แชร์

ตอนที่9รอด

ผู้เขียน: หลิวซินอี้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-20 23:02:14

 ร่างผอมแห้งของหยงเจี้ยนถูกห่มผ้าบางๆ วางไว้บนเกี้ยวหลังใหญ่ที่เคลื่อนไหวช้าๆ เลาะผ่านถนนโรยด้วยกรวดหินของวังหลวง เสียงล้อเกวียนดังกังวานระยับในยามร่องรอยบาดแผลยังคงปรากฏบนผิว ขณะที่หน้าอกที่เคยผายผอมยังหายใจพร้อมกับความรู้สึกยากบรรยาย

มิ่นหมิ่น เจ้าจิ้งจอกน้อยผู้วิ่งตามเกี้ยวผ่านป่าเขาจนเท้าระบม ตั้งใจจะให้แน่ชัดว่าหยงเจี้ยนถูกพาไปที่ใดกันแน่ ดวงตาเล็กๆ ของมิ่นหมิ่นส่องประกายไม่ต่างจากดวงไฟอ่อนในคืนที่มืดมิด ความกลัวกับความหวังผสมกันเป็นหนึ่งเมื่อเกี้ยวค่อย ๆ หายลับเข้าไปในจวนของท่านราชครูเฉิน

“จวนราชครู หวังว่าท่านจะปลอดภัยที่นี่นะ”

 เงาร่มไม้และกำแพงสูงกั้นทัศนวิสัยไว้ มิ่นหมิ่นหยุดยืนอยู่ข้างทาง หัวใจของมิ่นหมิ่นเต้นแรง สูดดมกลิ่นแปลกพลางส่ายหยน้าไปมา

ภายในจวน ท่านราชครูเฉินยืนอยู่หน้าประตูรับรอง ท่าทางสง่างามยังคงอยู่ แต่สายตาบ่งบอกถึงความเหนื่อยล้า เขาหันไปมองอี้จือลูกสาวคนเดรียวที่นรั่งตำแหน่งไท่จือเฟยได้ไม่นาน สีหน้าโศกสลด เพราะความกังวล

"จะไม่เป็นไรใช่ไหม หากว่าฝ่าบาทจะรู้เรื่องนี้" 

ราชครูเฉินพูดขึ้นเบา ๆ น้ำเสียงไม่ดังแต่ดึงความเงียบในห้องให้กลายเป็นความตึงเครียด

อี้จือก้มศีรษะ น้ำเสียงแหบพร่าเมื่อตอบด้วยน้ำตาคลอสองตา

 "ท่านพ่อ ได้โปรด... ลูกไม่อาจดูดาย จะปล่อยให้ท่านสี่ต้องพบจุดจบแบบนั้นได้หากช้ากว่านี่ท่านสี่หามีชีวิตไๆ ม่"เหมือนจะสะกดลมหายใจให้สงบ แต่ายังไม่วสายสะอื้นอย่างหนัก

ราชครูเฉินถอนหายใจยาว ดวงตาของเขาเห็นภาพรวมทั้งการเมืองเกียรติยศและความเสี่ยง 

"ตัดใจเสีย อี้จือ" เขาวางมือบนโต๊ะไม้ ท่าทางของคนเป็นพ่อผสมกับความเด็ดขาด 

"ท่านสี่คนนี้ไม่เหมาะกับเจ้า เจ้าเป็นถึงไท่จือเฟย อีกหน่อยตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่ไกล อย่าได้เอาตัวเองมาพัวพันกับคนที่ไร้วาสนาเช่นองค์ชายสี่คนนี้"

อี้จือสะอื้น เสียงสั่นจนแทบขาดใจ 

"ท่านพ่อ... ท่านแค่ให้ท่านสี่มีชีวิตอยู่ต่อไป ลูกไม่อาจทนเห็นเขาตายได้" 

น้ำตาไหลเป็นทาง แค่ต้องการให้คนที่รักยังคงหายใจต่อไป แม้จะต้องแลกกับศักดิ์ศรีและตำแหน่งก็ตาม

ราชครูเฉินจ้องบุตรีนิ่งนานเขาเห็นความแน่นอนในดวงตาอี้จือที่ยากจะเปลี่ยน ความรักที่เธอมีต่อหยงเจี้ยนเป็นไฟที่ลุกโชน แม้จะสร้างความเสี่ยงให้กับฐานอำนาจก็ตาม

"อี้จือ...ถ้าเจ้าใจดีที่จะเสี่ยงเพราะความรัก ข้าจะไม่ขวางเจ้าอย่างเด็ดขาด แต่ข้าขอเตือนว่าโลกนี้โหดร้ายกว่าที่เจ้าคิด ทุกการกระทำย่อมต้องมีผลตอบแทน" เขาก้าวเข้าไปใกล้ เสียงทุ้มมีความอบอุ่นปนเศร้าสงสาร 

"ข้าจะช่วยเท่าที่ข้าทำได้ แต่เจ้าอย่าทำให้ตัวเองจมหายไปเพราะคนที่ยังไม่แน่ว่าจะยืนเคียงข้างเจ้าได้หรือไม่ เขาไม่อาจลุกขึ้นมายืนได้อีกแล้วท่านสี่ผู้ไร้ที่ยืนในวังหลวงคนนี้เจ้าไม่ควรข้องแวะ"

อี้จือกลั้นน้ำตา พยายามรวบรวมความเข้มแข็งแล้วพยักหน้า

 "ข้ารู้... แต่ข้าเลือกแล้ว ท่านพ่อ ข้าไม่ยอมให้เขาตายเพราะคนอื่นปั้นเรื่องใส่ร้าย ข้าจะดูแลเขาเอง"ท่านราชครูเฉินถอนหายใจยาว

ข้างนอกกำแพงเล็ก ๆ ใกล้ประตูทางเข้า มิ่นหมิ่นยังยืนนิ่ง หูจับสัญญาณทุกคำพูด เสียงใจเต้นรัวอย่างไม่เป็นจังหวะ แต่เมื่อได้ยินถ้อยคำของราชครูรู้สึกเหมือนได้รับพลังบางอย่างพลังของคนที่พร้อมจะยืนเคียงข้างแม้โลกจะไม่เห็นด้วย

มิ่นหมิ่นหันหลังวิ่งเร็วเหมือนลม ผ่านสวนดอกไม้ที่เริ่มเหี่ยวเฉาในยามเย็น เงาสีทองของพระอาทิตย์ตกดินกำลังฉายแสงยาวขึ้นบนพื้นหญ้าผืนกว้าง ร่างเล็กของเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ความห่วงใยและความสงสัยที่ก่อตัวในใจทำให้ไม่อาจหยุดได้ในตอนนี้ วิ่งตรงผ่านม่านอาคมเข้าไปที่วังจิ้งจอกที่เงียบสงบ เสียงของฝีเท้าบนพื้นดินดังระรัวในยามที่มิ่นหมิ่น เร่งฝีเท้าท่ามกลางความมืดมิดที่เริ่มล้อมรอบ

เมื่อถึงที่หมาย มิ่นหมิ่นเปิดประตูใหญ่เข้าไปในห้องของหลินหยูพี่ใหญ่ทันที ท่ามกลางความเงียบสงบของห้องที่เต็มไปด้วยพลังแห่งความคิดและการฝึกฝน 

"พี่ใหญ่!"มิ่นหมิ่น เรียกออกไปก่อนจะวิ่งเข้าไปหาพี่ชายคนโตของ

"ข้ามีญาณหยั่งรู้บางอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ พี่คิดว่ามันเชื่อถือได้แค่ไหน"

หลินหยูเงยหน้าขึ้นจากหนังสือที่เขากำลังอ่าน สายตาของเขาอ่อนโยนและมีความเข้าใจในท่าทีของน้องสาว เขาวางหนังสือลงช้าๆ แล้วตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ 

"เชื่อถือได้มากทีเดียวหากว่ามาจากการที่เจ้าจะฝึกฝนเพิ่มเติม"

มิ่นหมิ่นมองไปที่พี่ใหญ่ด้วยความสงสัยเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มบางๆ พูดอย่างไม่มั่นใจ 

"พี่ใหญ่... ข้าก็ฝึกแล้วนะ แต่ข้าสงสัยว่ามันจะเชื่อได้ไหม... หรือมันอาจจะเป็นแค่เรื่องล้อเล่น"

หลินหยูยิ้มอ่อนโยนให้กับน้องสาว เขามองดวงตาของมิ่นหมิ่น ที่เต็มไปด้วยความสงสัยแล้วตอบ 

"เชื่อได้มากทีเดียว... พี่มั่นใจในตัวเจ้ามาก หากเจ้าฝึกฝนเพิ่มขึ้น เจ้าจะเข้าใจมันดีขึ้นเองว่าทุกญาณหยั่งรู้ล้่วนส่งสัญญาณเตือน"

มิ่นหมิ่นพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ แต่ก็ยังรู้สึกไม่มั่นใจเท่าไหร่ 

“ขอบคุณพี่ใหญ่” แล้วก็เตรียมตัวจะวิ่งออกไป แต่ทันใดนั้นหลินหยูที่ยืนขึ้นและคว้าข้อมือของมิ่นหมิ่น เอาไว้ทำให้มิ่นหมิ่น หยุด

"ว่าแต่เจ้าหยั่งรู้เรื่องใดกัน" เ

ขาถามเสียงเบาแต่จริงจัง สายตาของเขาหยุดที่ใบหน้าของน้องสาวด้วยความสงสัยเล็กน้อย แม้ว่าหลินหยูจะเป็นพี่ชายที่มีความเข้าใจน้องสาว แต่เขาก็ไม่อาจทิ้งคำถามที่ค้างคาอยู่ในใจได้

มิ่นหมิ่นยิ้มให้กับคำถามของพี่ใหญ่ แล้วตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความขี้เล่น 

"ความลับเจ้าค่ะ" พร้อมกับยิ้มให้หลินหยู ก่อนจะดึงมือออกจากการจับของเขาและวิ่งออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว

หลินหยูมองตามร่างของน้องสาวที่วิ่งไปอย่างกระตือรือร้น เขากะพริบตาแล้วส่ายหัวไปมา ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย พร้อมกับพึมพำเบาๆ 

"ข้าไม่อยากยุ่งเรื่องของเจ้านะ... แต่ก็ปล่อยเจ้าไม่ได้เช่นกัน..." เสียงของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใย แต่มิ่นหมิ่นไม่อาจได้ยินมันแล้ว เพราะออกจากห้องไปแล้ว

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • จิ้งจอกอ่อนหัดขององค์ชายจอมโหด   ตอนที่68แค่คิดถึง

    แสงจันทร์ลอดผ่านช่องหน้าต่างของตำหนักเทียนฮวา คืนนี้ลมหนาวพัดแผ่วเหมือนฟ้ากำลังกล่อมให้ทุกสิ่งเข้าสู่นิทรา จิ้งจอกน้อยที่งีบหลับอยู่บนตั่งผ้าขนสัตว์ขยับตัวเล็กน้อยก่อนซุกหน้าลงกับแขนของตนเองอย่างสบายใจ แต่องค์ชายสี่หยงเจี้ยนกลับยังลืมตาอยู่กลางห้องเงียบๆ ราวกับหัวใจยังเดินวนไม่ยอมหยุดพักบนโต๊ะไม้เคลือบเงามีชาร้อนกำลังส่งกลิ่นอบอุ่น ขนมสีสวยเรียงรายอย่างประณีต ทุกอย่างถูกเตรียมไว้อย่างละเมียดละไมเพื่อแขกเพียงคนเดียว แขกที่เขาเฝ้ารอจนลืมความหนาวของค่ำคืนนี้ไปสิ้นเสียงฝีเท้าเบาๆ ดังขึ้นข้างนอก ประตูถูกผลักออกอย่างแผ่วเบา เผยร่างของมิ่นหมิ่นที่คลุมใบหน้าบางส่วนด้วยผ้าบางเบาสีดำเช่นเคย มิ่นหมิ่นก้าวเข้ามาอย่างเงียบสงบ แต่เพียงแค่เห็นเงาของนาง หัวใจของหยงเจี้ยนก็สว่างราวกับฟ้าตอนตีห้าเขารีบลุกไปต้อนรับแทบจะทันที"แม่นางมิ่นหมิ่น คืนนี้ลมหนาวนัก เข้ามาข้างในเถอะ ข้า…เตรียมชาไว้สำหรับท่านโดยเฉพาะชากำลังร้อนๆ ได้ที่"มิ่นหมิ่นก้มหน้าเล็กน้อยราวกับกลัวว่าจะแผ่ความงามออกมามากเกินไป และยอมให้เขาพาไปนั่งยังเบาะนุ่มที่จัดเตรียมไว้ มิ่นหมิ่นนั่งลงอย่างสงบเรียบร้อย และงามราวหยาดน้ำค้างบนยอดบัวหยง

  • จิ้งจอกอ่อนหัดขององค์ชายจอมโหด   ตอนที่67ต้องให้ลงมือ

    หยงเจี้ยนยิ้มขึ้นมุมปากอย่างยียวน ก่อนจะพูดด้วยเสียงยั่วยุ "แต่แม่นางน้อยม่านม่านคงไม่ยินดีที่ชาร่วมดื่มชาสินะ" พูดเหมือนจะล้อเลียนขำๆม่านม่านถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเดินชมตำหนักบูรพาอย่างไม่สะทกสะท้าน ในขณะที่หยงเจี้ยนและหยงซินยืนอยู่ที่ทางเข้าของตำหนักบูรพา เสียงของหยงซินดังขึ้นอีกครั้ง"พี่สี่ ข้าก็ไม่เข้าใจว่าทำไมท่านต้องมายุ่งวุ่นวายกับข้า ทั้งๆ ที่ข้าเองก็ไม่เคยไปยุ่งอะไรกับท่าน..."หยงเจี้ยนหันไปมองน้องชายอย่างเย็นชา "นั่นมันเรื่องของเจ้า และนี่ก็เรื่องของข้า ข้าก็ไม่ได้อยากยุ่งกับเจ้าซะหน่อย น่ารำคาญจริงๆ เลย" หยงเจี้ยนแสดงท่าทีรำคาญชัดเจน เดินไปทันทีทิ้งหยงซินมองตามม่านม่านและหยงเจี้ยนที่เดินไปอย่างเงียบๆ …หยงเจี้ยนยืนอยู่ข้างโต๊ะชงชา เขาก้มหน้าลงอย่างตั้งใจในการเตรียมชา มองดูน้ำร้อนที่ไหลลงจากกาน้ำในมืออย่างละเอียดถี่ถ้วน ราวกับกำลังทำบางสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตมือของหยงเจี้ยนเคลื่อนไหวอย่างละเมียดละไม พิถีพิถันในการเลือกและชงชา ค่อยๆ เติมน้ำร้อนลงในกาน้ำชา ด้วยท่าทางอ่อนโยนไม่รีบร้อน หลังจากนั้นก็ยกกาน้ำชาและเทชาลงในจอกสองใบตรงหน้าอย่างประณีต โดยไม่ให้มีหยดใดตกหล่นลงบนโต๊

  • จิ้งจอกอ่อนหัดขององค์ชายจอมโหด   ตอนที่66ขวาง

    ตำหนักบูรพา"ลมอะไรกันที่สามารถหอบนางสวรรค์ม่านม่านมาถึงนี่ได้"หยงซินพูดทีเล่นทีจริง เสียงเย้ยหยันขบขันทำให้บรรยากาศในห้องดูไม่เป็นทางการเอาเสียเลย หยงซินหัวเราะเบาๆ พร้อมจ้องมองม่านม่านที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยรอยยิ้มบางๆม่านม่านยิ้มหวานหยด ไม่ยี่หระกับการพูดไม่ให้เกียรติของหยงซิน ก่อนจะพูดเสียงเบา“ข้าได้ยินว่า…ไท่จือสองสามวันก่อนนอนไม่ค่อยหลับ ข้าจึงนำชานอนหลับมามอบให้ด้วยตัวเอง”หยงซินมองม่านม่านด้วยสายตาประหลาดใจ"เจ้าช่างมีน้ำใจจริงๆ ช่วยเหลือดูแลคนในวังหลวงไม่ว่าจะสูงต่ำเพียงใด" เขาพูดพลางยิ้มอย่างขบขัน อี้จือและซีหยินเดินเข้ามาในห้องอย่างเงียบๆ อี้จือมองแวบหนึ่งไปที่หยงซินแล้วหันไปมองม่านม่าน สายตาดูไม่ค่อยจะเป็นมิตรนักแต่ก็พยายามสะกดกลั้นความรู้สึกเอาไว้“มาแล้วหรือข้ากำลังรออยู่พอดีเลย” คำพูดของเขาทำให้บรรยากาศในห้องกลับมาเครียดอีกครั้ง อี้จือที่เคยชินกับคำพูดรุนแรงนี้ไม่ยอมหลบเลี่ยง"หญิงแพศยา เจ้ายังมาทำอะไรแบบนี้ได้อีกหรือ ข้าได้ยินว่าเจ้าตกน้ำแล้วหายเข้าไปในห้องของพี่สี่ตั้งนานสองนาน อย่าคิดว่าข้าจะหูหนวกตาบอดนะ""พี่ห้า ฮะฮ่าาาา ท่านก็อย่าโมโหไปหน่อยเลยน่า ข้าอยู่ที่นั่นต

  • จิ้งจอกอ่อนหัดขององค์ชายจอมโหด   ตอนที่65หลินซิน-ซีหยิน

    อี้จือที่ยืนเงียบอยู่ข้างๆ ซีหยินหันมองตาม เบิกตามองหลินซินไปชั่วครู่ สายตาแวววาวหากแต่ไม่บ่งบอกถึงความรู้สึกใดๆ นางก้มหน้าลงเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นเสียงต่ำ"นั่นคือหลินซิน…เจ้าก็เคยพบเขาแล้วนี่”ซีหยินหันไปมองอี้จือก่อนจะค่อยๆ พยักหน้าเล็กน้อย เสียงของหลินซินดังขึ้นเบาๆ ในระยะห่างจากพวกเขา"ข้าแค่ผ่านไป…ขออภัยทั้งสองด้วย" หลินซินกล่าวเสียงเรียบก่อนที่จะเดินหายไปทั้งสองมองตามร่างของหลินซินไปเงียบๆ ช่วงเวลานั้นเหมือนหยุดนิ่งไปชั่วขณะ ซีหยินมองตามหลินซินด้วยดวงตาเคลิ้มฝัน“คนอะไร ทั้งสุภาพและอ่อนโยน ขี้เกรงใจอีกต่างหาก งู้ยยย…ข้าจะต้องหาทางรู้จักเขาให้มากกว่านี้ให้จงได้”ในตำหนักใหญ่ของฮ่องเต้แสงคบเพลิงสะท้อนเงาของขุนนางและองครักษ์ที่หมอบเรียงรายอยู่เบื้องหน้า เสียงลมหายใจหอบสั้นตึงเครียดปะปนกับเสียงสั่นเครือของผู้ที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้าฮ่องเต้หยงฉี"ฝ่าบาทได้โปรด…ฝ่าบาทได้โปรด ข้าน้อยสมควรตาย…" เสียงนั้นแตกพร่าด้วยความสั่นกลัว"ฉับ!"ยังไม่ทันที่เสียงสะอื้นจะจบลง คมกระบี่สับลงดั่งสายฟ้าฟาดด้วยมือของฮ่องเต้หยงฉี ลำคอของขุนนางคนนั้นขาดสะบั้นหลุดล่วงจากบ่ากลิ้งบนพื้นไปไกล เลือดฉีดพุ่งกร

  • จิ้งจอกอ่อนหัดขององค์ชายจอมโหด   ตอนที่64ในแง่ร้าย

    "ว่ามา" หยงเจี้ยนพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน"ระหว่างนี้…ท่านห้ามมองหญิงงามล่มสวรรค์คนนั้น ห้ามใส่ใจนาง ห้ามเข้าใกล้นาง ห้ามพูดกับนางและ…ท่านห้ามชอบนาง เพราะข้าริษยานาง ที่ท่านสี่ใส่ใจนางมากกว่าข้า" อี้จือพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน แสดงความริษยาออกมาอย่างชัดเจนหยงเจี้ยนยิ้มออกมาเล็กน้อย เขาเข้าใจความรู้สึกของอี้จือเป็นอย่างดี"เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่ให้ใครมาเข้ามาแย่งความสนใจของข้าไปจากเจ้าได้" พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ยกมือขึ้นมาแตะใบหน้าของอี้จือ ลูบเบาๆ ตามแก้มนุ่มอี้จือเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมาอีกครั้งอย่างดีใจ ก่อนหน้านี้หยงเจี้ยนคงสับสนอยู่บ้างเพราะตนเองเป็นไท่จือเฟยจึงผลักไส แต่ในที่สุดไม่ว่าอย่างไรหยงเจี้ยนก็ยังคงรักตนเองที่สุด ยังให้คำมั่นสัญญา จากที่ไม่คิดทำอะไรในตอนนี้ถึงกลับลงมือเคลื่อนไหวแล้วเพื่อข้า…เช่นนั้นข้าจะรอหยงเจี้ยนกับอี้จือก้าวออกมานอกตำหนัก เสี่ยวเอ๋อร์เดินเข้ามาช้าๆ ก้าวเบาๆ ถึงขั้นย่องเข้ามา ก่อนจะโน้มตัวเข้าหาหยงเจี้ยนแล้วเอ่ยกระซิบเสียงเบา"องค์ชายขอรับ…ข้าน้อยเห็นว่าแม่นางน้อยม่านม่านไม่ได้ไปที่ตำหนักฝ่าบาทนะขอรับ นางเดินไปทางตำหนักบูรพาแล้วขอรับ…"อี้

  • จิ้งจอกอ่อนหัดขององค์ชายจอมโหด   ตอนที่63อดทนรอ

    ในห้องเงียบสงัดอี้จือนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งในตำหนักของหยงเจี้ยน ขณะที่ซวนซ้วนยืนข้างๆ คอยเช็ดผมที่เปียกหมาดๆ ของอี้จืออย่างระมัดระวัง มือบางของอี้จือจับที่ขอบโต๊ะแน่น ใบหน้าของนางสะท้อนอยู่ในกระจกเงา รอยน้ำตายังคงพร่ามัวในดวงตาของนาง ดวงตาแสดงถึงความเหนื่อยล้าและความเจ็บปวดอย่างมากมายเสียงฝีเท้าที่ดังเข้ามาหยงเจี้ยนเดินเข้ามาในห้องและยืนอยู่ที่ประตูสักครู่ก่อนจะเดินตรงไปที่ซวนซ้วน คว้าผ้าเช็ดผมจากมือของซวนซ้วนแล้วเริ่มเช็ดผมให้กับอี้จือด้วยมือของตนเอง อี้จือมองผ่านกระจกเงาไปที่หยงเจี้ยน น้ำตาค่อยๆ หยดลง ขณะที่มือบางของอี้จือกระชับมือของหยงเจี้ยนเอาไว้แน่น"ท่านพี่...ท่านช่วยพาข้าออกจากตรงนี้ที"เสียงของอี้จือแผ่วเบาและเปี่ยมไปด้วยความเจ็บปวด น้ำตายังคงไหลริน ราวกับไม่สามารถทนต่อความอัดอั้นที่อยู่ภายในได้อีกแล้ว เสียงสะอื้นที่มาพร้อมกับคำขอทำดูน่าสงสารจับใจหยงเจี้ยนหรี่ตาลงและตอบกลับเสียงแหบเบา"อดทนรอ..." เพียงคำพูดสั้นๆ แต่มันก็มีน้ำหนักมากมาย หากเขาบอกให้รอ นางก็จะรอ แม้จะยากเพียงใดก็ตามอี้จือก้มหน้า น้ำตาที่พยายามจะซ่อนไว้ก็หยดลงมาอีกครั้ง หลับตาลงและยิ้มให้กับคำพูดนั้น แม

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status