เข้าสู่ระบบแต่งงานมา 3 ปี ผมคิดว่าตัวเองมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ภรรยาอ่อนโยนเอาใจใส่ ลูกชายเฉลียวฉลาดน่ารัก วันหนึ่งอุตส่าห์ได้เลิกงานเร็วเพราะเสร็จงานก่อนกำหนด ตอนที่กลับมาถึง ภรรยากำลังนอนหลับอยู่ข้างเตียงเด็กด้วยความอ่อนล้า ขณะที่ผมเดินไปเตรียมจะอุ้มภรรยาไปที่ห้องนอน ทันใดนั้นหน้าจอโทรศัพท์ของภรรยาก็สว่างขึ้น "ชิงชิง ลูกชายของเรานอนแล้วหรือยัง"
ดูเพิ่มเติม1 ปีต่อมาบริษัทของผมกับหวังเทาไปได้ค่อนข้างสวยเลยทีเดียวโปรเจ็คที่เล็งไว้ในตอนนั้นไม่ทำให้พวกเราผิดหวังอย่างที่คิดไส้ ในเวลาสั้นๆ ค่าตัวของพวกเรากำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตอนที่เข้าร่วมงานเลี้ยง ผมจะทักทายเหยียนอวี่หรานจากมุมไกลๆตอนนี้เธอได้กลับคืนสู่คนในรูปภาพแล้ว ดวงตาเป็นประกายสุกใส รูปร่างสูงโปร่งผอมเพรียวเธอสวมรองเท้าส้นสูง ชุดพิธีการ เคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่วท่ามกลางผู้คนเธอกลับไปที่เหยียนกรุ๊ป และรับหน้าที่ดูแลบริษัทของที่บ้านด้วยตนเองท่ามกลางผู้คนที่คั่นกลาง เธอมองผม ชั่วขณะที่เรายิ้มให้กัน เธอยกแก้วไวน์ในมือขึ้น ดื่มให้กับวันพรุ่งนี้ที่สวยงามของเราต่อมาด้วยค่าตัวของผมที่พุ่งสูงขึ้น เพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยก็ได้ส่งเทียบเชิญงานพบปะมาหาผมบ่อยๆครั้งหนึ่งผมไม่สามารถเลี่ยงได้ จึงต้องไปร่วมอย่างช่วยไม่ได้ตอนที่เข้าไปในห้อง ทันใดนั้นทุกคนก็พากันเงียบ ผมเห็นเสิ่นชิงที่มาโดยไม่ได้รับเชิญได้ยินมาว่าหลังจาดเฉินจื้อฉีออกจากคุก ก็ถูกตระกูลเหยียนขัดรั้งจนหางานไม่ได้จึงได้แต่พึ่งพาเสิ่นชิง เสิ่นชิงจึงต้องออกไปทำงานหาเลี้ยงเขาและลูกต่อให้เป็นแบบนั้น เขาก็ยังทั้งด่าว่าและทุบตี
ตอนที่เสิ่นชิงมาถึงสำนักงานเขต สภาพเธอทุลักทุเลมาก เมื่อเห็นผมปรากฏตัว ก็เค้นเสียงถาม "จ้าวเซิง คุณใช่ไหม คุณรู้แต่แรกแล้วสินะ" "รู้อะไรเหรอ" รักมา 8 ปีเต็ม ทว่า ณ ตอนนี้ที่เผชิญหน้ากับเสิ่นชิง ผมกลับใจเย็นอย่างน่าประหลาด เมื่อไม่มีรักแล้วก็ไม่แค้นแล้ว เมื่อก่อนก็ถือเสียว่าผมอ่านคนไม่ออก จากนี้ไม่ว่าจะมีผลลัพธ์ยังไง ก็เป็นสิ่งที่เสิ่นชิงทำตัวเองทั้งนั้น แต่พอคิดถึงเรื่องที่เหยียนอวี่หรานพูดกับผมเมื่อหลายวันก่อนว่าเธอมีหลักฐานที่เฉินจื้อฉียักยอกทรัพย์ หลังจากนี้เกรงว่าเฉินจื้อคงจะถูกเธอส่งเข้าคุก เงินที่เขาเคยให้เสิ่นชิง เธอจะเรียกคืนให้หมด พอไม่มีผม ไม่มีเฉินจื้อฉี จากนี้เสิ่นชิงต้องเลี้ยงลูกคนเดียว คงลำบากไม่น้อย เสิ่นชิงดูเหมือนจะคิดได้ว่าวันหลังตัวเองจะมีชีวิตอย่างไรต่อไป ตอนนี้เมื่อเห็นว่าผมเผชิญหน้ากับเธอด้วยความใจเย็นขนาดนี้ รู้ว่าผมปล่อยวางจากเธอแล้วจริงๆ ทันใดนั้นก็รู้สึกเสียใจภายหลัง "พี่เซิง ไม่หย่าได้ไหมคะ เมื่อก่อนฉันทำผิดกับคุณ ให้โอกาสฉันได้ชดใช้สักครั้งได้ไหมคะ" "ยังมีคังคัง เขา ถึงแม้ว่าเขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของคุณ แต่เขาก็เห็นคุณเ
โดนพักงานผมไม่ได้สนใจนัก ความจริงแล้วโปรเจ็คที่ผมพูดกับเสิ่นชิงเป็นเรื่องจริงเพื่อนสมัยม.ปลายคนนั้นกับผมมากจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เดียวกันพวกเราสนิทกันมาก โปรเจ็คนี้พวกเราก็ศึกษากันมานานมากหากไม่ได้เป็นเพราะได้เลื่อนตำแหน่งอย่างกะทันหัน ผมก็มีความคิดที่จะลาออกแล้วด้วยแต่หากถูกไล่ออก ผมจะจากไปด้วยชื่อเสียงแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาดในเมื่อแม่เสิ่นอาละวาดมาถึงบริษัทของผมได้ ก็หมายความว่าเธอไม่รู้ว่าลูกสาวแสนดีของเธอมีเงินเก็บอยู่เท่าไรแบบนี้ได้ยังกันวันนั้นผมจึงใช้ชื่อนิรนามถ่ายภาพหน้าจอหน้ายอดคงเหลือในธนาคารของเสิ่นชิงส่งไปให้เสิ่นเว่ยพร้อมทั้งระบุเวลาโอนเงินทุกรอบไว้ให้อย่างเอาใจใส่ด้วยด้านตระกูลเสิ่นทะเลาะกันยังไงบ้างผมไม่รู้ แต่เสิ่นชิงก็ไม่มีเวลามาหาผมแล้วเช่นกันเพราะเหยียนอวี่หรายบอกผมว่าเธอเตรียมออกมือแล้วส่วนผม ไหนๆ ก็อุตส่าห์มีเวลาว่างทั้งทีผมจึงนำเงินที่ขายบ้านได้ไปเลือกหมู่บ้านที่สภาพแวดล้อมใช้ได้ หลังวางเงินดาว์นก้อนแรกแล้ว ก็หาบริษัทตกแต่งภายในมาออกแบบตามสไตล์ที่ผมชอบและจ่ายเงินจ้างโค้ชส่วนตัวอีกคนหนึ่ง เพราะที่ผ่านมาเลี่ยงงานเลี้ยงเข้าสังคมไม่ได้ ท
หลังจากที่แลกเปลี่ยนวิธีติดต่อกับเหยียนอวี่หรานแล้ว ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากนายหน้ามีคนอยากซื้อบ้านหลังจากที่กลับไปอย่างเร่งรีบ และตกลงเรื่องราคากับคนซื้อได้แล้วผมก็ส่งข้อความหาเสิ่นชิง บอกให้เธอรีบเก็บข้าวของออกโดยเร็วในที่สุดคราวนี้เสิ่นชิงนิ่งเฉยไม่ได้อีกต่อไป สายหนึ่งโทรเข้ามา"จ้าวเซิง คุณหมายความว่ายังไง ขายย้านทำไมไม่ปรึกษาฉัน คุณให้ฉันกับลูกไปอยู่ที่ไหน""ไปอยู่กับแม่คุณก่อนสักพักก็แล้วกัน ผมเห็นคุณก็ชอบพาลูกกลับไปนี่""คุณ คุณเป็นบ้าไปแล้วใช่ไหมจ้าวเซิง วันหลังลูกไปโรงเรียนจะทำยังไง"มีอยู่ประโยคหนึ่งที่เสิ่นชิงพูดถูก บ้านโทรมๆ หลังนี้อยู่ติดกับโซนการศึกษาที่ดีมากแห่งหนึ่งตำแหน่งนับว่าเคยอยู่ใกล้กับใจกลางเมือง เพียงแต่ตอนนี้เมืองกำลังพัฒนาไปฝั่งตะวันออกตอนนั้นเพราะผมเล็งเห็นแนวโน้มของการพัฒนาแล้ว ถึงได้คิดจะซื้อบ้านใหม่ทางฝั่งตะวันออกที่อยู่ใกล้กับบริษัทซึ่งปัจจุบันราคาบ้านโซนนั้นสูงขึ้นหลายเท่าตัว"จ้าวเซิง ถ้าวันหลังลูกไม่ยอมรับคุณ คุณอย่ามาโทษฉันแล้วกัน"เสิ่นชิงวางสายด้วยความโมโหเมื่อก่อนงานยุ่งมาก ผมก็กลัวว่าลูกยิ่งโตจะยิ่งห่างเหินกับผมจริงๆแต่ว่าตอนน





