Share

บทที่ 2

Author: แอนนา สมิธ
วิกกี้อ้างว่าเพนต์เฮาส์ของเธอต้องได้รับการปรับปรุงใหม่หลังจากที่เธอกลับมา และนั่นคือเหตุผลที่เธอย้ายเข้ามาอยู่ในห้องนอนสำหรับแขกของบ้านเรา... แน่นอนว่าแค่ชั่วคราวเท่านั้น

เจมส์อนุมัติเรื่องนี้ก่อนที่ฉันจะทันคัดค้าน "ตระกูลรอสซี่เป็นหุ้นธุรกิจกันกับเรามานานหลายทศวรรษ" เขาพูด ราวกับว่านั่นเป็นคำอธิบายสำหรับทุกสิ่ง

และในตอนนี้วิกกี้ทำตัวกรีดกรายไปทั่วบ้านราวกับที่นี่เป็นบ้านเธอ เอนกายริมสระในชุดบิกินี่แบรนด์เนม จัดงานเลี้ยงของเธอในห้องเก็บไวน์ของเรา และหาเหตุผลมาขัดจังหวะทุกครั้งที่ฉันกับเจมส์อยู่ด้วยกันตามลำพัง

คืนนี้ฉันเจอพวกเขาสองคนในห้องทำงาน กำลังก้มหน้าดูเอกสารทางกฎหมายบางอย่าง นิ้วเรียวยาวของวิกกี้ไล้ไปตามบรรทัดบนหน้ากระดาษ อ้อยอิ่งอยู่ใกล้กับมือเจมส์จนเกินงาม

"โซเฟีย!" เธอยิ้มเมื่อสังเกตเห็นฉัน "เรากำลังวางแผนทำห้องโฮมเธียเตอร์ใหม่ของฉันอยู่พอดี เธอน่าจะมาช่วยกันนะ"

"ฉันต้องตรวจรายงานผลการทดลองน่ะ" ฉันตอบพลางกระชับชุดนอนของตัวเองให้แน่น ตอนนี้เราหย่ากันแล้ว ไม่ว่าเจมส์จะทำอะไร จะอยู่กับใคร มันก็ไม่ใช่เรื่องของฉัน

เสียงหัวเราะของวิกกี้ดังกังวานราวกับเสียงแก้วแตก "หมกมุ่นกับหนังสือตลอดเลย! ตอนเด็กเจมส์เคยทำการบ้านคณิตศาสตร์ให้ฉันอยู่บ่อย ๆ คุณเคยติวให้ฉันเองเลยนี่ ใช่ไหมเจมส์? ที่ฉันเก่งคณิตศาสตร์ได้ก็เพราะคุณแท้ ๆ"

เจมส์หัวเราะเบา ๆ "คณิตศาสตร์ง่ายกว่าการฟอกเงินจากคาสิโนเยอะ" สายตาเขาตวัดมาทางฉันชั่วครู่ เหมือนกำลังประเมินปฏิกิริยา

ฉันยังคงเผยสีหน้านิ่งเฉยอย่างระมัดระวังและก้มลงมองปลายเท้าตัวเอง ช่างน่าประทับใจเสียจริง ความผูกพันในวัยเยาว์ของพวกเขายังคงแข็งแกร่งแม้เวลาจะผ่านไปนานหลายปี ส่วนฉันคงได้แต่เฝ้านับวันที่จะได้หลุดพ้นจากงานรวมญาติอันแสนชื่นมื่นนี้เสียที

เวลาเที่ยงคืน ฉันกำลังตรวจสอบข้อมูลในห้องปฏิบัติการตอนที่เจมส์เดินเข้ามาในห้องนอน กลิ่นวิสกี้และกลิ่นน้ำหอมหวานเลี่ยนของวิกกี้ติดอยู่บนเสื้อเขา ขณะที่เขานั่งลงข้างฉันบนเตียง

"ยังทำงานอยู่เหรอ?" ปลายนิ้วเขาไล้ผ่านหัวไหล่ฉัน

ร่างกายฉันแข็งทื่อโดยสัญชาตญาณ แต่เมื่อฝ่ามือเขาเลื่อนลงมาตามแนวกระดูกสันหลัง ฉันกลับแอ่นกายตอบรับสัมผัสของเขาราวกับคนอดอยากที่ได้รับเศษขนมปัง

น่าสมเพชสิ้นดี สมองส่วนหนึ่งของฉันที่ยังขับเคลื่อนด้วยเหตุผลร่ำร้อง ทว่าความเหงาตลอดสี่ปีได้กัดกร่อนจนเกิดเป็นช่องว่างอันกลวงโบ๋อยู่ข้างใน ซึ่งมีเพียงเจมส์เท่านั้นที่สามารถเติมเต็มได้ชั่วคราว... แม้ว่าเขาจะไม่มีวันอยู่กับฉัน

ริมฝีปากเขาประทับลงบนลำคอ ขณะที่เขาปลดกระดุมชุดนอนของฉัน ฉันหลับตาลงและปล่อยให้ตัวเองลืมเลือนทุกสิ่ง...

จนกระทั่งภายในท้องฉันเกิดปั่นป่วนขึ้นมาอย่างรุนแรง

"โซเฟีย?" เจมส์ชะงักค้าง ขณะที่ฉันยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง

ความรู้สึกคลื่นไส้หายไปเร็วพอ ๆ กับที่มันเกิดขึ้น "คง... กินอะไรแปลก ๆ ที่แล็บมาน่ะวันนี้" ฉันตอบเสียงอ่อน ยาคุมกำเนิดที่ฉันกินอย่างเคร่งครัดทำให้เกิดการตั้งครรภ์ไม่ได้ แต่ท้องฉันดูเหมือนจะต่อต้านมันเมื่อนึกภาพวิกกี้ที่นอนหลับอยู่ชั้นล่าง ขณะที่เจมส์กำลังสัมผัสตัวฉัน

ทันใดนั้น ก็มีเสียงบางอย่างแตกดังมาจากชั้นล่าง

"เจมส์คะ?" เสียงของวิกกี้ลอยขึ้นมาตามบันได สั่นเทา "ฉันได้ยินเสียงแก้วแตก... ฉันคิดว่ามีคนอยู่ในบ้านเรา"

ฉันรู้สึกได้ว่าร่างกายของเจมส์เครียดเกร็งขึ้น เขาต้องไปรับมือแล้ว

เขาลุกจากเตียงก่อนที่ฉันจะทันได้พูดอะไร เขาคว้าปืนพกจากโต๊ะข้างเตียง "อยู่นี่นะ" เขาสั่ง ขณะเดินไปถึงประตูแล้ว

ผลสุดท้ายปรากฏว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพียงแค่แม่บ้านทำจานหล่นเท่านั้น แต่เมื่อเจมส์กลับมาในอีกหลายชั่วโมงต่อมา เขาก็เดินตรงเข้าไปในห้องน้ำโดยไม่พูดสักคำ ส่วนฉันก็แกล้งทำเป็นหลับ

เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันแทบสำลักกาแฟเมื่อเห็นเจมส์กำลังเปิดดูใบสมัครเข้าสถาบันวิจัยของฉัน ฉบับที่ฉันเผลอวางทิ้งไว้บนเคาน์เตอร์ครัวอย่างโง่เขลา ช่องท้องฉันพลันบีบเกร็งขึ้นมาทันที

"วิศวกรรมชีวการแพทย์?" เขาถือใบสมัครของสถาบันในสวิตเซอร์แลนด์ขึ้นมา คิ้วของเขาเลิกขึ้น "เธอจัดการเรื่องโครงการต่างประเทศนี่ตั้งแต่เมื่อไร?"

ฉันทำได้เพียงยักไหล่ "เพื่อนร่วมชั้นฝากให้หยิบแบบฟอร์มให้เขาน่ะ" นิ้วมือฉันจิกเข้าหากันให้พ้นจากสายตา ให้พ้นจากความคิดแต่ก็ไม่วายสังเกตเห็นปลายนิ้วก้อยของตัวเองที่สั่นระริกอยู่แวบหนึ่ง ให้ตายสิ

เจมส์พลิกหน้ากระดาษ กวาดสายตาอ่านรายละเอียด "ซูริก เธอเกลียดหิมะไม่ใช่เหรอ"

แน่นอนว่าเขาจำไม่ได้ เมื่อสองปีก่อน ฉันเป็นคนลากเขาไปที่กระท่อมในเวอร์มอนต์เพียงเพื่อจะได้ดูเกล็ดหิมะโปรยปรายแต่เขากลับใช้เวลาทั้งหมดไปกับการคุยโทรศัพท์กับทนายความของเขา

ฉันไม่ได้ตอบโต้ แค่มองเขาด้วยสายตาเย็นชา

เขาวางแก้วกาแฟลง ดวงตาสีเข้มจับจ้องมาที่ฉันด้วยความจริงจังจนน่าอึดอัด "เธอไม่จำเป็นต้องมีใบปริญญาอีก พรุ่งนี้ฉันสามารถแต่งตั้งให้เธอเป็นหัวหน้านักวิจัยที่สถาบันการแพทย์มอเร็ตติได้ทันที"

นั่นแหละคือปัญหา ทุกความสำเร็จที่ฉันมี ทุกงานวิจัย ทุกทุนการศึกษา ล้วนถูกบดบังด้วยเงาของนามสกุลมอเร็ตติ ฉันอ้าปากเพื่อโต้กลับ แต่เสียงหัวเราะของวิกกี้ก็ดังตัดผ่านความตึงเครียดขึ้นมา

"อรุณสวัสดิ์จ้ะ ที่รักทั้งสอง!" เธอเดินกรีดกรายเข้ามา ชายเสื้อคลุมผ้าไหมของเธอพลิ้วไหวขณะทิ้งตัวลงนั่งบนที่เท้าแขนของเก้าอี้เจมส์ "เจมส์คะ พวกทนายความต้องการให้เราตรวจสอบสัญญาคาสิโนฉบับใหม่ก่อนเที่ยงนี้นะคะ" ปลายนิ้วเรียวของเธอปัดผ่านไหล่เจมส์อย่างคุ้นเคย

เจมส์ลุกขึ้นยืนโดยไม่เหลือบมองใบสมัครของฉันอีก "ไปคุยกันที่ห้องทำงานเถอะ"

ขณะที่ทั้งสองเดินหายลับไปตามโถงทางเดิน ฉันก็กระชากใบสมัครกลับคืนมา มือฉันนิ่งค้างเมื่อกรอกมาถึงช่องสถานภาพการสมรส

โสด
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คำหย่าหลังม่านน้ำตา   บทที่ 11

    เจมส์ยืนนิ่งราวกับต้องมนตร์สะกด นี่คือโซเฟีย มอเร็ตติ นักวิจัย ผู้รอดชีวิต... ผู้เปี่ยมไปด้วยแรงปรารถนา ความสามารถ และความเป็นอิสระอย่างแรงกล้า ไม่ใช่ภรรยาผู้เงียบขรึมและว่านอนสอนง่าย ผู้ซึ่งเขาได้ผลักไสให้เป็นเพียงฉากหลังในโลกอันซับซ้อนและรุนแรงของเขา นี่คือผู้หญิงที่เขาไม่เคยคิดจะทำความเข้าใจความรู้สึกของเธอ ผู้ซึ่งเขาเคยมองข้ามความทะเยอทะยานของเธอ และผู้ซึ่งเขาได้ละเลยแก่นแท้ของตัวตนเธอมาโดยตลอด เขาไม่เคยเข้าใจเธอเลย ความจริงที่เพิ่งตระหนักได้นั้นถาโถมเข้าใส่เขารุนแรงไม่ต่างจากหิมะถล่มที่พัดพาเขามาที่นี่ เขาแต่งงานพร้อมกับข้อตกลงที่สะดวกสบาย กับเงาอันงดงาม และเขาเพิ่งจะได้เห็นผู้หญิงผู้ปราดเปรื่องและทรหดอดทน คนที่เขาปล่อยให้หลุดลอยไปจากเงื้อมมือโดยไม่มีวันหวนกลับ ก็ในตอนที่เธอกำลังเดินจากเขาและโลกของเขาไปอย่างเด็ดเดี่ยว ความเจ็บปวดรวดร้าวจากความตระหนักรู้นั้นช่างลึกซึ้ง เป็นบาดแผลที่บาดลึกยิ่งกว่าอาการบาดเจ็บทางกายใด ๆ ขณะที่โซเฟียหายลับเข้าไปในเต็นท์เก็บอุปกรณ์ขนาดใหญ่โดยไม่แม้แต่จะเหลียวหลังมอง เศษเสี้ยวสุดท้ายของเกราะกำบังเก่าแก่ของเขาก็แหลกสลายเป็นผุยผง เกราะป้องกันที่สร้า

  • คำหย่าหลังม่านน้ำตา   บทที่ 10

    ถ้อยคำที่เจมส์ มอเร็ตติซักซ้อมมาตลอดการเดินทางแสนบ้าคลั่งบนเฮลิคอปเตอร์ ตลอดการค้นหาอย่างสิ้นหวัง และตลอดการรอคอยอันแสนสาหัส พลันละลายหายไปราวกับเกล็ดหิมะที่โปรยลงบนพื้นผิวร้อนฉ่า เมื่อได้มายืนอยู่ต่อหน้าโซเฟียท่ามกลางความโกลาหลหลังเหตุหิมะถล่ม สิ่งเดียวที่เล็ดลอดออกมาได้คือคำขอโทษที่เปลือยเปล่าและตะกุกตะกัก "โซเฟีย" เขาเริ่มเอ่ย น้ำเสียงแหบแห้งจากความหนาวเย็นและความอ่อนล้า "เรื่องที่เธอต้องเผชิญ... ฉันรู้แล้ว เรื่องท้อง... ฉันรู้ก็แล้ว" "พอสักที!" โซเฟียตัดบท น้ำเสียงเธอเฉียบคมราวน้ำแข็งขั้วโลก รอยยิ้มเย้ยหยันอันเปราะบางปรากฏขึ้นบนริมฝีปากเธอ "คุณลงทุนบินข้ามโลกมาครึ่งใบเลยเหรอคะ คุณเจมส์ เพียงเพื่อจะมาเยาะเย้ยความโง่เขลาในอดีตของฉันเหรอ?" ถ้อยคำของเธอซึ่งถูกลับคมมานานหลายเดือนด้วยความเจ็บปวดและความเด็ดเดี่ยวอันเงียบงัน เชือดเฉือนเขาด้วยความแม่นยำดุจใบมีดศัลยแพทย์ เขาสะดุ้งโหยง คำกล่าวนั้นกระแทกกระทั้นไปถึงกระดูก "ไม่! พระเจ้า ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ฉัน... ฉันรู้ว่าฉันทำร้ายเธอมามากแค่ไหน ฉันผิดเอง ผิดอย่างมหันต์" แววตาของเขาซึ่งแดงก่ำจากการไม่ได้นอนมาสามสิบชั่วโมง อ้อนวอนเธอ "

  • คำหย่าหลังม่านน้ำตา   บทที่ 9

    หิมะที่ถล่มลงมาได้เปลี่ยนช่องเขาให้กลายเป็นสุสานแห่งหิมะและเศษเหล็กที่บิดเบี้ยว เจมส์ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทีมกู้ภัยมืออาชีพ ฝ่ามือเขาพุพองอยู่ใต้ถุงมือขณะที่เขาจ้วงสับลงบนน้ำแข็ง โลกของเขาตีบแคบลงเหลือเพียงจังหวะของขวานที่ยกขึ้น จามลง ขุดค้น... ทุกการเคลื่อนไหวคือการไถ่บาป ภาพความทรงจำดาหน้าเข้ามาจู่โจมเขาระหว่างการเหวี่ยงขวาน เสียงหัวเราะของโซเฟียดังอู้อี้อยู่ใต้หิมะที่โปรยปรายระหว่างทางไปเวอร์มอนต์ ท่วงท่าที่เธอเคยวาดสมการลงบนฝ่ามือเขาเพื่ออธิบายงานวิจัย และหยาดน้ำตาอันเงียบงันของเธอที่โรงพยาบาลในวันที่เขาอยู่กับวิกกี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยคนหนึ่งตะโกนใส่เขาเป็นภาษาเยอรมัน ชี้ไปที่ถุงมือที่เปื้อนเลือดของเขา เจมส์เมินเฉย ความเจ็บปวดนั้นเทียบไม่ได้เลยกับความรู้สึกที่บีบรัดรอบปอดเขา ความหวาดกลัวที่ว่าเขาได้ฝังเธอทั้งเป็นมานานก่อนที่ภูเขาลูกนี้จะทำ แสงสนธยาหลั่งรินสู่รัตติกาล ภาพเบื้องหน้าของเจมส์พร่าเลือนด้วยความอ่อนล้า ปลายนิ้วของเขาชาหนึบอยู่ใต้ผ้าพันแผลที่หน่วยแพทย์บังคับพันให้ เขาแทบไม่รับรู้ถึงความโกลาหลใกล้ ๆ จนกระทั่งเสียงหนึ่งดังแทรกผ่านม่านแห่งความสับสนวิปลาสของเขา "คัด

  • คำหย่าหลังม่านน้ำตา   บทที่ 8

    ร่างทั้งร่างของเจมส์ มอเร็ตติแข็งทื่อไปกับถ้อยคำของนักศึกษาสาว "เสียลูก?" คำพูดนั้นมีรสชาติราวกับเศษแก้วอยู่ในปากเขา นักศึกษาสาวผมสีน้ำเงินจ้องมองเขาอย่างเกรี้ยวกราด มือของเธอกำตำราเรียนไว้แน่น "มีไอ้สารเลวคนหนึ่งทำเธอท้องแล้วก็หายหัวไป ไม่แม้แต่จะโผล่หน้ามาตอนที่เธอหมดสติ" แต่ละพยางค์ดังสะท้อนก้องราวกับเสียงปืนในลานกว้างอันเงียบสงบ โซเฟียกำลังตั้งท้องลูกของเขา ภาพในโรงพยาบาลฉายวาบขึ้นมาในหัว... ใบหน้าซีดเซียวของโซเฟียในลิฟต์ กระดาษที่ถูกขยำไว้ในกำมือเธอ ส่วนเขาน่ะเหรอ? กำลังควงวิกกี้ไปตามนัดตรวจครรภ์ของเธออย่างกับสุภาพบุรุษผู้ประเสริฐ "ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?" ถ้อยคำถูกเค้นผ่านลำคอที่แห้งผากของเขา ริมฝีปากของนักศึกษาสาวเม้มเป็นเส้นตรง "ไปแล้วค่ะ เดินทางไปสวิตเซอร์แลนด์ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว" สวิตเซอร์แลนด์ ใบสมัครที่เขาเคยเยาะเย้ย หิมะที่เขาเคยอ้างว่าเธอจะต้องเกลียด ทุกถ้อยคำดูแคลนในวันนั้น บัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นคมมีดที่บิดคว้านอยู่ในท้องเขา เที่ยงคืนนั้น เจมส์หมกตัวอยู่ในห้องทำงานบนเพนต์เฮาส์ของเขา สั่งการเสียงกร้าวผ่านโทรศัพท์เพื่อทำลายทุกอุปสรรคและขั้นตอนอันยุ่งยาก เมื่

  • คำหย่าหลังม่านน้ำตา   บทที่ 7

    ปลายนิ้วของเจมส์ มอเร็ตติสั่นระริก ขณะไล้ไปบนตราประทับดุนนูนของเอกสารการหย่า ฝ่ามือของวิกกี้ทาบลงบนบ่าเขา "เจมส์คะ ก็แค่เรื่องงี่เง่าของเด็กมหาลัย เดี๋ยวเธอก็คลานกลับมา..." "ผมมีภรรยาแล้ว" ถ้อยคำคำรามลอดลำคอของเขาราวกับเสียงปืน เขาผลักเธอออกไปอย่างแรงจนร่างเธอกระแทกแจกันคริสตัลแตกกระจาย เศษแก้วกระจายเกลื่อนไปบนพื้นหินอ่อน ไม่ต่างจากเศษเสี้ยวชีวิตแต่งงานของเขาที่แหลกสลาย อากาศเย็นเฉียบปะทะเข้าที่ใบหน้าตอนที่เขาพรวดพราดออกไปข้างนอก รถเมอร์เซเดสของเขาคำรามลั่น พวงมาลัยสั่นสะเทือนอยู่ภายใต้มือที่บีบแน่นจนข้อนิ้วขาวซีด ประตูรั้วมหาวิทยาลัยตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า เจมส์สาวเท้าอย่างรวดเร็วผ่านกลุ่มนักศึกษาที่กำลังหัวเราะร่า กระเป๋าเป้ของพวกเขาหนักอึ้งไปด้วยตำราเรียนและอนาคต เขาสะท้านในอกเมื่อตระหนักได้อย่างน่าชังว่าตนเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าห้องทดลองของโซเฟียอยู่ห้องไหน ไม่รู้จักชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาของเธอ ไม่เคยเอ่ยถามถึงงานวิจัยของเธอเลยสักครั้งเดียว "ห้องแล็บชีววิทยาเหรอครับ?" เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมองชุดสูทยับยู่ยี่ของเขาด้วยสายตาดูแคลน "พวกนักศึกษาปริญญาโทเก็บของย้ายออกไปหมดตั

  • คำหย่าหลังม่านน้ำตา   บทที่ 6

    รถเมอร์เซเดสหักหลบอย่างรุนแรงขณะที่เจมส์เกือบพุ่งชนเข้ากับรถจักรยานยนต์ เสียงตะโกนด่าทออย่างเกรี้ยวกราดของคนขับทะลุผ่านหน้าต่างที่ปิดสนิทเข้ามา แต่เจมส์ไม่แม้แต่จะสะดุ้ง ข้อนิ้วเขาขาวซีดอยู่บนพวงมาลัย หนังที่หุ้มพวงมาลัยลั่นเอี๊ยดภายใต้แรงบีบของเขา "เจมส์!" มือที่ตกแต่งเล็บอย่างสวยงามของวิกกี้ทาบลงบนอก สร้อยข้อมือเพชรของเธอกระทบกับแผงคอนโซลหน้ารถ "ช่วงนี้คุณเป็นอะไรไปคะ? คุณลืมเรื่องนัดดูหนังของเรา แล้วนี่ยังจะพยายามฆ่าเราสองคนอีกเหรอ?" เขาไม่ได้มองเธอ "ผมเหนื่อย คุณไปกับเพื่อน ๆ คุณเถอะ" ถ้อยคำนั้นไร้ความรู้สึกและเอ่ยออกมาโดยอัตโนมัติ จิตใจเขาล่องลอยไปที่อื่น... โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อความสุดท้ายที่โซเฟียส่งหาเขาเมื่อเกือบหนึ่งเดือนก่อน เป็นข้อความเรียบง่ายว่า "ที่แล็บเลิกดึก ไม่ต้องรอนะ" หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรอีกเลย ไม่มีการโทร ไม่มีการส่งข้อความ วิกกี้พ่นลมหายใจอย่างขัดใจ พลางเติมลิปสติกขณะส่องกระจกแต่งหน้า "คุณเป็นแบบนี้ตั้งแต่ที่โซเฟียหมกตัวอยู่แล็บล้ำค่าของเธอนั่นแหละค่ะ เอาจริง ๆ นะ เธอก็แค่งอนที่คุณใช้เวลาอยู่กับฉันมากกว่า" สันกรามของเจมส์ขบเกร็งขึ้น มันไม่สมเหตุสมผลเลย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status