเมื่อถูกพยาบาลรุ่นป้าดุอย่างจริงจัง แต่เขาเข้าใจ วินาทีนี้ นาวีห่วงพี่ชายของตนมากจนลืมนึกถึงตัวเองไปแล้ว เขาที่ยังรู้สึกว่าเดินได้ เคลื่อนไหวได้ อะดรีนาลีนกำลังหลั่งจึงไม่รู้ตัวว่าตนเองบาดเจ็บตรงไหนบ้าง แต่แบบนี้อันตรายมากเช่นกัน ถ้าเกิดเป็นประเภทเลือดออกภายในหรือศีรษะได้รับความกระทบกระเทือน อัตราการเสียชีวิตหรือเป็นอัมพาตค่อนข้างสูง นี่เป็นเหตุให้เขาตามคนรักมาด้วยเพื่อช่วยเหลือเท่าที่จะช่วยได้ พลกดมือถือเช็กข่าวออนไลน์ระหว่างรอนาวี เขาพบว่าทุกช่องออกข่าวกันอย่างครึกโครม เหตุระเบิดยังไม่ทราบสาเหตุ ตอนนี้ตำรวจเข้าไปจัดการดูแลความเรียบร้อยและกั้นพื้นที่แล้ว คิดว่าไม่นานตำรวจคงตามมาที่โรงพยาบาลเพื่อสอบถามข้อมูลจากบรรดาผู้บาดเจ็บและเจ้าของร้าน ถึงตอนนั้นนาวีและชลธีต้องเป็นคนตอบคำถาม โดยเฉพาะนาวีที่อยู่ในเหตุการณ์ระเบิดด้วย พลพิทักษ์ได้ติดต่อทางบ้านของเขาให้ช่วยดูแลเรื่องของร้านสามพี่น้องไว้แล้ว คิดว่าพ่อกับแม่ของเขาคงยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือไม่มากก็น้อย เพราะอย่างน้อยน้องชายเจ้าของร้านก็คือคนรักของบุตรชายตนเอง พลที่กำลังเช็กข่าวต่อ อยู่ดี ๆ ก็โดนจับลากไปที่มุมด้านหนึ่งของตึก " หืม คุณชาคริต มีอะไรครับ " " ชาล่ะ ชาเป็นไงบ้าง " ชาคริตหน้าตาซีดเผือด แสดงท่าทีตกใจอย่างมาก สิ่งที่ทำให้มาเฟียโหดตกใจได้ขนาดนี้ ฤชาสำคัญต่ออีกฝ่ายอย่างแท้จริง " พี่ชากำลังรับการผ่าตัดครับ พี่วีไปตรวจเช็กร่างกาย น้ำรอพี่ชาอยู่หน้าห้องผ่าตัด คุณชาคริตจะไปรอที่หน้าห้องผ่าตัดด้วยก็ได้นะครับ ส่วนน้องเนยผมให้คนที่บ้านของผมไปรับไว้แล้วครับ เพื่อความปลอดภัย " ลางสังหรณ์ของพลรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ปกติ แต่เขาก็ไม่รู้ว่ามันผิดปกติตรงไหนพอทราบเรื่องเขาก็รีบโทรบอกคนที่บ้านให้ไปรับน้องเนยมาอย่างทันที " ขอบใจนายมากไอ้หนู เดี๋ยวฉันจะส่งไปอารักขาลูกสาวมาอีกที นายบอกที่อยู่บ้านนายมา " พลบอกที่อยู่ของบ้านเขาและติดต่อกับทางบ้านเขาให้เรียบร้อย อันที่จริงการไปรับน้องเนยออกมานั้นไม่ง่าย เขาต้องให้น้ำคนรักของตนโทรไปแจ้งคุณครูก่อนหลายขั้นตอนกว่าจะรับตัวออกมาได้ โรงเรียนมีการรักษาความปลอดภัยที่ดีที่ถ้าไม่ใช่ผู้ปกครองหรือคนในบ้านเขาจะไม่ปล่อยเด็กกลับเด็กขาด ยกเว้นแต่มีการแจ้งไว้ก่อนล่วงหน้าว่าจะให้ใครไปรับและต้องแสดงหลักฐานยืนยันประจำตัวว่าตรงตามที่แจ้งไว้หรือไม่อีกด้วย " คุณไปรอพี่ชาเถอะครับ ทางนี้ผมต้องรอพี่วี " " อืม " ชาคริตรับคำ เขาทิ้งบอดี้การ์ดไว้สองคนเพื่อไว้คอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้กับทางพลพิทักษ์และนาวี ส่วนตนเองมุ่งหน้าไปทางห้องผ่าตัด " น้ำ ชา ชาเขาเป็นอย่างไรบ้าง " " คุณ!! คุณมาทำอะไรที่นี่! " " พี่มาดูชา ชาแย่มากไหม อาการหนักแค่ไหน " " ฮึ่ม พวกเราดูแลกันเองได้ครับ " ชลธีรู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ยุ่มย่ามจะดีที่สุด มันเป็นเรื่องในครอบครัวของเขา คนนอกครอบครัวไม่เกี่ยว " น้ำ พี่ขอเถอะ ให้พี่ได้อยู่รอชา พี่ขอร้อง พี่เป็นห่วงชามาก " ตาของชาคริตแดงก่ำ ชลธีมองไปก็อดใจอ่อนไม่ได้ ช่างเถอะ แค่อยู่เฝ้าหน้าห้อง " ตามสบายแล้วกันครับ แต่อย่าทำให้พี่ชาหรือพี่วีไม่สบายใจก็แล้วกัน ไม่งั้นคุณก็กลับไปได้เลย " " ขอบคุณมาก ๆ " ชาคริตของคุณน้องชายของอดีตคนรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาและบอดี้การ์ดเฝ้ารอหน้าห้องผ่าตัด เป็นเวลาเกือบหกชั่วโมงก่อนที่แพทย์จะออกมาบอกว่า การผ่าตัดประสบความสำเร็จ ฤชาเสียเลือดมากเนืองจากกระจกแทงไปตัดโดนเส้นเลือด ทำให้เลือดไหลออกมาจำนวนมาก ดีที่ไม่มีการดึงเศษกระจกออกเองไม่งั้นเสี่ยงเสียชีวิตสูง ทางชลธีได้ขอให้พาฤชาไปไว้ห้องห้องพิเศษห้องเดียวกับนาวีหลังจากผ่านพ้นช่วงเฝ้าดูอาการกับทางแพทย์แล้ว ทางด้านนาวี พลโทรมาบอกว่ากระดูกข้อมือแตก กับสมองได้รับความกระทบกระเทือนเนื่องจากหัวฟาดพื้น ทางหมอจับเข้ารับการรักษา ทำแผล และส่งเข้าห้องพักผู้ป่วยเรียบร้อย ตอนนี้เขากำลังเฝ้าอยู่ แม้ไม่ได้ให้น้ำเกลือแต่หมอให้นอนพักนิ่ง ๆ ดูอาการเช่นกัน " ตอนนี้ยังเข้าเยี่ยมพี่ชาไม่ได้คุณจะกลับก่อนไหม ผมจะไปหาพี่ชายอีกคนก่อน " " ไม่ละ พี่จะเฝ้าชาอยู่แถวนี้ " " อีก 24 ชั่วโมงนะครับ ผมว่าคุณกลับไปก่อนเถอะ ใกล้เวลาค่อยมาใหม่ " " ไม่ล่ะ ฉันอยากเฝ้าชา อยากเห็นชาไม่เป็นอะไรกับตาเท่านั้นถึงจะสบายใจ " ชลธีได้แต่ส่ายหัวกับความดื้อรั้นของอีกฝ่าย และแอบคิดในใจว่า ถ้ารักกันขนาดนี้ทำไมตอนนั้นถึงเลือกที่จะทิ้งพี่ชายของเขาไปเสียล่ะ เขาไม่เข้าใจเลย ชลธีเดินจากมาก่อนตรงไปดูพี่ชายอีกคนที่ห้องพัก สภาพที่เข้ามาคือ เจ้าตัวใส่ชุดผู้ป่วยสีเขียวของพิมพ์ตราของโรงพยาบาลทั้งตัว ข้อมือเข้าเฝือกอ่อนไว้พร้อมมีสายคล้องคอ นอนนิ่งอยู่บนเตียงกำลังให้ปากคำตำรวจสามคนที่มาสอบปากคำ ตำรวจอยู่ไม่นานนัก เนื่องจากนาวีเองก็เป็นผู้ได้รับผลกระทบเช่นกัน แม้จะอยู่ในเหตุการณ์แต่ก็อยู่ห่างจากจุดต้นทางระเบิดออกไปมาก ส่วนฤชาที่ใกล้กว่ายังคงไม่ได้สติหลังรับการผ่าตัดทำให้สอบปากคำไม่ได้เป็นการชั่วคราว เหตุระเบิกกลางเมืองเป็นเรื่องใหญ่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความสะเพร่าเลิ่นเล่อของครัวหรือการก่อการร้าย ดังนั้นตำรวจจึงเร่งมือสอบสวนและเก็บรวบรวมหลักฐานทันที แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ผู้เสียชีวิตคือคนในครัวสามคนที่กำลังทำขนม ส่วนผู้บาดเจ็บมีระดับมากน้อยแตกต่างกันออกไป " พี่วี พักได้แล้วครับ อย่าเอาแต่เช็กข่าว " " ไม่ได้ เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิตของคนทั้งบ้านอีกอย่างชื่อเสียงของร้านก็ได้รับผลกระทบ มีคนโพสต์แก๊สระเบิด แม่งเอ้ย! ยังไม่รู้ว่าเหตุจริงๆสักหน่อย มั่วชิบหาย! " นาวีเอ่ยออกมาอย่างโกรธเคืองและโมโห เขามั่นใจมากว่าไม่มีทางเป็นแก๊สระเบิด เพราะพวกเขามีการตรวจเช็กสภาพกันทุกสัปดาห์ เนื่องจากร้านอยู้ในเขตชุมชม ความปลอดภัยย่อมมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ถ้าคนจะวางระเบิด พวกเขาก็นึกไม่ออกว่าไปมีศัตรูที่ไหนกัน พวกเขาเป็นแค่พ่อค้าขายขนม ไม่ได้ทำธุรกิจผิดกฎหมายหรือมีคู่แข่งขนาดที่ต้องตามฆ่าล้างกันให้ตายตกไปข้าง ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งเดาไม่ออก ว่าที่จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ " น้องเนยเดี๋ยวคงมาถึงที่นี่นะพี่ แต่ระหว่างนี้ใครจะดูแลน้องเนยให้ล่ะ เพราะผมต้องเฝ้าพี่สองคน " ชลธีเอ่ยอย่างลำบากใจ บ้านเขามีกันแค่นี้ไม่มีญาติที่ไหนอีก " น้ำไม่ต้องห่วง พี่จะดูแลชาเอง เรากลับไปดูแลหลานเถอะ " " แต่พี่ก็เป็นคนป่วยเหมือนกันนะ หมอไม่ได้ให้พี่เคลื่อนไหวไปมาขนาดนั้น " ชลธีเอ็ดพี่ชายตัวเองในรอบหลายปี " นิดหน่อยเอง หมอก็เว่อไป " นาวีเอ่ยอย่างขัดใจ คนสวยขาอย่างเขาแข็งแกร่งจะตาย ทั้งอึดทั้งถึก แค่นี้ไม่ตายง่าย ๆ หรอก " พอเลย พี่อย่าทำเก่ง เกิดพี่ชากับพี่เป็นอะไรขึ้นมาผมจะอยู่ยังไงครับ " คราวนี้ชลธีตาแดงก่ำ เขาจะร้องไห้เอาจริง ๆ นึกสภาพที่ต้องอยู่คนเดียวในโลกที่ปราศจากคนในครอบครัวเขาก็รับไม่ได้ขึ้นมา " เอ้ย ใจเย็น น้ำ " พลดึงคนรักไปกอดปลอบ ฟังคนรักที่ซบอกร้องไห้สะอึกสะอื้น ความกังวลที่สะสมมาคงทะลักออกมานั่นเอง " ถ้าพี่วีกับน้ำไม่ว่าอะไร ผมจะขอรับน้องเนยไปให้พ่อกับแม่ผมช่วยดูแลได้ไหมครับ " " จะดีหรือ ไม่ใช่ลูกหลาน " นาวีเอ่ยจริงจัง " แต่พ่อกับแม่ผมชอบน้องเนยมากนะครับ ในบ้านไม่มีเด็กเล็กเลย ผมคิดว่าพ่อกับแม่ต้องยินดีแน่ครับ จนกว่าพี่จะออกจากโรงพยาบาลได้ พี่วีก็ฝากน้องเนยไว้ที่ผมก่อนแล้วกัน ส่วนน้ำกับผมจะช่วยกันผลัดเวรเฝ้าพี่ทั้งสองเอง " จะดีหรือพล พี่เกรงใจ " นาวีเอ่ออย่างลำบากใจ แต่ก็ซาบซึ้งใจในความมีน้ำใจของอีกฝ่ายในช่วงเวลายากลำบาก เขาคิดว่าน้องชายเขาเลือกคนไม่ผิดจริงๆ " ยินดีครับ พี่ให้ผมช่วยจัดการเถอะ " ในที่สุดก็ตกลงกันได้ แน่นอนว่าพ่อแม่ของพลยินดีอย่างมากที่จะรับดูแลน้องเนยในช่วงหลายวันนี้ให้ ชาคริตเองอยากจะรับน้องเนยไปดูแลแต่ว่าเขารู้ดีว่านาวีไม่มีทางยอม ในความเป็นคนแปลกหน้าเหมือนกัน นาวีมองว่าน้องเนยอยู่กับเขาย่อมมีโอกาสเจออันตรายมากกว่าเนื่องด้วยอาชีพที่เขาทำ แม้ว่าจะเศร้าใจที่ไม่อาจมีโอกาสได้เลี้ยงดูบุตรสาวแต่เขาห่วงฤชามากกว่า ฤชายังไม่ฟื้น เขาได้แต่เฝ้ารอ รอให้อีกครึ่งของหัวใจฟื้นคืนลืมตาขึ้นมามองเขา แม้จะมองด้วยายตาเย็นชาก็ยังดี ดีกว่านอนไม่ได้สติ มีแต่ผ้าพันแผลทั้งตัวแบบนี้ ชาคริตรู้ว่าเหตุการณ์นี้เกี่ยวพันกับเขาอย่างแน่นอน เขาได้ส่งคนไปสืบข่าวแล้ว แค่รอเวลารายงานกลับของสายข่าวเท่านั้น เมื่อเขารู้ว่ามันเป็นใคร เขาจะต้องเอาเลือดมันมาล้างธรณีแก้แค้นให้เมียของเขาให้จงได้!
อคิราใจสั่น หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกจากอก สาบานว่านี่ไม่ใช่ความฝันหรือเขายังเมาค้างจนหลอนใช่ไหม ที่คุณเดชมาสารภาพรัก" เด็กดี "ใบหน้าหล่อเหลาที่ประหนึ่งหนุ่มวัยสามสิบแม้อายุจริงจะเข้าวัยกลางคนแล้วก็ตาม ก้มลงมาใกล้จนลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดหน้าตอนนี้สมองเขาช็อกจนคิดอะไรไม่ออกไปแล้วได้แต่ปล่อยเลยตามเลยให้คุณเดชเป็นคนจัดการเขาไม่ได้โง่ เขาติดว่าวันนี้เขาคงจะโดนกิน แต่ เขาก็เต็มใจถูกกิน!!ริมฝีปากหนากร้านและริมฝีปากเต็มอิ่มสีสดประกบเข้าหากัน ร่างบางซึ่งไม่ประสีประสาแต่กลับกระตุ้นอารมณ์กำหนัดของคนแก่กว่าได้เป็นอย่างดี ริมฝีปากทั้งสอง คลึงเคล้า บดเดบียด หยอกล้อกันไปมา จนริมฝีปากของร่างบางบวมช้ำอัครเดชหยุดพักให้ร่างบางได้หายใจหายคอ ก่อนจะจู่โจมกลับไปอีกที คราวนี้เปลี่ยนจากจูบแบบผิวเผินกลายเป็นดูดดื่มเข้มข้น ลิ้นสากยาวสอดลึกเข้าไปในโพรงปากชุ่มฉ่ำ กวาดต้อนลิ้นเล็กแสนน่ารักที่หลบหนีไปมา พร้อมกับกวาดต้อนดูดชิมน้ำหวานสีใสไปพร้อมกัน" หวาน " คนอายุมากกว่าพึมพัมชิดริมฝีปากของร่างบางอคิราที่ไม่ประสีประสาในบทรักก็โดนชักนำไปตามพายุอารมณ์ของคนแก่กว่าอย่างช่วยไม่ได้ เพียงแค่จูบเขาก็เสียวซ่านแบบไม่เคยเ
อคิราผู้กำลังถูกสอบสวนหาความจริงถึงกับเหงื่อแตกเต็มหลัง เขาไม่รู้ว่าควรจะตอบอะไรดี พยายามใช้สมองประมวลผลหาข้อแก้ตัวดี ๆ ซักอย่าง แทนที่จะพูดความจริงแล้วเสี่ยงเข้าหน้ากันไม่ติดอีกเลย" เอ่อ...คิน..."" คิน ไม่โกหกแด๊ดนะ " คุณเดชกล่าวเสียงจริงจังอคิราเองก็ไม่อยากโกหก ได้แต่นั่งคอตกเงียบ ๆ น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากหัวตา พร้อมสะอื้นทำไมเขาต้องมาโดนกดดันอะไรแบบนี้ด้วย สาเหตุมาจากเขาที่ไหนกัน เขาอยากออกไปจากตรงนี้!ก่อนที่จะได้พูดหรือทำอะไร เขาก็เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่น" โอ๋ เด็กดี ไม่ร้องนะครับ แด๊ดขอโทษ ค่อย ๆ คุยกันนะ "จากที่คิดว่าจะหยุดร้องไห้ กลับร้องหนักขึ้นอัครเดชไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่กอดปลอบลูบหัวลูบหลังพร้อมกับกดจูบซับน้ำตาให้เด็กน้อยของเขาก็คงจะอดกลั้นมานานมาก ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้สังเกตอะไรนอกจากคิดว่าเด็กน้อยคนนี้เห็นเขาเป็นเพียงญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง ผิดกับเขาที่..." ไม่ร้องนะครับเด็กดี น้องคิน "คุณเดชเรียกชื่อผมเหมือนสมัยตอนผมยังเป็นเด็กเล็ก ๆ" อืม "ผมตอบรับ ตนเองหยุดร้องแล้วแต่ยังสะอื้นนิดหน่อย กลไลของร่างกายนี่ทำเอาลำบากจริง ๆ ก่อนจะอื้อมแขนไปโอบกอดคุณเดชแน่น เอาหน้าตัวเอง
รถแท็กซี่สีเขียวเหลือง เข้ามาจอดหน้าประตูคฤหาสน์หลังใหญ่ย่านชานเมือง ก่อนที่คนสองคนจะลงจากรถ คนร่างสูงใหญ่ พยุงคนร่างเล็กแบบบางลงจากรถ ก่อนจะบอกให้คนขับเปิดมิเตอร์รอรับคนร่างใหญ่กลับไปด้วยพนักงานรักษาความปลอดภัยของคฤหาสน์เดินออกมาดูก่อนจะเห็นว่าคนร่างเล็กในอ้อมแขนคนร่างใหญ่เป็นใครจึงเปิดประตูทางเข้าเล็กให้ ก่อนจะพาคนทั้งสองขึ้นรถกอล์ฟแบบที่ใช้ในสนามกอล์ฟ ขับพาไปยังตัวคฤหาสน์ด้านในรถถูกขับมาจอดไว้ด้านหน้าบันไดทางขึ้นกัทพยุงร่างบางของเพื่อนลงจากรถก่อนจะช้อนขาขึ้นอุ้มท่าเจ้าหญิง" แกหนักขึ้นนะเนี่ย " เจ้าตัวบ่นพึมพัม" อืม "เจ้าเพื่อนรักที่เมาหมดสภาพได้แต่ตอบรับแกน ๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาถามอะไร" ส่งคินมาให้พ่อมา "กัทเงยหน้าขึ้นมองผู้มาใหม่ ร่างสูงใหญ่ ส่วนสูงเกิน 190 กล้ามเนื้อกำยำ แข็งแรงผิดกับคนวันสี่สิบกว่า มองดูดี ๆ เหมือนคนเพิ่งสามสิบอย่างไรอย่างนั้น แถมเปล่งฮอร์โมนเพศผู้อย่างเข้มข้นออกมา เหมือนจ่าฝูงของเหล่านักล่าในป่า ที่กำลังขมขู่เพื่อปกป้องสิ่งหวงแหนกัทมองอีกฝ่ายอย่างอึ้ง ๆ ไม่คิดว่าเจ้าตัวจะออกมารอรับเจ้าเพื่อนรักของเขา จากนั้นคนในอ้อมแขนก็โดนแย่งไป อีกฝ่ายอุ้มเจ้าเพื่อ
อคิราขับรถฝ่าการจราจรในกรุงเทพฯช่วงฝนตกอย่างเหนื่อยใจ สองกิโลสามชั่วโมง ไม่มีอะไรจะน่าเบื่อขนาดนี้มาก่อน วันนี้เกรงว่าเขาจะกลับไปไม่ทันทานข้าวกับคุณเดชเสียแล้วไหน ๆ กลับไม่ทันเขาก็ควรบอกกล่าวก่อน อีกฝ่ายจะได้ไม่รอเขาจนเลยเวลาทานอาหารเขาควักมือถือไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้เป็นของขวัญวันเกิดจากคุณเดชออกมาส่งข้อความหาอีกฝ่ายคุณเดช : คุณพ่อ ฝนตก รถติดมาก คินคงกลับถึงไม่ทันเวลากินข้าว ทานก่อนเลยนะครับสักครู่ก็มีข้อความตอบกลับคุณเดช : อืม ขับรถระวัง ๆ ล่ะ ฝนตกอันตรายคินคิน : ครับเขากลับมาตั้งใจขับรถก่อนจะเอายูทูปมาเปิดดูคลิปหมาแมวน่ารัก คลิปทำอาหาร คลิป asmr คั่นเวลารอรถขยับ คาดว่าคงมีอุบัติเหตุด้านหน้า รถเลยเคลื่อนช้าขนาดนี้ระหว่างนี้ก็ไถทวิตเตอร์เล่นไปด้วยตึ๊งตึงเสียงแจ้งเตือนจากเฟซบุ๊คซึ่งเป็นข้อความจากกลุ่มคนที่ทำงานบริษัทเดียวกัน ทำไว้เพื่อเม้ามอยหรือกระจายข่าวสาร (ซุบซิบ) ดังขึ้นเขากดเข้าไปดูตามปกติเพื่อเช็กเรื่องเม้าล่าสุดหนูนาบ้านอีสานพวกเธอเข้ามาส่องคู่ควงคนใหม่ของท่านประธานกันเร๊ว ก่อนจะถูกท่านแอดมินกลุ่มกำจัด(แปะรูป)(แปะรูป)(แปะรูป)มีคนกดไลค์ คอมเม้นหลักร้อยและยัง
" คุณพ่อ ผมไปทำงานก่อนนะครับ "" อืม กลับมาทานข้าวเย็นเป็นเพื่อนพ่อด้วยล่ะ "" ครับ "บทสนทนาประจำวันแบบเดิม ๆ ที่มักจะได้ยินทุกวันมาเป็นเวลาสามปีเขาชื่อ อคิรา อายุ 26 ปี ทำงานเป็นผู้บริหาร กรรมการบริษัท DX มีธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ความงามแบบใช้ตำรับสมุนไพรเป็นส่วนผสม บริษัทนี้เป็นบริษัทของคุณพ่อของภรรยา ที่ได้สูตรที่ตกทอดกันมาจากบรรพบุรุษที่อดิตเคยเป็นถึงสนมขั้นเฟยในวังหลังภายหลังการปฏิรูประบอบการปกครอง ตระกูลตกต่ำจนต้องย้ายประเทศมาอยู่ที่นี่ พร้อมทั้งหอบหิ้วสมบัติมาตั้งตัวและหนึ่งในนั้นคือสูตรบำรุงความงามต่าง ๆ ที่ว่าบริษัทมีจุดเริ่มต้นจากร้านยาจีนเล็ก ๆ เนื่องจากหนึ่งในบรรพบุรุษที่มาตั้งรกรากที่นี่เป็นแพทย์แผนจีนอีกทั้งยังเป็นหัวหน้าตระกูล ภรรยาของท่านหัวหน้าตระกูลให้กำเนิดบุตรชายและบุตรสาวบุตรชายเอาดีทางด้านการบริหาร ก่อร่างสร้างเนื้อสร้างตัวจากร้านยาเล็ก ๆ จนกลายเป็นธุรกิจใหญ่โต ส่วนบุตรสาวร่ำเรียนสืบทอดวิชาแพทย์ต่อจากผู้เป็นพ่อทุกวันนี้จากร้านยาจีนเล็ก ๆ กลายเป็นเครือบริษัทใหญ่โตที่ครอบคลุมกิจการร้านยาจีนหลายสาขา มีโรงงานผลิตอาหารเสริมแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เวชสำอ
คำเตือนคำหยาบ , โรลเพลย์ช่วงนี้น้องสาวของเจกำลังตั้งครรรภ์ได้สองเดือน ชายหนุ่มทั้งสามในบ้านต่างประคมประหงมหญิงสาวเพียงผู้เดียวนี้ดีมาก จนบางทีรู้สึกได้ว่าเจ้าตัวรำคาญสุด ๆ ฮิมที่เห็นน้องสาวของเขาท้องก็เกิดเฟติชแบบแปลก ๆ ขึ้นมา ตอนที่อยู่ในห้องกันสองคนจึงได้ชวนเขาเล่นอะไรบางอย่าง" เจ ลองเล่นโรลเพลย์กันไหม "ปกติพวกเขาก็เล่นอะไรพวกนี้เป็นปกติอยู่แล้วแต่การชวนครั้งนี้ดูกระตือรือล้นจนเจอดที่จะแปลกใจไม่ได้" อยากเล่นบทอะไร "เขาถามออกไป" โจรชั่วข่มขืนหม้ายท้องแก่จอมร่าน "" ห๊ะ!? "เป็นเขาที่ฟังแล้วทำหน้าเหวอ ตั้งแต่แต่งงานกันมา พึ่งรู้ว่าสามีของเขาโรคจิตขนาดนี้เหมือนกัน ไม่ใช่ว่ารังเกียจแต่กำลังคิดว่าทำไมอีกคนถึงอยากเล่นบทบาทนี้ต่างหาก" ทำไมถึงอยากเล่นบทนี้ล่ะ "เจถามด้วยหน้าสงสัยสุดขีด" ก็แบบเห็นจูนท้องแล้วพอคิดว่าเป็นมึงท้องแล้วกูจัดมึงตอนท้องแก่แค่คิดก็น้ำจะแตกแล้ว "ไม่พูดเปล่า เจ้าหมาหื่นจับมือเขาลงไปที่เป้ากางเกงที่ตอนนี้แข็งตุงเป็นลำ แท่งเนื้อดันเป้าแทบปริออกมาเจหมั่นไส้สามีจนขยำลงไปแรง ๆ แต่แทนที่เจ้าตัวจะสำนึกกลับเด้าใส่มือ หัวเราะชอบใจไม่หยุดแทนเสียนี่เขาล่ะหน่ายใจ นอกจ