ประเทศ F " เอียน ได้ข่าวว่าชาคริตมันเดินทางไปไทยงั้นหรือ " " ใช่ สายข่าวมาเร็วนี่ " สองพี่น้องเอียนและคริสตอฟคุยกันในห้องใต้ดินของตึกร้างแห่งหนึ่ง พวกเขาคือบุตรชายสายตรงของเจโนเวเซ่ที่เกิดจากภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย และโดนชาคริตตามล้างบางและสู้รบมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาหลบหนีเหมือนหนูใต้ดินตามท่อระบายน้ำหลบการตรวจจับของชาคริต เจโนเวเซ่เดิมเป็นสมบัติอันชอบธรรมของพวกเขา แต่แม่ลูกน่าไม่อายคู่นั้นมาฉกฉวยไป รวมถึพ่อที่รักของเขาด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าพวกเขาพยายามกำจัดแม่ลูกคู่นี้ออกไปหลากหลายวิธีแต่ก็ไม่สำเร็จ สุดท้ายจัดการได้แค่ตัวแม่ แต่ตัวลูกยังคงรอดจากการปกป้องของบิดาบังเกิดเกล้าของพวกเขา สุดท้ายเมื่อบิดาเสียไป เจ้าหมานอกคอกตัวนั้นก็เริ่มแว้งกัดพวกเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย ในขณะที่พวกเขาเองก็พยายามจะกำจัดอีกฝ่ายให้พ้นทาง เจโนเวเซ่เกือบจะเป็นของพวกเขาอยู่แล้วถ้าไม่ติดว่าเจ้านอกคอกนั่นแต่งงานกับบุตรสาวคนเดียวของลุคเชเช่ ทำให้ฐานอำนาจมันมีมากขึ้น บรรดาฝ่ายบริหารหลายคนก็เปลี่ยนข้างไปสนับสนุนมันแทนพวกเขา ทุกวันนี้แม้ว่ามันจะคุมเจโนเวเซ่แต่สิ่งนี้คือของพวกเขาโดยชอบธรรม อย่างไรพวกเขาก็ต้องเอาคืน โชคดีที่ฝั่งทางมารดายังเหลือเส้นสายและกำลังไว้ให้พวกเขาใช้งาน " ให้ไปสืบมาสิว่าทำไมมันถึงไปประเทศไทย " เอียนสั่งการน้องขายตนเอง เขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อหาจุดอ่อนมาเล่นงานมันจนได้ มันจะต้องตาย...นี่เป็นสิ่งแน่นอนและคำสั่งเสียสุดท้ายของมารดาที่ตรอมใจตายของพวกเขา หนี้เลือดที่ต้องชดใช้ ประเทศไทย เวลาเที่ยงคืน โทรศัพท์ส่วนตัวของชาคริตดังขึ้นท่ามกลางความเงียบยามค่ำคืน เบอร์ที่โทรเข้าเป็นเบอร์ต่างประเทศที่คุ้นเคย " สวัสดี ลิซ มีอะไร " " พี่น้องของเธอเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว กำลังส่งคนไปไทย ระวังของสำคัญให้ดีล่ะ " " ขอบใจมากที่โทรมาบอก หมดธุระคราวนี้ เราสองคนก็จะได้เป็นอิสระต่อกันเสียที " " อืม คนทางนี้ก็รอมานานแล้วเหมือนกัน รีบจัดการให้มันจบ ๆ ล่ะ " " อืม " ก่อนสายจะตัดไป เอียนและคริสตอฟเริ่มเคลื่อนไหวจากการที่เขามาไทยแล้วสินะ พวกมันพยายามหาข้อมูลและจุดอ่อนจากตัวเขามาตลอด เหตุที่เขามาที่นี่ก็เพื่อมาปกป้องสิ่งสำคัญในชีวิต เพราะต่อให้ไม่ติดต่อแต่ไม่นานพวกมันก็ต้องสืบจนรู้จนได้ แม้ต้องแลกด้วยชีวิต เขาก็ไม่ยอมให้คนสองคนที่สำคัญของตนต้องเป็นอะไรไปเด็ดขาด ชาคริตมองไปที่บ้านด้านข้างกัน บ้านที่ไร้แสงไฟเพราะคนในบ้านเข้าสู่ห่วงนิทรารมณ์กันหมดแล้ว " คาร์ล " ชาคริตกดอินเตอร์คอมเรียกบอดี้การ์ดฝีมือดีที่สุดขึ้นมาหาเขา " ช่วงนี้จัดคนไปดูแลสมาชิกบ้านนั้นให้ดี ทางโน้นเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว สงครามสุดท้ายใกล้มาถึงแล้ว " " ครับนาย ผมจะจัดการให้เรียบร้อย " ชาคริตจุดซิการ์ขึ้นมาสูบและซดบรั่นดีรสเข้มเพื่อดับความกังวลใจที่ก่อตัวขึ้นมาแบบไม่ทราบสาเหตุ ช่วงสุดท้ายแล้วของการกำจัดเจโนเวเซ่ที่เขารังเกียจนักหนา ปิดฉากตำนานเลือดที่ควรจบเสียที และเขาจะได้เป็นอิสระอย่างสมบูรณ์ ยามเช้านกร้องเสียงใสไพเราะ อากาศเย็นสดชื่น ชลธีที่อยู่ในอ้อมกอดอบอุ่นของคนรักบิดตัวไปมาก่อนจะหามุมเหมาะแทรกตัวลงไปหาความอบอุ่นจากอีกฝ่าย " หืม คนดี ตื่นได้แล้วทั้งครับ มีเรียนช่วงเช้าไม่ใช่หรอ " พลถามคนรักของตน เขารู้ตารางเรียนของอีกฝ่ายอย่างละเอียด " อืม ไม่อยากลุกเลยพล เค้าอยากนอน ฮ๊าววว " " ไม่เอาน่า ถ้าตัวเองไม่ยอมลุกอีกหน่อยเค้าคงไม่ได้มาค้างนะ เพราะบรรดาพี่ชายของน้ำต้องโทษว่าเค้าเป็นต้นเหตุให้น้ำเสียคน " พลมองหน้าคนรักที่ทำหน้ายู่ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งและลงจากเตียงไปเข้าห้องน้ำจัดการตัวเอง เขารอให้คนรักใช้ห้องน้ำเสร็จก่อนจากนั้นจึงเข้าไปใช้ต่อ เมื่อแต่งตัวเรียบร้อยทั้งคู่ก็ลงมาทานอาหารเช้าพร้อมกันกับคนอื่นในบ้าน " โอ้ ตื่นเช้านะเรา ดีที่พี่ไม่ต้องตะกายไปปลุก " นาวีเอ่ยแซว เขาก็ต้องยอมรับอยู่อย่างว่าตั้งแต่คบกับพลพิทักษ์น้องชายเขามีระเบียบและความรับผิดชอบมากขึ้นเท่าตัว ซึ่งถือว่าเป็นแนวโน้วที่ดี ซึ่งก็ทำให้เขาเปิดใจยอมรับคนรักของน้องชายมากขึ้นไปอีก " พี่ชาล่ะครับ " พลถามนาวี เขาไม่เห็นฤชาที่ปกติมักจะมานั่งรอที่โต๊ะอาหารแล้ว " ไปจัดการข้าวกล่องให้ยัยหนูอยู่น่ะ วันนี้คุณครูให้เอาข้าวกล่องไปทานกันเองที่โรงเรียน ยัยหนูไปกำกับคุณพ่อของตัวเองให้ทำข้าวกล่องงาม ๆ อลังการให้อยู่ในครัว " ชลธีและพลพิทักษ์พยักหน้าและแสดงสีหน้าเข้าใจไปตามกัน พวกเขานั่งดื่มนมสดกับน้ำผลไม้รอพี่ชายคนโตออกมาจึงได้เริ่มทานอาหารมื้อเช้าพร้อมกัน ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่และงานของตน ชลธีได้พลพิทักษ์ไปส่งที่มหาลัย นาวีออกไปทำงานที่ออฟฟิศ ส่วนฤชาออกไปส่งบุตรสาวเข้าเรียนก่อนจะกลับมาทำงานที่บ้านตามปกติ แต่วันนี้ไม่ปกติเพราะเขารู้สึกว่ามีรถจากบ้านข้าง ๆ ตามติดตลอดเวลา จากลางสังหรณ์เขาว่าไม่ใช่เรื่องดี แต่ตอนนี้ยังไม่สะดวกคุย เขาจึงได้แต่ไปส่งลูกสาวที่โรงเรียนก่อน กลับไปค่อยไปคุยกับอีกฝ่ายให้รู้เรื่อง " ตั้งใจเรียนนะคะ มีอะไรโทรหาพ่อนะคะ พ่อเซฟเบอร์ให้แล้วจำได้ใช่ไหม ปุ่มโทรด่วน " " ได้ค่า เจอกันตอนเย็นค่ะ " ฤชามองบุตรสาวโบกมือบ๊ายบายก่อนเดินเข้าโรงเรียนไป เขาเองก็ต้องกลับไปจัดการเรื่องราวให้เรียบร้อยเช่นกัน ฤชาขับรถมาจอดหน้าประตูบ้านด้านข้างของบ้านตนเอง ประตูอัตโนมัติเปิดออกให้เขาขับเข้ามาด้านในอย่างง่ายดายโดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบอันเข้มงวด ฤชาก้าวลงจากรถ ก่อนจะเดินเข้าไปในบ้าน " ชาคริต นี่มันเรื่องอะไรกัน! " ฤชากล่าวเสียงไม่สบอารมณ์อย่างมาก ในรอบหลายปีเขาแทบไม่เคยใช้น้ำเสียงแบบนี้กับใครมาก่อน งวดนี้เขารู้สึกไม่พอใจอย่างจริงจัง " นั่งก่อนสิ ผมจะทยอยเล่าให้ฟัง แต่มันคงไม่สบอารมณ์คุณนักหรอก " ฤชานั่งลง จ้องอีกฝ่ายเขม็ง เจ้าตัวปัญหานี่ยังคงนำปัญหามาให้เขาเสมอไม่เคยเปลี่ยน " มีอะไรก็เล่ามา " ชาคริตเล่าเรื่องราวจากทั้งหมดและอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นให้ฤชาฟัง ยิ่งฟังฤชาก็ยิ่งรู้สึกโมโห " คุณที่มันช่างสรรหาเรื่องมาให้บ้านผมจริง ๆ นะ คุณมาไทยทำไมไม่ทราบ พวกเราอยู่กันดี ๆ มาหลายปี พอคุณมาทีเดียวปัญหาก็ตามมาเป็นพรวน " ฤชาต่อว่าด้วยน้ำเสียงดังลั่นแบบคนเดือดจัด " ชา...แต่ถ้าผมไม่มา มันตรายกว่าที่จะรอให้อีกฝ่ายตามสืบ ยังไงอีกฝ่ายก็ต้องสาวมาถึงตัวคุณอยู่ดี ผมอยากมาปกป้องคุณและลูกนะ " ฤชาทำหน้าเรียบเฉยเย็นชาถึงขีดสุด ก่อนจะกล่าวออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ " มันควรจะจบตั้งแต่เราลาจากกันแล้ว และอีกอย่างเราสองคนไม่ควรเริ่มต้นรู้จักกันตั้งแต่แรก เรื่องทั้งหลายมันก็คงไม่ดำเนินมาถึงจุดนี้ ชาคริต ผมว่าคุณลองคิดดี ๆ นะ คุณมันเห็นแก่ตัว คุณรู้ว่าชีวิตคุณต้องเจอกับอะไรบ้างแต่ก็ยังดึงผมเข้าไปพัวพัน จากนั้นก็เลือกอำนาจและความต้องการของตัวเองอยู่ดี คุณถามตัวเองก่อนไหมว่าที่จริงคุณอยากปกป้องพวกผมหรือว่าคุณกำลังกลัวเสียการควบคุมไปกันแน่ ต่อไปนี้เลิกยุ่งกับพวกเราเถอะครับ " ชาคริตฟังแล้วสะอึก คำพูดของฤชามันยิงตรงเข้าไปยังจุดอ่อนในจิตใจเขาอย่างจัง เขายอมรับว่าเริ่มต้นเขาต้องการชิงดีชิงเด่นกับลูกชายที่ถูกต้องตามกฎหมายของเจโนเวเซ่ ต้องการล้างแค้นให้แม่ ต้องการอำนาจมาครอบครอง ยอมตกลงแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักเพื่อผลประโยชน์ ทิ้งความสุขเดียวของตนเอง เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการจริง ๆ เขากลับรู้สึกว่างเปล่า มันไม่ได้รู้สึกดีใจ ภูมิใจแบบที่คิด ลึก ๆ แล้ว เขารู้สึกว่าล้มเหลว แต่ก็ไม่อยากยอมรับความจริง แต่ถ้าเขาไม่เอาเจโนเวเซ่มา จุดจบของเขาและคนที่เขาแคร์ก็จะมีแค่ทางเดียวคือความตาย เอียนและคริสตอฟไม่มีทางปล่อยเขาไป และไม่มีทางปล่อยให้ทายาทของเขาไปแน่นอน ชาคริตหลับตาก่อนจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อตัดสินใจบางอย่างได้ " อย่างน้อยให้บอดี้การ์ดดูแลความปลอดภัยของคนในบ้านชาก่อนนะครับ ตอนนี้สายไปแล้วที่จะถอยหลังกลับ คาดว่าเอียนและคริสตอฟพี่ชายของผมคงสืบได้เรื่องราวของชาไปหมดแล้ว มันไม่ปลอดภัยถ้าชายังใช้ชีวิตแบบเดิม " " ฮึ่ม นั่นก็เพราะคุณนั่นแหละ ความเห็นแก่ตัวของคุณมันทำให้ชีวิตสงบสุขของผมและความปลอดภัยของครอบครัวของผมมันหายไป! " ฤชารู้สึกโกรธอย่างจริงจังตั้งแต่รู้จักชาคริตมา เขาแทบทนหายใจร่วมห้องกับอีกฝ่ายไม่ได้เลย แต่อีกฝ่ายกล่าวมาก็มีเหตุผลให้ต้องยอมรับ " คุณส่งบอดี้การ์ดมาดูแล แต่คุณเลิกยุ่งกับน้องเนยและคนในบ้านผมทุกคน มาถึงจุดนี้แล้ว คุณคงเข้าใจสิ่งที่ผมพูดนะครับชาคริต " ชาคริตไม่สามารถพูดอะไรได้ ได้แต่พยักหน้ารับคำ และมองฤชาเดินออกจากบ้านไป เขารู้สึกเหมือนวันนั้นที่ฤชาเดินออกไปจากชีวิตเขาอย่างไรอย่างนั้น " ช่วงนี้ระวังตัวกันให้มากหน่อยนะ " ฤชาเรียกน้องชายทั้งสองมาบอกกล่าวและเล่าเรื่องที่พอจะเล่าได้ให้ฟัง " แม่งเอ้ย! ช่างหาเรื่องมาให้ตลอดแท้ ๆ ตัวซวยของจริง! " นาวีบ่นอุบ ระดับความเกลียดขี้หน้ามาเฟียข้างบ้านยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีกระดับ " ช่วงนี้ทุกคนจะมีบอดี้การ์ดคุ้มครองไปก่อน ทำอะไรอาจไม่สะดวกบ้าง แต่ต้องระวังตัว พี่น้องของชาคริตไม่ใช่เล่นเช่นกัน พี่ไม่อยากเห็นคนในครอบครัวเราถูกจับไปเป็นข้อต่อรองอันไร้ประโยชน์กับชาคริตหรอกนะ " " ครับ " น้องชายทั้งสองตอบตกลง ตอนนี้ฤชาเป็นห่วงบุตรสาวที่สุด เนื่องจากเป้าหมายที่น่าจับตัวเป็นข้อต่อรองที่สุดก็คือบุตรสาวของเขาและตัวเอง คิดว่าไม่นานที่พี่น้องของชาคริตจะสืบรู้ความสัมพันธ์ของพวกเขาได้ไม่ยาก แต่อย่างไรเขาก็จะปกป้องบุตรสาวตัวเองอย่างสุดความสามารถ แม้ต้องใช้ชีวิตแลกมาก็ตาม! ทางฝั่งนาวีไม่มีปัญหาเพราะตัวคนเดียว ไปทำงาน แล้วก็กลับบ้าน ส่วนทางฝั่งชลธี ก็ไม่พ้นที่จะเล่าเรื่องให้คนรักฟัง " น้ำต้องระวังตัวให้มาก ช่วงนี้ผมจะพยายามรับส่งน้ำด้วยตนเองและประสานกับทีมบอดี้การ์ดของคุณชาคริต กิจกรรมที่ไม่จำเป็นน้ำไม่ต้องร่วมนะ ผมจะคุยกับทางรุ่นพี่ให้ " " แต่มันจะไม่เป็นปัญหากับรุ่นพี่กับเพื่อนร่วมรุ่นหรอพล " " ต่อให้มีแต่ชีวิตของน้ำสำคัญกว่าเรื่องอื่น " พลพิทักษ์ตอบหนักแน่น เขาไม่สามารถเอาชีวิตคนรักมาทำเป็นเรื่องเล่นได้ เขาไม่เข้าใจวงการมาเฟียมากนักเพราะเขาคือครอบครัวนักธุรกิจแต่ว่าสิ่งหนึ่งที่เขาเข้าใจคือ ความเหี้ยมโหดของมนุษย์เมื่อพยายามให้ได้ในสิ่งที่ต้องการแม้จะต้องทำอะไรก็ตามเพื่อให้ได้มันมา ช่วงนี้บ้านสามพี่น้องอยู่ในบรรยากาศที่อึมครึมไม่สดใสเท่าที่ควร พลพิทักษ์ก็ขออนุญาตฤชากับนาวีแวะมาค้างเป็นเพื่อนชลธีบ่อยครั้ง ด้วยความเป็นห่วง ตอนนี้ทุกอย่างสงบเหมือนสภาพทะเลก่อนเกิดพายุลูกใหญ่โหมกระหน่ำ ทุกคนอยู่ในความไม่สบายใจ เพราะไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น " ได้ข่าวว่าอย่างไรบ้าง " เอียนถามน้องชาย " เหมือนจะไปติดคนไทยที่โน่น แต่มีลูกติด ได้ข่าวมาว่าคนไทยคนนี้เคยมีสัมพันธ์กับไอ้นอกคอกนี่ตอนที่มาฝึกงานเมื่อหลายปีก่อน พอรู้ข่าวว่าไอ้นอกคอกจะแต่งงานก็เลิกรากันไป " คริสตอฟตอบพี่ชาย " อืม สืบต่อสิ มันน่าจะต้องมีอะไรมากกว่านั้น ขนาดที่เจ้านอกคอกนั่นต้องไปด้วยตนเองไม่น่าจะธรรมดาหรอกนะ " เอียนออกความเห็น ก่อนจะถามต่อ " แล้วทางลุคเชเช่มีการเคลื่อนไหวอะไรบ้างไหม " " ไม่มี ทุกอย่างปกติดี แต่สงสัยว่าลิซต้าจะทำหน้ายังไงถ้ารู้ว่าสามีตัวเองไปติดพันคนอื่นเข้าน่ะ " คริสตอฟแสยะยิ้มร้าย " ก็ลองดูสิ ปล่อยให้กัดกันเอง เราค่อยถือโอกาสรวบทีเดียวในตอนหลังก็ไม่เลว " " ฮ่าฮ่า สมเป็นพี่จริง ๆ นะเอียน " คริสตอฟรู้ตัวว่าตนเองไม่ฉลาดเท่าพี่ชาย เอียนคือมันสมองของกลุ่ม ถ้าไม่ได้เอียน หลายปีมานี่พวกเขาคงโดนชาคริตกวาดล้างจนเหี้ยนไปหมดแล้ว " เราลองมาดูกันสักตั้งนะชาคริต สุดท้ายใครจะเป็นผู้ชนะ " เอียนกล่าวออกมาเหมือนพูดกับตนเองคนเดียว
อคิราใจสั่น หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกจากอก สาบานว่านี่ไม่ใช่ความฝันหรือเขายังเมาค้างจนหลอนใช่ไหม ที่คุณเดชมาสารภาพรัก" เด็กดี "ใบหน้าหล่อเหลาที่ประหนึ่งหนุ่มวัยสามสิบแม้อายุจริงจะเข้าวัยกลางคนแล้วก็ตาม ก้มลงมาใกล้จนลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดหน้าตอนนี้สมองเขาช็อกจนคิดอะไรไม่ออกไปแล้วได้แต่ปล่อยเลยตามเลยให้คุณเดชเป็นคนจัดการเขาไม่ได้โง่ เขาติดว่าวันนี้เขาคงจะโดนกิน แต่ เขาก็เต็มใจถูกกิน!!ริมฝีปากหนากร้านและริมฝีปากเต็มอิ่มสีสดประกบเข้าหากัน ร่างบางซึ่งไม่ประสีประสาแต่กลับกระตุ้นอารมณ์กำหนัดของคนแก่กว่าได้เป็นอย่างดี ริมฝีปากทั้งสอง คลึงเคล้า บดเดบียด หยอกล้อกันไปมา จนริมฝีปากของร่างบางบวมช้ำอัครเดชหยุดพักให้ร่างบางได้หายใจหายคอ ก่อนจะจู่โจมกลับไปอีกที คราวนี้เปลี่ยนจากจูบแบบผิวเผินกลายเป็นดูดดื่มเข้มข้น ลิ้นสากยาวสอดลึกเข้าไปในโพรงปากชุ่มฉ่ำ กวาดต้อนลิ้นเล็กแสนน่ารักที่หลบหนีไปมา พร้อมกับกวาดต้อนดูดชิมน้ำหวานสีใสไปพร้อมกัน" หวาน " คนอายุมากกว่าพึมพัมชิดริมฝีปากของร่างบางอคิราที่ไม่ประสีประสาในบทรักก็โดนชักนำไปตามพายุอารมณ์ของคนแก่กว่าอย่างช่วยไม่ได้ เพียงแค่จูบเขาก็เสียวซ่านแบบไม่เคยเ
อคิราผู้กำลังถูกสอบสวนหาความจริงถึงกับเหงื่อแตกเต็มหลัง เขาไม่รู้ว่าควรจะตอบอะไรดี พยายามใช้สมองประมวลผลหาข้อแก้ตัวดี ๆ ซักอย่าง แทนที่จะพูดความจริงแล้วเสี่ยงเข้าหน้ากันไม่ติดอีกเลย" เอ่อ...คิน..."" คิน ไม่โกหกแด๊ดนะ " คุณเดชกล่าวเสียงจริงจังอคิราเองก็ไม่อยากโกหก ได้แต่นั่งคอตกเงียบ ๆ น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากหัวตา พร้อมสะอื้นทำไมเขาต้องมาโดนกดดันอะไรแบบนี้ด้วย สาเหตุมาจากเขาที่ไหนกัน เขาอยากออกไปจากตรงนี้!ก่อนที่จะได้พูดหรือทำอะไร เขาก็เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่น" โอ๋ เด็กดี ไม่ร้องนะครับ แด๊ดขอโทษ ค่อย ๆ คุยกันนะ "จากที่คิดว่าจะหยุดร้องไห้ กลับร้องหนักขึ้นอัครเดชไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่กอดปลอบลูบหัวลูบหลังพร้อมกับกดจูบซับน้ำตาให้เด็กน้อยของเขาก็คงจะอดกลั้นมานานมาก ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้สังเกตอะไรนอกจากคิดว่าเด็กน้อยคนนี้เห็นเขาเป็นเพียงญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง ผิดกับเขาที่..." ไม่ร้องนะครับเด็กดี น้องคิน "คุณเดชเรียกชื่อผมเหมือนสมัยตอนผมยังเป็นเด็กเล็ก ๆ" อืม "ผมตอบรับ ตนเองหยุดร้องแล้วแต่ยังสะอื้นนิดหน่อย กลไลของร่างกายนี่ทำเอาลำบากจริง ๆ ก่อนจะอื้อมแขนไปโอบกอดคุณเดชแน่น เอาหน้าตัวเอง
รถแท็กซี่สีเขียวเหลือง เข้ามาจอดหน้าประตูคฤหาสน์หลังใหญ่ย่านชานเมือง ก่อนที่คนสองคนจะลงจากรถ คนร่างสูงใหญ่ พยุงคนร่างเล็กแบบบางลงจากรถ ก่อนจะบอกให้คนขับเปิดมิเตอร์รอรับคนร่างใหญ่กลับไปด้วยพนักงานรักษาความปลอดภัยของคฤหาสน์เดินออกมาดูก่อนจะเห็นว่าคนร่างเล็กในอ้อมแขนคนร่างใหญ่เป็นใครจึงเปิดประตูทางเข้าเล็กให้ ก่อนจะพาคนทั้งสองขึ้นรถกอล์ฟแบบที่ใช้ในสนามกอล์ฟ ขับพาไปยังตัวคฤหาสน์ด้านในรถถูกขับมาจอดไว้ด้านหน้าบันไดทางขึ้นกัทพยุงร่างบางของเพื่อนลงจากรถก่อนจะช้อนขาขึ้นอุ้มท่าเจ้าหญิง" แกหนักขึ้นนะเนี่ย " เจ้าตัวบ่นพึมพัม" อืม "เจ้าเพื่อนรักที่เมาหมดสภาพได้แต่ตอบรับแกน ๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาถามอะไร" ส่งคินมาให้พ่อมา "กัทเงยหน้าขึ้นมองผู้มาใหม่ ร่างสูงใหญ่ ส่วนสูงเกิน 190 กล้ามเนื้อกำยำ แข็งแรงผิดกับคนวันสี่สิบกว่า มองดูดี ๆ เหมือนคนเพิ่งสามสิบอย่างไรอย่างนั้น แถมเปล่งฮอร์โมนเพศผู้อย่างเข้มข้นออกมา เหมือนจ่าฝูงของเหล่านักล่าในป่า ที่กำลังขมขู่เพื่อปกป้องสิ่งหวงแหนกัทมองอีกฝ่ายอย่างอึ้ง ๆ ไม่คิดว่าเจ้าตัวจะออกมารอรับเจ้าเพื่อนรักของเขา จากนั้นคนในอ้อมแขนก็โดนแย่งไป อีกฝ่ายอุ้มเจ้าเพื่อ
อคิราขับรถฝ่าการจราจรในกรุงเทพฯช่วงฝนตกอย่างเหนื่อยใจ สองกิโลสามชั่วโมง ไม่มีอะไรจะน่าเบื่อขนาดนี้มาก่อน วันนี้เกรงว่าเขาจะกลับไปไม่ทันทานข้าวกับคุณเดชเสียแล้วไหน ๆ กลับไม่ทันเขาก็ควรบอกกล่าวก่อน อีกฝ่ายจะได้ไม่รอเขาจนเลยเวลาทานอาหารเขาควักมือถือไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้เป็นของขวัญวันเกิดจากคุณเดชออกมาส่งข้อความหาอีกฝ่ายคุณเดช : คุณพ่อ ฝนตก รถติดมาก คินคงกลับถึงไม่ทันเวลากินข้าว ทานก่อนเลยนะครับสักครู่ก็มีข้อความตอบกลับคุณเดช : อืม ขับรถระวัง ๆ ล่ะ ฝนตกอันตรายคินคิน : ครับเขากลับมาตั้งใจขับรถก่อนจะเอายูทูปมาเปิดดูคลิปหมาแมวน่ารัก คลิปทำอาหาร คลิป asmr คั่นเวลารอรถขยับ คาดว่าคงมีอุบัติเหตุด้านหน้า รถเลยเคลื่อนช้าขนาดนี้ระหว่างนี้ก็ไถทวิตเตอร์เล่นไปด้วยตึ๊งตึงเสียงแจ้งเตือนจากเฟซบุ๊คซึ่งเป็นข้อความจากกลุ่มคนที่ทำงานบริษัทเดียวกัน ทำไว้เพื่อเม้ามอยหรือกระจายข่าวสาร (ซุบซิบ) ดังขึ้นเขากดเข้าไปดูตามปกติเพื่อเช็กเรื่องเม้าล่าสุดหนูนาบ้านอีสานพวกเธอเข้ามาส่องคู่ควงคนใหม่ของท่านประธานกันเร๊ว ก่อนจะถูกท่านแอดมินกลุ่มกำจัด(แปะรูป)(แปะรูป)(แปะรูป)มีคนกดไลค์ คอมเม้นหลักร้อยและยัง
" คุณพ่อ ผมไปทำงานก่อนนะครับ "" อืม กลับมาทานข้าวเย็นเป็นเพื่อนพ่อด้วยล่ะ "" ครับ "บทสนทนาประจำวันแบบเดิม ๆ ที่มักจะได้ยินทุกวันมาเป็นเวลาสามปีเขาชื่อ อคิรา อายุ 26 ปี ทำงานเป็นผู้บริหาร กรรมการบริษัท DX มีธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ความงามแบบใช้ตำรับสมุนไพรเป็นส่วนผสม บริษัทนี้เป็นบริษัทของคุณพ่อของภรรยา ที่ได้สูตรที่ตกทอดกันมาจากบรรพบุรุษที่อดิตเคยเป็นถึงสนมขั้นเฟยในวังหลังภายหลังการปฏิรูประบอบการปกครอง ตระกูลตกต่ำจนต้องย้ายประเทศมาอยู่ที่นี่ พร้อมทั้งหอบหิ้วสมบัติมาตั้งตัวและหนึ่งในนั้นคือสูตรบำรุงความงามต่าง ๆ ที่ว่าบริษัทมีจุดเริ่มต้นจากร้านยาจีนเล็ก ๆ เนื่องจากหนึ่งในบรรพบุรุษที่มาตั้งรกรากที่นี่เป็นแพทย์แผนจีนอีกทั้งยังเป็นหัวหน้าตระกูล ภรรยาของท่านหัวหน้าตระกูลให้กำเนิดบุตรชายและบุตรสาวบุตรชายเอาดีทางด้านการบริหาร ก่อร่างสร้างเนื้อสร้างตัวจากร้านยาเล็ก ๆ จนกลายเป็นธุรกิจใหญ่โต ส่วนบุตรสาวร่ำเรียนสืบทอดวิชาแพทย์ต่อจากผู้เป็นพ่อทุกวันนี้จากร้านยาจีนเล็ก ๆ กลายเป็นเครือบริษัทใหญ่โตที่ครอบคลุมกิจการร้านยาจีนหลายสาขา มีโรงงานผลิตอาหารเสริมแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เวชสำอ
คำเตือนคำหยาบ , โรลเพลย์ช่วงนี้น้องสาวของเจกำลังตั้งครรรภ์ได้สองเดือน ชายหนุ่มทั้งสามในบ้านต่างประคมประหงมหญิงสาวเพียงผู้เดียวนี้ดีมาก จนบางทีรู้สึกได้ว่าเจ้าตัวรำคาญสุด ๆ ฮิมที่เห็นน้องสาวของเขาท้องก็เกิดเฟติชแบบแปลก ๆ ขึ้นมา ตอนที่อยู่ในห้องกันสองคนจึงได้ชวนเขาเล่นอะไรบางอย่าง" เจ ลองเล่นโรลเพลย์กันไหม "ปกติพวกเขาก็เล่นอะไรพวกนี้เป็นปกติอยู่แล้วแต่การชวนครั้งนี้ดูกระตือรือล้นจนเจอดที่จะแปลกใจไม่ได้" อยากเล่นบทอะไร "เขาถามออกไป" โจรชั่วข่มขืนหม้ายท้องแก่จอมร่าน "" ห๊ะ!? "เป็นเขาที่ฟังแล้วทำหน้าเหวอ ตั้งแต่แต่งงานกันมา พึ่งรู้ว่าสามีของเขาโรคจิตขนาดนี้เหมือนกัน ไม่ใช่ว่ารังเกียจแต่กำลังคิดว่าทำไมอีกคนถึงอยากเล่นบทบาทนี้ต่างหาก" ทำไมถึงอยากเล่นบทนี้ล่ะ "เจถามด้วยหน้าสงสัยสุดขีด" ก็แบบเห็นจูนท้องแล้วพอคิดว่าเป็นมึงท้องแล้วกูจัดมึงตอนท้องแก่แค่คิดก็น้ำจะแตกแล้ว "ไม่พูดเปล่า เจ้าหมาหื่นจับมือเขาลงไปที่เป้ากางเกงที่ตอนนี้แข็งตุงเป็นลำ แท่งเนื้อดันเป้าแทบปริออกมาเจหมั่นไส้สามีจนขยำลงไปแรง ๆ แต่แทนที่เจ้าตัวจะสำนึกกลับเด้าใส่มือ หัวเราะชอบใจไม่หยุดแทนเสียนี่เขาล่ะหน่ายใจ นอกจ