LOGIN“พี่ฟี่รู้ไหม ตอนที่เฟียไปตามสามีพี่ให้กลับมาดูแลพี่อะ สามีพี่เขาหม้อเฟียด้วย ทั้ง ๆ ที่ก็รู้นะว่าเฟียคือแฟนหลานตัวเอง คนอะไรไม่รู้จักระงับตัณหาเลย”โซฟี่ได้ฟังแล้วก็ชำเลืองมองไปทางห้องครัวซึ่งคนที่น้องสาวเอ่ยถึงอยู่ในนั้น สายตาเธอดูขุ่นเคืองไม่น้อย เขากล้าทำแบบนี้กับน้องสาวของภรรยาแล้วก็แฟนหลานแท้ ๆ ของตัวเองได้ยังไง ไม่รู้สึกละอายใจอะไรบ้างเลยเหรอ“แล้วเขาก็บอกเฟียด้วยนะ ว่าจะเอาปืนเป่ากบาลเฟีย ถึงเป็นน้องสาวเมียก็จะไม่เว้น เพราะเฟียขู่ว่าจะไปเรียนยิงปืนมายิงเขา ถ้าเขายังไม่สนใจดูแลพี่ฟี่อยู่แบบนี้”โซฟี่กำหมัดที่อยู่ข้างลำตัวแน่นทันที เธอรักน้องสาวเธอยิ่งกว่าอะไร เขาทำเธอเธอไม่ว่า แต่อย่ามาทำน้องสาวเธอ เธอไม่มีวันยอมแน่ ข้ามศพเธอไปก่อนเถอะ“ดูสามีพี่สิ เหอะ คิดว่ามีอำนาจ เป็นมาเฟียแล้วจะทำอะไรก็ได้เหรอ แย่มาก เฟียไม่อยากให้พี่ฟี่คบอยู่กับเขานานเลย อยากให้หย่ากันไว ๆ คนนิสัยไม่ดี เดี๋ยวทำพี่สาวเฟียเสียคนหมด”“เฟียก็รู้ ว่าพี่ไม่คล้อยตามเขาง่าย ๆ หรอก”“เฟียรู้ว่าจริง ๆ พี่เป็นคนยังไงค่ะ แต่เฟียก็กลัวอยู่ดี เพราะผู้ชายคนนั้นก็ดูร้ายใช่เล่น โดยเฉพาะกับผู้หญิง คำพูดคำจาเนี่ยนะ-”โซฟี่จ
หลังจากเชสวางโซฟี่ลงนอนบนโซฟาในห้องนั่งเล่นอย่างเบามือแล้ว เขาก็นั่งตามไปที่เก้าอี้นวมข้าง ๆ มองเธออยู่อย่างนั้น“ไม่สบายอยู่ยังจะลุกไปหามันอีก เมินมันไปก็ได้ จะไปสนใจทำไม คนรู้จักก็ไม่ใช่ ดูซิเป็นลมอีกเลยเนี่ย”“ไอ้สันดานนั่นก็ช่างกล้า ทรงติ๋มซะขนาดนั้นยังจะมาชวนเมียกูโม้คค__ เหอะ เมียกูคงเอามึงหรอก”บ่นพึมพำคนเดียวไม่นานก็เห็นว่าโซฟี่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เชสจึงกระตือรือร้นรีบย้ายตัวไปนั่งข้าง ๆ กายเธอ ริมโซฟาทันที“โซฟี่”“คุณเชส..”“อย่าเพิ่งลุก นอนไปงี้ก่อน พักผ่อนนะ” บอกพลางนำมือข้างหนึ่งลูบกระหม่อมบางไปมาเบา ๆ“คุณนั่งดี ๆ ไหมคะ นั่งตรงนี้พื้นที่มันน้อย เดี๋ยวตกไปนะ”“ตกก็ไม่เป็นไร ฉันอยากนั่งข้าง ๆ ดูแลเมียฉัน”“…”“ทีหลังถ้าไอ้แว่นนั่นมันมาหาอีก ไม่ต้องออกไปหามันแล้วนะ รู้ไหม”“ทำไมคะ..”“มันมองเธอตาลุกวาวซะขนาดนั้น ดูก็รู้ว่ามันสนใจเธอ”“..แล้วทำไมคะ”“เอ๊า ก็เธอเป็นเมียฉันไง จะไปให้ความหวังผู้ชายคนอื่นอีกได้ไง”“ได้สิคะ ก็คุณเป็นคนบอกเอง เราไม่ได้รักกัน ถ้ามีคนอื่น ไม่ว่าจะทางกายหรือทางใจ ก็ไม่ถือว่าเป็นการนอกกายนอกใจ”“…” เชสถึงกับเงียบไป เขาเคยพูดจริง ๆ แต่เมื่อกี้กลับลืมมันไป
ผู้เป็นสามีประคองภรรยาให้ลุกขึ้นนั่งอย่างทะนุถนอม ตั้งแต่รู้เรื่องว่าเธออาการหนักกว่าเมื่อเช้า สายตาแสดงออกถึงความเป็นห่วงไม่หายไปจากดวงตาเขาเลย กระทั่งตอนนี้“นั่งได้ใช่ไหม ไหวไหมโซฟี่”หญิงสาวพยักหน้าหงึก ๆ ตอบด้วยรอยยิ้มบาง ๆ คนได้คำตอบจึงยิ้มตามแล้วนำมือมาลูบศีรษะเธอ จากนั้นก็ตักอาหารป้อนให้ต่อชายหนุ่มมองปากของคนตัวเล็กขณะยื่นช้อนไปทางเธอพลางอ้าปากขึ้น เชิงบอกให้โซฟี่เปิดปากรับอาหารเข้าไปเธออมยิ้มขำเล็กน้อย ก้มหน้าหลบไม่ให้เขาเห็นปฏิกิริยาของตน“ขำอะไรโซฟี่ กินสิ” เชสหลุดยิ้มตามเธอแล้วถามด้วยความเอ็นดู“คุณอ้าปากทำไมคะ” พูดไปก็พยายามกลั้นขำไป“อ้อ.. มันเป็นไปเองน่ะ สงสัยเพื่ออรรถรส”“หึ”“ดีใจที่เธอยิ้มได้นะ หายป่วยไว ๆ รู้ไหม”โซฟี่ยิ้มให้เขาพลางพยักหน้าเบา ๆ“ค่ะ ฉันจะหายไว ๆ”“ดีมาก มา อ้ามม”คนตัวเล็กยิ้มขำเล็กน้อย ก่อนจะอ้าปากรับอาหารที่ชายหนุ่มป้อนเข้ามา“หึ เธอนี่เคี้ยวละเอียดดีจริง ๆ ดีแล้ว กระเพาะจะได้ไม่ทำงานหนัก”“ฉันได้รับการอบรม สอนให้เคี้ยวอาหารให้ละเอียดมาตั้งแต่เด็กน่ะค่ะ”“ไม่น่าล่ะ วันนั้นที่กินข้าวด้วยกันเธอถึงเคี้ยวละเอียด แถมยังอิ่มเร็ว”โซฟี่อมยิ้มขณะใช้ฟัน
ปัง ปัง ปัง!!เสียงยิงปืนดังลั่นสนามติดต่อกันหลายนัด กลางเป้าปืนซึ่งเป็นจุดที่ยิงโดนยากที่สุดเป็นรูพรุนอัดเต็มไปด้วยลูกกระสุนที่เชสลั่นไกไป“แม่งเอ๊ย!! ทำไมมันน่ารำคาญขนาดนี้วะ!”“วันนี้นายไม่ดื่มแก้เซ็งเหรอครับ” มือขวาของเชสถามด้วยความเกรงกลัวเล็กน้อย“ถ้ากูแดกกูจะมายิงเป้าเหี้ยนี่อยู่ไหม!! ถามห่าอะไรดูบ้าง!!”“ขอโทษครับนาย” พูดพลางก้มหน้า ก้าวถอยไปด้านหลัง กลับไปยืนที่เดิม“เมียกูดูท่าไม่ชอบกลิ่นเหล้า กูไม่อยากให้มีกลิ่นติดตัวกูกลับไป ช่วงนี้ต้องเอาใจเมีย” พูดแล้วก็ตั้งปืนจ่อปลายกระบอกไปทางเป้าใหม่ เตรียมจะยิงต่อปัง ปัง ปัง!!โชนและโซเฟียซึ่งเพิ่งมาถึงที่นี่ เดินเข้ามาใกล้บริเวณที่เชสอยู่ เห็นเขากำลังยิงปืนก็หยุดยืนมอง หลบกันอยู่หลังกำแพงโชนโทรศัพท์ถามปู่ของตน ให้ช่วยดูให้หน่อยว่าตอนนี้เชสอยู่ที่ไหน ปู่ซึ่งรักหลานคนเดียวของตนตอนนี้ที่สุดจึงหาคำตอบให้อย่างรวดเร็ว คู่ชายหญิงถึงได้มาถึงที่นี่กันได้“ผมหาผู้หญิงมาบำเรอนายแก้ขัดให้ไหมครับ เห็นว่าเมียนายจืดชืด ไม่น่าตื่นเต้นเลย นายคงจะเบื่อ หิวอยากจะกินแต่สาว ๆ สวย ๆ”พลั่ก!!เชสหันมาตวัดปืนในมือฟาดเข้าแก้มของลูกน้องอีกคนซึ่งเป็นคนพูดปร
แสงแดดยามเช้าเริ่มคลี่คลุมไปทั่วถนนขนาดเล็ก กลิ่นข้าวสวยหอมกรุ่นลอยปะปนกับอากาศบริสุทธิ์ทั่วบริเวณ ทั้งยังมีเสียงนกกระจิบร้องให้บรรยากาศอยู่บนสายไฟคนตัวเล็กในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงขายาวคลุมถึงข้อเท้าสีครีมยืนอยู่ข้างโต๊ะไม้หน้าบ้าน มือเธอประคองถาดใส่ข้าวสวยและถุงร้อนบรรจุอาหารที่เพิ่งประกอบเสร็จด้วยตนเอง มีคนตัวใหญ่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนพับจนถึงข้อศอกกับกางเกงสแล็คสีดำยืนอยู่ข้าง ๆ ท่าทางของเขาดูไม่คุ้นชินนัก แต่กลับตั้งใจจนคนมองต้องแอบยิ้ม“ชุดนี้คุณตั้งใจเปลี่ยนมาเพื่อตักบาตรโดยเฉพาะเลยเหรอคะ” หญิงสาวถามเขา“ใช่ ฉันไม่รู้จะต้องใส่ยังไง ก็เลยเอาที่ดูดีไว้ก่อน นี่เสื้อสีขาวตัวเดียวที่มีเลยนะ ปกติฉันใส่แต่สีดำ”โซฟี่อมยิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อได้ฟังคำตอบ เหมือนจะแค่ทำเอาใจเธอ แต่เขาก็ใส่ใจกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้พระสงฆ์สามรูปเดินเรียงแถวเข้ามาจากปากซอย หญิงสาวจึงก้มศีรษะลงรอ เชสเห็นแล้วก็ก้มตามอย่างเงอะงะ เนื่องจากไม่เคยเข้าวัดทำบุญมาก่อนเลยในชีวิต และไม่เคยก้มหน้าให้ใคร แต่นี่มาตักบาตรครั้งแรกกับภรรยาคนสวย เธอคล่องแคล่วเรื่องนี้ เขาจึงเลือกที่จะทำตามเธอ“เดี๋ยวคุณตั้งจิตให้ดี
โซฟี่ปรับน้ำเสียงให้เป็นโทนอ่อนหวานแทบไม่ทัน เธอวางมีดที่หั่นผักอยู่ลง จับพลิกคว่ำหน้าจอมือถือลงกับพื้นเคาน์เตอร์ ก่อนจะหมุนตัวหันไปมองชายหนุ่ม“ทำไมคุณตื่นเช้าจังคะ”“ทำไมเธอพูดคำหยาบ ยังไม่ตอบฉันเลยนะ”“เอ่อ.. พอดี ฉันอยากลองพูดดูบ้างน่ะค่ะ อยากรู้ว่าถ้าตัวเองพูดจะเป็นยังไง”“แต่เหมือนเธอคุยกับใครนะ”“คือ.. ฉันคุยกับ AI ค่ะ บรีฟไว้ว่าให้ช่วยต่อบท”“..อะไรจะขนาดนั้น”“ถ้าคุณไม่เชื่อ ลองคุยดูก็ได้นะคะ”[เอ๊าอิฟี่ มึงจะให้กู-] เมย์พูดตกใจเข้าสาย แต่ยังไม่ทันเอ่ยจบประโยคก็ต้องชะงักไปก่อน เมื่อได้ยินเสียงชายหนุ่มคุยกับตนโดยตรง“ฮัลโหล”[อ้าวเฮ้ยย สวัสดีมนุษย์ใหม่ มึงเป็นใครเนี่ย]เชสขมวดคิ้วเข้มเมื่อได้ยิน ก่อนจะนำหูฟังออกจากหูแล้วส่งคืนให้หญิงสาว“แอปฯ อะไร AI คุยโทรศัพท์ได้ด้วย” เขาถามโซฟี่“พูดไปคุณก็ไม่รู้จักหรอกค่ะ” เธอตอบพลางอมยิ้มให้เขา รับหูฟังมาใส่กลับคืนดังเดิมด้วยท่าทีสงบนิ่ง ทำตัวให้เป็นปกติที่สุด“วางสายไปเถอะ อย่าไปหัดทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวเธอเลย เธอเป็นเธอแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว จะไปฝึกพูดทำไมคำหยาบ”โซฟี่กดวางสายผ่านหูฟัง จากนั้นก็ถอดมันออก“ก็จริงค่ะ ฉันลองพูดแล้วมันไม่เข้ากับฉัน







