บททั้งหมดของ จดหมายฉบับสุดท้าย: บทที่ 1 - บทที่ 10

25

บทที่ 1

กู้เวินเหยียนกับเสิ่นเจียรุ่ยไม่กินเส้นกันมาตั้งแต่เด็กบังเอิญในปีนั้น คนที่เหมาะสมจะจับคู่แต่งงานกันในวงการก็เหลือแค่พวกเขาสองคนเท่านั้นกู้เวินเหยียนประกาศหนักแน่นว่าต่อให้ตายก็จะไม่มีวันแต่งงานกับเสิ่นเจียรุ่ยเสิ่นเจียรุ่ยเกิดสนใจขึ้นมาทันที “งั้นฉันก็ตัดสินใจแต่งกับนายแล้วล่ะ นายรีบไปตายซะเถอะ”ในวันแต่งงาน กู้เวินเหยียนปล่อยไก่นับสิบตัวออกมาเพื่อทำให้เสิ่นเจียรุ่ยอับอายเธอทำหน้าไร้อารมณ์ คว้าไก่ตัวหนึ่งขึ้นมาแล้วเรียกมันว่า “สามี”กู้เวินเหยียนหมดอารมณ์ล้อเล่นลงไปทันทีมองดูเสิ่นเจียรุ่ยที่ดื้อดึงจะมาแต่งกับเขา เขาก็พูดกับเธอด้วยน้ำเสียงเสียดแทงเยาะเย้ย“เธอจะต้องเสียใจทีหลังแน่”แต่งงานกันมาได้สามปี เสิ่นเจียรุ่ยจับกู้เวินเหยียนคาหนังคาเขาอยู่บนเตียงเป็นครั้งที่เก้าสิบเก้าจนถึงตอนนี้เอง เธอถึงได้เข้าใจอย่างแท้จริงที่ว่าความเสียใจตามที่กู้เวินเหยียนพูดไว้มันคืออะไรกันแน่นั่งเครื่องบินมาทั้งคืน เสิ่นเจียรุ่ยใบหน้าซีดเหลือง มองไปที่เสื้อผ้าที่ถูกทิ้งเกลื่อนเต็มพื้นกลิ่นคาวและกลิ่นสาบที่ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศทำให้กระเพาะของเธอปั่นป่วนขึ้นมาเป็นระลอกกู้เวินเหยียนท่อน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 2

เสิ่นเจียรุ่ยเดินเร่ไปตามท้องถนนในมือของเธอกำแน่นอยู่คือเอกสารวินิจฉัยความตายจากแพทย์“พูดอีกอย่างก็คือ… ฉันเหลือเวลาอยู่แค่ประมาณสามสิบวันใช่ไหม?”“ขอโทษด้วยนะ คุณเสิ่น”ความรู้สึกเหมือนฟ้าผ่ากลางวันแสก ๆ แบบนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เสิ่นเจียรุ่ยต้องเผชิญตระกูลเสิ่นในตอนนี้โอนเอนราวกับจะล้มไม่ล้ม ภาระทุกอย่างล้วนตกอยู่บนบ่าของเธอคนเดียวตอนนั้นเธอเองก็เคยรู้สึกสิ้นหวังมาก่อนเธอโทรหากู้เวินเหยียนเธอคิดว่า ต่อให้แค่ได้เถียงกับเขาสักหน่อย ทะเลาะกันสักนิดก็ยังดีเธออาจจะรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยแต่กู้เวินเหยียนกลับตัดสายโทรศัพท์ทุกครั้งที่เธอโทรไปหา จนสุดท้ายพอโดนเธอรบกวนมากเข้า เขาก็ปิดเครื่องหนีไม่รับสายเลยครั้งที่เขาปรากฏตัวอีกที คือเขาพานางแบบสาววัยใสเข้ามา นอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงหอใหม่ของเธอกับเขาเขาไม่เคยเห็นความไร้หนทางของเสิ่นเจียรุ่ยเลยแม้แต่น้อยสิ่งที่เขาเห็น มีเพียงใบหน้าที่ทำให้เขารังเกียจและขยะแขยงเท่านั้นเขาจงใจจูบแบบฝรั่งเศสกับนางแบบสาวต่อหน้าเธอ เส้นใยน้ำลายที่เชื่อมอยู่ตรงมุมปากของทั้งคู่แทงตาเสิ่นเจียรุ่ยจนเจ็บแปลบ“เป็นยังไงล่ะ? จะหย่าไหม?”เสิ่นเจียรุ่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 3

คนปลายสายหอบหายใจแรงอย่างหนักหน่วงเสิ่นเจียรุ่ยคิดว่า หากตอนนี้เธอยืนอยู่ต่อหน้า กู้เวินเหยียน เกรงว่าไม่ต้องรอถึงหนึ่งเดือน เธอก็คงถูกเขาบีบคอตายไปแล้วยังไม่ทันรอให้กู้เวินเหยียนอ้าปากด่าเธอ เธอก็หลุดหัวเราะออกมาอีกครั้ง“กู้เวินเหยียน ครั้งนี้ฉันจะไม่หลอกนาย แต่ฉันมีข้อเรียกร้องหนึ่งข้อ”กู้เวินเหยียนไม่ตอบอะไรเสิ่นเจียรุ่ยไม่ใส่ใจอะไร พูดต่อไปตามใจตัวเอง“ฉันต้องการให้นายอยู่ทำสิบอย่างกับฉัน ทำครบทั้งสิบแล้ว ฉันจะไปเซ็นใบหย่ากับนายอย่างว่าง่าย และฉันสัญญาว่า ตั้งแต่นั้นเป็นต้นไป ฉันจะหายไปจากโลกของนายอย่างสิ้นเชิง”ประโยคนี้ช่างเย้ายวนใจจริง ๆกู้เวินเหยียนขมวดคิ้วแน่นขึ้น“สิบอย่างมันเยอะไป ห้าอย่างก็พอ”เสิ่นเจียรุ่ยหัวเราะเบา ๆ “ได้”เรื่องแรก เสิ่นเจียรุ่ยต้องการให้กู้เวินเหยียนไปงานกาล่าการกุศลกับเธอเธอสวมชุดหรูหราเต็ม แต่ตอนที่กู้เวินเหยียนมารับเธอ นิ้วเขากลับเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว ดวงตาไม่แม้แต่จะเหลือบมองเธอสักนิดเสิ่นเจียรุ่ยก็ไม่ใส่ใจ เพราะเธอรู้ดีว่าจากปากหมาอย่างเขาไม่มีวันพูดอะไรดี ๆ ออกมาได้แต่พอขึ้นรถแล้ว กลับเป็นกู้เวินเหยียนเสียเอง…เห
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 4

พูดจบ กู้เวินเหยียนก็หมุนตัววิ่งออกจากสนามบินทันทีเสิ่นเจียรุ่ยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยความชืดชาเป็นไปตามคาด ข้อความที่ปักหมุดบนโพสต์ก็คือข้อความที่ฟางจินเซี่ยโพสต์เธอไม่ได้พูดอะไรเลย เพียงแค่โพสต์ภาพวาดหนึ่งภาพเท่านั้นกู้เวินเหยียนทิ้งตัวเองและคำสัญญาของเขาอย่างไม่ลังเล แล้วหันหลังจากไปทันที“คุณผู้หญิงคะ ถึงเวลาแล้วนะคะ”เสิ่นเจียรุ่ยสะบัดสติกลับมา ไม่หลงเหลือความอาลัยต่อแผ่นหลังของเขาอีก แล้วเลือกเดินสวนทางกับเขาหลังจากลงจอดที่ทิเบต เสิ่นเจียรุ่ยก็ได้รับข้อความที่กู้เวินเหยียนส่งมา“ฉันจะไปช้าสองวัน เธอเที่ยวไปก่อนนะ”เสิ่นเจียรุ่ยแปลกใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าเขาจะมาช้า แทนที่จะไม่มาเลยดูท่าว่ากู้เวินเหยียนคงร้อนใจอยากตัดความสัมพันธ์กับเธอให้ขาดโดยไม่รอช้าเสิ่นเจียรุ่ยไม่ได้รอกู้เวินเหยียน แต่หามัคคุเทศก์ในพื้นที่ แล้วเดินทางไปกับกรุ๊ปทัวร์แรงของเธอสู้คนอื่นไม่ไหว ส่วนใหญ่จึงนอนพักอยู่ในห้องตามลำพังตอนที่กู้เวินเหยียนมาถึง เธอก็เก็บกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยและตั้งใจจะออกเดินทางกลับแล้ว“เสิ่นเจียรุ่ย ฉันวางงานตั้งมากมายแล้วรีบตามมาบ้าไปกับเธอ นี่เธอทำแบบนี้เพื่อมาล้อฉ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 5

กู้เวินเหยียนกำหมัดแน่น มองเสิ่นเจียรุ่ยด้วยสายตาโกรธจัดเสิ่นเจียรุ่ยรู้ว่าเขากำลังอยากจะพูดอะไรเธอหอบหายใจแรงหนึ่งครั้ง ราวกับหมดเรี่ยวแรงทั้งตัวแล้วทรุดตัวนั่งลงกับพื้นเธอยกมือขึ้นนวดหูที่โดนเขาตบจนหูอื้อเธอนั่งมองกองเสื้อผ้าที่ตกอยู่บนพื้น แล้วค่อย ๆ พับมันขึ้นมาใหม่อีกครั้ง“นายรอให้ได้หย่ากับฉัน แล้วไปแต่งงานกับฟางจินเซี่ยอยู่เไม่ใช่เหรอ?”“ทำเรื่องนี้ให้เสร็จ ก็จะเหลืออีกแค่สองเรื่องแล้วนะ นายจะยอมปล่อยให้ทุกอย่างที่ทำมาก่อนหน้านี้เสียเปล่าเหรอ? พูดตามตรง สองเรื่องแรกที่นายทำ ฉันไม่พอใจเลย… หรือว่า นายไม่อยากหย่ากับฉันแล้วกันแน่?”พูดจบ เธอก็เงยหน้าขึ้นมองเข้าไปในดวงตาของเขาเพียงเห็นดวงตาคมเข้มของเขา คล้ายหมึกเข้มถูกแต้มด้วยชั้น ๆ ของความเยาะเย้ย“เสิ่นเจียรุ่ย คนเรามันมีค่าก็ตรงที่รู้จักตัวเอง น่าเสียดาย…เธอไม่มีเลย”“เรื่องที่สามนี่ ฉันตกลงทำให้เธอ แต่จำไว้ให้ดีนะ ตระกูลเสิ่นปกป้องเธอไม่ได้แล้ว ถ้าเธอกล้าแตะต้องจินเซี่ยอีกครั้ง ฉันจะทำให้เธอตายไม่เหลือซาก!”เสิ่นเจียรุ่ยก้มหน้าหัวเราะเยาะทั้งที่ขมขื่นในใจคำขู่แรง ๆ ใครจะพูดไม่เป็นกันล่ะ?ตอนที่พวกเขาสองคนทะเลา
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 6

เสิ่นเจียรุ่ยก้มขนตาลง เธอเคยเห็นกู้เวินเหยียนพาฟางจินเซี่ยไปสวนสนุก และทนถ่ายรูปให้เธออย่างไม่รู้สึกเบื่อเลยสักนิดเธอไม่ได้จะเอาตัวเองไปเทียบกับฟางจินเซี่ยแต่เพราะการได้มาสวนสนุกกับกู้เวินเหยียน เป็นความปรารถนาในวัยเด็กของเธอเรื่องที่สี่นี้ คือเพื่อทำให้ความฝันของเสิ่นเจียรุ่ยตัวน้อยเป็นจริงถึงตัวของกู้เวินเหยียนจะเดินตามเสิ่นเจียรุ่ยอยู่ แต่ใจของเขานั้นลอยไปไกลไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วเขาไม่ละสายตาจากโทรศัพท์เลย เสิ่นเจียรุ่ยให้เขาถ่ายรูป ต้องเรียกสี่ห้ารอบเขาถึงจะยอมละสายตาจากหน้าจอขึ้นมามองเธอพอค่ำลง กู้เวินเหยียนเร่งให้เธอไปจากที่นี่ถึงสามครั้ง เธอก็ทำเป็นไม่ได้ยินทั้งหมดจนกระทั่งชิงช้าสวรรค์ที่ไม่ไกลจากนั้นสว่างขึ้นมาเธอชี้ไปทางนั้นด้วยแววตาเต็มไปด้วยความหวัง“นั่งอันนี้กับฉันให้เสร็จ แล้วค่อยไป”มองแววตาที่สว่างขึ้นเล็กน้อยของเสิ่นเจียรุ่ย เขาก็ถึงกับชะงักอยู่กับที่ผ่านไปพักหนึ่ง เขาเม้มปากแล้วพูดออกมา“เสิ่นเจียรุ่ย ต่อให้ชิงช้าสวรรค์ขึ้นไปถึงจุดสูงสุด ฉันก็ไม่มีวันรักเธอ”เวลาเดินผ่านไปทีละนิดอย่างต่อเนื่องเสิ่นเจียรุ่ยรู้สึกแสบตาร้อน ๆ แล้วรีบหันหน้าห
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 7

เสิ่นเจียรุ่ยโทรหากู้เวินเหยียน พอโดนเขาตัดสายใส่ติดกันสามครั้ง เสิ่นเจียรุ่ยก็หมดความอดทนเธอส่งข้อความหนึ่งไปให้กู้เวินเหยียน“ไม่น่าแปลกใจเลย ยังไม่ถึงสองนาที ทางนั้นก็โทรกลับมเลยเพียงแต่เสียงของกู้เวินเหยียนฟังดูอ่อนล้าอย่างมาก“จินเซี่ยป่วยอยู่ ฉันต้องอยู่ดูแลเธอ”“เรื่องสุดท้ายนั้น ไว้ค่อยคุยกันอีกสองวันข้างหน้าก็แล้วกัน”เขาพูดจบก็จะวางสาย เสิ่นเจียรุ่ยรีบตะโกนใส่โทรศัพท์ว่า “ไม่ได้!”ทันทีที่เธอพูดจบ กู้เวินเหยียนก็หัวเราะเย็นใส่เธอหนึ่งครั้ง“แค่ช้าสองวันเอง ไม่ได้ผิดสัญญาสักหน่อย เสิ่นเจียรุ่ย เธอพอได้แล้ว!”เสิ่นเจียรุ่ยจมูกแสบวูบขึ้นมา เกือบกลั้นความจุกแน่นที่แล่นขึ้นคอเอาไว้แล้วกลืนมันลงไปเธอแกล้งทำเป็นสบาย ทั้งที่ทั้งตัวเจ็บปวดแทบตาย แต่ก็ยังฝืนยิ้มออกมาได้“กู้เวินเหยียน เหลือแค่เรื่องสุดท้ายเรื่องเดียวแล้วนะ ทำเสร็จแล้วนายก็เป็นอิสระแล้ว หรือว่านายเสียใจล่ะ? ยังอยากจะรักษาความสัมพันธ์แบบคู่สามีภรรยากับฉันต่อไปอีกเหรอ? ได้สิ ฉันไม่ติดอะไรอยู่แล้ว!”กู้เวินเหยียนไม่เคยทนได้เวลาเธอใช้คำพูดพวกนี้มากระตุ้นเขาเสิ่นเจียรุ่ยเห็นว่ามุกนี้ได้ผลทุกครั้ง พอวางสายไปแ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 8

เสิ่นเจียรุ่ยมองเขาด้วยความตกตะลึงยังไม่ทันที่เธอจะได้ตั้งตัว เสียงกดออดหน้าประตูก็ดังขึ้นวินาทีถัดมา กู้เวินเหยียนยิ้มกว้างแล้วเดินไปเปิดประตู“อาเหยียน ฉันมาช้าไปหรือเปล่า? โทษเด็กนักเรียนวันนี้เลย มัวแต่รุมถามปัญหาฉันไม่หยุด!”ฟางจินเซี่ยหยิบรองเท้าแตะผู้หญิงออกมาจากตู้รองเท้าอย่างคล่องแคล่วเสิ่นเจียรุ่ยจำได้ดี รองเท้าแตะคู่นั้นเธอเพิ่งซื้อมาไม่นานเอง แต่ยังไม่ทันได้ใส่ ก็ต้องย้ายออกจากบ้านหลังนี้ไปแล้วพอมามองตอนนี้ ก็เห็นได้ชัดว่าฟางจินเซี่ยคุ้นเคยกับบ้านหลังนี้มากแค่ไหนตัวเธอสั่นวาบขึ้นมาในทันที“ไม่ช้าเลย มาได้จังหวะพอดีเลย รีบล้างมือแล้วมากินข้าวกัน!”น้ำเสียงอ่อนโยนของกู้เวินเหยียน ทำให้หูของเสิ่นเจียรุ่ยเจ็บแปลบขึ้นมาฟางจินเซี่ยยิ้มเขิน ๆ แล้วเดินไปที่โต๊ะอาหาร“คุณเสิ่น ขอโทษนะคะ ฉันมาช้า!”เสิ่นเจียรุ่ยไม่ตอบ เธอเองก็ไม่ได้คิดจะรอคำตอบ เดินตรงไปที่เก้าอี้ของตัวเองทันที“อาเหยียน คุณนี่ดีจริง ๆ เตรียมชามกับตะเกียบของฉันไว้ให้ก่อนแล้วด้วย”“รู้ว่าเธอรักความสะอาด ฉันล้างซ้ำอยู่ตั้งหลายรอบ รอให้เธอมาตรวจดูเลยนะ!”“งั้นคุณอยากได้รางวัลอะไรล่ะ?”กู้เวินเหยียน
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 9

กู้เวินเหยียนได้ยินดังนั้น ก็รีบเก็บซ่อนความตกใจในดวงตาทันทีเขามองเสิ่นเจียรุ่ยด้วยความโกรธจัดจากนั้นเขาก็รีบก้าวเข้ามา คว้าเอาวิกผมในมือของฟางจินเซี่ยไปทันทีเขากระชากมันอย่างแรง แล้วโยนวิกผมนั้นลงถังขยะเหมือนกำลังทิ้งขยะทั่วไป“เสิ่นเจียรุ่ย เธอไม่อายบ้างหรือไง? เอาไอ้นี่มาใช้ขู่ฉันเนี่ยนะ?”“เธอคิดว่าฉันจะกลัวหรือไง? วันนี้ฉันจะบอกให้เลย ต่อให้เธอบอกว่าฉันอีกวินาทีจะตาย กู้เวินเหยียนอย่างฉันก็จะตัดสัมพันธ์กับเธอให้เด็ดขาดก่อนที่เธอจะตาย!”น้ำตาของเสิ่นเจียรุ่ยไหลเป็นสาย เธอสะอื้นจนพูดไม่ออก“กู้เวินเหยียน นายเกลียดฉันขนาดนั้นจริง ๆ เหรอ?”สายตาของกู้เวินเหยียนจ้องตรึงอยู่ที่ตัวเธออย่างไม่ละไปมืออ่อนนุ่มข้าง ๆ เอื้อมมาวางแนบลงบนฝ่ามือของเขาเขาหลุบตาลง โดยไม่รู้ทำไมถึงไม่อยากมองใบหน้าที่เมคอัพเลอะเพราะร้องไห้ของเธอเลย“เสิ่นเจียรุ่ย สามปีแล้วนะ เธอยังดูไม่ออกอีกเหรอ?”ใช่ สามปีแล้วเธอกอดก้อนน้ำแข็งก้อนนี้เอาไว้ตลอดสามปีเต็มเขาไม่เคยสนใจเลยว่าบ้านที่เธอจัดให้นั้นจะสะอาดแค่ไหนและก็ไม่เคยสนใจเลยว่าเสื้อผ้าที่จับคู่เตรียมไว้ให้เขาใส่ทุกวันตอนออกจากบ้านนั้น เป็นฝีมือขอ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 10

เวลาที่นัดกันไว้มาถึงนานแล้ว แต่กู้เวินเหยียนก็ยังเอ้อระเหย ไม่ยอมออกเดินทางเสียทีพอฟางจินเซี่ยถามเขาเป็นครั้งที่สาม เขาก็วางแก้วน้ำที่ยกมาให้เธอลง“อ้อ? ถึงเวลาแล้วเหรอ?”ฟางจินเซี่ยขมวดคิ้วแน่น มองกู้เวินเหยียนที่ใจลอยอยู่“อาเหยียน คุณเป็นอะไรไปเหรอ? หรือว่าคุณไม่อยากไปรับใบหย่ากับเสิ่นเจียรุ่ยแล้ว?”“เป็นไปได้ยังไง?!”เขารีบโต้กลับไปโดยไม่รู้ตัว“ฉันแค่ตั้งใจให้เธอรอฉันอยู่ที่นั่นนานหน่อยเท่านั้นเอง แต่งงานกับเธอ ฉันทนอยู่มาได้ตั้งสามปี กว่าจะได้หย่าก็ยากเย็น ยังจะยกสารพัดเหตุผลมาบังคับให้ฉันทำตามอีก ปล่อยให้เธอรอไปสักพักเถอะ”ฟางจินเซี่ยมีแววลังเลอยู่ในสายตา พอเห็นว่าเขาลุกขึ้นจะออกไปในที่สุด เธอก็โล่งใจลงกู้เวินเหยียนนั่งอยู่ในรถ แต่กลับไม่ยอมสตาร์ทรถเสียทีเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไรไปทั้งที่มันเป็นเรื่องที่ตัวเขารอคอยมานานแท้ ๆเขาบี้ปลายบุหรี่ดับด้วยความหงุดหงิดพอคิดถึงหัวที่ถูกโกนจนเกลี้ยงของเสิ่นเจียรุ่ย เขาก็หงุดหงิดจนทนไม่ไหวหลังจากวันนั้น เขาไม่ใช่ว่าไม่เคยถามเสิ่นเจียรุ่ยเลยเพียงแต่เธอไม่รับโทรศัพท์ของเขา ข้อความที่ส่งไปก็เงียบหายไปไม่มีต
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
123
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status