“ก็อย่างเช่น... นายแบบ...”
ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ แต่ฟังดูไม่เต็มใจนัก
“ผมไม่ถนัดงานแบบนั้นหรอกครับ”
“แต่เงินดีกว่าเป็นบาริสต้าตั้งเยอะนะคะ”
หล่อนยังคงยิ้ม พร้อมส่งสายตายั่วเล็กน้อย
ชายหนุ่มหยุดชะงักเล็กน้อย ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
“ผมชอบทำงานที่สบายใจมากกว่าครับ”
คำตอบนั้นทำเอาพิมพิชชานิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอียงคอเล็กน้อยแล้วถามตรงๆ
“ว่าแต่... คุณขัดสนเงินทองใช่ไหมคะ”
ชายหนุ่มหยุดมือไปชั่วขณะ ก่อนจะปรายตามองหล่อน สายตาของเขาดูลึกลับจนเดาไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่
จะเยาะหยันก็ไม่เชิง จะสนุกก็ไม่ทั้งหมด แต่ที่แน่ๆ เขารู้ว่าหล่อนกำลังมองเขายังไง
“ทำไมคุณถึงคิดว่าผมขัดสนเงินทองล่ะครับ”
น้ำเสียงของเขาราบเรียบ แต่แฝงด้วยความท้าทายเล็กๆ
พิมพิชชายกยิ้มที่มุมปาก
“ก็ถ้าไม่ขัดสนเงินทอง คุณคงไม่มาทำงานเป็นบาริสต้าหรอก จริงไหมคะ”
ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่ยิ้มมุมปาก รอยยิ้มนั้นดูคลุมเครือและลึกลับ ขณะที่มือยังคงชงกาแฟต่อไปอย่างไม่สะทกสะท้าน ราวกับบทสนทนาระหว่างพวกเขาเป็นเพียงแค่สายลมพัดผ่าน
พิมพิชชาขมวดคิ้วเล็กน้อยกับท่าทีเฉยชาของเขา แต่กระนั้นก็ยังคงยิ้มหวาน พร้อมเคาะนิ้วเรียวลงกับเคาน์เตอร์เบาๆ เพื่อเรียกความสนใจ
“แล้วคุณ... ชื่ออะไรคะ”
น้ำเสียงของหล่อนบ่งบอกให้รู้ว่ายังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นช้าๆ ดวงตาคมเข้มสบตาหล่อนตรงๆ เป็นครั้งแรกในระยะใกล้ ราวกับกำลังอ่านบางอย่างในตัวหล่อน แต่แววตานั้นก็ยังคงลึกลับและยากจะเข้าใจเหมือนเดิม
“คุณอยากรู้จริงเหรอครับ”
เขาถามกลับด้วยน้ำเสียงเรียบ แต่น้ำเสียงเต็มไปด้วยความท้าทาย
พิมพิชชายิ้มกว้างขึ้น
“แน่นอนสิคะ อย่างน้อย... ฉันก็อยากรู้ชื่อของคนที่กำลังทำกาแฟให้ฉัน...”
หล่อนเอียงหน้าเล็กน้อย พลางมองเขาด้วยสายตาเชิงจู่โจม
ชายหนุ่มเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยกแก้วกาแฟที่เพิ่งทำเสร็จขึ้นมาวางตรงหน้าของหล่อน ฟองนมถูกวาดลวดลายทางช้างเผือกอย่างประณีต พร้อมผงทองคำที่ระยิบระยับ
“คีรีธารครับ”
พิมพิชชากระพริบตาเล็กน้อย
“คีรีธาร...”
หล่อนทวนชื่อ พลางพิจารณามันในใจ
“ชื่อแปลกดีจังเลยค่ะ มันหมายความว่ายังไงเหรอคะ”
“คีรี หมายถึงภูเขา... ธาร หมายถึงสายน้ำครับ”
เขาหยุดเล็กน้อย พลางสบตาหล่อนที่กำลังตั้งใจฟัง
“รวมกันก็... สายน้ำที่ไหลมาจากภูเขาครับ”
“ฉันจะจำชื่อของคุณเอาไว้ค่ะ”
พิมพิชชาเอ่ยด้วยรอยยิ้มมั่นใจ ดวงตาของหล่อนเป็นประกายอย่างผู้หญิงที่รู้ตัวดีว่าตัวเองมีเสน่ห์มากแค่ไหน
คีรีธารเงยหน้าขึ้นจากเครื่องชงกาแฟ ดวงตาคมเข้มสบกับหล่อนอย่างนิ่งสงบ รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปาก ก่อนที่เขาจะตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ไม่จำเป็นต้องจำหรอกครับ เพราะเราอาจจะไม่ได้เจอกันอีก”
คำตอบนั้นเหมือนเป็นการผลักไส แต่กลับยิ่งทำให้พิมพิชชารู้สึกท้าทายมากขึ้น หล่อนยกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะยิ้มหวานกว่าเดิม
“เราจะได้เจอกันอีกแน่นอนค่ะ”
น้ำเสียงของหล่อนเต็มไปด้วยความมั่นใจที่ยากจะโต้แย้ง
หล่อนยกแก้ว Galaxy Blossom Latte ขึ้นมาจิบเบาๆ รสชาติหอมละมุนของกาแฟผสมกับความหวานละมุนจากซอสบลูเบอร์รี่และฟองนมเนียนนุ่มทำให้หล่อนยิ้มพึงพอใจ
“ฉันมั่นใจ”
รอยยิ้มหวานถูกทิ้งไว้เป็นสัญญาณแห่งชัยชนะ ก่อนที่หล่อนจะหมุนตัวจากเคาน์เตอร์แล้วเดินกรีดกรายกลับไปที่โต๊ะด้วยท่าทางสง่างามราวกับนางพญาเหมือนเดิม
หล่อนหย่อนกายนั่งลงบนเก้าอี้ พลางยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ และเหลือบตามองไปทางเคาน์เตอร์อีกครั้ง
สายตาคมเข้มของคีรีธารกำลังจ้องมาทางหล่อนพอดี
ริมฝีปากอวบอิ่มสีแดงระเรื่อยกยิ้มอย่างพึงพอใจ
“เห็นมั้ยล่ะ... ไม่มีผู้ชายคนไหนที่ฉันมัดใจไม่ได้”
เสียงแห่งความคิดดังชัดเจนในหัว ขณะที่ริมฝีปากของพิมพิชชากระตุกยิ้มบางๆ อย่างผู้ชนะ สายตาเต็มไปด้วยความมั่นใจ
แม้แววตาของคีรีธารจะสงบนิ่ง ซ่อนเร้นทุกความรู้สึกไว้ใต้ความลึกลับที่ยากจะอ่านออก แต่หล่อนก็มั่นใจว่า…
เขากำลังมองหล่อนอยู่จริงๆ
พิมพิชชายกแก้วกาแฟขึ้นจิบอีกครั้ง ริมฝีปากยังคงแต้มด้วยรอยยิ้ม
คุณคือเป้าหมายของฉัน… พ่อบาริสต้าสุดหล่อ
หล่อนคิดในใจ ขณะที่สายตาจับจ้องมองเขาไม่วางตา ราวกับนักล่าที่ไม่คิดจะปล่อยเหยื่อเนื้อหวานให้หลุดมือไป
บรรยากาศภายในร้านกาแฟเงียบสงบหลังปิดให้บริการ กลิ่นกาแฟหอมอ่อนๆ ยังคงลอยอบอวลในอากาศอย่างจางๆ
คีรีธารยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ เช็ดแก้วกาแฟใบสุดท้ายให้สะอาด ก่อนจะวางมันเข้าที่ เสียงขอบแก้วกระทบชั้นวางดังแผ่วเบาในความเงียบสงบ
“ขอบใจนายมากนะ ที่อุตส่าห์มาช่วย”
อนุวัติ เจ้าของร้านกาแฟเอ่ยขอบคุณเพื่อนรักอย่างซาบซึ้งใจ
คีรีธารยิ้มบางๆ ขณะเช็ดมือบนผ้าแห้ง
“ไม่เป็นไร ถือว่าช่วยๆ กัน”
“นายมาในฐานะลูกค้าแท้ๆ แต่ดันต้องมาช่วยชงกาแฟแทนบาริสต้าจอมเกเรของฉันซะได้”
อนุวัติพูดพลางถอนหายใจน้อยๆ แต่ยังคงยิ้มให้เพื่อนด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันชอบชงกาแฟอยู่แล้ว นายก็รู้นี่”
คีรีธารตอบอย่างสบายๆ ก่อนจะหยิบแก้วเปล่าขึ้นมาหมุนเล่นในมือ
“แต่ยังไงก็ขอบใจมากนะ” อนุวัติย้ำอีกครั้ง
“อืม”
คีรีธารพยักหน้าเล็กน้อย
แต่สักพัก สีหน้าของอนุวัติก็เปลี่ยนเป็นยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะพูดขึ้นอย่างมีเลศนัย
“แต่วันนี้นายฮอตมากเลยนะ”
คีรีธารเลิกคิ้ว และหัวเราะขำๆ
“ฮอตอะไรกันล่ะ ไม่ได้ขนาดนั้นสักหน่อย”
“จะไม่ฮอตได้ยังไง! ฉันเห็นสาวๆ ที่มาสั่งกาแฟ กรี๊ดกร๊าดใส่นายกันใหญ่เลย ยิ้มหวานซะจนฉันยังอิจฉา”
อนุวัติหัวเราะ พลางยกแก้วเปล่าขึ้นทำท่าดื่มกับอากาศ
ตอนที่ 30. ตอนอวสานภายในคาเฟ่หรูของโรงแรม Imperial Haven บรรยากาศภายในร้านอบอวลไปด้วยกลิ่นกาแฟหอมกรุ่น ผสมกับกลิ่นขนมอบใหม่ที่ชวนให้รู้สึกอบอุ่นและโหยหิวพิมพิชชาในชุดบาริสต้ายืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ กำลังเช็ดแก้วกาแฟด้วยท่าทางคล่องแคล่ว ดูแตกต่างจากคุณหนูไฮโซเมื่อก่อนลิบลับใช่แล้วล่ะ...หล่อนไม่ใช่คุณหนูไฮโซผู้ไม่เคยแตะงานหนักอีกต่อไป... แต่ตอนนี้หล่อนก้าวขึ้นมาเป็นบาริสต้าผู้มากเสน่ห์ ประจำคาเฟ่สุดหรูแห่งนี้เรียบร้อยแล้วเสียงรองเท้าหนังกระทบพื้นดังกังวาน พนักงานหลายคนก้มหัวให้ชายหนุ่มร่างสูงที่เดินเข้ามาภายในร้านทุกคนต่างคุ้นชินกับการที่ ท่านประธาน แวะมาที่นี่บ่อยๆและแน่นอนว่าเหตุผลหลักไม่ได้เป็นเพราะกาแฟ“ลาเต้ เมียรัก หนึ่งแก้วครับ”เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น ทำให้พิมพิชชาเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะหัวเราะเบาๆ“ไม่มีเมนูนี้ค่ะลูกค้า”“งั้นขอ เอสเปรสโซ่ Only You หนึ่งแก้วครับ”หล่อนย่นจมูกขำกับเมนูที่เขาคิดขึ้นมาเอง ก่อนจะถอนหายใจแล้วยกมือขึ้นเสยผมเบาๆ“ฉันจะทำกาแฟให้คุณก็ได้ค่ะ แต่กรุณาอย่าเรียกชื่อเมนูประหลาดๆ แบบนั้นอีก”คีรีธารยิ้มมุมปาก โน้มตัวเกาะเคาน์เตอร์ มองหล่อนทำงานอย่างพึงพอใจ“ชื่
ตอนที่ 29. แต่พอเขาขยับ... ใช่... แค่คีรีธารขยับบั้นเอว ซอยเข้าออกถี่ๆ เท่านั้น ความอึดอัดก็จางหายไป และก็มีความเสียวแสนมหัศจรรย์เข้ามาแทนที่ “อ๊า... ซี๊ดดดด เสียววว อ๊า...” ให้ตายเถอะ หล่อนหยุดครางเสียวไม่ได้เลย ร่างกายเหมือนจะแหลกสลายไปในกองเพลิงสวาทของเขา แต่ทุกครั้งมันก็ก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาใหม่ และดำดิ่งลงสู่เหวแห่งความเสียดเสียวเช่นเดิม หล่อนดิ้นพล่าน สองขาเรียวตวัดโอบรอบลำตัวทรงพลังเอาไว้ เขากระแทกไม่หยุดเลย ท่อนเอ็นของเขาทั้งแข็ง ทั้งใหญ่ มันเสียดสีเนื้อนุ่มของหล่อนจนร้อนฉ่า หล่อนจะแตกอีกแล้ว... หล่อนกัดฟัน เงยหน้าขึ้นสูง ขณะมือยกขึ้นลูบไล้หน้าอกกว้างของเขาตลอดเวลา กระทั่ง... “อ๊าย... ซี๊ดดดด อ๊ายยย...” ในที่สุดหล่อนก็เสียวจนเสร็จ ในขณะที่ท่อนเอ็นของเขายังคงสอดใส่เข้ามาไม่หยุดหย่อน เขายังคงโยกคลึง บดขยี้ด้วยหน้าขาแข็งแกร่งของเขาอย่างต่อเนื่อง หล่อนหลั่งรินน้ำเสียวออกมามากมาย ดื่มด่ำกับความสุขเสียวที่เกิดจากท่อนเอ็นของผู้ชายที่ตัว
ตอนที่ 28.หญิงสาวพยายามเบี่ยงหน้าหนี แต่เขากลับจับปลายคางของหล่อนเอาไว้ บังคับให้รับจูบที่หนักหน่วงขึ้นไปอีก ลิ้นร้อนกวาดชิมความหวานอย่างหิวกระหาย ทวงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของอย่างไร้ซึ่งความปรานีมือหนาเลื่อนลงมาจับสะโพกของหล่อนไว้แน่น ก่อนจะกดร่างเล็กให้แนบชิดไปกับเตียงมากยิ่งขึ้นความอบอุ่นจากร่างกายแกร่งของเขา ทำให้หล่อนร้อนรุ่มไปหมด หัวใจสาวเต้นแรงจนแทบระเบิด“ฟังผมได้หรือยัง”เขาถอนจูบออกเล็กน้อย กระซิบถามเสียงพร่า ริมฝีปากยังคงคลอเคลียอยู่ใกล้ๆพิมพิชชาหอบหายใจแรง ดวงตาสั่นระริก มึนเมาไปหมด กับสัมผัสที่เขามอบให้“ยัง...” หล่อนพูดเบาๆแววตาของคีรีธารฉายแววเจ้าเล่ห์ขึ้นมาแวบหนึ่ง ก่อนที่เขาจะกระซิบเสียงต่ำข้างหูของหล่อน“งั้นผมคงต้องพยายามให้มากกว่านี้...”พูดจบ ปากร้อนผ่าวก็ประกบลงมาอีกครั้ง และครั้งนี้มันร้อนแรงและดุดันยิ่งกว่าเดิม หล่อนถูกเขาบดขยี้จูบ จนปากบวมเจ่อ ลิ้นของหล่อนถูกเขาดูดซ้ำไปซ้ำมา จนรู้สึกเหมือนจะหลุดขาด แต่เขาก็ยังไม่หยุดจูบ แถมมือของเขาก็ยังลูบไล้ไปทั่วทั้งร่างสาวอย่างต่อเนื่อง ความแง่งอนค่อยๆ จางหายไป ความโกรธเคืองค่อยๆ สลายกลายเป็
ตอนที่ 27.พิมพิชชากัดฟันแน่น กำพวงมาลัยจนมือสั่น ตะโกนผ่านกระจกปิดสนิท“ถ้าไม่หลบ ฉันจะชนจริงๆ นะ!”แต่คีรีธารยังคงยืนนิ่ง ไม่ขยับออกแม้แต่น้อย ดวงตามีแต่ความแน่วแน่“ชนผมเลย ถ้ามันจะทำให้คุณใจเย็นลง”หล่อนเร่งเครื่อง เสียงเครื่องยนต์คำรามดังก้องยิ่งขึ้น แต่เท้ากลับหนักอึ้ง เมื่อจะเหยียบคันเร่งในทะยานออกไป“ถ้าคุณชนผมแล้ว คุณจะหายโกรธ ผมยินดี”หัวใจของหล่อนเต้นระรัว แต่มันไม่ใช่เพราะความโกรธอีกต่อไป มันคือความเจ็บปวดที่กำลังกัดกินอยู่“คนบ้า!”หล่อนทุบพวงมาลัยเต็มแรง ก่อนจะปิดเครื่องยนต์ ก่อนจะก้าวลงไปจากรถ และพุ่งเข้าไปทุบหน้าอกแน่นหนั่นของเขาเต็มแรง“ไอ้คนหลอกลวง ทำไมต้องโกหกฉันด้วย!”หล่อนร้องไห้สะอึกสะอื้น และไม่หยุดทุบหน้าอกของเขาแม้แต่น้อย“ทำไมต้องทำเหมือนฉันโง่!?”น้ำตายังคงไหลพรากอาบสองแก้ม“คุณควรจะบอกฉันสิว่าตัวเองเป็นใคร คุณทำเหมือนฉันมันโง่เหมือนเด็กอมมือเลยนะ!”คีรีธารจับข้อมือเล็กเอาไว้ และจ้องลึกเข้าไปในดวงตาที่ฉ่ำวาวไปด้วยความเสียใจ“ผมไม่ได้ตั้งใจปิดบังคุณ”เขาพูดเสียงต่ำ“แต่มันคือการเข้าใจผิด”“เข้าใจผิดอย่างนั้นเหรอ?”หล่อนหัวเราะเยาะออกมาอย่างขมขื่น“คุณเป็นเจ้า
ตอนที่ 26. พิมพิชชาหยุดยืนอยู่หน้าโรงแรม Imperial Haven สถานที่ที่หล่อนเคยมาใช้บริการเมื่อตอนวัยรุ่น และยังจดจำความหรูหราราวกับราชวังของมันได้เป็นอย่างดีแต่... คีรีธารมาทำงานพิเศษที่นี่จริงๆ เหรอ?แล้วเขามารับจ๊อบตำแหน่งอะไร?หญิงสาวถอดแว่นกันแดดออกจากใบหน้า ดวงตาจับจ้องไปยังประตูทางเข้า ก่อนจะก้าวเดินเข้าไปภายในและเมื่อเข้าสู่โถงต้อนรับอันโอ่อ่า ความหรูหราก็ทวีคูณมากขึ้นกว่าที่หล่อนเคยจำได้แชนเดอเลียร์ขนาดมหึมาสะท้อนแสงระยิบระยับ พื้นหินอ่อนเงาวับสะท้อนภาพผู้คนที่ก้าวเดินผ่านไปมาบรรยากาศสง่างามระดับโรงแรมห้าดาว ทำให้หล่อนรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแขกวีไอพีขึ้นมาโดยอัตโนมัติ แต่หล่อนไม่ได้มีเวลาชื่นชมสิ่งเหล่านี้หรอก เพราะเป้าหมายของหล่อนคือมาหาคีรารหญิงสาวรีบเดินตรงไปยังพนักงานต้อนรับที่เคาน์เตอร์“ขอโทษนะคะ ฉันมาขอพบพนักงานที่ชื่อ คีรีธาร น่ะค่ะ”พนักงานต้อนรับสาวเงยหน้าขึ้น ขมวดคิ้วเล็กน้อย“คีรีธาร วัฒนานุรักษ์ เหรอคะ?”พิมพิชชาชะงัก ก่อนส่ายหน้า“ฉันไม่รู้นามสกุลเขา แต่รู้ว่าเขาทำงานพิเศษที่นี่ค่ะ”พนักงานทำหน้าโล่งอกไปแวบหนึ่ง ก่อนจะยิ้มสุภาพ“อ๋อ... อาจจะเป็นพนักงาน
ตอนที่ 25.คีรีธารยืนพิงผนังหน้าห้องประชุม โทรศัพท์แนบหู ขณะที่ปลายนิ้วเคาะเบาๆ บนแฟ้มเอกสารในมือจังหวะมั่นคง... สม่ำเสมอ... และเต็มไปด้วยความมั่นใจเสียงสนทนาของอนุวัติ ดังลอดมาตามสาย มันเป็นน้ำเสียงกึ่งกังวล“นายแน่ใจนะว่าวันนี้คุณหนูไฮโซสุดที่รักของนายจะไม่โผล่มาที่คาเฟ่ แล้วถามหานายอีกน่ะ”“แน่ใจ”เพราะบทรักที่เขามอบให้พิมพิชชาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เช้ามืดจนเกือบสิบโมงเช้า มันหนักหน่วงมากพอที่จะทำให้เจ้าหล่อนอ่อนเพลียจนไม่มีแม้แต่แรงที่จะก้าวลงจากเตียง“ดี เพราะฉันไม่อยากโกหกอะไรเธออีกแล้วโว้ย”“เอาน่า”คีรีธารตอบเพื่อนด้วยน้ำเสียงสบายๆ ดวงตาคมกริบเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ“วันนี้เธอไม่ไปที่คาเฟ่นายแน่นอน”“โอเค งั้นแค่นี้นะ เดี๋ยวฉันต้องออกไปซื้อของมาเข้าร้านแล้ว”“อืม”ชายหนุ่มกดวางสาย พลางส่ายหน้าอมยิ้มบาง เมื่อนึกถึงใบหน้าหวานเยิ้มที่เมื่อตอนสายยังหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงหล่อนแทบไม่มีแรงจะพลิกตัวด้วยซ้ำ แล้วจะไปหาเขาที่คาเฟ่ได้ยังไงกัน“ท่านประธานคะ”เสียงเรียกของเลขาสาวดึงเขาออกจากภวังค์“ที่ประชุมพร้อมแล้วค่ะ”คีรีธารละสายตาจากโทรศัพท์ แววตาที่เคยเปื้อนรอยยิ้มอยู่เมื่อครู่ เปลี่ยนเ