LOGINภายใต้ผิวน้ำเย็นเยียบที่เสียดแทงไปถึงกระดูก
ลึกลงไปหลายจั้ง ร่างระหงของเหม่ยหลินจมดิ่งอยู่ในนั้น นางกำลังทรมานจากการจมน้ำจนขาดอากาศหายใจ แต่ที่กำลังบั่นทอนจิตใจของนางคือภาพในอดีตที่กำลังหวนกลับคืน
ยามเป็นเด็กหญิง นางตกน้ำในบึงใหญ่หลังตำหนัก นางจมอยู่ในน้ำที่มืดสลัว จนสติของนางดับวูบลง ตื่นมาอีกคราก็ผ่านไปหลายวัน โดยมีเสด็จแม่นั่งร้องไห้อยู่ข้างเตียง
เสด็จพ่อทรงพิโรธหนักมาก พระองค์ทรงสั่งประหารบ่าวไพร่จนหมดทั้งตำหนัก นางที่เป็นเพียงเด็กไม่ประสา ผ่านการเฉียดตายจากการจมน้ำมาจึงกลัวน้ำมากนับแต่นั้น
ทว่าเหนือสิ่งอื่นใด นางเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ทั้งตำหนักต้องตาย...
เหม่ยหลินพยายามลืมตาอ้าปากหาอากาศหายใจ ความหวาดกลัวกระแสน้ำกำลังแล่นริ้วเป็นเส้นเป็นสาย สองมือน้อยๆ พยายามปัดป่ายหาสิ่งยึดเหนี่ยวอย่างยากลำบาก สัมผัสของน้ำที่กระทบฝ่ามือมีเพียงความเจ็บปวดราวกับหัวใจจะฉีกขาด
นางทรมานมาก นางหวาดกลัวเหลือเกิน
ยามเมื่อสติเส้นสุดท้ายใกล้สิ้นลง หญิงสาวจึงได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาที่มีสายตาคมเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ท่ามกลางความมืดสลัวน่ากลัว เขาฉุดนางเข้าหาแผงอก เพียงพริบตาเดียวก็ขึ้นมาเหนือผิวน้ำ
ความนุ่มนวลใดๆ ล้วนไม่มี เหม่ยหลินรู้สึกได้เพียงว่าสายน้ำเย็นเยียบกำลังบาดผิวเนื้อ ยามเมื่อพี่หงกระชากนางขึ้นจากน้ำ เขากระทำการด้วยความรวดเร็วและทรงพลัง ความปราดเปรียวของเขานั้น ไม่มีคำว่าถนอมแม้เพียงเสี้ยวเดียว
แต่ทว่า...นางรู้สึกได้ถึงความปลอดภัย
เมื่อหงซือกวนพาร่างนุ่มนิ่มอ่อนแรงขึ้นมาจากน้ำได้แล้ว จึงอุ้มนางมานั่งที่โขดหินริมน้ำเชี่ยว เขาปล่อยมือจากร่างนาง แต่นางกลับยึดเหนี่ยวลำคอของเขาเอาไว้มั่น
ชายหนุ่มถึงกับก้มหน้ามอง
เหม่ยหลินที่กำลังมีสติจมดิ่งกับความกลัวน่านน้ำยากจะดึงกลับคืน นางจึงเนื้อตัวสั่นเทามากนัก กอปรกับความเย็นเยียบที่เสียดแทงถึงกระดูก นางจึงโผเข้าหาชายตรงหน้าแล้วร้องไห้ออกมา
สติของนางล้วนพร่าเลือนขาดการยับยั้งชั่งใจ
"พี่หง" นางเอาแต่เรียกนามเขาด้วยเสียงสั่นเครือ ร่ำไห้ปานจะขาดใจ
หงซือกวนไม่แน่ใจว่านี่เป็นครั้งแรกในชีวิตหรือไม่ ที่มีใครมาซบอกร่ำไห้กันอย่างนี้ ชายหนุ่มถึงกับขมวดคิ้วคมเข้มเข้าหากัน ด้วยสัญชาตญาณทั้งหมดที่เขามี ล้วนบอกกล่าวถึงภาพความทรงจำอันเลือนราง ว่าคงไม่เคยมีเป็นแน่
นางช่างกล้ากับเขา!
สายตาคมเฉี่ยวจ้องมองนางตรงแผงอกอย่างดุดัน หากแต่การกระทำนั้น กลับเอื้อมวงแขนช้อนร่างนางขึ้นมา แล้วอุ้มนางที่กำลังตัวสั่นเอาไว้แนบอก หมายพานางไปให้ไกลจากริมน้ำตกเชี่ยวกรากที่มีไอกระแสเย็นปกคลุมไปทั่ว
เสื้อผ้าของพวกเขาล้วนเปียกชุ่มไปหมด จนร่างทั้งร่างแนบชิดคล้ายกับไร้เสื้อผ้าหุ้มกาย ก่อเกิดความรู้สึกแปลกใหม่ให้แก่หงซือกวน
ชายหนุ่มที่อุ้มหญิงสาวยิ่งให้รู้สึกอึดอัด เรียวคิ้วพาดเฉียงยิ่งขมวดพันเป็นปม ดวงตากลมใสบนใบหน้าสวยหวานที่มีน้ำตาหยาดรินสองข้างแก้มนวลซุกซบอยู่ตรงแผงอกแกร่ง ชิดใกล้กับใบหน้าคมเข้มแค่ไม่กี่ชุ่น[1] นำพาลมหายใจกรุ่นร้อนของทั้งสองผสานกัน
เรื่องบางอย่างระหว่างชายหญิง หงซือกวนไม่แน่ใจว่าเคยมีหรือไม่ หรือว่าเขาคิดแต่จะฝึกวิชา ฆ่าล้างผลาญจนมิใคร่จะใส่ใจ เพราะตั้งแต่ลืมตาตื่นมาแล้วความจำเลือนหาย เขารู้สึกได้ว่าฝีมือของเขาไม่ธรรมดา ทุกพลังในเรือนกายย่อมเกิดจากการฝึกฝนจนไม่สนใจสิ่งใด เป็นไปได้ว่าเขามิเคยได้แตะต้องใคร จึงรู้สึกแปลกใหม่เมื่อแตะต้องนาง
ชายหนุ่มคิดในใจแล้วสรุปได้ด้วยตนเอง พลางกระชับนางในอ้อมแขนให้แนบแน่นแล้วเดินไปอย่างใจเย็น
บางทีเขาควรสนใจสิ่งอื่นใดบ้าง นอกจากฆ่าคน...
[1] 1 ชุ่น = 1 นิ้ว
เมื่อในห้องเหลือเพียงสองคน จ้าวซือหงจึงลืมตา พยักหน้าให้ลูกน้องคนสนิทรายงานหยางมู่จึงเปิดจดหมายเปล่งเสียงทุ้มต่ำฉะฉานขึงขัง“คุณหนูไป๋ไม่ยินดีกับงานมงคลจึงแอบหนีจากจวน เคราะห์ร้ายถูกคุณชายเฉินที่เดินเตร็ดเตร่ยามราตรีพบเห็น เขาลอบติดตามกระทั่งเข้าไปในห้องพักของโรงเตี๊ยมหมายรวบรัดนาง องครักษ์เงาที่ท่านอ๋องสั่งให้คอยติดตามคุ้มครองคุณหนูไป๋ยังไม่ทันเข้าช่วยเหลือ กลับเห็นนางดึงมีดออกจากใต้หมอนแทงคุณชายเฉินไปหนึ่งแผลจนสลบเหมือด”ยิ่งอ่านหยางมู่ยิ่งกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น แอบชำเลืองมองนายเหนือหัวเป็นระยะๆมิคาดจะเห็นแค่ดวงตาคมเฉี่ยวหรี่ลงอย่างอันตราย รอบกายแผ่ซ่านกลิ่นอายสังหารออกมาอย่างเข้มข้น กระนั้นผู้เป็นนายเพียงโบกมือให้เขารายงานต่อไป คล้ายรับรู้อยู่แล้วว่าสตรีของตนเป็นคนเช่นใด เรื่องที่คุณหนูไป๋กระทำลงไปออกจะไม่เหมาะสมและสุ่มเสี่ยงเหลือเกิน นางถึงขั้นกล้าหนีสมรสพระราชทาน โชคดียิ่งนักที่นางสามารถเอาตัวรอดได้“ยามนี้คุณหนูไป๋ถูกส่งตัวกลับจวนไป๋อย่างปลอดภัย ส่วนคุณชายเฉินถูกส่งตัวกลับจวนเฉินเช่นกัน เรื่องคืนนั้นล้วนเป็นความลับไม่มีผู้ใดล่วงรู้พ่ะย่ะค่ะ”“สั่งคนของเราให้จัดการเฉินเจีย
“พวกนางน่าเบื่อ มีเพียงเจ้าที่ข้าคะนึงหาเฝ้าฝันถึง”คิดถึงเพราะไม่ได้ครอบครองน่ะสิ!ไป๋เว่ยซินยิ่งดิ้นสุดแรงขัดขืนสุดชีวิต“เจ้าจะขัดขืนไปไย ในเมื่อเราเคยเป็นคนรักกัน”“แต่เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ล่วงเกินโดยที่คนเขาไปเต็มใจ”“ข้าไม่สน”“เจ้าคนชั่ว!” ไป๋เว่ยซินออกแรงปัดป้องทุกทาง เมื่อเฉินเจียหมิงยื่นหน้าตามติดประชิดอย่างหื่นกระหาย เขาทำตัวคล้ายคนถูกวางยามากระนั้นกำลังจะอ้าปากกรีดร้องให้คนมาช่วย พลันคิดได้ว่าการอยู่กับชายผู้นี้สองต่อสองในโรงเตี๊ยมยามดึกดื่น ทั้งยังอยู่บนเตียงนอนในสภาพหมิ่นเหม่ ต่อให้ไม่ถูกย่ำยีย่อมต้องถูกจับแต่งงานกับเขาอยู่ดีซึ่งนางไม่อาจยอม...ไป๋เว่ยซินจึงหยุดดิ้น ฝ่ามือน้อยๆ ลอบล้วงเข้าไปที่ใต้หมอนอย่างเชื่องช้าเฉินเจียหมิงยังคงยกยิ้มกรุ้มกริ่มแววตาโหยหา “เว่ยซิน เจ้ายอมข้าแล้ว? เจ้ายังรักข้าอยู่ ถูกต้องไหม? หืม”ลมหายใจร้อนผ่าวรินรดใบหูขาว กลางกายยิ่งเหยียดขยายแข็งขึงจนกล้ามเนื้อทุกส่วนขมวดเกร็งปวดตึง ท้องน้อยปวดหนึบรวดร้าว เนื้อตัวของเฉินเจียหมิงสั่นเทา เขาก้มหน้าสูดดมความหอมหวานที่ซอกคอนางอย่างรักใคร่“เว่ยซิน ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน เป็นของข้าเถิด...”ชายแดนฝั่ง
ชายหนุ่มสวมเสื้อผ้าลวกๆ สะบัดแขนเสื้อเดินจากไป ไม่ยอมรับความผิดของตน และไม่ยอมทนจนสิ้นแรงเด็ดขาดราตรียังคงมืดสลัว ในหัวยังคงมีภาพของใครบางคนใครคนนั้นคือคนที่เฉินเจียหมิงรักใคร่ด้วยใจจริง หากแต่มิอาจครอบครองดังปรารถนาทุกอย่างผิดพลาดที่ใด ทำไมถึงคลาดเคลื่อนไปหมดชายหนุ่มให้รู้สึกคิดถึงสตรีผู้เป็นรักแรกพบสุดหัวใจไป๋เว่ยซินผู้เรียบร้อยอ่อนหวาน นางเป็นสตรีผู้งดงามทั้งกายใจ เขาทำนางหลุดมือไปอย่างน่าเสียดายเหลือเกินคิดแล้วก็ยิ่งทำใจมิได้ เมื่อได้ตระหนักรู้ซึ้งแล้วว่าแท้จริงชินอ๋องมิใช่แค่สหายของไป๋เว่ยซิน หากแต่พระองค์กลับหมายมาดในตัวนาง ถึงขั้นมีสมรสพระราชทานตัดหน้า เขาที่คิดหย่าขาดเพื่อแต่งงานใหม่กับนางจึงเป็นโมฆะแววตาเฉินเจียหมิงฉายแววอาดูร ยิ่งคิดว่าหมดสิทธิ์ในตัวไป๋เว่ยซินแล้วโดยสิ้นเชิงก็ยิ่งเผยความเจ็บปวดชอกช้ำทั้งกายใจ มิรู้ว่าตัวเขาเดินออกมาจากจวนเฉินตั้งแต่เมื่อใด รู้ตัวอีกทีก็มายืนอยู่หน้าประตูจวนไป๋แล้วแน่นอนว่าชายหนุ่มไม่อาจเข้าไปหานางในดวงใจได้ทางประตูใหญ่ เขาจึงหมุนกายเดินไปเรื่อยๆ จนถึงประตูข้าง เผื่อมีวาสนาลอบเข้าไปหานางสักคราเฉินเจียหมิงเลือกประตูข้างตรงมุมอับท้ายจว
อาทิตย์อัสดง ค่ำคืนมาเยือน ไป๋เว่ยซินผู้มาจากศตรวรรษที่21 ผู้ไม่สันทัดการยินยอมคลุมถุงชนเฉกกุลสตรีในยุคสมัยนี้จึงตัดสินใจหนี นับว่าโชคดีที่ไป๋เว่ยซินคนเก่าเป็นคนอ่อนหวาน เรียบร้อยนุ่มนวลและหัวอ่อน ไม่เคยขัดคำสั่งใครเลยสักครา ต่อให้ผู้นั้นเป็นพี่ป้าน้าอามิใช่บิดามารดาก็ตาม ดังนั้น เรื่องที่ไป๋เว่ยซินคนนี้คิดต่อต้านถึงขั้นคิดหนี ย่อมไม่มีใครคาดถึง บ่าวไพร่เวรยามตรึงกำลังอันใดจึงไม่มีทางสะดวกอย่างยิ่งห่อผ้าถูกแอบเตรียมเอาไว้อย่างดี หญิงสาวห่มผ้ามิดชิดทั้งลำตัวถึงลำคอแสร้งหลับสนิทเพื่อให้สาวใช้ตายใจ เมื่อคำนวณเวลาคาดว่าทุกเรือนดับเทียนแล้วนางจึงลุกขึ้นมาสวมเสื้อผ้าสีฟ้าเทาของเสี่ยวฉงที่นางลอบขโมยมา ทุกเส้นทางถูกสำรวจไว้อย่างดี ทางหนีทีไล่ถูกจดจำไว้ขึ้นใจ ใช้เวลาไม่นาน นางก็สามารถออกมาจากจวนไป๋ได้ทางประตูข้างมุมอับท้ายจวนค่ำคืนอากาศเย็น เหมาะแก่การพักผ่อนในที่อบอุ่นทว่าเรือนหนึ่ง ชายหญิงคู่หนึ่งกลับไม่ยอมนอน เอาแต่สร้างความอบอุ่นถึงขั้นกรุ่นร้อนบนเตียงกว้างเสียงครวญครางเกิดขึ้นเนิ่นนาน เรียวขาพวกเขาเกาะเกี่ยวรัดรึง เอวสอบขยับขึ้นลง ส่งตัวตนเข้าออกรุนแรงจนสะโพกกลมกลึงสั่น
บุรุษให้รู้สึกร้อนรุ่มดั่งมีไฟสุมทรวง เมื่อได้รู้เรื่องของสตรีที่เขาอยากได้เป็นภรรยามิเสื่อมคลายขอฟ้าดินเป็นใจ ให้สวรรค์เป็นพยานจะเป็นไปได้หรือไม่หากเขาจะทำอะไรบางสิ่งเพื่อให้ได้สตรีคนเดิมของตัวเองกลับคืนมา นางควรเป็นของเขา ไม่ควรเป็นของใครทั้งนั้น มุมปากบุรุษผุดรอยยิ้มร้าย แววตาเข้มหื่นกระหาย เขารีบทำตามหัวใจที่หมายมาดทันทีเฉินเจียหมิงนับแต่จวนไป๋ได้สมรสพระราชทานอย่างไม่คาดฝัน ทั้งของหมั้นแพรพรรณเครื่องเคลือบเครื่องเรือนเครื่องประดับอัญมณีสิ่งของล้ำค่าเคลื่อนขบวนยาวสุดตรอกทะลุตลาด คนทั้งจวนสกุลไป๋ก็แทบโบยบินเหมือนติดปีกกันถ้วนหน้า ประตูจวนเปิดอ้าเพื่อต้อนรับมิตรสหายเข้ามาร่วมยินดีไม่เว้นวัน ญาติสายตรงสายรองบ้านสองบ้านสามมากันครบครัน ผู้คนล้วนอิจฉาริษยาและชื่นมื่นเปรมปรีด์มีเพียงไป๋เว่ยซินที่ไม่มีความรู้สึกร่วม นางมิได้รับอนุญาตให้ออกจากจวนแม้ครึ่งก้าว‘จงเก็บตัวอยู่แต่ในเรือน ห้ามให้ใครยลโฉมแม้สักคน รอถึงวันมงคลค่อยออกจากจวนมาขึ้นเกี้ยวคราเดียวเลย เข้าใจไหม?’คำสั่งนี้ถูกเอ่ยออกมาอย่างเด็ดขาดจากประมุขจวน บ่าวไพร่ทุกคนจึงเคร่งครัดบำรุงบำเรอว่าที่เจ้าสาวเท่าชีวิตในขณะที่ไป๋เว่ย
“อายุไม่ใช่ปัญหา ข้าสนใจคนผู้นี้”“ท่านพี่!” ฮูหยินใกล้จะเป็นลมแล้วบุรุษถอนหายใจเอือมระอา “เจ้าอย่าได้ตื้นเขิน รายงานบอกแล้วว่าเขาต้องการเกษียณตัวเองไปใช้บั้นปลายชีวิตกับภรรยา เห็นได้ชัดว่าร่างกายของเขาไม่ไหวแล้ว อาจตายเร็วๆ นี้ก็ได้ ถ้าบุตรสาวของเราได้แต่งงานกับเขา และหากเขาตาย สมบัติมากมายจะไปไหนเสีย?”ในฐานะมารดาและสตรีด้วยกัน ไป๋ฮูหยินรู้สึกไม่ยินดีแม้แต่น้อย “ท่านพี่ นี่คือความสุขชั่วชีวิตของเว่ยซิน ท่านจะให้นางเอาความสวยความสาวไปทิ้งตั้งแต่อายุสิบหกหรือไร แล้วชีวิตที่เหลือหลังจากนี้อีกมากกว่าห้าสิบปีเล่า?”ภรรยามิอาจไม่เชื่อฟังสามี สตรีมิอาจเหนือกว่าบุรุษ แต่ยามนี้ไป๋ฮูหยินรู้สึกอยากตบศีรษะชายตรงหน้าอย่างยิ่งภรรยาที่สามีตายตั้งแต่ยังไม่มีบุตร หากไม่ตายตาม ย่อมต้องบวชชี ใช้ชีวิตในอารามตลอดปีตลอดชาติ“โธ่เอ๋ย! เว่ยซินคงตั้งครรภ์ก่อนเขาตายกระมัง”ไป๋หลิงเซียวเอ่ยอย่างวาดหวัง“แล้วถ้าไม่ตั้งครรภ์เล่า” ไป๋ฮูหยินแทบหลั่งน้ำตา “ข้าแต่งกับท่านที่หนุ่มแน่นยังใช้เวลาสองปีกว่าจะตั้งครรภ์ แต่ใต้เท้าหย่งผู้นั้นกับภรรยาเก่าเป็นคนที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ทั้งยังไม่มีลูกด้วยกัน เห็นได้ชัดว่าปัญหา

![จะไม่ทนกับบทบาทนางร้าย [รีไรท์ตอนจบ]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)





