แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: ปอเปี๊ยะสตรอว์เบอร์รี
เสิ่นเจียรุ่ยเดินเร่ไปตามท้องถนน

ในมือของเธอกำแน่นอยู่คือเอกสารวินิจฉัยความตายจากแพทย์

“พูดอีกอย่างก็คือ… ฉันเหลือเวลาอยู่แค่ประมาณสามสิบวันใช่ไหม?”

“ขอโทษด้วยนะ คุณเสิ่น”

ความรู้สึกเหมือนฟ้าผ่ากลางวันแสก ๆ แบบนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เสิ่นเจียรุ่ยต้องเผชิญ

ตระกูลเสิ่นในตอนนี้โอนเอนราวกับจะล้มไม่ล้ม ภาระทุกอย่างล้วนตกอยู่บนบ่าของเธอคนเดียว

ตอนนั้นเธอเองก็เคยรู้สึกสิ้นหวังมาก่อน

เธอโทรหากู้เวินเหยียน

เธอคิดว่า ต่อให้แค่ได้เถียงกับเขาสักหน่อย ทะเลาะกันสักนิดก็ยังดี

เธออาจจะรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย

แต่กู้เวินเหยียนกลับตัดสายโทรศัพท์ทุกครั้งที่เธอโทรไปหา จนสุดท้ายพอโดนเธอรบกวนมากเข้า เขาก็ปิดเครื่องหนีไม่รับสายเลย

ครั้งที่เขาปรากฏตัวอีกที คือเขาพานางแบบสาววัยใสเข้ามา นอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงหอใหม่ของเธอกับเขา

เขาไม่เคยเห็นความไร้หนทางของเสิ่นเจียรุ่ยเลยแม้แต่น้อย

สิ่งที่เขาเห็น มีเพียงใบหน้าที่ทำให้เขารังเกียจและขยะแขยงเท่านั้น

เขาจงใจจูบแบบฝรั่งเศสกับนางแบบสาวต่อหน้าเธอ เส้นใยน้ำลายที่เชื่อมอยู่ตรงมุมปากของทั้งคู่แทงตาเสิ่นเจียรุ่ยจนเจ็บแปลบ

“เป็นยังไงล่ะ? จะหย่าไหม?”

เสิ่นเจียรุ่ยฝืนทำเป็นใจเย็น แล้วรีบหนีออกมาจากห้องนั้นทันที

ที่เจียงเฉิง แทบทุกคนต่างก็รู้ดีว่าเธอกับกู้เวินเหยียนไม่ถูกชะตากันมาตั้งแต่เด็ก เจอหน้ากันทีไรก็มีแต่จะทะเลาะกันเสมอ

และแทบทุกคนก็คิดว่าเสิ่นเจียรุ่ยเกลียดกู้เวินเหยียนเหมือนที่กู้เวินเหยียนเกลียดเธอเช่นกัน

เสิ่นเจียรุ่ยลูบแหวนที่นิ้วนางของตัวเอง นั่นคือแหวนที่กู้เวินเหยียนจำใจเอามาใส่ให้เธอหลังแต่งงาน

ตอนที่ส่งมาถึงมือเธอ กล่องแหวนยังถึงขั้นถูกเขาปาใส่หน้าเธออีกด้วย

ตอนแรก เสิ่นเจียรุ่ยซ่อนความในใจนี้ไว้เป็นอย่างดี

จนกระทั่งกู้เวินเหยียนบังคับลากเธอให้ทำหน้าที่ของภรรยา

ตอนที่เสิ่นเจียรุ่ยกำลังถูกปลุกเร้าอารมณ์ เขากลับบังเอิญไปสัมผัสโดนแหวนที่อยู่บนมือของเธอ

กู้เวินเหยียนถึงกับหลุดหัวเราะออกมาทันที

“เสิ่นเจียรุ่ย เธอไม่ได้ชอบฉัน จนไม่ยอมหย่ากับฉันมาตลอดหรอกใช่ไหม?”

“ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ เธอควรเลิกคิดอะไรพวกนั้นได้แล้วนะ ฉันไม่เพียงไม่อาจชอบเธอ แต่ยังรังเกียจเธอมากด้วย!”

ไม่มีความรังเกียจที่เกิดขึ้นโดยไร้เหตุผล กู้เวินเหยียนไม่ชอบเธอเลยตั้งแต่แรก

เป็นเพราะตระกูลกู้กับตระกูลเสิ่นถูกผูกมัดให้แต่งงานกันมาตั้งแต่เนิ่น ๆ และคนรักแรกของกู้เวินเหยียนก็ถูกบังคับให้ต้องเดินทางไปต่างประเทศเพราะเรื่องนี้

คืนนั้น เสิ่นเจียรุ่ยลืมตาตื่นจนถึงรุ่งสาง

แม่ของเธอจากไปตั้งแต่เธอยังเด็ก ไม่มีใครบอกเธอว่าควรทำอย่างไรเพื่อรั้งคนที่ตัวเองรักไว้ เด็กน้อยอย่างเธอทำได้แค่พูดจาแขวะกัดให้กู้เวินเหยียนมองเห็นตัวตนของเธอ แล้วหลังจากนั้นล่ะ?

เสิ่นเจียรุ่ยกระพริบตาที่แห้งผากของตัวเองเบา ๆ

เสียงสั่นของโทรศัพท์ที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ความคิดของเธอถูกรบกวนหมดสิ้น

เธอเปิดดูแวบหนึ่ง เป็นกู้เวินเหยียนกำลังกดส่งอั่งเปาแจกไม่หยุดอยู่ในกรุ๊ปแชต

“มีเรื่องอะไรเหรอ? ทำไมถึงดีใจขนาดนี้ล่ะ คุณชายกู้?”

กู้เวินเหยียนไม่พูดอะไร เพียงแค่ส่งรูปภาพใบเซ็นรับรองช่วงเวลาไตร่ตรองก่อนหย่านั้น

แค่รูปใบเดียว ก็เหมือนเขาโยนระเบิดลูกหนึ่ง

ระเบิดจนคนที่ซุ่มดูเงียบ ๆ อยู่ในกลุ่มทั้งหมดโผล่ออกมาดูเรื่องราวกันหมด

“หย่าแล้วเหรอ? เสิ่นเจียรุ่ยยอมแล้วเหรอ?”

“นี่มันข่าวดีสุดยอดเลย! อาเหยียน นายในที่สุดก็สลัดภาระก้อนนี้ทิ้งได้สักที!”

“ต้องฉลองเลยนะ! เมื่อครั้งก่อนนายยังบอกอยู่เลยว่ากลับบ้านไปเห็นหน้าของเสิ่นเจียรุ่ยทีไร ก็อึดอัดจนแทบนอนไม่หลับ คราวนี้ดีเลย ต่อไปจะเปลี่ยนผู้หญิงข้างกายวันละสิบคนยี่สิบคนไม่ซ้ำหน้า ก็ไม่มีใครว่า!”

“พวกนายไม่รู้สึกแปลกเหรอ? อาเหยียนนอนกับนางแบบดัง ๆ กับเด็กสาวสวยตั้งเยอะ เสิ่นเจียรุ่ยยังทนได้เลย ทำไมคราวนี้ถึงทนไม่ได้ล่ะ? หรือว่าแกล้งล้อนายเล่นกันแน่? เดี๋ยวเกิดถึงเวลานัดแล้วไม่โผล่มา อาเหยียนก็ยังไปเอาใบหย่าไม่ได้เหมือนเดิมนะ”

พอประโยคนี้ถูกพิมพ์ออกไป ทั้งกลุ่มก็เงียบลงทันที

ทันใดนั้น โทรศัพท์ของเสิ่นเจียรุ่ยก็ดังขึ้นมา

“เสิ่นเจียรุ่ย เธอไม่ได้ล้อฉันเล่นใช่ไหม? พอช่วงสงบสติอารมณ์จบแล้ว เธอจะไปเอาใบหย่าจริง ๆ ใช่ไหม?”

ใบหน้าซีดขาวของเสิ่นเจียรุ่ยคลี่ยิ้มจาง ๆ ออกมา

เธอเอ่ยขึ้นเบา ๆ พูดไปทางปลายสายโทรศัพท์

“โอ้ ใช่ ฉันแกล้งนายอยู่ล่ะ”

“กู้เวินเหยียน นายจะเอายังไง?”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • จดหมายฉบับสุดท้าย   บทที่ 25

    เห็นเขากลายเป็นแบบนี้ จี้ถันอิ่งดีใจสุด ๆ เลยถ้าไม่ติดว่าถ่ายรูปไม่ได้ล่ะก็ เธอคงจะถ่ายภาพหนึ่งเอาไปเผาส่งให้เสิ่นเจียรุ่ยที่อยู่ใต้ดินดูด้วยแน่ ๆมองไปที่ จี้ถันอิ่ง เขาเลียริมฝีปากที่แห้งแตกของตัวเองเบา ๆ“เชือกแดงล่ะ?”จี้ถันอิ่งไม่ได้พูดถึงเชือกแดงแม้แต่นิดเดียว เพียงแต่ก้มลงหยิบสมุดโน้ตเล่มหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเท่านั้นกู้เวินเหยียนจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวบนมือของเธอโดยไม่กะพริบตาเลยแม้แต่นิดเดียวจี้ถันอิ่งยกสมุดบันทึกไปแนบกับผนังกระจก“นี่คืออะไร?” กู้เวินเหยียนไม่เข้าใจสิ่งที่เขาอยากดูคือเชือกแดงจี้ถันอิ่งไม่พูดอะไร เพียงแค่เปิดสมุดโน้ตให้เขาดูเท่านั้นพอเห็นเนื้อหาในสมุดโน้ต กู้เวินเหยียนก็เบิกตากว้างขึ้นมาทันทีทุกหน้า ทุกบรรทัด ถูกเขียนด้วยลายมือที่คด ๆ งอ ๆ เต็มไปหมดจี้ถันอิ่งไม่ได้พูดอะไรเลย แต่เขากลับควบคุมริมฝีปากของตัวเองไม่ให้สั่นได้ไม่อยู่ผ่านไปครู่หนึ่ง จี้ถันอิ่งก็เอ่ยขึ้นช้า ๆ“กู้เวินเหยียน ตอนแรกที่คุณได้รับจดหมายนั้น มันไม่ใช่เจียรุ่ยเป็นคนเขียนเลย คุณย่อมไม่รู้หรอกว่า ตอนนั้นเธอเจ็บแค่ไหน ทรมานมากแค่ไหน แต่เธอก็ยังพยายามสุดชีวิตเขียนคำพวกนี้ลงไ

  • จดหมายฉบับสุดท้าย   บทที่ 24

    เขาค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมาช้า ๆ“ยังดีกว่าอะไรล่ะ?”ได้ยินน้ำเสียงเย็นชาเวลาที่เขาเอ่ยถามออกมาคนที่พูดประโยคนั้นถึงกับเงียบไปเหมือนกลายเป็นใบ้ ดวงตาหดหลบเล็กน้อยก่อนจะถอยไปซ่อนด้านหลังทันทีเห็นดังนั้น กู้เวินเหยียนแค่นหัวเราะเยือกเย็นออกมา"ทำไมล่ะ? ไม่กล้าพูดแล้วเหรอ? หรือว่ากำลังเสียใจที่ตอนนั้นไม่ให้ลูกนอกสมรสคนนั้นกลับมา?"พ่อของเขามีลูกนอกสมรส เรื่องนี้ ที่แท้ทั้งบ้านตระกูลกู้ต่างก็รู้กันหมด มีเพียงเขาคนเดียวที่ไม่รู้เลยตอนนั้นเขาแค่ประสบอุบัติเหตุรถชนจนตาบอดชั่วคราว แต่ทุกคนกลับเริ่มคิดหาวิธีให้เขาลงจากตำแหน่ง ถอนตัวออกมาเพื่อให้คนอื่นขึ้นแทนถ้าไม่ใช่เพราะเสิ่นเจียรุ่ยคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ใช่เพราะเธออยู่เคียงข้างพาเขาก้าวผ่านทุกอย่าง เขาเกรงว่าคงถูกคนพวกนี้ฉีกทึ้งจนไม่เหลือชิ้นดีไปนานแล้วพอคิดมาถึงตรงนี้ บริเวณกลางอกของเขาก็ปวดหน่วงบีบแน่นขึ้นมาอีกครั้งมองดูแต่ละคนที่ล้วนเบิกตากว้างด้วยความตกใจราวกับตกใจว่าเขารู้เรื่องนี้ได้อย่างไรกันบนใบหน้าของกู้เวินเหยียนยิ่งเย็นเยียบจนทำให้คนมองรู้สึกขนลุกสั่น“ฉันไม่เพียงแค่จะไม่ยกเสิ่นซื่อกรุ๊ปให้คนตระกูลกู้ แต่ฉันยังจะไ

  • จดหมายฉบับสุดท้าย   บทที่ 23

    “เสิ่นเจียรุ่ย ให้ฉันช่วยแก้แค้นแทนเธอได้ไหม?” เขาพูดออกมาเบา ๆทันทีที่พูดจบ เขาก็ยกขวดเหล้าที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมา ฟาดใส่หัวตัวเองดัง “กัง! กัง!” หลายครั้งอย่างแรงเลือดสดไหลออกมาทันที ย้อมเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาให้กลายเป็นสีแดงเขากอดรูปไว้อาลัยของเสิ่นเจียรุ่ยแล้วนอนลงบนโซฟา ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา“ขอโทษครับประธานกู้ โทรศัพท์ที่ติดต่อเข้ามาเรื่องประกาศตามหานั้นดังไม่หยุดเลย แต่ไม่มีสักรายที่เป็นเชือกแดงเส้นที่คุณต้องการครับ”“รู้แล้ว”เขาหลับตาลงด้วยความเจ็บปวดวินาทีถัดมา เขาก็สั่งให้ผู้ช่วยจองตั๋วเครื่องบินทันทีในเมื่อหาเส้นเดิมกลับมาไม่ได้ เขาก็จะไปขอเชือกแดงเส้นใหม่ที่เหมือนกันทุกประการมาใส่ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เครื่องบินก็ลงจอด กู้เวินเหยียนฝ่าภูเขาและสายน้ำมาจนถึงตีนเขาได้ยินชาวบ้านบอกว่าศาลานั้นสร้างอยู่บนยอดเขามีเพียงผู้ที่ตั้งใจอธิษฐานด้วยความศรัทธา และเป็นผู้มีวาสนาดีเท่านั้น จึงจะได้รับการพบหน้ากู้เวินเหยียนไม่เอ่ยสักคำ ก้มหน้าเดินมุ่งหน้าไปข้างหน้าเงียบ ๆเขาไม่หยุดพักแม้แต่วินาทีเดียว แม้หน้าผากยังพันผ้าก๊อซอยู่ก็ตาม หลายครั้งที่อาการเวียนหัวถาโถมเ

  • จดหมายฉบับสุดท้าย   บทที่ 22

    ในโทรศัพท์ของกู้เวินเหยียน มีข้อความอวยพรวันเกิดส่งเข้ามามากมายเขาเพิ่งนึกขึ้นได้อย่างเลื่อนลอยว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเขาเองเขาราวกับกลายเป็นเครื่องจักรที่ไร้ความรู้สึก ปล่อยให้สมองหยุดทำงานไปนิ้วของเขาเลื่อนหน้าจอไปเรื่อย ๆ อย่างไม่รู้ตัว แล้วไม่รู้เป็นเพราะอะไร กลับเลื่อนไปเจอข้อความเก่าที่เสิ่นเจียรุ่ยเคยส่งมาให้เขา2024.5.27 00:00“กู้เวินเหยียน สุขสันต์วันเกิดนะ”2023.5.27 00:00“กู้เวินเหยียน สุขสันต์วันเกิดนะ”2022.5.27 00:00“กู้เวินเหยียน สุขสันต์วันเกิดนะ”……ตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์ราวกับเป็นสัตว์ร้ายที่พร้อมจะกลืนกินเขาเขารู้สึกหนาวเย็นไปทั้งตัว ราวกับถูกสัตว์ร้ายที่มองไม่เห็นฉีกกัดอย่างโหดร้าย ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วแขนขาและทุกกระดูกในร่างกาย จนร่างทั้งร่างสั่นไหวโดยไม่อาจควบคุมได้โทรศัพท์หลุดจากฝ่ามือของเขา ร่วงตกกระแทกพื้นอย่างแรงหรือควรจะบอกว่าเสิ่นเจียรุ่ยรู้จักเขาดีเกินไปกันแน่?เธอรู้ดีว่าแม้จะส่งมา เขาก็จะไม่เปิดดูอยู่ดีหรือเป็นเพราะเขาเองที่สะเพร่ามากเกินไปเขาไม่เคยสังเกตเลยว่าทุกปีในวันเกิดของเขา เธอคือคนแรกที่อวยพรให้เสมอหัวใจของเขาเจ็

  • จดหมายฉบับสุดท้าย   บทที่ 21

    กู้เวินเหยียนขังฟางจินเซี่ยเอาไว้ในวิลลาหลังนี้ยึดโทรศัพท์ของเธอไป เอาของทุกอย่างของเธอไปหมด และไม่เหลืออาหารอะไรไว้ในห้องเลยสักอย่างไม่สนเสียงร้องตะโกนของเธอ แล้วล็อกประตูแน่นหนาจากนั้นเขาก็หมุนตัวเดินจากไปโทรศัพท์ของเขาเกือบจะโดนผู้ช่วยโทรเข้ามาจนระเบิดแล้วพอเขารับสาย ผู้ช่วยก็โล่งอกขึ้นมาทันที“ประธานกู้ ในที่สุดคุณก็รับสายแล้วครับ มีเรื่องใหญ่ต้องให้คุณรีบกลับมาจัดการด่วนครับ!”กู้เวินเหยียนไม่ตอบอะไร สีหน้าก็ไร้อารมณ์ ขณะออกคำสั่งไปยังปลายสาย“ไปซื้อเหล้ามาสักสองสามลัง ส่งไปที่บ้านฉัน”พูดจบเขาก็ตัดสายทันที แล้วไม่สนใจโทรศัพท์อีกเลยหน้าต่างห้องถูกเขาปิดตายสนิท ม่านก็ปิดแน่นจนแสงลอดไม่ได้ เขากอดหมอนที่เสิ่นเจียรุ่ยเคยใช้ แล้วสูดดมกลิ่นที่ยังติดอยู่บนหมอนนั้นอย่างละโมบแต่ไม่นานเขาก็พบว่า แม้แต่กลิ่นเฉพาะตัวของเสิ่นเจียรุ่ย ก็ยังค่อย ๆ จางหายไปทีละน้อยเขาทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว อารมณ์ที่กดไว้เนิ่นนานถาโถมใส่เขาเหมือนคลื่นมหึมาจนพังทลายหมดสิ้นเขาตะโกนเรียกชื่อเสิ่นเจียรุ่ยด้วยความเจ็บปวดจนใจแทบขาด ไม่เคยมีสักครั้งที่เขาปรารถนาให้เวลาย้อนกลับไปได้มากเท่าตอนนี้…ตอนท

  • จดหมายฉบับสุดท้าย   บทที่ 20

    เขาคุกเข่าทรุดกึ่งนั่งยอง ร่างทั้งร่างชาไร้ความรู้สึก ราวกับเป็นเพียงเปลือกกายที่ไร้วิญญาณเขาหยิบเงินกงเต็กออกมาอย่างระมัดระวัง แล้วโยนลงไปในกะทะไฟเขาอยากรู้ว่าฝังศพเสิ่นเจียรุ่ยไว้ที่ไหนเขาคิดถึงเธอมากเหลือเกิน จนทั้งคืนทั้งคืนก็แทบไม่ได้นอนเลยเขาไปถามผู้ช่วยของเขาแต่เขากลับบอกเขาว่า ข่าวการเสียชีวิตของเสิ่นเจียรุ่ย เป็นสิ่งที่เขาได้รับมาจากจดหมายปริศนาฉบับหนึ่งในจดหมายนั้นมีรูปถ่ายใบยกเลิกบัตรประชาชนของเสิ่นเจียรุ่ย รวมทั้งประวัติการรักษาของเธอ นอกจากรูปหลุมศพที่มีเพียงชื่อปรากฏอยู่แล้ว ก็ไม่เหลือข้อมูลอื่นใดอีกเลยเขาเองก็ไม่รู้ว่าเสิ่นเจียรุ่ยถูกฝังไว้ที่ไหนกู้เวินเหยียนเมื่อได้ยินก็ราวกับถูกสายฟ้าฟาดใส่แต่พอผ่านไปไม่นาน เขาก็นึกถึงผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาอีก จี้ถันอิ่ง ผู้ที่เอาแต่แก้แค้นเขาอย่างบ้าคลั่งเธอเป็นเพื่อนของเสิ่นเจียรุ่ย แน่นอนว่าเธอต้องรู้ว่าเสิ่นเจียรุ่ยถูกฝังไว้ที่ไหนไม่แน่ว่าเสิ่นเจียรุ่ยอาจเป็นคนที่เธอเป็นคนฝังด้วยตัวเองก็ได้เขารีบพุ่งตรงไปที่บ้านของจี้ถันอิ่งโดยไม่คิดแม้แต่นิดเดียวแต่พอไปถึงกลับพบว่าเธอย้ายออกไปแล้วเบอร์โทรศัพท์ของจี้ถันอิ่ง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status