Share

Chapter 5

last update Last Updated: 2025-06-06 01:32:48

Chapter 5

เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วยาม

เฉินต้าเหว่ยควบม้าคู่ใจด้วยใจอันร้อนรน การขี่ม้าครั้งนี้ถือว่าเร็วที่สุดในชีวิต เร็วกว่าตอนออกศึกรบเสียอีก ทว่าความเร็วของม้ายังไม่เพียงพอ เขาอยากให้มันเร็วกว่านี้เพื่อที่จะได้ตามทันขบวนเกี้ยวที่มารับจางม่านอวี้เข้าวัง แต่ความเร็วของม้าทำได้เพียงแค่นี้ ช้ากว่าใจเฉินต้าเหว่ยเป็นร้อยเท่า

ทันทีที่แม่ทัพหนุ่มกลับมาจากส่งสารสำคัญจากต่างเมือง เขาได้รับข่าวร้ายจากบิดาเรื่องจางม่านอวี้ ตอนนั้นเฉินต้าเหว่ยรู้สึกงงงวย ความไม่เข้าใจแฝงในความรู้สึกที่อยู่ๆ จางม่านอวี้ได้เป็นพระสนม นางกำลังจะเป็นของชายอื่น ซึ่งผู้ชายคนนั้นถือว่าเป็นเจ้าชีวิตของคนทั้งแคว้น รองแม่ทัพหนุ่มผู้เกรียงไกรไม่รู้ที่มาที่ไปของการเข้าวังของนาง ในใจของเขาตอนนี้รู้เพียงว่า ต้องตามนางให้ทัน เขาจึงรีบควบม้าตามขบวนเกี้ยวอย่างไม่ลดละ

ระยะทางจากเมืองหลานหยูไปเมืองหลวงมีระยะทางหลายร้อยลี้ ขบวนเกี้ยวที่มารับจึงใช้ม้าในการลากเกี้ยวแทนคนแบกหาม แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้การเดินทางเร็วขึ้น เนื่องจากม้าเดินไม่ได้วิ่ง ส่งผลให้แรงอาชาไนยของรองแม่ทัพหนุ่มนำพาเขามาทันขบวนเกี้ยวที่มองเห็นในระยะสายตาเฉินต้าเหว่ยรีบเร่งม้าคู่ใจให้วิ่งเร็วขึ้น เพื่อจะถึงขบวนเกี้ยวเร็วๆ

“ม่านอวี้ จางม่านอวี้”

เฉินต้าเหว่ยตะโกนเรียกแม่นางในดวงใจ หลีกงกงที่มารับตัวว่าที่พระสนมหยุดม้าที่ตนนั่งอยู่ พร้อมกับยกมือให้คนบังคับเกี้ยวหยุดตาม หันมามองต้นเสียงที่ควบม้าเข้ามาใกล้ จางม่านอวี้ที่นั่งอยู่ในเกี้ยวได้ยินเสียงเรียกชื่อจากน้ำเสียงที่คุ้นหู นางรีบเปิดผ้าม่าน เยี่ยมหน้าออกไปด้านนอก เมื่อเห็นว่าใครควบม้ามาหยุดข้างเกี้ยว นางถึงกับยิ้มทั้งน้ำตา

“ต้าเหว่ย” จางม่านอวี้เรียกชื่อเพื่อนสนิท ยื่นมือออกนอกตัวเกี้ยว เฉินต้าเหว่ยที่รักแม่นางขี้เหล่สุดหัวใจ กำลังจะยื่นมือไปจับเรียวมือสวยของนาง ทว่าเสียงของหลีกงกงได้ห้ามไว้เสียก่อน

“ท่านรองแม่ทัพ ท่านจะทำอย่างนี้ไม่ได้ จางม่านอวี้คือคนของฮ่องเต้ นางคือนางต้องห้าม ชายใดมิอาจต้องตัวได้” หลีกงกงบอกเสียงเรียบ

“ต้าเหว่ยเป็นเพื่อนข้าทำไมจะจับมือข้าไม่ได้ อีกอย่างข้ายังไม่ได้เป็นพระสนม ข้าจับมือเพื่อนข้าได้” จางม่านอวี้รีบพูด

“ข้าขอเวลาชั่วครู่ท่านกงกง ข้าขอกล่าวลานาง”

หลีกงกงมองหน้าเฉินต้าเหว่ยเพียงแวบเดียว ก็บังคับม้าให้ไปอยู่หน้าขบวนเกี้ยว เปิดทางให้แม่ทัพหนุ่มล่ำลาจางม่านอวี้เฉินต้าเหว่ยเดินไปหยุดข้างเกี้ยว มองใบหน้าจางม่านอวี้ที่วันนี้นางสวยกว่าทุกครั้งที่เขาเห็น

“ทำไมข้าไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน อยู่ๆ เจ้าเป็นพระสนมได้ยังไง”

“เจ้ากลับไปถามท่านพ่อของข้า ท่านพ่อจะตอบคำถามเจ้าเอง” นางตอบกลับ น้ำตาคลอเบ้า คำภาวนาของจางม่านอวี้เป็นผล นางพร่ำขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ได้เจอเขาก่อนเข้าวัง “ทำไมเจ้ามาช้าจัง ข้ารอบอกลาเจ้าหลายวัน วันนี้ข้านึกว่าจะไม่ได้เจอหน้าเจ้าก่อนเข้าวังเสียอีก ข้าดีใจที่ได้เจอเจ้า”

“ข้าก็ดีใจที่ได้เจอเจ้า เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เราจะได้พบกันอีก”

หากวันนี้เขาไม่ได้พบหน้าจางม่านอวี้ การพบเจอคงเป็นเรื่องยาก เนื่องจากเขาต้องออกศึกปราบกบฏที่ยังคงก่อความวุ่นวายอยู่เนืองๆ และตอนนี้แคว้นฉานอยู่กำลังขยายอำนาจ คิดการใหญ่ชิงแคว้นจ้านมาเป็นของตัวเอง เฉินต้าเหว่ยในฐานะหนึ่งในรองแม่ทัพใหญ่จึงต้องออกสู้ศึกรักษาบ้านเมือง แล้วคราวนี้คงออกรบนานกว่าทุกครั้ง อาจกินเวลานานครึ่งปี

“เมื่อเจ้าไม่อยู่ ต่อจากนี้ไปข้าคงไม่ได้ทำหมั่นโถวอีกแล้ว เพราะไม่รู้ว่าจะทำให้ใครกิน”

ความเศร้าแฝงอยู่ในดวงตาเฉินต้าเหว่ย ที่ดูดีๆ จะรู้ว่า ความแข็งแกร่งของเขากำลังมลาย แต่ถึงกระนั้นก็มีความรู้สึกที่เรียกว่ารัก เปิดเผยออกมาอย่างชัดเจน ความเสียใจรุกเร้าในหัวใจของชายยอดนักรบ

“เจ้าเอาไปให้ข้ากินที่วังสิ ข้าเป็นพระสนมนะไม่ได้ตายจากเจ้าไป เจ้าถึงได้ไปหาไม่ได้” 

“ข้าต้องออกศึกเป็นศึกใหญ่ด้วย ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาทำหมั่นโถวให้เจ้ากินเมื่อไหร่” เฉินต้าเหว่ยไม่ละสายตาจากดวงหน้าจางม่านอวี้ “ข้าไม่รู้ว่า อีกนานแค่ไหนจะได้พบเจ้า ข้าคงคิดถึงเจ้ามาก”

ทุกถ้อยคำของเฉินต้าเหว่ย ทำร้ายหัวใจจางม่านอวี้อย่างบอกไม่ถูก เมื่อก่อนนางไม่คิดว่า การจากลาของตนกับเฉินต้าเหว่ยจะนำพาความทุกข์ทรมานใจ ความรู้สึกที่นางมีต่อเขายามออกรบคือความเป็นห่วง แต่ก็มีความเชื่อมั่นว่า เขาต้องกลับมาหาตน นำชัยชนะสู่บ้านเมือง ทว่าการจากลาครั้งนี้ เสมือนมีหนามแหลมคมทิ่มแทงดวงใจ เส้นทางของทั้งสองห่างขึ้นเรื่อยๆ มีกำแพงหลายชั้นกั้นเราสอง ใจหายกับการจากลาครั้งนี้

“ข้าก็คงคิดถึงเจ้าเช่นกัน เสร็จศึกเจ้าต้องรีบไปหาข้านะ ข้าจะรอเจ้า”

“ข้าไปหาเจ้าแน่ ข้าต้องไปหาหัวใจของข้า”

เฉินต้าเหว่ยเปิดเผยความในใจของตนให้จางม่านอวี้รับรู้ แต่ก่อนเขาไม่กล้าเปิดเผยความรู้สึก เพราะกลัวว่า จางม่านอวี้จะโกรธที่คิดกับนางเกินเพื่อน ทว่าตอนนี้เขาต้องบอกให้นางรับรู้ เขาไม่ล่วงรู้อนาคตว่า การออกศึกครั้งนี้ตนเองจะมีชีวิตรอดกลับมาหรือไม่ บอกให้นางรู้ตอนนี้ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้บอก

“ท่านรองแม่ทัพ ข้าต้องไปกันแล้ว” เสียงหลีกงกงกล่าวเตือน รองแม่ทัพหนุ่มจึงรีบพูดประโยคต่อมา

“ข้ารักเจ้าจางม่านอวี้ ข้าอยากบอกเจ้านานแล้วแต่ไม่กล้า ถ้าข้าบอกเจ้าเร็วกว่านี้ เจ้าคงไม่ได้เป็นพระสนมฮ่องเต้ แต่เป็นเมียข้าแทน ในเมื่อชะตาฟ้าลิขิตให้เป็นเช่นนี้ ข้ายอมรับความพ่ายแพ้ และขอรักเจ้าไปจนตาย”

จางม่านอวี้น้ำตาร่วง ยิ้มทั้งน้ำตา นางดีใจที่ได้ยินคำบอกรักจากปากเฉินต้าเหว่ย ยังรู้สึกเสียดายเวลาที่ผ่านมา หากเขาเปิดปากบอกรักนางเร็วกว่านี้ นางอาจได้เป็นเมียท่านรองแม่ทัพ หาใช่พระสนมฮ่องเต้ และคงจะมีความสุขมากกว่านี้

“แม่นางจาง เราต้องเร่งเดินทางกันแล้ว” หลีกงกงเตือนอีกรอบ

“ข้าดีใจที่ได้ยินคำนี้ ข้าจะเก็บความรักของเจ้าไว้ในใจข้า ลาก่อนต้าเหว่ย” จางม่านอวี้หยิบผ้าเช็ดหน้าที่ปักเป็นอักษรชื่อยื่นให้เฉินต้าเหว่ย “เก็บมันไว้แทนตัวข้า ข้าจะอยู่กับเจ้าเสมอ ข้าจะรอเจ้านะต้าเหว่ย รอเจ้าไปหาข้า”

เฉินต้าเหว่ยยื่นมือไปรับผ้าเช็ดหน้าผืนนั้น ชั่วขณะที่ยื่นมือไปรับของแทนตัวสาวยอดดวงใจ เกี้ยวม้าได้เคลื่อนตัวเพื่อเดินทางต่อ ปลายนิ้วของทั้งคู่สัมผัสกัน นัยน์ตาสองหนุ่มสาวนิ่งมอง สื่อความหมายของความรู้สึกให้แก่กัน

จางม่านอวี้เป็นฝ่ายละสายตาจากรองแม่ทัพหนุ่ม นางจับผ้าม่านขบวนเกี้ยวให้กลับอยู่ในสภาพเดิม นางนั่งร้องไห้อยู่ภายในเกี้ยวด้วยความรู้สึกเสียใจที่มากกว่าความเสียใจในครั้งใดๆ ของชีวิต นางไม่คิดว่าการล่ำลามันจะเจ็บปวด เจ็บราวกับมีหอกแหลมคมนับหมื่นพุ่งใส่หัวใจ เจ็บกับความโง่ของตัวเองที่ไม่เฉลียวใจสักนิดว่า เฉินต้าเหว่ยคิดกับตัวเองเกินเพื่อน จางม่านอวี้น่าจะคิดได้เพราะหลายครั้งที่รองแม่ทัพหนุ่มเปิดเผยความรู้สึกให้ทราบ แต่เป็นนางเองที่ไม่ทันคิดหรือสังเกตพฤติกรรม แต่พอรู้ทุกอย่างก็สายเกินไป 

แม้ว่าขบวนเกี้ยวจะห่างออกไป ทว่ารองแม่ทัพแห่งแคว้นจ้านยังคงอยู่ที่เดิม เขาก้มมองดูผ้าเช็ดหน้าสีหวานที่ปักชื่อจางม่านอวี้ด้วยแววตาเศร้าโศก น้ำตาหยดไหลลงสู่ผ้าเนื้อดีผืนเล็กในมือ ก่อนที่เขาจะพับมันเป็นสี่ทบแล้วนำมันมาแนบตรงหัวใจ

“เจ้าเป็นหญิงเดียวในดวงใจข้า และจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป”

เฉินต้าเหว่ยเป็นคนรักมั่น ความรักของเขามีเพียงครั้งเดียว เมื่อรักใครแล้วก็จะรักตลอดไป แม้ว่าจางม่านอวี้จะเป็นของชายอื่นที่สูงศักดิ์ ซึ่งเขามิอาจแย่งนางมาครอบครองได้ ความรักเขาก็มิมีวันเปลี่ยนแปลง รักมั่นดังขุนเขา กว้างใหญ่ดุจมหาสมุทร ตราบจนชีวาวาย ความรักจึงมลายจากหัวใจ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • จางม่านอวี้ นางสนมล่มเมือง   Chapter 9

    Chapter 9สองวันมานี้จางม่านอวี้คิดหาวิธีเข้าใกล้พระสนมมู่เซียน โดยที่อีกฝ่ายจะต้องไม่รู้ตัวว่า ตัวเองกำลังถูกล้วงความลับ เดิมทีจางม่านอวี้ตั้งใจเข้าไปฝากเนื้อฝากตัวกับมู่เซียน แต่คิดไปคิดมา วิธีนี้คงไม่ได้ผล คนฉลาดอย่างสนมมู่เซียนต้องสงสัยว่า ตนเข้าไปทำความรู้จักเพื่อเหตุผลใด เพราะปกติเหล่าพระสนมจะชิงดีชิงเด่น ชิงเป็นคนโปรดของฮ่องเต้ น้อยนักที่จะสามัคคีรักใคร่กลมเกลียว และนั่นอาจส่อพิรุธให้มู่เซียนจับได้ จางม่านอวี้จึงคิดหาทางอื่น ที่จะทำให้มู่เซียนไว้ใจและเชื่อใจนาง ทว่างานนี้นางทำคนเดียวไม่ได้ นางต้องมีคนช่วยและมีอีกเรื่องหนึ่งที่จางม่านอวี้บอกจิวฮองเฮา เรื่องนั้นคือเรื่องการติดต่อระหว่างนางกับฮองเฮา ก่อนจะถึงวันแต่งตั้งนางขึ้นเป็นพระสนม จางม่านอวี้คิดว่า ไม่สมควรเจอกันบ่อยนักเพราะอาจทำให้มู่เซียนเกิดความสงสัย ทางใดที่ทำให้มู่เซียนเกิดความคลางแคลงใจ จำต้องตัดทิ้งเพื่อความสำเร็จในวันหน้า จางม่านอวี้ใช้วิธีเขียนจดหมายถึงฮองเฮาจิวหยวน ให้นางทำตามแผนที่ตนเขียนไว้อย่างละเอียดภายในจดหมายฉบับนั้น ก่อนจะให้เจี่ยเหว่ยนางกำนัลรับใช้ที่จิวฮองเฮาส่งมา นำสารดังกล่าวไปตำหนักกลาง จิวฮองเฮาเปิดจด

  • จางม่านอวี้ นางสนมล่มเมือง   Chapter 8

    Chapter 8 เฉินหมิงไม่คิดว่า บุตรชายจะรักจางม่านอวี้มากกว่าอนาคตของตัวเอง ถึงได้ยอมสละอะไรหลายอย่างเพื่อนาง ที่เขาไม่ขัดความคิดของบุตรชายเป็นเพราะ หน้าที่ที่จางม่านอวี้ไปทำนั้นมีความเสี่ยงมาก ขุนนางในวังล้วนแต่เป็นเสือและสิงห์ เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว อำนาจก็มีมาก ยิ่งต้องไปต่อสู้กับพระสนมมู่เซียนที่ใครต่างรู้ดีว่า มีอำนาจมากแค่ไหน จางม่านอวี้จำเป็นต้องมีคนช่วยอีกทางหนึ่ง แล้วรู้ด้วยว่า อีกเหตุผลหนึ่งของเฉินต้าเหว่ยคือ จะได้ใกล้ชิดจางม่านอวี้“ถ้าเจ้าตัดสินใจดีแล้ว ข้าก็เห็นตามนั้น” เฉินหมิงตอบกลับ “แล้วเจ้าจะเข้าไปอยู่ในวังได้ยังไง”“ข้ามีวิธีขอรับท่านพ่อ”การที่เฉินต้าเหว่ยตัดสินใจลาออกจากการเป็นรองแม่ทัพ ไปทำงานเป็นขุนนางในวังก็เพื่อช่วยเหลือจางม่านอวี้ เขาต้องมีวิธีที่ให้ตัวเองเข้าไปอยู่ในตำแหน่งนั้น“ข้าไม่ห้ามเจ้าว่าจะทำอะไร และไม่ห้ามเจ้าไม่ให้รักม่านอวี้ เพราะรู้ดีว่าห้ามไม่ได้ ถ้าเจ้าอยากทำอะไรก็ทำ ถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องดี เกิดประโยชน์ต่อบ้านเมือง” เฉินหมิงพูดอย่างเข้าใจความรู้สึกลูก“ขอบคุณขอรับท่านพ่อที่เข้าใจข้า” เฉินต้าเหว่ยคำนับบิดา “ข้าขอตัวไปหาเฉียนเจ้าก่อนนะขอรั

  • จางม่านอวี้ นางสนมล่มเมือง   Chapter 7

    Chapter 7“ถ้าอย่างนั้นข้าจะให้เจ้าไปอยู่ในตำหนักชิวเป่า เป็นตำหนักในส่วนของพระสนมขั้นสามและสี่อยู่”“เพคะฮองเฮา”“ส่วนนางกำนัลรับใช้ ข้าจะให้ฮุ้ยเจี้ยนกับเจียเหม่ยไปดูแลเจ้า สองคนนี้เป็นคนของข้า จะคอยส่งข่าวให้เจ้ารู้ว่า เจ้าต้องทำอะไร”“หม่อมฉันขอให้สาวใช้ของข้าอยู่รับใช้หม่อมฉันที่นี่ด้วยได้ไหมเพคะ”“ข้าว่าอย่าดีกว่า มีคนของข้าแล้วไม่จำเป็นต้องใช้คนของเจ้า”ฮองเฮาไม่ต้องการให้บุคคลอื่นเข้ามายุ่งเกี่ยวหรือรับรู้เรื่องแผนการกำจัดพระสนมมู่เซียนมากนัก ยิ่งรู้มากการที่ข่าวจะรั่วไหลก็มากตาม“หม่อมฉันกลับคิดว่ามีความจำเป็นเพคะ”“ทำไมเจ้าถึงคิดว่าจำเป็น” ฮองเฮาถามกลับ“หม่อมฉันต้องการให้มีคนที่หม่อมฉันไว้ใจที่สุดอยู่ใกล้ด้วย หลินหลินอยู่กับหม่อมฉันตั้งแต่เกิด เราโตมาด้วยกัน และรักกันเหมือนพี่น้อง หม่อมฉันไม่เคยมีความลับกับหลินหลิน เช่นเดียวกับที่หลินหลินไม่เคยมีความลับกับหม่อมฉัน การที่หม่อมฉันเข้ามาอยู่ในวังที่เปรียบเสมือนอีกโลกหนึ่ง เป็นโลกที่กว้างใหญ่และน่ากลัว แล้วยังต้องแบกภาระหน้าที่ที่ต้องทำอีกด้วย จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหาคนที่ไว้ใจที่สุดในการทำงาน ซึ่งหม่อมฉันไม่ไว้ใจคนของฮองเฮา เพ

  • จางม่านอวี้ นางสนมล่มเมือง   Chapter 6

    Chapter 6ขบวนเกี้ยวมาหยุดเมื่อเดินทางมาถึงวังหลวง จางม่านอวี้ก้าวลงมาจากเกี้ยว นางยืนมองไปรอบๆ ที่เป็นลานกว้างมีทหารหลายสิบนายเดินตรวจตรา ห่างไปตรงหน้าราวห้าสิบเชี้ยะเป็นประตูบานใหญ่ซึ่งนางคิดว่า คงเป็นประตูวัง จางม่านอวี้มองประตูบานนั้นนิ่ง หากนางก้าวผ่านขอบประตูบานนั้น นั่นหมายความว่า นางจะไม่มีโอกาสเปลี่ยนใจ ไม่อาจหันหลังกลับ ทางเดียวต่อจากนี้คือ เดินหน้าทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเพียงแค่เห็นความกว้างใหญ่ของวังหลวง จางม่านอวี้สัมผัสได้ถึงความว้าเหว่ เปลี่ยวเหงา ด้านหลังประตูบานนั้นนางไม่รู้จักใครเลย แปลกทั้งสถานที่และคน อย่างหลังนางถึงกับหนักใจ นางรู้มาว่า คนในวังหลวงแบ่งพรรคแบ่งฝ่าย ต่างแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น แต่ละคนเสมือนจิ้งจอกล่าเนื้อ รวมถึงขนบธรรมเนียมที่ต่อจากนี้ไปนางต้องเรียนรู้ ที่มาพร้อมกับหน้าที่ที่นางเองก็ไม่รู้ว่า จะทำได้ดีหรือไม่ “แม่นางจาง เชิญขอรับ ฮองเฮารออยู่”หลีกงกงบอกว่าที่พระสนม จางม่านอวี้พยักหน้าเดินตามหลีกงกงข้ามผ่านประตูสีแดงเข้าไปในเขตวัง ความรู้สึกของจางม่านอวี้เวลานี้ นางรู้สึกร้อนเท้า แต่ละก้าวที่จางม่านอวี้ก้าวเดินเสมือนเดินบนกองไฟอย่างไงอย่างนั้น ค

  • จางม่านอวี้ นางสนมล่มเมือง   Chapter 5

    Chapter 5เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วยามเฉินต้าเหว่ยควบม้าคู่ใจด้วยใจอันร้อนรน การขี่ม้าครั้งนี้ถือว่าเร็วที่สุดในชีวิต เร็วกว่าตอนออกศึกรบเสียอีก ทว่าความเร็วของม้ายังไม่เพียงพอ เขาอยากให้มันเร็วกว่านี้เพื่อที่จะได้ตามทันขบวนเกี้ยวที่มารับจางม่านอวี้เข้าวัง แต่ความเร็วของม้าทำได้เพียงแค่นี้ ช้ากว่าใจเฉินต้าเหว่ยเป็นร้อยเท่าทันทีที่แม่ทัพหนุ่มกลับมาจากส่งสารสำคัญจากต่างเมือง เขาได้รับข่าวร้ายจากบิดาเรื่องจางม่านอวี้ ตอนนั้นเฉินต้าเหว่ยรู้สึกงงงวย ความไม่เข้าใจแฝงในความรู้สึกที่อยู่ๆ จางม่านอวี้ได้เป็นพระสนม นางกำลังจะเป็นของชายอื่น ซึ่งผู้ชายคนนั้นถือว่าเป็นเจ้าชีวิตของคนทั้งแคว้น รองแม่ทัพหนุ่มผู้เกรียงไกรไม่รู้ที่มาที่ไปของการเข้าวังของนาง ในใจของเขาตอนนี้รู้เพียงว่า ต้องตามนางให้ทัน เขาจึงรีบควบม้าตามขบวนเกี้ยวอย่างไม่ลดละระยะทางจากเมืองหลานหยูไปเมืองหลวงมีระยะทางหลายร้อยลี้ ขบวนเกี้ยวที่มารับจึงใช้ม้าในการลากเกี้ยวแทนคนแบกหาม แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้การเดินทางเร็วขึ้น เนื่องจากม้าเดินไม่ได้วิ่ง ส่งผลให้แรงอาชาไนยของรองแม่ทัพหนุ่มนำพาเขามาทันขบวนเกี้ยวที่มองเห็นในระยะสายตาเฉินต้าเหว่ยรีบเร่

  • จางม่านอวี้ นางสนมล่มเมือง   Chapter 4

    Chapter 4องค์รัชทายาทไม่ปล่อยให้ความอยากรู้อยู่กับตัวเองนาน เขารีบเข้าไปถามพ่อค้าซาลาเปากับคำตอบที่อยากได้ โดยให้สินน้ำใจหนึ่งตำลึง มีหรือที่คำตอบนั้นจะไม่พรั่งพรูออกจากพ่อค้า เมื่อรู้คำตอบ เขาไม่ได้เร่งรีบไปหาจางม่านอวี้ เพราะมีงานสำคัญงานหนึ่งต้องทำ ตั้งใจว่าทำเสร็จเมื่อไหร่ เขาจะรีบไปหานางทันที แต่เผอิญว่าเจอนางที่นี่เสียก่อน“แล้วเจ้าอยากรู้ว่าข้าเป็นใครไปทำไม ทีข้ายังไม่อยากรู้เรื่องของเจ้าเลย”“ก็เพราะ...” ยังไม่ทันพูดจบ ชายรูปร่างสูงเพรียว แต่งกายคล้ายจอมยุทธเดินเข้าหา ก่อนจะกระซิบข้างหู “ข้าขอตัวก่อนนะแม่นางจาง ไว้ข้าไปหาเจ้าที่บ้านนะ”องค์รัชทายาทพูดจบก็รีบเร่งเดินไปยังท่าเรือพร้อมพรรคพวก“ผู้ชายคนนี้ดูแปลกๆ นะเจ้าคะคุณหนู” หลินหลินพูดกับเจ้านายสาว“ช่างเขาเถอะอย่าไปสนใจเลย ข้าเชื่อว่า ข้ากับเขาคงไม่ได้พบกันอีก” จางม่านอวี้คิดเช่นนั้น “ไปกันเถอะ”สองสาวพากันเดินไปยังจวนรองแม่ทัพ จางม่านอวี้หวังว่าจะได้พบเฉินต้าเหว่ย แต่การณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น คนที่นางอยากเจอยังไม่กลับมาจากออกศึก จางม่านอวี้เศร้าหนักกว่าเดิม ความรู้สึกตอนนี้ของนางไม่ดีเลย รู้สึกโหวงๆ หวิวๆ ชอบกล ด้วยเหตุผลใด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status