Share

8

Author: Clear Clouds
last update Last Updated: 2025-09-03 20:30:20

จิงซิงอี้เห็นว่าป้าซ่งมีรูปร่างท้วม ยิ่งทำให้เข่าเสื่อมและเสียรูปมากกว่าปกติ เขาจึงอธิบายอาการให้หญิงสูงวัยฟังว่า

“โรคที่ป้าเป็น คือ ข้อเข่าเสื่อมนะครับ เกิดขึ้นได้จากอายุที่มากขึ้นทำให้เสื่อม แล้วก็น้ำหนักที่มากกว่าปกติ บางคนก็เกิดจากการทำงานหนัก ยกของหนักมานาน”

ป้าซ่งรีบตอบว่า “ใช่เลยจ้ะ ป้าทำไร่ทำสวนมาตั้งแต่สาวๆ บางทีก็ต้องแบกปุ๋ย แบกผักผลไม้ไปขาย ช่วงนี้ป้าปวดเข่ามาก มันตึงไปหมด พอนั่งๆนอนๆ น้ำหนักก็เลยขึ้นอย่างที่หมอเห็นนี่ละจ้ะ”

ในขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยนั้น ลุงซ่งฮ่าวเทียน ก็ถือขวดใส่นมแพะ 3 ขวดเดินเข้าบ้านมาถามว่า

“เท่านี้พอมั้ยหมอจิง”

เมื่อเห็นป้าซ่ง เขาจึงถามด้วยความเป็นห่วงว่า

“อายี่ ออกมาทำไม จะเอาอะไรเหรอ”

ป้าซ่งรีบตอบว่า

“ไม่มีอะไร ฉันเห็นว่าหมอจิงมา เลยเดินออกมาทัก”

จิงซิงอี้สังเกตเห็นว่า ป้าซ่งไม่อยากพูดถึงอาการของตนต่อหน้าสามี เขาจึงหันไปพูดกับซ่งฮ่าวเทียนว่า

“เท่านี้ก็พอครับ พรุ่งนี้สัก 5 โมงเย็นจะแวะมาซื้ออีกนะครับ ขอบคุณครับลุงซ่ง”

จากนั้นเขาก็จ่ายเงินให้ไป 50 หยวน ก่อนที่จะเดินออกไป เขาพูดกับป้าซ่งว่า

“โรคนี้ใช้เวลารักษานานก็จริง แต่ถ้ารักษา อาการจะดีขึ้นจนเดินได้เกือบเหมือนปกติ”

ระหว่างปั่นจักรยานกลับบ้าน เขาสงสัยว่าเหตุใดป้าซ่งจึงไม่อยากพูดเรื่องการรักษาต่อหน้าสามี  เขารู้ดีว่า ไม่ใช่ทุกคนจะเชื่อถือการรักษาด้วยแพทย์แผนจีน และสองสามีภรรยาคู่นี้อาจเคยมีประสบการณ์ไม่ดีมาก่อน

เมื่อกลับมาถึงบ้าน เขาเอานมแช่ตู้เย็นเอาไว้ จากนั้นก็ใช้โทรศัพท์สั่งซื้ออาหารสำหรับสุนัข จากร้านขายอาหารสัตว์ในหมู่บ้านใกล้ๆ ซึ่งจะมาส่งให้ในตอนเย็น

จากนั้นเขาก็เตรียมทำอาหารให้สุนัขจิ้งจอก โดยจะทำเก็บเอาไว้ให้พวกมันกินได้ 2-3 วัน เขาเตรียมไข่ไก่ เนื้อไก่และหมู และเดินไปสวนหลังบ้านเพื่อเก็บผักบางอย่าง แอปเปิ้ลและสาลี่จากสวนหลังบ้าน เพื่อให้ทั้งคนและสุนัขจิ้งจอก เพราะพวกมันก็ต้องกินผักผลไม้เช่นเดียวกับคนด้วย

ในระหว่างที่เขาเตรียมอาหารสุนัขจิ้งจอก ก็มีเสียงเตือนว่ามีข้อความเข้าจากโทรศัพท์มือถือของเขา เมื่อเปิดอ่าน   ก็พบว่ามาจากเย่เฉิน เพื่อนสนิทที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยแพทย์เดียวกัน เขาส่งข้อความมาชวนจิงซิงอี้ไปเป็นแพทย์อาสา เพื่อตรวจคนไข้ฟรีตามชุมชนกับอาจารย์ที่เคยสอนพวกเขาในมหาวิทยาลัย

ชายหนุ่มคิดสักพักก่อนจะพิมพ์ตอบตกลง เขาเองก็อยากจะพบอาจารย์ที่เขาเคารพนับถือ และยังได้ไปฝึกประสบการณ์ในการรักษาโรคด้วย

คลินิกของเขาเพิ่งเปิดมาไม่กี่วัน ยังไม่มีคนป่วยมารักษามากนัก ทำให้เขาคิดถึงการโปรโมทร้าน และการทำธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องไปด้วย 

เมื่อเตรียมอาหารให้สุนัขจิ้งจอกเสร็จ     เขาก็เริ่มวางแผนการโปรโมทคลินิก ด้วยการอาสาตรวจโรคฟรีในวันเสาร์ช่วงเย็น ที่หมู่บ้านข้างๆ และแจกถุงหอมสมุนไพรที่มีชื่อคลินิกและเบอร์ติดต่อเอาไว้ เขาเชื่อว่า การแจกของฟรีจะทำให้คนอยากเข้ามาตรวจโรคด้วย 

แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดคิด เมื่อได้ยินเสียงเจ้าตัวเล็กเห่าเรียก เขาจึงรีบเดินออกไปดู และเห็นแม่สุนัขจิ้งจอกที่ย้ายมานอนบนผ้าห่มที่พื้นมุมห้อง พยายามจะลุกขึ้นมา โดยมีเจ้าตัวเล็กเดินวนเวียนส่งเสียงเห่า และคอยเลียหน้าเลียตาแม่ของมันอยู่ 

จิงซิงอี้ค่อยๆ เดินเข้าไปเพื่อไม่ให้มันตกใจ มันมองมาที่จิงซิงอี้อย่างระแวดระวัง เขาถามมันว่า   “ฟื้นแล้วหรือ เจ็บตรงไหนบ้าง”

        เขารู้ดีว่าตอนนี้ไม่ควรเข้าไปใกล้และสัมผัสตัวมัน เขาจึงเดินกลับไปที่ห้องครัว เทน้ำใส่ถ้วย และตักไก่ต้มใส่ผักและยกถ้วยกลับมา แม่สุนัขจิ้งจอกขยับจมูกเมื่อได้กลิ่นอาหาร จิงซิงอี้วางถ้วยน้ำและอาหารไว้ด้านหน้า และถอยออกมานั่งมองห่างๆ

        แม่จิ้งจอกขยับตัวเข้าไปใกล้ถ้วยอาหาร มันมองเขาเหมือนชั่งใจ ชายหนุ่มยิ้มให้มัน และพูดด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “กินซะ จะได้มีแรง”

        เหมือนจะเข้าใจ แม่สุนัขจิ้งจอกก้มหน้าก้มตากินอาหารในถ้วยจนหมด และหันไปเลียกินน้ำในถ้วยต่อ ในขณะที่เจ้าตัวเล็กเดินไปเดินมา และนอนลงข้างแม่เพื่อที่จะดูดนม จิงซิงอี้บอกมันว่า

        “เจ้าหนู แม่ยังบาดเจ็บอยู่ จะเอานมที่ไหนมาให้  กินนมแพะไปก่อนนะ”

        จากนั้น เขาก็เดินกลับไปอุ่นนมแพะและยกถ้วยนมมา เขาเรียกจนเจ้าตัวเล็กยอมเดินมาใกล้ มันดมถ้วยนมและเลียกินอย่างหิวโหย

ในระหว่างนั้น จิงซิงอี้เช็คอายุของเจ้าตัวเล็กจากอินเทอร์เน็ต และพบว่ามันน่าจะมีอายุประมาณ 1-2 เดือน กินได้ทั้งนมและอาหารสุนัขแบบอ่อน เขาจึงสั่งอาหารลูกสุนัขเพิ่มเติมจากร้านที่สั่งเอาไว้ก่อนหน้านี้

เขาปล่อยพวกมันเอาไว้ในห้อง โดยเปิดประตูเอาไว้เล็กน้อย เพื่อให้พวกมันเดินเข้าออกได้ และไปหาจิงเซียวที่ห้องยาสมุนไพร

เขาบอกชายชราว่า แม่สุนัขจิ้งจอกฟื้นแล้วและกำลังกินอาหาร พรุ่งนี้เขาจะตรวจเช็คแผลของมันอีกครั้งหนึ่ง

จากนั้น จิงซิงอี้ก็ช่วยจิงเซียวเตรียมยาสมุนไพรหรือการเผาจี้อสมุนไพรจีน

ทุกวันนี้จิงเซียวไม่ค่อยได้รักษาคนไข้แล้ว เพราะเขาเริ่มเดินทางไม่สะดวก ประกอบกับอายุที่มากขึ้น ทำให้เขาอยากทำในสิ่งที่ชอบมากกว่า ช่วงหลังมานี้ เขาจึงใช้เวลากับการเก็บรวบรวมสมุนไพรจากหลากหลายแหล่งเพื่อนำมาเป็นยา ทั้งใช้กับคนไข้และขาย

สำหรับจิงซิงอี้ ช่วงที่ใกล้จะเรียนจบ เขาแทบจะไม่มีเวลาว่างทำสมุนไพรเอง จึงพักการขายไประยะหนึ่ง แต่ในตอนนี้เขาพร้อมแล้วที่จะทำธุรกิจสมุนไพรของตนเอง โดยมีจิงเซียวคอยให้คำแนะนำ 

โดยปกติแล้วจิงเซียวและจิงซิงอี้จะสั่งซื้อยามาจากเจ้าประจำ พวกเขาจะการทำยาสมุนไพรเอง เฉพาะที่เก็บมาจากป่าและบนภูเขา โดยเฉพาะสมุนไพรหายากที่ไม่มีวางขายทั่วไป

ตอนนี้ จิงซิงอี้กำลังจะทำถุงหอมสมุนไพรเพื่อแจก มีส่วนผสมหลักคล้ายกับของคนอื่น แต่เขาเพิ่มสมุนไพรพิเศษที่จัดเตรียมเอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และลดผลข้างเคียงบางอย่างของสมุนไพร

สูตรเหล่านี้ ได้มาจากสูตรยาสมุนไพรของจิงเซียวที่มีความพิเศษ ซึ่งมีเพียงจิงซิงอี้คนเดียวที่ได้รับการถ่ายทอด ถึงแม้หมอจีนหลายคนจะอ้อนวอนขอให้จิงเซียวช่วยสอนมานานนับสิบปี แต่ชายชราก็ปฏิเสธอย่างไม่ไยดี

จิงซิงอี้หั่นสมุนไพรหลักๆตามสูตรถุงหอมปกติ เตรียมใส่กระด้งนำไปตากแดด เขาเพิ่มขิง ตะไคร้ พริกไทยและผิวส้มกับมะนาวลงไปด้วย เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยหรือยูจีนอล เพราะช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงจากเย็นไปสู่ร้อนชื้น ทำให้คนส่วนใหญ่เป็นหวัดคัดจมูก และปวดหัว

สำหรับถุงหอมที่ใส่นั้น เขาเลือกผ้ามีลวดลายปักแบบจีน และติดชื่อคลินิกและวิธีติดต่อเอาไว้ อย่างไรก็ตาม เขายังคิดจะใช้ถุงผ้าแบบอื่นๆ และถุงกระดาษสีน้ำตาลอ่อนด้วย ซึ่งแบบหลังเป็นสมุนไพรสำหรับวางในบ้านและในรถ เพื่อช่วยขับไล่แมลงและกำจัดกลิ่นอับ

หลังจากตากสมุนไพรเสร็จแล้ว เขาใช้คอมพิวเตอร์ค้นหาข้อมูลสมุนไพร และตำรับยาต่างๆ  เพื่อเริ่มต้นธุรกิจของตนเอง

ตลอดช่วงบ่ายคล้อยจนถึงตอนเย็น สองตาหลานใช้เวลาด้วยกันไปกับการจัดเตรียมสมุนไพร ทั้งการนำไปรักษาคนไข้ และเตรียมทำถุงหอมสมุนไพร ทั้งสูตรเก่าและสูตรใหม่ 

จิงซิงอี้ขอให้จิงเซียวช่วยหาข้อมูลบริษัทที่ปลูกสมุนไพร เพราะเขาต้องการจะปลูกสมุนไพรบางส่วนเอง จิงเซียวเห็นด้วย เพราะตอนนี้ชายหนุ่มเรียนจบแล้ว สามารถทุ่มเทเวลาในการรักษาคนและทำธุรกิจได้เต็มที่

สำหรับสถานที่ปลูกนั้น เขาตั้งใจจะไปปรึกษาคณะกรรมการหมู่บ้าน เพื่อดูว่าเขาจะสามารถใช้พื้นที่หลังบ้านที่เป็นรอยต่อกับภูเขา และพื้นที่บนภูเขาบางส่วนได้หรือไม่ และต้องทำอย่างไรบ้าง

จิงเซียวให้เสรีภาพกับจิงซิงอี้ในการทำสิ่งที่ชอบ ซึ่งแตกต่างจากลูกศิษย์คนอื่นๆ ที่ถูกอบรมสั่งสอนและควบคุมอย่างเข้มงวด แต่ลูกศิษย์สองคนแรกของเขา คือ ลั่วเยี่ยนและซุนเฉิงต่างก็เข้าใจดี   เพราะจิงซิงอี้มีอายุห่างจากพวกเขามาก ทำให้พวกเขาเอ็นดูชายหนุ่มเหมือนกับลูกหลานของตนเอง

นอกจากนี้ จิงซิงอี้ยังนิสัยดี อ่อนน้อม และฉลาดเฉลียวเกินวัย พวกเขาเรียนวิชาจากจิงเซียว และออกเดินทางไปด้วยกันหลายครั้ง ตั้งแต่จิงซิงอี้ยังเป็นเด็ก จึงมีความสนิทสนมกันมาก การที่จิงเซียวรักและเอ็นดูชายหนุ่มมาก จึงไม่เป็นเรื่องน่าแปลกใจสำหรับศิษย์พี่คนอื่นๆ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค   55

    นับตั้งแต่จิงซิงอี้เปิดคลินิกมาได้ 3 เดือนกว่า เขาทำอะไรมามากมาย ทั้งตั้งโต๊ะรักษาโรคฟรีข้างนอกที่หมู่บ้านข้างๆ ไปบริการชุมชนร่วมกับโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย ช่วยตำรวจไขคดีฆาตกรรมที่เกิดจากการใช้ยาสมุนไพรจีน และยังมีวิดีโอคลิปตอนที่เขารักษาคนบาดเจ็บจากแก๊สระเบิดที่แพร่หลายออกไป สิ่งเหล่านี้ทำให้คนรู้จักเขามากขึ้นเขายังมีคนไข้ที่เคยรักษาที่โรงพยาบาลในเซี่ยงไฮ้ เดินทางมารักษาต่อที่คลินิกกับเขาหลายคน ถึงแม้จะต้องเดินทางมาจากที่อื่นก็ตาม โดยเฉพาะเมื่อเขาสามารถรักษาคู่สามีภรรยาที่มีบุตรยาก ให้ตั้งครรภ์ได้ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน ทำให้คู่สามีภรรยาหลายคนที่รู้ข่าว มีความหวังและเดินทางมาหาเขามากขึ้น จิงซิงอี้รู้สึกว่า เขากลายเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาภาะวมีบุตรยากไปอีกหนึ่งด้าน ไม่เพียงแต่คนไข้ของเขาจะเพิ่มจำนวนขึ้น เขายังช่วยให้ธุรกิจในหมู่บ้านเจริญก้าวหน้าขึ้นตามด้วยหลังจากที่มีคนไข้เพิ่มมากขึ้น ชาวหมู่บ้านบางคนเริ่มเปิดร้านอาหารเล็กๆ และร้านขายของเพื่อรองรับคนที่เดินทางมารอรักษา เพราะคนไข้บางคนไม่สามารถกลับบ้านได้ทันในวันเ

  • จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค   54

    วันหนึ่งชุนเฉิงนั่งอ่านหนังสืออยู่คนเดียว แต่เขาก็หยุดอ่านและเหม่อมองออกไปไกลๆ จิงเซียวซึ่งเดินเข้ามาหยิบหนังสือสังเกตเห็น เขาจึงเรียกชื่อชุนเฉิง แล้วถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า ปกติแล้วชุนเฉิงรักและเคารพจิงเซียวมาก เขาจะพูดทุกอย่างกับจิงเซียวตรงๆ แต่ครั้งนี้ เขานิ่งไปและถอนหายใจยาว เขารู้สึกละอายใจที่จะบอกว่า ด้วยวัยเกือบ 40 ปีนี้ เขารู้สึกว่างเปล่า แต่ดูเหมือนจิงเซียวจะเข้าใจ ชายชราเดินเข้ามานั่งตรงข้ามเขา และพูดว่า“เจ้ากำลังรู้สึกสับสนอะไรอยู่หรือเปล่า” ชุนเฉิงยิ้มเศร้าๆ เขาตอบว่า “ผมนึกไม่ออกว่าจะทำอะไรต่อไปดี สิ่งที่กำลังตอนนี้มันก็ดีอยู่แล้ว แต่มันก็กลายมาเป็นกิจวัตรประจำวัน ข้อดีคือ เราก็ทำได้ดี ไม่ต้องเหนื่อย แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันน่าเบื่อและไม่รู้ว่าจะทำไปเพื่ออะไร การรักษาคนไข้ผมยังชอบอยู่ครับ แต่มันก็แค่นั้น บางทีผมก็คิดว่า จะใช้ชีวิตแบบนี้ไปจนตายเลยหรือ ผมรู้สึกสิ้นหวังยังไงไม่รู้ครับ” จิงเซ

  • จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค   53

    “หลานสาวของภรรยาพี่เอง ตอนนี้เขาเป็นดาราวัยรุ่นมาแรงเลย เธอน่าจะจำเขาได้นะ อี้อวิ๋นซีไงล่ะ” จิงซิงอี้ทบทวนความจำ สมัยที่เรียนอยู่ในเมือง บางครั้งเขาจะไปพักที่บ้านของลั่วเยี่ยน เขาจำได้ว่ามีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอายุห่างจากเขา 4-5 ปี ชอบมาที่บ้านของลั่วเยี่ยน และคอยวิ่งตามจิงซิงอี้เพื่อให้เขาเล่นด้วย ภรรยาของลั่วเยี่ยนมีพี่สาวหนึ่งคน และอี้อวิ๋นซีเป็นลูกสาวคนเดียวของเธอ และยังสนิทกับภรรยาของลั่วเยี่ยนมากเมื่อจิงซิงอี้เรียนในระดับมัธยมปลายและมหาวิทยาลัย เขาเรียนหนักมาก จึงไม่ค่อยได้ไปอยู่บ้านลั่วเยี่ยน ประกอบกับที่อี้อวิ๋นซีเริ่มโตแล้ว เธอจึงไม่ค่อยมาเที่ยวเล่นแบบตอนเด็กอีกต่อไป จิงซิงอี้พอจะจำเธอได้ เขาจึงถามต่อว่า “เขาจะยอมใช้ครีมให้ผมหรือครับ พวกดาราชอบใช้ของแบรนด์เนมมากกว่านี่” ลั่วเยี่ยนทำหน้ามีเลศนัย เขาพูดยิ้มๆว่า “นายมันจะไปไม่รู้อะไร เสี่ยวซีคอยต

  • จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค   52

    และก็เป็นไปตามที่จิงซิงอี้คาด อีกไม่กี่วันต่อมา ผู้อำนวยการแผนกแพทย์แผนจีนได้เข้าไปคุยกับผู้อำนวยการโรงพยาบาล พวกเขาตกลงกันว่าจะให้จิงซิงอี้ทำงานไปจนจบเดือนนี้ และไม่ขอต่อสัญญา โดยอ้างว่าสถานะเศรษฐกิจไม่ดี ผู้อำนวยการแผนกแพทย์แผนจีนจำเป็นจะต้องแจ้งให้เม่งฮ่าวซึ่งเป็นอาจารย์ของจิงซิงอี้รู้ก่อน แต่ไม่สามารถบอกสาเหตุที่แท้จริงได้ เพราะโรงพยาบาลยังเกรงใจเขาอยู่ ผู้อำนวยการจะคุยกับจิงซิงอี้ และจะขอโทษเม่งฮ่าวด้วยที่ไม่สามารถจ้างจิงซิงอี้ต่อได้เม่งฮ่าวรู้จากจิงซิงอี้อยู่ก่อนแล้ว เขาไม่พอใจทางโรงพยาบาลมาก ถึงแม้ผู้อำนวยการแผนกแพทย์แผนจีนจะมาคุยกับเขา แต่ก็เหมือนไม่ไว้หน้าเขา ถึงแม้ว่าจะใช้ข้ออ้างอื่นก็ตาม สำหรับเม่งฮ่าวแล้ว เขาไม่ได้สนใจการทำงานพิเศษในโรงพยาบาลนี้เท่าไหร่ เพราะเขามีชื่อเสียงและความสามารถในระดับประเทศและต่างประเทศอยู่แล้วเขามาทำงานให้ที่นี่ เพราะรุ่นพี่ที่นับถือขอร้องให้มาช่วยเหลือ ตั้งแต่มีการก่อตั้งแผนกแพทย์แผนจีนใหม่ๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายปี รุ่นพี่ที่เขานับถือก็เกษียณไปแล้ว เขายังทำงานให้เพราะเห็นว่า โรงพยาบาลยังปฏิบัติต่อเขาดี แต่เมื่อเกิดเหตุการ

  • จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค   51

    จิงซิงอี้นิ่งไปสักพัก เขามองหน้าเจี่ยเหริน เขาเห็นการทำงานของเด็กหนุ่มและนิสัยใจคอที่ดีของเขา เขาเสียดายโอกาสที่เด็กหนุ่มคนนี้ที่น่าจะไปได้ดีกว่านี้ เขาจึงพูดขึ้นว่า“นายเก็บเงินให้ดีนะ จะได้ไปเรียนต่อ ฉันรู้สึกเสียดายความสามารถของนาย ฉันจะแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์การขายให้ นายจะได้เก็บเอาไว้เรียนต่อ”เจี่ยเหรินรีบปฏิเสธทันที แต่จิงซิงอี้ยืนยันว่า“ทำงานก็ต้องได้เงิน และที่สำคัญ การให้โอกาสคน คือการทำบุญที่ดีอีกอย่างด้วย ฉันก็ได้รับโอกาสจากคนอื่นเหมือนกัน ฉันจึงมาอยู่จุดนี้ได้ หลังจากเรียนจบแล้ว นายจะไปทำงานที่อื่นฉันก็ไม่ว่าอะไร ทุกคนมีสิทธิ์เลือกทางเดินของตัวเอง ไม่ต้องรู้สึกผิด เพราะนายก็ได้ใช้แรงกายแรงใจช่วยงานฉันมาด้วยดีเสมอ แล้วฉันก็ให้เงินเดือนเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน นั่นละคือการทำงาน ไม่ต้องมาคิดเรื่องบุญคุณอะไร” หลังจากวันนั้น ทั้งจิงซิงอี้และเจี่ยเหรินต่างก็หัวหมุนกับการแพ็คสินค้าและส่งของไปให้ลูกค้า พวกเขาดีใจมากที่มีคนสั่งซื้อสินค้าจนหมด 200 ชุด เขาต้องประกาศว่าสินค้าหมดแล้วและกำลัง

  • จิงซิงอี้ แพทย์จีน 2 ยุค   50

    ไลฟ์ในวันนั้นเริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวของจิงซิงอี้ และพูดถึงคลินิก ที่ตั้ง และความเป็นมาของคลินิก รวมไปถึงตัวเขาเองว่าจบมาจากที่ใด และเชี่ยวชาญด้านใด ส่วนข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ เขาไม่พูดถึง ถึงแม้จะมีคนดูถามเข้ามากมายทั้งอายุ และเขามีแฟนหรือยัง และเสียงชื่นชมที่ว่าเขาหล่อแค่ไหนเมื่อให้ข้อมูลจบ จิงซิงอี้ดูจะผ่อนคลายขึ้น เขาจึงเริ่มพูดว่า“วันนี้ผมจะมาเล่าถึงการดูแลผิวของตัวเองให้สวยงาม ไม่มีริ้วรอย ปัจจัยหลักที่ทำให้ผิวของเราเสีย ก็คือ แสงแดด มลภาวะ ความเครียด การไม่ดูแลผิว โรคภัยบางอย่าง การทำร้ายผิวด้วยการสูบบุหรี่ การใช้สารเคมีบางอย่าง และอาหารการกิน”เขาอธิบายพร้อมกับแชร์ภาพของผิวหนังที่เสียจากสาเหตุดังกล่าวด้วย การอธิบายของเขาเป็นไปตามหลักการแพทย์แผนปัจจุบัน ที่ทำให้คนดูแปลกใจ เพราะเขาเปิดตัวมาด้วยการบอกว่าตนเองเป็นแพทย์จีน แต่เขากลับมีความรู้แบบตะวันตก และใช้หลักวิทยาศาสตร์ในการอธิบาย ทำให้คนที่ต้องการจะเข้ามาก่อกวนและไม่เชื่อต้องหยุดฟังชั่วคราว รวมไปถึงคนฟังที่ตื่นเต้นกับหน้าตาของเขาก็หยุดฟังด้วยความสนใจจากนั้นเขาก็เริ่มอธิบายเฉพาะผิวที่เป็น

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status