หน้าหลัก / รักโบราณ / จื่อเถาสาวน้อยเต้าหู้ทอด / บทที่ 4 เรื่องของป้าข้างบ้าน

แชร์

บทที่ 4 เรื่องของป้าข้างบ้าน

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-24 04:05:44

“ท่านพ่อช่วยพวกเราด้วยท่านแม่จะตีพวกเราอีกแล้ว” ฝาแฝดลู่หลงกับลู่จิ่นตะโกนพร้อมกับวิ่งไปหลบหลังท่านพ่อ ที่กำลังปั้นซาลาเปากับขายซาลาเปาในร้าน โดยที่มีลูกค้ายืนรอสองสามคน ส่วนที่เหลือมามุงดูเรื่องชาวบ้าน เพราะเจินหนิงภรรยาลู่จื้อมักอาละวาดเหมือนคนบ้าทุบตีบุตรชายฝาแฝดเกือบทุกวัน

         “เจ้าลูกไม่ได้เรื่องให้ล้างจานทำถ้วยแตก ออกมาให้ข้าลงโทษเดี๋ยวนี้นะ” เจินหนิงเป็นภรรยาของลู่จื้อที่ขี้เกียจสันหลังยาว วัน ๆ นอกจากจะใช้งานบุตรชายสองคนอย่างหนัก ตนเองก็เอาแต่นอนสบายไม่ช่วยงานสามี เรื่องเช่นนี้ต่อให้ชาวบ้านเห็นจนชินตา แต่ว่าเด็กน้อยสองคนผู้น่าสงสารนั้นก็ไม่ควรถูกตี

         ชุยชิงชิงวางของในร้านของตัวเองแล้วก็เข้าไปสมทบกับคนที่มุง ได้ความเรื่องแม่ใจร้ายทุบตีลูกชายจื่อเถาก็รู้สึกไม่ชอบใจ จึงเดินเข้าไปเบื้องหน้าหวังห้ามปรามสตรีร้ายกาจผู้นั้น

         “ฮื้อ...ฮื้อ...ท่านพ่อช่วยด้วย พวกเราไม่ได้ตั้งใจเสียหน่อย ถ้วยมันหนักข้าแค่พลั้งมือทำแตก แต่...ฮึก...แต่ท่านแม่...ฮึก” ลู่จิ่นที่เป็นคนทำแตกร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างอัดอั้นพาลให้จื่อเถารู้สึกสงสารยิ่งนัก

         นางกวาดสายตามองรอบทิศ พบว่าเป็นร้านซาลาเปาที่มีคนหลายคนมาซื้อ น่าจะรสชาติดีไม่น้อย

แต่ทว่าภรรยาเจ้าของร้านวาจาน่าตายจริง ๆ แค่บุตรชาย

ทำถ้วยแตกราวกับฆ่าคนตาย

         สตรีผู้นี้มีนิสัยหยาบคาย และยังชอบกระทำการรุนแรงกับเด็กตัวเท่าลูกเจี๊ยบ แค่นี้ก็ไม่สมกับเป็นแม่คนแล้ว

         “เหอะ...แค่ถ้วยแตกทำเป็นเรื่องใหญ่โต” จื่อเถาโพล่งคำพูดขึ้น หวังให้สตรีผู้นี้หันมาสนใจตนและฟืนในมือของนางก็ท่อนใหญ่ หากฟาดลงไปที่ขาของเจ้าหนูน้อยทั้งสองที่ผอมแห้งไม่พอ ใบหน้ายังซีดเหลืองคล้ายคนขาดสารอาหาร เดิมคิดว่าแค่เพียงตัวเองเท่านั้นที่ครอบครัวไม่ดี บิดาใจร้าย ไม่นึกว่าคนยุคสมัยนี้จะนิยมความรุนแรงกัน

         “เจ้านังเด็กปากเสีย เรื่องในบ้านให้เจ้ามาสอดรึ” เจินหนิงใช้ไม้ฟืนชี้หน้าเด็กหญิงวัยหกหนาว ที่ยื่นปากมาสอด พร้อมกับมองหามารดาหมายจะด่าสั่งสอนเสียหน่อย

         “ข้าปากเสียเจ้าก็ปากเน่าแล้วกระมัง”

         “เจ้า!”

         ลู่จื้อขายของให้ลูกค้าคนสุดท้าย แล้วก็เข้ามาจัดการภรรยานิสัยชั่วช้าของตน เขาไม่คิดว่าสตรีที่เคยอ่อนหวานน่ารักที่ตนแต่งงานด้วย มาตอนนี้นิสัยจะเปลี่ยนไปถึงเพียงนี้

         “เจ้าเงียบปากไปเจินหนิง ลูกยังเล็กเจ้าก็ให้พวกเขาทำงานหนัก มือขาเจ้าพิการแล้วหรือ” ลู่จื้อเหลือจะทน

เขาต้องทำงานหนักหาเลี้ยงครอบครัวไม่พอ ยังต้องมาทนกับภรรยาไม่เอาไหนทั้งสันหลังยาวผู้นี้

         จื่อเถามองชายผู้นี้อย่างนึกชื่นชม อย่างน้อยเขาก็ปกป้องลูก ๆ ของตนไม่ปล่อยให้สตรีนิสัยชั่วช้ารังแกบุตรชาย จื่อเถาเห็นสองเด็กชายยืนจนขาสั่น ก็ขวักมือเรียกให้มาหา เด็กทั้งสองรู้ว่าอีกประเดี๋ยวท่านพ่อกับท่านแม่กำลังจะทะเลาะกัน จึงไม่คิดอยู่ให้โดนท่านแม่ทำร้ายเอาอีก

         “ไปเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปกินอาหาร ท่านแม่เลี้ยงเจ้าหนูน้อยสองคนนี้ให้อิ่มสักมื้อนะเจ้าคะ” จื่อเถาเป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือผู้คนเมื่อหันมาขอร้อง ท่านแม่ที่จิตใจดีเช่นกันย่อมไม่ปฏิเสธ

         จื่อเถาปล่อยให้สองสามีภรรยาทะเลาะกันให้บ้านพังไปก่อน เด็กไม่ควรอยู่ในความรุนแรง เพราะมันจะติดตัวไปยามเติบใหญ่

         จื่อเถาที่อายุมากกว่า พาเด็กทั้งสองไปล้างหน้าล้างตาแล้วก็เช็ดมือให้ทั้งคู่ ใบหน้ามอมแมมเช่นนี้คงจะโดนใช้งานหนักเป็นแน่ นางจูงมือทั้งคู่ไปยังร้านอาหารที่มีคนเยอะสั่งอาหารหลายอย่างให้ทั้งคู่ได้กิน ถือเป็นการเลี้ยงฉลองที่นางกับท่านแม่ได้มีอิสระ แล้วเลี้ยงปลอบขวัญเด็กชายทั้งคู่อีกด้วย

         “นี่ไก่นึ่งเจ้ากินมาก ๆ หน่อย ตัวเท่าลูกเจี๊ยบเช่นนี้จะมีแรงได้อย่างไร” จื่อเถาคีบเนื้อไก่ส่วนอกที่มีเนื้อเยอะให้ทั้งคู่ กับน่องไก่คนละชิ้น เด็ก ๆ น่าจะชอบ

         ลู่หลิงกับลู่จิ่นน้ำตาคลอ อยู่กับมารดามาตั้งนานยังไม่ได้กินดีเช่นนี้เลย นี่พี่สาวคนสวยเจอกันครั้งแรกถึงกลับเลี้ยงดูพวกเขาดีเช่นนี้ เขาย่อมซาบซึ้ง

         “ขอบคุณขอรับ พวกเราจะตอบแทนท่านแน่นอน”

         “ไม่ต้องตอบแทนอะไร ข้าชื่อจื่อเถากับแม่ข้าชื่อ

ชิงชิง เพิ่งย้ายมาอยู่ข้างร้านเจ้า มีอะไรก็เรียกเถิด” จื่อเถา

กล่าวอย่างใจดี นางต้องมีมิตรสหายไว้บ้าง ต่อไปนางอาจต้องพึ่งพาเด็กสองคนนี้ก็เป็นได้

         “พี่ใหญ่ข้าอยากมีพี่สาว พี่สาวจะใจดีอย่างพี่เถาเถา” ลู่จิ่นไม่เคยมีพี่สาวเลย เขาอยู่กับพี่ชายมาสองคนช่วยดูแลกันยามท่านพ่อไม่อยู่ แต่ท่านแม่ก็แอบตีพวกเขาลับหลังท่านพ่อเป็นประจำ เขาได้แต่เก็บความเจ็บช้ำไว้ในใจ

         “ได้ข้าเป็นพี่สาวให้เจ้าก็ได้ ต่อไปเจ้ามีอะไรก็บอกพี่สาวรู้หรือไม่”

         ชุยชิงชิงมองลูกสาวที่เอ็นดูเด็กชายสองคนนี้ก็รู้สึกน้ำตาคลอ จื่อเถาคงอยากมีน้องชาย นางถูกเลี้ยงมาอย่างลำพังย่อมเหงาบ้าง แต่แม่สามีก็ขัดขวางการมีลูกเพิ่มของนางทุกทาง

         ‘ช่างมันเถอะ เรื่องนี้ใช่นางจะมีวาสนา อาจเพราะพรหมลิขิตให้นางมีบุตรสาวอย่างเดียวกระมัง’

         สองฝาแฝดนั่งกินข้าวกันอย่างอิ่มหนำ ไม่ต้องหวาดกลัวท่านแม่จะคอยห้ามเขากินเนื้อ อ้างว่าเขายังเด็กมีแรงทำงานไม่มากกินเยอะจะสิ้นเปลือง เวลานางไม่สบอารมณ์ก็เฆี่ยนตีอย่างโหดเหี้ยม พวกเขาจะเดินจะนั่งก็ต้องอยู่อย่างหวาดผวา

         เมื่อสองแม่ลูกกับสองแฝดกินข้าวกันเสร็จแล้ว ก็พากันเดินกลับมา แต่เมื่อมาถึงกลับเห็นสตรีร้ายกาจผู้นั้นโดนตบเลือดกบปาก

         “เจ้า...เจ้าไม่รักข้าแล้วใช่หรือไม่ หรือเป็นเพราะแม่ม่ายโม่เฉียวผู้นั้น เจ้าถึงกับลงมือกับข้า” เสียงเจินหนิงสั่นเครือคล้ายเศร้าเสียใจอย่างหนัก วันนี้สามีถึงกับเอ่ยเรื่องปลดภรรยา นางจึงเอาเรื่องโม่เฉียวแม่ม่ายที่มาซื้อซาลาเปาอยู่บ่อยครั้ง ทั้งชวนสามีนางพูดคุยนาน จนนางเริ่มหึงหวง เมื่อไม่สบอารมณ์ก็ไปลงกับบุตรชายทั้งสอง

         แต่ทุกครั้งสามีไม่เคยเอ่ยเรื่องหย่าร้าง แต่วันนี้ถึงกับพูดขึ้นมาว่าจะปลดนางออกจากการเป็นภรรยา เพราะไม่เลี้ยงดูบุตรให้ดี ทั้งนางก็ไม่ได้ดูแลงานบ้านเอาแต่เกียจคร้าน ซึ่งทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องจริง

         นางติดนิสัยการเอาอกเอาใจของสามีตั้งแต่แต่งงานใหม่ ๆ จนนางชินคิดว่าสามีรักทะนุถนอมนาง แต่เมื่อนานวันเข้านางนอกจากไม่ปรับปรุงตัว ยังเป็นสตรีเกียจคร้านวาจาน่าอายจนเขาทนไม่ได้

         “ไม่ใช่เพราะผู้ใด เพราะเจ้าทำตัวเอง บุตรชายของข้าตัวเล็กแค่นี้ เจ้าถึงกับเอาเรื่องเขาแค่ถ้วยชามแตก ยามข้าขายซาลาเปา เจ้าไม่ช่วยยังพอว่า แต่เจ้าทำให้ข้าต้องวุ่นวายอับอายลูกค้า แค่นี้ข้าก็มีเหตุผลปลดเจ้าจากการเป็นภรรยาแล้ว” ลู่จื้ออดรนทนมานาน เขาไม่พูดไม่ใช่ว่าไม่รู้สึก เพียงรอให้นางสำนึก แต่ว่ายิ่งนานวันนางยิ่งไร้เหตุผล ไม่ใช่เขาอยากหย่า แต่นางไม่สมควรเลี้ยงดูบุตรชายทั้งสองของเขาต่างหาก

         “เจ้า...มันผัวเฮงซวย...หากเจ้ากล้าปลดข้า ดูทีรึว่าข้าจะจัดการเจ้าได้อย่างไรบ้าง”

         “ได้เจ้าท้าข้า เช่นนั้นข้าจะเขียนหนังสือปลดเจ้าเสีย” ลู่จื้อใบหน้ามืดครึ้ม อย่างไรวันนี้นางกับเขาย่อมต้องขาดกัน บุตรชายสองคนเขาย่อมเลี้ยงเองได้

         จื่อเถากับแม่พยักหน้าใส่กัน แล้วพาเด็กน้อยทั้งสองเดินเข้าไปในบ้านของตน ให้บิดามารดาตกลงกันให้เรียบร้อย เรื่องสามีภรรยา หากนางกับแม่สอดปากมีแต่จะเป็นเรื่องเสื่อมเสีย หากวันหนึ่งพวกเขาดีกันขึ้นมา นางกับแม่ก็หมา

ดี ๆ นี่เอง

         “พี่ใหญ่ท่านพ่อกับท่านแม่จะหย่ากัน” ลู่จิ่นหวาดกลัว กลัวว่าท่านแม่จะเอาเขาไปด้วย เขาไม่อยากอยู่กับท่านแม่ใจร้าย

         “ไม่ต้องกลัวน้องเล็ก ท่านพ่อไม่ปล่อยพวกเราไปอยู่กับนางปีศาจเช่นนั้นแน่” ลู่หลงถึงกับด่าว่ามารดาจนจื่อเถาต้องสั่งสอนเขาเล็กน้อย

         “อย่างไรนางก็เป็นมารดาพวกเจ้า พวกเจ้าไม่เคารพไม่ได้ อย่าพูดว่านางเช่นนี้อีก เจ็บแค้นก็เก็บไว้ในใจ” จื่อเถากลัวว่าเด็กสองคนจะติดนิสัยต่อว่ามารดาบิดาจนเติบใหญ่ หรือเห็นผู้ใดไม่ดีหน่อยก็จะเอ่ยคำไม่ดีออกมา เมื่อนั้นปากพวกเขาจะพาซวย

         “พี่เถาเถา ข้าไม่อยากไปอยู่กับท่านแม่”

         “พี่รู้แล้ว พี่รู้แล้ว”

         จื่อเถาปลอบเด็กทั้งสองแล้วให้มานั่งพักสงบใจในบ้าน เมื่อครู่บิดาของพวกเขาเห็นแล้วว่าพวกเขามากับนาง อีกสักครู่คงจะมารับกระมัง

         ลู่จื้อส่งหนังสือปลดภรรยาให้นางไป แล้วห้ามนางเข้าบ้านทำให้เจินหนิงไร้ที่พึ่ง ทางเลือกสุดท้ายนางต้องเอาเด็กสองคนเป็นตัวประกัน จึงเดินมาบ้านด้านข้างแล้วทุบประตูเรียกบุตรชายทั้งสอง

         ปัง ปัง ปัง...!!! “ออกมานะเจ้าลูกเฮงซวย เจ้าต้องไปกับข้า พ่อเจ้าทอดทิ้งข้าแล้ว” เสียงปึงปังทำเด็กทั้งสองหวาดผวาโผกอดกัน ร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่กล้าออกไป

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • จื่อเถาสาวน้อยเต้าหู้ทอด    บทที่ 200 ตอนพิเศษ 9

    เสียงกระบี่ดึงจากฝัก ทำให้คนที่อยู่ในชุดแดงเจ้าสาวภายใต้ผ้าคลุมถึงกับสะดุ้ง ความมืดรอบกายทำให้นางตัวสั่นเทาแสงกระบี่ที่สะท้อนกับแสงจันทร์จากหน้าต่างแยงตาทำให้นางถอยทั้งที่ยังคลุมผ้าจนไปนั่งลงบนเตียง “ฮึก...ไม่นะ” จื่อเถาส่ายหน้าเบา ๆ นางไม่อยากตายในคืนเข้าหอ นาง...นางอยากอยู่ต่อมีชีวิตกับคนที่รัก ปลายกระบี่ตวัดขึ้นทำให้ผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวเปิดออก ใบหน้าคนผู้นี้มืดดำไปด้วยความคับแค้น นางส่ายหน้าไปมาหาทางหนีรอดแต่ไม่มี “ชะ...ช่วย...ช่วยด้วย” เสียงหวีดร้องของจื่อเถาดังขึ้นสุดเสียง แต่ทว่าไม่ทำให้คนที่ยืนตรงหน้าลดกระบี่ลงเลยสักนิดทั้งเสียบเข้ามาที่กลางท้อง ฉึก! กรี๊ด!!! เสียงกรีดร้องพร้อมกับร่างที่ลุกขึ้นนั่งหอบหายใจ ทำให้คนที่นอนเคียงข้างนางตื่นขึ้นมา แล้วโอบกอดนางไว้ “เจ้าเป็นอะไรไป...ฮูหยินของข้า” เขาดึงนางเข้ามากอดปลอบลูบหลังเบา ๆ ให้นางสงบใจ หากให้เดานางคงฝันร้ายกระมังถึงได้ร้องขนาดนี้ “ท่านพี่ข้า...ข้าฝันไป” จื่อเถาไม่รู้จะบอกอย่างไรดี นางฝันถึงคืนแต่งงานและถูกสังหารอย่างเลือดเย็น หรือนี่จะเป็นวิญญาณจื่อเถาที่แท้จ

  • จื่อเถาสาวน้อยเต้าหู้ทอด    บทที่ 199 ตอนพิเศษ 8

    ลู่หลงเจ็บปวดใจที่โดนแกล้ง วันนี้เขาตื่นแต่เช้ามาผัดข้าวผัดให้ทุกคนได้กินฝีมือเขาเพื่อเป็นการสั่งสอน โดยไม่บอกผู้ใดด้วย วันนี้เป็นวันส่งท้ายปี เช่นนั้นเจ้าพวกนี้ต้องโดนเขาสั่งสอน กลิ่นหอมของข้าวผัดคลุ้งไปทั่ว และแน่นอนว่าลู่หลงไม่ให้พวกเขารู้เด็ดขาดว่าข้าวผัดนี้ฝีมือเขาทำ เพราะถ้ารู้เจ้าพวกนี้จะบ่ายเบี่ยงไม่ยอมกินเข็ดหลาบตั้งแต่ครั้งพี่จื่อเถาป่วย “พวกเจ้าต้องได้กินข้าวผัดฝีมือข้า...!”เสียงที่อำมหิตนั้นทำเอาจื่อเถาที่แอบเข้ามาดูในครัวว่าผู้ใดทำอาหารกัน เห็นเจ้าลู่หลงตัวแสบแอบมาทำก็เข้าใจทันทีว่าเขาโดนกลั่นแกล้งจึงต้องเอาคืน นางจะเก็บไว้เป็นความลับก็แล้วกัน แล้วไปดูสาวใช้จัดเตรียมเครื่องเซ่นไหว้บรรพบุรุษว่าไปถึงไหนแล้วกระดาษแดงเขียนคำว่ามงคลประดับอยู่ ร่ำรวยเงินทอง มีกินมีใช้ อายุยืนนาน ติดรอบบ้านทำให้ดูครึกครื้นยิ่งนักบรรยากาศเช่นนี้ดีจริง ๆ บรรยากาศแสนอบอุ่น พี่น้องพร้อมหน้า ทำกิจกรรมร่วมงานหลังจากเมื่อวานให้คนจัดการเรื่องศพของท่านยายเหิงเจี๋ย นางก็ให้ท่านหมอจากในเมืองมาตรวสุขภาพคนแก่คนเฒ่าในหมู่บ้าน ทั้งจัดยาให้โดยนางออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ปีนี้ผลผลิตไม่ได้ตามเ

  • จื่อเถาสาวน้อยเต้าหู้ทอด    บทที่ 198 ตอนพิเศษ 7

    “ท่านพูดอะไรเจ้าคะ” จื่อเถามึนไปหมด วันนี้นางพูดอะไรผิดไปหรือ ไปต่อว่าเขาเมื่อไหร่กันแน่ “ก็เจ้า...ชอบทุกคนที่ซื้อของให้ แต่ข้าซื้อให้เจ้าไม่เห็นชมข้าบ้างเลย” จื่อเถาไม่คิดว่าเขาจะคิดเยอะขนาดนี้ อยู่ด้วยกันมาหลายปี มีลูกด้วยกันตั้งสี่คน แต่อย่างว่าครอบครัวก็ต้องใส่ใจทุกคนอย่างเท่าเทียมสินะ นางเข้าไปสวมกอดเขาไว้ ซุกหน้ากับแผ่นหลังคล้ายอ้อนเล็กน้อย ทำให้อีกคนที่กำลังน้อยใจภรรยาสีหน้าดีขึ้น “ท่านพี่...ท่านนะดีที่สุดในใจข้าแล้ว ตั้งแต่แต่งงานกันมาท่านดูแลข้าดีที่สุด” เสียงอ่อนหวานทำให้อีกคนยิ้มออก มือหนายกขึ้นทาบมือนุ่มของนางเอาไว้ บอกให้รู้ว่าเขารักนางมากเพียงใด จื่อเถาเคยแต่ดูแลทุกคนมาตลอดชีวิต เมื่อแต่งงานจึงได้เข้าใจว่าการได้มีคนดูแลมันดีเพียงใด แล้วเขาจะไม่ดีได้อย่างไรกันเล่า “เช่นนั้นเจ้าชมข้าบ่อย ๆ ดีหรือไม่” เขาหันกลับมาหานางแล้วยกนางขึ้นอุ้มเดินไปที่เตียง และไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสามีต้องการสิ่งใด “ได้...ข้าจะชมท่านทั้งคืน” แล้วคนขี้น้อยใจก็ร่วมรักภรรยาคนงามทั้งคืน วันถัดมาเหล่าองค์ชายอีกสองคนจึงตามมาสมทบและได้พั

  • จื่อเถาสาวน้อยเต้าหู้ทอด    บทที่ 197 ตอนพิเศษ 6

    หลังจากพาเด็ก ๆ นอนกลางวันแล้ว เหล่าพี่น้องของนางถึงได้ปลีกตัวมาหานางได้ นางจึงทำขนมบัวลอยที่เคยทำเมื่อตอนงานหยวนเซียวให้พวกเขาได้กินกัน ทุกคนต่างคิดถึงบรรยากาศเก่า ๆ “ข้าคิดถึงงานเทศกาลโคมปีแรกของเจียงซู ข้าเกือบไม่รอดเสียแล้ว” เสิ่นหนิวที่จำช่วงนั้นได้ดี ไฟไหม้ตอนเทศกาลโคมไฟ มีเขาคนเดียวที่ติดอยู่ในกองเพลิงและพี่จื่อเถาก็กล้าหาญมากที่เข้าไปช่วยเขา แม้ตอนหลังท่านลุงเผิงหยวนจะมาช่วยพวกเขาอีกที “เวลาผ่านมาพอคิดย้อนไป พวกเราไม่น่ารอดกันมาได้เลย เจอแต่ละเหตุการณ์” ลู่หลงพูดขึ้นแล้วก็ขำ ความอดทนของพวกเขานี้จะมีใครเทียบได้อีก “ทั้งหมดเพราะพี่จื่อเถาต่างหาก ที่พาพวกเราผ่านความเป็นความตายมาได้ ตอนท่านยายตายข้าคิดจะตายตามท่านยายไปเสียแล้ว แต่ท่านก็ช่วยเหลือจนข้ามีกำลังใจสู้ต่อ” อี้หานกล่าว หากเขาเลือกตายตามท่านยายไปเขาจะไม่รู้เลยว่าตนเองยังมีญาติ แม้พวกเขาจะไม่ติดต่อตนก็ตาม แต่นับว่าไม่ได้อยู่ในโลกนี้โดดเดี่ยว และมีบ้านที่เจียงซูยังอบอุ่นเสมอ “ว่าแต่เจ้าเถอะ ทำไมมาก่อนสององค์ชายนั่น” จื่อเถาฟังพวกเขารำลึกความหลัง แล้วก็ต้องถามด้วยความประหลาดใ

  • จื่อเถาสาวน้อยเต้าหู้ทอด    บทที่ 196 ตอนพิเศษ 5

    “เจ้าว่าอึกเดียวจะเป็นอะไรไหม” ลู่หลงป้องปากกระซิบกระซาบกับลู่จิ่น ไม่ให้พี่ไป๋ได้ยิน “คงไม่เป็นอะไร ลูกผู้ชายต้องดื่มเหล้า ยิ่งธนู ขี่ม้า ถึงสมกับเป็นลูกผู้ชาย” ลู่จิ่นให้เหตุผลสนับสนุนการลองชิมสุราหลิ่งจือ แม้จะมีรสชาติหวานล้ำ แต่ว่าดื่มไม่ระวังก็เมาหัวทิ่มเช่นกันพี่จื่อเถาบอก จื่อเถาเดินมาสมทบเห็นเจ้าแฝดลู่กระซิบกระซาบอะไรกันแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ เจ้าพวกนี้ต้องให้ท่านน้าของพวกเขาทำเรื่องไม่ดีแน่ “นั่นพวกเจ้าวางแผนอะไรกัน” จื่อเถาหรี่ตามองจับผิด ต่อให้โตแล้วสองแฝดแซ่ลู่ก็ยังแสบเหมือนตอนเด็ก ๆ นางไม่รู้ว่าความแสบสันนี้ได้มาจากใครกัน “ปะ...เปล่านะขอรับ ข้าเพียงตกลงกันว่าคืนนี้จะเอาเผิงซานกับเผิงซุนไปนอนด้วยก็เท่านั้น ไม่ได้วางแผนสักหน่อย” เสียงเล็กเสียงน้อยของลู่หลงตัดพ้อจื่อเถาทำเอานางอยากจะหยิกเหมือนตอนเด็ก ๆ เสียจริง “แม่หนูหนิงมาหาพี่จื่อเถาสิลูกให้ท่านพ่อเหลาดาบได้สะดวก” นางเห็นไป๋อวิ๋นเอาลูกสาวนั่งตักไปด้วยเหลาไม้ไปด้วยก็กลัวว่าเขาจะไม่ถนัด “เจ้าค่ะ” ไป๋หนิงวิ่งมาหาจื่อเถานางย่อตัวอุ้มน้องสาวที่อายุห่างกันมากเหลือเกินจนนางแทบเป

  • จื่อเถาสาวน้อยเต้าหู้ทอด    บทที่ 195 ตอนพิเศษ 4

    4 ปีผ่านไป จื่อเถาให้กำเนิดบุตรชายสี่คน เป็นฝาแฝดทั้งสองท้อง โดยมีชื่อ เผิงซาน เผิงซุน เผิงเซียว และเผิงซื่อ นางเลี้ยงเหล่าเด็ก ๆ ให้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ นางแบ่งแปลงปลูกผูเถาสีแดง ใช้นำจากบ่อน้ำพุวิเศษรดทำให้ลูกดกยิ่งนัก และตอนนี้เหล้าหมักจากผลผูเถาชื่อว่าเหล้าหลิ่งจือที่แปลว่าความหอมหวานแห่งสายลมเป็นที่ต้องการของทั้งแคว้น และองค์รัชทายาทกับองค์ชายรองมาซื้อไปเกือบครึ่งของแต่ละรอบ ของการเปิดถังหมักทำให้เหล้าหลิ่งจื่อไม่พอต่อการขาย คราวนี้นางจึงไม่ให้พวกเขาซื้อและเอาขายหน้าร้านเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทำให้เขาตัดพ้อต่อว่านางเสียยกใหญ่ แต่นางก็ไม่สนใจเพราะมัวแต่เอาไปในวังทั้งองค์ชายอี้หาญและเขาทั้งสองก็ไม่เป็นอันทำอะไร ตกเย็นจับกลุ่มกันดื่มเหล้า “ท่านแม่ไหนี้ข้าชิมได้หรือไม่” เผิงซานเป็นพี่ใหญ่เกิดวันเดียวกับเผิงซุน แต่ความทะเล้นเหมือนได้ลู่หลงมาจนเต็มทั้งอยากชิมของทุกอย่างที่นางทำ กระทั่งเหล้าหมักผูเถาของนาง “เหล้ากินไม่ได้ เจ้าจะเมาเอา” จื่อเถายิ้มตอบพร้อมลูบหัวเจ้าก้อนซาลาเปาน้อยของนาง ยิ่งเห็นใบหน้าเศร้าทำเอานางอดขำไม่ได้ “ไปฝึกเพลงดาบกับท่านตาไป๋ของเจ้าดีหร

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status