แชร์

ฝึกฝนลับ

ผู้เขียน: 橙花
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-11 12:02:50

       สามวันต่อมา เตียวหย่งไจ้ออกจากตระกูลชิวไปรับรองเพื่อนรัก  เขาขอให้เพื่อนลอบเข้าจวนไปสอนหลานสาวช่วงที่คนในจวนนอนหลับ  สำหรับพื้นฐานวรยุทธของตระกูล เขาบังคับลูกสาวตัวแสบถ่ายทอดให้เพ่ยเพ่ย

       หลังพูดคุยกับเพื่อนจนเข้าใจ  เตียวหย่งไจ้รีบกลับจวนไปรายงานภรรยาสุดที่รักทันที  เจียวไฉ่หลานเองก็ไม่ชักช้า  นางรีบบอกหลานสาวถึงเวลาที่นางต้องฝึกฝน  เด็กน้อยเพ่ยเพ่ยผู้ไร้เดียงสาไม่รู้เลยว่าถูกท่านยายหลอกเข้าให้แล้ว

       สองตายายหลังสะสางเรื่องราวหลานสาว  พวกเขารีบหนีออกจากจวนชิวโดยไม่อยู่รอทานข้าวเย็นเสียด้วยซ้ำ  พฤติกรรมของพวกเขาสร้างความงุนงงให้ในคนตระกูลชิว  แต่สำหรับลูกสาวของพวกเขานั้น  นี่เป็นเรื่องที่สุดแสนจะธรรมดา พวกเขาคงกลัวว่าหลานสาวสุดที่รักจะโกรธเคือง จึงรีบเผ่นหนีกันจนฝุ่นตลบ  เป็นนางเสียอีกที่ต้องเจียดเวลาแสดงความรักกับสามี มาสอนคุณหนูแสนดีของตระกูลชิวไม่พอ พ่อจอมบงการยังทิ้งเรื่องตำหนักให้คนส่งข่าวมาถึงนางหากมีสิ่งที่พ่อบ้านจัดการไม่ได้ด้วย เฮ้อ~~ นางขอลาออกจากการเป็นลูกของพวกเขาตอนนี้ยังทันไหม

       เด็กน้อยชิวเพ่ยเพ่ยผู้ไร้เดียงสา ตั้งแต่ท่านยายคนสวยช่วยหาคนสอนวรยุทธให้นาง นางก็ไม่พบท่านยายกับท่านตาอีกเลย  นางพบเพียงท่านแม่ที่เคยอ่อนโยนต่อหน้าท่านพ่อ แปลงร่างเป็นปีศาจสาวแสนดุร้ายในยามที่สอนพื้นฐานวรยุทธให้นาง ฮือ~~ ข้าขอท่านแม่ผู้อ่อนโยนคืนมาได้หรือไม่

       นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา  ชิวเพ่ยเพ่ยต้องเรียนวรยุทธกับท่านแม่สี่วันต่อสัปดาห์ ส่วนอีกสามวันที่เหลือจะมีท่านตาใจดีสามคนสลับกันมาสั่งสอนนาง  ท่านแม่ยังกำชับนางด้วยว่าเรื่องนี้ต้องเก็บเป็นความลับ ห้ามให้ท่านพ่อและคนอื่นในครอบครัวรู้เด็ดขาด  ด้วยความที่ถูกเลี้ยงดูมาให้เชื่อฟังตั้งแต่จำความได้  ชิวเพ่ยเพ่ยต้องอดทนเรียนรู้ทุกอย่างไม่ต่างจากตกนรก  ยังดีที่นางมีสมองเหมือนผู้เป็นพ่อ  ทำให้สิ่งที่อาจารย์ทุกคนสั่งสอนมา นางสามารถจดจำและทำตามได้อย่างรวดเร็ว

       โดยเฉพาะผู้เฒ่าเซียวฟาง เขาไม่คิดว่าเด็กหญิงตัวน้อยจะจดจำสมุนไพรในหนังสือที่เขามอบให้ได้ทั้งหมด ภายในเวลาเพียงแค่อาทิตย์เดียว เขาที่เห็นแววนางก่อนใครเพื่อน  รีบยัดความรู้ทั้งหมดในชีวิตที่สั่งสมมาให้นางทันใด

       เฒ่าหลิงไท่ที่สอนเรื่องค่ายคูประตูกลรู้เรื่องนี้เป็นคนที่สอง  เขาเลียนแบบตาเฒ่าเซียวฟางเช่นกัน  จนชิวเพ่ยเพ่ยตัวน้อยสมองแทบระเบิดเสียให้ได้  ยังดีที่ท่านตาหยวนซวนเอ็นดูนาง เขาจึงไม่เร่งรีบเหมือนเพื่อนทั้งสองที่ยัดความรู้มากมายให้เด็กวัยเพียงห้าขวบ

       อย่าได้พูดถึงเตียวเฟยหลิวผู้เป็นแม่ นางเพียงแค่รีบสอนรีบจบจะได้กลับไปนอนในอ้อมกอดอุ่นของสามีนาง  นางไม่เคยสนใจว่าลูกสาวตัวเองมีสิ่งใดผิดปกติ  ยกเว้นองครักษ์ลับของเตียวหย่งไจ้ที่ส่งมาดูแลหลานสาวสองคนที่รับรู้ว่าคุณหนูของพวกเขามีพรสวรรค์มากเพียงใด  มีที่ไหนกันที่เด็กอายุห้าขวบจะเรียนรู้การสั่งสมลมปราณได้เร็วขนาดนี้  คุณหนูใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งสัปดาห์ร่วมกับยาของท่านผู้เฒ่าเซียวฟางก็สามารถผ่านปราณขั้นหนึ่งแล้ว  ถ้าเป็นคนธรรมดา ถึงแม้จะใช้ยาร่วมด้วยยังต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าสามเดือนด้วยซ้ำ  พวกเขาที่รู้เรื่องนี้เข้าด้วยความบังเอิญจึงรีบส่งพิราบสื่อสารหาท่านเจ้าตำหนักอย่างเร็วไว  เพราะกลัวจะมีคนไม่ดีตรวจสอบพบคุณหนูของพวกเขาแล้วชิงตัวไปเสียก่อน  วิธีการปกปิดลมปราณ  พวกเขาคงต้องขออนุญาตท่านเจ้าตำหนักแอบสอนคุณหนูแสนซื่อไว้เสียก่อน ไม่อย่างนั้นคงเกิดเรื่องขึ้นเป็นแน่  พวกเขาไม่มีความสามารถที่จะรับผิดชอบเรื่องใหญ่ขนาดนั้นได้  ถ้าท่านเจ้าตำหนักรู้ทีหลัง พวกเขามีหวังตายหยังเขียด

       ชิวเพ่ยเพ่ยฝึกฝนทุกอย่างจนอายุ 14 ปี  ตอนนี้นางไม่ต้องเหนื่อยยากมากเท่าปีแรกที่เริ่มต้นแล้ว  แถมลมปราณของนางยังแซงหน้าผู้เป็นแม่ที่เอาแต่ออเซาะท่านพ่ออยู่ไม่เว้นแต่ละวันจนนางเอือมระอา  ต่อหน้าท่านพ่อ ท่านปู่และท่านย่า  นางยังคงเป็นคุณหนูผู้น่ารักดังเดิม  แต่พอถึงยามค่ำคืน  นางจะกลายร่างเป็นนายหญิงน้อยของตำหนักเมฆาดับเมื่อรับงาน  ไม่มีงานใดที่นางทำพลาด และไม่มีผู้ใดที่นางฆ่าไม่ได้มาก่อน  

       นางเริ่มรับภารกิจแรกตั้งแต่อายุ 10 ขวบ  ด้วยท่านตาอยากให้นางหาประสบการณ์เท่านั้น  แต่กลับกลายเป็นว่านางทำได้ดีเกินคาดจนท่านตาบอกว่าจะให้นางสืบทอดแทนมารดาผู้หลงสามีแทน  นางที่เห็นแก่ทรัพย์สมบัติที่ท่านตานำมาหลอกล่อตั้งแต่ 10 ขวบ จึงต้องเรียนรู้การควบคุมผู้คนในตำหนักไปด้วยอีกอย่างหนึ่งจนถึงทุกวันนี้

       คืนหนึ่งมีนกพิราบสื่อสารจากท่านตามาเรียกนางไปเที่ยวที่ตำหนัก  ชิวเพ่ยเพ่ยที่เบื่อจะมองสามีภรรยาที่เอาแต่รักกันจนนางต้องกินอาหารสุนัขแทนข้าว จึงรีบตอบกลับจดหมายท่านตาอย่างยินดี  รุ่งเช้าวันต่อมา นางขออนุญาตท่านปู่ ท่านย่า ท่านพ่อและท่านแม่อย่างเป็นทางการ  ทุกคนไม่มีใครคัดค้านการไปเที่ยวของนางในครั้งนี้

       วันนั้นทั้งวัน ท่านปู่ ท่านย่า และท่านพ่อให้คนจัดเตรียมของฝากเสียมากมายสำหรับท่านตากับท่านยาย ชิวเพ่ยเพ่ยได้แต่ให้คนจัดขึ้นรถม้าเตรียมเดินทางวันพรุ่งนี้หลังอาหารเช้า

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณหนูผู้นี้มีงานลับ   รักเมียคนเดียว

    “ฝ่า..ฝ่าบาท” ขุนนางที่เมื่อกี้ิเชิดหน้าชูคอใส่ชิวเพ่ยเพ่ยเข่าอ่อนในทันใด เขารีบคุกเข่าทำความเคารพฮ่องเต้พร้อมคนอื่น ๆ ที่เขาพามา ฮ่องเต้ไม่แม้แต่จะมองและสั่งให้พวกเขาลุกขึ้น เขาจะปล่อยให้พวกมันคุกเข่าไปฟังไปแบบนี้นี่แหละ ช่างหาเรื่องให้เขาเสียหน้ากับผู้มีพระคุณนัก“คารวะท่านเจ้าตำหนัก ข้าเพิ่งรู้ว่าท่านมาแคว้นเยี่ยจึงเสียมารยาทที่ไม่ได้มาต้อนรับท่านด้วยตัวเอง หวังว่าท่านจะไม่ถือโทษโกรธข้าหรอกนะ” ฮ่องเต้ที่อาวุโสกว่าชิวเพ่ยเพ่ยหลายปีรีบขอโทษนางก่อนอย่างไม่อายใคร“ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องมากมารยาทกับข้า ข้ากับสามีเพียงอยากมาทำบุญที่แคว้นเยี่ย แต่ดูท่าทางแล้วคนในแคว้นของท่านคงไม่ชอบเรื่องดี ๆ เช่นนี้นัก วันนี้ข้าจึงต้องลงมือจนทำให้ท่านลำบาก ข้ากับสามีต้องขอโทษท่านเช่นกัน” ชิวเพ่ยเพ่ยไม่จำเป็นต้องใช้ราชาศัพท์กับเขา นางพูดกับเขาเหมือนคนสนิทที่เคยพบปะกันมา ทั้งที่จริงนางแค่เคยพูดคุยและติดต่อกับเขาทางจดหมายหลังถล่มจวนอ๋องไปเมื่อคราวนั้นเท่านั้น“อืม ขอบคุณท่านมากที่ไม่ถือสา ส่วนคนที่สร้างปัญหาให้ท่าน ข้าอยากขอให้ท่านจัดการแทนข้าได้หรือไม่ อีกอย่าง ข้ามีเรื่องอยากปรึกษาท่านกับสามีด้ว

  • คุณหนูผู้นี้มีงานลับ   ใครหาเรื่องให้ข้า!!!

    “คุณชาย ท่านช่วยข้าด้วยสิเจ้าคะ ข้ายินดีตอบแทนท่านด้วยร่างกายอันสดใหม่ หากท่านช่วยข้าจากผู้หญิงเลวคนนี้ ฮึก” นางแพศยานี่ยังกล้ามาขอให้เขาช่วยอีกหรืออย่างไร ช่างไม่รู้จักตายเสียจริง ๆ เฟยหยุนมองผู้หญิงเสแสร้งตรงหน้าเขาตาขวาง เขาไม่เคยรู้จักนางมาก่อน ทำไมนางคนนี้ถึงได้มาหาเรื่องเขาแบบนี้ เขาอยากรู้มากจริง ๆ ว่าใครมันหาเรื่องให้ข้า!!! ชิวเพ่ยเพ่ยหรี่สายตามองสามีนางและหญิงสาวที่ยังคงเล่นละครอย่างไม่อายใคร กระทั่งเฟยหยุนทนความกดดันไม่ไหวเขารีบสั่งคนจับนางอ้าปากแล้วให้พวกเขายัดอาหารที่หญิงผู้นี้นำมาเข้าไปจนหมด เขาหมดความอดทนแล้วจริง ๆ แถมยังไม่อยากอยู่ใกล้ผู้หญิงน่าขยะแขยงเช่นนี้แม้สักนิด ชิวเพ่ยเพ่ยเห็นสามีกระดึ๊บ กระดึ๊บมาหานางหลังสั่งคนจัดการนังตัวดีแล้ว นางแอบยิ้มอย่างสมใจ หึ นับว่าเจ้ายังรู้ว่าอะไรดีนะสามี ไม่อย่างนั้นล่ะก็… เจ้าหน้าที่เห็นเหตุการณ์และกำลังจะเข้าไปช่วยผู้หญิงคนนั้น แต่คนของตำหนักเมฆาดับมากกว่าสิบคนไม่รู้มาจากไหน พวกเขายืนปิดกั้นเจ้าหน้าที่ไม่ให้ผ่านทางไปช่วยคนได้ เมื่อเห็นท่าไม่ดีแล้ว เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบบอกให้คนของเขาไปตามเจ้านายม

  • คุณหนูผู้นี้มีงานลับ   อยากมีเมียน้อย?

    วันที่สองที่ชิวเพ่ยเพ่ยเปิดการตรวจรักษา วันนี้ชาวบ้านน้อยกว่าเมื่อวานเกือบครึ่งหนึ่ง แต่นางยังคงตรวจรักษาพวกเขาตามปกติ เฟยหยุนยังคงคอยช่วยนางอยู่ข้าง ๆ ดังเช่นทุกครั้ง หลังจากรักษาคนไปหลายสิบคนจนใกล้จะถึงเวลาทานอาหารเที่ยง อยู่ดี ๆ ก็มีเสียงแหลมสูงมาเข้าหูให้ชิวเพ่ยเพ่ยจนระคายโสตประสาท“คุณชาย ข้านำอาหารทำเองมาให้ท่านทานเจ้าค่ะ ท่านลองดูสิว่าถูกปากหรือไม่” ไม่รู้ว่าเป็นแม่นางจากบ้านใด ถึงได้กล้าเข้ามาพูดคุยกับสามีของท่านหมอใจดีอย่างหน้าด้าน ๆ เช่นนี้ เรื่องที่เฟยหยุนเป็นสามีของหมอหญิงใจบุญต่างมีข่าวออกมานานมากแล้ว ทำให้ไม่เคยมีหญิงหรือชายคนใดกล้าล่วงเกินสองผัวเมียคู่นี้มาก่อน นี่นับว่าเป็นครั้งแรกตั้งแต่ชิวเพ่ยเพ่ยเดินทางแล้วพบเข้ากับเหตุการณ์แบบนี้ นางขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจที่ใครก็ไม่รู้เข้าหาสามีนางอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า นางได้กลิ่นยาปลุกกำหนัดมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะมาจากในอาหารที่อยู่ตรงหน้าสามีของนาง“ข้าไม่ต้องการอาหารของเจ้า ไสหัวไป!!!” เฟยหยุนไม่คิดไว้หน้าหญิงสาวตรงหน้าเขาแม้แต่นิดเดียว เขาเห็นแล้วว่าภรรยาสุดที่รักชักไม่พอใจ ใครเล่าจะอยากหาเรื่

  • คุณหนูผู้นี้มีงานลับ   ชื่อเสียงลับ ๆ

    ชิวเพ่ยเพ่ยกับเฟยหยุนเดินทางโดยปลอมเป็นหมอตั้งแต่วันแรก นางเปิดรักษาชาวบ้านฟรีโดยให้พวกเขาไปซื้อยาจากร้านยาเมฆาดับเอาเอง หากใครยากจนจริง ๆ ชิวเพ่ยเพ่ยจะส่งคนไปแจ้งที่ร้านให้แจกยาพวกเขาแล้วเก็บเงินจากนาง นางทำเช่นนี้ไปตลอดทางที่พวกเขาท่องเที่ยว ไม่ว่าจะผ่านหมู่บ้านกันดารเพียงใด สองสามีภรรยาก็ยังคงมีรอยยิ้มแต่งแต้มไปทั่วใบหน้าอยู่เสมอ จนผู้คนที่ได้รับการรักษาจากสองสามีภรรยาต่างขนานนามพวกเขาว่าคู่รักหมอใจบุญกันเลยทีเดียว แม้ว่าเฟยหยุนจะรักษาใครไม่เป็น แต่เขาช่วยทำแผล ใส่ยาให้คนไข้ชายและดูแลพวกเขาช่วยภรรยาจนหายขาดมาตลอด ฉายาที่พวกเขาได้รับจึงไม่นับว่ามากเกินไป ชิวเพ่ยเพ่ยที่เลือกวิธีการนี้ในการท่องเที่ยวพักผ่อน ก็เพราะนางเคยฆ่าคนมาไม่น้อย พออายุมากขึ้นนางจึงอยากจะทำบุญใหญ่รักษาคนไข้ยากจนบ้างก็เท่านั้น ไหน ๆ ครอบครัวนางก็ร่ำรวยอยู่แล้ว กับอีแค่การรักษาคนทั้งห้าแคว้นฟรีไม่นับว่าเหนือบ่ากว่าแรงของนางหรอกหนา บรรดาหัวหน้าสาขาต่าง ๆ ที่ควบคุมกิจการร้านค้า พวกเขาทราบดีว่าท่านเจ้าตำหนักคนเก่ากำลังออกเดินทางรักษาคนไปทั่วทั้งห้าแคว้นแล้วโดยที่ไม่ต้องมีใครมาส่

  • คุณหนูผู้นี้มีงานลับ   ท่านแม่รู้แล้ว

    หนึ่งปีผ่านไป ชิวเพ่ยเพ่ยและเฟยหยุนก็ยังไม่กลับมาจากการท่องเที่ยว เฟยซินเยว่เริ่มจัดการตารางเวลาการทำงานของเขาได้ดีขึ้นมาก เขาจะพักทุกสองสัปดาห์หลังจากทำงานอย่างหนัก แล้วจะเดินทางไปพักกับท่านทวดและท่านปู่ท่านย่าของเขาที่จ้วงจื่อครั้งละสามสี่วัน จากนั้นก็จะกลับไปลุยงานต่อ เป็นเช่นนี้มาตลอดทั้งปี ส่วนเฟยหยางกวงก็ฝึกทหารและศึกษาตำราพิชัยสงครามไม่ได้ขาด ส่วนการไปดื่มสุราและแต่งกลอนกับสหาย เขาเลิกไปตั้งแต่วันลาสหายแล้ว เขายังเชิญสหายมาเที่ยวที่จวนโหวได้หากต้องการ สหายทั้งสามของเขาเป็นเพียงครอบครัวธรรมดาที่ไม่ได้ร่ำรวยมากมายอันใด แต่พวกเขาล้วนคบหากันด้วยใจมาตลอดสิบปีที่รู้จักกัน ซึ่งตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา เฟยหยางกวงส่งเทียบเชิญสหายมาร่วมงานวันเกิดของเขากับพี่ชาย ไหนจะจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้กับสหายทุกคนในวันเกิดของพวกเขา ทำให้ทั้งสี่คนยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้นไปอีก สหายของเขาทั้งสามเพิ่งสอบขุนนางได้ในปีนี้ด้วย เขาจึงจัดงานฉลองให้พวกเขาที่จวนโหวอีกงานหนึ่ง เฟยซินเยว่ไม่เคยห้ามน้องชายของเขา เขารู้ทุกอย่างเรื่องน้องชายและน้องสาว เขาเพียงมองพวกเขาอยู่ห่าง ๆ หากมีสิ่ง

  • คุณหนูผู้นี้มีงานลับ   ตาทวดมาหา

    ระหว่างที่ชิวเพ่ยเพ่ยกับเฟยหยุนออกไปท่องเที่ยว เฟยซินเยว่กำลังตาลายกับสมุดบัญชีที่เขาได้รับมาตรวจสอบเป็นจำนวนมาก เขานับถือท่านแม่ของเขาจริง ๆ ที่นางสามารถจัดการบัญชีจำนวนมากได้โดยไม่มีอาการเบื่อหน่ายเช่นที่เขาเป็น ยิ่งตอนนี้ร้านของตำหนักเมฆาดับรวมทั้งห้าแคว้นอาจมีมากกว่า 500 ร้านค้าแล้ว นางยังคงสามารถตรวจสอบได้อย่างละเอียดจนไม่มีใครกล้าโกงนางแม้แต่อีแปะเดียว หลังจากเฟยซินเยว่หัวหมุนวุ่นวายอยู่เกือบสองสัปดาห์ วันนี้ท่านตาทวดมาเยี่ยมเขาถึงเรือนอย่างน่าแปลกใจ เฟยซินเยว่รีบหยุดงานที่กำลังทำอยู่แล้วเดินไปพยุงท่านตาทวดเข้ามานั่งอย่างห่วงใย ตอนนี้ท่านตาทวดอายุมากแล้ว เขายังจำได้ว่าตอนเด็ก ๆ ท่านมักเล่นกับเขาอย่างสนุกสนานและดูแลเขาเป็นอย่างดี เวลาเขาถูกท่านแม่พาซ้อมวรยุทธจนบอบช้ำก็เป็นท่านตาที่มานั่งทายาแล้วบ่นท่านแม่ให้เขาฟัง จนเขาหายจากอาการเจ็บช้ำไปเลย“ท่านตาทวดมาได้อย่างไรขอรับ” หลังพาท่านตาทวดนั่งแล้วเขารีบสอบถามอย่างสงสัย“อืม ข้าเป็นห่วงกลัวว่าเจ้าจะทำงานหนักไม่ไหวน่ะสิ แล้วเจ้าเป็นอย่างไรบ้างอาเยว่”“ข้าสบายดีขอรับท่านตา งานเหล่านี้ท่านแม่สอนข้ามานานแล้วขอรับ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status