Share

บทที่ 11

Aвтор: l3oonm@
last update Последнее обновление: 2025-02-07 14:53:12

จินเยว่เงยหน้าจ้องเว่ยซืออิงอย่างเย็นชา ยิ่งเห็นสายตาของจินเยว่ เว่ยซืออิงก็ยิ่งบันดาลโทสะ นางนำแส้ออกมาฟาดไปที่ตัวของจินเยว่ ความจริงนางจะฟาดลงไปที่หน้าแต่จินเยว่เบี่ยงตัวหลบทัน แส้จึงฟาดลงที่แขนของนางแทน

เหมือนนางจะยิ่งโมโหเพราะแส้ที่นางฟาดเพื่อให้โดนใบหน้ากับไม่โดน

"เจ้าพวกโง่ จับตัวนางไว้ให้ข้า วันนี้ข้าจะตีนางให้ตายเสีย กล้าดีเช่นใดทำให้ข้าอับอายต่อหน้าคนมากมาย" เหมือนเว่ยซืออิงจะเสียสติไปเสียแล้ว สาวรับใช้ตัวสั่นไปด้วยความกลัว แต่นางก็ต้องทำตามคำสั่งของนาย

"คุณหนูเว่ยโปรดหยุดมือ" นางตีจินเยว่ไปที่หลังได้เพียงสามครั้งเท่านั้น หลิวเหล่ยที่เดินทางเข้าเมืองมาก็ถูกเสี่ยวหงเรียกตัวไว้ก่อนจะมาพบกับเหตุการณ์ตรงหน้าเขา

"ท่านกุนซือหลิว เรื่องนี้ท่านอย่าได้เข้ามายุ่ง" นางหลุดกิริยาที่มักจะเรียบร้อยอ่อนหวานต่อหน้าคนอื่นตลอด แต่วันนี้ความโกรธเข้าบังตาทำให้สติของนางหลุดความเป็นตัวตนที่แท้จริงออกมา

"ไม่ยุ่งคงมิได้ แม่นางเสวี่ยมิได้เป็นบ่าวในจวนท่านแม่ทัพหรือบ่าวตระกูลเว่ย ที่จะให้ท่านโบยตีได้ตามอำเภอใจ" หลิวเหล่ยกล่าวด้วยเสียงดุดัน อย่างที่ทุกคนพบเห็นได้น้อย 

สาวใช้ที่จับตัวของจินเยว่ไว้ปล่อยตัวนางลงด้วยความหวาดกลัว เสี่ยวหงรีบเข้าไปรับตัวจินเยว่ก่อนที่นางจะล้มไปกองกับพื้น จินเยว่ที่เห็นหลิวเหล่ยมากับเสี่ยวหงนางก็ถอนหายใจก่อนที่จะหมดสติไปเพราะความเจ็บปวดจากแส้

"ท่านกุนซือหลิว แม่นางเสวี่ยหมดสติไปแล้วเจ้าค่ะ" เสี่ยวหงร้องขึ้นด้วยความตกใจ

"ก็แค่บุตรขุนนางต้องโทษ ท่านจำเป็นต้องออกหน้าช่วยด้วยหรือ" เว่ยซืออิงกล่าวขึ้นอย่างมิยอม

"บิดาของนาง ยังมิได้ถูกตัดสินความผิด แม้แต่ท่านเจ้าเมืองยังต้องไว้หน้า เจ้าทำเช่นนี้มิถูกต้องนัก"

หลิวเหล่ยไม่พูดกับเว่ยซืออิงต่อ เขาอุ้มจินเยว่ขึ้แล้วรีบพานางไปเรือนรับรอง แต่จ้าวตงหยางเดินเข้ามาเสียก่อนที่เขาจะได้พานางออกไป

จ้าวตงหยางที่เห็นจินเยว่ในอ้อมแขนของหลิวเหล่ยก็มองสหายอย่างเย็นชา ก่อนที่เขาจะพูดแดกดันสหายสายตาก็มองเห็นเลือดที่ชุดของนาง จนเขาขาดสติถีบโต๊ะในห้องของเว่ยซืออิงพังไม่เหลือชิ้นดี

"คุณหนูเว่ย ข้าคิดว่าเจ้าคงอยู่ที่จวนของข้านานเกินไปเสียแล้ว คงได้กลับเวลากลับตระกูลของเจ้าแล้ว ลากบ่าวในเรือนทั้งหมดออกไปโบยห้าสิบที แล้วขายออกไปเสีย" 

บ่าวในเรือนต่างร้องขอความเมตตาจากท่านแม่ทัพเสียงดังไปทั่วจวน มีหรือที่คนเช่นจ้าวตงหยางจะเห็นใจ ทหารของเขาเข้ามาลากตัวบ่าวออกไปทีละคนและโบยต่อหน้าเว่ยซืออิง จนนางหวาดกลัวตัวสั่น 

ญาติผู้พี่ของนางมิเคยเรียกนางว่า คุณหนูเว่ย มาก่อนครั้งนี้เขาคงโกรธนางมากจริงๆ มิเช่นนั้นจะเอ่ยปากไล่นางกลับจวนตระกูลเว่ยได้อย่างไร แม้จะหวาดกลัวแต่ก็แค้นจินเยว่มากกว่าเดิมเสียอีก

หลิวเหล่ยที่ไม่ได้รอดูเหตุการณ์ทั้งหมด เขาพาจินเยว่ไปเรือนรับรองแล้วตามหมอมาดูอาการของนาง เสี่ยวหงก็รีบช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าเช็ดตัวให้จินเยว่ นางสงสารจินเยว่จนอยากจะร้องไห้ออกมา

จ้าวตงหยางเมื่อจัดการเรื่องในเรือนเว่ยซืออิงเรียบร้อยเขาก็ตามมาที่เรือนรับรองทันที

"เจ้ามาอยู่ที่จวนข้าได้อย่างไร" จ้าวตงหยางจ้องมองหลิวเหล่ยอย่างสงสัย

"จำเป็นด้วยหรือว่าข้ามาด้วยเหตุใด หากข้ามาช้าอีกเพียงลมหายใจเดียว แม่นางเสวี่ยคงไม่เหลือแม้แต่ลมหายใจ" เขาจ้องหน้าสหายอย่างไม่ลดสายตา

หากมิใช่จ้าวตงหยางกลั่นแกล้งจินเยว่ในงานเลี้ยงครั้งนั้น เหตุการณ์ทั้งหมดในวันนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น หลิวเหล่ยกล่าวโทษสหายทางสายตา

จ้าวตงหยางถอนหายใจ ก่อนจะมองสหายอย่างสำนึกผิด

"เป็นข้าที่ผิด แต่ข้ารับรองว่าจะไม่เกิดเรื่องเช่นนี้กับนางอีกแล้ว" สีหน้าของหลิวเหล่ยจึงอ่อนลง เขาพยักหน้ารับแต่ก็มิได้วางใจนัก 

หลิวเหล่ยเดินไปนั่งรอท่านหมอที่ดูอาการของจินเยว่ในห้องโถง จ้าวตงหยางมองสหายของตนอย่างไม่เข้าใจ

"เหตุใดเจ้าจึงยังมิกลับ" 

"ข้าจะรอแม่นางเสวี่ยได้สติแล้วพานางไปส่งที่เรือนของนาง" อารมณ์ของจ้าวตงหยางที่สงบในตอนแรก ตอนนี้เริ่มจะโมโหขึ้นมาอีกครั้ง

"เจ้ากลัวข้าจะทำอันใดนาง" เขาเอ่ยถามสหายด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

หลิวเหล่ยปรายตามองแต่มิได้พูดอันใด ในจวนของเจ้านางเจ็บตัวถึงสองครั้ง หากคนไม่โง่แค่มองก็รู้ว่าหากทิ้งนางให้อยู่ต่อคงได้เกิดเรื่องอีก

ก่อนที่จ้าวตงหยางจะเอ่ยปากไล่สหายของตนอีกครั้ง หมอที่ตรวจดูอาการของจินเยว่ก็เดินออกมาขัดเสียก่อน

"ท่านหมอแม่นางเสวี่ยเป็นเช่นใดบ้าง" หลิวเหล่ยเอ่ยถามตัดหน้าจ้าวตงหยาง

"หึ" จ้าวตงหยางแค่นเสียงแล้วนั่งลงเช่นเดิม เขาทำทีเป็นยกชาขึ้นจิบไม่สนใจบทสนทนาตรงหน้า แต่ใบหูของเขาก็จดจ่อถ้อยคำของท่านหมอทุกคำ

"แน่นางเสวี่ยอาจจะมึไข้สูงในคืนนี้ บาดแผลมิได้บาดเจ็บถึงกระดูก พักสิบวันก็หายดี"

"เรื่องรอยแผลจะหายหรือไม่" หลิวเหล่ยกังวลแทนจินเยว่ 

"ท่านกุนซือมิต้องห่วง ข้าทิ้งยาไว้ให้แล้ว หากแม่นางเสวี่ยทาติดต่อกันสองเดือนรับรองว่าจะไม่ทิ้งรอยแผลไว้ขอรับ" หลิวเหล่ยให้เสี่ยวหงไปส่งท่านหมอ เขาเดินเข้าไปดูจินเยว่ในห้อง แต่ก็ช้าไปกว่าจ้าวตงหยางที่ตอนนี้ยืนมองจินเยว่อยู่ข้างเตียง

"เจ้ามีสิ่งใดต้องไปทำก็ไปเถิด ประเดี๋ยวนางตื่นข้าไปส่งนางเอง" จ้าวตงหยางเอ่ยขึ้นโดยมิได้หันไปมองหลิวเหล่ย

"มิต้องรบกวนท่านแม่ทัพหรอกเจ้าค่ะ ข้ากลับเองได้" จินเยว่ที่ได้สติตอนที่จ้าวตงหยางพูดกับหลิวเหล่ยนางจึง พูดขึ้นมาแทน 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 49 (ตอนจบ)

    จ้าวตงหยางยังอยากจะเก็บหลิงอวี้ไว้ออกเรือนตอนอายุยี่สิบกว่าด้วยซ้ำ หากยินเยว่ไม่เอ่ยท้วงเสียก่อน"ท่านแม่ทัพ มีราชโองการมาขอรับ" พ่อบ้านจ้าววิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาตาม ทั้งคู่มองหน้ากันอย่างแปลกใจ ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้พระราชทานรางวัลและแต่งตั้งจางหมิ่นกับจางหย่งเรียบร้อยแล้ว ยังจะมีราชโองการใดได้อีกทั้งคู่รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาจากเรือนก็พบว่าทุกคนยืนรออยู่หน้าจวนอย่างพร้อมเพรียงแล้ว"ฮ่องแต่มีพระราชโองการ มอบสมรสพระราชทานให้คุณหนูจ้าวหลิงอวี้กับองค์ชายสามฉีเฟยหลาง..." ขันทีประกาศเช่นใดจ้าวตงหยางมิได้ยินอีกแล้ว หูของเขาแทบจะดับไปทันที หากมิใช่มีจินเยว่ประคองไว้เขาคงล้มไปนั่งกองกับพื้นแล้วเมื่อส่งขันทีข้างกายฮ่องเต้กลับไปแล้ว จินเยว่ก็หัวเราะกับท่าทีเหม่อลอยของจ้าวตงหยางขึ้นมา "ท่านมิได้รู้อยู่แล้วหรือ ท่านพี่"จ้าวตงหยางหันไปถลึงตาใส่เมียรักอย่างเห็นได้น้อย รู้อยู่แล้วแต่ทำใจไม่ได้ไงตระกูลจ้าวในเวลานี้บ่าวไพร่แม้แต่นายของจวนต่างก็วุ่นวายจัดเตรียมข้าวของ เสวี่ยป๋อเหวินกับเกาซื่อก็มาอยู่ช่วยดูแลงาน ยังขนเงินทองของมีค่ามาหลายหีบเพื่อเติมสินเดิมให้เจ้าสาว"ท่านพ่อ สินเดิมของอวี้เออร์ไม่เยอ

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 48

    แม่ทัพแคว้นเหยี่ยนส่งคณะทูตมาเจรจากับจ้าวตงหยางถึงค่ายทหาร โดยการยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้ของแคว้นเหยี่ยนต้องยอมเสียเมืองที่คิดกับแคว้นฉีถึงสามเมือง และจะส่งเครื่องบรรณาการเพิ่มจากเดิมอีกสองส่วนเมื่อทุกฝ่ายหารือร่วมกันเห็นพร่องว่ายินยอมที่จะรับข้อเสนอเช่นนี้ได้ ก็ตกลงทำสัญญาพร้อมถอนทัพกลับทันที ฉีเฟยหลางยังต้องรั้งรอคนที่ราชสำนักส่งมาจัดการหัวเมืองที่ยึดมาได้ก่อน จ้าวตงหยางที่นำทัพกลับเมืองหลวงจึงให้ จางหมิ่นและจางหย่งอยู่ช่วยดูแลอีกแรง การรบกับแคว้นเหยี่ยนครั้งนี้พวกเขาใช้เวลาเดินทางมากกว่าการรบเสียอีก เสียเวลาเดินทางมาสามเดือน เตรียมการรบจนชนะเพียงสองเดือนเท่านั้นตอนนี้จ้าวตงหยางแทบอยากจะมีปีกรีบกลับเมืองหลวงโดยเร็วเพราะกำหนดคลอดของจินเยว่ใกล้เข้ามาแล้ว หากเข้าเร่งรีบนำทัพกลับคงใช้เวลาอย่างน้อยก็สองเดือนเป็นช่วงคลอดของจินเยว่พอดีฉีเฟยหลางยังคงส่งจดหมายหาหลิงอวี้ทุกครั้งที่เขามีเวลา(ก็เขียนทุกวันก่อนนอน) แม้นางจะเขียนตอบมาน้อยครั้งนัก แต่ทุกครั้งก็จะบอกให้เขาดูแลตัวเองให้ดี อย่าได้บาดเจ็บ เสื้อคลุมที่สวมอยู่ก็เป็นนางที่ส่งมาให้เมื่อคิดจะฝากจดหมายไปและของที่ซื้อไว้ให้นางไปกับว่าท

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 47

    กองทัพแคว้นฉีถึงโยวเป่ยสามเดือนให้หลัง ตอนนี้ทั้งหมดอยู่ห่างจากเมืองเป่ยซานเพียงสองร้อยลี้ จ้าวตงหยางจึงจำต้องอพยพชาวเมืองโยวเป่ยและเมืองใกล้เคียงให้ห่างออกไปจากแนวการรบอย่างน้อยห้าร้อยลี้ จินเยว่ยังมีส่วนช่วยเรื่องเสบียงของชาวบ้านที่อพยพมา เพราะคนของนางที่โยวเป่ยจำต้องอพยพไปพร้อมกับชาวบ้าน เสบียงที่พวกเขาขนไปด้วยจึงนับว่าช่วยชีวิตคนได้มาก ชาวบ้านจึงมิต้องอดอยากหรือป่วยไข้ตายลงค่ายผู้อพยพก็เป็นจางหย่งที่ได้รับมอบหมายจากบิดาให้เร่งสร้างและจัดหาสิ่งของที่ขาดแคลนให้ชาวบ้านได้ใช้ไปก่อน ถึงคลังหลวงจะมีเงินมากก็มิอาจจะยกทั้งหมดมาใช้กับสงครามได้ เป็นเพราะจินเยว่ที่ได้สามีเป็นแม่ทัพนางจึงนำที่ดิน ที่ฮ่องเต้พระราชทานเป็นรางวัลทั้งหมดมิยอมปล่อยเช่าเช่นขุนนางคนอื่น แต่นางจ้างให้ชาวบ้านปลูกข้าว มันสำปะหลัง พืชผักที่เก็บไว้ได้นาน เลี้ยงดูทหารของตระกูลจ้าว ขึงทำให้มีเสบียงมากพอที่ใช้ในการสู้รบครั้งนี้แม้แต่อาหารพื้นบ้านธรรมดาอย่างเช่นรากบัวก็นำมาปรุงอาหารได้ ถั่วเขียวแช่น้ำ แล้ววางลงในไหหรือตะกร้า เอาผ้าคลุมที่ละชั้นเก็บไว้ในที่มืดคอยรดน้ำสามวันก็เป็นผัก นำมาผัดน้ำมันก็ทานได้แล้ว สิ่งที่นางรู้น

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 46

    "อวี้เออร์ โกรธข้าหรือ" เขาจ้องหน้าของนางก่อนจะอดใจไม่ไหวก้มลงจุมพิตนางทันที "ท่าน อื้ออออ" หลิงอวี้ที่อ้าปากจะร้องห้ามก็เป็นการเปิดทางให้ฉีเฟยหลางแทรกเรียวลิ้นของเขาเข้ามาได้ กว่าเขาจะยอมถอนริมฝีปากออกจากปากนางก็เมื่อคนขับรถม้าเอ่ยว่าถึงจวนท่านแม่ทัพแล้วฉีเฟยหลางลูบริมฝีปากของหลิงอวี้อย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนจะช่วยนางจัดเสื้อผ้าแล้วพานางไปส่งด้านในจวน เมื่อส่งหลิงอวี้ถึงมือมารดาของนางแล้วเขาก็กลับเข้าวังหลวงพร้อมจางหย่งอีกครั้งจินเยว่ที่เห็นดวงตาของบุตรสาวปูดบวมและมีองค์ชายสามมาส่งก็ตกใจ เมื่อสอบถามจนได้ความนางก็แทบจะเป็นลมหมดสติ มิคิดว่าให้บุตรสาวไปร่วมงานเลี้ยงจะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นถึงเพียงนี้"ไม่เป็นไรลูกรัก ทุกปัญหามีท่านตากับท่านพ่อของเจ้าคอยค้ำไว้ให้" จินเยว่กอดปลอบบุตรสาวที่สะอื้นจนตัวโยนในอ้อมกอดของนาง ลี่หลินก็หลั่งน้ำตาสงสารน้องน้อยของตนเช่นกันที่เขาเรียกว่าความงามทำให้เกิดหายนะก็เพิ่งพบเห็นจากเรื่องของจ้าวหลิงอวี้นี่เอง เรื่องภายในวังถูกร่ำลือออกไปภายนอก ย่อมมีคนเห็นด้วยและเห็นต่าง แต่ส่วนมากจะโกรธแค้นแคว้นเหยี่ยนที่หาเหตุผลมาทำสงครามมิได้ต้องดึงแม่นางน้อยคนหนึ่งมาทำร้าย

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 45

    ขุนนางทั้งหลายที่ล่วงรู้ก็นึกถึงเรื่องของหนเก่าครั้งของแม่ทัพจ้าว แคว้นเหยี่ยนมิเคยจดจำเสียเลยจ้าวตงหยางเพียงยกสุราขึ้นร่วมชมความสนุกเท่านั้น เพราะครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับตน (เกี่ยวเต็มๆ พ่อรอดู)จางหมิ่นกับจางหย่งก็เหลือบมองหน้าน้องสาวของตนก่อนจะถอนหายใจ เพราะน้องสาวของตนก็สนใจเพียงดื่มกินอาหารตรงหน้าเท่านั้น คงมีเพียงมือที่สั่นอย่างระงับไว้ไม่อยู่"องค์หญิงแคว้นเหยี่ยนเสียมารยาทแล้ว ท่านมีสิทธิ์อันใดมาสอบถามชื่อของนาง" องค์ชายสามกล่าวตำหนิอย่างไม่ไหวหน้า"เช่นนั้นเปิ่นหวางองค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยนก็สามารถขอพระราชทานสมรสครั้งนี้แทนได้ใช่หรือไม่" องค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยนลุกขึ้นพูด"องค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยน เจ้าหมายตาบุตรสาวขุนนางของเจิ้นคนใดหรือ หากบิดามารดาของนางยินยอมเจิ้นก็มิขัดข้อง" ฮ่องเต้ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ที่ตึงเครียด"จ้าวหลิงอวี้ บุตรสาวแม่ทัพใหญ่จ้าว เปิ่นหวางอยากจะแต่งนางเป็นพระชายา มิรู้ว่าท่านแม่ทัพจะยินยอมหรือไม่" ขุนนางทั้งหลายต่างสูดหายใจเข้าอย่างลืมตัว จ้าวตงหยางที่ยกจอกสุราจรดริมฝีปากเพื่อดื่มก็เผลอบีบแก้วจนแตกคามือ องค์ชายสามก็เช่นกัน สองบุรุษต่างวัยต่างมีสีหน้าดำคล

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 44

    หลิงอวี้เห็นเช่นนั้นก็สั่งให้คนของนางขับรถกลับจวน ชายชุดดำที่เพิ่งลงไปตอนนี้แอบมองรถม้าของนางอยู่ด้านนอก"องค์ชายจับตัวได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ" ฉีเฟยหลางหันไปมององครักษ์ที่เข้ามารายงานก็พยักหน้าแล้วขึ้นม้าควบตามไปเขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเป็นรถม้าของหลิงอวี้ เพียงอยากเห็นหน้านางเท่านั้นไม่คิดว่าจะทำให้นางได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด สามเดือนมานี้เขาฝึกฝนตนเองอย่างหนัก ทั้งรับงานจากเสด็จพ่อมาทำหวังจะทำให้ลืมนางได้ แต่ไม่เลยเขายังคิดถึงเพียงแต่นางวันนี้ฉีเฟยหลางพบสายลับต่างแคว้นที่ลักลอบปะปนเข้ามากับคณะทูตจึงออกมาจับกุมตัว จนได้พบกับรถม้าของตระกูลจ้าว เมื่อเห็นว่าเพิ่งออกมาจากตรอกจวนตระกูลเสวี่ยเขาจึงแน่ใจว่าเป็นนาง จึงรีบจัดการให้คนของตนจับคนร้ายแล้วเขาก็ขึ้นมาในรถม้าของนางแต่ฉีเฟยหลางคิดไม่ถึงว่าหลิงอวี้จะถือมีดสั้นเตรียมต่อสู้กับตนอยู่ แล้วกลัวจะทำให้นางบาดเจ็บจึงได้แย่งมีดไว้ แต่สุดท้ายนางก็ได้รับบาดเจ็บจากเขาอยู่ดีหลิงอวี้กลับถึงจวนก็รีบเข้าเรือนตัวเองทันที แล้วให้สาวใช้หายามาทาให้นาง เรื่องที่เกิดขึ้นก็ให้เก็บเงียบไว้อย่าเพิ่งบอกท่านพ่อท่านแม่แต่หลิงอวี้ยังมิได้ออกไปให้จ้าวตงหยางกับจินเยว่ไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status