Home / อื่น ๆ / จิ๊ดริดที่รัก / 7. นางฟ้านำโชค 1

Share

7. นางฟ้านำโชค 1

last update Last Updated: 2025-08-19 11:33:32

“ร้อนมากไหมลูก แม่เอาร่มบังแสงให้นะ” วรรณารีก้มลงพูดกับลูกสาวที่กำลังนอนอยู่ในรถซาเล้งพร้อมกับกางร่มคันโตให้เพื่อป้องกันเด็กน้อยให้พ้นจากแสงแดดยามสาย

ที่รักวัยสามเดือนส่งยิ้มให้แม่อย่างน่าเอ็นดู อากาศร้อนไม่ได้สร้างความหงุดหงิดให้เด็กน้อยแต่อย่างใด ตรงกันข้าม เด็กหญิงกลับนอนสอดส่ายสายตาไปโดยรอบเพื่อสำรวจสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ อย่างสนอกสนใจเป็นที่ยิ่ง

“วันนี้แดดร้อนไปหน่อย แม่ไม่น่าพาลูกออกมาเลย” วรรณารียังคงบ่นพึมพำไม่หยุด

วันนี้เป็นครั้งแรกที่วรรณารีพาลูกสาวออกมาตระเวนเก็บของเก่าด้วยเนื่องจากสายออกไปทำธุระข้างนอก ตอนแรกหญิงสาวไม่คิดจะออกมาในวันนี้ แต่ไม่รู้เพราะอะไร ที่รักซึ่งเป็นเด็กที่ไม่ชอบร้องไห้กลับร้องไห้โวยวายจนหน้าตาแดงก่ำ

คนเป็นแม่จึงลองนำลูกไปวางในรถซาเล้งที่ใช้รับซื้อของเก่าแล้วเข็นเล่นไปรอบ ๆ บริเวณบ้าน น่าประหลาด ทันทีที่เริ่มเข็นรถ ที่รักก็หยุดร้องไห้เหมือนปิดสวิตช์ ไม่เท่านั้นยังหัวเราะร่วนอย่างชอบอกชอบใจเป็นอันมาก ระหว่างนั้น นิ้วน้อย ๆ ของเธอก็ชี้ไปทางประตูรั้วไม่หยุด ยิ่งวรรณารีเข็นรถออกไปไกลจากบ้านเท่าไร เสียงหัวเราะของเด็กหญิงก็ยิ่งดังขึ้นเท่านั้น ดวงตาดำขลับของเธอเปล่งประกายระยิบระยับอย่างชอบใจจนวรรณารีไม่อาจใจแข็งเลี้ยวซาเล้งกลับบ้านได้ จึงลองเข็นพาเดินมาไกลออกไปเรื่อย ๆ และเพื่อไม่ให้เสียเวลาเธอจึงเปิดเสียงจากโทรโข่งที่ติดอยู่กับซาเล้งคอยประกาศรับซื้อของอยู่เป็นระยะ

ตอนนี้วรรณารีเน้นประกาศรับซื้อมากกว่าไปคุ้ยตามข้างทางหรือไปที่ภูเขาขยะในจังหวัดข้างเคียงเนื่องจากลูกยังเล็ก เธอกลัวว่าจะนำเชื้อโรคต่าง ๆ มาติดลูกได้ บวกกับที่เก็บเงินมาได้ก้อนหนึ่งแล้ว เธอจึงใช้วิธีลงประกาศรับซื้อของเก่าตามโลกโซเชียล ซึ่งได้ผลตอบรับดีพอควร หากวันไหนไม่มีใครโทรติดต่อมาเธอก็อาศัยเดินประกาศรับซื้อตามชุมชนละแวกใกล้เคียงแทน

“กระดาษนี่เพิ่มเป็นสามบาทไม่ได้หรือวรรณ” ลูกค้ารายแรกของวันนี้เอ่ยต่อรองราคาขึ้นมา

“ไม่ได้จริง ๆ ป้าแจ๋ว เอาตามตรงเลยคือฉันก็ต้องไปขายที่หน้าโกดังโลละสามบาทเหมือนกัน ที่ฉันให้ป้าโลละสองบาทห้าสิบนี่ก็นับว่าเยอะแล้วนะ ฉันเอากำไรแค่โลละห้าสิบสตางค์เท่านั้น”

“ฉันให้ป้าแจ๋วโลละสามบาทห้าสิบ” เสียงตะโกนแทรกมาจากด้านหลังทำให้วรรณารีเหลียวไปมองอย่างไม่พอใจ

“จริงหรือวะบานชื่น ขายเลย ฉันขายให้” เมื่อได้ราคาที่ดีกว่าแจ๋วก็ไม่มีความลังเลใด ๆ

“คราวหน้าป้ามีอะไรก็ขายกับพวกฉันผัวเมีย อย่าไปขายกับพวกกดราคาอีก” โชติที่มาด้วยกันเอ่ยปากบอกออกไปพร้อมกับมองวรรณารีอย่างแค้นเคือง ปราศจากแววตาลวนลามเหมือนเช่นเคย

แม้จะไม่เห็นสายตาน่าขยะแขยงนั้นอีก แต่วรรณารีก็ไม่รีรอที่จะหันไปคว้าปังตอเล่มใหญ่อาวุธคู่กายขึ้นมา

“น...นังวรรณ ถ...ถ้าแกทำร้ายข้าได้เลือด ข้าจะแจ้งตำรวจจับแกเข้าคุกเสียให้เข็ด” โชติปากคอสั่นและก้าวไปหลบข้างหลังบานชื่นอย่างขลาดกลัว

“ฉันก็แค่เอามาดูว่ามันทื่อไหมจะได้ให้เขาลับคมก่อนเข้าบ้าน หากเจอหมาตัวไหนมาเห่าหอนใกล้ ๆ จะได้กุดหัวมันหลุดได้ง่าย” น้ำเสียงของวรรณารีฟังดูน่าขนลุกเป็นพิเศษสำหรับสองสามีภรรยา นับตั้งแต่เจอเหตุการณ์เลวร้ายเมื่อหลายเดือนก่อน บุคลิกของวรรณารีได้เริ่มเปลี่ยนไป ดูสู้คนและดูเข้มแข็งแบบชั่วข้ามวัน ยิ่งหลังจากคลอดที่รักออกมาด้วยแล้ว วรรณารีก็ยิ่งดูแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

“น่ากลัวจะบ้าตามนังสายนั่นไปแล้ว” บานชื่นเอ่ยเสียงหยัน ตอนนี้สำหรับเธอแล้ว สายและวรรณารีคือศัตรูตัวฉกาจ เพราะทั้งคู่เป็นสาเหตุทำให้เธอและสามีต้องย้ายออกจากที่ดินผืนนั้น แล้วที่น่าเจ็บใจไปกว่านั้นก็คือสายและวรรณารีกลับเป็นฝ่ายครอบครองที่ดินผืนนั้นแทนตัวเองอีก เรื่องนี้ทำเอาบานชื่นนอนไม่หลับไปหลายคืนอย่างแค้นใจ

“อยากรู้ว่าเหมือนหรือเปล่าก็เข้ามา” วรรณารีพูดเสียงเหี้ยมพร้อมเงื้อง่าปังตอขึ้นสูงท่ามกลางเสียงหวีดเล็ก ๆ ของผู้คนที่ยืนอยู่ตรงนั้น

“ว...ว่ายังไงป้าแจ๋ว จะขายให้ฉันไหมโลละสามบาทห้าสิบ” บานชื่นหันไปเร่งเอาคำตอบพร้อมกับมือที่ยกคลุมศีรษะของตัวเองไปด้วย

“ข...”

“ฉันให้ป้าแจ๋วโลละสี่บาทห้าสิบ” วรรณารีรีบยื่นข้อเสนอก่อนที่แจ๋วจะทันตกปากรับคำ ระหว่างนั้นก็จ้องเขม็งไปยังบานชื่นด้วยแววตาเย็นเยียบ

“งั้นขายให้เอ็ง” แจ๋วทำตาพองโตอย่างดีใจคล้ายกับเจอโชคใหญ่หล่นทับแบบไม่ทันตั้งตัว

บานชื่นกัดฟันมองอย่างแค้นเคือง “งั้นฉันให้ห้า...ไม่สิ ให้โลละหกบาทไปเลย” ให้มันรู้ไปว่าใครจะชนะ

วรรณารีกระตุกมุมปาก “งั้นป้าแจ๋วขายให้เขาไปเถอะ หกบาทฉันสู้ราคาไม่ไหว” หญิงสาวเอ่ยยอมแพ้และเข็นซาเล้งออกจากบ้านของแจ๋วไปโดยที่สีหน้าไม่ได้รู้สึกเสียดายหรือเคืองแค้นแต่อย่างใด

“ทำไมถึงยอมแพ้ง่าย ๆ ล่ะ” สมร เพื่อนร่วมอาชีพที่บังเอิญยืนดูเหตุการณ์อยู่ตรงรั้วบ้านได้ถามขึ้นมาตอนวรรณารีเดินผ่าน

วรรณารีแย้มปากน้อย ๆ “ปล่อยให้เขาได้ไปในราคาหกบาทนั่นแหละสะใจดี กระดาษเยอะและหนักขนาดนั้นไม่รู้ต้องจ่ายไปกี่บาท ขาดทุนหนักแน่”

สมรนึกถึงราคารับซื้อกระดาษในตอนนี้ก็ร้องอ๋อขึ้นมา “นั่นสินะ ตอนนี้ราคารับซื้อหน้าโกดังก็แค่สามบาทเท่านั้น ไม่รู้ชาติไหนจะขึ้นไปถึงหกบาท สะใจแท้ ๆ” สมรที่ไม่ใคร่ญาติดีกับบานชื่นมาตั้งแต่ต้นหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ

“ว่าแต่เห็นอ่อน ๆ แบบนี้บทจะสู้ก็สู้ได้ไม่เบานะ”

“ฉันไม่มีใครคอยช่วยนี่พี่ แล้วมีลูกเล็กอีก ไม่อยากเข้มแข็งก็ทำไม่ได้แล้ว”

“พี่ชอบนะคนแบบวรรณ คราวหน้ามีอะไรให้ช่วยก็บอก พี่กับอุไรยินดีช่วยเต็มที่” สมรเอ่ยถึงอุไร น้องสาวที่ทำอาชีพเดียวกัน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • จิ๊ดริดที่รัก   7. นางฟ้านำโชค 1

    “ร้อนมากไหมลูก แม่เอาร่มบังแสงให้นะ” วรรณารีก้มลงพูดกับลูกสาวที่กำลังนอนอยู่ในรถซาเล้งพร้อมกับกางร่มคันโตให้เพื่อป้องกันเด็กน้อยให้พ้นจากแสงแดดยามสายที่รักวัยสามเดือนส่งยิ้มให้แม่อย่างน่าเอ็นดู อากาศร้อนไม่ได้สร้างความหงุดหงิดให้เด็กน้อยแต่อย่างใด ตรงกันข้าม เด็กหญิงกลับนอนสอดส่ายสายตาไปโดยรอบเพื่อสำรวจสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ อย่างสนอกสนใจเป็นที่ยิ่ง“วันนี้แดดร้อนไปหน่อย แม่ไม่น่าพาลูกออกมาเลย” วรรณารียังคงบ่นพึมพำไม่หยุดวันนี้เป็นครั้งแรกที่วรรณารีพาลูกสาวออกมาตระเวนเก็บของเก่าด้วยเนื่องจากสายออกไปทำธุระข้างนอก ตอนแรกหญิงสาวไม่คิดจะออกมาในวันนี้ แต่ไม่รู้เพราะอะไร ที่รักซึ่งเป็นเด็กที่ไม่ชอบร้องไห้กลับร้องไห้โวยวายจนหน้าตาแดงก่ำคนเป็นแม่จึงลองนำลูกไปวางในรถซาเล้งที่ใช้รับซื้อของเก่าแล้วเข็นเล่นไปรอบ ๆ บริเวณบ้าน น่าประหลาด ทันทีที่เริ่มเข็นรถ ที่รักก็หยุดร้องไห้เหมือนปิดสวิตช์ ไม่เท่านั้นยังหัวเราะร่วนอย่างชอบอกชอบใจเป็นอันมาก ระหว่างนั้น นิ้วน้อย ๆ ของเธอก็ชี้ไปทางประตูรั้วไม่หยุด ยิ่งวรรณารีเข็นรถออกไปไกลจากบ้านเท่าไร เสียงหัวเราะของเด็กหญิงก็ยิ่งดังขึ้นเท่านั้น ดวงตาดำขลับของเธอเปล่

  • จิ๊ดริดที่รัก   6. เริ่มต้นชีวิตใหม่

    วันนี้บานชื่นและโชติรู้สึกเหมือนโดนฟ้าถล่มใส่หัวกันตั้งแต่เช้าเมื่อเห็นกระดาษสีขาวแผ่นใหญ่แปะอยู่ตรงหน้าประตูรั้ว ซึ่งแผ่นกระดาษดังกล่าวเป็นหมายศาลที่แจ้งให้ทั้งคู่ย้ายออกจากที่ดินแห่งนี้โดยทันที“ทำไมเป็นแบบนี้วะชื่น อยู่มาหลายปีดีดักก็ไม่เห็นโผล่มา แต่พอโผล่มาก็ดันมาไล่เราออกดื้อ ๆ”บานชื่นขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ต้องเป็นเพราะนังแก่นั่นแน่ ๆ มันต้องเป็นคนไปบอกเจ้าของให้ไล่เราออกไป เลวจริง ๆ”“นังแก่บ้า! นังสายบ้า! แกออกมาเดี๋ยวนี้นะ นังสาระแน แกไปบอกเจ้าของที่มาไล่พวกกูใช่ไหม” บานชื่นเดินดุ่มไปหน้าประตูรั้วของบ้านสายพร้อมกับเขย่าประตูและตะโกนเรียกเสียงลั่น“ออกมาเดี๋ยวนี้! ออกมาพูดกับฉันให้รู้เรื่อง”แต่คนที่เดินส่ายอาดมาพร้อมกับปังตอทั้งสองมือกลับเป็นวรรณารีแทน “ไม่มีความเกรงใจในสมองกันเลยหรือ โหวกเหวกโวยวายรบกวนชาวบ้านเค้าแบบนี้”“ฉันไม่ต้องการพูดกับแก เรียกนังสายบ้าออกมา”“ห้ามเรียกป้าสายแบบนั้น ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้นะ” วรรณารีตาเขียวปั้ด“เพราะแกใช่ไหม นังสายมันถึงวางแผนเล่นงานฉันกับผัวแบบนี้ คงคิดแก้แค้นแทนแกแน่ ๆ แกนี่ร้ายกาจไม่เบานะ นอกจากคิดจะแอ้มผัวฉันแล้วยังจะปั่นหัวอีแก่บ้านั่นมาเ

  • จิ๊ดริดที่รัก   5. แม่แปรก

    “วรรณ...อยู่บ้านใช่ไหม”“อยู่ค่ะคุณนาย” วรรณารีขานรับก่อนเปิดประตูออกมาจะว่าไปคนที่ใจดีและจริงใจกับเธอนอกจากสายแล้วก็ยังมียี่สุ่น เจ้าของสวนผลไม้ที่เธอและสายขออาศัยอยู่ด้วยนั่นเอง“ฉันเพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัดถึงรู้ว่าเธอคลอดลูกได้หลายวันแล้วก็เลยเอาขิงกับหัวปลีมาให้” ยี่สุ่นเอ่ยขึ้นวรรณารียกมือไหว้และยื่นมือรับของจากยี่สุ่นอย่างไม่อิดออดด้วยรู้จักนิสัยใจคอของเธอดี หากเอ่ยปากจะให้สิ่งไหนหรืออะไรกับใคร ยี่สุ่นก็ไม่ต้องการได้ยินถ้อยคำปฏิเสธใด ๆ จากอีกฝั่ง“เห็นว่าคลอดเองที่บ้านไม่ทันได้ไปโรงพยาบาล โชคดีมากนะที่ปลอดภัยด้วยกันทั้งคู่”“ค่ะคุณนาย โชคดีที่ป้าสายมาเจอพอดี ไม่อย่างนั้นวรรณกับลูกก็คงแย่เหมือนกัน” วันคลอดนั้นเธอบังเอิญหกล้มอย่างแรงจนกระเทือนถึงลูกในท้อง ประจวบกับมีฝนตกลงมาอย่างหนักทำให้ไม่สามารถหารถเพื่อเดินทางไปโรงพยาบาลได้ สายเลยตัดสินใจทำคลอดด้วยตัวเอง“สายเก่งเรื่องนี้อยู่แล้วนี่นะ...” ยี่สุ่นพูดทิ้งไว้เท่านั้นก็ไม่ได้สนใจขยายความต่ออีก เธอเดินเข้าไปในบ้านเพื่อไปสนทนากับสายต่อ ทิ้งให้วรรณารีนิ่วหน้ามองตามอยู่ด้านหลัง-----“นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันเห็นเธอสดชื่นแบบนี้ รู

  • จิ๊ดริดที่รัก   4. วรรณารี 2

    ตอนที่วรรณารีตัดสินใจกระโดดน้ำตายเมื่อหกเดือนก่อนและสายช่วยเอาไว้ได้นั้น สายได้พาเธอกลับมาอยู่ด้วยกันที่บ้านสองเดือนแรกที่เธอมาอยู่กับสาย เธออยู่ในสภาพหมดอาลัยตายอยาก อยากจะตายไปให้พ้น ๆ จากโลกอันเส็งเคร็งนี้ แล้วก็เป็นสายอีกนี่แหละที่ให้สติและคอยประคับประคองไม่ให้เธอคิดสั้น กระตุ้นให้เธอมีกำลังใจในการสู้ชีวิตเพื่อตัวเองและเพื่อชีวิตน้อย ๆ ที่อยู่ในท้อง เพราะแรงใจจากสายทำให้วรรณารีฮึดสู้ขึ้นอีกครั้งหลังจากพักฟื้นร่างกายและจิตใจจนแข็งแรงขึ้นมาระดับหนึ่ง วรรณารีก็ไม่คิดอยู่เฉยอีกเพราะรู้ว่ามีอีกชีวิตที่กำลังรอการเลี้ยงดูจากเธอ เธอจึงเริ่มขวนขวายมองหาตำแหน่งงานว่างตามสถานที่ต่าง ๆ ที่อยู่ในละแวกนี้แต่ความที่เป็นผู้หญิงตั้งครรภ์ จึงไม่มีใครสนใจรับหญิงสาวเข้าทำงาน แล้ววรรณารีเองก็ไม่กล้าไปสมัครงานที่ไหนไกลด้วยห่วงสวัสดิภาพของลูกในท้องและกลัว...กลัวที่จะเจอผู้ชายคนนั้นอีกระหว่างนั้น วรรณารีได้สังเกตเห็นอาชีพหนึ่งซึ่งผู้คนแถวนี้นิยมทำกัน รวมถึงสายด้วย เรียกได้ว่าทำอาชีพนี้กันเกือบครึ่งซอย นั่นก็คืออาชีพเก็บของเก่าและเก็บขยะขาย แต่ละบ้านของพวกเขาเหล่านั้นจะมีข้าวของที่เก็บมากองสุมอยู่เต็ม

  • จิ๊ดริดที่รัก   3. วรรณารี 1

    “หนวกหูโว้ย! ไม่เกรงอกเกรงใจกันบ้าง คนจะนอน” เสียงตวาดแหวดังมาจากข้างบ้านวรรณารีที่กำลังกล่อมลูกสาวนอนอยู่ตรงแคร่หน้าบ้านได้มองไปยังทิศที่มาของเสียงตาขวาง “ทีกินเหล้าเสียงดังลั่นกลางดึกทุกคืนฉันยังไม่เคยบ่น ต่างคนต่างอยู่ดีกว่านะพี่ชื่น ฉันอโหสิให้ทุกอย่างแล้ว อย่างมาหาเรื่องกันรายวันแบบนี้”“อโหสิอะไรกัน” บานชื่นตะโกนข้ามรั้ว “ต้องเป็นฉันต่างหากที่พูดคำนี้ หน็อย อุตส่าห์ช่วยให้มีงานมีการทำ ดันเนรคุณกินบนเรือนขี้บนหลังคา ทำมารยาคิดยั่วผัวฉัน”วรรณารีมือสั่นระริก ใบหน้าซีดเผือด เธอใช้มือกอดรอบตัวไว้แน่นเพื่อข่มตัวเองไม่ให้คายน้ำขม ๆ ออกมา “ผู้หญิงท้องอย่างฉันนี่นะจะไปยั่วใครไหว พี่เชื่อผัวจนหน้ามืดตามัวมองไม่เห็นความจริง ถ้าวันนั้นป้าสายไม่เอาไม้ไปแพ่นกบาลผัวพี่ ฉันคงต้องตกนรกโดนไอ้ผู้ชายเลว ๆ ข่มขืนจนตายทั้งเป็น!”“นังวรรณ แกถอนคำพูดเดี๋ยวนี้นะ แกว่าใครเลว” คนหลงสามีเท่าชีวิตไม่ยินยอมพร้อมใจ“ไอ้โชติผัวเอ็งนั่นแหละเลว” เสียงแหบอันเป็นเอกลักษณ์ของสายดังขึ้น ไม่พูดเปล่า เธอยังเดินถือมีดอีโต้ทั้งสองมือออกจากประตูรั้วและตรงรี่ไปยังประตูบ้านของบานชื่นที่อยู่ติดกันอย่างไม่ลังเลใด ๆ“อีแก่

  • จิ๊ดริดที่รัก   2. จิ๊ดริดที่รัก

    อีกสามเดือนต่อมาช่วงกลางดึกท่ามกลางฟ้าแลบฟ้าร้องและสายฝนที่กระหน่ำมาแบบไม่ขาดสายนานนับสองชั่วโมงแล้วไม่มีทีท่าว่าจะหยุดง่าย ๆ ตรงบ้านหลังเล็กท้ายสวนผลไม้ ได้มีเสียงตวาดของสายดังลั่นอยู่ทั่วบ้าน“แม่วรรณ! เธอจะมาตายที่บ้านนี้ ฉันไม่ว่า เธอจะมาเป็นผีเฝ้าที่นี่ ฉันก็ไม่ถือ แต่เธอจะปล่อยให้ลูกไม่มีโอกาสลืมตาดูโลกแบบนี้ไม่ได้ ฟื้นขึ้นมาเดี๋ยวนี้!”...ลูก?ลูกหรือ...พูดเรื่องอะไร...ลูกใคร?ลูกแม่!ลูกแม่อยู่ไหนตอนนี้!“อึก...เฮือก...” หญิงสาวตัวสะท้านเยือกพร้อมกับหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่“ดี หายใจเข้าแรง ๆ อย่างนั้น ดี ดี หายใจลึก ๆ เธอยังมีลูกอยู่ จำเอาไว้ อย่ายอมแพ้เด็ดขาด” เสียงแหบ ๆ ของสายพูดดังขึ้นที่ปลายเท้า ผสานกับเสียงฝนตกฟ้าร้องที่ดังอย่างต่อเนื่องดั่งฟ้าถล่มวรรณารีเลื่อนสายตาที่ยังพร่ามัวไปยังที่มาของเสียง ก็เจอกับหญิงสูงวัยรูปร่างผอม ใบหน้าตอบ แววตาแข็งกระด้าง ผมเผ้ารุงรังไม่อยู่ทรง แต่เธอกลับรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่เห็นใบหน้านี้“ป้าสาย” หญิงสาวเรียกอย่างอ่อนระโหย“จ...เจ็บมาก วรรณไม่ไหวแล้ว”“อย่าพูดอะไรเรื่อยเปื่อย เธอจะยอมแพ้ไม่ได้นะวรรณ จำเอาไว้ ลูกของเธอต้องมีโอกาสเติบใหญ่ แ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status