Masukวิดีโอที่แฟนขอเลขาสาวแต่งงานกลายเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์ ทุกคนต่างพูดกันว่าโรแมนติกและซาบซึ้งใจมาก เลขาสาวโพสต์ข้อความสารภาพรักว่า【ในที่สุดก็ได้เจอคุณ โชคดีที่ฉันไม่ยอมแพ้ คุณหลี่คะ ชีวิตต่อจากนี้ไป ขอคุณนำทางด้วยนะคะ】 คอมเมนต์เต็มไปด้วยเสียงเชียร์【ฟินมาก! เลขาสาวกับท่านประธานผูู้เผด็จการ คู่จิ้นของฉันนี่มันหวานที่สุดไปเลยยยย!】 ฉันไม่ร้องไห้ ไม่โวยวาย เพียงแค่ปิดหน้าเว็บอย่างเงียบๆ แล้วไปหาแฟนเพื่อขอคำอธิบาย แต่กลับได้ยินเขาคุยกับเพื่อนว่า “ช่วงไม่ได้ ถ้าฉันไม่แต่งกับเธอล่ะก็ เธอก็จะถูกครอบครัวบีบบังคับให้แต่งงานกับคนที่เธอไม่รัก” “แล้วเซี่ยเซี่ยล่ะ เธอต่างหากที่เป็นแฟนจริงๆของนาย นายไม่กลัวว่าเธอจะโกรธเหรอ?” “โกรธแล้วจะทำอะไรได้? เซี่ยเซี่ยอยู่กับฉันมาเจ็ดปีแล้ว เธอไม่มีทางไปจากฉันได้หรอก” สุดท้าย ฉันกับเขาก็แต่งงานในวันเดียวกัน รถแต่งงานแล่นสวนกัน ขณะที่เจ้าสาวกำลังแลกช่อดอกกัน และในวินาทีที่เห็นฉันอยู่ในรถแต่งงานอีกคัน เขาก็พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง
Lihat lebih banyakในความทรงจำ หลี่จิ่นหานตรงหน้าฉัน เหมือนไม่เคยมีท่าทีที่ต่ำต้อยเหมือนแบบนี้มาก่อนเลยฉันพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง “หลี่จิ่นหาน อย่าดิ้นรนอีกเลย ยอมรับว่าตัวเองเปลี่ยนใจไม่ใช่เรื่องน่าอาย”“ฉันเชื่อว่าเมื่อก่อนคุณรักฉันจริง แต่ตอนนี้ที่คุณเปลี่ยนใจไปก็เป็นความจริงเหมือนกัน”เขารีบขัดขึ้นอย่างร้อนรน “ไม่ใช่ ตอนนี้ผมก็ยังรักคุณเหมือนกัน คุณเชื่อผมนะเซี่ยเซี่ย”ฉันหัวเราะ “คุณบอกว่าคุณรักฉัน แต่จำไม่ได้แม้แต่ความชอบของฉัน ของกินที่คุณซื้อให้ฉันกินล้วนเป็นสิ่งที่ซ่งเชี่ยนเชี่ยนชอบกิน คุณบอกว่าคุณรักฉัน แม้แต่ของขวัญที่ส่งให้ฉันซ่งเชี่ยนเชี่ยนก็มีเหมือนเป๊ะ คุณบอกว่าคุณรักฉัน แต่แม้แต่วันเกิดของฉัน วันครบรอบของเราก็ยังลืมได้ คุณบอกว่าคุณรักฉัน แต่กลับลืมฉันในช่วยที่วิกฤตที่สุด และวิ่งไปหาอีกคนโดยไม่ลังเล”“หลี่จิ่นหาน นี่เหรอความรักที่คุณบอก?ถ้าเป็นแบบนี้ เช่นนั้นความรักของคุณก็ไร้ค่าเกินไปแล้ว”เขามองดูท่าทางที่ไม่แยกสของฉัน ก็เริ่มตื่นตระหนก“เซี่ยเซี่ย ผมรู้ผิดแล้ว เมื่อกี้ผมรอคุณอยู่ด้านนอก ผมถึงได้รู้ว่าความรู้สึกของการรอคนนั้นมันเป็นอย่างไร เมื่อก่อนผมเคยให้คุณรอไปหลายครั้ง ขอโทษนะ
นี่คืองานแต่งของฉันกับลู่จื่อเหิง แขกที่มาร่วมงานล้วนเป็นคนที่มีหน้ามีตา ฉันไม่อยากเป็นที่รู้จักด้วยวิธีแบบนี้ และยิ่งไม่อยากทำลายงานแต่งที่พ่อแม่ฉันเฝ้ารอคอยมานานฉันให้ลู่จื่อเหิงเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมา ลากหลี่จิ่นหานออกไปโดยตรงเหตุการณ์วุ่นวายเล็กๆน้อยๆนี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่องานแต่งงานของฉันทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น จนกระทั่งพิธีสุดท้ายจบลง และแขกทุกคนก็กลับไปแล้ว ฉันหันไปมองลู่จื่อเหิง “ให้เวลาฉันไปเคลียร์เรื่องเมื่อกี้หน่อยได้ไหม?ฉันอยากคุยกับเขาให้ชัดเจน”ลู่จื่อเหิงให้ความไว้วางใจฉันอย่างเต็มที่ เขาพยักหน้าโดยไม่ลังเล “ไปเถอะ แต่ต้องระวังความปลอดภัยนะ ถ้ามีอะไรที่จัดการไม่ได้ เรียกผมได้ตลอด ผมอยู่ที่นี่”ไม่รู้ว่าทำไม แววตาของเขากลับทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัยอย่างประหลาดใจหลี่จิ่นหานถูกพาไปอยู่ในห้องหนึ่ง มีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าดูเขาไว้ เมื่อเห็นฉันมา เขารีบพูดขึ้นทันทีว่า “คุณรีบห้ามเขาหน่อยเถอะ เขาประสบอุบัติเหตุ เลือดออกเยอะมาก เราพยายามพูดหว่านล้อมให้เขาไปโรงพยาบาล แต่เขาไม่ยอมไปเลย”“ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เขาอาจเสียเลือดมากเกินไปจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้นะครั
ตอนนั้น ฉันรู้สึกผิดและเสียใจจนร้องไห้ออกมาแต่เขากลับเช็ดน้ำตาให้ฉันอย่างอ่อนโยน แล้วยิ้มแบบไม่ใส่ใจว่า “ไม่เป็นไร แค่แผลเป็นเอง ไม่ได้ทำให้ความหล่อของพี่ลดลงเลยสักนิด”น้ำตาฉันกลับยิ่งไหลหนักกว่าเดิม “นายเจ็บไหม?”เขาเห็นฉันร้องไห้ ก็ลนลาน “ฉันไม่เจ็บ ไม่เจ็บสักนิดเลย เธออย่าร้องไห้ได้ไหม?พระเจ้าช่วย ถือว่าฉันขอร้องล่ะ คุณร้องทีไร ฉันเจ็บไปหมดทั้งตัวเลย……”ตอนนั้น เขาสามารถพุ่งเข้ามาช่วยฉันในกองไฟโดยไม่ลังเลแต่ตอนนี้ คนที่เขาพุ่งไปช่วยโดยไม่มีเงินไข้ใดๆนั้น กลับไม่ใช่ฉันอีกต่อไปแล้วหลังจากนั้น ครอบครัวของหลี่จิ่นหานผู้เป็นที่เกิดมาพร้อมกับโชคชะตาที่ดีนั้นกลับต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน บ้านแตกสาแหรกขาดในชั่วข้ามคืน ทิ้งหนี้มหาศาลไว้ให้เขา เขาร่วงจากจุดสูงสุดลงสู่พื้นดินฉันเขย่งเท้าขึ้นไปจูบหยาดน้ำตาของเขา “นายยังมีฉันนะ ฉันจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ”ฉันตัดสินใจที่จะเลือกเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันกับเขาอย่างไม่ลังเล บินไปยังเมืองที่เขาอยู่พอเรียนจบก็จดทะเบียนสมรสกันทันทีตอนนั้น หลี่จิ่นหานรักฉันมาก และดีกับฉันมากๆตอนนั้น แม้เราจะยากจนมาก แต่กลับมีความสุขมากเราอ
ไปส่งอาหารอีกครั้ง ซ่งเชี่ยนเชี่ยนก็ยังคงต้อนรับฉันอย่างอบอุ่นแต่แค่เพียงแวบเดียว ฉันก็เห็นสร้อยคอที่ห้อยอยู่บนคอของเธอ ที่บ้านฉัน มีสร้อยเป๊ะๆแบบนี้หนึ่งเส้นมันคือของขวัญวันครบรอบที่หลี่จิ่นหานส่งให้ฉัน ฉันจำได้ว่าตอนนั้นซ่งเชี่ยนเชี่ยนยังเคยชมว่า “สร้อยเส้นนี้สวยมากเลยค่ะ พี่จิ่นหานตาถึงจริง ๆ พี่ช่างโชคดีจังเลยนะคะ ไม่เหมือนหนู ชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้ใส่สร้อยสวย ๆ แบบนี้หรอก”ตอนนั้น ฉันก็รู้สึกขยะแขยงขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นฉันจ้องสร้อยคอของเธออย่างไม่วางตา ซ่งเชี่ยนเชี่ยนก็ยิ้มมองฉัน โดยไม่เห็นท่าทีร้อนตัวแม้แต่น้อย“สร้อยเส้นนี้ของเธอ……”เธอยอมรับอย่างหน้าตาเฉย “ประธานหลี่ส่งให้หนูค่ะ”ตอนนั้น ฉันเคยทะเลาะกับหลี่จิ่นหาน แต่เขากลับบอกว่าเป็นรางวัลในการทำงานของซ่งเชี่ยนเชี่ยน เป็นฉันเองที่คิดมากไปเองและก็เป็นครั้งนั้นเอง ที่ฉันย้อนกลับไปเอากระเป๋าที่ลืมไว้ในออฟฟิศของหลี่จิ่นหาน แต่กลับเห็นอาหารที่ฉันเอามาถูกโยนอยู่ในถังขยะและซ่งเชี่ยนเชี่ยนก็เลิกแสดงละครต่อหน้าฉันเป็นครั้งแรกเธอมองฉันด้วยสายตาเย้ยหยัน “พี่คะ หนูไม่กินผักชี คราวหน้าถ้าพี่จะมาทำอาหารมาส่งอีก จำไว้ว่าอย่าใส