แฟนของฉันเป็นตำรวจ ขณะที่ฉันถูกพวกคนร้ายข่มขู่ และระเบิดบนร่างเหลือเวลาอีกสิบนาทีก่อนจะระเบิด พวกคนร้ายให้ฉันโทรหาเขา แต่ฉันกลับได้รับเพียงคำต่อว่าเข้าเต็ม ๆ จนชะงักไป “ฟางซู เธอยังไม่จบอีกเหรอ? เพราะความหึงหวงเธอถึงขั้นเอาชีวิตมาล้อเล่นเลยเหรอ? เธอรู้ไหมว่าแมวของเชี่ยนเชี่ยนติดอยู่บนต้นไม้มาสามวันแล้ว เชี่ยนเชี่ยนรักแมวตัวนั้นเท่าชีวิตเลยนะ!” “ถ้าฉันไปช่วยคนล่าช้ากว่านี้ เธอได้กลายเป็นฆาตกรไปแล้ว!” เวลาเดียวกันก็ได้ยินเสียงอ่อนหวานของผู้หญิงดังมาในสาย “ขอบคุณนะคะพี่ชาย พี่ชายยอดเยี่ยมที่สุดเลย” ผู้หญิงคนนั้นก็คือเพื่อนสมัยเด็กของแฟนฉัน ก่อนที่ระเบิดกำลังจะทำงาน ฉันก็ส่งข้อความไปหาแฟนว่า “ลาก่อน ชาติหน้าอย่าได้มาเจอกันอีกเลย”
View Moreหลังจากจ้องมองอยู่สักพัก จางเฉิงก็หยิบโทรศัพท์ลุกขึ้น และเดินไปที่ห้องน้ำในที่สุดฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก ขอเพียงทำให้จางเฉิงพบความจริง ฉันก็จะหลุดพ้นได้แล้วห้องน้ำของร้านชุดแต่งงานไม่ได้แยกชายหญิง ดังนั้นไม่ว่าใครก็เข้าได้ทั้งนั้นได้ยินเสียงของอู๋เชี่ยนพูดอย่างภาคภูมิใจ “ตอนแรกฉันคิดจะให้หวังเหยี่ยไประเบิดฟางซูตาย เพื่อให้ระบายความแค้นไปบ้าง ใครจะไปคิดว่าฟางซูไม่ได้เรื่อง จางเฉิงไม่ได้รักเธอสักนิด คนที่เขารักที่สุดก็คือฉัน ดังนั้นสุดท้ายหวังเหยี่ยก็ต้องลักพาตัวฉันไปอีกครั้ง”“เสียแรงที่ฉันเล่าให้หวังเหยี่ยฟังอย่างเป็นจริงเป็นจังมาก น่าเสียดาย”จางเฉิงได้ยินแบบนั้นก็หันหลังกลับไปที่ล็อบบี้ของร้านชุดแต่งงานฉันรู้สึกประหลาดใจที่พบว่า ฉันตามติดจางเฉิงต่อไปไม่ได้อีกแล้ว แต่กลับมาอยู่ข้างตัวอู๋เชี่ยนแทนมุมมองเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันขณะที่อู๋เชี่ยนกับเพื่อนกลับไปที่ล็อบบี้ จางเฉิงก็กำลังเลือกชุดแต่งงานอยู่เมื่อเห็นเธอออกมา จางเฉิงก็ยิ้ม “ที่รัก ชุดที่เธอใส่เมื่อกี้สวยมาก พวกเราสั่งตัวนี้ไปเลยเถอะ”อู๋เชี่ยนแปลกใจอยู่บ้าง แต่หลังจากนั้นก็เผยรอยยิ้มหวานออกมา“แล้วแต่ที่รักเถอะ ชุ
หนึ่งปีต่อมา จางเฉิงก็เตรียมจะแต่งงานกับอู๋เชี่ยนพูดให้ถูกคือ อู๋เชี่ยนทั้งยุ่งและกระตือรือร้นอยู่ฝ่ายเดียวแต่จางเฉิงเอาตัวเองโยนเข้าไปในคดีที่สถานีตำรวจโดยสมบูรณ์ จนยุ่งทั้งวันทั้งคืนหวังฉู่เห็นเขามีท่าทีแบบนี้ก็รู้สึกกลัวอยู่บ้าง จึงคิดจะโน้มน้าวให้จางเฉิงพักผ่อนจางเฉิงกลับเอาแต่ส่ายหน้าตลอด ก่อนจะมองศพต่อ และใช้เวลาอยู่ในห้องนิติเวชทุกวันหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ฉันยังคงตามเขาอยู่ และเห็นจางเฉิงแสร้งทำเหมือนไม่เป็นไรในตอนกลางวัน แต่ตอนกลางคืนกลับกอดรูปของฉันร้องไห้อย่างเจ็บปวดทั้งยังคอยพร่ำบอกว่ารักฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลังจากนั้นก็ขอโทษแต่ฉันกลับไม่มีความรู้สึกอะไร และถึงขั้นที่ไม่รู้สึกเกลียดเขาแล้วด้วยซ้ำฉันแค่อยากไปจากเขาแต่ฉันลองทุกวิถีทางแล้ว ก็ทำอะไรไม่ได้เลยตั้งแต่ต้นจนจบมีพลังลึกลับบางอย่างที่ทำให้ฉันต้องคอยอยู่ข้างกายเขาฉันค่อย ๆ หมดหวังไป บางทีฉันกับจางเฉิงอาจมีเวรกรรมต่อกัน และฉันคงได้หลุดพ้นหลังจากที่เขาตายหวังฉู่ทนไม่ไหวจึงรายงานสถานการณ์ปัจจุบันให้ผู้กำกับทราบ ผู้กำกับจึงมีคำสั่งบังคับให้จางเฉิงพักหนึ่งเดือน เพื่อเตรียมงานแต่งงานเพราะอู๋เชี่ยนได้นำขนม
ดวงตาของจางเฉิงเฉยชา ราวกับมองไม่เห็นอะไรเขาอยากจะทุบตีหวังเหยี่ยให้ตายเป็น ๆแต่เสียงกรีดร้องของอู๋เชี่ยนก็ดังขึ้นมา “จางเฉิง ระเบิดเหลือเวลาอีกห้านาที มาช่วยฉันก่อน!”ตอนนี้เองที่จางเฉิงเหมือนเพิ่งจะรู้สึกตัวกลับมา และรีบไปปลดระเบิดออกจากร่างของอู๋เชี่ยนหวังเหยี่ยลุกก็ขึ้นมา ในมือถือรีโมทควบคุมไว้ ด้วยใบหน้าที่เปื้อนเลือด“พวกเราไปลงนรกด้วยกันเถอะ”ในช่วงเวลาคับขันนี้ ตำรวจที่อยู่ด้านนอกก็พุ่งเข้ามายิงหวังเหยี่ยจนตายคนอื่น ๆ ก็รีบเข้ามาช่วยปลดระเบิดออกจากตัวอู๋เชี่ยนเวลาของระเบิดที่ถูกปลดออกยังไม่ได้หยุดเดินทันที และหลังจากอู๋เชี่ยนได้ปลดจากระเบิดแล้วก็วิ่งหนีออกไปนอกโกดังทันที เพราะกลัวว่าตัวเองจะถูกระเบิดตายหวังฉู่ดึงจางเฉิง “พี่จาง พวกเรารีบไปเถอะ ระเบิดเหลืออีกสามนาทีก็จะทำงานแล้วนะ”คนส่วนใหญ่ต่างรีบหนีออกไปข้างนอก แต่จางเฉิงยังยืนอยู่ที่เดิมมองระเบิดอย่างงงงวยหวังฉู่กัดฟัน พยายามลากจางเฉิงออกไปจากโกดังวินาทีต่อมา ระเบิดภายในโกดังก็ทำงานแรงระเบิดเป็นเหมือนที่หวังเหยี่ยบอก ทั้งโกดังถูกทำให้เหลือแต่ซากในชั่วขณะสุดท้ายหวังฉู่ที่ทับร่างของจางเฉิงไว้ ก่อนจะถูกแ
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของจางเฉิงก็ดังขึ้นอีกครั้งเขารับโทรศัพท์ราวกับร่างไร้วิญญาณ “ฮัลโหล?”ได้ยินเพียงเสียงกรีดร้องแหลมสูงของผู้หญิงดังออกมา “พี่จางเฉิง ช่วยด้วย! มีคนลักพาตัวฉันมา!”“คนร้ายบอกให้พี่มาเดี๋ยวนี้ พี่รีบมาช่วยฉันที ที่ตัวฉันมีระเบิดด้วย!”เสียงนี้มาจากอู๋เชี่ยนจางเฉิงชะงักไป ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องนิติเวช “แบ่งคนตามฉันไปช่วยคน หวังเหยี่ยโผล่หัวมาแล้ว!”อู๋เชี่ยนได้ยินการเตรียมการของจางเฉิง ก็ปฏิเสธซ้ำไปมา “ไม่ ไม่ ไม่ พี่ต้องมาด้วยตัวเอง คนร้ายบอกว่าถ้าพี่พาคนอื่นมาด้วย จะระเบิดฉันทันที ฉันกลัว”จางเฉิงขึ้นรถไปตัวคนเดียว ก่อนจะขับไปยังสถานที่ที่อู๋เชี่ยนบอกแต่ตำรวจก็ตามหลังมาห่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุอะไรขึ้นฉันนั่งอยู่บนรถของจางเฉิง สีหน้าของเขาไร้ซึ่งความรู้สึกอาจพูดได้ว่าตอนนี้ในใจของเขาตายด้านไปแล้ว จนไม่อาจตอบสนองต่อเรื่องใดรอบตัวได้เลย และเพียงแค่ทำตามหน้าที่ในฐานะตำรวจของตัวเองไปตามกลไกของร่างกายเท่านั้นจางเฉิงเหยียบคันเร่งจนสุด และมาถึงสถานที่ที่อู๋เชี่ยนบอกในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเสียงกรีดร้องของอู๋เชี่ยนดังมาจากที่ไกล ๆจางเฉิงเดินไปตามเส
ฉันน้ำตาไหลออกมาไม่หยุดตอนนี้ฉันนึกเสียใจจริง ๆ นึกเสียใจที่ได้เจอกับจางเฉิง ทั้งยังนึกเสียใจกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น และยิ่งนึกเสียใจที่ฉันทะเลาะกับพ่อก่อนตายเพียงเพราะฉันกับจางเฉิงคบกันมาหลายปี แต่เขากลับไม่ยอมแต่งงานกับฉันพ่อฉันโน้มน้าวให้ฉันเลิกกับเขา แต่ฉันกลับทะเลาะกับพวกเขาเสียใหญ่โตพวกเขาไม่เคยคิดทำร้ายฉัน เป็นฉันที่ทำร้ายตัวเองเฝ้ามองแผ่นหลังของพ่อแม่ที่งอตัว และพยุงกันจากไปฉันก็รู้สึกเกลียดจางเฉิงมาก ทั้งยังเกลียดหวังเหยี่ย และยิ่งเกลียดตัวเองมากกว่าหลังจากจางเฉิงปิดประตู ก็ขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด ก่อนจะโทรหาฉันโทรศัพท์ยังคงโทรไม่ติด เขาจึงส่งข้อความเสียงแทน“ฟางซู เธอหยุดสร้างปัญหาได้ไหม พ่อแม่เธออายุตั้งเท่าไรยังต้องมาคอยกังวลเรื่องของเธออีก เธอยังเป็นคนอยู่ไหม?”หลังจากวางสาย เขาก็รีบตรงไปที่สถานีตำรวจ ก่อนจะชนเข้ากับหวังฉู่หวังฉู่บอกว่าคนที่เฝ้าอยู่ที่บ้านของหวังเหยี่ย รายงานว่าหวังเหยี่ยยังไม่กลับบ้านจางเฉิงส่ายศีรษะ “คนนี้ทำตัวไม่ปกติ ถ้าไม่มีปัญหาอะไรทำไมถึงไม่กลับบ้านล่ะ?”หวังฉู่พูด “อืม ดังนั้นพวกเราก็เลยระบุว่าหวังเหยี่ยเป็นผู้ต้องสงสัย และทำการต
หวังฉู่รับที่อยู่มา และรีบเดินทางไปหาหวังเหยี่ยที่อยู่เป็นหมู่บ้านแห่งหนึ่งในเมือง เมื่อเห็นที่นี่แล้ว ทั้งร่างของฉันก็เริ่มสั่นเทาโดยไม่รู้ตัวตอนแรกฉันก็ถูกหวังเหยี่ยลักพาตัวมาที่นี่ และถูกทรมานอย่างไร้มนุษยธรรมเขาให้ฉันบอกที่อยู่ของจางเฉิง แต่ให้ตายฉันก็ไม่บอกสุดท้ายเขาก็มัดฉันไว้กับระเบิด และพาฉันไปที่โกดังร้างแถวชานเมืองหวังฉู่มาถึงหน้าบ้านหลังหนึ่ง หลังจากยืนยันแล้วว่าไม่มีคนอยู่ ก็เตะประตูเปิดออกฉันเข้าไปในบ้านหลังนั้น หวังเหยี่ยได้ทำลายหลักฐานการทรมานฉันในบ้านนี้ทิ้งไปหมดแล้ว ตอนนี้จึงไม่เหลือเบาะแสอะไรอยู่เลยหวังฉู่เดินไปรอบ ๆ บ้านในที่สุดฉันก็พบกระดุมเม็ดหนึ่งที่มุมตู้ นั่นคือกระดุมบนชุดของฉันขอเพียงจางเฉิงพบมัน ก็จะระบุตัวคนร้ายได้ฉันขยับตัวไปมาสุดชีวิต พยายามเรียกร้องความสนใจจากทั้งสองคนแต่ตั้งแต่ต้นจนจบมันก็ไร้ผล พวกเขาไม่เห็นมัน และสุดท้ายก็ออกไปจากบ้านหลังออกมา หวังฉู่ก็คุยกับจางเฉิงว่า “ไม่พบร่องรอยการทำระเบิดเลย หรือจะไม่ใช่เขา?”จางเฉิงส่ายศีรษะ “พูดยาก ถึงยังไงก็เกิดคดีมาหลายวันแล้ว ใครจะรู้ว่าเขากลับมาทำลายร่องรอยทิ้งไปแล้วหรือเปล่า ยิ่งไปกว่
Comments