“งั้นเธอต้องเลือกแล้วละ ว่าจะเดินออกไปกับฉันดีๆ หรือจะให้ฉันอุ้มเธอออกไป” บะ บ้าไปแล้ว อีตานี่มีสิทธิ์อะไรมาทำกับฉันแบบนี้
“เหวออออ ... อีตาบ้าบาสเตียน ปล่อยฉันลงนะ ปล่อย!!!” ขณะที่สาวน้อยกำลังคิดด่าผู้ชายตรงหน้าในใจ ร่างบางของเธอก็ถูกชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้ายกขึ้นพาดบ่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ฉันรู้นะว่าเธอแอบด่าฉัน” เห้ยยย เขารู้ได้ไงอ่ะ ตะ แต่!! มือของบาสเตียนกำลังจะเปิดประตูห้องทำงานของเค้ก
“ฉันยอมไปแล้ว ปล่อยฉันลงก่อน” ฝีเท้าที่กำลังจะขยับของบาสเตียนหยุดลง
“ยอมตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องใช้กำลัง รู้ไหมว่าแบกหมูมันหนักขนาดไหน” ชายหนุ่มค่อยๆ วางหญิงสาวลงอย่างไม่แรงมากนัก
“มะ หมู นี่!! ไอ้บ้าบาสเตียน นายว่าฉันเป็นหมูหรอ!!” บาสเตียนยักไหล่ให้หญิงสาวเอื้อมมือไปคว้ามือเล็กจับประสาน แล้วผลักประตูห้องทำงานให้เปิดออก
สุดาเห็นเจ้านายป้ายแดงของเธอเดินออกมาพร้อมชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ก้มหน้างุด ไม่กล้าสบตา “เอ่อ...คุณเค้กคะ หุ้นส่วนที่นัดวันนี้บ่ายโมง ขอเลื่อนเวลาเป็นบ่ายสามโมงตรง และฝากขอโทษมาด้วยคะ เนื่องจากติดธุระด่วนกระทันหัน” เค้กพยักหน้ารับ ก่อนเดินออกไป
“เบบี๋ อยากทานอะไรครับ” บาสเตียนเอ่ยเสียงยียวนขณะที่มือทั้งสองยังจับประสานกันอย่างลึกซึ้งก่อนถูกมือเรียวเล็กสะบัด
“นายเลิกพูดอะไรแบบนี้สักทีได้ไหม ขนลุก” บาสเตียนรั้งสะโพกหญิงสาวให้เข้าหาขณะที่ตัวเองพิงผนังลิฟอยู่อย่างใจเย็น
“ไม่ได้หรอก เธอกำลังจะเป็นเมียฉันนะ ฉันก็ต้องพูดดีๆ กับเธอซิ เบบี๋” บ้า ผู้ชายคนนี้มันบ้าไปแล้ว
“นายพูดอะไรของนาย แล้วนายมาที่นี่ทำไม ไปเลยนะ” หญิงสาวเอ่ยปากไล่อย่างไม่สบอารมย์ “เดี๋ยวเธอก็รู้ว่าฉันมาทำไม”
บาสเตียนก้มหน้าประชิดกกหูของหญิงสาวสูดดมกลิ่นหอมเฉพาะตัวของเธอ ขณะที่ท่อนแขนแกร่งยังคงโอบรอบเอวบางของหญิงสาวไว้
ชายหนุ่มเดินจูงมือหญิงสาวมาที่รถยนต์คันหรูของตัวเองมือหนาเอื้อมไปเปิดประตูฝั่งข้างคนขับ “ฉันขับไปเองได้ ฉันมีรถนะ” มือหนาดันตัวร่างบางให้ลงนั่งตรงเบาะข้างคนขับ
“รู้จ๊ะ ว่ารวย รวยมากกกกก แต่จะรวยแค่ไหนก็ควรประหยัดนะ” ว่าจบปิดประตูแล้วรีบวิ่งมาฝั่งคนขับ “นายจะพาฉันไปไหนเนี่ย” ชายหนุ่มมองสีหน้าเป็นกังวนของหญิงสาวเพียงเล็กน้อย “กินข้าวไง ฉันหิวแล้ว”
บาสเตียนเดินจับมือหญิงสาวเข้ามาที่ร้านอาหารอิตาเลียนสุดหรู “กรี๊ดดดดดดดดดดดดด นั่นๆๆๆๆ คุณบาสเตียนมากับคุณเค้ก” เสียงระเบ็งเซ็งแซ่ ของหญิงสาวกลุ่มหนึ่งดังขึ้น ก่อนจะมีผู้คนกรูดกันเข้ามาเพื่อถ่ายรูป และจ้องมองสองนักธุรกิจดาวรุ่ง ที่หล่อ สวย รวยมากๆ ชื่อเสียงของทั้งสองคนดังกว่าดาราซุปเปอร์สตาร์บางคนอีก
เป็นเค้กที่จับมือของบาสเตียนไว้แน่น บาสเตียนเองก็ตอบสนองเธอเป็นอย่างดีด้วยการจับมือเธอแน่นเช่นกัน ราวกับบอกให้เธอรู้เป็นนัยๆ ว่าจะไม่มีวันปล่อยมือเธอเป็นอันขาด บอร์ดี้การ์ดของบาสเตียนกันผู้คนที่หลั่งไหลเข้ามาไม่ให้เข้าใกล้ผู้เป็นนาย และนายหญิงในอนาคตของเขาไว้
“ขอเวลาส่วนตัวให้คุณบาสเตียน กับคุณเค้กด้วยนะครับ”
“เขาคบกันหรอคะ”
“เขาเป็นอะไรกันหรือคะพี่”
“เขาต้องคบกันแน่ๆ”
“เป็นข่าวใหญ่แน่ เจ้าพ่อวงการโรงแรม และเรือสำราญ กับผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าแม่วงการการท่องเที่ยว และรีสอร์ท”
ชั่วเวลาไม่ถึงสามสิบนาที บรรดานักข่าวจากหลายสำนักก็มายืนรอกันอยู่หน้าร้านอาหาร ที่ชายหญิง ทั้งคู่รับประทานอาหาร ด้วยบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก และเป็นกันเอง แสงแฟลชจากกล้องนับร้อย ที่สะท้อนเข้ามาภายในร้านอาหาร
“คนพวกนั้นมาได้ยังไง”
“เฮียจะไปรู้ได้ไงละ เฮียก็มาพร้อมเบบี๋เนี่ย” ดะ เดี๋ยวนะ สรรพนามนั่น อะไรกัน
“นายเลิกพูดอะไรที่น่าขนลุกแบบนั้นสักทีได้ไหม จะอ้วก” บาสเตียนนั่งขำกับปฎิกริยาของหญิงสาวตรงหน้า แม่ของลูกชัดๆ หัวสมอง และหัวใจของเขาตอบเขาได้แค่ เค้กนี่แหละแม่ของลูก จะว่ารักแรกพบก็ได้ เขาหลงรักเธอตั้งแต่แรกพบครั้งแรก ไอ้เหตบังเอิญที่ไปจุ้บปากเธอตอนรับน้องอะไรนั่น มันไม่ใช่เรื่องจริงหรอก
เขาตามจีบเธอมาตลอดตั้งแต่ครั้งแรก ถึงแม้การจีบของเขาจะแตกต่างจากคนอื่นไปหน่อยก็เหอะนะ มือหนายกมือเรียกบริกรเพื่อสั่งอาหาร
“เบบี๋ อยากทานอะไรคะ สั่งเลย เดี๋ยวเฮียเปย์เอง” สายเปย์ใช่ไหม ได้เลยบาสเตียน อยากเล่นบทป๋าเปย์นักใช่ไหม
“งั้นเค้กไม่เกรงใจแล้วนะ” หญิงสาวตรงหน้าเลือกเมนูที่แพงที่สุดในร้านมาสามสี่อย่าง สายตาคมกริบของคนตรงหน้าจ้องมองเธอทุกการกระทำของเธอด้วยความเอ็นดู
[สองชั่วโมงผ่านไป]
“ฉันต้องกลับบริษัทแล้ว มีประชุมกับผู้ถือหุ้นคนใหม่” ชายหนุ่มพยักหน้า วางเงินไว้บนโต๊ะอาหารจำนวนหนึ่ง แล้วยื่นมือจับประสานมือเล็กเดินออกจากร้านอาหาร ขณะที่ยังมีผู้คนคอยมองพฤติกรรมของหนุ่มสาวทั้งคู่
บาสเตียนยกยิ้มพอใจกับกระแสข่าว เพราะมันยิ่งทำให้เขา และเค้กลงเอยกันได้ไม่ยาก หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นการมัดมือชกได้เป็นอย่างดี อีกทั้งต่อหน้าผู้คนมากมายเค้กก็ทำตัวหน้ารัก คิดไม่ผิดจริงๆ ที่พาเธอมาในที่ผู้คนพลุดพล่านขนาดนี้
“แล้วนายมาทำไมเนี่ย ฉันมีประชุม ไม่ว่างมานั่งกัดกับนายหรอกนะ” ชายหนุ่มยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะลงมาเปิดประตูรถให้หญิงสาวโดยไม่พูดอะไร เขาก้มลงจูบขมับของคนตัวเล็กตรงหน้าอย่างแผ่วเบา ท่อนแขนแกร่งโอบรอบเอวบางเดินเข้าบริษัทของเธอ ทำให้หญิงสาวยิ่ง งง หนัก
“นี่!!! ช่วยตอบฉันที นายมาทำไมเนี่ย”
“. . .”
“เอ้า!! อีตาบ้าบาสเตียน ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ นายมายุ่มย่ามอะไรในบริษัทของฉันกันห๊ะ!!” หญิงสาวเริ่มโวยวายเสียงดังลั่น (ลั่นลิฟ) บาสเตียนอดไม่ได้ที่จะหลุดยิ้มออกมากับพฤติกรรมของเธอ เขาพาเธอเดินมาส่งหน้าห้องทำงาน
“คุณเลขา หุ่นส่วนที่พ่อกับแม่เค้กดิวไว้เขามาหรือยังคะ” สุดามองหน้าบาสเตียนเลิกลั่ก บาสเตียนขยิบตาให้สุดาหนึ่งครั้งเป็นอันรู้กัน
“มาแล้วค่ะ คุณเค้ก เดี๋ยวดิฉันเอาข้อมูลให้เมื่อคุณเค้กเข้าห้องประชุมนะคะ”
“เบเบี๋คะ เฮียไปก่อนนะ เฮียมีประชุมเหมือนกัน”
“จะไปไหนก็ไปเถอะ”
[ภายในห้องประชุม]
เค้กนั่งรอผู้ร่วมหุ้นอย่างใจจดใจจอที่หัวโต๊ะในห้องประชุม จวนเวลาแล้วที่ผู้ร่วมหุ้นจะมา
แกร่ก ~
หญิงสาวลุกขึ้นยืนก้มหน้า เมื่อผู้ร่วมหุ้นเดินเข้ามานั่งข้างๆ “สวัสดีค่ะ เค้กเป็นประธานคนใหม่ของบริษัท ทำหน้าที่ดูแลคุณแทนคุณพ่อกับคุณแม่ ทางเรายินดีมาก ที่คุณสนใจร่วมหุ้นดะ....!!” ทุกอย่างเงียบสนิทเมื่อเค้กเงยหน้ามองใบหน้าหล่อเหลาของผู้ร่วมหุ้น อะ...ไอ...ไอ้บ้านิ นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย
“ไอ้บ้าบาสเตียน นะ นายมาทำอะไรตรงนี้”
“ไอ้บ้าบาสเตียน นะ นายมาทะอะไรตรงนี้” หญิงสาวแหวใส่ชายหนุ่มที่นั่งอยู๋ตรงหน้าเสียงหลง “เฮียก็มาประชุมกับผู้ร่วมหุ้นไง เบบี๋ จะตกใจทำไมคะ”ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!เสียงเคาะประตูห้องประชุมดังขึ้นสามครั้ง“เข้ามา” เป็นเค้กที่เอ่ยอนุญาต สุดาเลขาเดินเข้ามาพร้อมข้อมูลผู้ถือหุ้น ใจจริงเธอควรจะให้เจ้านายเธอได้ศึกษาก่อนเข้าประชุม แต่ท่านประธานใหญ่ และประธานผู้ร่วมหุ้นสั่งเอาไว้ว่าให้เอามาให้หลังจากทั้งคู่อยู่ในห้องประชุมด้วยกันหลังจากที่สุดาเดินออกไปแล้ว ห้องประชุมอยู่ในบรรยากาศที่เงียบสนิท “อะแฮ่ม... ไม่คิดจะพูดอะไรกับเฮียหน่อยหรอ” เป็นบาสเตียนที่ทำลายความเงียบด้วยคำถาม“นายทำแบบนี้ทำไม นายจะตามจองเวร จองกรรมฉันไปถึงไหน ตั้งแต่ที่มหาลัยนายก็คอยแกล้งฉันสารพัด จบไปแล้วนายก็ยังพยายามหาทางมาแกล้งฉัน แล้วนี่อะไร มาร่วมหุ้นอะไร ฉันไม่ร่วมกับนายหรอกนะ ฉันไม่สนุกกับนายด้วย”บาสเตียนใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มตัวเองเพื่อสงบสติอารมย์ที่หญิงสาวตรงหน้าอาละวาดใส่ “ก่อนจะด่าฉัน เปิดดูเนื้อหา หรือเงื่อนไขในเอกสารหรือยัง เราร่วมหุ้นกันมาปีกว่าแล้ว แค่ยังไม่มีการเปิดตัว และที่ฉันมาวันนี้ ก็เพื่อมาต้อนรับประธานคนใหม่ของบ
“จุ๊ๆๆๆๆ ไม่เอาน่า อะไรที่เฮียอยากได้ ต่อให้ต้องแย่งมา เฮียก็จะทำ” ท่อนขาเรียวยาวราวกับนายแบบบนปกนิตยาสารเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าหญิงสาวเอื้อมมือหนาจับปลายผมเบาๆ ก้มลงจูบขมับ เลื่อนลงมาประกบจูบที่ปากเรียวบาง เป็นแค่การสัมผัสเท่านั้นไม่มีการรุกล้ำด้วยปลายลิ้น “แล้วเจอกัน เบบี๋” หัวใจดวงน้อยของหญิงสาวเต้นแรงไม่เป็นส่ำหญิงสาวเดินออกไปจากห้องประชุมกลับตรงห้องทำงานของตัวเองทันที สะโพกกลมกลึงค่อยๆ สัมผัสกับเบาะเก้าอี้ ทำไมฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย ทำไมพ่อถึงต้องทำธุรกิจกับเขา ทำไม มือเล็กยกขึ้นปิดใบหน้าสวยหวาน ข้อศอกวางบนโต๊ะทำงานแผ่วเบา เธอค่อยๆ ปล่อยสายธารน้ำตาลงมาเพื่อเป็นการระบายความทุกข์ และอึดอัดภายในจิตใจเอาวะ ลองดูสักตั้งก็ไม่เสียหายอะไร ฉันได้รับความไว้วางใจจากพ่อกับแม่ ฉันต้องไม่ทำให้ท่านผิดหวัง ฉันโตแล้ว ฉันต้องจัดการปัญหาต่างๆ ได้แน่นอน เป็นความคิดที่ให้กำลังใจตัวเองได้เป็นอย่างดี@Club หรูใจกลางเมือง[สามทุ่มสิบห้า]เสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม ภายในคลับสอดประสานกับเสียงผู้คนหลายร้อยชีวิตที่ต่างพากันปลดปล่อยห้วงความคิด อารมย์ บางส่วนวาดลวดลายลงบนฟลอเต้นรำอย่างไม่มีใครยอมใคร ยังมี
“เฮียจะรอดูคนโง่นะ เบเบี๋” เขาไม่ได้สนใจเรื่องหุ้น หรือผู้ถือหุ้นเลยแม้แต่น้อย แต่กลับมองใบหน้าสวยหวานด้วยอารมย์ปรารถนา@คอนโดเค้กบรื้น! บรื้น!เอี๊ยดดดดดดปัง!!เสียงปิดประตูรถฝั่งข้างคนขับปิดลงดังสนั่นหญิงสาวก้าวเดินโดยไม่หันกลับไปมองคนที่มาส่ง หรือแม้แต่คำขอบคุณสักคำก็ไม่มีทันทีที่เปิดประตูหน้าห้อง บาสเตียนที่เดินตามขึ้นมาแทรกตัวเข้าไปก่อนเจ้าของห้องเสียอีก “เฮ้ ...นายเข้ามาทำไมออกไปเลย ไป” หญิงสาวเดินไป ฉุดกระชากท่อนแขนแกร่งของชายหนุ่มให้ออกจากห้องของเธอพรึ่บ!!!“อะ ...” บาสเตียนฉุดรั้งท่อนแขนเรียวเล็กของคนตรงหน้าเข้าหาตัวทำให้หญิงสาวเซถลาลงนั่งทับหน้าตักแกร่งของเขาพอดิบพอดีทำให้สะโพกกลมมนเสียดสีกับมังกรที่กำลังหลับไหล ราวกลับเธอกำลังปลุกเจ้ามังกรให้มันตื่นขึ้นมาเพื่อพร้อมรบ เขาและเธอต่างจ้องมองกันอยู่อย่างนั้นลมหายใจอุ่นเป่ารดกันอย่างใกล้ชิด“เออ ปล่อยเค้กได้แล้ว จะเกาะติดเค้กไปถึงไหน” สายตาที่เขาจ้องมองเธอมันทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นแรงไม่เป็นส่ำเธอพยายามหยัดกายลุกขึ้น แต่ยิ่งดิ้นเขายิ่งกอดเธอไว้แน่น สันจมูกโด่งฝังลงตรงซอกคอระหง ชายหนุ่มใช้สันจมูกของเขาคลอเคลียกับลำคอระหงของเธอ
เขาใช้นิ้วหัวแม่มือปาดน้ำตาให้เธอเบาๆ “เฮียตั้งใจจะอ่อนโยนกว่านี้นะ แต่เบบี๋ดื้อ ถือว่านี่เป็นการลงโทษละกันนะ” น้ำเสียงแหบพร่ากระซิบข้างหู ก่อนจะขยับสะโพกเข้า-ออก อย่างเนิบนาบ น้ำตาแห่งความเจ็บปวดร่วงหลนหยดแล้วหยดเล่า ร่างกายหญิงสาวโยกคลอนตามแรงอัดกระแทกแก่นกาย ภายในร่องสวาทคับแคบ ตอดรัดแก่นกายแน่น คล้ายจะอึดอัด ยิ่งสร้างความเสียวซ่านให้กับบาสเตียนเป็นอย่างมาก“ซี้ดดดด.....โคตรแน่นเลยเบบี๋” ชายหนุ่มครางออกมาน้ำเสียงกระเส่าเลื่อนมือหนาขึ้นสัมผัสหน้าอกข้างซ้ายของหญิงสาวใต้ร่างแผ่วเบาก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นบีบเค้นอย่างรุนแรงในเวลาถัดมา เรียวลิ้นร้อนชื่นก้มลงดูดดุนยอดปทุมถัน ในขณะที่ช่วงล่างยังทำหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง“ครางออกมาเลยเบเบี๋” บาสเตียนผละริมฝีปากออกจากยอดปทุมถัน สายตาหวานเยิ้มจ้องมองใบหน้าสวยหวานของหญิงสาวเมื่อเห็นเธอกัดกลีบปากล่างของตัวเอง ยิ่งทำให้เขาอารมย์พุ่งพล่าน เขาใช้มือหนาบีบพวงแก้มป่องเพื่อให้เธอเปล่งเสียงครางหวานออกมาให้เขาได้ยิน “อ๊าาาา~ บะ บาสเตียน เบาหน่อย” เมื่อเปล่งเสียงครางออกมาได้หญิงสาวเอ่ยห้ามด้วยน้ำเสียงกระเส่า แต่ชายหนุ่มยิ่งถาโถมแรงกายอัดกระแทกเข้า-ออก
“นายก็ได้ไปแล้วนี่ไง แล้วดูเหมือนว่ากำลังจะได้อีกครั้ง”.“เฮียต้องการเบเบี๋ ตลอดชีวิต” น้ำเสียงแหบพร่าเปล่งออกมา ก่อนส่งเรียวลิ้นอุ่นชื้นไล่เลียลำคอระหงแผ่วเบา“ยี๊ สกปรก เลียอยู่ได้เป็นหมาหรือไง” หึ บังอาจมากเดี๋ยวรู้เลย “ใช่เป็นหมา เป็นหมาป่าที่หิวโหยมากด้วย” ว่าจบบาสเตียนจับคนตัวเล็กพลิกขึ้นท่าคลานเข่า ขยับสะโพกเข้า-ออก ระคนกระหาย “อ๊าาา ปะ ไปหิวโหยมากจากไหนเนี่ย” ความเสียวซ่านเข้าเล่นงานชายหญิงทั้งคู่อีกครั้ง “เฮียจะขย่มเบบี๋ จนไม่กล้าปากดีเลยล่ะ” แรงอัดกระแทกแก่นกายส่งผลให้หน้าอกที่ใหญ่โตของหญิงสาวกระเพื่อมไปตามแรงส่งของช่วงล่างทั้งๆ ที่ภายในห้องนอนเปิดเครื่องปรับอากาศ แต่ร่างกายของชายหญิงทั้งคู่กลับร้อนเร่า เกิดเม็ดเหงื่อขึ้นตามโครงหน้า และร่างกายของทั้งสองคน “อ๊าาาา เค้กเสียวร่อง” แม้ว่าจะเจ็บปวดอยู่บ้างที่ถูกทารุณตั้งแต่ครั้งแรก “เดี๋ยวได้เสียวกว่านี้แน่” บาสเตียนโน้มใบหน้าคมคายมาใกล้หญิงสาวก่อนจับคอด้านหน้ากระชากขึ้น มือหนาเลื่อนขึ้นจับปลายคางมนบังคับให้หญิงสาวมองดูภาพเคลื่อนไหวที่เร้าร้อนตรงหน้า“เห็นเฮียไหม” หญิงสาวกัดกลีบปากล่างเบาๆ หลับตา “หึ รับไม่ได้หรอ แต่ไม่ทันแล้ว เ
“อย่าเข้าใจผิดนะคะเฮีย หนูยังไม่มีผัวค่ะ ขอโทษด้วย” หญิงสาวพูดขึ้นก่อนกระชับท่อนแขนแกร่งไว้แน่น ยิ้มสู้กล้องสวยงาม“เบบี๋รู้จักเฮียน้อยไปแล้ว” บาสเตียนกระตุกยิ้มร้ายกาจ ก่อนใช้ท่อนแขนแกร่งโอบรอบเอวบางไว้แน่นราวกลับว่ากลัวเธอจะหายไป “ปล่อยนะ ทำแบบนี้มันหน้าเกลียดเราไม่ได้เป็นอะไรกันนะ” หญิงสาวปรามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเกรงว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะทำอะไร ห่ามๆ ให้เธออับอาย“แต่เมื่อคืนเบบี๋ รีดน้ำเฮียจนเกือบหมดตัว ขนาดนั้นแล้วเรายังไม่ได้เป็นอะไรกันอีกหรอ” บาสเตียนกระซิบตอบเลียนแบบหญิงสาวที่กระซิบปรามมาก่อนหน้านี้ข้อศอกเล็กกระทุ้งเข้าหน้าท้องแกร่งของชายหนุ่มโดยผู้ถูกกระทำยังไม่ทันตั้งตัว ทำให้ต้องหยุดเดินไปชั่วขณะ “แสบจริงๆ” บาสเตียนกระตุกยิ้มร้าย รีบเดินเข้าประชิดตัวหญิงสาว เขาใช้ท่อนแขนแกร่งโอบรอบเอวบางไว้แน่น ขณะที่กำลังเดินเข้าไปภายในงานภาพที่ผู้คนนับหมื่น นับแสนได้เห็น ต่างมองเป็นภาพการหยอกล้อระหว่างหนุ่มสาวด้วยความรักใคร่ เป็นภาพที่ประทับใจของผู้คนที่พบเห็นบาสเตียนถอดเสื้อสูทสีกรมท่าออกคลุมให้กับหญิงสาวเพราะไม่ถูกใจในรสนิยมการแต่งตัวของเธอนัก แม้ความจริงแล้วเธอจะดูสวยสง่าจนสะดุดตากับผู
“บาสเตียน นายทำบ้าอะไรเนี่ย” ทันทีที่ออกมานอกงานหญิงสาวตวาดเสียงดังใส่ชายหนุ่ม “จูบเมียไง ไม่น่าถาม” ชายหนุ่มตอบโดยไม่ได้รู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเองเลย“หรืออยากให้ทำมากกว่านี้ละ” ชายหนุ่มโน้มใบหน้าคมคายลงตรงซอกคอระหงกระซิบแผ่วเบา “เฮียหิว” ใบหน้าสวยงามพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรืิอเมื่อได้ยินคำที่ชายหนุ่มเอ่ยออกมา“เบบี๋ เป็นอะไรคะ หน้าแดงเชียว” น้ำเสียงหยอกเย้า ทำให้หญิงสาวหลุดจากภวังค์ความคิด “ปะ ... เปล่า” เธอรู้สึกเขินอายเมื่ออยู่ๆ หัวสมองกลับนึกถึงความเร่าร้อนที่เขามอบให้เธอ“ไปเถอะ เดี๋ยวนักข่าวมา” สองมือสอดประสานเดินตรงไปที่รถยนต์คันหรู “จูบฉันขนาดนั้น ยังกลัวนักข่าวมาอีกหรอ ป่านนี้ลงข่าวหน้าหนึ่งไปแล้วมั้ง” หญิงสาวเอ่ยขึ้นแกมประชดประชันเล็กน้อย“เฮียรับผิดชอบการกระทำของเฮียได้” ภายในรถยนต์คันหรู สองมือแกร่งยกคนตัวเล็กขึ้นมาทาบทับหน้าตัก บาสเตียนใช้มือข้างหนึ่งโอบรอบเอวบางหลวมๆ ขณะที่อีกข้างลูบไล้หน้าขาแผ่วเบา “ไปเพนท์เฮาส์” บาสเตียนสั่งลูกน้องที่นั่งตำแหน่งคนขับ“เพนท์เฮาส์นายหรอ ฉันไม่ไปนะ จะกลับบ้าน” ชายหนุ่มกระตุกยิ้มร้าย มือไม้เริ่มซุกซนบีบเคล้นหน้าอกหน้าใจใหญ่โตของหญิงสาว
หญิงสาวเม้มปากแน่นก่อนเอ่ยคำขออย่างลืมอาย “เฮียขาาาา เค้กอยากโดนเฮียกระแทกใจจะขาดอยู่แล้ว” ชายหนุ่มยกยิ้มพึงพอใจเขาย่อตัวลงใช้ริมฝีปากสัมผัสกับกลีบกุหลาบในขณะที่เจ้าของร่างบางยังคงอยู่ในท่าคลานเข่า “อ๊าาาา ..... ซี้ดดด กระแทกเค้กเลยเถอะ เค้กไม่ไหวแล้ว” ทันทีที่ปลายลิ้นสัมผัสทักทายกับติ่งเกสร ดอกไม้งามก็ตอดลิ้นร้อนชื้นถี่ๆบาสเตียนยิ้มพอใจกับปฎิกริยาของหญิงสาว ก่อนปรนเปรอเจ้าของร่างบางด้วยปลายลิ้น จนเกิดเสียงกระชากอารมย์ดิบของเขาและเธอ ภายในห้องนอนเบาๆ นิ้วเรียวยาวยังคงทำหน้าที่ปรนเปรอกุหลาบงาม“บะ บาสเตียน อย่าทรมาณเค้กเลย กระแทกเค้กเถอะ นะ เค้กจะไม่ไหวแล้วอ่ะ” หญิงสาวเอ่ยขออีกครั้ง ความเสียวซ่านที่เขามอบให้ ทำให้ร่างกายของเธอเกร็งกระตุก บาสเตียนหยัดกายลุกขึ้น “จะเรียกเฮียได้หรือยัง หืม” ไม่พูดเปล่า เขายังคงดันนิ้วเข้าออกร่องสวาทช้าสลับเร็ว“ฮะ .. เฮียขาาาา กระแทกเค้กที เค้กอยาก” บาสเตียนไม่รอช้าเมื่อหญิงสาวเอ่ยขอมีหรือที่เขาจะไม่ให้ เขาจับแก่นกายใหญ่จ่อที่ร่องสวาทหญิงสาวก่อนกดพรวดทีเดียวมิดลำ“อ๊าาาาาาา ฮะ เฮีย ลึกมากเลย” หญิงสาวเอ่ยครางเมื่อได้สมความปรารถนา บาสเตียนจับแขนหญิงสาวไขว
[สามปีต่อมา]ฤดูใบไม้ร่วงที่อบอวลไปด้วยมวลหมู่ดอกไม้อันร่มรื่น ภายในสวนจัดงานรื่นเริงที่หน้าปิติยินดี ผู้คนมากมายเดินสวนกันไปมาภายใต้บรรยากาศที่แสนอบอุ่น ใจกลางสวนดอกไม้มีโดมสีขาวประดับประดาไปด้วยดอกกุหลาบสีขาวสลับแดงสายลมพัดพาให้วันนี้มาถึง วันที่หน้ายินดีของคู่บ่าวสาวที่คนทั้งประเทศจับตามอง ร่างกำยำยืนท่ามกลางผู้คนใจกลางสวนหน้าโดมสีขาวโดยมีบาทหลวงในชุดสูทสีดำยืนเพื่อรอทำพิธีสำคัญเด็กหญิงตัวเล็กวัยสามขวบเดินเตาะแตะอยู่หน้าร่างอรชรในชุดเจ้าสาวสีขาวนวลเรียบง่าย ในมือของเด็กน้อยวัยน่ารักถือกลีบดอกไม้สำหรับโปรยทางให้เจ้าสาวเดินตรงไปยังเจ้าบ่าวแขนข้างซ้ายของเธอคล้องกับแขนของชายวัยกลางคนในชุดสูทสีดำเดินมุ่งตรงไปยังหน้าลานพิธี โดยเด็กหญิงตัวเล็กในชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนประดับด้วยดอกไม้สีสวยรอบเอวเดินนำหน้ามาจนถึงหน้าลานพิธี”แดะ~.... (แด๊ด)” เด็กหญิงตะโกนก้องหน้าลานพิธีวิ่งเตาะแตะหาเจ้าบ่าวที่ยืนหน้าแท่นพิธีอย่างใจจดใจจ่อ บาสเตียนในชุดเจ้าบ่าวย่อตัวลงในท่านั่งย่อขาอุ้มเด็กหญิงขึ้นมาก่อนกดหอมฟอดใหญ่ฟอดดดดดดดดดดดดด!”อื้ออออ .... มี (มี๊)”พฤติกรรมของเธอต่างเรียกเสียงหัวเราะให้กับแขกที่มาในงา
@เพนท์เฮาส์บาสเตียน ”อือออ ...” หญิงสาวที่นอนหลับไหลอยู่บนเตียงของชายหนุ่มส่งเสียงครางในลำคอเมื่อถูกบางอย่างรบกวนการนอนที่กำลังสบายในยามราตรี บางอย่างที่นุ่มนิ่มเปียกแฉะแต่อบอุ่น”เฮียขอนะ เบบี๋” เห้อนี่กูกำลังพยายามลักหลับเมียตัวเองเหรอวะเนี่ย บาสเตียนค่อยๆ ลูบไล้หน้าท้องของแฟนสาวแผ่วเบาก่อน มือกำลังปลดเปลื้องอาภรณ์ของหญิงสาวออกทุกชิ้นอย่างใจเย็น และเบามือที่สุดริมฝีปากหนาประทับสัมผัสหัวไหล่มนด้วยความหลงไหล “อืมม ... หอมจัง” บาสเตียนยังคงพรมประทับรอบจูบไปทั่วบริเวณใบหน้าและลำคออย่างแผ่วเบา “อืมมม ...” เสียงครางในลำคอของคนตัวเล็กบ่งบอกว่ากำลังไม่พอใจที่ถูกรบกวนยามราตรีแบบนี้เมื่อปลดเปลื้องอาภรณ์ของแฟนสาวออกจนหมดทุกชิ้นบาสเตียนรีบปลดเปลื้องอาภรณ์ของตัวเองออกทันที ทำให้ตอนนี้บาสเตียนและเค้กกำลังเปลือยเปล่าทั้งคู่ฝ่ามือหนาจับเรียวขาของแฟนสาวตั้งขึ้นเป็นรูปตัวเอ็ม ก่อนเลื่อนตัวเองลงไปยังกลางกายของหญิงสาวสูดดมกลิ่นดอกไม้ราตรีด้วยความหลงไหล บาสเตียนจับเรียวขาของหญิงสาวให้แยกออกจากกันเผยให้เห็นดอกไม้งานที่กำลังเบ่งบานจากการปรนเปรอของเขาเมื่อครู่ “หึ ขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมตื่นอีกหรอ” สิ้นส
“คิดจะวัดรอยเท้ากับฉัน ต้องรู้ก่อนนะว่ากระดูกเรามันคนละเบอร์ อีหน้าด้าน!!” ว่าจบเค้กจับศรีษะเล็กของโรสกระแทกกับขอบโต๊ะอาหาร“โอ้ยยยยย!!!”ความเจ็บปวดของโรสยังไม่เท่ากับความเจ็บปวดใจที่โรสพยายามแทรกตัวเองเข้ามาระหว่างเธอกับบาสเตียนยิ่งคิด ยิ่งแค้น ยิ่งแค้นความรุนแรงยิ่งเพิ่มขึ้น“เบบี๋ พอแล้ว โรสสลบไปแล้ว พอเถอะเฮียขอ พวกมึงมาเอาโรสออกไปดิ๊ ยืนทำห่าไรกัน!!!!” ประโยคแรกเขาพูดกับแฟนสาว ประโยคหลังสั่งลูกน้องคนสนิทให้แยกเค้กออกจากโรสทันทีที่จับทั้งสองคนแยกออกมาได้ บาสเตียนพาเค้กขึ้นรถทันที ส่วนโรสเป็นหน้าที่รับผิดชอบของกาย และพสุ บาสเตียนรั้งตัวหญิงสาวให้ขึ้นมานั่งทาบทับบนหน้าตักแกร่ง โดยจัดท่าทางให้เธอหันหน้าเข้าหากันสองมือแกร่งกอดปลอบหญิงสาวที่นั่งตัวสั่นเทิ้มด้วยความโมโห “ไม่เป็นไรนะครับเบบี๋ เฮียอยู่นี่นะ เฮียอยู่กับเบบี๋นะครับ” เขาใช้เวลาสักพักใหญ่ๆ กว่าเค้กจะอารมย์ลงได้ ก่อนขับรถยนต์คันหรูออกมาจากลานจอดรถ@คอนโดเค้ก“ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องกังวนเดี๋ยวเฮียจัดการเองนะ ไม่เป็นไรครับ” มือหนาปลอบประโลมลูบไล้แผ่นหลังบางอย่างหวงแหน เขาไม่มีวันให้เค้กเป็นอะไรไปแน่นอนบาสเตียนอุ้มเค้กขึ้นมานั
หลายสัปดาห์ต่อมาที่เค้กต้องทนอึดอัดใจ เพราะโรสยังคงวนเวียนมาหาบาสเตียนอยู่เสมอโดยอ้างเรื่องงานเพื่อเข้าหาบาสเตียนได้อย่างเนียนๆ“หน้าด้าน!!” เค้กเอ่ยขึ้นทันทีที่เดินเข้ามาภายในห้องทำงานของบาสเตียน แต่ก็อดหงุดหงิดใจไม่ได้เมื่อเดินเข้ามาแล้วพบกับโรสที่นั่งอยู่ตรงโซฟารับแขกด้วยเสื้อผ้าที่เธอใส่มานั้นมันเหมือนมายั่วผู้ชายมากกว่ามาทำงาน“น้องงงงงเค้กกก พี่โรสคิดถึงจังเลยค่ะ มาให้พี่หอมหน่อยเร็ววว” หึ ตอแหลจริงๆ ไม่เคยเจอใครหน้าด้านหน้าทนเท่ายัยโรสนี่เลย“งานการไม่มีทำเหรอคะ ถึงต้องเร่มาหาผัวชาวบ้านถึงที่” เค้กพูดขณะเดินไปนั่งหย่อนสะโพกลงบนหน้าตักแกร่งของบาสเตียน โดยที่บาสเตียนยังง่วนอยู่กับเอกสารสำคัญตรงหน้าแต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเค้กและเริ่มชินกับการที่เค้กกับโรสปะทะฝีปากกันแล้ว“แหม่เรียกผัวได้เต็มปากเต็มคำดีนะคะ ถ้ายังไม่แต่งงานกันโรสก็ยังถือว่าบาสเตียนยังโสด” หน้าด้าน หน้าทน หน้าหนา เสียจริงแม่นี่“...” เค้กได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธ เคืองบาสเตียนเห็นอย่างนั่นก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมากลัวว่าตัวเองอาจจะซวยอีกเพราะทุกครั้งเค้กก็จะไปลงที่เขาเสมอ จังหวะที่บาสเตียนกำลังมองสีหน้าเ
@ห้างสรรพสินค้า“แกๆ นั่นๆ คุณมอร์แกนกับคุณเค้ก เขามาสวีทกันอีกแล้วเว้ยแก”“คุณเค้กตัวเล็กนิดเดียวเองอ่า น่ารักวะ”“อยากให้แต่งเลยอะ เหมาะสมกันดีเนาะ”“อยากเห็นโมเมนต์หวานๆ อ่ะ”บาสเตียนเดินจับมือเค้กเข้าไปในร้านอาหารหรูกลางห้างดังอย่างเช่นที่เคยทำประจำ “สั่งเลยเบบี๋ เดี๋ยวป๋าเปย์เอง” คำพูดเหมือนครั้งที่เคยพาเธอมาครั้งแรก แต่กลับให้ความรู้สึกที่ต่างกัน“แน่นอนอยู่แล้วค่ะ ยังไงเฮียต้องเลี้ยงเค้กแน่ๆ ละ” เค้กยิ้มจนตาหยีออกมาราวกับเด็กน้อยที่ได้ขนมชิ้นโปรดมากินภายในร้านอาหารการกระทำและข่าวของทั้งคู่อยู่ในสายตาสาธารณะชนทุกอย่าง ข่าวเรื่องของทั้งคู่โหมแรงหนักมาก กลบข่าวดาราซุปตาร์หลายๆ คนเสียด้วยซ้ำเนื่องจากธุระกิจที่ทั้งคู่ทำเป็นธุรกิจชั้นนำและสร้างรายได้มหาสาร“เบบี๋ เสร็จแล้วไปดูหนังกันนะ” เค้กยังไม่ทันตอบตกลงอะไรบาสเตียนก็ลากเธอไปยังหน้าโรงหนังเรียบร้อยแล้วกว่าสามชั่วโมงที่ทั้งคู่ใช้เวลาอยู่ในห้างสรรพสินค้า เค้กก้มมองนาฬิกาที่ตอนนี้บ่งบอกเวลาสองทุ่มครึ่งแล้ว “กลับกันเถอะค่ะเฮีย จะได้พักผ่อนเนอะ”ปึก!เสียงปิดประตูรถที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินดังขึ้น เมื่อทั้งคู่เข้ามาอยู่ในรถเรียบร้อยแล้ว
บาสเตียนจับแฟนสาวให้หันหน้าเข้าหาเขา อีกมือจับลำเอ็นตั้งตรงเตรียมตัวออกศึกพร้อมรบ“อย่าลืมครางดังๆ นะเบบี๋”“เกะกะ” เป็นเค้กเองที่ปัดมือเขาออกจากการเกาะกุม แล้วเป็นฝ่ายจับแก่นกายของบาสเตียนรูดขึ้น รูดลง ก่อนนำมาจ่อที่ปากทางเข้าร่องสวาทถูวนไปมากับดอกกุหลาบแย้มปริ่มที่มีน้ำเกสรไหลออกมาเป็นทางยาว “อ่าาา ... เซ็กซี่จังที่รัก...ซี้ดดดด”“อ๊าา ... ฮะ เฮียเป็นของเค้ก” หญิงสาวเอ่ยครางเสียงหวานก่อนจับตัวตนของซีอีโอหนุ่มกดเข้าร่องสวาทแค่ส่วนหัว “ซี้ดดดด .... ครับ เฮียเป็นของเบบี๋คนเดียว ... อ่าา”มุมปากบางยกยิ้มพึงพอใจก่อนกดสะโพกพรวดเดียวจนมิดท่อนลำเอ็น “โอ้ววว .... ซี้ดดดด ปะ ไปโกรธใครมาเนี่ยเบบี๋ ... อ่าาา ... เฮียเสียวนะ” เค้กยังคงบดคลึงร่องสวาทหมุนควงไปมาให้แก่นกายใหญ่สำรวจช่องทางรักคับแคบเป็นวงกลม“ซี้ดดดด ..... โกรธผู้หญิงคน นะ นั้นคะ ...อ๊าาา” หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นเปล่งเสียงครางหวานกระเส่า ขณะที่ชายหนุ่มจับสะโพกสาวไว้มั่น เขาพึงพอใจกับการปรนเปรอของเธอเป็นที่สุด“อ่าาา .... มาลงที่เฮียก็ได้ ระบายกับเฮียมาเลยเบบี๋ ... อ่าาา” เสียงคำรามก้องด้วยความเสียวซ่านของหนุ่มสาวทำให้ผู้ที่ยืนอยู่ข้างนอก
“คุยงานเรียบร้อยนะคะ ยังไงเค้กขอเชิญนะเค้กอยากมีเวลาส่วนตัวกับคนของเค้กบ้าง นี่ไม่ได้ไล่นะ อย่าเข้าใจผิดนะ” โรสกำมือแน่นด้วยความโกรธเกลียด เกลียดจริงๆ เกลียดทุกอย่างที่เป็นผู้หญิงคนนั้น“โรสขอตัว!!” โรสกระแทกน้ำเสียงแดกดันราวกับคนที่เก็บอาการไม่อยู่ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างได้แล้วหันกลับไปพูดกับเจ้าของร่างบางที่นั่งอยู่บนหน้าตักแกร่งของคนที่เธอแอบชอบมานานแสนนาน“อ่อ คุณเค้กคะอะไรที่มีอยู่ก็กอดไว้แน่นๆ นะคะ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นแค่ของที่คุณเคยมี” พูดจบเจ้าของร่างอรชรผลักประตูออกไปก่อนออกเธอไม่ลืมปรายตามองหญิงสาวที่เธอเกลียดชังตั้งแต่ยังไม่รู้จัก ยิ่งตอนนี้รู้จักก็ยิ่งเกลียด เกลียดที่เธอได้ยืนตรงนั้น เกลียดที่บาสเตียนให้ความอ่อนโยนแค่กับเธอ“เฮียแอบไปกินกันมาแล้วปะเนี่ย” ทันทีที่แขกไม่ได้รับเชิญกลับออกไปหญิงสาวก็หันมาแหวใส่แฟนหนุ่มโดยที่เขายังไม่ทันได้ตั้งตัว “เฮียเปล่า” บาสเตียนรีบปฎิเสธทันควันก่อนที่ไฟจะไหม้บ้านเขาไปมากกว่านี้มือหนารั้งเอวคอดกิ่วของหญิงสาวไว้แน่น ซบใบหน้าคมคายลงบนหัวไหล่มนอย่างออดอ้อน “ไม่ต้องมาอ้อนเลย” แค่เพียงบาสเตียนออดอ้อนเค้กก็ใจอ่อนลงมาแล้วจากที่คิดเอาไว้ว่าจะจัดการ
กว่าหนึ่งสัปดาห์ที่เค้ก และบาสเตียนไปเที่ยวมัลดีฟด้วยกัน เขา และเธอต่างมอบความสุขให้กันและกันอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ขณะที่บาสเตียน และเค้กเดินกินไอศครีมอยู่ริมชายหาดเหมือนดังคู่รักทั่วๆ ไป ทามกลางแสงแดดสาดส่อง ไม่เพียงสภาพอากาศที่อบอุ่นเท่านั้นแต่ภายในจิตใจของคนทั้งคู่ต่างก็อบอุ่นไม่ต่างกันครืด ครืด ครืด“ว่า” บาสเตียนกดรับสายโทรศัพท์เมื่ิอกายลูกน้องคนสนิทโทรเข้ามา(นายครับ ที่บริษัท มีปัญหานิดหน่อยครับ)“ถ้ามันนิดหน่อยมึงก็จัดการไปดิ จะโทรมาหากูทำพระแสงอะไร”(คุณโรสมาครับ)“แล้ว?”(เขาต้องการพบนายครับ)“แล้ว?”(เธอบอกว่า ถ้านายไม่มาเคลียร์เธอจะติดต่อไปทางนายหญิงครับ)“วุ่นวายฉิบหาย กูกลับพุ่งนี้” พูดจบบาสเตียนกดตัดสายลงทันที พลางครุ่นคิดโรสต้องการอะไรกันแน่ในเมื่อเขาชัดเจนไปทุกอย่างแล้ว จะว่าเป็นเรื่องธุรกิจที่ทำร่วมกันก็ไม่หน้าจะใช่เพราะมันไม่ได้มีปัญหาอะไร คงมีแค่เรื่องเดียวเท่านั้น คือเรื่องที่เขาทำให้เธออับอายบนเรือนั่นท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่แล้วยังไงละ เขารักเมียเขามันไม่น่าผิดอะไรใช่ไหมละ“มีอะไรหรือเปล่าคะเฮีย” เค้กถามเมื่อบาสเตียนวางสายลงด้วยสีหน้าเคร่งขึม“เรากลับพรุ่งนี้นะ เ
อุณหภูมิอากาศที่ค่อนข้างร้อนระอุ กับแสงแดดที่สาดส่องเจิดจ้าลงมากระทบผิวหนังของชายหนุ่มที่นอนอาบแดดระหว่างรอคนรักลงไปเล่นน้ำ บาสเตียนพลิกตัวขึ้นบนผ้าที่ปูลงบนหาดทรายละเอียดสีขาว เขาหยัดกายลุกขึ้นใช้สองแขนแกร่งค้ำยั้นบนผืนผ้า เหยียดท่อนขาตรงข้างหนึ่งอีกข้างขึ้นหยัดตั้งขึ้นมองแฟนสาวที่กำลังเดินนวยนาดมาหาภายใต้แว่นกันแดดแบรนด์ดังหญิงสาวในชุดบิกินี่สีดำขับให้ผิวขาวผ่องจนหน้าสัมผัสหน้าอกอวบอิ่มที่นูนออกมาจนแทบทะลักส่วนที่ปกปิดไว้ด้านบน ทรวดทรงงามระหงดั่งนางแบบที่เดินอยู่บนแคทวอล์คเธอรวบผมเป็นหางม้าใส่หมวกแก็ปสีขาวส่งยิ้มหวานหยาดเยิ้มมาหาแฟนหนุ่มเค้กนั่งลงข้างๆ บาสเตียนซบใบหน้าสวยงามลงบนบ่าแกร่งมือน้อยๆ ของเธอเริ่มซุกซนลูบไล้หน้าท้องแกร่งของซีอีโอหนุ่มที่ไม่ได้มีอาภรณ์ปกปิด “อย่ายั่ว” บาสเตียนเอ่ยปรามเมื่อเขารู้สึกได้ถึงความเป็นชายที่กำลังผงาดง้ำอยู่ภายใต้กางเกงขาสั้นเสมอเข่าสีขาว“เค้กยั่วตรงไหนคะ” มือเล็กยังคงซุกซนด้วยการใช้ปลายเล็บขูดหน้าท้องแกร่งแผ่วเบาเพียงแค่ต้องการให้เกิดรอยขณะที่เธอเชยคางมนไว้ที่บ่าแกร่งแทนทำให้บาสเตียนหันหน้ามาจูบจมูกน้อยพอดิบพอดี บาสเตียนพยายามข่มอารมย์ที่กำลังพล