Home / แฟนตาซี / จิ้งจอกอ่อนหัดขององค์ชายจอมโหด / ตอนที่8เป็นจ้าเองหรืออี้จือ

Share

ตอนที่8เป็นจ้าเองหรืออี้จือ

last update Huling Na-update: 2025-10-19 22:47:41

"ไท่จือเฟยอี้จือขอรับพบแล้วขอรับ...องค์ชายสี่หยงเจี้ยนอยู่ในสุสานขอรับ ท่าทางอ่อนแรงและเนื้อตัวเจ็บปวดไปด้วยบาดแผลและยังป่วยไข้..." เสียงของทหารองครักษ์ที่มากับอี้จือดังขึ้นในห้องใหญ่

คำรายงานที่ออกจากปากองครักษ์ทำให้ใจของอี้จือสะท้านเล็กน้อย นางค่อยๆ ขยับตัวแม้ภายนอกจะไม่แสดงท่าทีใด แต่ภายในใจกลับเต็มไปด้วยความวิตกกังวล

"ข้าจะเข้าไปพบเขา" อี้จือพูดเสียงเย็น

"เอ่อ... ไท่จือเฟย หากไท่จือรู้เรื่องนี้เข้าจะไม่ดีกับไท่จือเฟยนะเจ้าค่ะ" นางกำนัลข้างกายของอี้จือเอ่ยปากเตือนด้วยความเป็นห่วง กลัวว่าอี้จืออาจจะตกอยู่ในอันตรายแต่ก็รู้ว่าไม่อาจขัดขวางได้

คำเตือนของนางกำนัลไม่ได้ทำให้ใจของอี้จือสั่นคลอนแม้แต่น้อย หันไปมองอย่างเด็ดขาด

"พวกเจ้าเมตตาข้าแค่ไหน พวกเจ้าไม่สงสารข้าหรือ ในเมื่อพวกเจ้าเองก็รู้ว่าข้าจำใจแต่งเข้ามาในฐานะไท่จือเฟย...และพวกเจ้าคือคนที่ข้าวางใจว่าจะเมตตาข้า...ข้าจะเข้าไปหาท่านสี่หยงเจี้ยนเดี๋ยวนี้!" ดวงตาแสดงความรู้สึกเจ็บปวด

นางกำนัลและองครักษ์ที่อยู่ข้างกายรีบย่อกายลงและถอยห่างไปตามคำสั่งแม้จะอยากขัดขวางแต่ก็รู้ดีว่าอี้จือคือผู้ที่ยึดมั่นในความตั้งใจของตนเองเสมอ

อี้จือยิ้มก่อนจะเดินไปยังสุสานบรรพชน ตอนนี้ควรเข้าไปหาหยงเจี้ยน ไม่ว่าเขาจะมีสภาพเป็นเช่นไร ก็ควรจะไปอยู่ข้างๆ เขาให้ได้

ภายในสุสานบรรพชน

หยงเจี้ยนที่นอนบาดเจ็บและป่วยไข้ ไม่รู้ตัวเลยว่าใครกำลังจะเข้ามา อี้จือค่อยๆ ก้าวเข้าไปในสุสาน อี้จือเดินไปใกล้กับร่างของหยงเจี้ยน รู้สึกในใจทั้งความรักที่ถูกกักเก็บไว้ในใจมาตลอดหลายปี ไม่ว่าจะเป็นความเจ็บปวดหรือการเสียสละ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำเพื่อหยงเจี้ยน มันไม่สามารถถูกลืมหรือมองข้ามได้

และวันนี้ อี้จือจะไปอยู่ข้างๆ หยงเจี้ยนอีกครั้ง

“ข้า... ขอโทษที่มาช้าไป...” อี้จื้อพึมพำเบาๆ

มิ่นหมิ่นที่เห็นอี้จือเดินเข้าไปในสุสานบรรพชนอย่างรวดเร็ว รู้สึกแปลกประหลาดในใจ ร่างเล็กๆ ที่ยืนอยู่ข้างหยงเจี้ยนไม่ยอมให้ใครเข้ามากล้ำกรายง่ายๆ

ข้าไม่มีทางปล่อยให้ใครทำร้ายหยงเจี้ยนได้อีกแน่

แม้จะเห็นว่าท่าทางของอี้จือไม่ใช่ศัตรู แต่ในใจของมิ่นหมิ่นกลับเต็มไปด้วยความหวาดระแวง ก้าวไปขวางหน้าอี้จือทันที แม้ภายนอกจะไม่หวาดกลัวแต่ในใจก็อดวิตกกังวลไม่ได้

อี้จือหยุดก้าวทันทีสายตาจับจ้องไปที่มิ่นหมิ่นที่ยืนขวางทาง

เจ้ากลับไปเถอะ...มิ่นหมิ่นพูดอีกครั้งในใจ

 อี้จือพอจะรู้จากท่าทางและว่าลูกจิ้งจอกน้อยตัวนี้ไม่เป็นมิตร เงยหน้าขึ้นมองไปยังหยงเจี้ยนที่นอนอยู่ในสภาพที่ไม่มีเรี่ยวแรง คิดจะเรียกองครักษ์มาจัดการจิ้งจอกนี่ก่อนเพราะอาจอันตรายกับหยงเจี้ยน

หยงเจี้ยนที่ลืมตาขึ้นช้าๆ สายตาพร่ามัวแต่ก็ยังมองเห็นภาพที่ไม่ชัดเจน

"อี้จือ... เจ้ามาช่วยข้าอย่างนั้นหรือ" เสียงของหยงเจี้ยนแหบแห้งและทุ้มต่ำ 

อี้จือสะอื้นเงียบๆ หยงเจี้ยนที่เคยสง่างามและองอาจตอนนี้กลับกลายเป็นชายหนุ่มที่อ่อนแอและบอบบางไปหมด

"หยงเจี้ยน...ท่านกลายเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร..." อี้จือพูดด้วยเสียงสั่นเครือ

"ข้า... ขอโทษ..." เสียงของเขาดังออกมาด้วยความยากลำบากเหมือนจะพูดอะไรไม่ออก

อี้จือยืนอยู่รู้สึกถึงความทุกข์ทรมานที่เขากำลังเผชิญหน้า แต่ก็ไม่สามารถช่วยเขาได้ในตอนนี้ หยาดน้ำตาของไหลลงมาไม่ขาดสาย ราวกับว่าไม่สามารถห้ามมันได้

มิ่นหมิ่นที่ยืนอยู่ข้างๆ หยงเจี้ยนรู้สึกถึงเคมีบางอย่าง แต่ยังคงยืนขวางอี้จือไว้ การปกป้องหยงเจี้ยนคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้

“จื่อจื้อ... เจ้าเองหรือ เป็นเจ้าอย่างนั้นหรือ" หยงเจี้ยนเปล่งเสียงออกมาแหบแห้ง 

อี้จือยิ้มเบาๆ แม้ว่าในดวงตาจะเต็มไปด้วยความเศร้าโศก

"ท่านสี่... ไม่ต้องพูดแล้วทำไมท่านต้องทนลำบากเพียงนี้ ท่านทนลำบากไปได้ก็ใช่ว่าฝ่าบาทจะยอมใจอ่อน จื้อจื้อจะพาท่านกลับวังหลวงเดี๋ยวนี้" เสียงของอี้จือเบาและสั่นเครือ

อี้จือรีบเข้ามาพยุงหยงเจี้ยนด้วยมือที่ยังคงสั่นอยู่เล็กน้อย ไม่ต้องการให้เขาอยู่ในสภาพที่ทุเรศอย่างนี้ต่อไป เขาต้องทนกับความเจ็บปวดมากมายมาแล้ว

นางกำนัลข้างกายนามว่าซวนซ้วนก็รีบเข้ามาพยุงหยงเจี้ยนเสียเอง เห็นได้ชัดว่าเป็นกังวลว่าจะมีอะไรที่ทำให้เกียรติของอี้จือเสื่อมเสีย หากมีคนเห็นว่าอี้จือพยุงหยงเจี้ยน อาจทำให้ภาพลักษณ์ของอี้จือในสายตาผู้อื่นแย่ลง

“ไท่จือเฟยให้เป็นข้าน้อยเองที่พยุงองค์ชายสี่..." ซวนซ้วนพูดเบาๆ ด้วยท่าทีอ่อนน้อมพลางยกมือเข้าไปพยุงหยงเจี้ยนด้วยความเคารพ

"ท่านสี่ไม่ต้องห่วง...ข้าจะอยู่ข้างๆ ท่านเสมอ..." อี้จือพึมพำเบาๆ

ซวนซ้วนค่อยๆ พยุงหยงเจี้ยนไปข้างหน้า ตาสบกับอี้จืออย่างรวดเร็ว 

“กลับวังหลวงพาตัวท่านสี่ไปที่จวนของบิดาข้า”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • จิ้งจอกอ่อนหัดขององค์ชายจอมโหด   ตอนที่13ดูแล

    "ท่านไม่ต้องเกรงใจใครทั้งนั้น มีข้า มีอี้จือและมีชีวิตของท่านที่ข้าจะไม่ยอมให้ท่านเป็นอะไรไปง่ายๆ ถ้าข้าตะบะแก่กล้ากว่านี้นะข้าจะเสกให้ท่านหายป่วยทันทีเลยและจะสาปคนที่ทำร้ายท่านให้กลายเป็นหินดีไหมฮ่าาาา" มิ่นหมิ่นเงยหน้ามองเพดานแล้วกระซิบ“อี้จือเจ้าพูดอะไรข้าไม่เข้าใจ” มิ่นหมิ่นกุมมือหยงเจี้ยนไว้ เ้มื่อเห็นว่าเขาเริ่มเพ้อด้วยพิษไข้"ข้าจะทำให้ท่านมีวันที่ดีกว่าวันนี้ท่านจะต้องกลับมายืนหยัดให้ได้ เชื่อข้าเถอะ"เงาเทียนไหว ร่างสูงของท่านหมอหลงถานคารวะก่อนจะก้าวเข้ามาในห้องบรรทมของฮ่องเต้หยงฉีเงียบๆ ฮ่องเต้นั่งพิงพนัก ใบหน้าเรียบเฉยแต่แววตาเฉยชาจนเห็นได้ชัด"น่าแปลกนะ เฉินอี้หยูที่ภักดีมาตลอดกลับกล้ารับเจ้าสี่ไว้ในจวน" เสียงเย็น แต่ชื่นชมเล็กๆ หลงถานประสานมือคารวะ ยืนนิ่ง"ขอรับ นัยว่าไท่จือเฟยขอรัองเรื่องนี้ ข้าน้อยได้จัดเทียบยาสามัญไว้แล้ว ทั้งยาบรรเทาแก้ปวดและยาสามัญแต่คาดว่าคงต้องใช้เวลารักษาตัวอีกนานขอรับ"“หยงซินรู้เรื่องนี้ไหมเรื่องที่ไท่จือเฟยมีใจฝักใฝ่หยงเจี้ยน”“ได้ยินว่าสองวันก่อน ไท่จือระแคะระคายเรื่องนี้เหมือนกันพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หยงฉีถอนหายใจยาว นั้นไม่ใช่เสียงเหนื่อยล้าเ

  • จิ้งจอกอ่อนหัดขององค์ชายจอมโหด   ตอนที่12ข้าไม่ยอมให้ท่านเป็นอะไร

    "ถ้าจะให้ตายตอนนี้ มันก็ยังไม่ใช่เวลา...และข้าก็ไใม่จำเป้นจต้องอธิบายอะไร กับเจ้าไท่จืออย่างคิดว่าตำแหน่งไท่จือจะคงอยู่ตลอดไปถึงข้าจะมีองค์ชายแค่สองคนคือเจ้ากับเจ้าสี่ก็ตาม"หยงซินหันไปมองบิดาด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย พูดเสียงตัดพ้อ“ลูกไม่เข้าใจทำไมไม่บัญชาให้เขาตายไปเสีย เสด็จพ่อเขาถูดเนารเทศตลอดชีวิตไม่ใช่หรือ ทำไมยังรับเขากลับมาหรือว่าตอนนี้เสด็จพ่อพระทัยอ่อนลงแล้วไม่กล้ากับพี่สี่ หากเสด็จพ่อไม่กล้าลุกจะจัดการเขาเอง”ฮ่องเต้หยงฉีหันกลับมามองด้วยท่าทีที่ไม่สะทกสะท้าน"เจ้าจะทำอะไรได้ ข้าไม่ได้ทำเพื่ออำนาจหรือเพราะว่ายังรักยังห่วงใยเขาอยู่แต่เพื่อความอยู่รอดของทั้งแผ่นดินนี้"หยงซินอยากจะพูดอะไรออกไป แต่กลับกลืนลงไปในลำคอ มองไปที่บิดาที่ไม่มีความรู้สึกอะไรกับการตัดสินใจที่ทำ แต่ก็เข้าใจได้ว่าทุกการกระทำนั้นมีเหตุผลที่ไม่สามารถเข้าใจได้จากคนทั่วไป“เช่นนั้นลูกก็วางใจแต่ไม่เข้าใจว่าหากไม่มีเขาแล้วเกี่ยวอะไรกับการอยู่รอดของแคว้นเหว่ย”เสียงฮ่องเต้หยงฉีเย็นชา"ข้าจะให้เขาตายหรือไม่นั่นคือข้าคนเดียวที่ตัดสินใจ ข้าจะให้ใครอยู่หรือใครตายนั่นเป็นข้า โอรสสวรรค์เท่านั้นที่ตัดสินใจ พวกเจ้าก

  • จิ้งจอกอ่อนหัดขององค์ชายจอมโหด   ตอนที่11ข้าคือฮ่องเต้

    ห้องทำงานของท่านราชครูเฉินอบอวลไปด้วยกลิ่นยาสมุนไพรและควันธูปอ่อนๆ แสงเทียนส่องเงารำไรบนผ้าปูเตียงที่ปูไว้สำหรับผู้ป่วยหยงเจี้ยนนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง ผิวซีดบางจนเห็นเส้นเลือด บาดแผลเก่าๆ ที่หน้าท้อง เสียงหายใจของเขาขาดๆ หายๆท่านราชครูเฉินก้มมองด้วยสายตาที่เยือกเย็นก่อนจะหันไปถามหมอหนุ่มที่ยืนก้มหน้าอยู่ข้างเตียงด้วยน้ำเสียงเรียบ"เป็นอย่างไรบ้างท่านหมอ อาการของคนผู้นั้น"หมอหนุ่มผู้อ่อนกว่าเอียงหน้าไปสักครู่"ขอรับท่านราชครู ข้าน้อยได้ให้ยาเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดแล้ว เพราะในช่องท้องของคนผู้นี้มีบาดแผลจากการอดอาหาร จึงเจ็บปวดทุกครั้งเมื่อถึงเวลาอาหาร ข้าจึงให้ยาพวกฝิ่นเพื่อทำให้รู้สึกเหมือนฝันไปชั่วคราว จะได้ไม่ทรมานมาก"ราชครูเฉินพยักหน้า คิ้วเข้มขมวดเล็กน้อยแต่ท่าทางยังคงนุ่มนวล"ดีแล้ว ระหว่างนี้ข้าจะสั่งให้สาวใช้ป้อนยาให้เขาเมื่อถึงเวลา"หมอหนุ่มเหลือบมองออกไปทางประตู รู้สึกถึงแรงกดดันบางอย่าง"ท่านราชครูคิดถูกแล้วขอรับ คนผู้นี้ถือกำเนิดมาพร้อมกับความโชคร้าย บางทีปล่อยไปตามลิขิตสวรรค์คงเป็นทางที่สบายกว่าสำหรับทุกฝ่าย"คำพูดนั้นทำให้บรรยากาศในห้องเย็นลง ท่านราชครูเฉินถอนหายใจย

  • จิ้งจอกอ่อนหัดขององค์ชายจอมโหด    ตอนที่10 ฮ่องเต้หยงฉี

    ฮ่องเต้หยงฉียืนอยู่เบื้องหน้าโต๊ะ มือหนึ่งเลื่อนรูปวาดรูปของตนเองไปช้าๆข้างหนึ่งของภาพถูกไฟแผดเผาจนดำเป็นเถ้าถ่าน แต่ริมฝีปากในตอนนี้ยังคงเหยียดยิ้มอย่างเยือกเย็นฮ่องเต้หยงฉีหันมามองผู้ที่ยืนถวายบังคมอยู่ต่อหน้า ดวงตาเย็นดั่งน้ำแข็ง คำพูดเหมือนมีมีดแหลมคม"เจ้าสี่…ข้าอยากให้เจ้าตาย…ก็ไม่ตายสักที" หยงฉีมีรอยยิ้มคลายเล็กน้อยแต่กลับเต็มไปด้วยความเหี้ยม"ถึงเวลานี้ตายไม่ได้… เพราะยังเหลือประโยชน์ให้ข้าใช้อีกมากนักเสียด้วยสิ"บรรดาขันทีข้าราชบริพารและขุนศึกในที่นั้นต่างเปลี่ยนสีหน้าไป คำว่าประโยชน์ที่หลุดจากปากฮ่องเต้ไม่ใช่การหยอกเล่น หยงฉีหันไปสั่งเสียงเข้ม"กงกง ส่งคนไปรับตัวหยงเจี้ยนที่สุสานบรรพชน กลับมาที่วังหลวงเดี๋ยวนี้!"ผู้รับสั่ง กงกงลู่กัง ขันทีใหญ่ประสานมือแน่นตอบรับคำสั่งด้วยความเคารพ"น้อมรับพระบัญชาฝ่าบาท ข้าน้อยจะจัดเกี้ยวและส่งกำลังไปรับองค์ชายสี่กลับวังหลวงโดยเร็วที่สุด" แม้ปากจะรับแต่สายตากลับฉายความไม่สบายใจเท่าใด ผู้ใดจะกล้าปฏิเสธคำสั่งเช่นนี้หยงฉีพยักหน้าเบาๆแล้วกล่าวต่อ "อย่าให้ข้าต้องผิดหวัง…นำตัวเขากลับมาทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่…หากผู้ใดทำให้ข้าพลาดประโยชน์ในเรื่องน

  • จิ้งจอกอ่อนหัดขององค์ชายจอมโหด   ตอนที่9รอด

    ร่างผอมแห้งของหยงเจี้ยนถูกห่มผ้าบางๆ วางไว้บนเกี้ยวหลังใหญ่ที่เคลื่อนไหวช้าๆ เลาะผ่านถนนโรยด้วยกรวดหินของวังหลวง เสียงล้อเกวียนดังกังวานระยับในยามร่องรอยบาดแผลยังคงปรากฏบนผิว ขณะที่หน้าอกที่เคยผายผอมยังหายใจพร้อมกับความรู้สึกยากบรรยายมิ่นหมิ่น เจ้าจิ้งจอกน้อยผู้วิ่งตามเกี้ยวผ่านป่าเขาจนเท้าระบม ตั้งใจจะให้แน่ชัดว่าหยงเจี้ยนถูกพาไปที่ใดกันแน่ ดวงตาเล็กๆ ของมิ่นหมิ่นส่องประกายไม่ต่างจากดวงไฟอ่อนในคืนที่มืดมิด ความกลัวกับความหวังผสมกันเป็นหนึ่งเมื่อเกี้ยวค่อย ๆ หายลับเข้าไปในจวนของท่านราชครูเฉิน“จวนราชครู หวังว่าท่านจะปลอดภัยที่นี่นะ” เงาร่มไม้และกำแพงสูงกั้นทัศนวิสัยไว้ มิ่นหมิ่นหยุดยืนอยู่ข้างทาง หัวใจของมิ่นหมิ่นเต้นแรง สูดดมกลิ่นแปลกพลางส่ายหยน้าไปมาภายในจวน ท่านราชครูเฉินยืนอยู่หน้าประตูรับรอง ท่าทางสง่างามยังคงอยู่ แต่สายตาบ่งบอกถึงความเหนื่อยล้า เขาหันไปมองอี้จือลูกสาวคนเดรียวที่นรั่งตำแหน่งไท่จือเฟยได้ไม่นาน สีหน้าโศกสลด เพราะความกังวล"จะไม่เป็นไรใช่ไหม หากว่าฝ่าบาทจะรู้เรื่องนี้" ราชครูเฉินพูดขึ้นเบา ๆ น้ำเสียงไม่ดังแต่ดึงความเงียบในห้องให้กลายเป็นความตึงเครียดอี้จือก้มศ

  • จิ้งจอกอ่อนหัดขององค์ชายจอมโหด   ตอนที่8เป็นจ้าเองหรืออี้จือ

    "ไท่จือเฟยอี้จือขอรับพบแล้วขอรับ...องค์ชายสี่หยงเจี้ยนอยู่ในสุสานขอรับ ท่าทางอ่อนแรงและเนื้อตัวเจ็บปวดไปด้วยบาดแผลและยังป่วยไข้..." เสียงของทหารองครักษ์ที่มากับอี้จือดังขึ้นในห้องใหญ่คำรายงานที่ออกจากปากองครักษ์ทำให้ใจของอี้จือสะท้านเล็กน้อย นางค่อยๆ ขยับตัวแม้ภายนอกจะไม่แสดงท่าทีใด แต่ภายในใจกลับเต็มไปด้วยความวิตกกังวล"ข้าจะเข้าไปพบเขา" อี้จือพูดเสียงเย็น"เอ่อ... ไท่จือเฟย หากไท่จือรู้เรื่องนี้เข้าจะไม่ดีกับไท่จือเฟยนะเจ้าค่ะ" นางกำนัลข้างกายของอี้จือเอ่ยปากเตือนด้วยความเป็นห่วง กลัวว่าอี้จืออาจจะตกอยู่ในอันตรายแต่ก็รู้ว่าไม่อาจขัดขวางได้คำเตือนของนางกำนัลไม่ได้ทำให้ใจของอี้จือสั่นคลอนแม้แต่น้อย หันไปมองอย่างเด็ดขาด"พวกเจ้าเมตตาข้าแค่ไหน พวกเจ้าไม่สงสารข้าหรือ ในเมื่อพวกเจ้าเองก็รู้ว่าข้าจำใจแต่งเข้ามาในฐานะไท่จือเฟย...และพวกเจ้าคือคนที่ข้าวางใจว่าจะเมตตาข้า...ข้าจะเข้าไปหาท่านสี่หยงเจี้ยนเดี๋ยวนี้!" ดวงตาแสดงความรู้สึกเจ็บปวดนางกำนัลและองครักษ์ที่อยู่ข้างกายรีบย่อกายลงและถอยห่างไปตามคำสั่งแม้จะอยากขัดขวางแต่ก็รู้ดีว่าอี้จือคือผู้ที่ยึดมั่นในความตั้งใจของตนเองเสมออี้จือยิ้มก่อ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status