LOGIN
“เค้กครับคุณเคน น่านให้เอามาให้”
จานขนมเค้กที่ถูกแบ่งมาส่วนหนึ่งยื่นมาตรงหน้า ก่อนเจ้าของชื่อจะช้อนตาขึ้นมองเด็กตรงหน้าที่อายุห่างกันเพียงปีเดียว อีกทั้งยังเป็นเพื่อนสนิทของพี่สะใภ้
ใบหน้าหวานเรียบนิ่งจ้องมองกันตาไม่กะพริบ รอให้ลูกชายคนกลางของตระกูล วิรุฬห์โยธิน รับจานเค้กในมือไปเสียที
ทว่านอกจากยอมรับไปแล้วยังเบือนหน้าหนีไม่สนใจกันอีก เฮอะ! ไอ้คนไม่มีมารยาท ทั้งที่อายุตั้งยี่สิบเจ็ดแล้ว แต่ยังทำตัวแบบนี้อยู่อีก
ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันจนถึงตอนนี้ก็หกปีแล้วแม้จะไม่ได้เจอกันบ่อยนัก แต่วันแรกเป็นยังไงตอนนี้ก็ยังเป็นแบบนั้น ไร้มารยาทเสมอต้นเสมอปลายจริง ๆ
ถ้าไม่ใช่เพราะน่านน้ำเขาไม่มีทางมายืนอยู่ตรงหน้าผู้ชายคนนี้แน่นอน หน้าตาก็ดีแต่กลับทำตัวผิดพี่ผิดน้อง นิสัยต่างกันราวฟ้ากับเหว ที่เห็นก็มีแต่คนกลางที่ทำตัวไร้มารยาทกับคนอื่น เรียกได้ว่าไม่ให้ความสนใจกับใครเลย
ทั้งที่วันนี้เป็นวันเกิดมีคุณหลานชายตัวเองแท้ ๆ ทว่ากลับมานั่งอยู่คนเดียวหลังจากเป่าเค้กเสร็จ ไม่ไปร่วมวงกับพวกพี่ ๆ น้อง ๆ ใช่ว่าจะโกรธเกลียดอะไรกัน พี่น้องบ้านนี้สนิทกันมากกว่าที่คนนอกเห็นเสียอีก แต่เพราะนิสัยของเจ้าตัวเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ซึ่งเขาก็พอจะรู้อยู่บ้างจากการบอกเล่าของเพื่อนสนิท
พลับจีนวางจานเค้กลงบนโต๊ะ ก่อนจะเดินกลับไปทางเดิม หากยืนอยู่ตรงนี้นานอีกแค่วินาทีเดียวเขาได้ประสาทเสียกับท่าทางของอีกฝ่ายเป็นแน่
“เป็นอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น โดนเฮียเคนว่าอะไรมาหรือเปล่า”
“เปล่าหรอก ไม่มีอะไร” ครั้นเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องใส่ใจจึงไม่ได้บอกให้น่านน้ำรู้
“เราน่าจะเอาไปให้เอง ไม่น่าให้พลับเอาไปให้เลย”
ถึงพลับจีนไม่ได้พูดว่าเจออะไรมา แต่น่านน้ำก็พอจะเดาออก เพราะจากนิสัยของเฮียเคนแล้วคงจะทำให้พลับจีนหัวเสียได้ง่าย ๆ
“ไม่เป็นไรหรอก ไม่มีอะไรจริง ๆ” พลับจีนยกยิ้มบางให้เพื่อนสนิท “ไปเล่นกับน้องคุณดีกว่า”
พลับจีนเดินมานั่งเล่นกับหลานชายวัยสองขวบที่กำลังหัวเราะอย่างมีความสุขครั้นถูกคนเป็นน้าอย่างคีนชวนเล่น ทำให้พลับจีนอดยิ้มตามไม่ได้
นึกย้อนไปวัยเด็กของตัวเอง พลับจีนจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าได้ยิ้มกว้าง ๆ ได้หัวเราะเสียงดัง ๆ แบบนี้บ้างหรือเปล่า เพราะความทรงจำที่ไม่เคยจางหายไปมีแต่ความโศกเศร้าเสียใจ กว่าจะมีวันนี้ได้เขาผ่านมันมาอย่างยากสาหัสอยู่เหมือนกัน
ครั้นได้เห็นครอบครัวของเพื่อนสนิทที่อยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา แม้ว่าน่านน้ำจะสูญเสียพ่อกับแม่ไปตั้งแต่อายุยังน้อย แต่นับว่าเป็นโชคดีที่เจ้าตัวได้เจอครอบครัวของคินทร์
ครั้งหนึ่งเขาเองก็เคยหวังอยู่ลึก ๆ ว่าจะได้มีครอบครัวอย่างน่านน้ำบ้าง แค่ได้ตื่นมาเจอหน้าใครสักคนก็ยังดี แต่วาสนาของคนเราไม่เท่ากัน
ซึ่งเขาไม่เคยมี...
เวลาล่วงเลยมาเกือบสี่ทุ่ม เจ้าของวันเกิดอย่างมีคุณสลบเหมือดไปเป็นที่เรียบร้อย หลังจากวิ่งเล่นกับพวกสาวใช้และคีนจนเหนื่อย
ถึงเวลาที่ทุกคนต้องแยกย้ายกันไปพักผ่อน เช่นเดียวกับคุณรังสรรค์และคุณหญิงกนกอรที่พากันเข้าห้องนอนกันไปก่อนแล้ว
“ถ้างั้นผมไปก่อนนะเฮีย เฮียไปก่อนนะน่าน”
“เดี๋ยวครับ นี่ก็ดึกแล้วน่านฝากเฮียไปส่งพลับหน่อยได้ไหม” น่านน้ำเรียกน้องชายสามีเอาไว้ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินออกไป
“ไม่เป็นไรหรอกน่าน เดี๋ยวเรากลับเอง” พลับจีนรีบปฏิเสธด้วยท่าทางละล่ำละลักรู้สึกเกรงใจหากจะรบกวนคนอื่น อีกอย่างคงจะสร้างความอึดอัดไม่น้อยหากต้องนั่งรถไปด้วยกันสองคน
“ไม่ได้ ดึกแล้วจะกลับเองได้ยังไง เราเป็นห่วง จะให้นอนด้วยกันที่นี่ก็ไม่ยอมนอน ถ้าไม่ไปกับเฮียเคนเราจะไปส่งเอง” เขาไม่อยากปล่อยให้พลับจีนกลับเองเพียงลพพัง เพราะนี่ก็ดึกมากแล้วหากเกิดอะไรขึ้นมาจะทำยังไง ไม่ได้อยากคิดในแง่ลบแต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ไม่ใช่หรือไง
“ไม่ต้อง เดี๋ยวเฮียไปส่งให้เอง”
“แต่..”
“ไปเถอะพลับ ให้เฮียเคนไปส่ง” ต่อให้ดูออกว่าพลับจีนไม่สบายใจที่จะไปกับเฮียเคน แต่น่านน้ำก็เป็นห่วงเพื่อนมากกว่าจะปล่อยให้กลับคนเดียว
ชายหนุ่มเหลือบมองคนอายุน้อยกว่าด้วยหางตา ก่อนจะเดินนำออกไป
“ตามเฮียเคนไปสิ ถึงห้องแล้วโทรมาบอกเราด้วยนะ”
“อือ งั้นเราไปก่อนนะ”
น่านน้ำพยักหน้ารับพลางโบกมือลาเพื่อน มองอีกคนเดินหายลับไปจากสายตาถึงจะเดินกลับเข้ามาในบ้าน
หวังว่าเฮียเคนจะไม่ทำตัวให้เพื่อนเขาอึดอัดมากไปกว่านี้
บรรยากาศภายในรถค่อนข้างเงียบสงัด หากให้เทียบกับป่าช้าที่ที่เขาอยู่ตอนนี้น่ากลัวกว่าเป็นไหน ๆ
หลายครั้งที่พลับจีนแอบเหลือบตามองเสี้ยวใบหน้าคนขับ อยากรู้จริง ๆ ว่าคนที่เอาแต่ทำหน้านิ่ง เรียบตึงแบบนี้ถ้าได้ลองยิ้มออกมาจะดูดีเพิ่มขึ้นกว่าที่เป็นอยู่หรือเปล่า
เคน คุณากร วิรุฬห์โยธิน ลูกชายคนกลางของนักธุรกิจชื่อดังอย่างคุณรังสรรค์ เป็นเพียงคนเดียวในบรรดาพี่น้องที่มีประวัติ ข้อมูลตามโลกอินเทอร์เน็ตน้อยที่สุด หาอ่านได้ยากมาก ส่วนใหญ่ที่เอามาเขียนตามกระทู้กันก็ไม่รู้จริงมากน้อยแค่ไหน พลับจีนเองก็เคยหาอ่านอยู่ครั้งหนึ่งด้วยความอยากรู้
เขาเองก็ไม่ได้รู้จักผู้ชายคนนี้มากมายนัก นิสัยใจคอก็รู้แบบเผิน ๆ แต่เท่าที่สัมผัสได้ตลอดหกปีที่ผ่านมาจากการเจอกันบ้างเป็นครั้งคราว เคนค่อนข้างเป็นคนนิ่งเงียบ สันโดษต่างจากพี่ชายและน้องชาย และดูท่าแล้วคงจะเป็นคนหัวรั้นพอสมควรเพราะแทบไม่สนใจคำพูดของใครเลย เรียกได้ว่าเชื่อตัวเองมากกว่าคนอื่น
“มีอะไร”
เสียงทุ้มเข้มเอ่ยถามขึ้นโดยที่ไม่ได้หันหน้ามามองกัน คนถูกทักสะดุ้งตกใจเล็กน้อยที่ถูกจับได้ ทำเสียงน่ากลัวเสียจนพูดแทบไม่ออก
“ไม่มีนี่ครับ”
“ไม่มีแล้วมองฉันทำไม”
“มั่วแล้วครับ พลับไม่ได้มองคุณเคนสักหน่อย”
หากเคนเป็นคนหัวรั้น พลับจีนก็คงรั้นมากกว่า เรียกได้ว่าเป็นคนไม่ยอมใครคนหนึ่งเหมือนกัน อย่างตอนนี้ที่ต่อให้ถูกจับได้ก็ยังปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่ได้แสดงท่าทีหรือน้ำเสียงที่เกรงกลัวอีกฝ่ายออกไปแม้แต่น้อย
ทุกอย่างกลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง เคนไม่ได้ตอบโต้หรือคิดที่จะต่อล้อต่อเถียงอะไรกลับไป แม้ว่าจะรู้อยู่แล้วว่าเด็กคนนี้โกหก ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้อยากใส่ใจเท่าไรนัก
ไฟแดงตรงสี่แยกไม่ถึงหนึ่งนาทีแต่กลับรู้สึกเหมือนยาวนานเสียเหลือเกิน อึดอัด.. นั้นคือสิ่งที่พลับจีนรู้สึกมากที่สุดในตอนนี้
ปกติเป็นคนเข้ากับคนอื่นได้ยากอยู่แล้ว พอเป็นผู้ชายคนนี้ด้วยแล้วยิ่งรู้สึกว่าเราไม่มีทางเข้ากันได้แน่นอนไม่ว่าทำยังไงก็ตาม เคนเองก็คงรู้สึกแบบเดียวกัน
“ส่งพลับหน้าป้ายรถเมล์ก็ได้ครับ เดี๋ยวพลับเดินต่อไปเอง”
“อยู่ตรงไหน”
“ครับ? ป้ายรถเมล์ตรง---”
“ห้องพักที่ว่า อยู่ตรงไหน?”
คนพูดหันมองคนข้าง ๆ เอ่ยเสียงเข้ม คิ้วหนากระตุกเข้าหากันเล็กน้อย แสดงถึงความหงุดหงิดบางอย่างผ่านสีหน้าและแววตาจนพลับจีนรับรู้ได้
“พ้นป้ายรถเมล์ไปนิดหนึ่งจะมีซอยอยู่ครับ เป็นห้องแถว”
เคนไม่ได้พูดอะไรต่อเพียงแค่ขับรถไปตามที่พลับจีนว่า และก็เจอกับห้องแถวที่ว่าจริง ๆ
ที่นี่น่ะหรือที่ที่เด็กคนนี้อยู่? แค่เห็นสภาพแวดล้อมภายนอกก็ไม่น่าอยู่แล้ว ไหนจะยังมีพวกขี้เหล้าเมายาที่นั่งตั้งวงอยู่ไม่ไกล
อยู่ไปได้ยังไง..
“ขอบคุณที่มาส่งครับ”
พลับจีนเอ่ยขอบคุณคนขับ แม้จะรู้ดีว่าเจ้าตัวไม่ได้เต็มใจที่จะมาส่งแต่เป็นเพราะน่านน้ำขอเอาไว้ ถึงอย่างนั้นก็ต้องขอบคุณตามมารยาทอยู่ดี
ทันทีที่พลับจีนลงมาจากรถ รถเบนซ์คันสีดำก็ขับออกไปจากที่นี่แทบจะทันที ทำเอาคนที่ยืนมองอยู่ถึงกับกลอกตามมองบน พลางถอนหายใจ ก่อนจะรีบเดินกลับห้องตัวเอง
เคนกลับมาที่ผับของตัวเอง คืนนี้ตั้งใจจะนอนที่นี่เพราะขี้เกียจขับกลับคอนโดฯ ซึ่งอยู่ไกลออกไปอีกหลายกิโลเมตร
“คุณเคนเรียกซานต้ามีอะไรหรือเปล่าคะ?” ผู้จัดการร้านเอ่ยถามขึ้น ครั้นจู่ ๆ ก็ถูกโทรตามให้ขึ้นมาที่ห้องทำงาน
“ช่วยเอารายชื่อของพนักงานในร้านทุกคนมาให้ผมที ถ้ามีรูปด้วยก็ดีครับ”
“อ๋อ.. ได้ค่ะ เดี๋ยวต้าจะไปเอามาให้ค่ะ”
ร่างสูงทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาหนังราคาแพง ปลดกระดุมเสื้อออกคล้ายความอึดอัด เอนศีรษะไปด้านหลังพิงกับพนักโซฟา พลางปิดเปลือกตาลง
ตั้งแต่ขับรถออกมาจากห้องแถวนั้นในหัวก็เผลอคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนน่าหงุดหงิด ทั้งที่ปกติเขาไม่ได้สนใจเรื่องของคนอื่นเท่าไรนัก แต่ทว่าครั้งนี้กลับคิดวนอยู่ซ้ำ ๆ ว่าเด็กผู้ชายตัวแค่นั้นอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้นเพียงลำพังได้ยังไง
เพราะเท่าที่รู้มาน่านน้ำเคยเล่าให้ฟังว่าเพื่อนของตนเป็นคนขยัน อีกทั้งยังมีชีวิตที่น่าสงสาร ตัวคนเดียวไม่มีพ่อมีแม่เหมือนตนเอง ต่างกันตรงที่พลับจีนนั้นสู้ชีวิตยิ่งกว่า
ตอนนั้นเคนก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง จึงจำได้แค่ลาง ๆ พอได้มาเห็นด้วยตาตัวเองก็ไม่คิดว่าจะลำบากถึงขนาดหาที่พักให้ดีกว่านั้นไม่ได้
เสียงถอนหายใจดังขึ้นอย่างนึกรำคาญ เขาไม่ควรเก็บเรื่องไร้สาระของเด็กคนนั้นมาคิดแบบนี้ ไม่ว่าจะใช้ชีวิตยังไง อาศัยอยู่ในสถานที่แบบไหน มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับเขาเลยสักนิด
อย่าเก็บมาใส่ใจนักเลย..
“ไม่มีแล้วมองฉันทำไม”
tbc.
คุยกับนักเขียน
หุหุ พอคนปากร้ายน ใจร้าย มาแล้วค่ะ คุณเคนคือที่สุดในบรรดาสามพี่น้อง หมายถึงนิสัย เสียทีสุด ยืนยันโดยพลับจีน ฮ่าๆ
เรื่องนี้มีความดราม่ามากกว่าเรื่องเอียคินทร์ประมาณหนึ่งเลย ซึ่งเข้าทางแตงมากๆ ชอบจริง ๆ ได้เล่นกับใจนักอ่าน แต่ถึงยังไงก็ฝาเอ็นดู เอาใจช่วยน้องพลับของเราเยอะ ๆ นะคะ เรื่องนี้ขอตั้งจนเป็นแม่ของคุณเคนค่ะ จะมาสู้รบกับนักอ่าน
ซียูตอนใหม่ทูมอโร่จ้าาาา
ภายในรถเงียบสนิทไม่มีบทสนทนาใด ๆ เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาสองคน จนกระทั่งรถเลี้ยวมาจอดหน้าร้านขายของชำที่พลับจีนเองก็เคยมาอยู่หลายครั้ง“ลงสิ”พลับจีนหันมองเจ้าของรถด้วยความสงสัย ทว่าไม่ทันได้ถามอะไรอีกฝ่ายก็ลงจากรถไปเสียแล้ว ดวงตากลมกลอกมองบนพลางเป่าลมออกจากปากจนผมหน้าม้าเสียทรงร่างสมส่วนเดินตามหลังคนอายุมากกว่าเข้ามาในร้านขายของชำ หันไปยิ้มทักทายเจ้าของร้านเล็กน้อย“ช่วยเลือกซื้อของที่เด็ก ๆ ชอบหน่อย”“เด็กที่ไหนครับ”“บ้านเด็กกำพร้าที่เธอเคยไป”พลับจีนไม่เข้าใจเคนจริง ๆ ว่าเป็นคนแบบไหนกันแน่ ครั้งก่อนบอกไม่ชอบเด็ก ทว่าครั้งนี้กลับพาเขามาช่วยเลือกซื้อของให้เด็ก ๆ น่ะเหรอแต่ถึงสงสัยยังไงพลับจีนก็ไม่อยากถามอะไรให้มากนัก เดินไปหยิบตะกร้าใบใหญ่มาใบหนึ่ง เลือกซื้อพวกขนมและของใช้ที่คิดว่าจำเป็น จำพวกของเดิมๆ ที่เคยซื้อเหมือนทุกครั้งเวลาไปที่นั่น เคนเดินตามหลังมาเงียบ ๆ ไม่พูดไม่ขัด ไม่ว่าพลับจีนจะเลือกซื้ออะไร แม้ว่าของบางชิ้นจะราคาแพงก็ตาม“แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วนะครับ”“มีเด็กเยอะไม่ใช่หรือไง แค่นี้จะพออะไร”“แต่นี้ก็หลายบาทแล้วนะครับ” คนที่มีงบน้อยอย่างพลับจีนแม้ว่าจะอยากช่วยเหลือคนอื่น แต่
เจ้าของร่างสูงยืนพิงหน้าต่างมองดูคนหมดสภาพที่นอนอยู่บนเตียง หลังจากถูกราดน้ำเรียกสติอยู่พักใหญ่กว่าจะหมดฤทธิ์ถึงได้หลับไป ปล่อยให้เคนจัดการเปลี่ยนผ้าให้ทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่เลยสักนิดความต้องการของคนที่กินยาปลุกเซ็กซ์เข้าไปคือการที่มีความต้องการทางเพศ ซึ่งเคนไม่ได้อยากมีอะไรกับคนที่ขาดสติ วิธีที่พอจะช่วยได้ที่คิดออกก็มีเท่านี้ระหว่างทางกว่าจะมาถึงห้องพักของพลับจีน เจ้าตัวพยายามที่จะปีนป่ายเข้าหาเคนอยู่หลายครั้ง แต่ก็ถือว่าเก่งมากที่พยายามฝืนตัวเองได้ แม้ว่าจะต้องกัดแขนตัวเองจนเลือดซิบก็ตาม“เจอตัวยังครับคุณแซน”[ค่ะคุณเคน เป็นลูกค้าใหม่เพิ่งมาครั้งแรกค่ะ]“ไม่ว่าจะลูกค้าเก่าหรือลูกค้าใหม่ ผมไม่สนใจ กฎของร้านเป็นยังไงคุณแซนรู้ใช่ไหมครับ”[รู้ค่ะ แล้วเรื่องที่พนักงานของเราไปฟาดหัวเขาล่ะครับ]“ผมไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น เพราะพนักงานเราไม่ผิดที่ปกป้องตัวเอง”“ค่ะ เดี๋ยวที่เหลือแซนจะจัดการให้เรียบร้อยค่ะ”“ฝากด้วยครับ”เคนกดวางสายจากผู้จัดการร้าน ทอดมองพลับจีนพลางถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ถึงไม่อยากข้องเกี่ยวด้วยแต่ก็ทำไม่ได้อยู่ดีเพราะยังไงเสียพลับจีนก็ถือว่าเป็นพนักงานในร้านของเขาเห
หลังจากผ่านพ้นความอึดอัดบนโต๊ะอาหารมาได้ กลับต้องมากระอักกระอ่วนต่อในรถ เพราะน่านน้ำเป็นห่วงเขาจนจับยัดใส่รถคุณเคนให้พามาส่งที่บ้าน ประจวบเหมาะกับเวลาช่วงทุ่มครึ่งแบบนี้ท้องถนนเต็มไปด้วยรถ ติดไฟแดงยาวเหยียดกว่าจะได้ขยับเขยื้อนพลับจีนถอนหายใจแล้วถอนหายใจอีก ครั้นจะลงจากรถตอนนี้ก็ทำไม่ได้ ยังดีหน่อยที่ในรถยังมีคีนนั่งมาด้วยอีกคน“เฮียส่งคีนข้างหน้านี้ก็ได้ครับ เพื่อนคีนอยู่แถวนี้คีนจะไปหาเพื่อนก่อน”เวร!!! หรือเขาควรลงตรงนี้ด้วยเลยดีไหมวะ?รถยนต์ขับมาจอดเทียบริมฟุตพาทปล่อยให้เคนได้ลงตามที่ต้องการ พลับจีนกำลังชั่งใจอยู่หลายนาทีก่อนจะพูดออกไปไม่เต็มเสียงเท่าไรนัก“พลับขอลงตรงนี้ด้วย---”“ปิดประตู”พูดไม่ทันจบเจ้าของรถก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน น้ำเสียงเรียบนิ่งแฝงไปด้วยคำสั่งอยู่กลาย ๆ ทำให้พลับจีนต้องกระเถิบมานั่งที่เดิมพร้อมกับปิดประตูคนตัวเล็กหน้างอง้ำขึ้นเล็กน้อย ไม่พอใจที่ตัวเองเชื่อฟังคำสั่งของเคน ทั้งที่ควรทำตามที่ต้องการ ไม่เห็นมีความจำเป็นอะไรต้องนั่งอยู่ต่อเลยสักนิดเจ้าของรถเอื้อมมือไปหยิบของในเก๊ะเก็บของ ก่อนจะโยนมาไว้บนตักพลับจีน คำสั่งถูกเอ่ยออกจากปากเคนอีกครั้ง พลันดวงตากลมสบเข้า
สารนิโคตินถูกสูบเข้าไปเต็มปอดก่อนจะพ่นควันในปากออกมายาวเป็นสายให้มันค่อย ๆ จางหายไปในอากาศทิ้งไว้เพียงกลิ่นเฉพาะตัวที่คนสูบคุ้นเคยเป็นอย่างดีดวงตาคมเรียบนิ่งยากจะคาดเดา เลื่อนสายตาจากทิวทัศน์นอกหน้าต่างมามองคนบนเตียง ร่างกายขาวเนียนบอบบางซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม คงจะเหนื่อยจากกิจกรรมที่ทำด้วยกันเมื่อคืนนี้ถึงได้นอนหลับไม่รู้สึกตัวแม้ว่าตอนนี้จะหกโมงเช้าแล้วก็ตามความจริงวันนี้น่าจะเป็นวันที่อีกฝ่ายต้องไปทำงาน แต่ดูท่าแล้วคงจะไม่ไหว เคนเองก็ไม่อยากปลุก เอาแต่คิดทบทวนเรื่องเมื่อคืน พอทุกอย่างจบลงไปแล้วเขาถึงเพิ่งมานึกได้ว่าไม่ควรทำตั้งแต่แรก หากยับยั้งความต้องการสักนิดก็คงไม่เกิดเหตุการณ์อย่างเมื่อคืนขึ้นเคนไม่รู้ว่าพลับจีนจะยอมรับข้อเสนอหรือเปล่า ไม่รู้ว่าจะยอมง่าย ๆ เหมือนเด็กคนอื่น ๆ ไหม เพราะเขาไม่อยากมีความสัมพันธ์กับใครทั้งนั้น ต่อให้พลับจีนจะเป็นคนที่รู้จักกันมาก่อน และอาจจะผิดใจกันได้ในภายหลัง ซึ่งเขาไมได้สนใจอยู่แล้ว ขอเพียงแค่ไม่มายุ่งวุ่นวายให้เขาต้องปวดหัวภายหลังก็พอบุหรี่ม้วนที่สามถูกโยนทิ้งออกไปหน้าต่าง ร่างสูงโปร่งเดินมาหยิบเสื้อยืดของตัวเองที่กองอยู่บนโซฟามาสวมใส่ กำลังชั่
“เจ็บไหม” คนตัวเล็กเอ่ยถามเสียงเบา“ฉันจะทำเบา ๆ”คำถามนี้ของพลับจีนพอจะเป็นคำตอบได้หรือเปล่าว่าไม่ปฏิเสธ ไม่รู้เป็นเพราะบรรยากาศมันพาไปหรือว่าความต้องการอยากรู้อยากลองของพลับจีนเองที่ทำให้ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้ารับเกิดมายี่สิบหกปีพลับจีนไม่เคยผ่านมือชายใด หรือนัวเนียกับสาวคนไหนมาก่อน นี่จะเป็นประสบการณ์ครั้งแรกของเขา และไม่แน่ว่ามันอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย เอาเถอะมาถึงขนาดนี้แล้ว ลองสักหน่อยก็คงไม่เป็นไร ให้ได้รู้ว่ามันเป็นยังไง เพราะยังไงหลังผ่านคืนนี้ไปเคนก็คงทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเขาก็จะทำแบบนั้นเหมือนกัน หลังจากนี้เราคงไม่มีเรื่องบังเอิญเจอกันบ่อยเหมือนช่วงนี้“แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าฉันไม่จูบ”“ครับ”“แน่ใจใช่ไหมว่าให้ฉันทำจริง ๆ ปฏิเสธตอนนี้ก็ยังไม่สาย เพราะถ้าเริ่มแล้วฉันจะไม่หยุดกลางคัน ต่อให้เธอขอร้องอ้อนวอนยังไงก็ตาม”“พะ พลับแน่ใจ พลับอยากลอง”นับว่าเป็นคนกล้าได้กล้าเสียพอสมควร เคนไม่คิดเลยว่าเด็กคนนี้จะกล้าทำเรื่องอย่างว่ากับตน ตอนแรกก็แค่จะขอดูเฉย ๆ ถ้าได้ก็ดี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ไม่คิดว่าพลับจีนจะตอบตกลงง่าย ๆ แบบนี้ที่ผ่านมาเคนไม่ใช่คนติดเซ็กซ์ไม่ได้มีอะไรกับ
เป็นครั้งแรกที่พลับจีนพาคนอื่นเข้าห้องตัวเอง เพราะแม้แต่น่านน้ำก็ไม่เคยมา ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาอาศัยอยู่ที่นี่เสียงฝนด้านนอกตกกระทบบนหลังคาเสียงดังชัดเจน แม้จะกั้นฝ้าแต่ไม่ได้ช่วยทำให้เสียงภายนอกเบาลงพลับจีนวางกล่องปฐมพยาบาลบนโซฟาข้าง ๆ ตัวเอง ใช้สำลีชุบน้ำเกลือค่อย ๆ ล้างแผลบนท่อนแขนแกร่ง ความเงียบภายในห้องทำให้พลับจีนรู้สึกกดดันอย่างบอกไม่ถูก รอยแผลขนาดยาวกับเลือดสีแดงสดทำพลับจีนกระอักกระอ่วน ทว่ายังฝืนตัวเองทำแผลต่อไป เพราะเขาบอกให้อีกคนไปโรงพยาบาลก็ไม่ยอมไป เอาแต่เงียบไม่พูดไม่จา สุดท้ายก็ต้องลากกลับมาที่ห้องตัวเอง อย่างน้อยก็ควรทำความสะอาดสักหน่อยดีกว่าปล่อยทิ้งไว้อย่างนี้อีกอย่างแผลบนแขนนี่ก็เกิดจากการช่วยเขาเมื่อก่อนหน้านี้ หากเคนไม่เข้ามาช่วยเขาจากพวกคนเมา ไม่เอาตัวเข้ามาขวางตอนพวกมันกำลังจะใช้มีดแทงเขาแผลที่แขนนี่ก็คงไม่เกิดขึ้น“เจ็บไหมครับ” หลังจากเงียบมานาน พลับจีนก็เป็นฝ่ายเอ่ยถามขึ้นมาก่อน “พลับไม่เคยทำแผลให้ใครมาก่อน ไม่รู้ว่ามือหนักไปหรือเปล่า”“...”เคนยังคงเงียบไม่ปริปากพูดอะไรออกมา พลับจีนเองก็เป็นฝ่ายพูดอยู่คนเดียว อีกทั้งไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองกัน เอาแต่ก้มหน้าก้ม

![พี่ติวเตอร์ครับ...ช่วยสอนผมหน่อยนะครับ[PWP]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)





