“งั้นเธอต้องเลือกแล้วละ ว่าจะเดินออกไปกับฉันดีๆ หรือจะให้ฉันอุ้มเธอออกไป” บะ บ้าไปแล้ว อีตานี่มีสิทธิ์อะไรมาทำกับฉันแบบนี้
“เหวออออ ... อีตาบ้าบาสเตียน ปล่อยฉันลงนะ ปล่อย!!!” ขณะที่สาวน้อยกำลังคิดด่าผู้ชายตรงหน้าในใจ ร่างบางของเธอก็ถูกชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้ายกขึ้นพาดบ่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ฉันรู้นะว่าเธอแอบด่าฉัน” เห้ยยย เขารู้ได้ไงอ่ะ ตะ แต่!! มือของบาสเตียนกำลังจะเปิดประตูห้องทำงานของเค้ก
“ฉันยอมไปแล้ว ปล่อยฉันลงก่อน” ฝีเท้าที่กำลังจะขยับของบาสเตียนหยุดลง
“ยอมตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องใช้กำลัง รู้ไหมว่าแบกหมูมันหนักขนาดไหน” ชายหนุ่มค่อยๆ วางหญิงสาวลงอย่างไม่แรงมากนัก
“มะ หมู นี่!! ไอ้บ้าบาสเตียน นายว่าฉันเป็นหมูหรอ!!” บาสเตียนยักไหล่ให้หญิงสาวเอื้อมมือไปคว้ามือเล็กจับประสาน แล้วผลักประตูห้องทำงานให้เปิดออก
สุดาเห็นเจ้านายป้ายแดงของเธอเดินออกมาพร้อมชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา ก้มหน้างุด ไม่กล้าสบตา “เอ่อ...คุณเค้กคะ หุ้นส่วนที่นัดวันนี้บ่ายโมง ขอเลื่อนเวลาเป็นบ่ายสามโมงตรง และฝากขอโทษมาด้วยคะ เนื่องจากติดธุระด่วนกระทันหัน” เค้กพยักหน้ารับ ก่อนเดินออกไป
“เบบี๋ อยากทานอะไรครับ” บาสเตียนเอ่ยเสียงยียวนขณะที่มือทั้งสองยังจับประสานกันอย่างลึกซึ้งก่อนถูกมือเรียวเล็กสะบัด
“นายเลิกพูดอะไรแบบนี้สักทีได้ไหม ขนลุก” บาสเตียนรั้งสะโพกหญิงสาวให้เข้าหาขณะที่ตัวเองพิงผนังลิฟอยู่อย่างใจเย็น
“ไม่ได้หรอก เธอกำลังจะเป็นเมียฉันนะ ฉันก็ต้องพูดดีๆ กับเธอซิ เบบี๋” บ้า ผู้ชายคนนี้มันบ้าไปแล้ว
“นายพูดอะไรของนาย แล้วนายมาที่นี่ทำไม ไปเลยนะ” หญิงสาวเอ่ยปากไล่อย่างไม่สบอารมย์ “เดี๋ยวเธอก็รู้ว่าฉันมาทำไม”
บาสเตียนก้มหน้าประชิดกกหูของหญิงสาวสูดดมกลิ่นหอมเฉพาะตัวของเธอ ขณะที่ท่อนแขนแกร่งยังคงโอบรอบเอวบางของหญิงสาวไว้
ชายหนุ่มเดินจูงมือหญิงสาวมาที่รถยนต์คันหรูของตัวเองมือหนาเอื้อมไปเปิดประตูฝั่งข้างคนขับ “ฉันขับไปเองได้ ฉันมีรถนะ” มือหนาดันตัวร่างบางให้ลงนั่งตรงเบาะข้างคนขับ
“รู้จ๊ะ ว่ารวย รวยมากกกกก แต่จะรวยแค่ไหนก็ควรประหยัดนะ” ว่าจบปิดประตูแล้วรีบวิ่งมาฝั่งคนขับ “นายจะพาฉันไปไหนเนี่ย” ชายหนุ่มมองสีหน้าเป็นกังวนของหญิงสาวเพียงเล็กน้อย “กินข้าวไง ฉันหิวแล้ว”
บาสเตียนเดินจับมือหญิงสาวเข้ามาที่ร้านอาหารอิตาเลียนสุดหรู “กรี๊ดดดดดดดดดดดดด นั่นๆๆๆๆ คุณบาสเตียนมากับคุณเค้ก” เสียงระเบ็งเซ็งแซ่ ของหญิงสาวกลุ่มหนึ่งดังขึ้น ก่อนจะมีผู้คนกรูดกันเข้ามาเพื่อถ่ายรูป และจ้องมองสองนักธุรกิจดาวรุ่ง ที่หล่อ สวย รวยมากๆ ชื่อเสียงของทั้งสองคนดังกว่าดาราซุปเปอร์สตาร์บางคนอีก
เป็นเค้กที่จับมือของบาสเตียนไว้แน่น บาสเตียนเองก็ตอบสนองเธอเป็นอย่างดีด้วยการจับมือเธอแน่นเช่นกัน ราวกับบอกให้เธอรู้เป็นนัยๆ ว่าจะไม่มีวันปล่อยมือเธอเป็นอันขาด บอร์ดี้การ์ดของบาสเตียนกันผู้คนที่หลั่งไหลเข้ามาไม่ให้เข้าใกล้ผู้เป็นนาย และนายหญิงในอนาคตของเขาไว้
“ขอเวลาส่วนตัวให้คุณบาสเตียน กับคุณเค้กด้วยนะครับ”
“เขาคบกันหรอคะ”
“เขาเป็นอะไรกันหรือคะพี่”
“เขาต้องคบกันแน่ๆ”
“เป็นข่าวใหญ่แน่ เจ้าพ่อวงการโรงแรม และเรือสำราญ กับผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าแม่วงการการท่องเที่ยว และรีสอร์ท”
ชั่วเวลาไม่ถึงสามสิบนาที บรรดานักข่าวจากหลายสำนักก็มายืนรอกันอยู่หน้าร้านอาหาร ที่ชายหญิง ทั้งคู่รับประทานอาหาร ด้วยบรรยากาศสุดแสนโรแมนติก และเป็นกันเอง แสงแฟลชจากกล้องนับร้อย ที่สะท้อนเข้ามาภายในร้านอาหาร
“คนพวกนั้นมาได้ยังไง”
“เฮียจะไปรู้ได้ไงละ เฮียก็มาพร้อมเบบี๋เนี่ย” ดะ เดี๋ยวนะ สรรพนามนั่น อะไรกัน
“นายเลิกพูดอะไรที่น่าขนลุกแบบนั้นสักทีได้ไหม จะอ้วก” บาสเตียนนั่งขำกับปฎิกริยาของหญิงสาวตรงหน้า แม่ของลูกชัดๆ หัวสมอง และหัวใจของเขาตอบเขาได้แค่ เค้กนี่แหละแม่ของลูก จะว่ารักแรกพบก็ได้ เขาหลงรักเธอตั้งแต่แรกพบครั้งแรก ไอ้เหตบังเอิญที่ไปจุ้บปากเธอตอนรับน้องอะไรนั่น มันไม่ใช่เรื่องจริงหรอก
เขาตามจีบเธอมาตลอดตั้งแต่ครั้งแรก ถึงแม้การจีบของเขาจะแตกต่างจากคนอื่นไปหน่อยก็เหอะนะ มือหนายกมือเรียกบริกรเพื่อสั่งอาหาร
“เบบี๋ อยากทานอะไรคะ สั่งเลย เดี๋ยวเฮียเปย์เอง” สายเปย์ใช่ไหม ได้เลยบาสเตียน อยากเล่นบทป๋าเปย์นักใช่ไหม
“งั้นเค้กไม่เกรงใจแล้วนะ” หญิงสาวตรงหน้าเลือกเมนูที่แพงที่สุดในร้านมาสามสี่อย่าง สายตาคมกริบของคนตรงหน้าจ้องมองเธอทุกการกระทำของเธอด้วยความเอ็นดู
[สองชั่วโมงผ่านไป]
“ฉันต้องกลับบริษัทแล้ว มีประชุมกับผู้ถือหุ้นคนใหม่” ชายหนุ่มพยักหน้า วางเงินไว้บนโต๊ะอาหารจำนวนหนึ่ง แล้วยื่นมือจับประสานมือเล็กเดินออกจากร้านอาหาร ขณะที่ยังมีผู้คนคอยมองพฤติกรรมของหนุ่มสาวทั้งคู่
บาสเตียนยกยิ้มพอใจกับกระแสข่าว เพราะมันยิ่งทำให้เขา และเค้กลงเอยกันได้ไม่ยาก หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นการมัดมือชกได้เป็นอย่างดี อีกทั้งต่อหน้าผู้คนมากมายเค้กก็ทำตัวหน้ารัก คิดไม่ผิดจริงๆ ที่พาเธอมาในที่ผู้คนพลุดพล่านขนาดนี้
“แล้วนายมาทำไมเนี่ย ฉันมีประชุม ไม่ว่างมานั่งกัดกับนายหรอกนะ” ชายหนุ่มยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะลงมาเปิดประตูรถให้หญิงสาวโดยไม่พูดอะไร เขาก้มลงจูบขมับของคนตัวเล็กตรงหน้าอย่างแผ่วเบา ท่อนแขนแกร่งโอบรอบเอวบางเดินเข้าบริษัทของเธอ ทำให้หญิงสาวยิ่ง งง หนัก
“นี่!!! ช่วยตอบฉันที นายมาทำไมเนี่ย”
“. . .”
“เอ้า!! อีตาบ้าบาสเตียน ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ นายมายุ่มย่ามอะไรในบริษัทของฉันกันห๊ะ!!” หญิงสาวเริ่มโวยวายเสียงดังลั่น (ลั่นลิฟ) บาสเตียนอดไม่ได้ที่จะหลุดยิ้มออกมากับพฤติกรรมของเธอ เขาพาเธอเดินมาส่งหน้าห้องทำงาน
“คุณเลขา หุ่นส่วนที่พ่อกับแม่เค้กดิวไว้เขามาหรือยังคะ” สุดามองหน้าบาสเตียนเลิกลั่ก บาสเตียนขยิบตาให้สุดาหนึ่งครั้งเป็นอันรู้กัน
“มาแล้วค่ะ คุณเค้ก เดี๋ยวดิฉันเอาข้อมูลให้เมื่อคุณเค้กเข้าห้องประชุมนะคะ”
“เบเบี๋คะ เฮียไปก่อนนะ เฮียมีประชุมเหมือนกัน”
“จะไปไหนก็ไปเถอะ”
[ภายในห้องประชุม]
เค้กนั่งรอผู้ร่วมหุ้นอย่างใจจดใจจอที่หัวโต๊ะในห้องประชุม จวนเวลาแล้วที่ผู้ร่วมหุ้นจะมา
แกร่ก ~
หญิงสาวลุกขึ้นยืนก้มหน้า เมื่อผู้ร่วมหุ้นเดินเข้ามานั่งข้างๆ “สวัสดีค่ะ เค้กเป็นประธานคนใหม่ของบริษัท ทำหน้าที่ดูแลคุณแทนคุณพ่อกับคุณแม่ ทางเรายินดีมาก ที่คุณสนใจร่วมหุ้นดะ....!!” ทุกอย่างเงียบสนิทเมื่อเค้กเงยหน้ามองใบหน้าหล่อเหลาของผู้ร่วมหุ้น อะ...ไอ...ไอ้บ้านิ นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย
“ไอ้บ้าบาสเตียน นะ นายมาทำอะไรตรงนี้”
[สามปีต่อมา]ฤดูใบไม้ร่วงที่อบอวลไปด้วยมวลหมู่ดอกไม้อันร่มรื่น ภายในสวนจัดงานรื่นเริงที่หน้าปิติยินดี ผู้คนมากมายเดินสวนกันไปมาภายใต้บรรยากาศที่แสนอบอุ่น ใจกลางสวนดอกไม้มีโดมสีขาวประดับประดาไปด้วยดอกกุหลาบสีขาวสลับแดงสายลมพัดพาให้วันนี้มาถึง วันที่หน้ายินดีของคู่บ่าวสาวที่คนทั้งประเทศจับตามอง ร่างกำยำยืนท่ามกลางผู้คนใจกลางสวนหน้าโดมสีขาวโดยมีบาทหลวงในชุดสูทสีดำยืนเพื่อรอทำพิธีสำคัญเด็กหญิงตัวเล็กวัยสามขวบเดินเตาะแตะอยู่หน้าร่างอรชรในชุดเจ้าสาวสีขาวนวลเรียบง่าย ในมือของเด็กน้อยวัยน่ารักถือกลีบดอกไม้สำหรับโปรยทางให้เจ้าสาวเดินตรงไปยังเจ้าบ่าวแขนข้างซ้ายของเธอคล้องกับแขนของชายวัยกลางคนในชุดสูทสีดำเดินมุ่งตรงไปยังหน้าลานพิธี โดยเด็กหญิงตัวเล็กในชุดกระโปรงสีชมพูอ่อนประดับด้วยดอกไม้สีสวยรอบเอวเดินนำหน้ามาจนถึงหน้าลานพิธี”แดะ~.... (แด๊ด)” เด็กหญิงตะโกนก้องหน้าลานพิธีวิ่งเตาะแตะหาเจ้าบ่าวที่ยืนหน้าแท่นพิธีอย่างใจจดใจจ่อ บาสเตียนในชุดเจ้าบ่าวย่อตัวลงในท่านั่งย่อขาอุ้มเด็กหญิงขึ้นมาก่อนกดหอมฟอดใหญ่ฟอดดดดดดดดดดดดด!”อื้ออออ .... มี (มี๊)”พฤติกรรมของเธอต่างเรียกเสียงหัวเราะให้กับแขกที่มาในงา
@เพนท์เฮาส์บาสเตียน ”อือออ ...” หญิงสาวที่นอนหลับไหลอยู่บนเตียงของชายหนุ่มส่งเสียงครางในลำคอเมื่อถูกบางอย่างรบกวนการนอนที่กำลังสบายในยามราตรี บางอย่างที่นุ่มนิ่มเปียกแฉะแต่อบอุ่น”เฮียขอนะ เบบี๋” เห้อนี่กูกำลังพยายามลักหลับเมียตัวเองเหรอวะเนี่ย บาสเตียนค่อยๆ ลูบไล้หน้าท้องของแฟนสาวแผ่วเบาก่อน มือกำลังปลดเปลื้องอาภรณ์ของหญิงสาวออกทุกชิ้นอย่างใจเย็น และเบามือที่สุดริมฝีปากหนาประทับสัมผัสหัวไหล่มนด้วยความหลงไหล “อืมม ... หอมจัง” บาสเตียนยังคงพรมประทับรอบจูบไปทั่วบริเวณใบหน้าและลำคออย่างแผ่วเบา “อืมมม ...” เสียงครางในลำคอของคนตัวเล็กบ่งบอกว่ากำลังไม่พอใจที่ถูกรบกวนยามราตรีแบบนี้เมื่อปลดเปลื้องอาภรณ์ของแฟนสาวออกจนหมดทุกชิ้นบาสเตียนรีบปลดเปลื้องอาภรณ์ของตัวเองออกทันที ทำให้ตอนนี้บาสเตียนและเค้กกำลังเปลือยเปล่าทั้งคู่ฝ่ามือหนาจับเรียวขาของแฟนสาวตั้งขึ้นเป็นรูปตัวเอ็ม ก่อนเลื่อนตัวเองลงไปยังกลางกายของหญิงสาวสูดดมกลิ่นดอกไม้ราตรีด้วยความหลงไหล บาสเตียนจับเรียวขาของหญิงสาวให้แยกออกจากกันเผยให้เห็นดอกไม้งานที่กำลังเบ่งบานจากการปรนเปรอของเขาเมื่อครู่ “หึ ขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมตื่นอีกหรอ” สิ้นส
“คิดจะวัดรอยเท้ากับฉัน ต้องรู้ก่อนนะว่ากระดูกเรามันคนละเบอร์ อีหน้าด้าน!!” ว่าจบเค้กจับศรีษะเล็กของโรสกระแทกกับขอบโต๊ะอาหาร“โอ้ยยยยย!!!”ความเจ็บปวดของโรสยังไม่เท่ากับความเจ็บปวดใจที่โรสพยายามแทรกตัวเองเข้ามาระหว่างเธอกับบาสเตียนยิ่งคิด ยิ่งแค้น ยิ่งแค้นความรุนแรงยิ่งเพิ่มขึ้น“เบบี๋ พอแล้ว โรสสลบไปแล้ว พอเถอะเฮียขอ พวกมึงมาเอาโรสออกไปดิ๊ ยืนทำห่าไรกัน!!!!” ประโยคแรกเขาพูดกับแฟนสาว ประโยคหลังสั่งลูกน้องคนสนิทให้แยกเค้กออกจากโรสทันทีที่จับทั้งสองคนแยกออกมาได้ บาสเตียนพาเค้กขึ้นรถทันที ส่วนโรสเป็นหน้าที่รับผิดชอบของกาย และพสุ บาสเตียนรั้งตัวหญิงสาวให้ขึ้นมานั่งทาบทับบนหน้าตักแกร่ง โดยจัดท่าทางให้เธอหันหน้าเข้าหากันสองมือแกร่งกอดปลอบหญิงสาวที่นั่งตัวสั่นเทิ้มด้วยความโมโห “ไม่เป็นไรนะครับเบบี๋ เฮียอยู่นี่นะ เฮียอยู่กับเบบี๋นะครับ” เขาใช้เวลาสักพักใหญ่ๆ กว่าเค้กจะอารมย์ลงได้ ก่อนขับรถยนต์คันหรูออกมาจากลานจอดรถ@คอนโดเค้ก“ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องกังวนเดี๋ยวเฮียจัดการเองนะ ไม่เป็นไรครับ” มือหนาปลอบประโลมลูบไล้แผ่นหลังบางอย่างหวงแหน เขาไม่มีวันให้เค้กเป็นอะไรไปแน่นอนบาสเตียนอุ้มเค้กขึ้นมานั
หลายสัปดาห์ต่อมาที่เค้กต้องทนอึดอัดใจ เพราะโรสยังคงวนเวียนมาหาบาสเตียนอยู่เสมอโดยอ้างเรื่องงานเพื่อเข้าหาบาสเตียนได้อย่างเนียนๆ“หน้าด้าน!!” เค้กเอ่ยขึ้นทันทีที่เดินเข้ามาภายในห้องทำงานของบาสเตียน แต่ก็อดหงุดหงิดใจไม่ได้เมื่อเดินเข้ามาแล้วพบกับโรสที่นั่งอยู่ตรงโซฟารับแขกด้วยเสื้อผ้าที่เธอใส่มานั้นมันเหมือนมายั่วผู้ชายมากกว่ามาทำงาน“น้องงงงงเค้กกก พี่โรสคิดถึงจังเลยค่ะ มาให้พี่หอมหน่อยเร็ววว” หึ ตอแหลจริงๆ ไม่เคยเจอใครหน้าด้านหน้าทนเท่ายัยโรสนี่เลย“งานการไม่มีทำเหรอคะ ถึงต้องเร่มาหาผัวชาวบ้านถึงที่” เค้กพูดขณะเดินไปนั่งหย่อนสะโพกลงบนหน้าตักแกร่งของบาสเตียน โดยที่บาสเตียนยังง่วนอยู่กับเอกสารสำคัญตรงหน้าแต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเค้กและเริ่มชินกับการที่เค้กกับโรสปะทะฝีปากกันแล้ว“แหม่เรียกผัวได้เต็มปากเต็มคำดีนะคะ ถ้ายังไม่แต่งงานกันโรสก็ยังถือว่าบาสเตียนยังโสด” หน้าด้าน หน้าทน หน้าหนา เสียจริงแม่นี่“...” เค้กได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธ เคืองบาสเตียนเห็นอย่างนั่นก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมากลัวว่าตัวเองอาจจะซวยอีกเพราะทุกครั้งเค้กก็จะไปลงที่เขาเสมอ จังหวะที่บาสเตียนกำลังมองสีหน้าเ
@ห้างสรรพสินค้า“แกๆ นั่นๆ คุณมอร์แกนกับคุณเค้ก เขามาสวีทกันอีกแล้วเว้ยแก”“คุณเค้กตัวเล็กนิดเดียวเองอ่า น่ารักวะ”“อยากให้แต่งเลยอะ เหมาะสมกันดีเนาะ”“อยากเห็นโมเมนต์หวานๆ อ่ะ”บาสเตียนเดินจับมือเค้กเข้าไปในร้านอาหารหรูกลางห้างดังอย่างเช่นที่เคยทำประจำ “สั่งเลยเบบี๋ เดี๋ยวป๋าเปย์เอง” คำพูดเหมือนครั้งที่เคยพาเธอมาครั้งแรก แต่กลับให้ความรู้สึกที่ต่างกัน“แน่นอนอยู่แล้วค่ะ ยังไงเฮียต้องเลี้ยงเค้กแน่ๆ ละ” เค้กยิ้มจนตาหยีออกมาราวกับเด็กน้อยที่ได้ขนมชิ้นโปรดมากินภายในร้านอาหารการกระทำและข่าวของทั้งคู่อยู่ในสายตาสาธารณะชนทุกอย่าง ข่าวเรื่องของทั้งคู่โหมแรงหนักมาก กลบข่าวดาราซุปตาร์หลายๆ คนเสียด้วยซ้ำเนื่องจากธุระกิจที่ทั้งคู่ทำเป็นธุรกิจชั้นนำและสร้างรายได้มหาสาร“เบบี๋ เสร็จแล้วไปดูหนังกันนะ” เค้กยังไม่ทันตอบตกลงอะไรบาสเตียนก็ลากเธอไปยังหน้าโรงหนังเรียบร้อยแล้วกว่าสามชั่วโมงที่ทั้งคู่ใช้เวลาอยู่ในห้างสรรพสินค้า เค้กก้มมองนาฬิกาที่ตอนนี้บ่งบอกเวลาสองทุ่มครึ่งแล้ว “กลับกันเถอะค่ะเฮีย จะได้พักผ่อนเนอะ”ปึก!เสียงปิดประตูรถที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินดังขึ้น เมื่อทั้งคู่เข้ามาอยู่ในรถเรียบร้อยแล้ว
บาสเตียนจับแฟนสาวให้หันหน้าเข้าหาเขา อีกมือจับลำเอ็นตั้งตรงเตรียมตัวออกศึกพร้อมรบ“อย่าลืมครางดังๆ นะเบบี๋”“เกะกะ” เป็นเค้กเองที่ปัดมือเขาออกจากการเกาะกุม แล้วเป็นฝ่ายจับแก่นกายของบาสเตียนรูดขึ้น รูดลง ก่อนนำมาจ่อที่ปากทางเข้าร่องสวาทถูวนไปมากับดอกกุหลาบแย้มปริ่มที่มีน้ำเกสรไหลออกมาเป็นทางยาว “อ่าาา ... เซ็กซี่จังที่รัก...ซี้ดดดด”“อ๊าา ... ฮะ เฮียเป็นของเค้ก” หญิงสาวเอ่ยครางเสียงหวานก่อนจับตัวตนของซีอีโอหนุ่มกดเข้าร่องสวาทแค่ส่วนหัว “ซี้ดดดด .... ครับ เฮียเป็นของเบบี๋คนเดียว ... อ่าา”มุมปากบางยกยิ้มพึงพอใจก่อนกดสะโพกพรวดเดียวจนมิดท่อนลำเอ็น “โอ้ววว .... ซี้ดดดด ปะ ไปโกรธใครมาเนี่ยเบบี๋ ... อ่าาา ... เฮียเสียวนะ” เค้กยังคงบดคลึงร่องสวาทหมุนควงไปมาให้แก่นกายใหญ่สำรวจช่องทางรักคับแคบเป็นวงกลม“ซี้ดดดด ..... โกรธผู้หญิงคน นะ นั้นคะ ...อ๊าาา” หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นเปล่งเสียงครางหวานกระเส่า ขณะที่ชายหนุ่มจับสะโพกสาวไว้มั่น เขาพึงพอใจกับการปรนเปรอของเธอเป็นที่สุด“อ่าาา .... มาลงที่เฮียก็ได้ ระบายกับเฮียมาเลยเบบี๋ ... อ่าาา” เสียงคำรามก้องด้วยความเสียวซ่านของหนุ่มสาวทำให้ผู้ที่ยืนอยู่ข้างนอก