กลิ่นหอมโคโลญจน์อันหอมเย็นที่คละคลุ้งบนร่างอันกำยำของรามกำลังจอดรถมอเตอร์ไซซ์สีดำรุ่นซีบีอาร์คู่ใจที่ซื้อด้วยเงินประกันงานศพก้อนสุดท้ายของพ่อ ได้ขี่มาจอดที่ลานจอดรถหน้าร้านนวดชื่อดังแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า Georking Massage ร้านนวดที่มีนิยามในการรับสมัครพนักงานที่จำเป็นต้องมีความหน้าตาดีหรือมีรูปร่างที่น่าดึงดูดเพื่อเป็นจุดขายเรียกลูกค้าให้เข้าร้านเป็นประจำ ซึ่งวันนี้เป็นวันทำงานวันแรกเขาจึงรีบมาก่อนเวลาประมาณเกือบยี่สิบนาที เพื่อสร้างความประทับใจให้กับเจ้าของร้านที่ใจดีรับตนเข้าทำงาน เพียงเพราะวันแรกที่เจ๊เฟียสเจอกับรามที่ร้านหมูกระทะ รามที่เป็นพนักงานยกเตาได้โชว์ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อมัดแขนผิวแทนที่เปอะเปื้อนเขม่าถ่านมันสร้างความจับจ้องของสายตาให้กับเจ้าของร้านนวดที่ไปกินหมูกระทะได้เป็นอย่างดี ไหนจะหน้าตาทรงไทยคมเข้ม หน้าตาหล่อขนาดนี้มันดีเกินกว่าจะเป็นเพียงพนักงานยกเตาที่ร้านหมูกระทะเจ๊เฟียสจึงได้หาโอกาสเพื่อพูดคุยพร้อมทั้งเสนอรายได้ที่มันได้มากกว่างานประจำที่เขาทำที่ใช้วุฒิมอสาม ที่หาเงินได้แค่จำนวนหมื่นสองต้น ๆ ต่อเดือน แต่งานนวดนี้หากบริการดีจนลูกค้าติดใจมันจะทำให้เขาได้รับแน่ ๆ เดือนละสามหมื่นบวกบวก จนนั่นได้เกิดการจุดประกายที่ทำให้รามสนใจสมัครและลาออกจากงานเก่าที่รายได้กับค่าใช้จ่ายมันเดือนชนเดือนไม่พอที่จะมีเงินเก็บและเลี้ยงชีพ เพื่อเข้ามาเริ่มทำงานในวันถัดมาหลังจากรับเงินเดือนเลยทันที
รามเดินเข้าหน้าร้านที่ตกแต่งไปด้วยสถาปัตยกรรมรูปทรงเหลี่ยม สีเงินเงาโบกฉาบไปด้วยอิฐเงาสีดำ สร้างความน่าค้นหา มีคุณค่าในตัว ดูโก้หรู อย่างสง่างาม ประดับตกแต่งไปด้วยแสงไฟส้มเหลืองสลัว ๆ สร้างบรรยากาศ พร้อมเปิดเพลงแนวผ่อนคลายด้วยเสียงน้ำไหลหยด ปะปนไปด้วยเสียงดนตรีที่เสียงทุ้มละมุนชวนให้ผ่อนคลาย ก่อนเขาจะเดินมาถึงในร้านที่เจ๊เฟียสกำลังเดินถือแก้วกาแฟมายังเคาน์เตอร์จุดรับลูกค้าด้วยท่าทีที่เอื่อยเฉื่อย เหมือนคนพึ่งสร่างเมาแต่ต้องเตรียมร้านตามสไตล์ของเจ๊เจ้าของร้าน “สวัสดีครับ” รามที่เห็นเจ๊เฟียสก็รีบกล่าวทักทายเจ้านายใหม่ที่ให้โอกาสตนในทันที เจ๊เฟียสหันมามองด้วยท่าทางที่ยิ้มแย้ม ก่อนจะเดินเข้ามาหาราม “อ้าว สวัสดีจ๊ะราม แหม่มาเร็วจังนะ นั่งรอเจ๊แป๊บนึง เดี๋ยวเจ๊ไปเอาของก่อน ๆ” เจ๊เฟียสพูดจบก็รีบเดินออกจากเคาน์เตอร์ไปหยิบของ รามกวาดตามองไปทั่วร้าน รูปวาด และแสงสีมันช่างดูน่าแปลกตาแปลกใจกับตัวเขาเป็นอย่างมาก เพราะตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยเข้าร้านนวดมาก่อนในชีวิต มันทำให้เขาเริ่มเกิดอาการประหม่าเล็กน้อย ก่อนจะหยิบเอกสารที่ใช้สมัครงานออกมาเพื่อหาอะไรทำและกำจัดความรู้สึกนี้ออกไป ในระหว่างที่รามกำลังจัดการเอกสารของตนก็มีพนักงานนวดคนหนึ่งชื่อว่าตั้ม ชายหนุ่มร่างบางลีน หน้าไทยสะอาดสะอ้าน อายุยี่สิบแปดปีเดินเข้ามาและมองไปที่รามอย่างสงสัย ก่อนเจ๊เฟียสจะเดินกลับมาพร้อมใบสมัครงานและเอกสารสำคัญต่าง ๆ ที่รามต้องกรอก “สวัสดีครับเจ๊” ตั้มกล่าวสวัสดีเจ๊ก่อนเจ๊จะหันมายิ้มทักทายและเดินเข้าไปยังห้องสำหรับพนักงานเพื่อเก็บของ ทันทีที่เข้าไปเขาก็เจอกับมอริส หนุ่มลูกครึ่งฝรั่งเศส ผมสีบลอนด์ทองที่กำลังนั่งกินข้าวเหนียวหมูปิ้งที่โต๊ะพร้อมกดโทรศัพท์ไปพลาง ๆ ในขณะที่นะกำลังล้างจานที่ตนพึ่งกินไป ตั้มเปิดประตูออกไปมอริสรีบกล่าวสวัสดี ในขณะที่นะไม่ได้สนใจอะไรและเปิดก๊อกล้างจานต่อไป “ดีพี่” “ดีมึง เออมอริสมีเด็กใหม่มาหรอวะ” ตั้มพูดถามในขณะที่กำลังเอาของไปเก็บ “จริงดิพี่ ใครอะ ผมไม่เห็นเลย” มอริสกล่าวตอบด้วยใบหน้าที่สงสัยในขณะที่ตนกำลังเคี้ยวหมูปิ้งไปด้วย “นั่งอยู่ข้างหน้ากะเจ๊อะ ไว้มึงกินเสร็จเดี๋ยวค่อยไปทักทายกัน” ตั้มตอบพร้อมเดินไปหยิบแก้วและเตรียมตักกาแฟดำเพื่อชงดื่มในตอนเช้า “เคพี่” มอริสตอบพร้อมเหลือบมอง จากนั้นไม่นานทีมหนุ่มหน้ามนผิวขาวละมุนได้เดินเข้ามา พร้อมกับดอนหมอนวดเด็กน้อย หน้าตาจิ้มลิ้มทรงเกาหลีที่มีอายุเพียงแค่ยี่สิบเอ็ดปี ที่เดินตามกันเข้ามา ก่อนทั้งห้าคนจะเกิดการทักทายกันและเอาของไปเก็บ “พี่ตั้มพนักงานใหม่หรอที่กำลังเซ็นสัญญาจ้างกับเจ๊อะ” ดอมถามด้วยท่าทีที่อยากรู้ “ไม่รู้หวะ น่าจะใช่มั้ง” ตั้มตอบพร้อมซดกาแฟดำ “หน่วยก้านดีใช้ได้เลยวะพี่ ผมว่าใช่ชัวร์” ทีมรีบกล่าวชงสร้างความน่าตื่นเต้นให้กับทุกคนได้เป็นอย่างมาก ต่างกับนะที่นิ่งเงียบแลดูไม่ตื่นเต้นอะไรกับใคร ทันใดนั้นเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นคนที่เดินเข้ามาสร้างความน่าเคารพนับถือจนทุกคนต้องหันไปสวัสดีอย่างพร้อมเพรียงกันซึ่งคนคนนั้นก็คือตุลย์ “สวัสดีครับพี่ตุลย์” “เออ ๆ สวัสดี ๆ” ตุลย์เดินเข้ามาด้วยท่าทีที่เฉยชา ก่อนนะจะเดินเข้าไปหาตุลย์และหยิบข้าวกล่องที่ตนซื้อมาและนำไปให้ตุลย์ “พี่ตุลย์ผมซื้อข้าวมันไก่ไม่มีหนังมาฝาก ร้านนี้อร่อยมาก” นะกล่าวพูดด้วยท่าทีที่ยิ้มแย้ม ในขณะที่ตั้มและทีมหันมองอย่างไม่ค่อยญาติดี “ขอบคุณมากมึง กำลังหิวพอดี” ตุลย์กล่าวขอบใจนะพร้อมเดินไปล้างมือ “พี่ตุลย์พี่ เห็นเด็กใหม่ยัง” ดอมถามตุลย์ด้วยใบหน้าที่สงสัย “เห็นละ” ตุลย์ตอบด้วยท่าทีที่นิ่ง ๆ “พี่ว่าไง” ดอมถามต่อ “ก็ดี นาน ๆ ทีร้านจะมีเด็กใหม่” ตุลย์ตอบพร้อมเดินไปเปิดประตูเพื่อเตรียมออกไปเปลี่ยนชุดประจำร้านในห้องน้ำพนักงาน “เมื่อวานได้ลูกค้ากี่คนละพี่ตั้ม” ทีมพูดจุดประเด็นชวนสร้างบรรยากาศอึมครึมอะไรบางอย่างขึ้น “สามคนหวะ นวดจนปวดนิ้ว” ตั้มพูดไปพลางกระดกกาแฟอึกสุดท้าย “สุดยอดไปเลยพี่ เออและเมื่อวานเคสที่พี่ตุลย์ปล่อยต่อใครรับไปอะพี่” ทีมถามด้วยความสงสัย “ไอจอไง โชคดีของมันจริง ๆ” ตั้มกล่าวพูดตอบด้วยนำเสียงขยี้ ๆ เหมือนกำลังเยาะเย้ยใครบางคน “และวันนี้พี่จอไปไหนอะพี่” ดอมถามด้วยความสงสัยก่อนจะหันไปถามนะอีกรอบเพื่อให้แน่ใจในความอยากรู้ของตน “พี่นะพี่ พี่จอไม่มาทำงานหรอครับ” “วันนี้มันลาไปเที่ยวมั่ง” นะกล่าวตอบในระหว่างที่กำลังจะเดินออกจากห้องไป “ดีจังได้ลูกค้าเคสปล่อยจากพี่ตุลย์ น่าจะได้ทิปเยอะชัวร์” ดอมพูดเชิงเสียดายให้ตั้มฟังก่อนตั้มจะเกิดการพูดกัดนะอย่างลอย ๆ ว่า “กูก็ว่างั้นแหละพวกเราน่าจะรีบ ๆ ตีสนิท นี่ขนาดมีคนตีสนิทด้วยการซื้อของมาให้บ่อย ๆ ยังไม่ได้เคสต่อจากพี่ตุลย์สักคนน่าสงสารหวะ ฮ่า ๆ” นะที่ยังเดินออกจากห้องไปได้ไม่ไกลหูเจ้ากรรมดันไปได้ยินเสียงนั้นเข้า ก่อนเขาจะกำมือข้างขวาอย่างแน่นตึง และก้มหน้าลงพร้อมสูดลมหายใจเข้าและผ่อนลงก่อนจะเดินเข้าห้องเปลี่ยนชุดไปเพื่อเตรียมไปทำงานนวดเดือนที่ห้าของตนอย่างอดทนที่แฝงไปด้วยความคิดภายในใจที่มันขัดกับการกระทำของเขาในตอนนี้เป็นอย่างมาก ด้วยสิ่งที่เขาหวังว่าสักวันการวิ่งเข้าไปซัดหน้ามันสักฉาดคงจะเกิดขึ้นในไม่นาน แต่ด้วยเหตุผลที่เขาต้องอดทนนั้นเป็นเพราะตั้งแต่เข้ามาเขาได้รับลูกค้าต่อวันแค่วันละคน มากสุดคือสองคน ในขณะที่หมอนวดคนอื่นได้ลูกค้ากันวันละสามถึงสี่คน ซึ่งมันไม่พอต่อการใช้ชีวิตของเขาเนื่องจากนะเป็นคนติดพนันและต้องการใช้เงินที่ทำงานได้มาไปเล่นเพื่อเอาเงินที่ตนเสียไปนั้นคืนมา ตนจึงพยายามหาลูกค้าให้ได้เยอะ ๆ แต่มันยากเหลือเกิน เขาจึงเลือกที่จะตีสนิทกับตุลย์เพื่อให้เหมือนที่จอได้รับลูกค้าเคสหลุดจากตุลย์บ้าง นั่นเป็นเพราะลูกค้าของตุลย์ที่เป็นเคสหลุดส่วนใหญ่จะให้ค่าทิปที่สูง ซึ่งมันจะดีต่อนะที่ต้องการเงินเพื่อไปเล่นพนัน อีกทั้งลูกค้าของนะส่วนใหญ่คือคนที่ไม่มีกำลังจ่ายเพิ่มและตนก็อยู่ในเกรดของหมอนวดที่เป็นอันดับท้าย ๆ มันจึงเป็นเรื่องยากที่ตนจะได้ลูกค้าตัวท็อป ๆ บ้าง บ่อยครั้งที่เขารู้สึกโมโหและเบื่อหน่ายตัวเองแต่ทำไงได้การเล่นพนันมันกลายเป็นนิสัยติดตัวเขาไปซะแล้ว…บรรยากาศหน้าร้านเริ่มครึกครื้นเพราะกำลังใกล้ถึงเวลาเปิดร้านนวดพร้อมพนักงานใหม่รูปหล่ออย่างรามที่กำลังได้ฤกษ์เริ่มทำงานประจำใหม่ที่มันกำลังจะกลายเป็นงานที่จะทำให้ชีวิตของเขาเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในเรื่องของการเงินบ้าง“โอเค เรียบร้อย ครบ มา เดี๋ยวเจ๊พาไปรู้จักกับเหล่าพี่ ๆ หมอนวดของร้านเรา”เจ๊เฟียสพูดด้วยเสียงหวาน และพารามลุกขึ้นเดินไปที่ห้องแต่งตัวของพนักงาน แต่ยังเดินไปไหนได้ไม่ไกลเสียงเปิดประตูร้านก็ดังขึ้น หนุ่มหน้าจีนผิวขาวที่มาสายรีบเร่งเดินเข้ามาเพื่อเตรียมไปเข้างานก่อนจะมาเจอกับเจ๊เฟียสและรามที่หน้าเคาน์เตอร์พอดิบพอดี“สวัสดีครับเจ๊” เขารีบสวัสดีเจ๊ในทันทีที่เห็น ก่อนรามจะหันหน้ากลับมาจนทั้งคู่สบตากัน“อ้าวมึง!!!” หนุ่มหน้าจีนทำท่าตกใจที่เห็นราม เหตุผลที่เขาตกใจนั้นเป็นเพราะเขาเคยเจอกันมาก่อนที่ยิมเมื่อรุ่งเช้าที่ผ่านมา“อ้าวไอเฟย มึงทำงานร้านนี้หรอ” รามถามกลับไปด้วยใบหน้าที่มีความงงงวย“รู้จักกันด้วยหรอจ๊ะ” เจ๊เฟียสถาม“นิดหน่อยครับ พอดีเจอกันที่ยิมเมื่อเช้า” รามอธิบายให้เจ๊ฟัง“มันทำนิ้วผมเกือบแตกเจ๊” เฟยรีบอธิบายต่อให้ทันทีแต่ในความคิดของรามนี้มันคือการฟ้องชัด ๆ“
บรรยากาศด้านนอกที่เต็มไปด้วยแสงขาวอึมครึมจากโคมไฟหรูหราจากด้านบนของร้าน ตุลย์พารามเดินมาที่ห้องนวดคิงวัน ห้องที่อบอวลไปด้วยกลิ่นน้ำมันหอมระเหยชวนให้ผ่อนคลายไปกับการนวดที่ผ่านมาของเหล่าลูกค้าพิเศษมากมายที่ได้เข้ามาใช้บริการ ด้วยความเชี่ยวชาญและคุ้นชินกับพื้นที่ห้องนวดอโรม่าของตุลย์ ทำให้เขาเลือกที่จะหยิบน้ำมันหอมระเหยกลิ่นมะพร้าวมาเพื่อเลือกใช้กับรามที่กำลังจะถูกการฝึกเสริมความสามารถด้านการนวดด้วยทักษะฝีมือการสอนของตน“ห้องนวดนี้เป็นห้องนวดที่เน้นการผ่อนคลาย เวลาลูกค้ามา ส่วนใหญ่พวกหมอนวดจะพามานวดที่ห้องนี้กัน โดยห้องนี้จะเหมาะสำหรับคนที่พึ่งเริ่มนวดและยังไม่เข้าใจเบื้องลึกของการนวดสักเท่าไร ซึ่งจะมีทั้งลูกค้าชายและหญิงเข้ามาใช้บริการแต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชายมากกว่า แต่เราพึ่งมาควรเริ่มจากการนวดในส่วนนี้ก่อนแล้วค่อยรู้เบื้องลึกของศาสตร์การนวดต่อไป”ตุลย์บอกรามเกี่ยวกับความรู้และทักษะการนวดที่จำเป็นต้องเรียนรู้ต่าง ๆ ใบหน้าที่เขามองรามและสบตากันมันช่างเป็นช่วงเวลาที่เสริมสร้างความต้องการเรียนรู้ของรามในขั้นต่อ ๆ ไปให้เร็วมากยิ่งขึ้น“ได้ครับแล้วการนวดครั้งนี้พี่จะให้ผมนวดใครหรอครับ”รามพย
แอ๊ด! ครืด!เสียงประตูเลื่อนเปิดออก เฟยเดินตามตุลย์เข้ามาในห้องก่อนจะส่งยิ้มให้รามอย่างเจ้าเล่ห์มีแผนร้าย รามที่เห็นเฟยทำทีท่าอย่างนั้นก็ไม่วายที่จะถามออกไปในทันที“ว่างหรอครับมึง”“ก็นิดนึง ลูกค้ายังไม่เยอะ” เฟยกล่าวตอบรามออกไปพร้อมเดินไปที่ตะกร้าเก็บเสื้อผ้าของตน ก่อนตุลย์จะสั่งให้เขาถอดเสื้อผ้าออกในทันที“ถอดชุดออก และลงนอนครับคุณเฟยครับ”“ครับพี่” เฟยนำมือเรียวยาวถกกางเกงคู่ไปกับกางเกงในสีดำคาดเทาลงพร้อมกัน เผยให้เห็นก้นขาวกลมนูนอูมงอนจนสร้างความตื่นตัวให้กับรามได้เป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันเฟยกลับแก้ผ้าอย่างโจ่งแจ้งต่อหน้าตุลย์และรามอย่างไม่เขินอายอะไร ตุลย์ที่เห็นแบบนั้นก็ทำท่าทีเฉย ๆ ได้ เหมือนเคยเห็นก้นขาว ๆ ของเฟยบ่อยจนมันชินไปซะแล้ว“เห้ยถอดเลยหรอ” รามถามด้วยความแปลกใจและเคอะเขิน“เออดิ เขานวดกันใครเขาใส่เสื้อผ้ากัน มึงเคยนวดปะเนี่ย”เฟยรีบตอบรับประโยคชวนเขินของรามในทันทีแถมยังจี้จุดถามรามถึงประสบการณ์การเป็นลูกค้านวดของรามเองในอดีตอีกด้วย นั่นทำให้รามสัมผัสได้ว่าไอนี่มีบางอย่างที่ไม่เหมือนคนอื่นแน่ ๆ“ไม่เคยหวะ รอพี่ตุลย์เปิดประสบการณ์ให้อยู่เนี่ย ฮ่า ฮ่า”รามไม่วายที่จะยอมร
อื้อ อื้อ อื้อ อื้อ!!เสียงลูกค้าหนุ่ม รุ่นราวคราวเดียวกับมอริสกำลังส่งเสียงร้องโอดโอยเจ็บปวดอย่างเสียวซ่านไปทั่วร่างกายจนสร้างบรรยากาศความตื่นเต้นให้กับมอริสหนุ่มลูกครึ่งฝรั่งเศสคนนี้ไม่น้อย เขาค่อย ๆ บรรจงดันแท่งเอ็นอุ่น อันใหญ่ยาวหัวขลิบ ดันเข้าดันออกอย่างเป็นจังหวะช้า ๆ ให้กับลูกค้าหนุ่มคนนี้จนใบหน้าของเขาที่มีทรงคิ้วบาง ตาหวาน ต้องนำฝ่ามือทั้งสองข้างขึ้นมาบรรจงจับบนก้านคอของมอริสอย่างช้า ๆ ก่อนเขาจะลูบขึ้นไปที่เส้นผมสี บลอนด์ทองของมอริส ก่อนจะใช้แรงแขนทั้งหมดที่มีในตอนนี้ดึงใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาลงไปที่ใบหน้าอันหวานซาบซ่าของตน เพื่อที่จะบรรจงละเลงจูบ แลกลิ้น แลกหยดน้ำใสในปากสีชมพูอันผุดผ่องเงาวับ แต่เขากลับต้องผิดหวังเพราะชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าที่เป็นคนดันแท่งเอ็นอุ่นเข้าออก เข้าออก ดันหลบสายตาและนำใบหน้าเข้าไปคลอเคลียซุกไซร้ที่ซอกคออันหอมหวานของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการนวดพิเศษของหมอนวดมอริสแทน เขาใช้จริตการสร้างรอยจูบผสมปนเปไปกับการลากลิ้นไปยังบริเวณจุดกึ่งกลางคอที่เป็นตะปุ่มตะป่ำและใช้ปากของเขาดูดตรงนั้นแทนก่อนจะลากลิ้นอันแดงหวานค่อย ๆ ไต่ระดับไหลลงมาที่พานนมสีชมพูของลูกค้าและ
ณ ออฟฟิศอันหรูหราย่านใจกลางเมือง เหล่าพนักงานเดินผ่านไปผ่านมาอย่างฝักใฝ่เพื่อเตรียมเดินออกไปหาอะไรกินในระหว่างพักกลางวัน ผิดกับเหล่าผู้บริหารที่ตั้งหน้าตั้งตาประชุมกันอย่างจริงจังต่อเนื่องอย่างไม่มีใครยอมใคร“ฉันไม่รู้ละ ถ้าซื้อวัคซีนตัวนั้นมาใช้ ฉันบอกเลยว่าฉันไม่รับผิดชอบหากเกิดผลข้างเคียงที่ผิดพลาด”หญิงสาวร่างสูง ขาเรียวยาว ตาคมสวย ผมเป็นลอน ปากสีแดงสด ทรงผู้ดีที่ดำรงตำแหน่งผู้ก่อตั้งบริษัทเกี่ยวกับการนำเข้าทางการแพทย์กำลังทำหน้าตาไม่พึงพอใจในการตัดสินใจของสามีที่เข้ามาบริหารบริษัทร่วมผ่านการอุดหนุนผลิตภัณฑ์ของพรรคพวกของตนเพื่อผลประโยชน์ทางด้านการเงินของตนเองที่หากดีลได้จะได้เงินเข้ากระเป๋าแบบเต็ม ๆ“เอาน่าคุณ แค่วัคซีนเอง โรคโควิดมันก็ยังไม่ร้ายแรง ถ้าเรานำเข้ามาเราจะเป็นเจ้าแรกที่ประชาชนจะเข้ามาใช้เลยนะ”เสียงหนุ่มผู้เป็นสามี ร่างล่ำ ผิวแทน หน้าตาสะอาดสะอ้าน สายตาไม่น่าไว้วางใจ พูดปลอบประโลมภรรยาสุดที่รักของตนด้วยน้ำเสียงออดอ้อนตามนิสัยใจคอของตนอย่างไม่สนใจในผลใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับผู้คน“ดิฉันก็เห็นด้วยนะคะ ถ้าเรานำเข้าได้เราจะเป็นเจ้าแรกที่ได้จัดจำหน่ายให้โรงพยาบาล อีกอย่างวัค
แสงตะวันเริ่มละขอบฟ้าเหล่าหมอนวดในร้านเริ่มเดินเก็บอุปกรณ์นวดประจำตัวให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ก่อนแม่บ้านจะเข้ามาทำความสะอาดสำหรับวันนี้ที่เป็นวันเริ่มงานวันแรกของรามเขาก็ต้องทำความเข้าใจกับการจัดเก็บอุปกรณ์การนวดหลังจากที่ใช้เพื่อบริการลูกค้าอย่างใจจดใจจ่อ ด้วยการสอนและปลูกฝั่งจากตุลย์ผู้เป็นพี่เลี้ยงด้วยวาจาที่น่าฟังและดูใส่ใจกับเขาเป็นอย่างมาก ก่อนเฟยจะเดินออกมาจากห้องนวดและกำลังจะเดินไปที่ห้องเปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมตัวไปกินข้าวเย็นที่ร้านส้มตำอย่างตั้งหน้าตั้งตารอ“พี่ตุลย์ครับผมไปเปลี่ยนชุดก่อนนะครับและเดี๋ยวเจอกันที่ร้านเลยนะพี่”เฟยกล่าวพูดด้วยทีท่าที่แลดูสบายใจ ก่อนเขาจะเอะใจไปสักพักว่า แล้วมันร้านไหนวะ เขาดูงงกับคำถามในหัวก่อนเขาจะถามตุลย์ออกไปอีกครั้งว่า“เออพี่แล้วเราจะไปร้านไหนกันนะครับ”“ไปร้านอีสานพาแซ่บอะ ชื่อนี้เลยลองค้นหาในแผนที่เลย เจอกันที่นั่นเดี๋ยวพี่ก็จะไปละ”ตุลย์กล่าวตอบพร้อมบอกร้านประจำที่ตนชอบไปนั่งกินเวลามีความอยากอาหารอีสานแซ่บ ๆ“โอเคพี่ เจอกันครับ” พูดจบเฟยก็เดินเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ในขณะเดียวกันรามและตุลย์ก็เริ่มที่จะจัดและเครียของทุกอย่างเป็นระเบียบมากย
เสียงดนตรีบรรเลงผ่อนคลายสายน้ำจากเครื่องฟอกอากาศไหลวนไปมาจนเกิดเสียงไพเราะจับใจ พร้อมส่งกลิ่นอโรม่าหอมฟุ้งตลบอบอวลไปทั่วห้อง วันนี้เป็นวันที่รามจะต้องสอบนวดกับตุลย์หมอนวดเจ้าเสน่ห์ ในเวลาสามโมงเย็นที่กำลังจะมาถึง แต่ขณะนี้ตุลย์กำลังติดลูกค้าคนสำคัญลูกค้าคนนี้มักนัดคิวของตุลย์ไว้กับเจ๊เฟียสเมื่อยามที่ตนต้องการนวดผ่อนคลายอย่างสบายกายสบายใจ ในขณะที่รามกำลังนั่งรอลูกค้าเข้ามาในร้านซึ่งหากไม่มีเขาก็ต้องนั่งรออยู่ดีเพราะในอีกสามสิบนาทีเขาจะต้องมีสอบกับตุลย์ จนกระทั่งเสียงสอบถามจากเจ๊เฟียสดังขึ้นมาว่า“เป็นไงบ้างล่ะนวดมาได้สิบวันแล้ว รู้สึกชินมือหรือยัง”เจ๊เฟียสกล่าวถามราม พร้อมใช้นิ้วมือกวักเรียกตามเสียงพูด ตามจริตคนเป็นเจ๊ประจำร้าน“ก็ชอบครับเจ๊ ผมรู้สึกว่าเวลาได้นวดลูกค้าแล้วมันเพลินดีครับถึงแม้จะมีปวดนิ้วบ้างแอบเกร็งบ้างนิ้วแอบล็อกบ้างในช่วงแรก แต่พอนวดนาน ๆ ไปใช้เทคนิคของพี่ตุลย์ไป วันที่สามที่สี่ก็เริ่มดีขึ้นครับ หลังจากนั้นก็จะเป็นเรื่องของการเรียนรู้การพูดคุยกับลูกค้า การเอาใจลูกค้าที่ผมคิดว่าวัน ๆ นึงเราจะเจอลูกค้าแบบไหนบ้าง ลูกค้าจะมองเรายังไงบ้าง หรือความต้องการเขาเป็นยังไงบ้าง ผ
เวลาผ่านไปประมาณ 5 นาทีตุลย์เสร็จจากการไปห้องน้ำเพื่อทำภารกิจส่วนตัวของตนและพักผ่อนดื่มน้ำ กินขนมเติมพลังเพื่อให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น เขาเดินมาที่หน้าร้านและเรียกรามเข้าไปในห้องคิงเท็น ซึ่งเป็นห้องนวดระดับสิบที่มีความเป็นส่วนตัวอย่างมาก ในห้องนั้นนอกจากจะมีเตียงนอนนวดที่เป็นระดับวีไอพีแล้ว ยังมีอ่างจากุชชี่สำหรับบริการนั่งนวดผ่อนคลายราคาแพงในอ่างน้ำที่เดือนนึง จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการในห้องนี้ไม่เกินยี่สิบคน เพราะด้วยราคาที่มันแรงและความพิเศษของห้องนี้แล้วหมอนวดคนอื่น ๆ ในร้านบางคนยังไม่เคยใช้บริการในห้องนี้ด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้ด้วยบุญวาสนาอันใดของรามทำให้เขาได้เข้ามาใช้บริการในห้องนี้ตั้งแต่เริ่มทำงาน แถมยังได้ใช้บริการคู่กับตุลย์อีกด้วย จนนั่นสร้างความสนใจให้กับนะได้ไม่น้อยเพราะเขานวดเสร็จแล้วเดินออกมาจากห้องด้วยสายตาคู่ขมึงที่เห็นทั้งคู่เดินเข้าห้องคิงเท็นไปด้วยกันจึงเกิดความสงสัยและเก็บไว้ในใจเกี่ยวกับเรื่องราวที่ได้พบเห็นในตอนนี้เอี๊ยด!!เสียงเปิดประตูและปิดลงรามและตุลย์ เดินเข้ามาในห้องเขาเห็นบรรยากาศภายในตกแต่งสวยงามอย่างเลิศหรูดูแพง ไหนจะแสงไฟเหลืองส้มสลัว
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปสัญญาณในประเทศเริ่มไม่สู้ดีรัฐบาลกำลังเริ่มที่จะประกาศเคอร์ฟิวช่วงเวลายามวิกาลตั้งแต่เวลาสี่ทุ่มเป็นต้นไป ห้ามมีรถสัญจรภายในประเทศเนื่องจากต้องการให้ผู้คนใช้ชีวิตอยู่ในบ้านของตน นั่นเป็นเพราะโรคระบาด โควิดสิบเก้าที่เริ่มจะควบคุมไม่อยู่ แต่ยังไม่มีการสั่งปิดกิจการแต่อย่างใด ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกที่บริษัทของวิสุทธิ์ได้รับแผนกำหนดการจัดส่งวัคซีนให้กับ โรงพยาบาลมากมายทั่วประเทศเพื่อให้คนมีเงินได้ฉีดวัคซีนก่อน ซึ่งมีราคาที่สูงและแพง แต่ด้วยการนำเข้าวัคซีนในล๊อตดังกล่าวทำให้วิสุทธิ์และครอบครัวรวมถึงคนในบริษัทเลือกที่จะไม่ฉีดวัคซีนที่ตนเป็นคนนำเข้ามา เพราะเหล่าคนรวยชั้นสูงเขาเลือกที่จะฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ซึ่งมีราคาแพงกว่าด้วยการนำเข้าพร้อมเส้นสายทางธุรกิจจากประเทศนอกเข้ามายังบริษัทส่วนตัวของตน ซึ่งทั้งหมดเป็นแผนการของพี่เขยของเขาที่ต้องการให้คนในตระกูลและครอบครัวเขาปลอดภัย วิสุทธิ์จึงได้ฉีดมันเข้าไปเพื่อเตรียมพร้อมให้ร่างกายของเขามีภูมิคุ้มกันโรคที่ดีมากยิ่งขึ้น แต่ในระหว่างกระบวนการในการทำงานด้านต่าง ๆ ในบริษัทเขาก็ได้มีปากเสียงกับพี่เขยของเขาเหมือนเช่นเคยและไ
ช่วงเวลาบ่ายโมงตรงเป็นช่วงเวลาพักของรามที่กำลังจะออกไปกินอาหารกลางวันที่ร้านประจำของเขาที่จริงเขาสามารถกินที่นี่ได้ เพราะสวัสดิการของร้านมีข้าวกลางวันฟรีซึ่งเป็นสิ่งที่เจ๊เฟียสสั่งมาเพื่อให้หมอนวดของตนมีเงินเหลือกินเหลือใช้จากการทำงานบริการ แต่ว่าในวันนี้มันไม่สามารถดึงดูดใจของรามได้ เขาอยากที่จะออกไปกินข้าวข้างนอกเพราะว่าเขาเบื่อกับรสชาติอาหารตามสั่งที่วนเวียนไปมาวันนี้เขาอยากจะกินส้มตำรสแซ่บเมนูโปรดของเขาเป็นมื้ออาหารกลางวัน แต่เขายังไม่ทันได้เดินไปตุลย์ก็เดินออกจากห้องนวดของตนหลังจากเก็บห้องเสร็จแล้วมาทักทายรามว่า“ไงราม วันนี้กลางวันกินไร”“อ๋อผมว่าจะไปร้านเจ๊ปุ้มครับ จะไปกินส้มตำกับก้อยเนื้อแล้วก็ซอยจุ๊ซะหน่อยอยากกินมาหลายวันแล้ว”“เฮ้ยอยากกินเหมือนกันงั้นพี่ไปด้วยได้ไหมอ่ะ”“ได้ครับพี่”“แล้วเราจะไปยังไงไปด้วยกันเปล่า”“ตอนแรกว่าจะขี่รถไปแต่ว่าถ้าพี่ไปด้วยก็ไปกับพี่ก็ได้ครับ”“ได้เลยงั้น รอพี่แป๊บนึงนะเข้าห้องน้ำก่อน”“ได้ครับพี่” รามรู้สึกแปลกใจที่ตุลย์อยากที่จะไปกินข้าวกลางวันกับตนเพราะว่าก่อนหน้านั้นหลังจากที่ทั้งคู่ได้เสียกัน รามก็แทบไม่ได้ไปไหนกับตุลย์เลยแต่ด้วยหน้าที่การง
เช้าวันรุ่งขึ้นรามกลับเข้ามาทำงานที่ร้านตามปกติ เมื่อเขาเดินเข้ามาในร้านเขาเห็นเฟยกำลังทำอะไรบางอย่างเขาจึงถามมาว่า“ดีมึงทำอะไรวะ”“อ๋อกูเก็บของพี่นะอ่ะเจ๊บอกให้กูเก็บทิ้งให้หมด”“อ้าวทำไมอ่ะเกิดอะไรขึ้นวะ”“ก็เมื่อวานน่ะดิพวกพี่เขาทะเลาะกันแล้วก็โดนเจ๊ทำโทษแต่ว่าพี่นะแม่งโดนแรงสุดคือโดนไล่ออกเลยมึง”“ฮะโดนไล่ออกเลยหรอ ทำไมวะเขาทะเลาะกันเรื่องอะไร”“ก็เรื่องมึงกับพี่ตุลย์นั่นแหละ เขาแอบนินทามึงกับพี่ตุลย์กันแล้วทีนี้พี่ตั้มแกได้ยินแกก็เลยเถียงแทนให้ แต่เหมือนยิ่งเถียงแม่งก็ยิ่งเกิดการต่อปากต่อคำสุดท้ายก็ลงเอยด้วยการทะเลาะรุนแรงนั่นแหละ”“เดี๋ยวนะทะเลาะกันเรื่องกูกับพี่ตุลย์ คือเรื่องไรวะ”รามถามกลับไประหว่างที่ตนกำลังวางกระเป๋าและมองสายตาคู่สนทนาแต่ในระหว่างที่ตัวเองกำลังถามกลับไปนั้นตุลย์ก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับพูดตอบแทนเฟยไปว่า“อย่าไปสนใจเลยรามเรื่องไร้สาระ”“อ้าวพี่แต่ว่าผมก็อยากรู้นิดหน่อยว่าเขาว่าอะไรเรา” รามตอบ“เอาไงดีพี่บอกดีไหม”เฟยถามตุลย์เกี่ยวกับคำตอบที่รามอย่างรู้ว่าจะบอกดีหรือไม่แต่ไม่ทันไรตุลย์ที่ได้ยินเองและรู้ว่ารามเป็นคนที่ต้องการอยากรู้เองก็เลยพูดออกมาว่า“ก็ไม่
ณ คอนโดหรูหราของวิสุทธิ์หลังจากที่ทั้งสองคนนวดกันรอบที่หกเสร็จ รามกำลังจะขอตัวกลับห้องเพื่อพักผ่อนแต่กลับถูกวิสุทธิ์ห้ามปรามไว้ขอให้อยู่ต่อ ก่อนวิสุทธิ์จะหยิบเงินค่าจ้างที่รามนวดให้เมื่อคืนและวันนี้ทั้งวันรวมทิปพิเศษให้รามไปจำนวนสามหมื่นแปดพันบาท เขาหยิบออกมาจากเซฟส่วนตัวในห้องโดยที่ไม่นับ ซึ่งมันถือเป็นค่าตอบแทนที่เยอะมากสำหรับชายคนหนึ่งที่เป็นแค่พนักงานนวดสุดพิเศษของเขาโดยที่วิสุทธิ์ไม่เสียดายเงินแม้แต่น้อยเขากลับถามต่อด้วยซ้ำว่าทำไมถึงอยากกลับไปเร็วจัง“อยู่ต่อกับผมอีกได้ไหมครับอย่าพึ่งรีบกลับเลย”“ไม่ได้ครับคุณวิสุทธิ์พรุ่งนี้ผมมีทำงานครับ” รามตอบ“งั้นพรุ่งนี้ก็ลางานต่อได้ไหมครับเดี๋ยวผมให้ค่าเสียเวลาเพิ่ม หรือให้ผมจ่ายค่าลางานพรุ่งนี้ให้ก็ได้นะครับ หรือจะให้ผมซื้อคุณออกมาจากร้านนวดร้านนั้นเลยดีมั้ยครับ ผมต้องการอยู่กับคุณครับราม”วิสุทธิ์พูดออกไปด้วยสีหน้าท่าทางที่แลดูเหมือนคนอยากอ้อนแฟนแต่สถานะของเขาทั้งคู่มันยังไม่ใช่ มันเป็นงานบริการที่มีเส้นบาง ๆ ของห้วงราคะซ่อนอยู่ ก่อนเขาเลือกที่จะใช้สายตาหวานพราวเสน่ห์จับจ้องไปที่รามเพื่อหวังว่าจะได้จับจ้องยิ้มหวานเข้มของรามในคืนนี้ต่ออี
ณ คอนโดย่านทองหล่อโครงการไม่หรูมากนักเหมาะสำหรับบุคคลที่มีฐานะปานกลางทั่วไป ตุลย์กำลังนั่งเหม่อมองหน้าต่างที่ห้องของเขาจากวิวสูงชั้น 23 วันนี้เป็นวันหยุดของเขาที่ตรงกับวันหยุดของราม ใจจริงสิ่งที่เขาเดินเข้าไปคุยกับรามเมื่อวานในห้องนวดคิงโฟร์นั้นเป็นเพราะเขาอยากลองชวนรามไปเที่ยวกับเขาบ้างสักครั้งเพื่อเคลียร์ความในใจบางอย่างที่ตนยังไม่เข้าใจว่าเขาทำผิดอะไร ทำไมน้องรามถึงไม่คุยกับเขาเหมือนเดิม พลันความรู้สึกเสียดายและมึนงงก็กลับเข้ามาในหัวของเขามากมายทั้งที่รามก็ดูมีใจให้กับตนไม่ใช่น้อยแต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ในวันนั้นเขาก็แลดูมีใจที่แปรเปลี่ยนไปยังกับคนละคนจนสายตาคู่เข้มสุขุมมองเหม่อลอยจากวิวทิวทัศน์ในเมืองไปมากกว่าเดิม ก่อนเขาจะถูกเตือนสติด้วยเสียงแจ้งข่าวจากโทรทัศน์ที่เขาเปิดทิ้งไว้ว่า“ข่าวด่วนค่ะคุณผู้ชมตอนนี้ยอดผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศเริ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีการรับเชื้อโรคจากเที่ยวบินที่เดินทางเขามาในประเทศแล้วกว่า 35 คน ซึ่งทั้งหมดนี้ปัจจุบันยังตามตัวกันไม่ได้ค่ะ ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานสาธารณสุขจะพยายามติดต่อเพื่อทำการสอบถามไทม์ไลน์การเดินทาง เพื่อเตรียมแผ่นป้องก
วิสุทธิ์เริ่มหน้านิ่วคิ้วขมวดจากการฝันร้าย เขาพร่ำเพ้อส่ายหน้าไปมาพร้อมมีเหงื่อแตกอยู่บนหน้าผากของตนเองทั้ง ๆ ที่ห้องอุณหภูมิเย็นไม่ร้อน แต่อย่างใด ก่อนเขาจะส่งเสียงร้องแลดูเสียใจขวัญเสียออกมาว่า“ไม่นะ คุณแม่ครับ คุณพ่อครับ อย่าพึ่งจากผมไปผมยังไม่พร้อมเลย คุณพ่อครับ คุณแม่ครับ อย่าไป ฮือ”วิสุทธิ์พร่ำเพ้อถึงเสียงสนทนาที่ภายในฝันเขาฝันเห็นพ่อแม่ของเขา กำลังเดินจากไปเพื่อเข้าสู่เส้นทางที่สว่างก่อนจะหายวายวาบไปกับตา รามที่ได้ยินเสียงสั่นกระสับกระส่ายของวิสุทธิ์เขาได้ลืมตาตื่นขึ้นและผงกตัวขึ้นมองดูคู่นอนของตนในยามราตรี ก่อนจะใช้ฝ่ามือที่เรียวยาวมาจับไว้ที่ลำตัวของวิสุทธิ์และพูดปลอบโยนให้วิสุทธิ์ตื่นจากฝันร้ายในเร็วไว“คุณวิสุทธิ์ครับไม่เป็นไรนะผมอยู่ตรงนี้แล้ว”“ฮือ ฮื่อ” เสียงวิสุทธิ์แลดูตื่นกลัวก่อนเขาจะสงบลงอย่างช้า ๆ จนใบหน้าเครียดเริ่มคลายลงอย่างผ่อนเบาและนอนหลับใหลไปอีกครั้ง รามที่เห็นวิสุทธิ์เริ่มมีทีท่าที่คลายจากฝันร้ายเขาจึงได้นำฝ่ามือนั้นลูบไล้ที่กระหม่อมของวิสุทธิ์อย่างแผ่วเบาและจุมพิตไปที่หน้าผากของเขาและนอนเอาหัวซบอกของวิสุทธิ์หลังจากนั้นเขาจึงหลับไปจนถึงรุ่งเช้าของอีกวันแส
บรรยากาศในห้องหรูเตียงคิงไซซ์ของวิสุทธิ์ หลังจากทั้งคู่ดินเนอร์อาหารเย็นกันเสร็จและหลังจากนั้นทั้งคู่จึงได้นั่งพูดคุย ศึกษา ทำความรู้จักกันอยู่สักพัก วิสุทธิ์ที่กำลังก้าวขาขึ้นไปบนเตียงของตนและนอนเงยหน้าพิงหมอนมองรามที่กำลังหยิบของที่อยู่ในกระเป๋าออกมามันเป็นผ้าขนหนูสีน้ำตาลปุกปุยและน้ำมันหอมระเหยกลิ่นคุ้นตามาจากกระเป๋าและนำมาวางลงที่หัวเตียงของคุณวิสุทธิ์พร้อมสายตาที่จับจ้องมองตรงไปที่วิสุทธิ์อย่างน่าหลงใหล“เดี๋ยวคุณวิสุทธิ์เปลี่ยนชุดได้เลยครับ” รามออกคำสั่งให้วิสุทธิ์เปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมนวดน้ำมันตามที่เขาปรารถนา“ทำไมอยู่ดี ๆ ผมก็รู้สึกว่าแขนขาผมมันไม่มีเรี่ยวแรงยังไงก็ไม่รู้อ่ะครับ คุณช่วยมาถอดออกให้หน่อยได้ไหมครับ” วิสุทธิ์พูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มอ่อย“ได้สิครับหรือคุณวิสุทธิ์อยากจะนวดคาชุดแบบนี้เลยละครับ”“น่าสนใจนะครับ ถ้าคุณรามต้องการแบบนั้นก็เริ่มเลยสิครับผมอดใจรอไม่ไหวแล้วนะ”วิสุทธิ์พูดจาหว่านล้อมรามด้วยสีหน้าที่รุ่มร้อนมันเป็นอารมณ์ที่สื่อถึงความต้องการที่เขาพยายามจ้องตาคู่สนทนาให้รีบทำตามคำสั่งของตนในเร็วไว ขณะเดียวกันรามที่ได้ยินคำตอบอย่างนั้นเขาก็ไม่รีรอที่จะเดินเข้าไปพร้อ
“เอาล่ะถอดเสื้อผ้าได้เลยครับคุณลูกค้า”ตุลย์บอกรามให้เตรียมถอดเสื้อผ้าเพราะถึงเวลาที่รามจะต้องเป็นคนโดนนวดเองบ้างแล้วเขาจะได้รู้สึกถึงความสบายกายสบายใจที่พี่ตุลย์กำลังจะมอบให้ในอีกไม่ช้า รามที่ได้ยินคำสั่งเขาก็มองไปที่หน้าของตุลย์ที่แลดูกำลังมองตนด้วยแววตาที่มีเลศนัย ก่อนเขาจะถอดเสื้อคลุมสีน้ำเงินของร้านออกแล้ววางไว้ตรงเคาน์เตอร์วางของพร้อมกับถอดกางเกงลงและเผยให้เห็นกางเกงในของเขาที่เป็นสีดำสนิทลวดลายสะท้อนเงาชวนดึงดูดสายตาเป็นเป็นอย่างมากหลังจากนั้นเขาจึงเริ่มถอดกางเกงในตัวนั้นออกแล้วเผยให้เห็นบั้นท้ายสีแทนที่เนียนละเอียดและกรมมนทรงสวยจนตุลย์ไม่สามารถละสายตานั้นออกไปได้ เขาเลือกที่จะเอื้อมมือไปหยิบผ้าขนหนูที่วางอยู่ตรงเคาน์เตอร์และมาปิดที่เจ้านั่นของตนเองอย่างเขินอายและเดินมาที่เตียงนอนที่มีตุลย์ยืนมองทีท่าของตนอย่างไม่ละสายตา“ผมว่าผมคงมีบุญนะเนี่ยได้โดนพี่นวดด้วยอยากรู้จริง ๆ ว่าความรู้สึกที่ไอเฟยเคยเป็นมันเป็นยังไง”รามพูดประโยคเชยชมออกมาช่วยแก้เขินอายพร้อมกับโยงเฟยเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อให้บรรยากาศดูไม่เงียบสงบมากเท่าไหร่ แต่ทันใดที่ตุลย์ได้ยินเขาก็แอบยิ้มกรุ้มกริ่มและขำแบบเบา ๆ พร
กลับมาเหตุการณ์ปัจจุบันท่ามกลางบรรยากาศที่วุ่นวายใจกลางเมืองกลุ่มนักธุรกิจกำลังว้าวุ่นกับข่าวเกี่ยวกับโรคระบาดที่กำลังรั่วไหลเข้ามาในประเทศซึ่งมันทำให้เศรษฐกิจเริ่มที่จะถดถอยระยะแรก ซึ่งโรคนั้นก็คือโรค โควิด-19“คุณคะฉันกังวลจังเลย โรคระบาดที่ตอนแรกเราคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยมันกำลังจะกลายเป็นเรื่องใหญ่แล้วนะคะ ฉันเป็นห่วงผู้คนจัง”พี่สาวของวิสุทธิ์กล่าวถามผู้เป็นสามีของตนด้วยใบหน้าที่มีความกังวลเป็นอย่างมาก“เอาน่าคุณมันก็แค่โรคระบาดเอง เรากันมันได้อยู่แล้วเดี๋ยวรัฐบาลเขาก็สั่งปิดการเข้าออกของคนต่างประเทศเองแหละ แค่นี้ผมคิดว่าก็น่าจะไม่มีอะไรต้องห่วงละมั้ง ส่วนวัคซีนของพวกเราน่ะที่เราสั่งซื้อไว้อาทิตย์หน้าของจะมาส่งแล้วนะคุณ คุณมาดีใจกับผมดีกว่าที่มีคนสั่งจองวัคซีนเราล่วงหน้าต้อง ห้าสิบเจ้าแล้วนะคุณ”“ค่ะ คุณเก่งมากเลยค่ะที่รัก ฉันฝากคุณจัดการด้วยนะคะ”“ครับที่รัก เดี๋ยวผมจะดูแลทุกอย่างให้คุณเอง”แดนพูดด้วยถ้อยคำที่แลดูจริงใจแต่แฝงไปด้วยสายตาที่ไม่น่าไว้วางใจ พร้อมทั้งเดินเข้าไปกอดภรรยาสุดที่รักของตนและหอมไปที่กระหม่อมด้านบนของกานต์อย่างมีเลศนัยณ ห้องเช่าที่สะอาดเรียบร้อยเป็น