Share

บทที่ 4

last update Last Updated: 2025-11-01 19:45:24

สตรีในชุดสีแดงเพลิงเดินลับไปทิ้งรอยยิ้มหวานหยดย้อยเอาไว้ให้จางม่านอวี้ตกตะลึงจนตาค้าง สตรีผู้นั้นเป็นสตรีที่จัดได้ว่างามแบบดอกกุหลาบที่มีหนามแหลม ที่บุรุษใดต้องการจะเข้าหาต้องฝ่าหนามแหลม ๆ ขึ้นไปแล้วจึงจะได้สัมผัสกับกลีบดอกสวยและกลิ่นหอมจรุงใจ

เรียกได้ว่าความสวยที่มาพร้อมกับอันตรายจนนางขนลุกนิด ๆ นะ แววตาที่สตรีนางนั้นมองมาทั้งเฉียบคมและสามารถหยุดบุรุษได้ทุกคนจริง ๆ จากที่ไม่เคยอิจฉาใครในโลกนี้ นางกลับเริ่มอิจฉาสตรีผู้นั้นนิด ๆ แล้วแหละ

แต่ความคิดเพ้อเจ้อของนางอยู่ได้ไม่นานนัก เมื่อบุรุษที่นางเห็นตอนแรกแค่แผ่นหลังกระแอมขึ้นหนึ่งคำ

“อื้ม!”

เสียงนั้นทำให้สตรีวัยแรกสาวสะดุ้งตัวเล็กน้อยดั่งคนขวัญอ่อน แต่ทว่าท่าทางตื่นตูมเหมือนกระต่ายขาวเรียกรอยยิ้มให้กับเจ้าของเสียงกระแอม จนนางที่ทำท่าทีเหมือนเด็กน้อยไร้เดียงสาในคราวแรกรีบดึงหน้าให้ตึงนิด ๆ อย่างคนน่าเชื่อถือทันที

หากนางเดาไม่ผิดท่านนี้น่าจะเป็นคุณชายเฉินสินะ ที่เถ้าแก่ร้านรับแลกเงินที่เป็นหลงจู้นั้นบอกว่ากำลังติดธุระส่วนตัว ก็คงจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีผู้นั้น

เมื่อคิดอะไรออกแก้มของจางม่านอวี้ขึ้นสีระเรื่อยิ่งกว่าทาชาดแดงเสียอีก

โอ้โห...กลางวันแสก ๆ !

นางอยากยกมือปิดปากแต่ทว่าสายตาแป๋ว ๆ ของนางมองไปยังใบหน้าดั่งฟ้าประทานนี้ จนอยากรู้ว่าใครช่างสร้างคนผู้นี้ขึ้นมา

โครงหน้าเฉียบ คางเรียว สันจมูกทำมุมพอดีกับใบหน้า ดวงตาคมมีเสน่ห์มองแล้วดึงดูดจนละสายตาไม่ได้ ผิวเนียนละเอียดดุจน้ำนม ใบหน้าสว่างใสไม่หยาบกร้านแดดดั่งบัณฑิตทรงภูมิมีความรู้ เรียวปากอิ่มเล็กน้อยยามขยับยกจนต้องมองตาม ทรงคิ้วจัดได้ว่าเป๊ะปังทั้งยังเรียงเส้นสวยเป็นธรรมชาติ

โดยรวมแล้วหล่อมาก...จัดได้ว่าเข้าขั้นพระเอก

แต่รอยยิ้มที่มองนางมานี่สิ...มันน่าขนลุกนะ ไม่ใช่รอยยิ้มที่ต้องการตะครุบเหยื่อของหมาล่าเนื้อ แต่ก็เป็นยิ้มที่มองแล้วส่งไม่ถึงดวงตา

“นี่คงจะเป็นคุณหนูจางม่านอวี้ใช่หรือไม่”

รู้จักนางด้วยสินะ...แต่ถามหน่อยใครบ้างไม่รู้จักนาง ไม่ใช่เพราะดังด้วยความงามของรูปร่างหน้าตาหรอก แต่ดังเพราะงามหน้าในสิ่งที่บิดากับภรรยาเด็กทำไว้น่ะสิ

‘ข้าล่ะเจ็บใจ’

แต่เจ็บใจอย่างไรก็ต้องข่มเก็บเอาไว้ทีหลัง โบราณกล่าวว่าแก้แค้นสิบปีก็ไม่สาย แต่ว่าหากนางไม่มีเงินมาใช้แค่ไม่กี่วันก็ตายแล้ว

ใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพราจึงยิ้มให้กับคุณชายเฉิน พร้อมส่งสายตาน่าเอ็นดูไปให้ ก่อนจะกล่าวอย่างนอบน้อม

“ชะ...ใช่ข้า...”

“ไปที่ห้องรับรองเถอะ”

“.....”!

อะ...อ้าว...ไม่ฟังข้าแนะนำตัวหน่อยเหรอ แล้วนั่นเขาเดินลิ่วไปแล้ว ทำให้นางหุบปากทั้งที่อ้าปากอยากจะต่อว่าสักคำว่าไม่มีมารยาท แต่เอาเถอะหากเขาเป็นคนใจร้อนนางก็ไม่ควรทำให้เขาเสียเวลารีบตามเข้าไปจะดีกว่า

เมื่อไปถึงห้องรับรองอีกห้องที่มีโต๊ะเขียนหนังสือกับเก้าอี้ด้านหน้า หากมองดี ๆ คล้ายกับห้องทำสัญญา ด้านข้างมีเถ้าแก่ที่เป็นหลงจู้ท่าทางใจดีคนนั้นยืนถือหนังสือบางอย่างอยู่ใกล้ ๆ กับสมุดบัญชีโดยที่อีกคนนั่งอ่านหนังสือยาวเหยียดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้น

“ได้ยินว่าคุณหนูจางอยากจะกู้เงินหรือ”

“เจ้าค่ะ...ข้าอยากกู้เงินไปปิดเจ้าหนี้ทั้งหมด และจะเป็นหนี้เพียงท่านผู้เดียว” นางบอกอย่างตรงไปตรงมาคิดว่าคนฉลาด ๆ อย่างเขาแค่มองตาคนของเขาข่าวต่าง ๆ แม้แต่ประวัตินางตั้งแต่เกิดจนปัจจุบันก็สามารถรู้ได้หมด

ทั้งด้านขวาหลงจู้ใจดีก็คอยให้ข้อมูล ด้านซ้ายก็ยังมีบุรุษท่าทางน่าเกรงขามอีกคนยืนขนาบข้างถือกระบี่คอยปกป้องผู้เป็นนายอยู่

“นับว่าคุณหนูเป็นคนตรงไปตรงมา” เขาเอ่ยขึ้น

ใครอยากอ้อมค้อมกันเล่า...ข้าอยากผลักภาระเจ้าหนี้จอมหื่นพวกนั้นจะตายไป จะได้เลิกมาเคาะประตูบ้านเสียที หากไม่ติดว่าบ้านนางมีบุรุษอยู่สิบกว่าคนที่เป็นบ่าวรับใช้ นางคงโดนฉุดกลางถนนไม่วันใดก็วันหนึ่ง แต่บ้านนี้เมืองนี้มีกฎหมายที่เด็ดขาด อันนี้ต้องยกความดีให้หานอ๋อง

“ข้าแค่อยากรักษาบ้านเอาไว้ อย่างน้อยก็มีที่ซุกหัวนอนเท่านั้น” นางพูดให้ดูดี อันที่จริงนางแอบไปถามเจ้าหน้าที่ทางการเรื่องขายบ้านแล้ว มันได้ไม่พอใช้หนี้ต่างหาก เจ้าหน้าที่พวกนั้นราวกับอยากให้นางเป็นอนุของตาเฒ่าเหล่านั้นเต็มแก่ หากเป็นโลกที่นางจากมาคงมีกลิ่นเงินใต้โต๊ะล่ะสิ

“ได้...ข้าจะเรียกเจ้าหนี้ของเจ้ามาวันนี้และไถ่ถอนหนี้สินทั้งหมดจะได้มีพยานดีหรือไม่”

อื้อหือ...เขารอบคอบกว่าข้า หากลำพังสตรีเช่นข้าคนพวกนั้นอาจตุกติกก็เป็นได้ นับว่าเรื่องนี้เป็นความคิดที่ดี เหมือนดวงซวยนางจะหมดแล้วหรือเปล่านะ?

“หากไม่รบกวนคุณชายนัก”

ดวงตาของนางมีประกายสดใสทั้งหันไปมองคนของนางที่ยืนด้านหลังพลางยิ้ม แต่เมื่อนางหันมองเขาอีกครั้งบุรุษตรงหน้าแลบลิ้นนิด ๆ ใช้ฟันขบแล้วเอาลิ้นดุนกระทุ้งข้างปากด้านในราวกับเป็นร้อนในก็ไม่ปาน นางก็ทำบ่อยนะตอนโลกก่อนหน้า

แต่เขาทำแล้วเหมือนพระเอกร้าย ๆ ชอบกลแฮะ นางส่งสายตาแป๋วมองไปครู่หนึ่งก่อนจะถอนสายตาหลบอย่างสตรีในยุคโบราณควรจะเป็น จากนั้นได้ยินเสียงเดินเข้ามาหลายเท้าจนเมื่อหันไปมองเป็นเหล่าตาแก่ที่ไปก่อกวนที่บ้านนางทั้งสิ้น

แต่คนเหล่านั้นดูเหมือนทำอะไรผิดสักอย่าง ดูก้มหน้าเข้าสิ เท่านั้นไม่พอดูเหมือนคนของคุณชายเฉินจะถือกระบี่กอดอกอยู่ด้านหลังห้าคน คล้ายกับเป็นผู้คุมเสียอย่างนั้น

“พวกท่านเป็นเจ้าหนี้คุณหนูจางใช่หรือไม่”

“ชะ...ใช่ขอรับ”

น้ำเสียงตะกุกตะกักราวกับนัดกันมา ทั้งตอบพร้อมเพรียงกันราวกับฝึกทหารอยู่ ทำให้นางต้องเลิกคิ้วมองท่าทางแปลก ๆ นั้น

“งั้น...พวกท่านเอาสัญญาหนี้ออกมารับเงินไป”

น้ำเสียงเรียบเรื่อยของคุณชายเฉิน แต่ฟังแล้วให้ความรู้สึกกดดันเสียจนคนเหล่านั้นมือไม้สั่น จากนั้นแต่ละคนหยิบหนังสือสัญญากู้เงินออกมา แต่ไม่ได้ระบุชื่อคุณหนูจางม่านอวี้เป็นคนกู้เงินสักฉบับ ทำให้สายตาคมเฉียบมองไปยังคนเหล่านั้น จนต้องรีบอธิบาย

“คะ...คุณชายเฉินได้โปรดฟังข้าอธิบาย...เรื่องนี้พวกเราเสียเงินไปแล้ว...นี่คือบัญชีทั้งหมดที่ได้รับเงินจากคุณหนูมา แม้ว่านางไม่ใช่ผู้กู้แต่ก็ยังเกี่ยวข้อง”

“หึ...ข้าเกี่ยวอะไรกับเม่ยเหลียนไม่ทราบ นางไม่ใช่มารดาข้าสักหน่อย” พูดแล้วก็หงุดหงิดจริง ๆ

เมื่อคุณหนูจางเอ่ยเช่นนั้นทำให้สายตาของคุณชายเฉินหรี่มองไปยังคนเหล่านั้น

แต่ละคนราวกับกลัวตายรีบยื่นบัญชีออกมา จากนั้นหลงจู้ดีดลูกคิดก่อนจะบอกตัวเลขที่จะต้องเสียจริง ๆ ของแต่ละคนให้คุณชายเฉินที่กำลังยกถ้วยชาจิบราวกับไม่สนใจ หากแต่คนของคุณชายเฉินรู้ดีว่าท่าทางแบบนี้คือไม่ได้คัดค้าน จนกระทั่งคนสุดท้ายที่ระบุดอกเบี้ยแสนโหด ทำให้ถ้วยชาชะงักค้างที่ริมฝีปากพร้อมกับสายตาคมเฉียบราวกับมีดตวัดมองไปยังคนผู้นั้น ที่คนถูกมองต้องกลืนน้ำลายเพราะหากสายตานี้คือมีดคงเชือดคอไปแล้ว

“คะ...คือ...ข้าไม่เอาดอกเบี้ยแล้ว...ระ...รับเพียงเงินต้นเท่านั้น”

อ้าว...ทำไมทีอย่างนี้เจรจาได้ แต่กับนางแทบจะลากไปนอนที่โรงเตี้ยมจนนางกอดอกแน่นมองอย่างไม่พอใจ

“เถ้าแก่เหลียงเมื่อสามวันก่อนบอกว่า หากวันนี้ไม่มีให้ท่านข้ายังต้องไปนอนกับท่านอยู่เลย ตอนนี้บอกไม่รับดอกเบี้ยแล้ว?”

เถ้าแก่เหลียงทรุดไปแล้ว ใครจะคิดว่าเขาจะมาตายเอาก็ตอนที่อยากได้คุณหนูตัวน้อยเป็นอนุอีกคน

“มีเรื่องเช่นนี้?” น้ำเสียงกดดันถามออกไปทำให้ที่เหลือรีบบอก

“พวกเราไม่เอาดอกเบี้ย ไม่เอาดอกเบี้ยแล้ว แค่เงินต้นเท่านั้น แล้วจะไม่เกี่ยวข้องกับคุณหนูจางอีก”

อีกคนใช้แค่สายตาสั่ง คนของเขาก็เอาเงินออกมา

สุดท้ายนางก็กู้เงินเป็นสัญญาฉบับใหม่ขึ้นมา แต่ว่าเงินห้าร้อยตำลึงไม่ได้ผ่านมือนางด้วยซ้ำจนกระทั่งมีห้าตำลึงยื่นมาให้นางเป็นเถ้าแก่เหลียงที่ท่าทางรักตัวกลัวตาย

“คุณหนู...นะ...นี่...นี่คืนให้ท่าน”

นางยังไม่ได้ทันรับเขาก็ยัดใส่มือนางแล้วรีบวิ่งแจ้นออกไปราวกับว่าอยู่นานกว่านี้อาจจะถึงที่ตายได้

แต่เงินห้าตำลึงนี้กลับทำให้จางม่านอวี้ดีใจเหมือนได้ทองเป็นพันตำลึง

“ขะ...ข้ามีเงินซื้อข้าวสารแล้ว!”

เสียงสดใสนั้นทำให้คนที่ลงนามในสัญญาฉบับใหม่ชะงักเงยหน้ามองนาง ก่อนจะกดมุมปากเล็กน้อย ส่วนนางที่ลงลายนิ้วมือกับประทับตราให้แล้ว ดังนั้นสัญญาจึงยื่นให้นางเก็บเองหนึ่งฉบับ

“นี่ขอรับคุณหนูจาง”

“ขอบคุณหลงจู้เจ้าค่ะ” จางม่านอวี้ยิ้มก่อนจะพับเก็บใส่แขนเสื้อ แต่ในหัววันนี้นางต้องซื้อข้าวสารหลาย ๆ กระสอบเพราะคนอยู่มาก ซื้อเนื้อด้วยวันนี้ต้องกินเนื้อ จนเมื่อนางลุกขึ้นเขาเอ่ยขึ้นหนึ่งคำ

“แล้วพบกันคุณหนูอวี้”

แม้จะเป็นคำพูดสั้น ๆ แต่ว่านางกลับรู้สึกใจหวิวแปลก ๆ จนต้องเอามือลูบหน้าอกมองแผ่นหลังองอาจที่เดินจากไปอย่างรู้สึกกังวลพลางพึมพำ

“ข้าเพิ่งออกจากรังหมาป่า หลงเข้าถ้ำเสือต่อหรือเปล่านะ!”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณหนูอวี้ข้ามาเก็บดอกท่านแล้ว   บทที่ 73

    ทุกคนส่ายหน้าให้กับเด็กน้อยที่พยายามป้ายความผิดให้คนอื่น ทั้งที่นางชอบดูผีเสื้อบินในสวนแต่ผีเสื้อดันบินหนีไปต่อหน้าต่อตาเท่านั้น “เช่นนั้นต้องขอโทษพี่ใหญ่ก่อนนะ วันนี้พี่ใหญ่ไปหาท่านอาลี่เจินมาด้วยล่ะ มีขนมใหม่ ๆ ที่ท่านอาคิดสูตรด้วยตนเอง” จางม่านอวี้ไม่รู้จะห้ามปรามเฟยเทียนอย่างไ

  • คุณหนูอวี้ข้ามาเก็บดอกท่านแล้ว   บทที่ 72

    หลังจากแต่งงานได้เก้าเดือน ลูกหงส์และมังกรก็ มาเกิดในตำหนักหานอ๋องสร้างความปีติยินดีมากมายให้ กับเหล่าประชาชนในแคว้น รวมทั้งเสด็จลุงอย่างฮ่องเต้ เยว่อันคังประทานของรับขวัญหลานจนต้องสร้างห้องเก็บสมบัติเพิ่ม จางม่านอวี้ท้องลูกแฝดแต่เป็นแฝดชายหญิง โดยคนเป็นบิดาอย่างหานอ๋องก็ตั้งชื่อให

  • คุณหนูอวี้ข้ามาเก็บดอกท่านแล้ว   บทที่ 71

    “ท่านอ๋องแก่ที่ไหนกันเพคะ แค่อวี้เอ๋อร์อายุสิบเจ็ดปี ท่านอ๋องอายุยี่สิบเจ็ดปีห่างกันแค่สิบปีถือว่าไม่มากกำลังพอดีเพคะ” นางกดข่มอมยิ้มในใจ ที่จริงหากนับกันก็หลายปีอยู่นะ “เจ้าเล่ห์นักหลอกด่าข้า นับจากนี้ชั่วชีวิตเจ้าข้าจะลงโทษเจ้าให้ต้องทรมานอยู่ใต้ร่างกายของข้า ถูกข้าเคี่ยวกรำทุกค

  • คุณหนูอวี้ข้ามาเก็บดอกท่านแล้ว   บทที่ 70

    คืนนี้เยว่เค่อไท่ไม่ได้รังแกหานเฟยของเขาหนักมาก เพียงแค่ตั้งใจจะมีลูกกับนางในค่ำคืนนี้ให้จงได้ ฤกษ์หยิน หยางบรรจบกันไม่ใช่จะมีได้ในทุกปี เขาจึงไม่ปล่อยให้ความพิเศษนี้ผ่านไปเพียงเปล่าประโยชน์ ด้านนอกแขกที่เชิญมาล้วนเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องร่วมสำนัก ขุนนางสำคัญในเมือง ไร้ขุนนางสอพลอในเมืองหลวงม

  • คุณหนูอวี้ข้ามาเก็บดอกท่านแล้ว   บทที่ 69

    หานอ๋องเห็นเช่นนั้นยกยิ้มให้นาง แล้วรีบไปจูงนางออกมาจากเรือนจากนั้นเมื่อถึงหน้าเรือน เสียงประกาศจากขันทีที่นำพระราชโองการมาประกาศยังเมืองฉางเหอดังขึ้น “พระราชโองการจากฝ่าบาท...หานอ๋องและคุณหนูจางม่านอวี้รับราชโองการ” จางม่านอวี้ถูกท่านอ๋องประคองให้นั่งคุกเข่าคู่กัน ในวันที

  • คุณหนูอวี้ข้ามาเก็บดอกท่านแล้ว   บทที่ 68

    เมื่อตัวประกอบหลุดจากบั๊กสู่ตำแหน่งชายาเอกหนึ่งเดียวของหานอ๋องจากแคว้นเยว่หาน... วันมงคลสมรสของจางม่านอวี้และหานอ๋องเยว่เค่อไท่ถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่สิบสองเดือนสิบสองรัชศกเยว่คังที่สิบสอง ซึ่งเป็นวันมงคลที่สิบสองปีจะมีครั้ง คือวันที่หยินหยางสมดุลพร้อมให้พลังแด่คู่รักชายหญิง ถือว่าวันนี

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status