แชร์

บทที่ 9

ผู้เขียน: มุ้ยดอกจิก
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-21 14:55:06

“จำเอิงได้ไหมคะ” เสียงใสเอ่ยถามพร้อมเดินเข้าประชิดตัวเกือบจะติดกับเขา ทำราวกับว่าสนิทสนมกับเขามานาน

จะไม่สนิทได้ยังไงก็เธอเคยเนื้อแนบเนื้อกับเขามาก่อน…

“…” รามขมวดคิ้วทำหน้างงอยู่พักใหญ่ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเคยเจอเธอแล้วครั้งนึงในผับแห่งหนึ่งและไปต่อด้วยกัน แต่ก็แค่เพียงครั้งเดียวแล้วก็ไม่เคยติดต่อกับเธออีกเลย

“พี่รามมาทำอะไรที่นี่คะ”

“ธุระ”

“ธุระอะไรน้าในหอนักศึกษา”

“ไม่ใช่เรื่องของเธอ” เสียงเรียบตอบกลับพร้อมเมินหน้าไปทางอื่นอย่างรู้สึกนึกรำคาญอยู่ลึกๆ หญิงสาวที่เห็นท่าทางแบบนั้นก็ชะงักไปชั่วครู่ แต่พอนึกถึงความเร่าร้อนของคนตัวสูงในค่ำคืนนั้นแล้วก็กล้าที่จะเดินหน้าต่อ

“แล้วเสร็จธุระหรือยังคะ ถ้าไม่ได้มีธุระที่ไหนต่อ…ห้องเอิงมีอะไรให้ทำน้า” สาวหน้าหวานจีบปากจีบคอพูดอย่างมีจริตจะก้านเธอรู้ดีว่าชายหนุ่มอย่างเขาชอบอะไรแบบไหน ซึ่งรามเองที่ยืนมองท่าทางพวกนั้นอยู่ก็ไม่ได้เอ่ยตอบอะไร แต่ในหัวกลับนึกไปถึงร่างเล็กอีกคนที่ก็เพิ่งเอ่ยชวนเขาขึ้นไปบนห้องเช่นกัน แต่การชวนในความหมายช่างต่างกันลิบลับกับเธอคนนี้

“ว่าไงคะ สนใจไหม”

รามมองดูนาฬิกาข้อมือก็เห็นว่าเพิ่งจะเที่ยงตรง ยังพอมีเวลา และคนที่อยู่ข้างบนห้องนั้นก็คงจะกำลังอาบน้ำเตรียมตัวอยู่

“อืม” จึงตอบตกลงคนตรงหน้ากลับไปในลำคอ

จะเป็นไรไปถ้าเขาจะหาอะไรสนุกๆทำในระหว่างที่รอคนตัวเล็ก…

ตึก!

ตึก!

หญิงสาวที่อยู่ๆก็เจอคนที่ถูกใจอีกครั้งเดินนวยนาดนำเขาเข้ามาภายในตึกเดียวกันกับริศา ซึ่งห้องของเธอคนนี้อยู่ที่ชั้นสอง ส่วนห้องของริศาอยู่ที่ชั้นสาม

“ขอเวลาสามนาทีนะคะ เก็บของแป๊บเดียว” เสียงหวานเอ่ยบอกกับรามอย่างออดอ้อนก่อนจะเปิดประตูเดินเข้าไปปล่อยให้เขารออยู่ข้างนอกก่อนโดยที่ไม่รู้เลยว่าคนที่เธอบังอาจให้เขารอนั้นเกลียดอะไรที่ลีลาเยอะแบบนี้เป็นที่สุด

“…” ซึ่งพอประตูปิดลงใบหน้าหล่อเหลาของรามก็ดูหงุดหงิดรำคาญใจกับท่าทางพวกนั้นเป็นอย่างมาก เขาไม่ชอบผู้หญิงที่มีจริตเยอะแยะแม้ว่าส่วนมากจะได้ร่วมรักกับพวกเธอเหลานี้บ่อยก็ตาม แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่การสนุกชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น

“เรื่องเยอะ” ไม่ต้องรอให้ถึงสามนาทีตามที่หญิงสาวบอก ร่างสูงของรามก็เปลี่ยนทิศทางเดินไปยังบันไดเพื่อขึ้นไปห้องข้างบนอีกชั้นทันที

แกร๊ก!

เขาเปิดประตูเดินเข้ามาก็เห็นว่าภายในห้องไม่มีคนตัวเล็กอยู่จึงนึกรู้ได้ว่าเธอคงจะอาบน้ำ

“นี่ก็ชักช้า” ปากก็พึมพำบ่นไปแต่ก็เดินไปนั่งที่โซฟาตัวเดิมเพื่อรอเธออยู่ดี

และเพียงไม่กี่นาทีคนตัวเล็กที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จก็เดินออกมาพร้อมกับกลิ่นสบู่หอมอ่อนๆลอยฟุ้งไปทั่ว

“โอ๊ะ! พี่ราม ขึ้นมาเร็วจังคะ”

“เร็วอะไร ฉันไปสูบบุหรี่เกือบครึ่งชั่วโมง” เสียงเข้มเอ่ยบอกแต่ตาคมกลับไปโฟกัสตรงขาขาวเนียนที่โผล่พ้นมาจากเสื้อคลุมอาบน้ำลายการ์ตูนน่ารักเสียอย่างนั้น

“มัวยืนทำไม ไปแต่งตัวได้แล้ว” เขาทำทีเป็นเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ทว่าความขาวของขาเล็กนั้นยังคงติดตาอยู่ ไหนจะกลิ่นหอมๆจากสบู่นั่นก็อีก แม้จะไม่ได้ชอบผู้หญิงที่ดูจืดชืดอย่างริศาสักเท่าไหร่ แต่เขาก็อดยอมรับไม่ได้เลยว่าเธอมีอะไรบางอย่างที่มันดึงดูดให้เขาต้องมอง

ริศาใช้เวลาแต่งตัวแต่งหน้าไม่ถึงสิบห้านาทีทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย เธอเป็นคนที่ไม่ได้ชอบแต่งอะไรมากจึงใช้เวลาไม่นาน แต่ไม่น่าเชื่อว่าในเวลาไม่นานที่เธอใช้ไปนั้น มีสายตาคมของรามจ้องมองอยู่ตลอดเวลาโดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัวเลย

“เรียบร้อยแล้วค่ะ ไปกัน”

“อืม”

ภายในรถ…

“พี่รามหาอะไรคะ” ในขณะที่ทั้งสองเข้ามาอยู่ภายในรถแล้วแต่ยังไม่ได้ขับออกไป เพราะรามมัวแต่ก้มๆเงยๆเปิดนั่นเปิดนี่เหมือนหาอะไรอยู่พักใหญ่จนริศาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม

“หาแหวน” รามตอบกลับทั้งยังคงควานหาของไปเรื่อยจนกระทั่งไปเจอเข้ากับกล่องกำมะหยี่สีแดงสดที่ซ่อนอยู่ในลิ้นชักลับเล็กๆภายในรถ เขาจึงหยิบมันขึ้นมาเปิดและสวมแหวนนั้นกลับเข้าไปที่นิ้วนางของตัวเอง

“…” ริศาที่นั่งมองอยู่ก็ไม่กล้าพูดหรือถามอะไรต่อ ได้แต่รู้สึกหน่วงๆอยู่ในใจ ถึงจะไม่เคยเห็นเขาใส่มันเลยแต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะปล่อยปะละเลยมันจนลืมว่าเก็บเอาไว้ตรงไหน

“…” คนตัวเล็กเอาแต่นั่งนิ่งใช้นิ้วหัวแม่มือลูบไปมาที่แหวนของตัวเองอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งรามหันมามอง

“ไม่จำเป็นต้องใส่ตลอดเวลาก็ได้นะ” อยู่ๆเขาก็เอ่ยบอกกับเธอ

“คะ?”

“เธอก็รู้ว่าฉันหมั้นกับเธอเพราะอะไร ไม่จำเป็นต้องใส่มันไว้ตลอดก็ได้ เผื่อมีคนอื่นมาจีบเขาจะได้ไม่ต้องคิดมาก” รามพูดด้วยน้ำเสียงปกติคล้ายจะบอกว่าไม่คิดอะไรหากว่าเธอจะมีคนอื่น แต่เขาช่างไม่รู้เลยว่าคำพูดของเขาทำเอาใจเธอเจ็บร้าวไปหมดจนเธอพูดอะไรแทบจะไม่ออก

“ค่ะ ริศาก็รู้เหมือนกันว่าหมั้นกับพี่เพราะอะไร” เสียงหวานเอ่ยพูดทั้งยังคงมองแหวนหมั้นบนนิ้วนางอยู่เช่นนั้น จนมารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มีมือของรามเอื้อมมาจับมือเธอ

“ทำหน้าแบบนี้แสดงว่าไม่ได้หมั้นกับฉันเพราะแค่แม่ฉันมีบุญคุณกับเธอสินะ”

“คะ?”

“แค่บอกว่าชอบฉันมันยากนักหรือไง”

“พะ พูดอะไรคะ” จากที่ตอนแรกนั่งก้มหน้ามองแหวนอยู่ พอได้ยินในสิ่งที่รามพูดริศากลับเงยขึ้นมาทำหน้าเลิ่กลั่กเสียอาการไปหมด เหมือนคนทำอะไรผิดแล้วถูกจับได้

“หึ!” จนคนข้างๆนึกขำ

“เธอชอบฉันเหรอ?”

“เปล่าค่ะ”

“โกหก อาการเธอเวลาเจอฉันมันฟ้อง”

“…” พอถูกซักไซ้ไล่เลียงหนักเข้าริศาก็หมดคำที่จะโต้เถียงกลับ

“ก็แค่พูดมา”

“จะให้พูดยังไงคะ ริศาเป็นผู้หญิง”

“เราหมั้นกันแล้ว ไม่มีใครว่าหรอกน่ะ”

“แต่พี่รามไม่ได้ชอบริศา”

“ฉันก็กำลังเปิดใจให้เธออยู่นี่ไง”

“จะ…จริงเหรอคะ”

“…”

“…”

ภายในรถเกิดความเงียบเข้ามาปกคลุมทันที เพราะรามเองก็ไม่ยอมตอบอะไรกลับไปอีกเช่นกัน เขานั่งมองหน้าเธออยู่อย่างนั้นจนกระทั่ง…

“ตอบมาก่อนว่าชอบฉันใช่ไหม?” รามยังคงถามคำถามเดิมกับเธอ ทว่าดูจริงจังกว่าเดิมเป็นอย่างมาก เขาค่อยๆใช้มือเข้าไปจับที่คางเล็กของเธอให้หันมองหน้าสบตากัน พร้อมกันนั้นก็จ้องหน้ารอคำตอบ

“ค่ะ ริศาชอบพี่” จนในที่สุดคนตัวเล็กก็ยอมเอ่ยปาก นั่นจึงทำให้รามเผยยิ้มออกมาอย่างรู้สึกพอใจและขยับใบหน้าเข้าไปใกล้เธออีกจนปากของทั้งคู่อยู่ติดกัน

เขาแตะริมฝีปากของตัวเองลงบนริมฝีปากบางของเธออยู่อย่างนั้นเนิ่นนานเกือบนาที…

“ก็แค่นั้น” ก่อนจะผละออกมาอย่างอ้อยอิ่งและเอ่ยพูดกับเธอด้วยแววตาที่ดูเปลี่ยนไป

“จะไปกันเลยไหม…หรือจะ”

“ปะ ไปกันเลยก็ได้ค่ะ”

“หึ! นึกว่าอยากจะให้ฉันทำมากกว่านั้นซะอีก”

“พี่ราม!!” ริศามองค้อนอีกคนด้วยใบที่แดงกล่ำเพราะความเขิน ทำให้รามที่มองอยู่ก็ยิ่งนึกขำเข้าไปใหญ่กับอาการที่เธอเป็น จนกระทั่งคนตัวเล็กเริ่มทำสีหน้าบึ้งตึงกลบเกลื่อนเขาจึงได้เลิกแกล้งและขับรถออกไป

@บ้านอัครสิริไพศาล…

ตลอดทางที่รามขับรถพาริศามาภายในรถก็มีแต่ความเงียบมาตลอดทาง ไม่มีใครชวนพูดคุยอะไรกันเหมือนเช่นเคย แต่ทว่าครั้งนี้ริศากลับไม่ได้นั่งตัวเกร็งเหมือนทุกครั้งที่ได้นั่งในรถมากับเขา อาจจะเป็นเพราะว่ารามไม่ได้ทำสีหน้าดุดันใส่เธอเหมือนเช่นแต่ก่อน หรืออาจจะเป็นเพราะความสัมพันธ์ของเธอกับเขาเริ่มดีขึ้นริศาก็ไม่อาจรู้ได้ แต่ที่แน่ๆก็คือเธอรู้สึกดีมากที่เป็นอยู่ตอนนี้

“ถึงแล้วลงสิ หรือว่า…”

“ละ…ลงแล้วค่ะ” ริศาที่รู้ตัวว่าจะถูกแกล้งอีกครั้งรีบขยับตัวลงจากรถและเดินนำเขาไป โดยที่ก็มีร่างสูงของรามเดินตามมาติดๆ

จนกระทั่งทั้งสองเดินเข้ามาภายในตัวบ้าน…

“ริศา มาได้ไงลูก” กรกนกที่ดูเหมือนกำลังนั่งพูดคุยอยู่กับใครอีกคนก็รีบเดินปรี่เข้ามาหาเธอ

“สวัสดีค่ะ เอ่อ…มากับพี่รามค่ะ ป้ากนกไม่ทราบเหรอคะว่าริศาจะมา” ริศาถามกรกนกกลับด้วยความงุนงงกับท่าทางของหญิงวัยกลางคน ที่ดูจะไม่รู้ว่าเธอจะมาที่นี่ในวันนี้

“ฉันไม่ได้บอกใครว่าจะมา” รามบอกกับริศาทว่าสีหน้าและท่าทางเปลี่ยนไปไม่เหมือนกับช่วงก่อนหน้าที่จะเดินเข้ามา ทำให้ริศานึกแปลกใจแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก

“ไหนๆมาก็ดีแล้วลูก มานี่เลยป้าจะแนะนำใครให้รู้จัก” กรกนกเดินจูงมือริศาไปยังโซฟาชุดหรูที่มีหญิงสาวอีกคนนั่งอยู่โดยที่ไม่สนใจจะหันไปมองหน้าลูกชายเลย

“ผมไปหาเตก่อนนะ” รามที่ถูกแม่ตัวเองมองเป็นอากาศธาตุจึงขอปลีกตัวเดินขึ้นไปยังด้านบนของบ้าน ซึ่งกรกนกก็ไม่สนใจจะตอบกลับหรือเอ่ยทักทายใดๆเพราะยังคงขุ่นเคืองใจกับลูกชายตั้งแต่ที่เจอกันในครั้งก่อนอยู่

“งอนกันเหรอคะ” ริศาถามกับกรกนกเพราะรู้สึกถึงความผิดปกติ

“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ เออนี่ คนนี้พี่ไอริสนะ ว่าที่สะใภ้ของบ้านป้าอีกคน” กรกนกเปลี่ยนเรื่องคุยด้วยการแนะนำใครอีกคนให้เธอได้รู้จัก ริศาจึงหันไปยิ้มให้หญิงสาวอีกคนพร้อมกับยกมือขึ้นสวัสดี”

“พี่ไอริสเป็นแฟนกับพี่เรียวตะ ริศาเคยเจอหรือยังนะลูก พี่เขาก็เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับพี่รามนะ”

“ยังเลยค่ะ ริศาเคยเจอแค่พี่เพทายกับพี่เสือผ่านๆ” คนตัวเล็กส่ายหน้าปฏิเสธเพราะเธอก็ยังไม่เคยเจอกับไอริสจริงๆ

“จริงสิ ช่วงที่ไอริสมาบ้านป้าบ่อยๆหนูก็ไม่ค่อยได้มาเนาะ”

“ค่ะ”

“น้องริศาน่ารักเหมือนที่คุณน้าคุยไว้จริงๆด้วยค่ะ” ไอริสที่นั่งอยู่เงียบๆในตอนแรกเอ่ยขึ้นพร้อมยิ้มให้ริศาอย่างเป็นมิตร ริศาเองก็ยิ้มตอบกลับไปเช่นกัน และดูเหมือนว่าทั้งสองจะถูกชะตากันและกันเป็นอย่างมาก

“ไอริสเห็นด้วยกับน้าใช่ไหม”

“ค่ะ พอได้เจอตัวจริงก็ยิ่งเห็นด้วยเลยค่ะ” ใบหน้าสวยยิ้มปริ่มพลางมองริศาอย่างรู้สึกนึกเอ็นดูตั้งแต่แรกเห็น

“…” ก็มีแต่ริศาที่นั่งทำหน้างงในขณะที่ไอริสกับกรกนกคุยกัน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เธอไม่เข้าใจไปกับทั้งสองด้วยเลย

“มีอะไรกันเหรอคะ เห็นด้วยอะไรกัน”

“ฮ่าๆ ไม่มีอะไรหรอกน้องริศา พี่หมายถึงว่าพี่เห็นด้วยที่น้ากนกบอกว่าริศาเป็นคนน่ารักน่ะ”

“อ๋อ แหะๆ” พอหญิงสาวอีกคนอธิบายขยายความริศาจึงได้พอเข้าใจ(ในความคิดของเธอเอง) และยิ้มเขินๆที่ถูกชม

“ดีจังวันนี้มากันพร้อมหน้าเลย อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันทุกคนนะ เดี๋ยวรอเรียวตะมาถึงอีกคนก็ครบแล้ว” กรกนกยกยิ้มชื่นใจที่นานๆทีจะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา และก็ไม่วายนึกไปถึงสามีของตัวเองด้วยว่าคงจะมีความสุขมากเช่นกัน

ด้านราม…

“มาถูกจังหวะถูกวันซะด้วยนะ” เสียงขบขันปนล้อเลียนของเตมินทร์เอ่ยขึ้นในขณะที่พี่ชายของตัวเองนั่งหน้าตึงอยู่ที่โซฟา

“เงียบแล้วเล่นเกมส์ของแกไป”

“ฮ่าๆ กะจะมาเซอร์ไพรส์แม่แต่ดันมาโดนเซอร์ไพรส์ก่อน”

“บอกให้เงียบ”

“เออๆไม่ล้อแล้วก็ได้” เตมินทร์จำต้องรีบสงบปากคำเอาไว้เพราะถูกสายตาดุๆของพี่ชายมองมาอย่างเอาเรื่องจริงๆ แต่ก็ยังไม่วายแอบอมยิ้มขำๆ

“ว่าแต่นึกยังไงพาริศามา” เตมินทร์เปลี่ยนเรื่องคุย

“ก็แม่บ่นว่าอยากเจอ”

“เลยกะว่าพามาเอาใจ?”

“อืม”

“คิดได้ก็ดี แต่จะให้ดีกว่านี้ถ้าแกเก็บอาการเวลาเจอกับพี่ไอริสได้” ครั้งนี้เตมินทร์พูดจริงจังไม่ได้มีความล้อเล่นอยู่ในแววตาเลยสักนิด

“จะพยายาม” เจ้าของริมฝีปากหนาได้รูปจึงตอบกลับน้องชายไปแต่ภายในหัวยังคงนึกคิด จะทำอย่างไรให้ตัวเองไม่ออกอาการเหมือนทุกครั้ง เขาต้องฝืนทำในสิ่งที่ไม่อยากทำเพื่อให้ทุกคนได้สบายใจ ทั้งที่ใจยังตัดขาดจากความรักไม่ได้แต่ก็ต้องมานั่งปั้นหน้ารับรู้ว่าคนที่ตัวเองรักเป็นของคนอื่นไปแล้ว จะมีใครบ้างที่เห็นใจเขา…

17.00น.

ช่วงเวลาอาหารมื้อเย็นของบ้านมาถึงแล้ว ทุกคนภายในบ้านต่างมารวมตัวกันอยู่บนโต๊ะอาหารหรูขนาดใหญ่ โดยปกติแล้วเวลานี้จะมีแค่เพียงกรกนกกับราเมศที่นั่งทานอาหารด้วยกันเสียเป็นส่วนมาก จะมีพวกลูกๆแวะเวียนมาร่วมโต๊ะบ้างเป็นบางครั้ง แต่ก็น้อยครั้งมากที่จะมากันครบแบบนี้ ด้วยอะไรหลายๆอย่างที่ทุกคนต่างรู้ดี จึงทำให้ไม่ค่อยได้มารวมตัวกัน…

“ข้าวมื้อนี้คงจะอร่อยน่าดูเลยนะคุณ” กรกนกหันคุยกับสามีที่วันนี้ดูจะหน้าตาสดชื่นเป็นพิเศษหลังจากหายจากอาการป่วย แต่ก็ยังมีสีหน้าเพลียๆอยู่บ้าง

“คุณลุงทานเยอะๆนะคะ ริศาทำไข่ตุ๋นนุ่มๆแบบที่คุณลุงชอบไว้ด้วยค่ะ” ริศาเอ่ยบอกพร้อมกับผายมือไปที่ถ้วยไข่ตุ๋นที่เธอขอเป็นคนลงมือทำเอง ราเมศที่เห็นก็ยิ้มชอบใจในความรู้จักใส่ใจคนรอบๆข้างเสมอจากคนตัวเล็กที่เขาเองก็เห็นเธอมาตั้งแต่เด็กๆและรักเหมือนลูกเหมือนหลานคนนึง

“ทำเป็นด้วยเหรอ” รามที่นั่งอยู่ข้างๆกันหันถามขึ้น

“เป็นสิค่ะ แค่พี่รามไม่เคยเห็น”

“ยัยนี่ทำเป็นแทบทุกอย่างแหละ ว่างๆก็ให้ไปทำให้กินสิ” เตมินทร์ยุยงทันที

“นั่นสิ ว่างๆก็ไปทำอาหารให้พี่เขาทานบ่อยๆนะริศา” ราเมศเสริมขึ้นด้วยอีกคน

“ไปได้ค่ะ แต่ว่า…พี่รามจะอยากทานหรือเปล่า” ริศาหันไปยิ้มเขินๆเป็นเชิงขอคำตอบจากคนด้านข้าง ซึ่ง…

“ถ้าเธอทำฉันก็กิน จะไปวันไหนก็บอก” รามก็ตอบกลับโทนเสียงฟังดูอบอุ่นกว่าที่เคย พร้อมกันนั้นก็ยกมือขึ้นไปเกลี่ยไรผมของริศาที่ตกลงมาไปทัดไว้ข้างหูให้ การกระทำของเขาทั้งหมดอยู่ในสายตาทุกคน กรกนกที่ดูจะถูกใจกว่าใครก็หันไปลอบยิ้มให้ไอริสและราเมศเป็นระยะๆ ซึ่งหารู้ไม่ว่าสิ่งที่ลูกชายตัวเองทำนั้นเป็นเพียงแค่การแสดง เขาไม่ได้อยากที่จะทำอะไรเลี่ยนๆแบบนี้เลยแค่ทำไปให้ทุกคนสบายใจ จะมีก็เพียงเตมินทร์เท่านั้นที่รู้ใจเขาที่สุดแต่ทว่าลึกๆแล้วก็แอบสงสารเพื่อนตัวเล็กเหมือนกันที่ดันไม่รู้อะไรเลย

ริศาเอาแต่ยิ้มเขินหน้าแดงที่รามทำเหมือนใส่ใจเธอต่อหน้าคนอื่น แม้ว่าจะรู้สึกแปลกๆอยู่ในใจแต่เธอก็อดยอมรับไม่ได้ว่าเธอชอบรามที่เป็นแบบนี้เอามากๆ… มากเสียจนเธออยากให้เขาเป็นแบบนี้ไปตลอด
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คู่หมั้นร้าย ไม่อยากจะรัก   บทที่ 97

    “งานแต่งของเราเธออยากจัดที่ไหน แบบไหนที่เธอชอบ” รามยอมละริมฝีปากจากการคลอเคลียออกมาเอ่ยถาม “อืม…” คนถูกถามจึงทำท่านึกคิด ถึงเธอจะเคยวาดฝันถึงงานแต่งของตัวเองบ่อยครั้ง ทว่าแต่ละครั้งก็ช่างต่างออกไปตามแต่จินตนาการในตอนนั้น จะจัดที่โรงแรม ริมทะเลหรือว่าสวนดอกไม้อะไรก็แล้วแต่ ขอแค่เจ้าบ่าวเป็นเขาค

  • คู่หมั้นร้าย ไม่อยากจะรัก   บทที่ 96

    “สัด กูช้ำในตายก่อนได้แต่งเมียพอดี” รามหัวเราะเสียงฉุนไม่ได้ถือสาเพื่อนที่เล่นแรงแต่อย่างใด “คืนนี้ต้องฉลองหน่อยไหม เพื่อนจะมีเมียเป็นตัวเป็นตนทั้งที” น้ำเสียงกระดี๊กระด๊าที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวเพลย์บอยหนุ่มอย่างเสือเอ่ยขึ้น ทว่าในเวลาต่อมาก็ต้องถูกเสียงราบเรียบรู้ทันของเพทายพูดขัด “ไม่ต้

  • คู่หมั้นร้าย ไม่อยากจะรัก   บทที่ 95

    บัดนี้หน้าจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บริเวณข้างสนามจับภาพใบหน้าของหญิงสาวไว้ที่เดียว ริศาเริ่มรู้ตัวแล้วว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น หัวใจดวงน้อยที่เต้นเป็นปกติเหมือนกับคนธรรมดาทั่วไปในตอนแรกก็พลันเปลี่ยนเป็นเต้นโครมครามยิ่งกว่าจังหวะสามช่าหน้ารถแห่ การปรากฏตัวของนักร้องชื่อดังที่เธอชื่นชอบอาจจะทำให้เ

  • คู่หมั้นร้าย ไม่อยากจะรัก   บทที่ 94

    “งานนี้ถ้าสำเร็จมึงต้องตบรางวัลใหญ่ให้เมียกูแล้วนะราม” มือหนาตบเข้าที่บ่าเพื่อนแรงๆอย่างให้กำลังใจ เพทายมั่นใจในความฉลาดไม่แพ้ใครของคนรักของตัวเองยิ่งกว่าอะไรเสียอีก “กูก็หวังให้เป็นแบบนั้น หวังว่าเมียมึงจะเดาใจเมียกูถูก” “เอาน่า มันก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายนี่ ยังไงริศาก็รักมึงอยู่แล้วจะกลัว

  • คู่หมั้นร้าย ไม่อยากจะรัก   บทที่ 93

    2ปีต่อมา… “อื๊อ~” เสียงร้องประท้วงในลำคอเล็กถูกเปล่งออกมา พร้อมกับมือบางที่พยายามดันแผ่นอกกว้างของคนเอาแต่ใจออกไป นานกว่าหลายนาทีแล้วที่เขาตะกละตะกลามระดมจูบและดูดดึงกลีบปากของเธอไม่หยุด ทั้งที่ตอนแรกชวนเธอเข้ามานั่งในรถคันใหม่ที่จะนำลงแข่งเพื่อลองเครื่อง ทว่าลงสนามมาได้ไม่เท่าไหร่เขากลับจอ

  • คู่หมั้นร้าย ไม่อยากจะรัก   บทที่ 92

    “ก็รู้ว่านานๆที แต่เราก็ต้องดูกำลังตัวเองด้วย ดื่มก็ใช่ว่าจะเก่งอยู่แล้ว ยังไปทำตามไอริสมันอีก” ทำเป็นส่งเสียงดุใส่ ทว่าจริงๆก็นึกเอ็นดูคนตัวเล็กที่กำลังกอดโถสวมแน่นเพราะความมึนเมาอยู่ไม่น้อย ตอนแรกคงคิดได้ใจที่พวกเพื่อนเขาให้ท้ายด้วยการให้ดื่มเยอะๆและไม่ต้องกลัวว่าเขาจะดุ แต่หารู้ไม่ว่าตัวเองกำลังโ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status