Share

บทที่ 5

อวิ๋นซูตลกขบขันกับความคิดแหวกแนวของหลินเหมียวเหมียว “เธอเนี่ยนะ อ่านนิยายมากเกินไปใช่ไหม ฉันก็แค่หาคนไปเรื่อย เขาไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลเฮ่อ เรื่องเดียวที่เกี่ยวกับเขาคือเขาทำงานให้กับตระกูลเฮ่อ”

“อ่า” หลินเหมียวหมียวรู้สึกผิดหวัง “เธอกำลังจะบอกว่าเขาเป็นลูกน้องของเฮ่อหย่วนเจ๋อ ต่อไปถ้าเฮ่อหย่วนเจ๋ออยากจะรังแกเธอ เขาก็ทำได้ตามใจชอบเลยนะสิ?”

นัยน์ตาของอวิ๋นซูหมองลง “น่าจะ...ไม่หรอกมั้ง เห็นแก่ปู่เฮ่อ แล้วฉันเองก็แต่งงานแล้ว เฮ่อหย่วนเจ๋อคงไม่มาหาเรื่องฉันหรอก”

หลินเหมียวเหมียวโล่งใจเล็กน้อย แต่เมื่อนึกถึงความชั่วของเฮ่อหย่วนเจ๋อแล้ว เธอก็อดปกป้องเพื่อนสนิทไม่ได้ “ถ้าจะให้ฉันพูด ตอนนั้นฉันน่าจะตบเขาสักฉาด เขาไม่รู้รึไงว่าเธออยากแต่งงานกับเขาแค่ไหน...”

อวิ๋นซูตัดบท “มันผ่านไปแล้ว เหมียวเหมียว ต่อไปฉันกับเฮ่อหย่วนเจ๋อเราต่างคนต่างเดิน ไม่เกี่ยวข้องกันอีก”

“แล้วการหมั้นหมายของพวกเธอ...” หลินเหมียวเหมียวพูด “คุณท่านไม่รู้ใช่ไหม? ถ้าคุณปู่เฮ่อเขาจะต้องเสียใจมากแน่นอน”

ความมืดครึ้มที่เพิ่งสงบลงของอวิ๋นซูได้กลับมาอีกครั้ง

พอเอ่ยถึงคุณท่านเฮ่อ ปู่ของเฮ่อหย่วนเจ๋อ ในใจของอวิ๋นซูก็เหลือเพียงแค่ความเสียใจ

การหมั้นหมายของเธอกับเฮ่อหย่วนเจ๋อเป็นฝีมือของคุณท่านเฮ่อ หลังจากตระกูลอวิ๋นตกต่ำลง ทุกคนต่างรอให้คุณท่านเฮ่อกลับมาดูเรื่องตลกของเธอ

แต่คุณท่านเฮ่อไม่เพียงแต่ไม่ยกเลิกการหมั้นหมาย ยังประกาศต่อหน้าสาธารณะอีก กระทั่งจำได้ว่าเธอเป็นหลานสะใภ้

เพราะเธอ สองปู่หลานจึงทะเลาะกัน

ในเมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว คนที่อวิ๋นซูรู้สึกผิดที่สุดก็คงจะเป็นคุณท่านเฮ่อ

“ฉัน....คือนี้ฉันจะคุยกับคุณปู่” อวิ๋นซูพูด

แทนทีที่จะได้ยินจากปากของคนอื่น สู้ได้เธอบอกคุณท่านเองดีกว่า

หลินเหมียวเหมียวเป็นกังวล “ต้องให้ฉันไปเป็นเพื่อนไหม?”

“ไม่ต้อง” อวิ๋นซูยิ้ม “คุณปู่เอ็นดูฉัน จะต้องไม่ทำอะไรฉันแน่นอน”

......

โรงแรมเทียนไห่

ในห้องวีไอพีสุดหรู คุณท่านผู้กุมอำนาจสูงสุดของตระกูลเฮ่อนั่งประจำอยู่บนตำแหน่งหัวหน้าตระกูล เขากำลังมองเฮ่อเยียนสือฝั่งตรงข้ามด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเอ่ยทอดถอนใจ “สมกับเป็นหลานที่พี่ใหญ่เลี้ยงดูมาอย่างดี แกอายุน้อยกว่าเฮ่อเทาเป็นสิบปี แต่จัดการเรื่องราวต่าง ๆ ได้เป็นระเบียบ เหนือกว่าเขา”

คนที่นั่งถักจากคุณท่านเฮ่อคือเฮ่อเทาที่เขาพูดถึง พ่อของเฮ่อหย่วนเจ๋อ

เขาอ้วนลงพุงเพราะเบียร์ แต่องค์ประกอบทั้งห้าแฝงไปด้วยความวัยเยาว์เลือนราง

“แล้วแต่พ่อเลย” นัยน์ตาของเฮ่อเทาแสดงออกถึงการชื่นชมเฮ่อเยียนสืออย่างไม่ปิดบัง จากนั้นก็พูดคล้อยตาม “เยียนสือสามารถทิ้งงานที่มีทั้งหมดและกลับประเทศทันทีได้ เรื่องแบบนี้มีไม่กี่คนที่ทำได้!”

เฮ่อเยียนสือไม่สะทกสะท้าน เช็ดริมฝีปากอย่างมีเสน่ห์ “ขอบคุณสำหรับคำชมของอารองและพี่ใหญ่ ไม่กี่ปีมานี้ความรุ่งเรืองของฮวาเซี่ยก้าวกระโดดรวดเร็ว ผมเห็นโอกาสทางธุรกิจจึงได้กลับมา”

คุณท่านเฮ่อพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “น่าเสียดายที่ครั้งนี้พ่อของแกไม่ได้กลับมากับแกด้วย ไม่อย่างนั้นเราสองพี่น้องคงได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา”

นัยน์ตาสีดำทมิฬของเฮ่อเยียนสือฉายแววเฉียบคม ก่อนจะเอ่ยด้วยท่าทีสงบ “โชคดีที่เขาไม่ได้กลับมาพร้อมกับผม ไม่อย่างนั้นอารองคงไม่เห็นเราแล้ว”

คุณท่านเฮ่อขมวดคิ้ว “ทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะ?”

“เราประสบอุบัติเหตุที่สนามบิน”

“ว่าไงนะ?!” คุณท่านเฮ่อรีบพูดว่า “แล้วแกบาดเจ็บตรงไหนไหม?”

“ไม่ครับ”

“ก็ดี” คุณท่านเฮ่อทรุดตัวลงนั่ง ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

“รถประสานงา คนขับของทั้งสองฝ่ายตายคาที่”

“แกกำลังจะบอกว่า อุบัติเหตุครั้งนี้อาจจะมีเงื่อนงำเหรอ?” คุณท่านเฮ่อหมาป่าเจ้าเล่ห์คนนี้ คว้าโอกาสนี้ไว้ทันที

เฮ่อเยียนสือสังเกตสีหน้าของเขาตลอด กระทั่งมั่นใจว่าเขาไม่รู้เรื่องจริง ๆ จึงพูดขึ้นว่า “ใช่ ดังนั้นจึงต้องขอความช่วยเหลือจากอารอง”

“มันก็ต้องช่วยอยู่แล้ว” คุณท่านเฮ่อพูด “ฉันกับพ่อแกเป็นพี่น้องกัน ต่อให้แกไม่เอ่ยปาก ฉันก็ต้องช่วยแกสืบหาแน่นอน”

“ขอบคุณอารองมากครับ แต่ผมไม่รบกวนอารองดีกว่า” เฮ่อเยียนสือปฏิเสธอย่างสุภาพและห่างเหิน “เรื่องนี้ผมสืบหาเองได้ คนที่รู้ว่าผมกลับมาแล้วมีไม่กี่คน ผมคิดว่าคงได้ข้อสรุปเร็ว ๆ นี้ หวังว่าอารองจะปิดเรื่องที่ผมกลับมาเป็นความลับ”

คุณท่านเฮ่อเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ “แกกำลังสงสัยว่าเป็นฝีมือของคนในตระกูลใช่ไหม?”

เฮ่อเยียนสือกลับมาเรื่องนี้ เขาบอกคนในตระกูลไม่กี่คนเท่านั้น

นิ้วเรียวยาวของเฮ่อเหยียนสือเคาะโต๊ะเบา ๆ ก่อนจะพูดอย่างมุ่งมั่นโดยไม่ได้ตอบคำถามของคุณท่านเฮ่อแต่อย่างใด “อารอง หวังว่าอาจะช่วยผม”

คุณท่านเฮ่อลังเลครู่หนึ่ง ก่อนจะเลิกคิ้วสูง คลี่ยิ้มทำลายบรรยากาศที่อึดอัด “แน่นอนอยู่แล้ว”

พูดจบ เขาก็มองไปทางเฮ่อเทาที่นั่งถัดไป ก่อนจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “หย่วนเจ๋อล่ะ? ทำไมยังไม่มาอีก?”

เฮ่อเทาพูด “งานน่าจะยังไม่เสร็จ ไม่อย่างนั้นหย่วนเจ๋อมาตั้งนานแล้ว เขาบ่นอยากเจอเยียนสือทุกวัน”

“ใช่เหรอ” คุณท่านเฮ่อยิ้ม “ตั้งแต่เจอกันต่างประเทศในคราวนั้น หย่วนเจ๋อก็เอาแต่ชมไม่ขาดปาก ฉันเห็นเขาเติบขึ้น แต่ไม่เคยเห็นเขาชมใครแบบนี้มาก่อน”

นัยน์ตาของเฮ่อเหยียนสือเหยียดยิ้ม ความรู้สึกกลับลอยไปหาอวิ๋นซู

หย่วนเจ๋อ?

ว่าที่คู่หมั้นของผู้หญิงคนนั้นก็ชื่อนี้?

น่าจะ...ไม่ได้บังเอิญหรอกนะ....

“เยียนสือ——” เฮ่อเทาโบกมือเรียกสติเขา

เฮ่อเยียนสือละสายตากลับมาเงียบ ๆ จากนั้นก็หันไปมองเฮ่อเทา

เฮ่อเทาเอ่ยเยาะเย้ย “คิดอะไรอยู่? เหม่อเชียว?”

เฮ่อเยียนสือตื่นตกใจ

การเหม่อลอยเป็นเรื่องต้องห้าม เพราะผู้หญิงคนนั้น....

“พ่อของฉันถามแกกว่าแต่งงานแล้วไหม?”

เฮ่อเยียนสือรวบรวมสติ นั่งตัวตรงก่อนเอ่ยว่า “อื้อ”

คุณท่านเฮ่อสนใจขึ้นมาทันที “ตั้งแต่เมื่อไหร่? ก่อนที่แกจะกลับมาพ่อแกเพิ่งโทรหาฉัน ให้ฉันช่วยหาคุ่ให้แก่หน่อย ทำไมถึงแต่งงานเร็วแบบนี้ล่ะ?”

เป็นอย่างที่คิดไว้จริง ๆ

เฮ่อเยียนสือตอบรับอย่างไม่สะทกสะท้าน “เพิ่งรู้จักกันไม่กี่วันก่อน รักแรกพบ ก็แต่งงานเลย แต่เพราะรีบก็เลยไม่ได้บอกกล่าวใคร”

“งั้นก็น่าเสียดาย” คุณท่านหยิบภาพใบหนึ่งออกมา “เดิมทีฉันหาคนพิเศษให้แกแล้ว คาดไม่ถึงว่าจะช้ากว่าแก ถ้าหย่วนเจ๋อเด็ดขาดเหมือนแก ฉันคงไม่ต้องเป็นกังวล”

เมื่อนึกถึงเรื่องงานแต่งของเฮ่อหย่วนเจ๋อกับอวิ๋นซู คุณท่านเฮ่อก็ส่งเสียงทอดถอนใจ

เขาไม่เข้าใจว่าทำไมหย่วนเจ๋อถึงไม่ชอบอวิ๋นซูที่ทั้งฉลาดและเก่ง?

“คุณท่าน” พ่อบ้านเคาะประตูและเข้ามา จากนั้นก็ยื่นโทรศัพท์ไปข้างกายของคุณท่านเฮ่อ ใช้น้ำเสียงที่ได้ยินเพียงคนเดียว “คุณหนูอวิ๋นโทรมาครับ”

พอได้ยินว่าอวิ๋นซูโทรเข้ามา คุณท่านเฮ่อก็ยิ้มหน้าบาน และรีบกดรับสายทันที น้ำเสียงอ่อนโยน “เสี่ยวซู ทำไมถึงโทรมาหาปู่ได้?”

“อื้อ มีอะไรจะคุยกับปู่ ได้สิ มาเลย ตอนนี้ปู่อยู่โรงแรมเทียนไห่ อื้อ ได้ ฉันจะให้คนไปรับเธอ”

Kaugnay na kabanata

Pinakabagong kabanata

DMCA.com Protection Status