แชร์

บทที่85

ผู้เขียน: ชุนกวงห่าว
สีหน้าของเหลียงหยวนโจวมืดครึ้ม หันไปมองสืออวี๋กับซือเยี่ยนที่ยืนอยู่ไม่ไกล

ตอนนี้สืออวี๋กำลังเงยหน้าคุยกับซือเยี่ยน ดวงตาที่มองเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ไม่ได้มีท่าทางเย็นชาเหมือนตอนเขาเลยสักนิดเลย

“ก็ได้ ฉันจะขอโทษเขา!”

วันนี้เขาถูกซือเยี่ยนเล่นงาน ก็ถือว่าเขาซวยไป

แต่ผู้ชายคนนี้จะแบกรับคำขอโทษของเขาไหวหรือไม่ มันก็คืออีกเรื่องหนึ่งแล้ว!

เขาหันตัวรีบเดินไปหาสืออวี๋กับซือเยี่ยน จนมายืนอยู่ตรงหน้าทั้งสองคน เขาจึงพูดด้วยเสียงที่เย็นชาว่า “สืออวี๋ ผมขอโทษเขาได้”

สืออวี๋มองเขาแวบหนึ่งก่อนพูดอย่างหมดความอดทน “รบกวนคุณรีบหน่อย ฉันยังมีธุระต่อ”

ในใจของเหลียงหยวนโจวมีไฟโกรธลุกโชนขึ้นมา แต่ก็ถูกเขาพยายามกดมันไว้

“คุณซือ เมื่อกี้เป็นผมที่วู่วามไป คุณโปรดให้อภัยผมด้วย”

ซือเยี่ยนมองเขา ดวงตาแฝงแววเยาะเย้ยจาง ๆ

“ประธานเหลียง ไม่เป็นไรหรอก ครั้งหน้าก็อย่าวู่วามแบบนี้อีกนะ”

พูดจบ เขาหันมองสืออวี๋ “ตอนนี้ประธานเหลียงก็ขอโทษแล้ว เราก็ยอมรับการไกล่เกลี่ยจากตำรวจเถอะ”

สืออวี๋พยักหน้า “โอเค”

เห็นสืออวี๋ไม่แม้แต่จะเหลียวแลมองมาทางตัวเอง สีหน้าของเหลียงหยวนโจวก็เริ่มตึงเครียด เส้นเลือดที่ขมับเต้
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 228

    สืออวี๋ใจหายวาบ รีบเปิดไฟฉายในมือถือส่องไปทางประตูทันที "ใครอยู่ตรงนั้นน่ะ?!"อีกฝ่ายตกใจในเสียงเย็นชาของเธอ จึงรีบพูดว่า "คุณสือครับ ผมเป็นรปภ. ประจำตึก พอดีเดินตรวจมาถึงชั้นของคุณ จู่ ๆ ไฟก็ดับ ผมเลยแวะเข้ามาดู คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ?"คนที่ยืนอยู่หน้าประตูสวมชุดเครื่องแบบรปภ. ในมือถือไฟฉายแรงสูงหนึ่งกระบอกสืออวี๋จำเขาได้ดี รปภ.คนนี้เคยเปิดประตูที่จอดรถใต้ดินให้เธอหลายครั้งแต่ว่า สืออวี๋ก็ยังไม่คลายความระแวงลง เธอยังถือโทรศัพท์เตรียมพร้อมโทรแจ้งตำรวจได้ทุกเมื่อ"แล้วอยู่ดี ๆ คุณเดินมาที่หน้าออฟฟิศฉันทำไมล่ะ?""เมื่อกี้พอดีผมเดินตรวจมาถึงหน้าออฟฟิศคุณ ผมดูแล้ว ทั้งชั้นนี้ไฟดับหมด แต่ลิฟต์ยังทำงานปกติน่ะครับ ไม่ทราบว่าจะให้ผมช่วยลงไปส่งคุณที่ลานจอดรถใต้ดินไหมครับ?"สืออวี๋เม้มปาก ก่อนพูดไปทางประตู "ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณไปตรวจสอบก่อนดีกว่าว่าทำไมไฟถึงดับ รีบทำให้ไฟกลับมาใช้ได้เร็วที่สุดก็พอ""ได้ครับ คุณสือ"เมื่อเสียงฝีเท้าห่างไกลออกไปทีละนิด สืออวี๋ก็ถอนหายใจโล่งอก ขณะเดียวกันก็พบว่าฝ่ามือของเธอเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อเธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ อาศัยแสงไฟจากมือถือจัดเก็บเอกสารบนโต๊

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 227

    ดวงตาของสวีอวี่เจ๋อฉายแววผิดหวัง แต่เขาก็กลับมายิ้มได้ในเวลาอันรวดเร็ว“ไม่เป็นไร ยังไงงานก็สำคัญกว่า รอให้เธอว่างเมื่อไหร่ค่อยว่ากันก็ได้”“อืม งั้นฉันขอตัวก่อนนะ”เมื่อเฉินเจียเซ็นสัญญาเสร็จก็เดินออกมาจากห้องรับรอง บังเอิญเห็นสวีอวี่เจ๋อนั่งคอตกบนโซฟาที่อยู่ไม่ไกล จึงก้าวเท้าเข้าไปหา“สวีอวี่เจ๋อ วันนี้ขอบคุณนะที่อุตส่าห์มาเป็นเพื่อน เดี๋ยวฉันเลี้ยงข้าวนายเอง”เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า สวีอวี่เจ๋อก็เงยหน้าขึ้นมองเฉินเจีย ก่อนกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ไม่เป็นไรน่า ยังไงพวกเราก็เพื่อนกัน ในเมื่อเธอเสร็จเรื่องแล้ว งั้นเราก็ไปกันเถอะ”“ได้สิ”ซือห่าวอวี่เดินมาส่งทั้งสองคนที่โถงลิฟต์ พลางพูดกับเฉินเจียว่า “คุณเฉิน หลังจากนี้ถ้าทางเราต้องการเอกสารอะไรเพิ่มเติม เดี๋ยวผมจะติดต่อไปที่คุณ รบกวนช่วยเปิดโทรศัพท์ไว้ด้วยนะครับ”“ได้เลยค่ะ ผู้ช่วยซือ รบกวนด้วยนะคะ”“เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ”เมื่อลิฟต์มาถึงอย่างรวดเร็ว ทั้งสองคนก็ก้าวเข้าไปในลิฟต์จนกระทั่งประตูลิฟต์เลื่อนปิด และลิฟต์เริ่มเคลื่อนตัวลง เฉินเจียถึงได้หันไปพูดกับสวีอวี่เจ๋อว่า “เท่าที่ฉันสังเกตนะ ผู้ช่วยคนนั้นของสืออวี๋ต้อง

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 226

    “เรื่องอื่นค่อยว่ากัน ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือเงินหนึ่งล้านห้าแสนบาทก้อนนั้น เธอจะพิสูจน์ได้ยังไงว่าให้เงินสดเขาไปจริง”ถ้าพิสูจน์หรือระบุไม่ได้ว่าแฟนของเฉินเจียเอาเงินหนึ่งล้านห้าแสนบาทไปซ่อนไว้ไหน คดีนี้เฉินเจียก็จะเป็นฝ่ายเสียเปรียบเต็มประตูเฉินเจียส่ายหน้า “ฉันพิสูจน์ไม่ได้หรอก... ตอนนั้นฉันให้เงินเขาที่ห้องเช่า มีแค่เราสองคน ฉันไม่ได้คิดจะอัดคลิปอะไรไว้ด้วย... คิดว่าในเมื่อกำลังจะแต่งงานกันอยู่แล้ว เขาคงไม่ตลบหลังฉันหรอก”ตอนนี้ถึงเพิ่งคิดได้ว่าตนเองโง่ขนาดไหนสืออวี๋ขมวดคิ้ว ก่อนจะประเมินสถานการณ์ในใจอย่างรวดเร็วคดีนี้สู้ลำบากทีเดียวการพิสูจน์ให้ได้ว่าเฉินเจียมอบเงินสดจำนวนหนึ่งล้านห้าแสนบาทให้แฟนหนุ่มไปจริงไม่ใช่เรื่องง่าย ตอนนี้น่าจะมีแค่แฟนของเธอที่รู้ว่าเงินหนึ่งล้านห้าแสนบาทก้อนนั้นอยู่ไหน แต่เขาคงไม่มีทางปริปากพูดแน่เพราะเขาก็อาศัยช่องโหว่ที่ไม่มีหลักฐานว่าเฉินเจียให้เงินหนึ่งล้านห้าแสนบาทนั้นไปจริงมายื่นฟ้องเธอนี่แหละหลังเห็นสืออวี๋สีหน้าเคร่งเครียด ไม่พูดอะไรไปชั่วขณะ หัวใจของเฉินเจียก็พลันเต้นไม่เป็นจังหวะ“สืออวี๋ ฉันรู้ว่าคดีนี้สู้ยาก แต่ในบรรดาคนที่ฉันรู

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 225

    พอเดินเข้ามาในสำนักงานกฎหมาย ซือห่าวอวี่ก็เดินตรงเข้ามาหาเธอ “พี่สืออวี๋ครับ เพื่อนเก่าพี่คนนั้นมาหา”สืออวี๋ฉายแววสงสัย “เพื่อนเก่า?”“ก็คนที่ถามพี่ที่ร้านอาหารคราวที่แล้วไงครับ ว่าจะไปงานเลี้ยงรุ่นหรือเปล่า”พออีกฝ่ายพูดขึ้นมาแบบนั้น สืออวี๋ก็เพิ่งฉุกคิดได้ เขาจึงเอ่ยถาม: “อ้อ แล้วเขาอยู่ไหนล่ะ”“อยู่ที่ห้องรับรองครับ อ้อ ใช่ มีผู้หญิงมากับเขาด้วยอีกคนหนึ่งครับ”“เข้าใจแล้ว เดี๋ยวฉันไปเดี๋ยวนี้”สืออวี๋เดินไปถึงหน้าห้องรับรอง ในจังหวะที่ผลักประตูเข้าไป ทั้งสองที่นั่งอยู่ด้านในก็เงยหน้าขึ้นมองเธอพร้อมกันพอเห็นว่าอีกคนคือเฉินเจีย แววตาของสืออวี๋ก็ฉายประกายความประหลาดใจ“สวีอวี่เจ๋อ เฉินเจีย พวกเธอมาที่นี่กะทันหันได้ยังไง? แล้วก็รู้ที่นี่ได้ยังไง?”เฉินเจียปาดคราบน้ำตาบนใบหน้าก่อนจะเอ่ยขึ้น: “ฉันมีคดีหนึ่ง อยากให้เธอมาเป็นทนายให้ฉันหน่อย”นับตั้งแต่วินาทีที่สืออวี๋เดินเข้ามา สายตาของสวีอวี่เจ๋อก็จับจ้องอยู่ที่ร่างของเธอ ไม่ยอมละไปไหนแม้แต่น้อยไม่ได้เจอกันเกือบเดือน ท่าทางของเธอดูดีขึ้นกว่าตอนงานเลี้ยงรุ่นครั้งก่อนและตอนที่เขาเจอเธอที่มัลดีฟส์มากตอนนั้น รอบกายเธอมักจะมีไอ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 224

    อีกด้านหนึ่ง สืออวี๋เห็นข้อความที่เหลียงหยวนโจวส่งมาก็เม้มปากเล็กน้อย ไม่ได้ตอบกลับไปครั้งนี้ เธอคงสามารถตัดขาดกันได้อย่างเด็ดขาดจริง ๆ เสียทีหลังจากลบข้อความของเหลียงหยวนโจวทิ้ง สืออวี๋ก็เปิดหน้าต่างแชตของเธอกับซ่งจื่อเฉียน[พี่ซ่งคะ ฉันมีเรื่องอยากให้พี่ช่วยหน่อยค่ะ]หลังจากผ่านไปราวสิบกว่านาที ซ่งจื่อเฉียนก็โทรหาซือเยี่ยน“นี่นายยังไงเนี่ย? ผู้อำนวยการบอกว่านายลาพักช่วงนี้ไม่ใช่เหรอ? เมื่อกี้สืออวี๋เพิ่งส่งข้อความมาหาฉัน ขอให้ฉันไปคุยกับผู้อำนวยการ ให้ท่านเรียกนายกลับไปทำงานที่โรงพยาบาล นายไปพูดอะไรกับเธอไว้? ทำไมเธอถึงคิดว่าผู้อำนวยการจะไล่นายออก?”ดูจากระดับความเอ็นดูที่ผู้อำนวยการมีต่อซือเยี่ยนแล้ว ต่อให้ท่านยอมลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการเอง ก็ไม่มีทางไล่ซือเยี่ยนออกเด็ดขาดซือเยี่ยนประหลาดใจเล็กน้อย “ไม่คิดเลยว่าเธอจะไปขอความช่วยเหลือจากนาย”“เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว ตกลงนายไปพูดอะไรกับสืออวี๋ไว้กันแน่? เมื่อกี้ฉันเกือบหลุดปากไปแล้ว โชคดีที่สุดท้ายยังแถกลับมาทัน”“ฉันก็แค่บอกเธอไปว่า เหลียงหยวนโจวบริจาคเงินให้โรงพยาบาลหลายสิบล้าน โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้อำนวยการไล่ฉันออ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 223

    บะหมี่บนโต๊ะยังคงส่งไอร้อนกรุ่น โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยสีเขียวสดและไข่ดาวหนึ่งฟอง ดูน่าอร่อยเป็นอย่างยิ่งสมัยที่บริษัทเพิ่งเริ่มก่อตั้ง เขาต้องออกไปสังสรรค์ทางธุรกิจอยู่บ่อยครั้ง และทุกครั้งที่ไป เขาก็มักจะดื่มหนักทั้งที่ท้องยังว่างสืออวี๋รู้ว่าเวลาเขาออกไปสังสรรค์มักจะกินอะไรได้ไม่เต็มที่ เธอจึงไปเรียนรู้วิธีทำบะหมี่น้ำใสซึ่งเป็นของโปรดของเขาจากเซี่ยงชินเฟิน ทุกครั้งที่เขากลับถึงบ้าน เธอก็จะต้มบะหมี่ให้เขาชามหนึ่งเสมอนั่นน่าจะเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดของพวกเขาสองคน แม้ว่าการต้องออกไปสังสรรค์ทุกวันจะเหนื่อยล้า แต่การได้เห็นบริษัทค่อย ๆ เติบโตเข้าที่เข้าทาง ก็ทำให้พวกเขาทั้งคู่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังต่ออนาคตตอนนั้นเขาเคยคิดว่า เพียงแค่บริษัทดำเนินไปได้ด้วยดี พวกเขาก็จะแต่งงานกันทว่าในเวลาต่อมา เขากลับทำสืออวี๋หลุดมือหายไป ณ ทางแยกของชีวิตเมื่อมองบะหมี่น้ำใสตรงหน้า ดวงตาทั้งสองข้างของเหลียงหยวนโจวก็พลันแดงก่ำขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวเขายกชามบะหมี่ขึ้น คีบเส้นบะหมี่เข้าปากอย่างเหม่อลอยราวกับเครื่องจักรมันยังคงเป็นรสชาติเดิม แต่คนที่เคยรอเขาอยู่ที่บ้านทุกคืนและต้มบะหมี่ให้เขา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status