Share

บทที่ 6

last update Last Updated: 2025-10-21 14:41:59

ชายหน้าตาดีที่ริศาคิดว่าเขาคือคนที่ช่วยเธอไว้เมื่อคืนนี้นั้นยกยิ้มขึ้นที่มุมปากพลางลุกออกจากโต๊ะและเดินเข้ามาหาเธอ

“บังเอิญจังเลยนะ” น้ำเสียงนุ่มเอ่ยทักทายในขณะที่ริศาก็รู้สึกยินดีอยู่ในใจที่ได้พบเจอเขาอีกครั้ง

“ค่ะ ดีใจจังค่ะที่ได้เจอคุณ เอ่อ…นาย เอ่อ…พี่” คนตัวเล็กติดๆขัดๆในคำพูดที่จะใช้เรียกสรรพนามของอีกคน ทำให้คนที่ยืนฟังและมองอยู่เผลอยิ้มชอบใจในท่าทางเก้ๆกังๆแต่น่ารักเหล่านั้นของเธอ

“หึ! แล้วแต่จะเรียกเถอะ ฉันชื่อพอร์ช อยู่วิศวกรรมโยธาปี4 มหาลัยk แล้วเธอล่ะ” เขาจึงแนะนำตัวเองก่อนและถามเธอกลับบ้าง

“ชื่อริศาค่ะอยู่นิเทศศาสตร์ปี2มหาลัยS งั้นริศาขอเรียกพี่ว่าพี่พอร์ชแล้วกันนะคะ”

“อืม ตามนั้นเลย”

“อ่อ… ส่วนสองคนนี้มะนาวกับแป้งร่ำเพื่อนสนิทริศาค่ะ” คนตัวเล็กของกลุ่มไม่ลืมจะแนะนำเพื่อนๆของเธอให้อีกคนได้รู้จัก พอร์ชนั้นก็หันไปยิ้มให้อีกสองคนอย่างเป็นมิตร ทว่ามีหนึ่งในนั้นที่มองเขากลับมาเหมือนจะจับผิดนั้นก็คือแป้งร่ำผู้ไม่ค่อยไว้ใจผู้ชายคนไหนที่เข้ามาใกล้เพื่อนเธอเลย

“ขอบคุณอีกครั้งนะคะสำหรับเรื่องเมื่อคืน ถ้าไม่ได้พี่ช่วยไว้ริศาต้องแย่แน่ๆเลย”

“บอกว่าไม่เป็นไรไง คราวหลังก็อย่าเดินคนเดียวกลางคืนแบบนั้นแล้วกันมันอันตราย”

“ไม่กล้าแล้วค่ะ ว่าแต่ริศาอยากตอบแทนพี่จังเลยค่ะ มีอะไรที่ริศาพอจะตอบแทนพี่ได้บ้างไหม”

“ไม่ต้องหรอกเรื่องแค่นี้เอง”

“แต่ว่า…”

“โอเค ก็ได้ ถ้าอยากตอบแทนงั้นรอแป๊บนะ” พูดจบชายหนุ่มก็เดินกลับไปที่โต๊ะของตัวเองเพื่อหยิบอะไรบางอย่างและเดินกลับมาหาริศาอีกครั้งก่อนจะยื่นมันส่งมาตรงหน้าเธอ

“เอาเบอร์ติดต่อเธอมาสิ”

“คะ?” ริศามองโทรศัพท์เครื่องหรูสลับกับมองหน้าของอีกคนด้วยความยังคงงงอยู่

“ตอนนี้ยังไม่รู้จะให้ตอบแทนอะไร ถ้าคิดได้แล้วฉันจะโทรไปบอกนะ”

“อะ อ๋อ ค่ะๆ” แม้จะยังงงๆอยู่เล็กน้อยแต่ริศาก็เลือกที่จะรับโทรศัพท์จากเขามาเพื่อเมมเบอร์ตัวเองลงไป

“ทำเนียนขอเบอร์หรือเปล่า” โดยที่ก็มีเสียงแป้งร่ำเอ่ยขัดจังหวะขึ้นเล็กน้อยทว่าก็ไม่ได้ห้ามปรามอะไรเพื่อน เพียงแค่มีความห่วงเล็กน้อยเพราะดูออกว่าผู้ชายคนนี้สนใจริศา

“เรียบร้อยค่ะ” พอเมมเบอร์ของตัวเองเสร็จเธอก็ส่งคืนเจ้าของไป ทว่าในขณะที่เธอกำลังส่งโทรศัพท์คืนเขาไปนั้น สายตาของชายหนุ่มก็เหลือบไปเห็นแหวนที่นิ้วของเธอทำให้เขาเองนิ่งไปชั่วขณะ แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะไม่ใส่ใจอะไร เพราะคิดว่าบางทีเธออาจจะแค่ใส่พอดีกับนิ้วนี้เฉยๆ

“ถ้างั้นขอตัวก่อนนะ ไว้เจอกัน”

“ค่ะ” ริศาพยักหน้าและยิ้มให้เขาอีกครั้ง และก็เป็นเหมือนเช่นเมื่อคืนที่พอเขาได้เห็นรอยยิ้มของเธอแล้วก็ต้องรู้สึกแปลกๆแบบบอกไม่ถูก เธอเป็นคนที่ยิ้มสวยมากในความคิดของเขา ยิ้มสวยจนบางทีเขาชักอยากจะได้เห็นรอยยิ้มแบบนี้ในทุกๆวัน…

หลายวันต่อมา…

ริศายังคงกลับมาทำงานพาร์ทไทม์ที่เดิมอยู่เพราะถ้าจะออกหรือหยุดตอนนี้ก็เกรงใจรุ่นพี่ที่ให้โอกาสเธอได้ทำ แต่หลายวันมานี้ถึงจะมีลูกค้าเยอะแค่ไหนเจ้าของร้านรุ่นพี่ก็จะให้เธอกลับไม่เกินหนึ่งทุ่มทุกวัน เพราะเกรงว่าเธอจะไปเจอเหตุการณ์อย่างวันนั้นอีก

“เดี๋ยวเตรียมกลับได้แล้วนะริศา” แก้วรุ่นพี่ที่เป็นเจ้าของร้านบอกกับริศาในขณะที่เธอเก็บแก้วและจานเข้ามาล้าง

“ไล่ทุกวันเลยนะพี่แก้ว”

“ไม่ไล่เธอก็ไม่ไปสักทีไง”

“ฮ่าๆ โอเคค่ะ ไปก็ได้” คนตัวเล็กไม่รอให้เจ้าของร้านไล่อีกรอบก็ถอดผ้ากันเปื้อนและเก็บของใส่กระเป๋าเตรียมจะออกไป

บรึ๊นนน~~

ทว่าพอเธอเดินออกมายังไม่พ้นหน้าร้านเท่าไรเสียงท่อดังของบิ๊กไบค์คันใหญ่ก็แล่นเข้ามาจอดข้างฟุตบาทใกล้ๆกับเธอแถมยังแกล้งเร่งเครื่องเสียงดังให้เธอตกใจเล่นอีก

“เต…!” ทันทีที่เห็นรถและคนริศาก็จำได้แม่น เขาก็คือเพื่อนสนิทอีกคนของเธอนั่นเอง

“ไง ยัยบ้อง เพิ่งเลิกงานเหรอ”

“อืม มาได้ไงเนี่ย”

“ก็เห็นบอกว่าทำงานที่นี่เลยแวะมาหา คิดถึง”

“แหวะ! ขนลุกนะเต”

“ฮ่าๆ จริงๆนะ กะว่าจะมาพาเธอไปขี่รถเล่น”

“หือ? จะให้ฉันซ้อนไอ้เจ้านี่อีกแล้วเหรอ ฉันใส่กระโปรงนะ” ริศาว่าพลางก้มลงมองที่กระโปรงนักศึกษาของตัวเองสลับกับเจ้ารถคันใหญ่ยักษ์ที่เธอนั่งซ้อนเพื่อนทีไรก็จะปลิวให้ได้ทุกที

“เดี๋ยวพาไปเปลี่ยนก่อนไง หออยู่แค่นี้เองหนิ”

“…”

“เฮ้อ~~ไม่อยากไปก็ไม่เป็นไร ฉันแค่จะพาเธอไปดูอะไรเฉยๆ

“หือ? ดูอะไรเหรอ”

“อยากรู้ก็ขึ้นมาสิ” เตมินทร์บอกพลางใช้มือตบเบาะรถที่คนซ้อนและส่งยิ้มกวนๆ

“ชิ! ไปก็ได้” ถึงจะไม่ชอบนั่งรถแบบนี้เท่าไหร่ด้วยว่ามันออกจะคันใหญ่ไม่เหมาะกับเธอ แต่ริศาก็ยอมขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายเพื่อนชายอยู่ดีนานๆเพื่อนจะแวะมาหาทีเธอก็ไม่อยากขัดใจ

“ไม่ต้องซิ่งนะ”

บรึ้นนน~~

@สนามแข่งรถxxx

หลังจากพาริศาเปลี่ยนชุดที่หอพักเรียบร้อยเตมินทร์ก็พาเธอบิดรถมายังสนามแข่งรถแถบชานเมืองที่เป็นของพี่ชายตัวเอง โดยที่ไม่ได้บอกริศาไว้ล่วงหน้า ว่าไอ้ที่ที่จะพาเธอมาดูอะไรมันคือที่นี่

“ที่นี่มัน?” ริศาที่ไม่เคยมาที่นี่เลยเอาแต่มองไปรอบๆอย่างรู้สึกแปลกใจ เธอรู้ว่าคู่หมั้นตัวเองมีสนามแข่งรถแต่ก็ยังไม่เคยมาเลยสักครั้ง แล้วก็ไม่คิดด้วยว่าเตมินทร์จะพามาในวันนี้

“เข้าไปข้างในกัน”

“เดี๋ยวสิ นายพาฉันมาทำไมอ่ะ”

“พามาเที่ยวเล่นเฉยๆ”

“พี่รามจะไม่ว่าอะไรใช่ไหม” คนตัวเล็กอดรู้สึกกลัวไม่ได้ว่าคู่หมั้นหนุ่มจะไม่พอใจที่อยู่ๆก็โผล่มาที่นี่

“กลัวทำไม เธอมีสิทธิ์ที่จะมา ไปเร็ว” ไม่รอให้เพื่อนถามอะไรต่อเตมินทร์ก็ดึงมือริศาให้เดินตามเข้าไปข้างในด้วยกัน ซึ่งพอเดินเข้ามาถึง…

“อ้าว! ลมอะไรหอบมาที่นี่น่ะเต” เสือที่ยืนทำอะไรของเขาอยู่หันมาเห็นคนแรกก็เอ่ยถามขึ้น พร้อมกันนั้นผู้ชายอีกหกเจ็ดคนที่กำลังจดๆจ้องๆอยู่กับรถแข่งหรูสามสี่คันก็พากันหันมามอง

“ก็มาเที่ยวเล่นบ้างสิครับ คิดถึงพี่ๆ”

“หึ! มาเที่ยวเล่นตอนนี้เนี่ยนะ แล้วนั่น?” เสือมองผ่านเตมินทร์ไปยังผู้หญิงอีกคนที่พามาด้วย ตอนแรกเขาคิดว่าเป็นผู้หญิงของน้องชายเพื่อน แต่พอเห็นหน้าชัดๆแล้วก็เลยรู้ว่าไม่ใช่

“พามาหารามเหรอ”

“เปล่า ก็บอกแล้วว่ามาเที่ยวเล่นเฉยๆ เออ ริศานี่พี่เสือเพื่อนรามมันจำได้ไหม” เตมินทร์แนะนำเสือให้ริศารู้จัก เธอเคยพบเจอเพื่อนของรามผ่านๆเมื่อสมัยที่แม่พาไปบ้านกรกนกบ่อยๆแต่ก็ไม่เคยพูดคุยอะไรกัน

“สวัสดีค่ะพี่เสือ”

“สวัสดีครับ โตเป็นสาวแล้วน่ารักจัง”

“เบาหน่อยพี่ นี่ของรามมัน”

“ฮ่าๆ เออฉันรู้แล้ว พาเพื่อนไปนั่งก่อนไปรามมันไปหยิบของเดี๋ยวก็มา” เตมินทร์พยักหน้าและพาริศาเดินไปนั่งที่โซฟานั่งเล่น ไม่นานร่างสูงของรามที่ถือแฟ้มเอกสารอยู่เต็มมือก็เดินเข้ามา และพอได้เห็นว่ามีใครที่เข้ามาใหม่สองคนนั่งอยู่ตรงโซฟาใบหน้าหล่อเหลาก็ดูชะงักไปเล็กน้อย แต่เขาก็ทำเป็นไม่ใส่ใจเดินเอางานไปคุยกับคนอื่นต่อ

จนเวลาผ่านไปได้สักพักเตมินทร์ที่เห็นว่าพี่ชายไม่เดินมาทางเขาสักทีจึงได้ลุกเดินเข้าไปหาและให้ริศานั่งรออยู่ก่อน

“ราม” เสียงเข้มเอ่ยเรียกพี่ชายอย่างนึกไม่พอใจกับความจงใจไม่แยแสตัวเองกับเพื่อน

“พามาทำไม” น้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์เอ่ยถามในขณะที่ตาก็ยังจดๆจ้องๆอยู่ที่เอกสารสลับกับรถแข่งยี่ห้อดังไม่ได้หันไปมองน้องชายแต่อย่างใด

“ออกไปคุยกันหน่อย” แต่น้ำเสียงที่ฟังดูจริงจังบวกกับแววตาไม่ติดเล่นเหมือนที่เคยเป็น มันทำให้เขาจำใจต้องหันไปสนทนาด้วย

“มีอะไร”

“ตามมา” เตมินทร์เดินนำหน้าพี่ชายออกไปยังบริเวณที่ไม่มีใครอยู่แถวนั้นก่อนจะควักบุหรี่ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมาจุดสูบและยื่นมวนใหม่อีกมวนให้พี่ชาย

“ฟู่ว~โทรมาทำไมไม่รับ ข้อความก็ไม่อ่าน” เตมินทร์เปิดประเด็นสนทนา เหตุผลที่เขามาหาพี่ชายถึงที่นี่ก็เพราะตั้งแต่มีปากเสียงกับผู้เป็นแม่วันนั้นรามก็ไม่ยอมติดต่อพูดคุยกับใครเลยจนกระทั่งเวลาผ่านมาได้ร่วมอาทิตย์

“แกมีอะไรก็ว่ามาเต งานฉันเยอะแยะ”

“งานเยอะจนไม่รู้สินะว่าพ่อไม่สบาย”

“พ่อ…เป็นอะไร” รามขมวดคิ้วยุ่งถามน้องกลับ เป็นเพราะเขาไม่ยอมรับโทรศัพท์ไม่อ่านข้อความใครจึงไม่รู้ว่าราเมศพ่อของตัวเองล้มป่วย

“วันนั้นพ่อได้ยินแกทะเลาะกับแม่เรื่องของไอริส พอแกกลับไปพ่อก็คิดมากแล้วก็ขอให้เรียวตะอย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องงานแต่ง ตอนนี้ทุกคนวุ่นวายไปหมดเพราะแก” นิ้วเรียวยาวชี้ใส่หน้าพี่ชายพลางดันลิ้นตัวเองดุนกระพุ้งแก้มเหมือนพยายามระงับอารมณ์ หลายวันที่ผ่านมาเขาพยายามติดต่อรามทว่าอีกคนกลับบ่ายเบี่ยงที่จะคุยด้วย ต่อให้โทรเข้ามือถือเครื่องของเพื่อนๆเขาแต่รามก็ไม่ยอมรับสายไปคุย

“ได้พาพ่อไปหาหมอไหม”

“ไปสิ แกคิดว่าพ่อเป็นแค่นิดๆหน่อยๆหรือไง”

“แล้วหมอว่าไง”

“พักผ่อนน้อย เครียดสะสมพอมันไปรวมกับโรคประจำตัวอาการก็เลยหนัก”

“อืม ฉันลืมไปว่าพ่อเป็นความดันสูงเครียดมากไม่ได้” พอนึกขึ้นมาได้ตรงนี้รามก็หน้าเจื่อนไปอย่างเห็นได้ชัด เขาผิดเองที่เอาแต่ใจมากไปหน่อยจนลืมไปว่าพ่อของเขาไม่ได้แข็งแรงเหมือนแต่ก่อน แต่จะให้ทำยังไง ในเมื่อเขายังตัดใจจากรักแรกของตัวเองไม่ได้เลย และไม่รู้ว่าจะตัดได้เมื่อไหร่ด้วย พอมันได้ยินอะไรที่สะกิดใจนิดหน่อยก็เก็บอารมณ์ไม่อยู่

“แกจะให้ฉันทำยังไง” รามถามความคิดเห็นน้องชาย

“ทำยังไงก็ได้ให้พ่อสบายใจและอาการดีขึ้นมาหน่อย”

“แล้วมันยังไงล่ะ”

“แกไม่ได้โง่หรอกราม เรื่องแค่นี้ก็คิดเอาเอง” ว่าจบเตมินทร์ก็โยนก้นบุหรี่ในมือทิ้งและทำท่าจะเดินออกไป

“แล้วนั่นแกจะไปไหน” รามถามเพราะเห็นว่าน้องชายไม่ได้เดินเข้าไปทางด้านในแต่กลับเดินไปที่ทางออกแทน

“ฝากเอาริศาไปส่งด้วยนะ”

ด้านริศา…

ครืดด~

[ฉันมีธุระด่วนต้องกลับก่อน]

คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันยุ่งเพราะอยู่ดีๆเพื่อนชายตัวดีที่พามาก็ส่งข้อความมาบอกว่าจะทิ้งกันกลับไปก่อนเฉยๆเสียอย่างนั้น

“อะไรเนี่ยเต พาฉันมาทิ้งที่นี่ทำไม” คนตัวเล็กนั่งพึมพำและถอนหายใจกับตัวเอง มองไปรอบๆก็มีแต่คนที่เธอไม่ค่อยจะรู้จัก จะลุกเดินไปไหนก็ไม่กล้าไป ได้แต่นั่งอยู่ตรงนั้นแล้วก็จมอยู่กับความคิด

“เตมันกลับไปแล้ว” กระทั่งมีเสียงเรียบของรามที่เดินมาถึงเธอตอนไหนไม่รู้เอ่ยขึ้น

“ค่ะ เพิ่งส่งข้อความมาบอก”

“นั่งรออยู่นี่แหละ เสร็จงานแล้วฉันจะไปส่ง” บอกไว้แค่นั้นแล้วคนตัวสูงก็เดินมุ่งไปจัดการงานของตัวเองต่ออย่างไม่ได้ใส่ใจอะไรกับริศาอีก จนเวลาผ่านไปได้สักพัก

ตึก!

ตึก!

ก็มีเสียงฝีเท้าใหม่ของคนสองคนเดินเข้ามาหาเธอ

“น้องริศา”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คู่หมั้นร้าย ไม่อยากจะรัก   บทที่ 97

    “งานแต่งของเราเธออยากจัดที่ไหน แบบไหนที่เธอชอบ” รามยอมละริมฝีปากจากการคลอเคลียออกมาเอ่ยถาม “อืม…” คนถูกถามจึงทำท่านึกคิด ถึงเธอจะเคยวาดฝันถึงงานแต่งของตัวเองบ่อยครั้ง ทว่าแต่ละครั้งก็ช่างต่างออกไปตามแต่จินตนาการในตอนนั้น จะจัดที่โรงแรม ริมทะเลหรือว่าสวนดอกไม้อะไรก็แล้วแต่ ขอแค่เจ้าบ่าวเป็นเขาค

  • คู่หมั้นร้าย ไม่อยากจะรัก   บทที่ 96

    “สัด กูช้ำในตายก่อนได้แต่งเมียพอดี” รามหัวเราะเสียงฉุนไม่ได้ถือสาเพื่อนที่เล่นแรงแต่อย่างใด “คืนนี้ต้องฉลองหน่อยไหม เพื่อนจะมีเมียเป็นตัวเป็นตนทั้งที” น้ำเสียงกระดี๊กระด๊าที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวเพลย์บอยหนุ่มอย่างเสือเอ่ยขึ้น ทว่าในเวลาต่อมาก็ต้องถูกเสียงราบเรียบรู้ทันของเพทายพูดขัด “ไม่ต้

  • คู่หมั้นร้าย ไม่อยากจะรัก   บทที่ 95

    บัดนี้หน้าจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บริเวณข้างสนามจับภาพใบหน้าของหญิงสาวไว้ที่เดียว ริศาเริ่มรู้ตัวแล้วว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น หัวใจดวงน้อยที่เต้นเป็นปกติเหมือนกับคนธรรมดาทั่วไปในตอนแรกก็พลันเปลี่ยนเป็นเต้นโครมครามยิ่งกว่าจังหวะสามช่าหน้ารถแห่ การปรากฏตัวของนักร้องชื่อดังที่เธอชื่นชอบอาจจะทำให้เ

  • คู่หมั้นร้าย ไม่อยากจะรัก   บทที่ 94

    “งานนี้ถ้าสำเร็จมึงต้องตบรางวัลใหญ่ให้เมียกูแล้วนะราม” มือหนาตบเข้าที่บ่าเพื่อนแรงๆอย่างให้กำลังใจ เพทายมั่นใจในความฉลาดไม่แพ้ใครของคนรักของตัวเองยิ่งกว่าอะไรเสียอีก “กูก็หวังให้เป็นแบบนั้น หวังว่าเมียมึงจะเดาใจเมียกูถูก” “เอาน่า มันก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายนี่ ยังไงริศาก็รักมึงอยู่แล้วจะกลัว

  • คู่หมั้นร้าย ไม่อยากจะรัก   บทที่ 93

    2ปีต่อมา… “อื๊อ~” เสียงร้องประท้วงในลำคอเล็กถูกเปล่งออกมา พร้อมกับมือบางที่พยายามดันแผ่นอกกว้างของคนเอาแต่ใจออกไป นานกว่าหลายนาทีแล้วที่เขาตะกละตะกลามระดมจูบและดูดดึงกลีบปากของเธอไม่หยุด ทั้งที่ตอนแรกชวนเธอเข้ามานั่งในรถคันใหม่ที่จะนำลงแข่งเพื่อลองเครื่อง ทว่าลงสนามมาได้ไม่เท่าไหร่เขากลับจอ

  • คู่หมั้นร้าย ไม่อยากจะรัก   บทที่ 92

    “ก็รู้ว่านานๆที แต่เราก็ต้องดูกำลังตัวเองด้วย ดื่มก็ใช่ว่าจะเก่งอยู่แล้ว ยังไปทำตามไอริสมันอีก” ทำเป็นส่งเสียงดุใส่ ทว่าจริงๆก็นึกเอ็นดูคนตัวเล็กที่กำลังกอดโถสวมแน่นเพราะความมึนเมาอยู่ไม่น้อย ตอนแรกคงคิดได้ใจที่พวกเพื่อนเขาให้ท้ายด้วยการให้ดื่มเยอะๆและไม่ต้องกลัวว่าเขาจะดุ แต่หารู้ไม่ว่าตัวเองกำลังโ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status