Beranda / รักโบราณ / จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล / ตอนที่ 16 เป็นยอดฝีมือก็จำเป็นต้องใช้เงิน

Share

ตอนที่ 16 เป็นยอดฝีมือก็จำเป็นต้องใช้เงิน

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-06 00:07:42

 แม้นางจะเป็นผู้ครอบครองพลังอันล้ำลึก เยือกเย็นพอจะแช่แข็งโลกทั้งใบ…แต่ในยามนี้ ไป๋เสวี่ยหรง กลับต้องเผชิญกับปัญหาอันพื้นฐานที่สุดของโลกมนุษย์นั่นก็คือเงิน นางหยิบถุงผ้าขนาดเล็กออกมาจากเสื้อพลิกเปิดออกก่อนจะเทเหรียญจำนวนน้อยนิดลงบนฝ่ามือเสียง “กริ๊ง” เบา ๆ ดังขึ้น แต่ฟังดู… เงียบงันอย่างน่าใจหาย

นับรวมทั้งหมด ก็ยังไม่เพียงพอแม้แต่จะเช่าห้องพักในโรงเตี๊ยมเล็ก ๆ ได้หนึ่งคืนไม่ต้องพูดถึงค่าอาหาร หรือวัตถุดิบสำหรับการหลอมโอสถหรือสร้างอาวุธนับประสาอะไรกับการเข้าร่วมประมูลของล้ำค่า หรือซื้อข้อมูลข่าวสารในเมืองหลวง

ไป๋เสวี่ยหรงถอนหายใจอย่างเงียบงัน

“มีพลังมากมายมหาศาล… แต่กลับไม่มีเงินพอจะซื้อซาลาเปาร้อน ๆ ได้สักลูก”นางคิดในใจอย่างเหนื่อยหน่ายปนขำ แม้นางจะมีพลังเพียงพอที่จะยึดทุกอย่างได้ด้วยกำลังแต่สำหรับนางแล้วเกียรติและศักดิ์ศรีของผู้เหนือกว่าทุกสิ่ง… ไม่จำเป็นต้องแลกกับเศษเงินจากการข่มเหงผู้อื่นสิ่งที่นางต้องการไม่ใช่เพียงเงินแต่คือ เส้นทางที่นางจะก้าวเข้าสู่โลกภายนอกอย่างสง่างามในแบบของนางเอง ยามที่ขุนเขาเยือกแข็งเคลื่อนตัวเข้าสู่เมืองใหญ่ย่อมไม่มีใครล่วงรู้ได้เลยว่า... คลื่นพายุลูกใหม่กำลังจะเริ่มต้นจาก หญิงสาวที่แทบไม่มีเงินติดตัว คนนี้

ทันทีที่ ไป๋เสวี่ยหรง ก้าวเท้าเข้าสู่เขตประตูเมืองหลวงสายตาของนางที่เยือกเย็นมั่นคงมาตลอดทางกลับ สั่นไหวเล็กน้อย ราวกับจิตใจสะดุดกับบางสิ่งที่ยากจะกล่าวออกมาเบื้องหน้าคือเมืองหลวงอันกว้างใหญ่โอ่อ่ากำแพงสูงตระหง่านทอดยาวสุดสายตาผู้คนหลั่งไหลเข้าออกไม่ขาดสายเสียงกลองประจำยามดังแว่ว เสียงล้อเกวียน เสียงแม่ค้าขายของประสานกันกลายเป็นเสียงชีวิตที่คึกคักกลิ่นเครื่องเทศจากโรงน้ำชาเสียงเคาะเหล็กจากโรงตีอาวุธเสียงหัวเราะของเด็กน้อยที่วิ่งไล่กันไปตามตรอกหินทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม...เหมือนดั่งวันวานเมื่อกาลก่อน ที่นางเคยยืนอยู่ตรงนี้

แม้เวลาจะหมุนผ่านไปนับสิบปี...แต่กลิ่นอายของเมืองนี้… ยังคงอบอวลไม่เปลี่ยน แววตาของนางทอดมองไกลออกไปร้านค้าเดิมบางแห่งได้หายไปแล้วโรงเตี๊ยมที่เคยรุ่งเรืองกลายเป็นร้านขายเครื่องประดับราคาถูกผู้คนที่เคยคุ้นตา ล้วนหายไปแต่ก็มีร้านใหม่ ผู้คนใหม่ กำลังเติมเต็มความคึกคักที่ไม่เคยจางแม้นางจะอยู่ในร่างของหญิงสาววัย 20 ปีผิวพรรณนวลเนียน รอยยิ้มอ่อนบาง ดวงตาสงบนิ่งแต่ภายในดวงจิตของนางคือดั่ง ท้องทะเลน้ำแข็งพันปีที่เคยผ่านพายุรุนแรงที่สุดมาแล้ว และยังคงไม่แตกสลาย

ไป๋เสวี่ยหรง เดินช้า ๆ ผ่านประตูเมืองไม่เร่งรีบ แต่เปี่ยมด้วยอำนาจที่มองไม่เห็นฝีเท้าของนางไม่มีใครสังเกตแต่ผู้คนที่เดินสวนทางกลับ หันไปมองนางโดยไม่รู้ตัว ราวกับแรงดึงดูดบางอย่างที่สะกดวิญญาณนางยังไม่รู้ว่า…ขณะนี้เอง การปรากฏตัวของนางได้สั่นคลอนดวงชะตาของเมืองหลวงไปแล้วหนึ่งส่วน

ภายใต้เสียงจอแจของตลาดกลางเมืองหลวงกลิ่นเครื่องเทศและเสียงต่อราคาสินค้าคละคลุ้งอยู่ในอากาศไป๋เสวี่ยหรง เดินทอดน่องอย่างไม่เร่งรีบปล่อยให้สายตากวาดมองรอบด้านทั้งผู้คน ทั้งบรรยากาศ ทั้งร้านรวงที่ตั้งเรียงราย

แต่แล้ว...

"อืม..." แววตาของนางพลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย “เกือบลืมไป… ข้ายังมีสิ่งของ 'ล้ำค่า' อยู่นี่นา”

นางเอื้อมมือเข้าไปในแขนเสื้อ หยิบถุงผ้าเล็กสีเทาเข้มออกมาจากมิติพกพาแสงเย็นวาบเบา ๆ ราวกับกลิ่นอายแห่งความตายแทรกซึมออกมาจากภายในถุงในนั้นคือชิ้นส่วนสำคัญของ “จักรพรรดิแมงมุมอสูร” สัตว์อสูรระดับตำนานที่แม้แต่ยอดฝีมือยังหลีกเลี่ยงกรงเล็บซ้ายของมันต่อมน้ำพิษเส้นใยวิญญาณและแกนกลางพลังอสูรขนาดเท่ากำปั้น...

"ข้าคงต้องเริ่มต้นหาโรงประมูล… หรือร้านประเมินของล้ำค่าเสียแล้ว" สายตาของไป๋เสวี่ยหรงเริ่มมองหาจุดหมายไม่ใช่ร้านค้าทั่วไปที่วางสมุนไพร หรือผ้าไหมธรรมดาแต่เป็นสถานที่ที่ผู้มีอำนาจใช้แลกเปลี่ยนสมบัติล้ำค่าที่ซึ่งเงินทองสะพัด และข่าวลือคือสิ่งล้ำค่ายิ่งกว่าอาวุธโรงประมูลหลักของเมืองหลวง

โรงประมูลแห่งนี้ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางย่านการค้าชั้นสูงของเมืองหลวง อาคารสูงเจ็ดชั้นสร้างจากหินวิญญาณดำล้วน แวววาวดั่งอัญมณีในยามต้องแสง กลิ่นอายของพลังสะท้อนอยู่ในอากาศรอบบริเวณ แม้เพียงแค่ยืนใกล้ ๆ ก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันบางอย่างที่แฝงอยู่ในรากฐาน ภายในห้องนิทรรศการลับ ชั้นลึกสุดของโรงประมูลซากร่างของ จักรพรรดิแมงมุมอสูร ถูกแช่แข็งอยู่ภายในโดมน้ำแข็งวิญญาณขนาดใหญ่เปล่งประกายสีเงินอ่อนดุจดวงจันทร์ที่ถูกจองจำตลอดกาล

ร่างอสูรยักษ์นั้นยังคงความน่าเกรงขามแม้มันไร้ชีวิตแม้เวลาจะผ่านไปถึง 5 ปีแม้ผู้คนจะไม่สามารถสัมผัสปราณจากมันได้อีกแล้วแต่เพียงแค่มองหัวใจของผู้ฝึกตนหลายคนยังสะท้านแต่… หากสังเกตอย่างละเอียดชิ้นส่วนสำคัญของมัน หายไป ทั้งหมด กรงเล็บหลักที่สามารถฉีกเกราะวิญญาณระดับสูง ต่อมน้ำพิษที่เชื่อกันว่าหลอมโอสถได้ระดับสวรรค์ แกนกลางวิญญาณอสูรที่อัดแน่นด้วยปราณพันปีใยวิญญาณที่ไร้ผู้ใดลอกเลียนได้

เจ้าโรงประมูล คือชายวัยกลางคน ดวงตาคมเฉียบ สีหน้าเย็นชาอยู่เป็นนิจแต่ยามเขาเดินผ่านซากร่างอสูรนี้ สีหน้าของเขาจะเปลี่ยนไป “ช่างน่าเสียดาย... หากได้ชิ้นส่วนเหล่านั้นมาด้วย ราคาจะสามารถสะเทือนทั้งแผ่นดินได้” เขาเคยเชื่อมาโดยตลอดว่าผู้ที่สามารถสยบอสูรในตำนานนี้ได้คือ ฉินเยว่หาน เซียนน้ำแข็งในยุคปัจจุบัน.

"พลังเยือกแข็งระดับนั้น ทั้งยังคงสภาพศพได้สมบูรณ์แบบ ไม่มีใครอื่น... ไม่มีทาง"จนกระทั่งวันนี้...ขณะที่เขากำลังเดินตรวจสอบระบบพลังปราณรอบโดมน้ำแข็งพลังเย็นเยียบชนิดหนึ่ง… ที่แหลมคมและลึกซึ้งยิ่งกว่า จู่ ๆ ก็ไหลเข้ามาในขอบเขตรับรู้ของเขาไม่ใช่พลังเยือกแข็งธรรมดาแต่มันมีระดับความเสถียรที่ลึกล้ำเกินขอบเขตของเซียนเยว่หานเสียด้วยซ้ำ

“...ใครกัน?” ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเขาหันตัวออกจากชั้นลึก เดินขึ้นอย่างเร่งรีบก้าวเท้าฉับไว ราวกับจิตสัมผัสของเขากำลังถูกกระชาก“ข้าอาจ… จะได้พบเจ้าของชิ้นส่วนที่ขาดหายไปเสียที”

เบื้องหน้าของโรงประมูลหญิงสาวในชุดเรียบง่าย สะพายถุงผ้าสีซีด เดินทอดเท้าเข้ามาอย่างสงบนิ่งรูปลักษณ์ของนางนั้นงดงามและดูสูงส่งไม่เพียงแค่นั้นเมื่อผู้ฝึกตนระดับสูงคนใดมองนาง...พวกเขาจะรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างเย็นยะเยือก... ลึกล้ำ... และน่าหวาดหวั่นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

และในวินาทีนั้นเองเจ้าโรงประมูลก็หยุดอยู่ตรงบันไดดวงตาของเขาเบิกโพลง จับจ้องไปยังหญิงสาวผู้นั้นอย่างไม่กะพริบ"นาง... นางคือคนที่ตัดชิ้นส่วนนั้นไป...!"ไม่ใช่เพราะพลังของนางเพียงอย่างเดียวแต่เป็น...กลิ่นอายของ "แกนพลังอสูรจักรพรรดิ" ที่นางพกติดตัวมาด้วยมันประทับอยู่ในพลังของนางแหล่งเดียวกับซากศพเบื้องล่าง ไม่มีผิดเพี้ยน

“เชิญคุณหนูเข้าด้านใน...” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเปลี่ยนไปเป็นสุภาพลึกแววตาฉายความเคารพและความตื่นตระหนกเพราะเขารู้ดี…คนที่กำลังยืนอยู่เบื้องหน้าของเขานี้ ไม่ใช่แค่ ‘เจ้าของชิ้นส่วน’ เท่านั้นแต่คือ ตัวตนที่สามารถโค่นจักรพรรดิอสูรได้เพียงลำพัง

ภายในห้องรับรองพิเศษที่ถูกสร้างขึ้นด้วยหินวิญญาณระดับสูง ผนังทั้งสี่ด้านถูกล้อมด้วยม่านพลังกันเสียงและพลังตรวจจับทุกรูปแบบ แสงเทียนส่องแผ่วเบาให้บรรยากาศขึงขังและสงบสุขอย่างที่สุดแต่ในเวลานี้ความสงบเหล่านั้นกลับถูก แรงกดดันบางอย่าง กลืนกินไปจนหมดสิ้น

เจ้าของโรงประมูล คือชายวัยกลางคนที่ผ่านการพบเจอเหล่าขุนพล ราชสำนัก เซียนผู้ฝึกตนจากทั่วทุกแคว้นมานับไม่ถ้วนเคยยืนอยู่ต่อหน้าจักรพรรดิผู้กุมอำนาจครึ่งแผ่นดินแต่ในวันนี้…

มือของเขากลับสั่นเทา… ไม่ใช่ด้วยความเครียด แต่ด้วยความกลัว ที่แทรกซึมลงในกระดูกเบื้องหน้าของเขาคือหญิงสาวร่างบางในชุดเรียบง่ายไร้เครื่องประดับ…ไร้บ่าวรับใช้…ไร้ตราสัญลักษณ์ตระกูลใด ๆ

แต่รูปลักษณ์ของนางกลับโดดเด่นเกินคำว่า สามัญ ผิวพรรณงดงามประหนึ่งหยาดน้ำค้างในฤดูหนาวดวงตาคู่นั้น… เยือกเย็นสงบแต่ลึกเกินหยั่งการเคลื่อนไหวทุกก้าวของนางราบเรียบ ดั่งลมหนาวที่ไร้เสียงแต่กลับบีบหัวใจของผู้มองให้สั่นสะท้านอย่างประหลาด

เจ้าของโรงประมูลกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากภายในใจเขาโหมกระหน่ำไปด้วยความคิดที่เขาไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยออกมา

“นาง… นี่มันไม่ใช่เพียงแค่ผู้มากฝีมือ...นี่มันคือ เซียนเยือกแข็งที่แท้จริง…” พลังงานที่แผ่ออกมาจากร่างของนางแม้เพียงเบาบาง แต่กลับ บริสุทธิ์และคมกริบเหมือนผลึกน้ำแข็งที่ถูกสลักมาเป็นหมื่นปีปราณเยือกแข็งที่แฝงในอากาศรอบตัวนาง… บริสุทธิ์จนแทบจะขาวสะอาดเกินขอบเขตธรรมดาของผู้ฝึกตนใด ๆ

“เป็นไปไม่ได้… พลังเยือกแข็งของเซียนเยว่หานยังไม่ถึงเพียงนี้หรือว่า...นางเป็นปีศาจเฒ่าที่หลบซ่อนอยู่ในร่างเด็กสาว?”

เขายิ่งเพ่งมอง สีหน้าเยือกเย็นของนางก็ดูเหมือนจะแย้มยิ้มออกมาเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มบางเบา… แต่เปี่ยมไปด้วยความ เหนือชั้นราวผู้มองโลกมานับร้อยปีชายผู้เป็นเจ้าของโรงประมูลก้มศีรษะลงอย่างช้า ๆ ดวงจิตของเขาสั่นสะท้านด้วยความเคารพอย่างแท้จริงนางคือผู้ที่สามารถกำราบ จักรพรรดิแมงมุมอสูร ได้ด้วยตนเองและตอนนี้ นางมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาด้วยตนเอง… พร้อมด้วย ชิ้นส่วนที่หายไป

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 91 ครอบครัวพร้อมหน้า (จบ)

    ในช่วงเวลาที่ ไป๋เสวี่ยหรง พำนักอยู่ในสำนักหุบเขาเทพยุทธน้ำแข็ง นางมิได้เพียงมาเพื่อพักผ่อนหรือชำระความแค้นเท่านั้น แต่ยังถือโอกาสรังสรรค์สิ่งล้ำค่าไว้ให้สำนักแห่งนี้ตำราทักษะวิชาเยือกแข็งเล่มใหม่ที่นางบรรจงเขียนด้วยมือของนางเองทักษะที่ถูกจารึกลงในตำรานั้นมีความลึกซึ้งอย่างหาใดเปรียบได้ มันมิใช่เพียงศาสตร์แห่งการต่อสู้ แต่ยังเป็นผลรวมของประสบการณ์ ความเจ็บปวด และสัจธรรมที่นางสะสมมาตลอด ย่อมเป็นสิ่งที่เจ้าสำนักคนก่อนอย่าง ฉินเยว่หาน มิอาจเทียบชั้นได้แม้เพียงเศษเสี้ยว"สำหรับสำนักหุบเขาเทพยุทธน้ำแข็งแห่งนี้ ข้าจะเป็นผู้วางรากฐาน... แต่ปล่อยให้มันเติบโตด้วยพลังของพวกเจ้าเอง" ไป๋เสวี่ยหรงกล่าวอย่างแผ่วเบา ขณะส่งมอบตำราให้กับ จิ่วเยว่ซิน ศิษย์ผู้ได้รับความไว้วางใจมากที่สุด"จิ่วเยว่ซิน... ต่อไปนี้เจ้าจงดูแลสำนักของข้าให้ดี" น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความอ่อนโยนที่หาได้ยากยิ่งในโลกแห่งยุทธ์"ท่านอาจารย์... ตัวท่านจะไปแล้วจริงๆ เหรอ" หญิงสาวเอ่ยถามด้วยแววตาที่เปี่ยมด้วยอาลัย แม้เวลาที่รู้จักกันจะไม่นาน แต่ไป๋เสวี่ยหรงคือผู้เปลี่ยนชะตาชีวิตของนาง จากหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความสับสน สู่ผู้ครอบครอง

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 90 ตำนานของสองเพื่อนรัก

    ใต้ท้องฟ้าสีเทาเงิน ผืนหิมะที่ปกคลุมผาแห่งการสิ้นสุดยังคงหล่นโปรยราวกับร่วมไว้อาลัยให้กับจุดจบของตำนานหนึ่ง... และมิตรภาพที่ไม่มีวันหวนกลับไป๋เสวี่ยหรงยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางเศษน้ำแข็งที่ยังคงล่องลอย ร่างบางของนางไม่ขยับเขยื้อน ราวกับกลายเป็นรูปสลักน้ำแข็งอีกหนึ่งชิ้นในสถานที่แห่งนี้ สายตาที่ทอดยาวออกไปเบื้องหน้าช่างว่างเปล่า แต่ภายในเบื้องลึกของแววตานั้นคือกระแสความรู้สึกมากมายที่ถาโถมย้อนกลับมาทุกเสียงหัวเราะ ทุกหยาดน้ำตา ทุกคำสัตย์ที่เคยให้กันในวัยเยาว์"ข้าไม่อยากให้เรื่องของเรามันจบลงเช่นนี้เลย... เพื่อนรักของข้า"เสียงของนางเบาราวสายลม ละมุนราวบทกลอนส่งท้าย ดั่งคำอำลาที่ไม่มีผู้รับฟังแม้ศัตรูจะสิ้นสูญ แม้การล้างแค้นจะสัมฤทธิ์ แต่นางไม่ได้รู้สึกถึงชัยชนะ หากมีเพียงความว่างเปล่าอันแหลมคมทิ่มแทงอยู่ในอกลึก เพียงลมหายใจเดียวต่อมา ไป๋เสวี่ยหรงก็ปิดเปลือกตาลงอย่างแผ่วเบา เสี้ยวความทรงจำของฉินเยว่หานในหัวใจของนางค่อย ๆ เลือนลางลง ราวกับว่าไม่เคยมีสตรีนางนั้นอยู่บนโลกใบนี้มาก่อน ไม่เคยมีเสียงหัวเราะร่วมกัน ไม่เคยมีมือที่เคยจับไว้ในยามทุกข์เมื่อดวงตางามคู่นั้นลืมขึ้นอีกครั้ง ก็ไม่มีแม้แต่เ

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 89 ชำระแค้น

    ในยามนี้ ทั่วทั้งสำนักเงียบงันราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน...เหล่าศิษย์และผู้อาวุโสแห่งหุบเขาเทพยุทธน้ำแข็ง ต่างยืนตัวแข็งทื่อลมหายใจสะดุด ใบหน้าซีดเผือด มือไม้เย็นเฉียบไม่มีผู้ใดกล้าเอื้อนเอ่ยคำใดออกมาภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้า...มันเหนือความเข้าใจและเกินกว่าจินตนาการ นางเซียนเยือกแข็งเจ้าสำนักผู้เป็นเสมือนสัญลักษณ์แห่งสวรรค์ของพวกเขาบัดนี้กลับมีผู้กล้าสตรีนิรนามผู้มีใบหน้าอ่อนวัย ยืนหยัดต่อกรกับนางอย่างไม่หวั่นไหวและไม่ใช่แค่ท้าทาย... แต่กลับสามารถต้านรับแรงกดดันของเจ้าสำนักได้อย่างไม่ขาดตก"นางผู้นั้นเป็นใคร?""เหตุใดพลังของนางถึง...ไม่ธรรมดาถึงเพียงนี้?"เสียงกระซิบของเหล่าศิษย์เริ่มดังขึ้นประปรายด้วยความตื่นตระหนกแม้แต่ผู้อาวุโสระดับสูงบางคนก็เริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นกลางหน้าผาก ทั้งที่อากาศยังเย็นยะเยือกรัศมีพลังเยือกแข็งของหญิงสาวปริศนาแผ่กระจายออกไปอย่างมั่นคงเยียบเย็น... ลึกซึ้ง... แน่นิ่งดั่งมหาสมุทรใต้ธารน้ำแข็งหากพลังของฉินเยว่หานคือห่าหิมะที่โหมกระหน่ำพลังของหญิงสาวผู้นั้น...กลับคล้ายหิมะที่หลับใหลมานับพันปี รอเพียงปริบตาเดียวก็พร้อมแช่แข็งโลกทั้งใบศิษย์ตาต่ำพวกเขามองไ

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 88 ไม่มีอะไรที่จะต้องพูดกันอีก

    ภายใต้ใบหน้าอันงดงามดุจนางเซียนของฉินเยว่หาน ซึ่งมักจะสงบนิ่งไม่ไหวติงต่อสิ่งใด ในยามนี้กลับฉายแววตื่นตะลึงอย่างปิดไม่มิดไม่ใช่เพราะพลังอันมหาศาลของหญิงสาวเบื้องหน้า แต่เป็นเพราะคลื่นพลังนั้นช่างคุ้นเคย… คุ้นจนเกินจะหลอกตัวเองได้"เป็นไปไม่ได้... มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน?"นางพึมพำซ้ำไปมา ราวกับพยายามสลัดความจริงที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าให้หลุดออกจากจิตใจ หญิงสาวปริศนา ผู้มีใบหน้าเยาว์วัยราวเด็กสาวเพิ่งแตกเนื้อสาวกลับยืนประจันหน้ากับนางอย่างไม่เกรงกลัว ดวงตาคู่นั้นคมดั่งกระบี่น้ำแข็ง จ้องลึกเข้ามาในหัวใจของผู้เคยเป็นเพื่อนรัก"เป็นอย่างไรบ้าง ฉินเยว่หาน... เจ้าดูแก่ขึ้นมากเลยนะ"เสียงหวานนุ่มดังขึ้นราวกับสายลม คำทักทายธรรมดา กลับกลายเป็นคมมีดกรีดลงกลางใจของฉินเยว่หานอย่างแผ่วเบาแต่รุนแรง ใบหน้าเยือกเย็นของนางเริ่มสั่นไหว มือขาวกำแน่นจนเล็บจิกฝ่ามือคลื่นพลังลมปราณที่แผ่ออกมา ไม่ผิดแน่…เป็นพลังของ หลานเสวี่ยอิง ผู้ที่นางเคยคิดว่าได้ส่งลงนรกไปแล้วด้วยมือของตนเองสองเท้าที่เคยมั่นคงของฉินเยว่หาน บัดนี้กลับเหมือนเหยียบอยู่บนผืนหิมะบางที่พร้อมจะถล่มลงทุกเมื่อสายตาของนางจ้องลึกเข้าไปในดวงหน้าของหญิง

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 87 อดีตเพื่อนรักของข้า

    ทุกท่วงท่า ทุกการเคลื่อนไหวของจิ่วเยว่ซินล้วนแล้วเฉียบคมไร้ปรานี พลังลมปราณที่แผ่ออกมาแต่ละระลอกนั้นแฝงไว้ด้วยเจตนาแห่งการสังหารอย่างชัดเจน การโจมตีทุกครั้งมิใช่เพียงเพื่อทดสอบฝีมือ หากแต่เป็นการประลองเพื่อปลิดชีพโดยแท้ หากฉินเยว่หานพลั้งเผลอแม้เพียงครึ่งก้าว ก็อาจต้องสูญสิ้นชีวิตยิ่งเวลาผ่านไป รูม่านตาของฉินเยว่หานก็ค่อย ๆ ขยายกว้างขึ้น แววตาที่เคยสงบนิ่งเริ่มสะท้อนแววหวั่นไหวอย่างห้ามไม่อยู่ การเคลื่อนไหวของจิ่วเยว่ซินเริ่มทับซ้อนกับภาพจำบางอย่างในอดีต ภาพของสตรีผู้หนึ่ง... สตรีที่นางพยายามลบเลือนจากห้วงความคิดมานานหลายสิบปีหลานเสวี่ยอิงนามนั้นแม้จะถูกกลบฝังในก้นบึ้งของสำนึก แต่มันก็ผุดขึ้นมาราวกับต้องมนต์สะกด ไม่มีสิ่งใดสามารถปิดบังความรู้สึกคุ้นเคยนี้ได้อีกต่อไปแต่ก่อนที่ฉินเยว่หานจะถลำลึกไปในห้วงคิด ทักษะของจิ่วเยว่ซินก็พลันจู่โจมเข้ามาอีกระลอก ความคุ้นชินในเคล็ดวิชาเยือกแข็งที่นางเคยสอนกลับถูกแก้ทางอย่างแนบเนียนทีละชั้น ทักษะที่นางเคยภาคภูมิใจกำลังถูกลบล้างด้วยปลายนิ้วของศิษย์สาวผู้เป็นความภาคภูมิใจของนางเอง“นี่ข้า... กำลังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบโดยศิษย์ของตนเองอย่างนั้นหรือ?”

  • จันทราพยัคฆ์จอมนางรัตติกาล   ตอนที่ 86 นางคิดลอบสังหารฆ่าเหรอ

    ใต้แสงสลัวของตำหนักน้ำแข็ง ดวงตาของจิ่วเยว่ซินฉายแววอ่อนโยนเช่นเคย รอยยิ้มยังคงงดงาม ทว่าภายในนั้นคือความเยียบเย็นที่แม้หิมะพันปียังมิอาจเทียบเคียงได้ นางยืนอยู่เบื้องหน้าอาจารย์ผู้เลี้ยงดูและหล่อหลอมตนมาแต่เล็กผู้หญิงที่นางเคยบูชาเทียบเท่าฟ้าดิน และในเวลาเดียวกันคือผู้ที่ล้างผลาญครอบครัวของนางทั้งตระกูลนางรู้ดีว่าภาพลักษณ์ภายนอกที่แสดงออกจะต้องไร้ที่ติทุกกระเบียดนิ้ว เพราะสายตาของฉินเยว่หานนั้นแหลมคมเกินกว่าที่ใครจะตบตาได้โดยง่าย แม้จะอ่อนโยนแต่ก็ซ่อนพิษลึก ราวกับกลีบเหมยบนผืนน้ำแข็ง หากเพียงเผลอสัมผัสอาจถูกหนาวสะท้านถึงวิญญาณ"จิ่วเยว่ซิน ข้ารู้สึกชอบแววตาของเจ้าในตอนนี้ยิ่งนัก"เสียงของฉินเยว่หานดังขึ้น เงียบงัน ทว่าเจือด้วยความพึงพอใจความพึงพอใจของผู้ที่คิดว่าตนสามารถหล่อหลอมชีวิตผู้อื่นตามอำเภอใจได้เสมอคำชมที่เปี่ยมด้วยความเชื่อมั่นนั้น กลับเป็นเหมือนมีดที่กรีดลงกลางหัวใจของจิ่วเยว่ซิน ช่างน่าขันยิ่งนัก… แม้แต่แววตาที่ผ่านความเกลียดชังและการทรยศมาแล้ว ยังถูกหล่อนชมด้วยรอยยิ้มหญิงสาวสูดลมหายใจแผ่วเบา ก่อนกล่าวเสียงนุ่ม"เจ้าค่ะอาจารย์"คำพูดของนางยังคงสุภาพและสงบ ราวกับไม่มีอะไรเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status