共有

บทที่ ๓๐ จากลาจวนสกุลหยาง – ๑

last update 最終更新日: 2025-11-29 18:00:07
หยางเสวี่ยอิงยังคงตัวสั่นเทา นางหันกลับไปมองบานประตูนั้นเป็นครั้งสุดท้ายด้วยแววตาที่ซับซ้อน มีทั้งความเจ็บปวดและความโล่งใจ

“ไปกันเถอะเจ้าค่ะ”

เสียงที่เยือกเย็นของหยางจิ้งอวี่ดังขึ้นปลุกนางให้ตื่นจากภวังค์ จิ้งอวี่เป็นเพียงผู้เดียวที่ไม่ได้หันกลับไปมอง นางมองตรงไปข้างหน้า

หลานจิงรีบเข้าไปประคองหยางเสวี่ยอิง “ไปกันเถอะเจ้าค่ะคุณหนูใหญ่”

ทั้งสามคน สองนายหนึ่งบ่าวในสภาพที่น่าเกลียดน่ากลัว ค่อยๆ ประคองกันเดินออกจากตรอกซอยอันเงียบสงบนั้น เพื่อเผชิญหน้ากับสายตาของโลกภายนอก

ทันทีที่พวกนางก้าวออกมาสู่ถนนสายหลัก ทุกสายตาก็พลันจับจ้องมาที่พวกนางเป็นจุดเดียว

เสียงฮือฮาดังขึ้นระงมไปทั่วบริเวณ

“สวรรค์! นั่นมันตัวอะไรกัน!”

“อย่าเข้าไปใกล้นะ! ท่านหมอหวังบอกว่ามันเป็นโรคระบาด ติดต่อได้ทางอากาศ!”

“น่าสมเพชจริงๆ ได้ยินว่าเป็นคุณหนูของจวนสกุลหยาง ถูกขับไล่ออกมาทั้งๆ ที่ป่วยหนัก ช่างใจดำอำมหิตนัก!”

สายตาที่มองมานั้นมีทั้งความหวาดกลัว ความรังเกียจ และความสมเพชเวทนา หยางเสวี่ยอิงถึงกับหน้าซีดเผือด นางก้มหน้าลงต่ำจนคางแทบชิดอก ไม่กล้าสบตากับผู้ใด

ทว่าหยางจิ้งอวี่กลับแตกต่างออกไป นางยังคงเชิดหน้าขึ้
この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード
ロックされたチャプター

最新チャプター

  • คุณหนูสามผู้มีสติปัญญาไม่สมประกอบ   บทที่ ๕๒ วันสิ้นสุดของจวนสกุลหยาง – ๒

    “ลงมือ!” สิ้นเสียงคำสั่งอันเย็นชาของขันทีผู้คุม กองกำลังทหารหลวงที่รออยู่ด้านนอกก็กรูกันเข้ามาในจวนสกุลหยางบรรยากาศที่เคยตึงเครียดและสิ้นหวัง พลันแปรเปลี่ยนเป็นความโกลาหลอลหม่านในทันทีเหล่าสมาชิกสกุลหยางที่ยังคงคุกเข่าตัวสั่นงันงกอยู่บนพื้น ถูกทหารเหล่านั้นผลักไสให้ไปรวมกันอยู่ที่มุมหนึ่งของลานอย่างไม่ไยดี ศักดิ์ศรีของความเป็นนายบัดนี้ได้มลายหายไปจนหมดสิ้น“บังอาจ! พวกเจ้ากล้าแตะต้องตัวข้างั้นรึ! ข้าคือหยางกั๋วกงนะ!” หยางซื่อไคพยายามจะเบ่งอำนาจที่ไม่มีอยู่อีกต่อไปแล้วของตนเองนายกองทหารผู้คุมกองกำลังหันมามองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา “ตามราชโองการ บัดนี้เจ้าเป็นเพียงสามัญชนผู้กระทำความผิด!” เขาวางมือลงบนด้ามดาบ “หากยังกล้าขัดขืนอีกแม้แต่คำเดียว พวกข้ามีสิทธิ์สังหารเจ้าได้ทันที!”คำขู่นั้นราวกับน้ำเย็นที่สาดเข้าหน้า หยางซื่อไคถึงกับหน้าซีดเผือดแล้วทรุดลงไปนั่งกับพื้นอย่างหมดสิ้นเรี่ยวแรงทหารหลวงแยกย้ายกันไปยังเรือนพักต่างๆ ทั่วทั้งจวน ทุกบานประตูถูกพังเข้าไปอย่างไม่ปรานีที่โถงใหญ่ ภาพเขียนล้ำค่าของจิตรกรเอกถูกกระชากลงมาจาก

  • คุณหนูสามผู้มีสติปัญญาไม่สมประกอบ   บทที่ ๕๒ วันสิ้นสุดของจวนสกุลหยาง – ๑

    ณ ท้องพระโรงยามเช้าบรรยากาศควรจะเต็มไปด้วยการถกเถียงเรื่องราชกิจบ้านเมือง แต่ในวันนี้กลับอบอวลไปด้วยไอสังหารที่เย็นเยียบจับขั้วหัวใจองค์ฮ่องเต้ประทับนิ่งอยู่บนบัลลังก์มังกร พระพักตร์ของพระองค์เรียบเฉย แต่ผู้ที่รับใช้ใกล้ชิดมานานปีจะรู้ดีว่า นี่คือความสงบก่อนพายุจะโหมกระหน่ำ เป็นสัญญาณของ เพลิงพิโรธแห่งมังกร ที่กำลังจะปะทุขึ้นเบื้องหน้าพระพักตร์ หลวงจางอี้กำลังคุกเข่าถือฎีกาฉบับหนึ่งไว้เหนือศีรษะ“ท่านเสนาบดีจาง ท่านมีเรื่องด่วนอันใดถึงกับต้องขอเข้าเฝ้าข้าเป็นการส่วนตัวในยามนี้?” สุรเสียงของฮ่องเต้ราบเรียบ แต่กลับแฝงไว้ด้วยอำนาจที่ทำให้ผู้ฟังต้องตัวสั่น“ทูลฝ่าบาท เรื่องที่กระหม่อมจะทูลต่อไปนี้ เป็นเรื่องคอขาดบาดตายเกี่ยวกับความมั่นคงของบัลลังก์และแผ่นดินต้าเยว่พ่ะย่ะค่ะ!”สิ้นเสียงของจางอี้ บรรยากาศในท้องพระโรงก็พลันหนักอึ้งลงในทันที“ว่ามา”“กระหม่อมได้รับฎีการ้องเรียนที่ไม่ระบุชื่อฉบับหนึ่ง กล่าวหาว่าหยางกั๋วกง หยางซื่อไค มีพฤติกรรมทุจริตคอร์รัปชันอย่างร้ายแรงพ่ะย่ะค่ะ!” จางอี้กล่าวเสียงดังฟังชัด “และนี่...

  • คุณหนูสามผู้มีสติปัญญาไม่สมประกอบ   บทที่ ๕๑ เปิดโปงการทุจริต – ๒

    ณ สำนักตรวจการแผ่นดินสถานที่แห่งนี้นับเป็นดาบอาญาสิทธิ์ขององค์ฮ่องเต้ เป็นฝันร้ายของเหล่าขุนนางกังฉินทั่วทั้งแผ่นดิน บรรยากาศภายในนั้นเคร่งขรึมและน่าเกรงขามอยู่เสมอ ทุกย่างก้าว ทุกสายตา ล้วนเต็มไปด้วยความเที่ยงตรงและไร้ซึ่งการประนีประนอมและผู้ที่กุมอำนาจสูงสุดของสถานที่แห่งนี้ก็คือ หลวงจางอี้บุรุษชราวัยหกสิบปลายผู้ได้รับสมญานามว่าจางหน้าเหล็ก เขาคือขุนนางตงฉินผู้ยึดมั่นในหลักการที่ว่า โอรสสวรรค์กระทำผิด ก็ต้องรับโทษทัณฑ์เช่นเดียวกับสามัญชน มาตลอดชีวิต เขาเกลียดชังการทุจริตคอร์รัปชันยิ่งกว่าอสรพิษร้าย และอุทิศทั้งชีวิตเพื่อถอนรากถอนโคนเหล่า หนอนบ่อนไส้ของแผ่นดิน ให้สิ้นซากเช้าวันนั้น ขณะที่หลวงจางอี้กำลังจะเริ่มตรวจสอบฎีการ้องเรียนกองโตที่อยู่บนโต๊ะทำงานของเขา สายตาของเขาก็พลันไปสะดุดเข้ากับวัตถุชิ้นหนึ่งที่แปลกปลอมมันคือกล่องไม้สีดำสนิทที่ไม่มีลวดลายใดๆ วางเด่นเป็นสง่าอยู่กลางโต๊ะ“ใครเป็นผู้นำสิ่งนี้เข้ามา!” เขาตวาดถามเสียงกร้าวองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องรีบวิ่งเข้ามาคุกเข่าลงด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด “ขะ ข้าน้อยไม่ทร

  • คุณหนูสามผู้มีสติปัญญาไม่สมประกอบ   บทที่ ๕๑ เปิดโปงการทุจริต – ๑

    คลื่นลมจากการล่มสลายของตระกูลหลี่และการปราบปรามกบฏของอัครเสนาบดีมู่ได้ค่อยๆ สงบลง แต่สำหรับจวนหยางกั๋วกงแล้ว พายุที่แท้จริงยังมาไม่ถึงสภาพของสกุลหยางในยามนี้เปรียบเสมือน สุนัขที่ตกน้ำ ช่างน่าสมเพชและอ่อนแออย่างที่สุดการที่อนุหลี่ผู้กุมอำนาจในเรือนหลังถูกจับกุมในข้อหาฆาตกรรม ได้สร้างความสั่นคลอนอย่างรุนแรงต่อเสถียรภาพภายในจวน ชื่อเสียงที่เคยตกต่ำอยู่แล้ว บัดนี้กลับเหม็นเน่ายิ่งกว่าซากศพ กิจการค้าต่างๆ เริ่มซบเซา ไม่มีตระกูลใดอยากจะคบค้าสมาคมหรือเกี่ยวดองด้วยอีก หยางกั๋วกงผู้เคยหยิ่งผยอง กลับกลายเป็นตัวตลกในราชสำนัก เขาเอาแต่เก็บตัวดื่มสุราและระบายอารมณ์ใส่เหล่าบ่าวไพร่ ส่วนฮูหยินผู้เฒ่าก็ล้มป่วยด้วยความเจ็บใจจนลุกจากเตียงไม่ขึ้นจวนสกุลหยางที่เคยยิ่งใหญ่ ยามนี้ไม่ต่างอะไรจากต้นไม้ใหญ่ที่รากแก้วถูกตัดขาด แม้จะยังยืนต้นอยู่ได้ แต่ก็รอวันที่จะโค่นล้มลงมาเท่านั้น ณ จวนผิงหลางฝู่“นายหญิง สกุลหยางในยามนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากเสือที่ไร้เขี้ยวเล็บแล้วขอรับ” อาหมิงรายงานสถานการณ์ล่าสุดให้หยางจิ้งอวี่ฟัง “กิจการของพวกเขากำลังจะล้มละลายในไม่

  • คุณหนูสามผู้มีสติปัญญาไม่สมประกอบ   บทที่ ๕๐ หนี้บุญคุณ – ๒

    เพลิงพิโรธขององค์ฮ่องเต้เมื่อถูกลูบคมนั้นน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าพายุอัสนีบาต คำสั่งถูกส่งออกไปในคืนนั้น และปฏิบัติการก็เริ่มต้นขึ้นในยามรุ่งสาง กองกำลังองครักษ์หลวงที่นำโดยแม่ทัพใหญ่เคลื่อนพลด้วยความเร็วประดุจสายฟ้าและสายลม พวกเขาบุกเข้าจู่โจมค่ายทหารร้างนอกเมืองอย่างรวดเร็ว ปลดอาวุธกองกำลังลับของอัครเสนาบดีมู่ได้โดยไม่มีการนองเลือดแม้แต่หยดเดียว ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ทหารหลวงอีกกลุ่มก็ได้บุกเข้าตรวจค้นจวนของอัครเสนาบดีมู่และตำหนักขององค์รัชทายาทรองเจิ้งเฟิงหยาง และในเช้าวันรุ่งขึ้น ราชโองการฉบับหนึ่งก็ได้ถูกประกาศขึ้นกลางท้องพระโรง สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งแผ่นดิน อัครเสนาบดีมู่จิ้งเทียนและพรรคพวก มีความผิดฐานซ่องสุมกำลังคน วางแผนก่อการกบฏ ถูกตัดสินโทษประหารชีวิตเก้าชั่วโคตร! องค์รัชทายาทรองเจิ้งเฟิงหยาง แม้จะไม่มีหลักฐานว่ารู้เห็นกับแผนการกบฏโดยตรง แต่ก็มีความผิดฐานร่วมมือใส่ร้ายองค์รัชทายาท ให้ปลดออกจากฐานันดรศักดิ์ ลดขั้นลงเป็นสามัญชน และให้คุมขังไว้ที่ศาลบรรพชนหลวงตลอดชีวิต และองค์รัชทายาทเจิ้งเฟิงเยวี่ยได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นผู้บริสุทธิ์โดยสมบูรณ์ ฮ่องเต้ทรงประท

  • คุณหนูสามผู้มีสติปัญญาไม่สมประกอบ   บทที่ ๕๐ หนี้บุญคุณ – ๑

    ทันทีที่ทักษะวิเคราะห์จุดอ่อนศัตรูถูกเปิดใช้งาน โลกในความคิดของหยางจิ้งอวี่ก็พลันเปลี่ยนไป ข้อมูลจากม้วนสาส์นนับร้อยที่กองอยู่บนโต๊ะ ลอยขึ้นมาในเบื้องหน้าของนาง ก่อตัวขึ้นเป็นแผนผังอันซับซ้อน ทุกเส้นสาย ทุกจุดเชื่อมโยง ถูกแสดงออกมาอย่างชัดเจน [ติ๊ง! กำลังวิเคราะห์ข้อมูล... ตรวจสอบความขัดแย้ง] เสียงของระบบดังขึ้นอย่างเป็นกลาง [ตรวจพบความขัดแย้งในบัญชีรายจ่าย บันทึกระบุว่ามีการสั่งซื้อหยกโบราณและอัญมณีล้ำค่าจากร้านว่านเป่าเก๋อ ในวันที่สิบห้าเดือนที่แล้ว แต่สายข่าวของเราที่ฝังตัวอยู่ในร้านนั้นยืนยันว่า ตลอดเดือนที่ผ่านมา ร้านว่านเป่าเก๋อไม่มีการทำธุรกรรมใหญ่ใดๆ เกิดขึ้นเลย] ‘เจอตัวแล้ว!’ จิ้งอวี่ลืมตาขึ้นทันที แววตาของนางคมกริบ นี่คือเส้นด้ายเส้นแรกที่หลุดลุ่ยออกมาจากอาภรณ์ที่ดูเหมือนจะถักทอไว้อย่างสมบูรณ์แบบ หลักฐานที่พวกมันสร้างขึ้น มีจุดที่เป็นเรื่องโกหก! “อาหมิง!” นางเรียกเสียงเฉียบขาด “ขอรับนายหญิง!” “ตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมดของกรมคลังที่เกี่ยวข้องกับเงินบรรเทาทุกข์อีกครั้ง!” นางสั่งการอย่างรวดเร็ว “ไม่ต้องสนใจบัญชีที่คุณชายรองนำไปถวายฮ่องเต้ แต่ให้ตามรอยเงินและเสบ

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status