กลิ่นหอมโคโลญจน์อันหอมเย็นที่คละคลุ้งบนร่างอันกำยำของรามกำลังจอดรถมอเตอร์ไซซ์สีดำรุ่นซีบีอาร์คู่ใจที่ซื้อด้วยเงินประกันงานศพก้อนสุดท้ายของพ่อ ได้ขี่มาจอดที่ลานจอดรถหน้าร้านนวดชื่อดังแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Georking Massage ร้านนวดที่มีนิยามในการรับสมัครพนักงานที่จำเป็นต้องมีความหน้าตาดีหรือมีรูปร่างที่น่าดึงดูดเพื่อเป็นจุดขายเรียกลูกค้าให้เข้าร้านเป็นประจำ ซึ่งวันนี้เป็นวันทำงานวันแรกเขาจึงรีบมาก่อนเวลาประมาณเกือบยี่สิบนาที เพื่อสร้างความประทับใจให้กับเจ้าของร้านที่ใจดีรับตนเข้าทำงาน เพียงเพราะวันแรกที่เจ๊เฟียสเจอกับรามที่ร้านหมูกระทะ รามที่เป็นพนักงานยกเตาได้โชว์ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมัดแขนผิวแทนที่เปอะเปื้อนเขม่าถ่านมันสร้างความจับจ้องของสายตาให้กับเจ้าของร้านนวดที่ไปกินหมูกระทะได้เป็นอย่างดี ไหนจะหน้าตาทรงไทยคมเข้ม หน้าตาหล่อขนาดนี้มันดีเกินกว่าจะเป็นเพียงพนักงานยกเตาที่ร้านหมูกระทะเจ๊เฟียสจึงได้หาโอกาสเพื่อพูดคุยพร้อมทั้งเสนอรายได้ที่มันได้มากกว่างานประจำที่เขาทำที่ใช้วุฒิมอสาม ที่หาเงินได้แค่จำนวนหมื่นสองต้น ๆ ต่อเดือน แต่งานนวดนี้หากบริการดีจนลูกค้าติดใจมันจะทำให้เขาได้รับแน่ ๆ เดือนละสามหมื่นบวกบวก จนนั่นได้เกิดการจุดประกายที่ทำให้รามสนใจสมัครและลาออกจากงานเก่าที่รายได้กับค่าใช้จ่ายมันเดือนชนเดือนไม่พอที่จะมีเงินเก็บและเลี้ยงชีพ เพื่อเข้ามาเริ่มทำงานในวันถัดมาหลังจากรับเงินเดือนเลยทันที
รามเดินเข้าหน้าร้านที่ตกแต่งไปด้วยสถาปัตยกรรมรูปทรงเหลี่ยม สีเงินเงาโบกฉาบไปด้วยอิฐเงาสีดำ สร้างความน่าค้นหา มีคุณค่าในตัว ดูโก้หรู อย่างสง่างาม ประดับตกแต่งไปด้วยแสงไฟส้มเหลืองสลัว ๆ สร้างบรรยากาศ พร้อมเปิดเพลงแนวผ่อนคลายด้วยเสียงน้ำไหลหยด ปะปนไปด้วยเสียงดนตรีที่เสียงทุ้มละมุนชวนให้ผ่อนคลาย ก่อนเขาจะเดินมาถึงในร้านที่เจ๊เฟียสกำลังเดินถือแก้วกาแฟมายังเคาน์เตอร์จุดรับลูกค้าด้วยท่าทีที่เอื่อยเฉื่อย เหมือนคนพึ่งสร่างเมาแต่ต้องเตรียมร้านตามสไตล์ของเจ๊เจ้าของร้าน “สวัสดีครับ” รามที่เห็นเจ๊เฟียสก็รีบกล่าวทักทายเจ้านายใหม่ที่ให้โอกาสตนในทันที เจ๊เฟียสหันมามองด้วยท่าทางที่ยิ้มแย้ม ก่อนจะเดินเข้ามาหาราม “อ้าว สวัสดีจ๊ะราม แหม่มาเร็วจังนะ นั่งรอเจ๊แป๊บนึง เดี๋ยวเจ๊ไปเอาของก่อน ๆ” เจ๊เฟียสพูดจบก็รีบเดินออกจากเคาน์เตอร์ไปหยิบของ รามกวาดตามองไปทั่วร้าน รูปวาด และแสงสีมันช่างดูน่าแปลกตาแปลกใจกับตัวเขาเป็นอย่างมาก เพราะตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยเข้าร้านนวดมาก่อนในชีวิต มันทำให้เขาเริ่มเกิดอาการประหม่าเล็กน้อย ก่อนจะหยิบเอกสารที่ใช้สมัครงานออกมาเพื่อหาอะไรทำและกำจัดความรู้สึกนี้ออกไป ในระหว่างที่รามกำลังจัดการเอกสารของตนก็มีพนักงานนวดคนหนึ่งชื่อว่าตั้ม ชายหนุ่มร่างบางลีน หน้าไทยสะอาดสะอ้าน อายุยี่สิบแปดปีเดินเข้ามาและมองไปที่รามอย่างสงสัย ก่อนเจ๊เฟียสจะเดินกลับมาพร้อมใบสมัครงานและเอกสารสำคัญต่าง ๆ ที่รามต้องกรอก “สวัสดีครับเจ๊” ตั้มกล่าวสวัสดีเจ๊ก่อนเจ๊จะหันมายิ้มทักทายและเดินเข้าไปยังห้องสำหรับพนักงานเพื่อเก็บของ ทันทีที่เข้าไปเขาก็เจอกับมอริส หนุ่มลูกครึ่งฝรั่งเศส ผมสีบลอนด์ทองที่กำลังนั่งกินข้าวเหนียวหมูปิ้งที่โต๊ะพร้อมกดโทรศัพท์ไปพลาง ๆ ในขณะที่นะกำลังล้างจานที่ตนพึ่งกินไป ตั้มเปิดประตูออกไปมอริสรีบกล่าวสวัสดี ในขณะที่นะไม่ได้สนใจอะไรและเปิดก๊อกล้างจานต่อไป “ดีพี่” “ดีมึง เออมอริสมีเด็กใหม่มาหรอวะ” ตั้มพูดถามในขณะที่กำลังเอาของไปเก็บ “จริงดิพี่ ใครอะ ผมไม่เห็นเลย” มอริสกล่าวตอบด้วยใบหน้าที่สงสัยในขณะที่ตนกำลังเคี้ยวหมูปิ้งไปด้วย “นั่งอยู่ข้างหน้ากะเจ๊อะ ไว้มึงกินเสร็จเดี๋ยวค่อยไปทักทายกัน” ตั้มตอบพร้อมเดินไปหยิบแก้วและเตรียมตักกาแฟดำเพื่อชงดื่มในตอนเช้า “เคพี่” มอริสตอบพร้อมเหลือบมอง จากนั้นไม่นานทีมหนุ่มหน้ามนผิวขาวละมุนได้เดินเข้ามา พร้อมกับดอนหมอนวดเด็กน้อย หน้าตาจิ้มลิ้มทรงเกาหลีที่มีอายุเพียงแค่ยี่สิบเอ็ดปี ที่เดินตามกันเข้ามา ก่อนทั้งห้าคนจะเกิดการทักทายกันและเอาของไปเก็บ “พี่ตั้มพนักงานใหม่หรอที่กำลังเซ็นสัญญาจ้างกับเจ๊อะ” ดอมถามด้วยท่าทีที่อยากรู้ “ไม่รู้หวะ น่าจะใช่มั้ง” ตั้มตอบพร้อมซดกาแฟดำ “หน่วยก้านดีใช้ได้เลยวะพี่ ผมว่าใช่ชัวร์” ทีมรีบกล่าวชงสร้างความน่าตื่นเต้นให้กับทุกคนได้เป็นอย่างมาก ต่างกับนะที่นิ่งเงียบแลดูไม่ตื่นเต้นอะไรกับใคร ทันใดนั้นเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นคนที่เดินเข้ามาสร้างความน่าเคารพนับถือจนทุกคนต้องหันไปสวัสดีอย่างพร้อมเพรียงกันซึ่งคนคนนั้นก็คือตุลย์ “สวัสดีครับพี่ตุลย์” “เออ ๆ สวัสดี ๆ” ตุลย์เดินเข้ามาด้วยท่าทีที่เฉยชา ก่อนนะจะเดินเข้าไปหาตุลย์และหยิบข้าวกล่องที่ตนซื้อมาและนำไปให้ตุลย์ “พี่ตุลย์ผมซื้อข้าวมันไก่ไม่มีหนังมาฝาก ร้านนี้อร่อยมาก” นะกล่าวพูดด้วยท่าทีที่ยิ้มแย้ม ในขณะที่ตั้มและทีมหันมองอย่างไม่ค่อยญาติดี “ขอบคุณมากมึง กำลังหิวพอดี” ตุลย์กล่าวขอบใจนะพร้อมเดินไปล้างมือ “พี่ตุลย์พี่ เห็นเด็กใหม่ยัง” ดอมถามตุลย์ด้วยใบหน้าที่สงสัย “เห็นละ” ตุลย์ตอบด้วยท่าทีที่นิ่ง ๆ “พี่ว่าไง” ดอมถามต่อ “ก็ดี นาน ๆ ทีร้านจะมีเด็กใหม่” ตุลย์ตอบพร้อมเดินไปเปิดประตูเพื่อเตรียมออกไปเปลี่ยนชุดประจำร้านในห้องน้ำพนักงาน “เมื่อวานได้ลูกค้ากี่คนละพี่ตั้ม” ทีมพูดจุดประเด็นชวนสร้างบรรยากาศอึมครึมอะไรบางอย่างขึ้น “สามคนหวะ นวดจนปวดนิ้ว” ตั้มพูดไปพลางกระดกกาแฟอึกสุดท้าย “สุดยอดไปเลยพี่ เออและเมื่อวานเคสที่พี่ตุลย์ปล่อยต่อใครรับไปอะพี่” ทีมถามด้วยความสงสัย “ไอจอไง โชคดีของมันจริง ๆ” ตั้มกล่าวพูดตอบด้วยนำเสียงขยี้ ๆ เหมือนกำลังเยาะเย้ยใครบางคน “และวันนี้พี่จอไปไหนอะพี่” ดอมถามด้วยความสงสัยก่อนจะหันไปถามนะอีกรอบเพื่อให้แน่ใจในความอยากรู้ของตน “พี่นะพี่ พี่จอไม่มาทำงานหรอครับ” “วันนี้มันลาไปเที่ยวมั่ง” นะกล่าวตอบในระหว่างที่กำลังจะเดินออกจากห้องไป “ดีจังได้ลูกค้าเคสปล่อยจากพี่ตุลย์ น่าจะได้ทิปเยอะชัวร์” ดอมพูดเชิงเสียดายให้ตั้มฟังก่อนตั้มจะเกิดการพูดกัดนะอย่างลอย ๆ ว่า “กูก็ว่างั้นแหละพวกเราน่าจะรีบ ๆ ตีสนิท นี่ขนาดมีคนตีสนิทด้วยการซื้อของมาให้บ่อย ๆ ยังไม่ได้เคสต่อจากพี่ตุลย์สักคนน่าสงสารหวะ ฮ่า ๆ” นะที่ยังเดินออกจากห้องไปได้ไม่ไกลหูเจ้ากรรมดันไปได้ยินเสียงนั้นเข้า ก่อนเขาจะกำมือข้างขวาอย่างแน่นตึง และก้มหน้าลงพร้อมสูดลมหายใจเข้าและผ่อนลงก่อนจะเดินเข้าห้องเปลี่ยนชุดไปเพื่อเตรียมไปทำงานนวดเดือนที่ห้าของตนอย่างอดทนที่แฝงไปด้วยความคิดภายในใจที่มันขัดกับการกระทำของเขาในตอนนี้เป็นอย่างมาก ด้วยสิ่งที่เขาหวังว่าสักวันการวิ่งเข้าไปซัดหน้ามันสักฉาดคงจะเกิดขึ้นในไม่นาน แต่ด้วยเหตุผลที่เขาต้องอดทนนั้นเป็นเพราะตั้งแต่เข้ามาเขาได้รับลูกค้าต่อวันแค่วันละคน มากสุดคือสองคน ในขณะที่หมอนวดคนอื่นได้ลูกค้ากันวันละสามถึงสี่คน ซึ่งมันไม่พอต่อการใช้ชีวิตของเขาเนื่องจากนะเป็นคนติดพนันและต้องการใช้เงินที่ทำงานได้มาไปเล่นเพื่อเอาเงินที่ตนเสียไปนั้นคืนมา ตนจึงพยายามหาลูกค้าให้ได้เยอะ ๆ แต่มันยากเหลือเกิน เขาจึงเลือกที่จะตีสนิทกับตุลย์เพื่อให้เหมือนที่จอได้รับลูกค้าเคสหลุดจากตุลย์บ้าง นั่นเป็นเพราะลูกค้าของตุลย์ที่เป็นเคสหลุดส่วนใหญ่จะให้ค่าทิปที่สูง ซึ่งมันจะดีต่อนะที่ต้องการเงินเพื่อไปเล่นพนัน อีกทั้งลูกค้าของนะส่วนใหญ่คือคนที่ไม่มีกำลังจ่ายเพิ่มและตนก็อยู่ในเกรดของหมอนวดที่เป็นอันดับท้าย ๆ มันจึงเป็นเรื่องยากที่ตนจะได้ลูกค้าตัวท็อป ๆ บ้าง บ่อยครั้งที่เขารู้สึกโมโหและเบื่อหน่ายตัวเองแต่ทำไงได้การเล่นพนันมันกลายเป็นนิสัยติดตัวเขาไปซะแล้ว…เช้าวันรุ่งขึ้นช่วงเวลายังไม่รุ่งสาง รามที่นอนอยู่บนเตียงเขาเริ่มมีอาการเหงื่อแตกไหลพรากในขณะที่ทั้งห้องเต็มไปด้วยอากาศที่เย็นสบาย ก่อนใบหน้าอันคมเข้มจะขมวดคิ้วเป็นปมและขยับไปมา“ผม.. ผมขอโทษครับคุณวิสุทธิ์ ต่อไปผมจะไม่ทำอีกแล้วให้โอกาสผมนะครับ ผม ผม.. ผมแค่…”ตุลย์ที่นอนอยู่อย่างหลับสนิท แต่เสียงละเมอของรามได้ทำให้เขาได้ลืมตาตื่นขึ้นอย่างงัวเงียเขาเริ่มเห็นรามกำลังละเมอพูดพร้อมกระสับกระส่ายใบหน้าไปมา ก่อนเขาจะรีบลุกขึ้นและเดินเข้าไปจับที่แขนของราม ทันทีที่มือเรียวสวยจับลงไปมันทำให้เขาสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิความร้อนที่อยู่ภายในร่างกายของรามได้อย่างน่าตกใจ จนทำให้ฝ่ามือเรียวนั้นกระตุกออกพร้อมพูดอุทานออกมาว่า“เห้ยตัวร้อนมาก ราม! ราม!! ราม!!!” ตุลย์เรียกรามอยู่หลายครั้ง ก่อนเขาจะใช้ฝ่ามือของตนจับไปที่ใบหน้าของรามเพื่อสัมผัสถึงความร้อนนั้นอีกครั้ง ก่อนอาการละเมอไข้นั้นจะสงบลงจึงทำให้ตุลย์พูดออกมาว่า“คงรักเขามากสินะ พี่คงเป็นแค่ตัวสำรองใช่มั้ย เรานี่มันปากไม่ตรงกับใจจริง ๆ”พูดจบตุลย์ได้นำมือไปจับที่ใบหน้าข้างขวาของรามอย่างทะนุถนอม ก่อนจะหันมองปุ่มแล้วกดเรียกพยาบาลฉุกเฉินให้รีบเข้ามาดูแลเพิ
ในช่วงเวลาสองทุ่มก่อนจะหมดเวลาเข้าเยี่ยมคนไข้เสียงเคาะประตูได้ดังขึ้น ก่อนพยาบาลที่เฝ้าเวรของรามจะเดินไปเปิดประตูให้ ก่อนร่างสูงลีนขาวหน้าหนวดผมเซอร์ของตุลย์จะเดินเข้ามาพร้อมชุดเซตรังนกจากเยาวราชที่ตุลย์และรามมักชอบกินเมื่อเขาทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันมักจะชวนกันไปร้านนี้เสมอเมื่อมีโอกาส ก่อนเขาจะเดินเข้ามาหารามพร้อมถามว่า“เป็นยังไงบ้างดีขึ้นมั้ย พี่ซื้อรังนกร้านประจำเรามาฝากด้วย”ตุลย์พูดพร้อมชูถุงรังนกขึ้นก่อนจะมีพยาบาลที่เฝ้าไข้จะเดินเข้ามารับถุงรังนกไป“มีปวดหัวนิดหน่อยครับ และไข้ก็ยังไม่กลับมาปกติพยาบาลให้นอนดูอาการอีกสองคืนนะครับพี่”รามพูดพร้อมลุกขึ้น ก่อนตุลย์จะนำมือไปอังที่หน้าผากของรามอย่างเบามือ“ยังตัวร้อนอยู่เลย งั้นเดี๋ยวกินรังนกที่พี่ซื้อมามั้ย ร้อน ๆ เลยเผื่อร่างกายจะดีขึ้น”“ได้ครับ” ตุลย์มองหันหลังไปก่อนพยาบาลที่เฝ้าไข้จะกล่าวถามออกมาว่า“ใส่ถ้วยทานเลยใช่มั้ยคะ”“ใช่ครับ” ตุลย์กล่าวพูด ก่อนพยาบาลจะพูดต่อออกมาอีกว่า“อันนี้เป็นญาติคนไข้ใช่มั้ยคะ ถ้าไม่ใช่จะอยู่เยี่ยมได้อีกสิบนาทีนะคะ”“อ่อผมเป็นแฟนเขาครับ และก็คืนนี้ผมจะนอนเฝ้าไข้เขาที่นี่คืนนี้รบกวนคุณพยาบาลพักผ่อนได้นะค
สายตาที่ผ้ามัวเริ่มลืมตาขึ้นอย่างเลือนรางร่างแทนมัดกล้ามสีสวยตื่นขึ้นมาในห้องของโรงพยาบาลเอกชนสุดหรูหรา รามกวาดสายตาไปทั่วห้องจากขวาไปซ้ายก่อนจะหันไปเห็นวิสุทธิ์นอนหลับตรงโซฟาด้วยความเหนื่อยล้าในท่านั่งหลับอย่างมีมาดผู้ดีในช่วงเวลาหนึ่งทุ่มของวัน ก่อนรามจะหันมองหลังมือที่ระโยงระยางไปด้วยเข็มน้ำเกลือที่แทงเข้าไปในหลังมือสีแทน ก่อนเขาจะทำหน้าตกใจไปสักพักและขยับตัวจนเสียงเตียงดังเอี๊ยดแอ๊ด จนนั่นทำให้วิสุทธิ์สัมผัสได้ถึงเสียงดังที่มันได้ปลุกให้เขาค่อย ๆ พงกตัวขึ้นมองอย่างสะลึมสะลือ ก่อนจะมองมาที่รามด้วยสีหน้าที่ดูเหนื่อยช้ำแต่ยังหล่ออยู่ ก่อนเขาจะพูดขึ้นมาและลุกขึ้นจากโซฟาพร้อมเดินเข้ามาหารามด้วยท่าทีที่เป็นห่วงเป็นใยว่า“ตื่นแล้วหรอครับคุณรามเป็นยังไงบ้างครับ ปวดหัวมั้ย”วิสุทธิ์พูดด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง พร้อมเดินเข้ามาจับที่แขนของราม“เกิดอะไรขึ้นครับ ทำไมผมมาอยู่ที่โรงพยาบาลได้หละ”รามลุกขึ้นด้วยการพยุงจากวิสุทธิ์ โดยที่ไม่ได้ตอบคำถามของวิสุทธิ์แม้แต่น้อย เขาแลดูมึนงงอาจเพราะการฉีดวัคซีนและยาที่หมอได้ฉีดให้เพื่อระงับอาการตัวร้อนของเขาให้เบาลง“คุณหมดสติไปนะครับหลังจากที่เราทะเลาะกัน ร่
ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งช่วงเช้าของวันที่รามเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดสิบเก้าเสร็จเรียบร้อยแล้วเขากำลังขับรถเดินทางไปหาวิสุทธิ์แฟนของตนที่คอนโดหรูของเขาเพื่อที่จะพักผ่อนหย่อนใจหลังจากที่เขาไม่ได้เจอกันมานานกว่าสามวัน ซึ่งช่วงระหว่างนั้นความรักของเขาทั้งคู่ยังดูมีความปกติดีอยู่อีกทั้งในวันนี้ตรงกับวันครบรอบของเขาทั้งสองที่จำเป็นจะต้องมีการเลี้ยงฉลองกันเกิดขึ้น ซึ่งรามได้เลือกของขวัญวันครบรอบให้กับวิสุทธิ์เป็นที่เรียบร้อยซึ่งของชิ้นนั้นอยู่ในกระเป๋าเป้ด้านหลังของเขาที่กำลังขี่รถคู่ใจมายังคอนโดของวิสุทธิ์ในช่วงบ่ายของวันนี้ณ คอนโดของวิสุทธิ์บริเวณสระว่ายน้ำส่วนตัววิสุทธิ์กำลังว่ายน้ำตีกรรเชียงสุดแหลมเท่จนเสียงน้ำดัง ฉับ ๆ !!ก่อนเขาจะว่ายจบไปยังขอบสระ และผุดตัวขึ้นมาจากน้ำด้วยแสงขาวสะท้อนหยดน้ำอย่างชุ่มฉ่ำ ก่อนเสียงลมหายใจที่เหนื่อยหอบจะสูดเข้าออกเพื่อรับอากาศให้เข้าไปเติมเต็มจนหน้าอกขยายใหญ่ขึ้น มัดกล้ามมัดลีนสวยพองออกก่อนจะยุบลงจนเป็นที่จับตามองของหนุ่มบัสเลอร์ผู้คอยดูแล30 นาทีผ่านไปรามเดินทางมาถึงคอนโดของวิสุทธิ์เขาใช้คีย์การ์ดที่วิสุทธิ์ทำให้เปิดเข้ามาในขณะที่ในห้องนั้นมีเพียงแม่บ้านกำ
ภายในบ้านคฤหาสน์หรูที่เป็นของครอบครัว “ฤกษ์ทวี” ครอบครัวของวิสุทธิ์และกานต์ พี่สาวน้องชายที่ตอนนี้พี่สาวอยู่บ้านหลังนี้กับสามีของตน โดยที่วิสุทธิ์ไม่กินเส้นกับพี่เขยของตัวเองจนเขาต้องเลือกที่จะย้ายออกไปอยู่คอนโดหรูใจกลางเมืองปัจจุบัน หลังจากเขากับกานต์แบ่งมรดกกันแล้วเรียบร้อยบรรยากาศในห้องนอนของกานต์เต็มไปด้วยความอึมครึมกลิ่นเทียนหอมคละคลุ้งไปทั่วห้อง มันเป็นเทียนหอมที่แดนเป็นคนนำมาจากต่างจังหวัดและใช้ในการสร้างบรรยากาศภายในห้องของทั้งคู่ทุกครั้งที่กานต์กลับมาจากทำงานเขาจะจุดมันไว้ในห้องทุกครั้ง มันช่วยให้กานต์หายเครียดสงบและหลงรักคิดถึงตนทุกครั้งที่ได้กลิ่นเทียนนี้ จนทำให้กานต์กำลังจะเคลิ้มตานอนหลับลงบนหมอนขนเป็ดราคาแพง ก่อนที่แดนจะเดินเข้ามาในห้องพร้อมชุดนอนในเวลากลางคืน จนทำให้เธอสะลึมสะลือขึ้นและพูดคุยกับสามีของตัวเอง“คุณคะไปไหนมา มานอนได้แล้วค่ะ”“จ้า ๆ”แดนตอบกลับด้วยสีหน้าที่เย็นชา พร้อมทั้งเดินขึ้นมาที่เตียงและโอบกอดไปที่ตัวของกานต์ กานต์ที่สัมผัสได้ถึงความใกล้ชิดของสามีเธอจึงได้หันหน้าไปแล้วทำท่าเหมือนอยากมีอะไรกับสามีของตน แดนเมื่อสัมผัสได้ถึงความต้องการของผู้เป็นภรรยาเขาก
ณ ริมถนนยามค่ำคืน จอกำลังยืนริมถนนที่มืดสนิทมีเพียงเแสงไฟส่องในพื้นที่อย่างสลัว ๆ ใต้ต้นมะขามย่านดังใจกลางเมือง เขาออกมารับงานพิเศษเนื่องจากความเหงา ความเบื่อ ที่มันเกาะกินใจเขาให้ออกมาทำเรื่องที่เขาเคยทำก่อนจะมาอยู่ร้านนวด Georking Massage เขายืนมองหันไปมาอย่าง เหงา ๆ ได้ไม่ทันไรก็มีรถหรูสีดำเข้มสะท้อนเงาขับมาหาเขาอย่างใกล้ ๆ ก่อนจะชะลอความเร็วอย่างช้า ๆ พร้อมทั้งเปิดกระจกรถลงและพูดถามไถ่ราคาออกไป“เท่าไรครับ”ชายหนุ่มหน้าหนวดมาดร้ายลุคดูเป็นนักธุรกิจกล่าวถามจอด้วยสีหน้าที่มีกามอารมณ์ค่อนข้างสูง“หนึ่งพันครับ”จอกล่าวพูดด้วยท่าทีที่เกร็ง ๆ และไม่ค่อยมั่นใจ“ขึ้นมาครับ” ชายหนุ่มมาดร้ายกล่าวตอบอย่างไม่คิดอะไร ไม่แม้แต่จะต่อรองราคาเลยสักนิด ก่อนจอจะขึ้นรถของเขาไป“คาดเข็มขัดด้วยนะครับ” เสียงชายหนุ่มลุคธุรกิจคมเข้มกล่าวพูด“ครับ” จอกล่าวตอบรับในทันทีพร้อมทีท่าที่แลดูประหม่าเป็นอย่างมาก ใช่ เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมาเขาไม่เคยนั่งรถหรูเลยสักครั้ง นี่ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ทำให้เขาได้สัมผัสเบาะหนังราคาแพง พร้อมกลิ่นหอมโคโรญจ์ของคนรวยที่ตลบอวบอวลไปทั่วรถที่ถึงแม้วาสนาในการได้ขึ้นรถในครั้งนี้ม