로그인เสิ่นชิงซูชำเลืองมองเธอชืด ๆ ทีหนึ่ง ต่อหน้าเขา เสิ่นชิงซูไม่เคยปั้นสีหน้าดี ๆ ให้เจียงหมี่รั่วเลย “ทำไม? เธอผิดหวังมากเหรอ?”เจียงหมี่รั่วเองก็แสดงท่าทีออกมาว่าถูกเสิ่นชิงซูพูดจาถากถางจนชินแล้ว ทว่ายังหน้าหนาจะขยับเข้าไปหาให้ได้“ฉันดีใจแทนพี่นี่คะ พี่ชิงซู พี่ดูสิจิ้นเชวี่ยดีกับพี่มาก ต่อไปพี่ก็ไม่ต้องหาเรื่องยั่วให้เขาอารมณ์เสียอีกแล้ว ประเทศเอ็นเป็นระบบผัวเดียวหลายเมีย เราพี่น้องก็อยู่ด้วยกันดี ๆ โอเคไหมคะ?”เสิ่นชิงซูแค่นเสียงฮึทีหนึ่ง ก่อนจะเดินไปนั่งลงในตำแหน่งที่อยู่ห่างจากเธออย่างสนใจแต่ตัวเองเจียงหมี่รั่วเห็นดังนั้น ก็ก้มหน้าทั้งหน้าม่อยคอตก ทำท่าน้อยเนื้อต่ำใจอย่างมากหวังชุนเหมยยกรังนกมาให้เสิ่นชิงซูถ้วยหนึ่งจิ้นเชวี่ยพูดขึ้นว่า “สารพิษในร่างกายคุณสลายไปพอประมาณแล้ว หลังจากนี้ต้องบำรุงร่างกายด้วยอาหารอย่างเหมาะสม”เสิ่นชิงซูแสยะยิ้ม “บำรุงดีแค่ไหนแล้วจะมีประโยชน์อะไร? วันไหนคุณอารมณ์ไม่ดีบอกวางยาพิษก็วางยาพิษ จิ้นเชวี่ย ขอถามหน่อยนะ ไม่ทราบว่าคุณพอใจกับหนูทดลองอย่างฉันไหม?”จิ้นเชวี่ยถูกพูดถากถาง สีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อยเจียงหมี่รั่วเห็นแบบนั้นก็รีบพูดขึ้นว่า “พี
......หนึ่งสัปดาห์ต่อมาติดต่อกันหนึ่งสัปดาห์ เสิ่นชิงซูต้องดื่มยาจีนทุกวันการรับรสของเธอฟื้นฟูแล้ว แต่สายตากลับไม่มีความคืบหน้าเลยจิ้นเชวี่ยจะจับชีพจรและฝังเข็มให้เธอทุกวันครึ่งเดือนต่อมา เช้าวันหนึ่ง เสิ่นชิงซูลืมตาตื่นขึ้นมา แสงแดดนอกหน้าต่างแยงตาจนเธอต้องขมวดคิ้วแสงสว่างที่ห่างหายไปนานทำให้ขอบตาของเธอร้อนผ่าวในที่สุดสายตาของเธอก็กลับมาเป็นปกติแล้วตอนนี้เป็นเดือนเมษายนแล้วหิมะที่เมืองเป่ยน่าจะละลายแล้วเสิ่นชิงซูเลิกผ้าห่มลงจากเตียง เดินไปที่ข้างเตียงแล้วเปิดหน้าต่างเมื่อเทียบกับเมืองเป่ย ที่นี่อากาศอบอุ่นเหมือนฤดูใบไม้ผลิตลอดทั้งปีลมยามเช้าเย็นสบาย นกกระจอกส่งเสียงร้องเจื้อยแจ้วอยู่บนต้นไม้เสิ่นชิงซูคิดถึงลูกทั้งสองคนซ่งหลานอินกับเวินจิ่งซีพาพวกเขาไปซ่อนตัวอยู่ที่เมืองอวิ๋น สภาพแวดล้อมที่นั่นคล้ายกับประเทศเอ็น แต่เพราะเป็นพื้นที่ราบสูง ค่อนข้างแห้ง ไม่รู้ว่าเด็ก ๆ จะปรับตัวได้หรือยัง?ประตูห้องถูกผลักเปิดจากด้านนอกจิ้นเชวี่ยเดินเข้ามาเสิ่นชิงซูได้ยินเสียงก็หันกลับไปทั้งคู่สบตากันจิ้นเชวี่ยเลิกคิ้ว “สายตากลับมาเป็นปกติแล้วเหรอ?”เสิ่นชิงซูตอบรับเบ
“เหลวไหล!” ฟู่ซือเหยียนขมวดคิ้ว “อาซูไม่รู้อะไรเลย จิ้นเชวี่ยก็เพราะผมถึงได้ตามตอแยเธอไม่เลิก คุณจะปล่อยให้เธอกลับไปหาจิ้นเชวี่ยได้ยังไง!”“แต่ว่า จิ้นเชวี่ยหมายตาเด็กทั้งสองคนแล้ว คุณเสิ่นบอกว่า ที่เธอทำแบบนี้ไม่ใช่เพื่อส่วนรวม ไม่ใช่เพื่อคุณ แต่เป็นเพื่อลูกทั้งสองคนครับ”ฟู่ซือเหยียนตกตะลึงอาลี่เงยหน้าขึ้น มองฟู่ซือเหยียนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม“จริง ๆ แล้วคุณก็รู้ว่าเรื่องราวดำเนินมาถึงตอนนี้ มันกลายเป็นทางตันไปแล้ว”“คุณเสิ่นเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ตอนนี้เธอเป็นคนเดียวที่สามารถมีอิทธิพลต่อจิ้นเชวี่ยได้”ฟู่ซือเหยียนหลับตา ลูกกระเดือกขยับเล็กน้อย “จิ้นเชวี่ยก็เพราะผมถึงได้ไม่ยอมปล่อยอาซูไป เป็นผมที่ทำให้อาซูเดือดร้อน”“จริง ๆ แล้วก็อาจจะไม่ใช่เพราะคุณทั้งหมดหรอกครับ”ฟู่ซือเหยียนลืมตาขึ้น มองเขาอย่างไม่เข้าใจ “ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะครับ?”อาลี่ถอนหายใจ “จริง ๆ แล้ววันนั้นคุณเสิ่นคุยกับผมเยอะมาก เธอบอกว่าคืนนั้นเมื่อเก้าปีก่อนที่เธอเจอคุณ เธอก็บังเอิญช่วยชีวิตจิ้นเชวี่ยไว้เหมือนกัน ตอนนี้มาคิดดู บางทีอาจจะเป็นปฏิบัติการล้อมจับครั้งนั้น จิ้นเชวี่ยได้รับบาดเจ็บระหว่างหลบหนี แล้วก็บังเอ
เมื่อได้ยินดังนั้น เสิ่นชิงซูก็ขมวดคิ้ว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดิ้นรนอีกเรื่องที่จิ้นเชวี่ยวางยาตัวเอง เขามั่นใจมาโดยตลอดแต่ตอนนี้พอจับชีพจรให้เสิ่นชิงซูสีหน้าของเขาค่อย ๆ เคร่งขรึมขึ้นชีพจรนี้ไม่ถูกต้อง!เขาปล่อยมือของเสิ่นชิงซู แล้วเปลี่ยนไปจับอีกข้างครู่หนึ่ง เขาก็ปล่อยมือของเสิ่นชิงซู“ช่วงนี้คุณกินอะไรไปบ้าง?”สีหน้าของเสิ่นชิงซูเย็นชา “ฉันไปมาสิบกว่าวัน คุณจะให้ฉันรายงานทุกอย่างที่ฉันกินในช่วงสิบกว่าวันนี้ให้คุณฟังเหรอ? น่าเสียดายที่ตอนหลังฉันรับรสไม่ได้แล้ว กินอะไรเข้าไปก็ไม่รู้จริง ๆ”สีหน้าของจิ้นเชวี่ยดูไม่ดีนัก “อาซู บอกความจริงกับผมมา คุณได้กินยาจีนตัวอื่นเข้าไปหรือเปล่า?”“เปล่า” เสิ่นชิงซูพูด “คืนที่โม่ไป๋พาฉันหนีออกมา เราก็เจอกับเหตุการณ์เครื่องบินตก โชคดีที่ลอยไปติดเกาะเล็ก ๆ ที่หนึ่งแล้วได้พักอยู่สองสามวัน ที่นั่นล้าหลังมาก หาหมอมารักษาให้ฉันไม่ได้เลย”จิ้นเชวี่ยจ้องมองเธอ พูดแทงใจดำโดยตรง “แต่พวกคุณไปที่ประเทศเอ ท่านเจ็ดเป็นคนรับรองพวกคุณ”“โม่ไป๋พาฉันไปหาท่านเจ็ดจริง แต่ท่านเจ็ดไม่ได้พบฉัน เขาให้แค่อาลี่มาต้อนรับพวกเรา อาลี่พอจะรู้เรื่องแพทย์แผนจีนอยู่บ้า
ประเทศเอ็น สนามบินเซิ่งตูเครื่องบินส่วนตัวลงจอดประตูห้องโดยสารเปิดออกพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินพยุงเสิ่นชิงซูเดินออกมาดวงตาของเสิ่นชิงซูมองไม่เห็น สัมผัสได้เพียงลมที่พัดปะทะใบหน้าซึ่งมีความร้อนอบอ้าวประเทศในเขตร้อนแห่งนี้ อุณหภูมิตอนกลางวันมักจะสูงเสมอกวนเยว่เป็นตัวแทนของจิ้นเชวี่ยมาเพื่อรับเสิ่นชิงซูพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินพยุงเธอขึ้นรถ แล้วปิดประตูกวนเยว่ขับรถในรถเงียบมาก เสิ่นชิงซูก็สงบนิ่งเช่นกันกวนเยว่มองเสิ่นชิงซูผ่านกระจกมองหลังหลายครั้ง เห็นเพียงเธอนั่งเงียบ ๆ ไม่ได้มีท่าทีว่าถูกบีบบังคับเลยแม้แต่น้อยแต่จิ้นเชวี่ยทำอะไรกับเสิ่นชิงซู กวนเยว่ในฐานะลูกน้องที่จิ้นเชวี่ยไว้ใจที่สุดย่อมรู้ดีอยู่แล้วการที่เสิ่นชิงซูสามารถสงบนิ่งได้ขนาดนี้ กวนเยว่รู้สึกประหลาดใจจากสนามบินถึงคฤหาสน์ส่วนตัวเซิ่งตูใช้เวลาเดินทางเกือบสี่สิบนาทีสภาพจิตใจของเสิ่นชิงซูไม่ค่อยดีนัก ช่วงครึ่งหลังเธอพิงพนักพิงแล้วง่วงซึมรถขับเข้ามาในคฤหาสน์รถหยุดลงประตูรถถูกเปิดออกเสียงของกวนเยว่ดังขึ้น “คุณเสิ่น พวกเราถึงแล้วครับ”เสิ่นชิงซูตื่นขึ้นมา ยกมือขึ้นนวดขมับจากนั้น เธอก็วางมือท
อาลี่หัวเราะเบา ๆ “คุณเสิ่นรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าโม่ไป๋คือคุณฟู่?”“ไม่นานมานี้ค่ะ” ในใจของเสิ่นชิงซูค่อนข้างร้อนรน “อาลี่ ฟู่ซือเหยียนไปหาจิ้นเชวี่ยแล้วใช่ไหมคะ?”“เขาตั้งใจจะไปครับ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ไป เขายังมีเรื่องบางอย่างที่ต้องจัดการให้เรียบร้อยก่อน จัดการเรียบร้อยแล้ว เขาก็จะไป”อาลี่พูดอย่างตรงไปตรงมาเสิ่นชิงซูก็เข้าใจแล้ว“คุณหวังว่าฉันจะห้ามเขาได้ใช่ไหมคะ?”อาลี่มองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ในใจก็ชื่นชมเช่นกัน“คุณเสิ่นสมแล้วที่เป็นคนที่ท่านเจ็ดของเรามองด้วยความชื่นชม คุณฉลาดมาก และก็ใจเย็นมากด้วย”“อาลี่ ถ้าเลือกได้ ฉันหวังว่าฉันจะไม่เคยเจอพวกเขาเลย”ขอบตาของเสิ่นชิงซูแดงก่ำเล็กน้อย “คืนนั้น ฉันออกมาจากสถานีตำรวจ เพราะบังเอิญช่วยจิ้นเชวี่ยไว้ หลังจากนั้น ระหว่างทางกลับบ้านเพราะมัวแต่คิดอะไรเพลิน ๆ ก็เลยข้ามถนนตอนไฟแดง ถูกรถของฟู่ซือเหยียนเฉี่ยวจนบาดเจ็บ ฟู่ซือเหยียนส่งฉันไปโรงพยาบาล ตอนนั้นเขาให้นามบัตรฉันเพื่อคุยเรื่องค่าเสียหาย ฉันเพราะเห็นว่าเขาเป็นทนาย ก็เลยเกิดความคิดที่จะร่วมมือทำข้อตกลงกับเขา...”อาลี่ถอนหายใจ “บางทีนี่อาจจะเป็นโชคชะตา”“พี่น้องต่างแม่คู่นี้ ฉ







