แชร์

บทที่ 19

ผู้เขียน: หรูซื่อ
วินาทีที่ริมฝีปากซ้อนทับกัน รูม่านตาของโจวจี้หลิ่นก็หดลงทันที

นี่เป็นจูบแรกของพวกเรา

ก่อนหน้านี้ฉันเคยจูบเขา แต่ก็แค่จูบที่ใบหน้า

เขาเงยหน้าขึ้นและกดท้ายทอยของฉันไว้ เพื่อเพิ่มจูบนี้ให้ลึกซึ้งมากขึ้น หลังจูบกันสักพัก เขาก็พลิกตัวให้ฉันนอนบนเตียง จากนั้นก้มลงมาจูบที่ริมฝีปากของฉันอย่างบ้าคลั่ง

ราวกับเสือที่ดุร้าย

บรรยากาศเปลี่ยนเป็นร้อนระอุขึ้นมา

“หลินหลิ่น หลินหลิ่น” ฉันรู้สึกหายใจไม่ออกเล็กน้อย ลิ้นก็ชาไปหมด จึงยกมือขึ้นไปดันหน้าอกของเขาไว้ ด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ “พวกเรารีบไปหน่อยหรือเปล่า?”

ดวงตาของโจวจี้หลิ่นลึกซึ้ง และแฝงไปด้วยความอ่อนโยน

“ขอโทษนะ ฉันน่าจะดื่มมากไปหน่อย” ปากเขาก็บอกแบบนั้น แต่ร่างกายกลับกดทับลงมา กอดที่เอวของฉัน และนอนหลับพร้อมกับโอบกอดฉันไว้

ฉันดิ้นเล็กน้อย กลับพบว่าขยับไม่ได้เลย

ฉันหันหน้ามองเขาเล็กน้อย โครงหน้าของเขาเด่นชัดและลึกซึ้ง ดูเหมือนจะหลับไปแล้วจริง ๆ

เมื่อเห็นว่าไปไม่ได้แล้ว ฉันจึงนอนอยู่ที่บ้านของโจวจี้หลิ่นหนึ่งคืน

เช้าวันรุ่งขึ้น ทันทีที่ฉันพลิกตัวก็เข้าสู่อ้อมแขนที่อบอุ่นทันที เมื่อฉันลืมตาขึ้นก็พบว่าโจวจี้หลิ่นนอนอยู่ข้าง ๆ

แต่เมื่
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • จากรักร้าย สู่แฟนใหม่ของศัตรูตัวฉกาจ   บทที่ 20

    โจวจี้หลิ่นเจอสือเยียนครั้งแรกที่การแสดงของชมรมดนตรีสือเยียนยืนฟังเพลงอยู่ด้านล่างเวทีในค่ำคืนฤดูร้อนที่เสียงจักจั่นร้องไม่หยุด ท่ามกล่างเสียงเพลงที่ไพเราะ สือเยียนถือแท่งไฟเชียร์สองอันโบกอย่างบ้าคลั่ง ตอนนั้นเธอปล่อยผมยาวสลวยถึงบ่า สวมเสื้อยืดสีน้ำเงินและกางเกงยีนส์ ผิวขาวมาก ดวงตาก็เปร่งประกายสดใส ทำให้ตัวเธอดูมีชีวิตชีวาทั้งยังร่าเริงโจวจี้หลิ่นแค่มองก็หลงไหลในทันทีเขายืนอยู่ด้านหลังสือเยียน แต่สือเยียนตื่นเต้นมากเกินไป จนถอยหลังมาสองก้าวและล้มเข้าสู่อ้อมแขนของโจวจี้หลิ่นทันที“ขอโทษนะ ฉันตื่นเต้นมากไปหน่อย” สือเยียนยิ้มมาทางเขาเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มที่สดใสและอ่อนหวานมากโจวจี้หลิ่นตกหลุมพรางแล้วหลังจากนั้นเขาก็ตามหาสือเยียนมาโดยตลอด เพราะอยากจะถามเธอว่าชื่ออะไร แต่พอหาเจอ เขาก็ถูกครอบครัวพาตัวไปต่างประเทศ เขาจึงดรอปเรียนไปสองปีเมื่อกลับมา สือเยียนก็คบหากับหลินจิงเฟิงแล้ว แถมยังได้ยินว่าสือเยียนเข้าโรงพยาบาลเพราะหลินจิงเฟิงอีกเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขาก็คลุ้มคลั่งอย่างขีดสุดเขาไปตามหากลุ่มคนที่ทำร้ายสือเยียนและสู้กับพวกเขาเพียงคนเดียว สู้จนพวกนั้นขอความเมตตา และเป็น

  • จากรักร้าย สู่แฟนใหม่ของศัตรูตัวฉกาจ   บทที่ 19

    วินาทีที่ริมฝีปากซ้อนทับกัน รูม่านตาของโจวจี้หลิ่นก็หดลงทันทีนี่เป็นจูบแรกของพวกเราก่อนหน้านี้ฉันเคยจูบเขา แต่ก็แค่จูบที่ใบหน้า เขาเงยหน้าขึ้นและกดท้ายทอยของฉันไว้ เพื่อเพิ่มจูบนี้ให้ลึกซึ้งมากขึ้น หลังจูบกันสักพัก เขาก็พลิกตัวให้ฉันนอนบนเตียง จากนั้นก้มลงมาจูบที่ริมฝีปากของฉันอย่างบ้าคลั่งราวกับเสือที่ดุร้ายบรรยากาศเปลี่ยนเป็นร้อนระอุขึ้นมา“หลินหลิ่น หลินหลิ่น” ฉันรู้สึกหายใจไม่ออกเล็กน้อย ลิ้นก็ชาไปหมด จึงยกมือขึ้นไปดันหน้าอกของเขาไว้ ด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ “พวกเรารีบไปหน่อยหรือเปล่า?”ดวงตาของโจวจี้หลิ่นลึกซึ้ง และแฝงไปด้วยความอ่อนโยน“ขอโทษนะ ฉันน่าจะดื่มมากไปหน่อย” ปากเขาก็บอกแบบนั้น แต่ร่างกายกลับกดทับลงมา กอดที่เอวของฉัน และนอนหลับพร้อมกับโอบกอดฉันไว้ฉันดิ้นเล็กน้อย กลับพบว่าขยับไม่ได้เลยฉันหันหน้ามองเขาเล็กน้อย โครงหน้าของเขาเด่นชัดและลึกซึ้ง ดูเหมือนจะหลับไปแล้วจริง ๆเมื่อเห็นว่าไปไม่ได้แล้ว ฉันจึงนอนอยู่ที่บ้านของโจวจี้หลิ่นหนึ่งคืนเช้าวันรุ่งขึ้น ทันทีที่ฉันพลิกตัวก็เข้าสู่อ้อมแขนที่อบอุ่นทันที เมื่อฉันลืมตาขึ้นก็พบว่าโจวจี้หลิ่นนอนอยู่ข้าง ๆ แต่เมื่

  • จากรักร้าย สู่แฟนใหม่ของศัตรูตัวฉกาจ   บทที่ 18

    ฉันหาจนทั่ว และพบว่าโจวจี้หลิ่นอยู่ในห้องนอนชั้นสอง เขามีกลิ่นเหล้าทั่วตัว ทรุดนั่งลงอยู่ข้างเตียง ในมือถือขวดไวน์แดง และในอ้อมแขนกลับกอดกรอบรูปอันหนึ่งไว้ กระดุมบนเสื้อเชิ้ตของเขาปลดออกครึ่งหนึ่ง หน้าอกขาวที่แข็งแรงของเขาก็เปิดเผยอยู่ในอากาศฉันเอื้อมมือไปหยิบขวดไวน์แดง เขาคลายมือแล้วแต่ตอนที่ฉันจะหยิบกรอบรูป เขาก็ลืมตาขึ้นมาในทันที ดวงตาที่มืดสนิทลึกซึ้งจ้องมองมาที่ฉันอย่างตรงไปตรงมา และสายตาของเขาก็สะลืมละลือเล็กน้อยจากอาการเมา“ห้ามแตะ” น้ำเสียงของเขาแหบแห้งเล็กน้อยเขาพูดแบบนี้ ฉันกลับเกิดความอยากรู้ขึ้นมา จึงถามพร้อมกับยิ้ม “ให้ฉันดูหน่อยได้ไหม?”“ไม่ให้” คิ้วและตาของเขาดุร้ายขึ้นมาเมื่อเห็นเขาดึงดันขนาดนี้ ฉันก็ไม่โน้มน้าวเขาอีก พยุงเขาให้ลุกขึ้นยืน วางเขาลงบนเตียง และถอดรองเท้าให้เขา จากนั้นก็วิ่งออกไปเทน้ำแก้วหนึ่งมาให้เขาฉวยโอกาสตอนที่เขาดื่มน้ำอยู่ ฉันพลิกกรอบรูปและแอบมองแวบหนึ่งเป็นรูปที่ถ่ายตอนฉันกำลังหอมแก้มเขาอยู่นี่มันมีอะไรน่าหวงนักหนา?“โจวจี้หลิ่น ทำไมคุณถึงต้องดื่มเหล้าด้วย แถมยังดื่มจนเมาขนาดนี้อีก? นี่ไม่เหมือนคุณเลยนะ” จู่ ๆ ฉันก็ถามด้วยเสียงที่ท

  • จากรักร้าย สู่แฟนใหม่ของศัตรูตัวฉกาจ   บทที่ 17

    เขาน้ำตาคลอเบ้าเขาไม่มีบ้านให้กลับแล้วจริง ๆ ไม่มีเพื่อน ไม่มีพี่น้อง ไม่มีคนรักหลินจิงเฟิงจู่ ๆ ก็นึกถึงช่วงที่เพิ่งจบจากมหาวิทยาลัย เขาก่อเรื่องและทำร้ายคนอื่นจนเข้าโรงพยาบาล ถูกคุณพ่อไล่ออกจากบ้าน เป็นสือเยียนที่ช่วยเหลือเขา และพาเขาเดินออกมาจากสถานการณ์ที่ยากลำบากเมื่อก่อน ขอแค่เขาโทรศัพท์สักหนึ่งสาย และส่งข้อความสักหนึ่งข้อความ สือเยียนก็จะมาอยู่ข้างกายเขาโดยไม่ลังเล“เยียนเยียน...” หลินจิงเฟิงนั่งอยู่ที่หน้าประตูบ้านฉันนานมากแล้ว เมื่อเห็นฉันออกมา เขาก็รีบลุกขึ้นยืน มองฉันและตะโกนเรียกฉันหยุดฝีเท้าลงสักพักหนึ่ง และเงยหน้าขึ้นมองหลินจิงเฟิงที่ทุลังทุเลอย่างตกตะลึงเล็กน้อย เขาถูกคนตีจนจมูกช้ำใบหน้าบวม สายตาก็ไม่มีประกายสดใสเหมือนเคย เสื้อผ้าก็เปื้อนโคลนด้วย“คุณหลิน คุณมีธุระอะไร?” ฉันเอ่ยด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์เมื่อได้ยินคำว่า ‘คุณหลิน’ หลินจิงเฟิงก็น้ำตาคลอเบ้า และมองฉันด้วยน้ำตานองหน้า เขารู้ว่ากลับไปไม่ได้แล้ว“เยียนเยียน ถ้าเธอไม่ความจำเสื่อมก็คงดี ถ้าเป็นแบบนั้นพวกเราคงแต่งงานกันไปแล้วแน่ๆ” หลินจิงเฟิงเอ่ยพลางสะอึกสะอื้นฉันหัวเราะเสียงเย็นหัวเราะที่เขาคิดง

  • จากรักร้าย สู่แฟนใหม่ของศัตรูตัวฉกาจ   บทที่ 16

    หลินจิงเฟิงพูดไม่ออก“ฉันไม่ได้จริงใจกับจ้าวจิ้งซิน แต่เธอกับโจวจี้หลิ่นล่ะ? เธอมีสิทธิ์อะไรมาพูดถึงฉันแบบนี้ เธอก็นอนกับเขาแล้วใช่ไหม?” เขาหาข้ออ้างเจอแล้ว เลยบีบถามฉัน“ใช่...หรือไม่ใช่ มันเกี่ยวอะไรกับคุณเหรอ?” ฉันเอ่ยพลางหัวเราะเสียงเย็น“ฉันในเมื่อก่อน ตายตั้งแต่วินาทีที่คุณผลักฉันตกลงทะเลแล้ว และหลังจากนี้ทุกอย่างของฉันก็จะไม่เกี่ยวข้องกับคุณ” สายตาที่ฉันมองไปทางเขาค่อย ๆ มืดมนลงที่ละนิดหลินจิงเฟิงเห็นสายตาที่เย็นชาของฉันหัวใจก็เจ็บแปลบขึ้นมาเขากุมมือฉันพลางน้ำตาคลอเบ้า และจนถึงตอนนี้ก็ยังคงโต้แย้งอยู่ “ฉันไม่เลิก อย่างมากฉันก็แค่ทิ้งจ้าวจิ้งซิน ฉันไม่ได้รักเธอเลย คนที่ฉันรักคือเธอนะ”ความรักสามปีหยั่งรากลึกอยู่ในใจเขา และเขาเชื่ออยู่เสมอว่าฉันจะรักเขาตลอดไปฉันอยากจะหลุดพ้นออกจากมือของเขา แต่ครั้งนี้เขาจับแน่นมาก คุณพ่อฉันเห็นดังนั้นจึงเดินเข้ามา ดึงฉันไปอยู่ด้านหลัง และตบหลินจิงเฟิงอย่างแรง“ไอ้สารเลว ไม่ขยะแขยงบ้างเหรอ?! ถ้าต่อไปยังกล้าเข้าใกล้ลูกสาวฉันแม้แต่ก้าวเดียว ฉันจะหักขาของนายซะ!”คุณพ่อฉันดุเขาด้วยความโกรธ และดึงฉันออกไปจากตรงนั้นเมื่อเห็นฉันจากไป หลินจิง

  • จากรักร้าย สู่แฟนใหม่ของศัตรูตัวฉกาจ   บทที่ 15

    หลินจิงเฟิงดวงตาเปล่งประกายขึ้นมา“เยียนเยียน จริงเหรอ? เธอจำฉันได้แล้วใช่ไหม?” เขาพุ่งเข้ามา และเอ่ยด้วยน้ำตาคลอเบ้าพลางจับไหล่ทั้งสองข้างของฉันด้วยความตื่นเต้นมากอีกด้านหนึ่งหลังจากโจวจี้หลิ่นได้ยินคำพูดนี้ก็วางแท็บเล็ตลง จ้องมองรูปคู่ที่ถ่ายกับฉันอยู่ข้าง ๆ ด้วยสายตาที่หม่นหมองความฝันที่ไม่สามารถเป็นจริงได้ไม่ว่าจะอย่างไรสุดท้ายเขาก็ต้องตื่นอยู่ดี“ฉันเป็นแฟนของเธอ? เธอจำได้แล้วใช่ไหม?” หลินจิงเฟิงเห็นฉันไม่ตอบ แรงที่มือของเขาก็เพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว และน้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นเร่งเร้าขึ้นมา“จำได้” ฉันหัวเราะด้วยเสียงที่เย็นชาทันทีที่หลินจิงเฟิงได้ยิน ก็ดีใจจนคิดจะกอดฉัน แต่ฉันเงยหน้าขึ้นและดันเขาเอาไว้“ฉันจำได้ว่าคุณสารภาพรักกับฉันมาสามปีฉันถึงตอบตกลง ฉันจำท่าทางที่คุณตื่นเต้นจนร้องไห้เมื่อฉันตอบรับคำสารภาพรักของคุณ และจำได้ถึงท่าทางที่คุณสัญญากับฉันว่า ชาตินี้ ชีวิตนี้ จะมีฉันเพียงคนเดียว เรื่องพวกนี้ฉันจำได้ทั้งหมด” ขณะที่ฉันเอ่ยน้ำตาก็คลอเบ้า“แต่เรื่องพวกนี้ คุณยังจำได้ไหม?” ฉันถามหลินจิงเฟิงกลับหลินจิงเฟิงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ“คุณบอกว่าช่วงที่อยู่ในมหาวิทยาลัยเคย

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status