บทที่4.
ตี้ดๆ ...
เสียงโทรศัพท์เครื่องเล็กส่งสัญญาณเตือน มันสั่นไม่หยุด เมื่อตัวเจ้าของไม่มีทีท่าว่าจะตื่น...
แป้งหอมบิดกายด้วยความเกียจคร้าน เธอหลับสนิทเป็นครั้งแรก เมื่อมีที่นอนอุ่น อากาศเย็นสบาย...และไร้เสียงรบกวน เธอขยี้เปลือกตาแรงๆ หมุนมองรวบตัวด้วยความกังวล เธอลืมไปได้ยังไง เธอยังไม่ได้กลับบ้าน ที่ที่เธอใช้ซุกหัวนอนอยู่นี่ ถึงมันจะไม่ค่อยปลอดภัยแต่เธอก็ไม่ได้ถูกกักกัน
ห้องเช่าราคาถูก มีห้องแถวเรียงติดกันเป็นตับ...ผู้คนที่อาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน ไม่ได้ต่างอะไรกับเธอ คนชนชั้นล่างใช้แรงกายทำงานแลกเงินตรา เพราะฉะนั้น มันจึงไม่แปลกหรอก สังคมรอบตัวเธอมันเลยดิบ เถื่อน ไร้มารยาท เมื่อพวกเขาหย่อนการอบรม แต่แป้งหอมก็ต้องทน เธอไม่มีที่ไป ราคาห้องเช่าพอจ่ายได้ เธอต้องเก็บเงินไว้ใช้จ่ายหลายอย่าง แค่ค่าตำราเรียนของเธอ เงินที่หามาได้ก็แทบจะหมดแล้ว...ไหนจะค่าอาหาร ค่ารถมีรายจ่ายจิปาถะที่แป้งหอมต้องเตรียมหาสำรองไว้
ใช่...แป้งหอมกำลังศึกษาต่อ เธอรู้ดีว่าการศึกษาทำให้คนมีโอกาสมากขึ้น...หากไร้ซึ่งใบประกาศนียบัตร...โอกาสดีๆ ที่ตามมาก็ย่อมไม่มี...
หญิงสาวรีบลงจากเตียง เธอสำรวจตัวเองก่อนเบ้ปาก...
เมื่อคืนจำใจใส่ เพราะไม่มีทั้งเวลา และเสื้อผ้าชุดที่ดีกว่านี้ แต่นี่...เธอมองชุดที่สวมแล้วก็เบ้ปาก มันเปิดมากกว่าปิด ไม่ต้องเดาเลยว่าใต้ผืนผ้าบางๆ นี่มีอะไรซ่อนอยู่ เวลานี้สว่างโร่...ไอ้ชุดเศษผ้านี่แทบจะไร้ประโยชน์...มันไม่สมควรเรียกว่าเสื้อผ้าหรอก...เพราะแม้แต่ปิด ชุดห่วยๆ นี่ยังไม่สามารถทำได้ เพราะฉะนั้น เธอจึงต้องหาอะไรมาคลุมทับไว้อีกชั้น ตอนนี้แป้งหอมยังไม่อยากเป็นนางโชว์ แป้งหอมรู้ตัวดี...คงไม่มีใครมองเธอแน่...ทรวดทรงเธอมันเล็กเสียจนเจ้าตัวยังอาย
เสื้อเชิ้ตตัวหนึ่งกองอยู่บนพื้น สีสันของมันเด่นเกิน!! คงไม่มีผู้ชายคนไหนบ้าใส่เสื้อสีเหลืองอ๋อย เหลืองเด่นขนาดนี้หรอก คงมีแค่คนเดียวเท่านั้นแหละ เธอก้มลงเก็บ ยกขึ้นมาดมกลิ่นที่โชยออกมานิดๆ ใกล้ๆ ความทรงจำบางอย่างย้อนกลับเข้ามาในหัว มีบุรุษคนหนึ่งเขาสวมเสื้อตัวนี้ แต่...เวลานี้ไม่เห็นเขาแม้แต่เงา...แป้งหอมตัดสินใจสวมเสื้อตัวใหญ่คลุมทับชุดเศษผ้าที่เธอค่อนว่า พลางเป่าปากด้วยความโล่งใจ เนื้อผ้าของเสื้อเชิ้ตหนามากพอ ทำให้ปกปิดความอุจาดของตัวเองไว้ได้...
“ไปไหนของเขานะ...หอมจวนจะสายแล้วนะคะ จะให้ใส่ชุดนี้ไปทำงานเหรอ คงแตกตื่นกันทั้งร้าน”
หลังมองนาฬิการาคาถูกบนข้อมือตัวเอง เวลาที่ขยับเคลื่อนที่ไวจนแป้งหอมเริ่มร้อนใจ หากเธอยังไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้...วันนี้เธอคงชวดรายได้ส่วนหนึ่ง และมีสิทธิ์ถูกปลดออกจากงานที่ทำ เมื่อยังมีคนอีกหลายคนที่ตกงานและรอที่จะเสียบตำแหน่งงานที่เธอครอบครองอยู่
“ถ้าหอมตกงาน...คุณเจ็บตัวแน่” หญิงสาวเดินวนไป เวียนมา เธอพยายามหมุนลูกบิดประตูเพื่อเปิดประตู...แต่...มันทำได้แค่หมุน แต่ไม่สามารถเปิดออกไปได้ เธอถูกขัง...เหมือนเดิม...ผู้ชายคนนั้นกำลังทำให้เธอเดือดร้อน!!
“โว้ย!! ไม่น่าเลยหอมเอ๋ย...ดันทะลึ่งกดลิฟต์ขึ้นมาบนนี้ทำไมวะ”
แป้งหอมบ่นพึม เดินพล่านจนเหนื่อย แต่ก็เหมือนเดิม...ทุกอย่างรอบตัวเงียบกริบ...ไม่มีสิ่งมีชีวิต ไม่มีช่องทางพอให้เล็ดลอดหนีไปได้เลย
ครั้นเมื่อเหนื่อย คนทำงานใช้แรงก็ต้องหาอะไรใส่ท้อง ไหนๆ ก็ไม่มีทางหนีออกไปได้แล้วนี่
แป้งหอมจึงเริ่มสำรวจห้องนี้อีกครั้ง...ห้องทำงานของเขา เธอเดินรอบห้อง จนกระทั่งเจอตู้เย็นหลังเล็กตั้งอยู่บนเคาน์เตอร์ชงกาแฟ หญิงสาวเปิดประตูก้มมองหาของกินใกล้ๆ เธอค้นได้ขนมปังกับไส้กรอก ของที่พอกินรองท้องได้
“เอาวะ ดีกว่าหิวจนตาลาย กินเอาแรงก่อน ไม่รู้ว่าตาบ้านั่นจะขังไว้ถึงตอนไหน เห้อ!! ซวยอภิมหาซวยเลยหอมเอ๋ย”
แป้งหอมบ่น สลับกับกัดขนมปังแกล้มไส้กรอกที่อุ่นด้วยไมโครเวฟ กำลังเพลินๆ กับมื้ออาหารสุดง่าย ใจจริงแป้งหอมอยากได้ข้าวสวยร้อนๆ มากกว่า...แต่เมื่อไม่มีสิ่งที่ต้องการ เพราะฉะนั้นอะไรก็ได้ที่พอให้ท้องหายหิว...
“เธอทำอะไรน่ะ?”
เสียงทุ้มๆ สุดคุ้นเคย แป้งหอมเหลียวมามอง ก่อนจะอ้าปากค้าง
คนบ้าอะไรไม่รู้ เจอกี่ทีก็หล่อจนใจละลาย ยิ่งเขาอยู่ในสูทพอดีตัว สีน้ำตาลไหม้แบบนี้ ให้ตายเถอะ!! เหมือนพระเอกซีรี่ย์เกาหลีที่สาวๆ พากันคลั่งไคล้ทั้งบ้านทั้งเมืองเสียจริงๆ
“แมลงวันบินเข้าปากแล้วมั้งนั่น”
แป้งหอมรีบหุบปากฉับ!! เธอแอบแลบลิ้นใส่ชายหนุ่มเจ้าของห้อง เพราะหมั่นไส้สุดๆ
“ฉันมีประชุมและเธอควรไปกับฉันด้วย” เรียวยกมือขึ้น เขาถลกแขนเสื้อมองเวลาบนแผงหน้าปัดนาฬิกา
“ได้ไงคะ ไหนคุณบอกจะปล่อยหอมไง?” หญิงสาวประท้วง...เธอขมวดคิ้ว ส่ายหน้าไปมา เกิดความไม่พอใจอย่างแรง เขาจะหนีบเธอไปด้วยทำไม ทำไมไม่ปล่อยเธอเหมือนที่สัญญาไว้
“เอาไว้ให้แน่ใจ...แล้วฉันจะปล่อยเธอเอง” ชายหนุ่มตัดบท เขาเหลือเวลาไม่มากแล้ว
“ไม่!! หอมจะไปทำงาน ไปสายยังดีกว่าขาด หอมต้องใช้เงินนะคุณ คุณจะมากักตัวหอมแบบนี้ไม่ได้หรอกค่ะ”
เธอโวย อยากจะคลั่ง ถูกกักตัว ถูกหิ้วไปนั่นมานี่ เธอขาดรายได้ ที่สำคัญ เธอต้องจ่ายทั้งค่าเช่าบ้าน และต้องหาเงินค่าเทอมด้วย
“เธอเลือกได้เหรอไง เธอลืมไปแล้วเหรอ เธอกำลังเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่นะ”
“คุ๊ณ!! แค่ผู้ต้องสงสัย ไม่ใช่ผู้ต้องหา ตำรวจยังปล่อยตัวเลยหากกักตัวไว้ครบยี่สิบสี่ชั่วโมง คุณไม่ใช่ตำรวจเสียหน่อย สมควรปล่อยหอมได้แล้วค่ะ หอมไม่หนีหรอก...ไปหาหอมที่ครัว ยังไงก็เจอ”
หญิงสาวตอบเสียงขุ่น เธอไม่มีสิทธิ์เลือก แต่สิทธิ์ความเป็นคนของเธอล่ะ เธอไม่ผิด เรียวไม่ใช่ตำรวจ เขาไม่ควรกักกันเธอไว้
“รู้มาก” เรียวบ่น “แต่ฉันไม่ปล่อย” เขายืนกราน
“อะไรง่ะ!! ไม่ได้ยินเหรอคะ หอมต้องใช้เงิน ถ้าหอมถูกไล่ออก หอมจะเดือดร้อน”
แป้งหอมโวย
“เธอทำงานอะไร?” เรียวไม่ได้อยากรู้ เขาแค่รำคาญเสียงโวยวาย
“ร้านขายขนมหน้าโรงเรียนตอนเช้า บ่ายถึงเย็นร้านขายผักในตลาด ค่ำถึงตีสามล้างจานในผับคุณ”
แป้งหอมตอบ เธอเงยหน้ามองเขา ไม่เคยอายที่ทำงานต่ำๆ เพราะงานที่เธอทำสุจริต ไม่ได้ลักขโมยใคร
บทที่6.“ผับอยู่ชั้นล่างสุด...ชั้นถัดไปเป็นห้างสรรพสินค้า”คงเป็นเพราะมัวแต่ก้มหน้าทำงาน เธอเดินเข้าเดินออก ทางด้านหลังเป็นปีๆ ไม่เคยเฉียดมาทางด้านหน้าตัวอาคาร แป้งหอมเลยไม่เคยรู้... กิจการของเรียวครอบคลุมทุกอย่าง ไม่น่าแปลกใจเลย ทำไมเขาถึงรวย...แป้งหอมถูกจับแต่งตัวใหม่ ด้วยสูทผู้หญิงเนื้อผ้านิ่มๆ เป็นผ้าที่หล่อนไม่เคยแตะต้องมาก่อนในชีวิต เพราะเสื้อผ้าของแป้งหอมส่วนใหญ่ ได้มาจากการบริจาค เธอประหยัดเพื่ออนาคต แป้งหอมเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในโลกละมั้ง...ที่ไม่เคยสนใจเรื่องการแต่งกาย หญิงสาวห่วงปากท้องตัวเองมากกว่าเมื่อเธอย้อนกลับมาอีกครั้ง หลังแปลงโฉมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า...ทันทีที่ประตูห้องประชุมถูกดันให้เปิดด้วยฝีมือเปรียวการ์ดคนสนิทของเรียว หล่อนจึงถูกมองจากทุกคนภายในห้องนั้น...ขาของแป้งหอมสั่นพั่บๆ หญิงสาวพยายามฝืนยิ้ม แม้หัวใจเธอจะเต้นเป็นจังหวะแทงโก้ มันเต้นแรงมาก แป้งหอมไม่แน่ใจ หากเดินแรงๆ หัวใจเธอจะหล่นลงมากองที่พื้นหรือเปล่าเรียวรีบยกมือขึ้นปิดปาก เขาไม่อยากให้ทุกคนเห็น เวลานี้ชายหนุ่มฉีกยิ้
บทที่5. เรียวกะพริบเปลือกตาปริบๆ รู้สึกทึ่งเป็นครั้งแรก ผู้หญิงตรงหน้าทำงานแทบไม่มีเวลาพัก เมื่อคำนวณดีๆ หล่อนแทบไม่มีเวลานอนเลย ผู้หญิงคนนี้ต้องดิ้นรนหนักขนาดนั้น...เชียวหรือ? เพราะอะไรกันนะ“เริ่มงานกี่โมง?” เขาถามย้ำ แป้งหอมทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจ“ฉันหมายถึง เวลาเริ่มงานเธอน่ะกี่โมง เวลาเท่าไร?”หญิงสาวถึงบางอ้อ หล่อนพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนตอบแบบเสียไม่ได้ “หอมต้องไปทำงานตั้งแต่หกโมงเช้าค่ะ นี่สายมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว ป่านนี้ลุงนวยบ่นแย่เลย”หกนาฬิกา หล่อนเริ่มตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างดี ลากยาวถึงสามนาฬิกา แม่เจ้า!! ผู้หญิงตัวเล็กๆ นี่นะ“เธอเดือดร้อนเงินขนาดนั้นเลยเหรอ?” เรียวซักต่อ เขาลืมเรื่องประชุมสำคัญไปเสียฉิบ...“อืม...หอมมีรายจ่ายหลายทางค่ะ...หอมก็ต้องทำงานสิคุณ แปลกตรงไหน”หญิงสาวตอบแบบหน้าซื่อ เป็นเรื่องจริงที่เธอไม่เคยอาย เธอไม่มีความรู้นี่ ก็ต้องเอาแรงกายแลกมา ทุกๆ คนบนโลก ก็เป็นเช่นนี้ เธอ
บทที่4. ตี้ดๆ ...เสียงโทรศัพท์เครื่องเล็กส่งสัญญาณเตือน มันสั่นไม่หยุด เมื่อตัวเจ้าของไม่มีทีท่าว่าจะตื่น...แป้งหอมบิดกายด้วยความเกียจคร้าน เธอหลับสนิทเป็นครั้งแรก เมื่อมีที่นอนอุ่น อากาศเย็นสบาย...และไร้เสียงรบกวน เธอขยี้เปลือกตาแรงๆ หมุนมองรวบตัวด้วยความกังวล เธอลืมไปได้ยังไง เธอยังไม่ได้กลับบ้าน ที่ที่เธอใช้ซุกหัวนอนอยู่นี่ ถึงมันจะไม่ค่อยปลอดภัยแต่เธอก็ไม่ได้ถูกกักกันห้องเช่าราคาถูก มีห้องแถวเรียงติดกันเป็นตับ...ผู้คนที่อาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน ไม่ได้ต่างอะไรกับเธอ คนชนชั้นล่างใช้แรงกายทำงานแลกเงินตรา เพราะฉะนั้น มันจึงไม่แปลกหรอก สังคมรอบตัวเธอมันเลยดิบ เถื่อน ไร้มารยาท เมื่อพวกเขาหย่อนการอบรม แต่แป้งหอมก็ต้องทน เธอไม่มีที่ไป ราคาห้องเช่าพอจ่ายได้ เธอต้องเก็บเงินไว้ใช้จ่ายหลายอย่าง แค่ค่าตำราเรียนของเธอ เงินที่หามาได้ก็แทบจะหมดแล้ว...ไหนจะค่าอาหาร ค่ารถมีรายจ่ายจิปาถะที่แป้งหอมต้องเตรียมหาสำรองไว้ใช่...แป้งหอมกำลังศึกษาต่อ เธอรู้ดีว่าการศึกษาทำให้คนมีโอกาสมากขึ้น...หา
บทที่3.เรียวกดจูบแรงๆ บนพื้นที่หอมติดจมูก เขาทิ้งรอยของเขาไว้ที่เนินอกข้างซ้ายของแป้งหอม เป็นรอยจ้ำๆ รูปปาก ก่อนจะดันตัวเองขึ้น ห่างจากหล่อนพอสมควร ดวงตาสีนิลมองสบนัยน์ตาหวานเป็นประกาย แววตาคู่นั้นมีแววตื่นตระหนก เหมือนกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างกันหล่อนไม่ชิน และอาจไม่เคยรู้จักมาก่อน มุมปากเรียวกระตุก เขากลั้นยิ้มที่นอนตัวสั่นพั่บๆ เป็นลูกนกนี่...หากเดาไม่ผิดหล่อนคงบริสุทธิ์แหงๆ...และเขาก็เริ่มสนุกเสียแล้วสิ สนุกที่จะไล่ต้อนผู้หญิงแบบนี้ ก่อนจะค่อยๆ ละเลียด ‘เจาะไข่แดง’ มันต้องเป็นความน่าสนุกอย่างหาที่สุดไม่ได้ มันคงสนุกจนเขาเลิกเอียนผู้หญิงไปอีกนาน “อี๋!! คุณทำบ้าอะไรน่ะ” แป้งหอมเสือกตัวหนี เธอลอดผ่านหว่างขาเขา และรีบก้มสำรวจตัวเอง จนเห็นสิ่งที่เรียวฝากไว้ ผิวหน้าเธอร้อนซู่!! ผิวแก้มแทบจะลุกไหม้ แม้จะอายสุดๆ แต่หญิงแกร่งอย่างแป้งหอมเลือกใช้ความโกรธบังหน้า
บทที่2. แป้งหอมถอนใจแรงๆ ...เธอง่วง เธอเพลีย เธออยากนอน...ยิ่งเมื่อเหลือบมองเวลาที่นาฬิกาบนข้อมือของฝ่ายตรงข้าม เธอยิ่งรู้สึกเซ็ง มันเลยเวลาเลิกงานเธอมามากกว่าสามสิบนาที และช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาพักผ่อนของเธอ...ไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้เธอคงแย่...เพราะ6:00 นาฬิกาคือเวลาเริ่มงานชิ้นแรกของเธออีกครั้ง แป้งหอมไม่อยากเผลอหลับในเวลาทำงาน มันเสี่ยงกับการที่เธอจะถูกปลดออก...งานยิ่งหายากในยุคนี้เศรษฐกิจถดถอยมีผลกระทบกับทุกคน โดยเฉพาะคนหาเช้ากินค่ำและมีความรู้น้อย...แบบเธอ“หอมจะตอบ แต่คุณมีเวลาแค่สิบนาทีนะคะ หอมง่วง” ตอนนี้แป้งหอมหายกลัวเรียวแล้ว เธอง่วงจนตาจะปิด เขาทำให้เธออดนอน เขาล้ำเส้นที่เธอขีดไว้ เวลาของเธอมีค่าทุกนาที ไม่เหมือนเขานี่ คนรวยจนไม่ต้องกระเสือกกระสน ไม่ต้องดิ้นรนทำงาน...มีทั้งเงินในกระเป๋า และเงินในบัญชีเรียวกลอกตา...หนูน้อยตัวเล็กๆ ตรงหน้า กำลังพองขนใส่พญาราชสีห์อย่างเขา มันดูน่าตลกจนอยากหัวเราะรอยยิ้มของเรียวจึงผุดขึ้นที่ริมฝีปากสีสด ริมฝีปากที่แป้งหอมแอบชำเลืองมองบ่อยๆ ปากเขาสวยจนนึกอยาก ‘จูบ’หญิงสาวจึงเผลอมองจนตาปรอย ลืมไปด้วยซ้ำว่าเมื่อสักครู่เธอกำลังโกรธจัดอยู่
บทที่1.แป้งหอมกำลังเซ็ง!! เธอนั่งก้มหน้าคอตก ปวดหัวแทบระเบิด จู่ๆ ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นสปาย!! เธอแค่หลบแขกขี้เมาที่จ้องจะลวนลาม หลบเข้ามาในห้องห้องหนึ่ง บนชั้นบนสุดของอาคารที่ตัวเองไม่เคยเยี่ยมกรายขึ้นมาเลยสักครั้ง เธอทำงานอยู่ที่ผับแห่งนี้ร่วมปี แต่ถูกใส่ร้ายว่าเป็น ‘โจร’ ไม่มีสักคนที่คิดจะตรวจสอบ มีผู้ชายวัยฉกรรจ์ยืนคุมเธอเหมือนเป็นนักโทษ สีหน้าขรึมเฉยแต่กลับดุดันจนขนลุก เขาคุกคามเธอด้วยสายตาและความเงียบ แต่เธอกลัวจนฉี่จะราด เธอจะหาข้อแก้ต่างอย่างไรถึงจะหลุดพ้นข้อกล่าวหาร้ายแรงแบบนี้ได้ล่ะเธอพอทราบแหละ ว่าเจ้าของสถานบันเทิงที่เธอทำงานเป็นคนไทย เขาเป็นลูกเสี้ยวและหล่อเหลาเอาการ แต่คนติดดินอย่างแป้งหอม ไม่มีเวลามาชะเง้อมองเจ้านายที่หล่อเหลาหรอก...มันเสียเวลาทำมาหากินของเธอ หญิงสาวจึงเป็นคนเดียวในหมู่ลูกน้องสาวๆ ของเรียว เธอไม่รู้จักเขา เรียว มาสวณิชย์ ไม่รู้ว่าเขามีหน้าตาแบบไหน ด้วยซ้ำ แค่ฟังจากคำชมของเพื่อนร่วมงาน แป้งหอมเลยพอจะเดาได้ เขาคงรูปงามจริง เมื่อสาวๆ ทุกคน...ลงความเห็นแบบนั้นมันไม่เกี่ยวกับเธอหรอก เขาจะรูปหล่อหรือไม่ ที่มันเกี่ยวกับเธอก็เพราะ...คนกักตัวเธอไว้ เขาบอก...เธอแ