공유

บทที่ 2 คนของแม่

last update 최신 업데이트: 2025-04-25 20:17:05

หนึ่งอาทิตย์ต่อมา

         “มุก! ทำไมมาอยู่ที่นี่เนี่ย” วารีตะโกนเสียงดังเมื่อกลับมากินข้าวเที่ยงที่บ้านแล้วเจอมุกดากำลังทำอาหารอยู่ในครัวของเธอ

         “จะตะโกนทำไมคะ เสียงดังชะมัด มุกแสบแก้วหูไปหมดแล้วเนี่ย” มุกดาตอบกลับอย่างไม่แยแส เธอเดินมายังโต๊ะกินข้าวแล้ววางจานไข่เจียวกุ้งสับที่สีเหลืองนวลน่าทานลงบนโต๊ะ

         วารีหลุบสายตาลงต่ำมองอาหารในจานแล้วกลืนน้ำลายลงคอ เพราะสิ่งที่เห็นคือเมนูโปรดของเธอ นอกจากแม่แววแล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าเธอชอบอะไร

         นอกจากเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยสนิทด้วยเมื่อตอนเด็ก ซึ่งตอนนี้วารีพยายามลืมเรื่องนั้นไปแล้ว

         แต่ดูเหมือนว่า ยิ่งเธอพยายามลบเลือนเรื่องราวบางอย่างในใจ คนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทุกอย่างก็วนกลับมายืนอยู่ต่อหน้าเธอจนได้

        

“ใครอนุญาตให้เข้ามาเพ่นพ่านในครัวบ้านพี่ อีกอย่าง พี่บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่ามาที่นี่อีก พี่ไม่อยากเห็นหน้ามุก”

         “ที่นี่ไม่ใช่บ้านพี่วาคนเดียวสักหน่อย บ้านแม่แววด้วย”

         “แล้วยังไง?”

         “แม่แววให้มุกมาทำงานด้วยค่ะ”

         “ห้ะ ทำงาน?”

         “โอ๊ย ตะโกนอีกแล้ว เมื่อไหร่พี่จะเลิกเป็นคนโหวกเหวกโวยวายสักทีคะ”

         “แล้วจะทำไม พี่จะเป็นแบบไหนมันก็ไม่เกี่ยวกับมุก แล้วเมื่อกี้ว่าไงนะ แม่ให้มาทำงานเหรอ ทำอะไร?”

         วารียืนกอดอกแน่น สายตาของเธอจ้องมองใบหน้ามุกดาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ

         “แม่แววให้มุกมาช่วยที่ร้านอาหารค่ะ เป็นผู้จัดการร้านแล้วก็ช่วยดูเรื่องวัตถุดิบที่เกี่ยวกับสัตว์ทะเลที่ชาวบ้านเอามาขายด้วย”

         “ไม่จำเป็น! ร้านพี่ไม่ต้องมีตำแหน่งนี้ ปกติตำแหน่งผู้จัดการก็ไม่เคยมีอยู่แล้ว แม่เป็นคนดูแลทุกอย่าง ส่วนเรื่องสัตว์ทะเลที่ชาวบ้านเอามาขาย พี่เป็นคนดูส่วนนี้ เพราะฉะนั้น..”

         วารีขยับเข้ามาใกล้มุกดา โน้มใบหน้ามาใกล้เพื่อตั้งใจมองใบหน้าอีกฝ่าย ก่อนจะเอ่ยด้วยถ้อยคำย้ำชัดว่า

         “ที่นี่ไม่มีงานให้เธอทำ กลับ ไป ได้ แล้ว!”

         “ไม่กลับค่ะ เพราะแม่แววรับมุกเข้าทำงานแล้ว อีกอย่าง พี่วาไม่มีสิทธิไล่มุกออกนะคะ เพราะมุกเป็นพนักงานของแม่ค่ะ ไม่ ใช่ ของ พี่!”

         มุกดาเองก็ตอบกลับไปอย่างชัดถ้อยชัดคำ แม้ว่าเธอจะอายุน้อยกว่าวารีถึงหกปี แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีเกรงกลัวอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย

         “จะเอาแบบนี้ใช่มั้ย?” วารีถามกลับด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง

         “ทำไมคะ พี่จะทำอะไร?”

         “หึ พี่เหรอจะทำอะไรเธอได้ เล่นเข้าทางแม่ซะขนาดนี้พี่คงแตะต้องเธอได้งั้นแหละ ฉลาดดีหนิที่เลือกใช้วิธีนี้ แต่พี่บอกไว้ก่อนเลยนะ ถึงมุกจะเป็นพนักงานของแม่ ก็ยังถือว่าเป็นคนของวารีฟาร์มอยู่ดี แม้งานจะคนละส่วน แต่พี่ก็เป็นคนที่มีสิทธิตัดสินใจในทุกอย่าง เพราะฉะนั้น ถ้า..”

         “ถ้าอะไรวา”

        

ไม่ทันที่วารีจะพูดจบ เสียงของแม่แววที่ดังขึ้นด้านหลังทำให้บทสนทนาของทั้งคู่ต้องหยุดชะงักในทันที

         แม่แววเดินเข้ามาในห้องครัว ยืนคั่นกลางระหว่างคนทั้งคู่ แล้วมองหน้าลูกสาวตัวเองสลับกับใบหน้าของมุกดา

         “มุกเป็นคนของแม่นะ วาไม่มีสิทธิทำอะไรโดยพลการ แล้วก็หัดพูดจาดี ๆ กับน้องด้วย เลิกขึ้นเสียงใส่น้องแล้วก็เลิกโหวกเหวกโวยวายได้แล้ว เสียงคุยกันได้ยินไปถึงร้านอาหารโน่น”

         วารีถึงกับอ้าปากค้างเมื่อโดนแม่ตัวเองตำหนิ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตอนที่มุกดายังไม่กลับมา แม่ของเธอไม่เคยมีท่าทีแบบนี้เลย ไม่ว่าวารีจะทำอะไร แม่แววแทบไม่สนใจ ไม่แสดงความคิดเห็น ไม่ยุ่งเกี่ยว

         แต่ดูเหมือนว่า การกลับมาของมุกดา ได้สร้างความวุ่นวายใจหลาย ๆ อย่างให้กับวารีเป็นอย่างมาก

         “แม่ วาเนี่ยนะคะพูดไม่ดีกับน้อง ขึ้นเสียงใส่? วาเนี่ยนะ?”

         วารีถามย้ำแล้วยกนิ้วชี้ชี้เข้าหาตัวเอง มุกดาเห็นใบหน้าตกใจปนงุนงงของอีกฝ่ายก็หลุดยิ้มออกมา และท่าทีของเธอยิ่งทำให้วารีหงุดหงิดเข้าไปใหญ่

        

“ก็ใช่น่ะสิ แม่ได้ยินเสียงโวยวายไปถึงร้านอาหารโน่น ต่อไปนี้ห้ามทะเลาะกันให้แม่เห็นอีกนะ แล้วก็กินข้าวซะ วันนี้น้องอุตส่าห์มาทำมื้อเที่ยงให้”

         “เหอะ แล้วใครขอล่ะ ปกติวาก็ทำของวาเองได้ หรือไม่ แม่ก็ทำกับข้าวไว้ให้เหมือนเมื่อก่อนสิคะ ไม่ต้องรบกวนคนกรุงหรอกค่ะ ไปอยู่กรุงเทพตั้งนานคงจะทำอาหารใต้ไม่เป็นแล้วล่ะ รสชาติฝีมือก็คงจะเพี้ยน ไม่รู้จะได้กินหรือได้เททิ้งกันแน่”

         “เอ๊ะวา แม่บอกว่าให้คุยกันดี ๆ ไง พูดยังไม่ทันขาดคำ ว่าน้องอีกแล้ว”

         “โอ๊ย พูดไม่ได้เลย อะไรก็ไม่ได้ เข้าขากันดีนักก็อยู่ด้วยกันเลยค่ะ วันนี้วาไม่กินข้าวที่นี่ วาจะไปฟาร์ม”

         วารีพูดจบก็เดินออกไปจากห้องครัวของบ้าน ไม่ฟังเสียงโวยวายของแม่แววที่ตามหลังมาอีกยืดยาว

         คนอาวุโสกำลังจะก้าวตามไปเพื่อคุยกับลูกสาวตัวเอง แต่มุกดาคว้ามือเธอไว้ซะก่อน

“ไม่ต้องค่ะแม่ เดี๋ยวมุกจัดการเอง แม่กลับไปดูร้านเถอะค่ะ ไม่ต้องห่วงทางนี้”

         “แต่วายังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลยนะมุก รายนั้นน่ะเป็นโรคกระเพาะ อีกอย่างที่ฟาร์มช่วงนี้ร้อนมาก ไม่กินข้าวแล้วจะทำงานไหวยังไง ดูตารางงานโน่นสิ เบียดกันแน่นจนแม่คิดว่าเป็นดาราไปแล้วทุกวันนี้” คนเป็นแม่ถอนหายใจเบา ๆ แล้วชี้ไปยังป้ายไวท์บอร์ดสีขาวที่เขียนตารางงานของวารีในหนึ่งวันเอาไว้

         มุกดาหันมองตามนิ้วชี้ของแม่แวว กวาดสายตามองตารางการทำงานของวารีคร่าว ๆ เพียงแป๊บเดียวเธอก็พอจะจำได้ว่าแต่ละวันวารีต้องทำอะไรบ้าง

         “เดี๋ยวมุกจัดการให้นะคะ ถ้าพี่วาไม่กินข้าวที่นี่ งั้นมุกเอาใส่ปิ่นโตไปให้ที่ฟาร์มก็ได้ค่ะ”

         “อืม แบบนั้นก็ได้ลูก แม่ฝากหน่อยนะมุก เสร็จแล้วไปช่วยแม่ที่ร้านนะ”

         “ได้ค่ะแม่ เดี๋ยวมุกตามไปค่ะ”

         หลังจากแยกย้ายกับแม่แวว มุกดากลับเข้าไปในกลัวแล้วเตรียมกล่องข้าวให้วารี พร้อมกับที่ในหัวก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย

เรื่องราวความหลังระหว่างเธอและวารีนั้น มุกดาไม่เคยลืม กลับกันเธอจำมันได้ขึ้นใจด้วยซ้ำ เพราะมันเป็นต้นเหตุให้เธอเลือกที่จะไปเรียนต่อที่กรุงเทพ เพื่อหาคำตอบบางอย่าง

         แม้ว่าตอนนี้คำตอบที่ตามหาจะยังไม่เจอ แต่การที่เธอเลือกลาออกจากงานและกลับมาอยู่บ้าน นอกจากเหตุผลที่มาดูแลแม่ที่ป่วยแล้ว

         อีกเหตุผลก็คือวารี

         เพื่อเป็นการไถ่โทษ..และเพื่อเป็นการปรับความเข้าใจ หากอะไร ๆ มันไม่ร้ายแรงไปกว่านี้ และสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ มุกดาก็อยากให้มันเป็นแบบนั้น

         กล่องข้าวสำหรับมื้อเที่ยงเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยอาหารเที่ยงมื้อนี้เป็นข้าวไข่เจียวกุ้งสับ มีแกงไตปลา[1] ใส่กระปุกเล็กไปด้วย พร้อมแตงโมเนื้อสีแดงสดปอกพร้อมทาน แน่นอนว่า ทุกอย่างคือของโปรดของวารี

จากบ้านไม้หลังใหญ่ ใช้เวลาเดินมายังวารีฟาร์มประมาณสองร้อยเมตร ปกติที่นี่จะมีทั้งรถจักรยานและมอเตอร์ไซต์ที่สามารถใช้ขี่ไปยังจุดต่าง ๆ ในอาณาจักรของวารีได้ แต่มุกเลือกที่จะไม่ใช้

        

เมื่อเดินไปถึงฟาร์มหอยมุก เธอก็เห็นวารีกำลังเดินคุยงานกับพนักงานผู้ชายสองคน เมื่ออีกฝ่ายหันมาเห็นเธอ ก็ขมวดคิ้วทันที

         วารีหันไปคุยกับลูกน้องของเธออีกไม่กี่คำแล้วเดินตรงดิ่งมาหาคนที่กำลังเดินก้าวยาว ๆ ไปยังโรงเรือนเล็ก ๆ ที่สร้างง่าย ๆ สำหรับนั่งพักผ่อนและเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในฟาร์ม

         “มาที่นี่ทำไม” น้ำเสียงแข็งกระด้างเอ่ยมาทันที

         “เอาข้าวเที่ยงมาให้ค่ะ ถ้าพี่ไม่กินข้าวแล้วเป็นลมเป็นแล้งไปซะก่อน แม่แววจะหาว่ามุกดูแลพี่ไม่ดีนะคะ”

         “ถ้าเหตุผลแค่นี้ไม่จำเป็นหรอก ต่อให้พี่จะเป็นอะไรไปก็เชื่อได้เลยว่าพี่จะไม่พูดถึงเธอให้แม่ฟังแบบเสีย ๆ หาย ๆ แน่นอน ตอนนี้เธอกลายเป็นลูกรักเบอร์หนึ่งไปแล้ว ดีใจด้วยนะ”

         “เอาเถอะค่ะ มุกไม่อยากเถียงกับพี่แล้ว กินข้าวซะ มีแกงไตปลาด้วย แตงโมก็มี เนื้อหวานมากนะคะ”

วารีจ้องมองใบหน้าคนตรงหน้าสลับกับมองถุงผ้าในมือของมุกดาที่ยื่นมาตรงหน้า

         “ทำแบบนี้ทำไม มาทำดีกับพี่เพื่ออะไร จำไม่ได้เหรอว่าระหว่างเรามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง?”

[1] แกงไตปลา เป็นอาหารขึ้นชื่อของภาคใต้ รสชาติเผ็ดร้อนเข้มข้นด้วยส่วนผสมหลักคือกระเพาะของปลาที่ผ่านการหมักดองและนำมาต้มสุก ปรุงรสด้วยเครื่องเทศหลายอย่าง มีทั้งเนื้อปลาและผักหลายชนิด รสชาติจัดจ้านนิยมทานกับข้าวสวยร้อน ๆ หรือไข่เจียว และผักต่าง ๆ

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   ตอนพิเศษ (2) อยู่ดี ๆ ก็มีลูก

    หลังจากแต่งงานกันมาได้สองปี ตอนนี้ทั้งวารีและมุกดาก็มีความสุขดีตามประสาคู่ชีวิตทั่วไปที่ช่วยกันทำงานและดูแลกิจการ ส่วนเรื่องของการมีลูกนั้น ทั้งคู่ไม่ได้คิดเรื่องนี้ เพราะวารีเองก็อายุ39ปีแล้ว ส่วนมุกดาปีนี้ก็33 หากจะใช้วิธีทางการแพทย์เพื่อให้ได้มาซึ่งการมีลูกก็อาจจะเสี่ยงในหลาย ๆ อย่าง ทั้งคู่เลยไม่ได้คิดเรื่องนี้ แต่ใครจะคิดว่าจู่ ๆ ฟ้าจะส่งเด็กน้อยสองคนมาให้ วันนี้วารีและมุกดาพากันมาบริจาคของเล่นและสิ่งของต่าง ๆ ให้กับสถานสงเคราะห์บ้านเด็กกำพร้า ซึ่งทั้งคู่แวะมาที่นี่กันบ่อย บางครั้งก็แวะมาเล่านิทาน ร้องเพลง ทำกิจกรรมร่วมกับเด็ก ๆ และทุกครั้งที่จะกลับ มักจะมีสายตาละห้อยของเด็ก ๆ มองพวกเธอเสมอทำให้มุกดาอดคิดถึงลูกจันทร์น้องสาวของเธอไม่ได้ หากวันนั้นแม่ของเธอไม่รับลูกจันทร์มาเลี้ยง ไม่รู้ว่าตอนนี้ชีวิตของน้องสาวตัวเองจะเป็นยังไงบ้าง หากมีโอกาส มุกดาก็อยากจะช่วยเหลือเด็กที่นี่ได้มากกว่านี้“ทำหน้าเศร้าอีกแล้วนะคะ”วารีเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่เดินอยู่ข้างกันหม่นหมองลงทันทีในตอนที่กำลังจะกลับ“น้องสงสารเด็ก ๆ ที่นี่ค่ะ ใจนึงก็อยากช่วย อีกใจก็รู้ว่าเราคงไม่มีกำล

  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   ตอนพิเศษ (1) ดูงานต่างประเทศ

    สนามบินต่างประเทศในเช้าตรู่เต็มไปด้วยเสียงจ้อกแจ้กจากนักท่องเที่ยว แต่วารีกลับรู้สึกสงบอย่างประหลาด มือที่กุมมือมุกดาไว้แน่น ๆ คือคำยืนยันว่าการเดินทางไปดูงานต่างประเทศครั้งนี้ เธอไม่ได้เดินทางเพียงคนเดียวอีกต่อไป การเดินทางมาโตเกียวครั้งนี้ คนที่ดูจะตื่นเต้นกว่าคือมุกดา และเป็นฝ่ายจัดกระเป๋าเตรียมทุกอย่างให้วารีอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แม้จะแต่งงานกันมานานแล้ว แต่เรื่องของความรักและการเอาใจใส่กันยังคงเป็นสิ่งที่ทั้งคู่เติมเต็มให้กันเสมอ“พี่วาคะ น้องได้ยินมาว่า ร้านเครื่องประดับในโตเกียวนี่ขึ้นชื่อเรื่องดีไซน์ที่เอามุกมาประยุกต์แบบโมเดิร์นเลยนะคะ” มุกดาหันมาพูดอย่างตื่นเต้น ขณะที่ทั้งคู่รอแท็กซี่ที่หน้าโรงแรมวารีพยักหน้า ดวงตาหวานฉ่ำมองคนข้างกาย “เดี๋ยวก็ได้เห็นค่ะ พี่เองก็อยากดูว่าเขาเอาแนวคิดธรรมชาติมาใส่ในเครื่องประดับยังไงบ้าง จะได้กลับไปพัฒนาไลน์ของเราเพิ่ม”ทริปนี้วารีตั้งใจพามุกดามาด้วย เพราะอยากให้เห็นกระบวนการด้านศิลป์และการตลาดจากทั่วโลก ไม่ใช่แค่เรื่องอนุรักษ์หรือการผลิตเพียงอย่างเดียว มุกดาเองก็ตื่นเต้นไม่น้อย เพราะนี่คือครั้งแรกที่เธอได้มาดูนิทรรศการเครื่องประดับหอ

  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   บทที่ 30 เจอเจ้าสาวได้ยังไง

    เสียงคลื่นซัดเบา ๆ อยู่ไม่ห่างจากเวทีไม้ไผ่ที่จัดวางกลางลานหญ้าของฟาร์มวารี เส้นไฟดวงเล็กวิบวับถูกขึงข้ามเหนือหัวผู้คน บรรยากาศค่ำคืนโรแมนติกอบอวลด้วยกลิ่นอาหารทะเลสด ๆ และเสียงหัวเราะของผู้ที่มาร่วมงานโต๊ะยาวที่จัดเรียงหน้าฟาร์มเต็มไปด้วยอาหารพื้นบ้านอย่างหอยทอด ข้าวเหนียวปิ้ง ปลาย่าง และของหวานแบบไทย ๆ ที่แม่ ๆ ป้า ๆ แถวนั้นตั้งใจทำมาจากบ้านตัวเอง เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ ‘วันสำคัญของสองสาวเจ้าของฟาร์ม’“บรรยากาศดีจนฉันอยากแต่งงานอีกรอบเลย” คิรินเอ่ยพลางยกแก้วน้ำมะพร้าวขึ้นจิบ หันไปมองวิวาห์ที่นั่งอยู่ข้างกันแล้วส่งยิ้มหวานวิวาห์หันไปทางเวทีกลาง พูดเสียงเบาเหมือนกำลังคิดตาม “วารีดูอ่อนโยนขึ้นเยอะเลยเนอะตอนอยู่กับมุก ไม่น่าเชื่อเลยว่าทั้งคู่จะวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง”“นั่นสิ ไม่น่าเชื่อว่าเด็กที่ชื่อมุกดา คนที่เคยทำให้เพื่อนเราร้องไห้จนแทบจะขาดใจตาย ทำให้คนที่เคยเหมือนหินก้อนเบ้อเริ่ม กลายเป็นขนมโมจิได้ เห็นหน้าวารีเมื่อกี้มั้ย เหมือนลูกแมวเลย” คิรินหัวเราะเบา ๆบนเวทีไม้ไผ่ มุกดาในชุดไทยผสมลูกไม้ประยุกต์สีครีมอ่อน ยืนจับมือกับวารีที่อยู่ข้างกัน ทั้งสองคนยิ้มเขินนิด ๆ ขณะท

  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   บทที่ 29 แขกพิเศษ

    งานแต่งงานของวารีกับมุกดาในวันนี้ จะเรียกงานแต่งก็อาจจะไม่ถูกซะทีเดียว เพราะบรรยากาศมันเหมือนการรวมพลเลี้ยงคนในหมู่บ้านมากกว่า วารีไม่คิดเลยว่าแม่ของเธอจะเชิญคนทั้งหมู่บ้านขนาดนี้ บรรยากาศในวันนี้จึงเต็มไปด้วยเสียงเฮฮาและรอยยิ้ม ทำเอาเจ้าสาวทั้งสองคนมีรอยยิ้มสดใส หน้าตาเปล่งปลั่ง มีออร่าตลอดเวลาที่คอยต้อนรับแขกในงาน และความตั้งใจของทั้งวารีและมุกดา ที่อยากให้งานเป็นไปด้วยความเรียบง่าย พิธีวันนี้จึงไม่ได้เคร่งครัดมากนัก มีเพียงการผูกข้อไม้ข้อมือ สวมแหวน และงานเลี้ยงขอบคุณแขกที่มาร่วมงานก็เท่านั้น และสิ่งที่เซอร์ไพรซ์ในงานแต่งวันนี้คือการที่ลูกจันทร์พาใครบางคนมาร่วมงานแต่งของพี่สาวเธอด้วย นั่นก็คือคุณพาขวัญ บุคคลที่ย่างกรายเข้ามาในงานแล้วโดนจับจ้องด้วยสายตาทุกคู่ พาขวัญ อัครเมธากุล เจ้าของมูลนิธิพาขวัญ ผู้ทำประโยชน์ให้กับสังคมมากมาย อีกทั้งยังก่อตั้งมูลนิธิเพื่อให้เงินทุนการศึกษาแก่เด็กยากไร้และเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือ ลูกสาวนักการเมืองตำแหน่งใหญ่ นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักเธอ ว่ากันว่า เธอไม่ชอบงานสังคม เธอหาตัวจับยาก ไม่ค่อยมีใครได้เห็นเธอไปไหนมา

  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   บทที่ 28 สร้อยมุกที่เสกได้

    วารีฟาร์มแห่งนี้ยังคงเต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่นเสมอมา นับตั้งแต่มุกดาเข้ามาที่นี่เจ้าของฟาร์มที่เคยเอาแต่ทำงาน ไม่ค่อยทักทายลูกน้อง ใบหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลาก็ดูจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก วันแต่งงานเข้ามาใกล้มากขึ้น ใกล้จนมันกำลังจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้แล้ว เสียงคลื่นซัดเบา ๆ เข้าฝั่งในยามค่ำคืน ท้องฟ้าริมทะเลมีเพียงแสงดาวกระพริบระยิบ ระเบียงบ้านไม้ที่ยื่นไปในทะเลของวารีเงียบสงบ ลมโชยอ่อน ๆ พัดผ่านม่านบางในห้องนอน ราวกับจะกระซิบเตือนให้หัวใจของคนทั้งสองจดจำช่วงเวลานี้ไว้ให้แม่นมุกดานั่งอยู่บนเตียงไม้สีอ่อน ห่มผ้าบาง ๆ รอบตัว ขาเปลือยเปล่าห้อยแกว่งเบา ๆ กับอากาศ ขณะที่แสงไฟจากโคมข้างเตียงให้แสงอบอุ่นพอดีเสียงประตูไม้เปิดออก วารีในชุดนอนสีน้ำเงินเข้มเดินเข้ามาช้า ๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉยแต่ดวงตาฉายแววอ่อนโยนกว่าทุกคืน“ยังไม่นอนเหรอคะ” คนที่เดินเข้ามาเอ่ยถามแล้วทิ้งตัวนั่งลงข้างกัน“พรุ่งนี้ก็จะแต่งงานแล้ว ใครจะหลับลงกันล่ะ” มุกดาหันมายิ้มตาหยีวารีคลี่ยิ้มมุมปากเล็กน้อย เตรียมเอาของที่สองมือซ่อนไว้ด้านหลังออกมา“พี่มีอะไรจะให้ค่ะ”“หืม?” ม

  • คุณวารีไม่ชอบแมวหยิ่ง   บทที่ 27 ไม่หึงเมียจะหึงใคร

    นับตั้งแต่คุยเรื่องแต่งงาน และได้ข้อสรุปว่า ฤกษ์แต่งงานจะมีขึ้นในอีกสามเดือนข้างหน้า ทางด้านมุกดาก็หันมาดูแลตัวเองมากกว่าเดิม เพราะอยากให้ภาพวันนั้นออกมาสวยงามที่สุด จริง ๆ มันเป็นเรื่องที่ควรทำ เพื่อให้ออร่าเจ้าสาวเปล่งประกาย แต่ดูเหมือนว่าจะมีใครบางคนไม่ชอบเอาซะเลยที่แฟนตัวเองหันมาดูแลตัวเองจนสวยวันสวยคืนมากขึ้น พักหลังมานี้วารีจึงตามติดมุกดามากกว่าเดิม ถ้าเมื่อก่อนแทบจะสิง ตอนนี้คงต้องเรียกว่า แทบจะกลืนกิน ถึงขนาดที่ว่า คนงานในฟาร์มยังไม่กล้ามองมุกดาตรง ๆ เพราะมักจะเจอกับสายตาดุ ๆ ของวารีอยู่เสมอ ส่วนมุกดานั้นไม่ได้ถือสาอะไรกับท่าทีของแฟนตัวเอง เธอมองว่าวารีเหมือนโกลเด้นตัวโตที่อยากให้เจ้าของสนใจก็เท่านั้นวันนี้แดดในช่วงบ่ายคล้อยกำลังอ่อนแรง เสียงคลื่นกระทบชายฝั่งดังแผ่วเบาเหมือนเพลงกล่อม วารีเดินออกจากห้องประชุมในศูนย์การเรียนรู้ของฟาร์ม ด้วยสีหน้าตึงเครียดหลังการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรฯ เสร็จ เธอถอดเสื้อคลุมพาดไหล่ออก เหลือเพียงเสื้อยืดสีขาวตัวเรียบที่เปียกชื้นจากเหงื่อเล็กน้อย ความเหนื่อยล้าจากการทำงานเริ่มแผ่ซึมผ่านท่าทางทุกอณูแต่ทันทีที่

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status