Share

บทที่ 6

Author: ปอเปี๊ยะสตรอว์เบอร์รี
เสิ่นเจียรุ่ยก้มขนตาลง เธอเคยเห็นกู้เวินเหยียนพาฟางจินเซี่ยไปสวนสนุก และทนถ่ายรูปให้เธออย่างไม่รู้สึกเบื่อเลยสักนิด

เธอไม่ได้จะเอาตัวเองไปเทียบกับฟางจินเซี่ย

แต่เพราะการได้มาสวนสนุกกับกู้เวินเหยียน เป็นความปรารถนาในวัยเด็กของเธอ

เรื่องที่สี่นี้ คือเพื่อทำให้ความฝันของเสิ่นเจียรุ่ยตัวน้อยเป็นจริง

ถึงตัวของกู้เวินเหยียนจะเดินตามเสิ่นเจียรุ่ยอยู่ แต่ใจของเขานั้นลอยไปไกลไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่แล้ว

เขาไม่ละสายตาจากโทรศัพท์เลย เสิ่นเจียรุ่ยให้เขาถ่ายรูป ต้องเรียกสี่ห้ารอบเขาถึงจะยอมละสายตาจากหน้าจอขึ้นมามองเธอ

พอค่ำลง กู้เวินเหยียนเร่งให้เธอไปจากที่นี่ถึงสามครั้ง เธอก็ทำเป็นไม่ได้ยินทั้งหมด

จนกระทั่งชิงช้าสวรรค์ที่ไม่ไกลจากนั้นสว่างขึ้นมา

เธอชี้ไปทางนั้นด้วยแววตาเต็มไปด้วยความหวัง

“นั่งอันนี้กับฉันให้เสร็จ แล้วค่อยไป”

มองแววตาที่สว่างขึ้นเล็กน้อยของเสิ่นเจียรุ่ย เขาก็ถึงกับชะงักอยู่กับที่

ผ่านไปพักหนึ่ง เขาเม้มปากแล้วพูดออกมา

“เสิ่นเจียรุ่ย ต่อให้ชิงช้าสวรรค์ขึ้นไปถึงจุดสูงสุด ฉันก็ไม่มีวันรักเธอ”

เวลาเดินผ่านไปทีละนิดอย่างต่อเนื่อง

เสิ่นเจียรุ่ยรู้สึกแสบตาร้อน ๆ แล้วรีบหันหน้าหนีไปอย่างรวดเร็ว

“นายคิดอะไรอยู่กันนะ? ฉันก็แค่ไม่เคยนั่งเท่านั้นเอง!”

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำลายความเงียบ

ฟางจินเซี่ยที่ปลายสายพูดบางอย่างด้วยน้ำเสียงรีบร้อน

พอวางสายแล้ว กู้เวินเหยียนก็รีบจากไปอีกครั้งด้วยท่าทางร้อนรน

แต่ครั้งนี้ เขาไม่แม้แต่จะเอ่ยคำขอโทษสักคำเดียว

เมื่อชิงช้าสวรรค์ขึ้นถึงจุดสูงสุด มองลงไปเห็นแสงไฟนับไม่ถ้วนของผู้คนเบื้องล่าง

น้ำตาของเสิ่นเจียรุ่ยไหลลงมาตามแก้ม เธอเผยริมฝีปากเบา ๆ

“เสิ่นเจียรุ่ย สุขสันต์วันเกิดนะ”

……

หลังจากวันนั้น

เสิ่นเจียรุ่ยถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาอย่างเร่งด่วนเพราะมีไข้สูง

เสียงเครื่องมือดังอยู่ข้างหู แต่เธอกลับเหมือนไม่ได้ยินอะไรเลย

ในความเลือนรางนั้น เธอเหมือนจะเห็นกู้เวินเหยียนมาหาเธอ

เห็นเธอมีสภาพเหมือนจะตายอยู่รอมร่อ ในแววตาของเขาก็ไม่ปรากฏความสงสารแม้แต่น้อย

กู้เวินเหยียนยกมุมปากยิ้มให้เธออย่างหัวเราะ

“สมน้ำหน้า คนเลวก็ต้องถูกสวรรค์ลงโทษ!”

“เธอตายไปซะเร็ว ๆ เถอะ แบบนั้นฉันจะได้ไม่ต้องไปทำเรื่องสุดท้ายที่น่าเบื่อสุดขีดของเธอนั่นอีก”

เสิ่นเจียรุ่ยในความฝันโมโหจนกัดฟันกรอด แต่หัวใจก็ขมฝาดราวกับแช่อยู่ในน้ำมะนาวมาหลายวันหลายคืน

เธอฝืนลืมตาขึ้นมาด้วยแรงเฮือกสุดท้าย

แต่กลับไม่เห็นคนที่เธออยากเห็น

“ขอบคุณสวรรค์ ในที่สุดก็ตื่นสักที เธอรู้ไหมว่าหลับไปนานแค่ไหน?”

เสิ่นเจียรุ่ยเป็นคนที่นิสัยเข้มแข็ง อีกทั้งวงการที่เธออยู่ยังเต็มไปด้วยการแข่งขันและการแสวงหาผลประโยชน์

ตระกูลเสิ่นตกต่ำไปแล้ว อีกทั้งกู้เวินเหยียนก็ไม่เคยลงรอยกับเธอเลยตั้งแต่แรก

ทุกคนต่างรู้ดีว่า เมื่อตระกูลเสิ่นล้ม กู้เวินเหยียนจะเป็นคนแรกที่รีบมาดูความตกต่ำของพวกเขา

เพราะแบบนั้น พวกเธอเลยเลือกข้างกันตั้งแต่เนิ่น ๆ และรีบตีตัวออกห่างจากเธอให้ชัดเจน

ข้างกายของเสิ่นเจียรุ่ย คนเดียวที่ยังพอคุยกันได้ ก็คือพยาบาลที่คอยดูแลเธอมาตลอดคนนี้เท่านั้น

พอได้ยินเธอพูดแบบนั้น เสิ่นเจียรุ่ยก็หันไปมองเธอด้วยความลนลาน

“วันนี้วันที่เท่าไหร่แล้ว?”

พอได้ยินเธอถามแบบนี้ จี้ถันอิ่งก็นึกว่าเธอกำลังเสียใจอีกแล้วที่ตัวเองเหลือเวลาอยู่ไม่มาก

เธอซ่อนสีหน้าไว้ แล้วเอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวังเพื่อจะปลอบเธอ

“วันที่ยี่สิบแปดน่ะ เจียรุ่ย เธอ—”

“วิกผมของฉันล่ะ?”

เสิ่นเจียรุ่ยพูดแทรกเธอขึ้นมา

จี้ถันอิ่งชะงักไปเล็กน้อย

“อยู่ตรงนี้ ฉันเก็บไว้ให้เธอแล้ว”

เสิ่นเจียรุ่ยขยับนิ้วเบา ๆ แล้วรับวิกผมมาจากมือของเธอ

เธอก้มเปลือกตาลง ทำให้เดาไม่ออกเลยว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่

“อาอิ่ง…ช่วงที่ฉันหลับไปแบบนั้น มีใครมาเยี่ยมฉันบ้างไหม?”

เธอพูดอย่างระมัดระวังเล็กน้อย นิ้วมือก็กำวิกผมแน่น

จี้ถันอิ่งรู้สึกสงสารเธอในสภาพแบบนี้อยู่ไม่น้อย

แต่เธอไม่อยากโกหกเสิ่นเจียรุ่ย

“เจียรุ่ย… กู้เวินเหยียนไม่เคยมาเลยนะ”

พอพูดจบ จี้ถันอิ่งก็รีบหันหน้าไปอีกด้าน กระพริบตาไล่น้ำตาที่เอ่อแดงอยู่

ไม่เพียงแต่ไม่มา

แม้แต่โทรศัพท์ที่เธอโทรไปหรือคำใบ้ต่าง ๆ เขาก็ไม่ยอมฟังเลยด้วยซ้ำ

“หมดสติเหรอ? พูดอะไรน่ะ? ใครจะหมดสติก็ได้ แต่เสิ่นเจียรุ่ยไม่มีวันหมดสติหรอก”

“ฉันยุ่งมาก ไม่มีเวลามาเล่นตลกกับเธอ นอกจากเรื่องสุดท้ายนั่น ฉันจะไม่ยอมรับอะไรทั้งนั้น บอกให้เธอหยุดซะเถอะ อย่าว่างแล้วหาเรื่องใส่ตัวอีก!”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • จดหมายฉบับสุดท้าย   บทที่ 25

    เห็นเขากลายเป็นแบบนี้ จี้ถันอิ่งดีใจสุด ๆ เลยถ้าไม่ติดว่าถ่ายรูปไม่ได้ล่ะก็ เธอคงจะถ่ายภาพหนึ่งเอาไปเผาส่งให้เสิ่นเจียรุ่ยที่อยู่ใต้ดินดูด้วยแน่ ๆมองไปที่ จี้ถันอิ่ง เขาเลียริมฝีปากที่แห้งแตกของตัวเองเบา ๆ“เชือกแดงล่ะ?”จี้ถันอิ่งไม่ได้พูดถึงเชือกแดงแม้แต่นิดเดียว เพียงแต่ก้มลงหยิบสมุดโน้ตเล่มหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเท่านั้นกู้เวินเหยียนจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวบนมือของเธอโดยไม่กะพริบตาเลยแม้แต่นิดเดียวจี้ถันอิ่งยกสมุดบันทึกไปแนบกับผนังกระจก“นี่คืออะไร?” กู้เวินเหยียนไม่เข้าใจสิ่งที่เขาอยากดูคือเชือกแดงจี้ถันอิ่งไม่พูดอะไร เพียงแค่เปิดสมุดโน้ตให้เขาดูเท่านั้นพอเห็นเนื้อหาในสมุดโน้ต กู้เวินเหยียนก็เบิกตากว้างขึ้นมาทันทีทุกหน้า ทุกบรรทัด ถูกเขียนด้วยลายมือที่คด ๆ งอ ๆ เต็มไปหมดจี้ถันอิ่งไม่ได้พูดอะไรเลย แต่เขากลับควบคุมริมฝีปากของตัวเองไม่ให้สั่นได้ไม่อยู่ผ่านไปครู่หนึ่ง จี้ถันอิ่งก็เอ่ยขึ้นช้า ๆ“กู้เวินเหยียน ตอนแรกที่คุณได้รับจดหมายนั้น มันไม่ใช่เจียรุ่ยเป็นคนเขียนเลย คุณย่อมไม่รู้หรอกว่า ตอนนั้นเธอเจ็บแค่ไหน ทรมานมากแค่ไหน แต่เธอก็ยังพยายามสุดชีวิตเขียนคำพวกนี้ลงไ

  • จดหมายฉบับสุดท้าย   บทที่ 24

    เขาค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมาช้า ๆ“ยังดีกว่าอะไรล่ะ?”ได้ยินน้ำเสียงเย็นชาเวลาที่เขาเอ่ยถามออกมาคนที่พูดประโยคนั้นถึงกับเงียบไปเหมือนกลายเป็นใบ้ ดวงตาหดหลบเล็กน้อยก่อนจะถอยไปซ่อนด้านหลังทันทีเห็นดังนั้น กู้เวินเหยียนแค่นหัวเราะเยือกเย็นออกมา"ทำไมล่ะ? ไม่กล้าพูดแล้วเหรอ? หรือว่ากำลังเสียใจที่ตอนนั้นไม่ให้ลูกนอกสมรสคนนั้นกลับมา?"พ่อของเขามีลูกนอกสมรส เรื่องนี้ ที่แท้ทั้งบ้านตระกูลกู้ต่างก็รู้กันหมด มีเพียงเขาคนเดียวที่ไม่รู้เลยตอนนั้นเขาแค่ประสบอุบัติเหตุรถชนจนตาบอดชั่วคราว แต่ทุกคนกลับเริ่มคิดหาวิธีให้เขาลงจากตำแหน่ง ถอนตัวออกมาเพื่อให้คนอื่นขึ้นแทนถ้าไม่ใช่เพราะเสิ่นเจียรุ่ยคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ใช่เพราะเธออยู่เคียงข้างพาเขาก้าวผ่านทุกอย่าง เขาเกรงว่าคงถูกคนพวกนี้ฉีกทึ้งจนไม่เหลือชิ้นดีไปนานแล้วพอคิดมาถึงตรงนี้ บริเวณกลางอกของเขาก็ปวดหน่วงบีบแน่นขึ้นมาอีกครั้งมองดูแต่ละคนที่ล้วนเบิกตากว้างด้วยความตกใจราวกับตกใจว่าเขารู้เรื่องนี้ได้อย่างไรกันบนใบหน้าของกู้เวินเหยียนยิ่งเย็นเยียบจนทำให้คนมองรู้สึกขนลุกสั่น“ฉันไม่เพียงแค่จะไม่ยกเสิ่นซื่อกรุ๊ปให้คนตระกูลกู้ แต่ฉันยังจะไ

  • จดหมายฉบับสุดท้าย   บทที่ 23

    “เสิ่นเจียรุ่ย ให้ฉันช่วยแก้แค้นแทนเธอได้ไหม?” เขาพูดออกมาเบา ๆทันทีที่พูดจบ เขาก็ยกขวดเหล้าที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมา ฟาดใส่หัวตัวเองดัง “กัง! กัง!” หลายครั้งอย่างแรงเลือดสดไหลออกมาทันที ย้อมเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาให้กลายเป็นสีแดงเขากอดรูปไว้อาลัยของเสิ่นเจียรุ่ยแล้วนอนลงบนโซฟา ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา“ขอโทษครับประธานกู้ โทรศัพท์ที่ติดต่อเข้ามาเรื่องประกาศตามหานั้นดังไม่หยุดเลย แต่ไม่มีสักรายที่เป็นเชือกแดงเส้นที่คุณต้องการครับ”“รู้แล้ว”เขาหลับตาลงด้วยความเจ็บปวดวินาทีถัดมา เขาก็สั่งให้ผู้ช่วยจองตั๋วเครื่องบินทันทีในเมื่อหาเส้นเดิมกลับมาไม่ได้ เขาก็จะไปขอเชือกแดงเส้นใหม่ที่เหมือนกันทุกประการมาใส่ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เครื่องบินก็ลงจอด กู้เวินเหยียนฝ่าภูเขาและสายน้ำมาจนถึงตีนเขาได้ยินชาวบ้านบอกว่าศาลานั้นสร้างอยู่บนยอดเขามีเพียงผู้ที่ตั้งใจอธิษฐานด้วยความศรัทธา และเป็นผู้มีวาสนาดีเท่านั้น จึงจะได้รับการพบหน้ากู้เวินเหยียนไม่เอ่ยสักคำ ก้มหน้าเดินมุ่งหน้าไปข้างหน้าเงียบ ๆเขาไม่หยุดพักแม้แต่วินาทีเดียว แม้หน้าผากยังพันผ้าก๊อซอยู่ก็ตาม หลายครั้งที่อาการเวียนหัวถาโถมเ

  • จดหมายฉบับสุดท้าย   บทที่ 22

    ในโทรศัพท์ของกู้เวินเหยียน มีข้อความอวยพรวันเกิดส่งเข้ามามากมายเขาเพิ่งนึกขึ้นได้อย่างเลื่อนลอยว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเขาเองเขาราวกับกลายเป็นเครื่องจักรที่ไร้ความรู้สึก ปล่อยให้สมองหยุดทำงานไปนิ้วของเขาเลื่อนหน้าจอไปเรื่อย ๆ อย่างไม่รู้ตัว แล้วไม่รู้เป็นเพราะอะไร กลับเลื่อนไปเจอข้อความเก่าที่เสิ่นเจียรุ่ยเคยส่งมาให้เขา2024.5.27 00:00“กู้เวินเหยียน สุขสันต์วันเกิดนะ”2023.5.27 00:00“กู้เวินเหยียน สุขสันต์วันเกิดนะ”2022.5.27 00:00“กู้เวินเหยียน สุขสันต์วันเกิดนะ”……ตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์ราวกับเป็นสัตว์ร้ายที่พร้อมจะกลืนกินเขาเขารู้สึกหนาวเย็นไปทั้งตัว ราวกับถูกสัตว์ร้ายที่มองไม่เห็นฉีกกัดอย่างโหดร้าย ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วแขนขาและทุกกระดูกในร่างกาย จนร่างทั้งร่างสั่นไหวโดยไม่อาจควบคุมได้โทรศัพท์หลุดจากฝ่ามือของเขา ร่วงตกกระแทกพื้นอย่างแรงหรือควรจะบอกว่าเสิ่นเจียรุ่ยรู้จักเขาดีเกินไปกันแน่?เธอรู้ดีว่าแม้จะส่งมา เขาก็จะไม่เปิดดูอยู่ดีหรือเป็นเพราะเขาเองที่สะเพร่ามากเกินไปเขาไม่เคยสังเกตเลยว่าทุกปีในวันเกิดของเขา เธอคือคนแรกที่อวยพรให้เสมอหัวใจของเขาเจ็

  • จดหมายฉบับสุดท้าย   บทที่ 21

    กู้เวินเหยียนขังฟางจินเซี่ยเอาไว้ในวิลลาหลังนี้ยึดโทรศัพท์ของเธอไป เอาของทุกอย่างของเธอไปหมด และไม่เหลืออาหารอะไรไว้ในห้องเลยสักอย่างไม่สนเสียงร้องตะโกนของเธอ แล้วล็อกประตูแน่นหนาจากนั้นเขาก็หมุนตัวเดินจากไปโทรศัพท์ของเขาเกือบจะโดนผู้ช่วยโทรเข้ามาจนระเบิดแล้วพอเขารับสาย ผู้ช่วยก็โล่งอกขึ้นมาทันที“ประธานกู้ ในที่สุดคุณก็รับสายแล้วครับ มีเรื่องใหญ่ต้องให้คุณรีบกลับมาจัดการด่วนครับ!”กู้เวินเหยียนไม่ตอบอะไร สีหน้าก็ไร้อารมณ์ ขณะออกคำสั่งไปยังปลายสาย“ไปซื้อเหล้ามาสักสองสามลัง ส่งไปที่บ้านฉัน”พูดจบเขาก็ตัดสายทันที แล้วไม่สนใจโทรศัพท์อีกเลยหน้าต่างห้องถูกเขาปิดตายสนิท ม่านก็ปิดแน่นจนแสงลอดไม่ได้ เขากอดหมอนที่เสิ่นเจียรุ่ยเคยใช้ แล้วสูดดมกลิ่นที่ยังติดอยู่บนหมอนนั้นอย่างละโมบแต่ไม่นานเขาก็พบว่า แม้แต่กลิ่นเฉพาะตัวของเสิ่นเจียรุ่ย ก็ยังค่อย ๆ จางหายไปทีละน้อยเขาทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว อารมณ์ที่กดไว้เนิ่นนานถาโถมใส่เขาเหมือนคลื่นมหึมาจนพังทลายหมดสิ้นเขาตะโกนเรียกชื่อเสิ่นเจียรุ่ยด้วยความเจ็บปวดจนใจแทบขาด ไม่เคยมีสักครั้งที่เขาปรารถนาให้เวลาย้อนกลับไปได้มากเท่าตอนนี้…ตอนท

  • จดหมายฉบับสุดท้าย   บทที่ 20

    เขาคุกเข่าทรุดกึ่งนั่งยอง ร่างทั้งร่างชาไร้ความรู้สึก ราวกับเป็นเพียงเปลือกกายที่ไร้วิญญาณเขาหยิบเงินกงเต็กออกมาอย่างระมัดระวัง แล้วโยนลงไปในกะทะไฟเขาอยากรู้ว่าฝังศพเสิ่นเจียรุ่ยไว้ที่ไหนเขาคิดถึงเธอมากเหลือเกิน จนทั้งคืนทั้งคืนก็แทบไม่ได้นอนเลยเขาไปถามผู้ช่วยของเขาแต่เขากลับบอกเขาว่า ข่าวการเสียชีวิตของเสิ่นเจียรุ่ย เป็นสิ่งที่เขาได้รับมาจากจดหมายปริศนาฉบับหนึ่งในจดหมายนั้นมีรูปถ่ายใบยกเลิกบัตรประชาชนของเสิ่นเจียรุ่ย รวมทั้งประวัติการรักษาของเธอ นอกจากรูปหลุมศพที่มีเพียงชื่อปรากฏอยู่แล้ว ก็ไม่เหลือข้อมูลอื่นใดอีกเลยเขาเองก็ไม่รู้ว่าเสิ่นเจียรุ่ยถูกฝังไว้ที่ไหนกู้เวินเหยียนเมื่อได้ยินก็ราวกับถูกสายฟ้าฟาดใส่แต่พอผ่านไปไม่นาน เขาก็นึกถึงผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาอีก จี้ถันอิ่ง ผู้ที่เอาแต่แก้แค้นเขาอย่างบ้าคลั่งเธอเป็นเพื่อนของเสิ่นเจียรุ่ย แน่นอนว่าเธอต้องรู้ว่าเสิ่นเจียรุ่ยถูกฝังไว้ที่ไหนไม่แน่ว่าเสิ่นเจียรุ่ยอาจเป็นคนที่เธอเป็นคนฝังด้วยตัวเองก็ได้เขารีบพุ่งตรงไปที่บ้านของจี้ถันอิ่งโดยไม่คิดแม้แต่นิดเดียวแต่พอไปถึงกลับพบว่าเธอย้ายออกไปแล้วเบอร์โทรศัพท์ของจี้ถันอิ่ง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status