วันสุดท้ายของแฟชั่นวีคที่จัดขึ้นในประเทศไทย นางแบบชั้นนำหลายสิบชีวิตมารวมกันอยู่ที่เวทีนี้เช่นเดียวกับดีไซน์เนอร์นับสิบคนที่ต่างก็มีชื่อเสียงและมีผลงานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล...
เมื่อต้องเริ่มนาทีทำงาน เมลิสาก็จะวางทุกเรื่องราวเอาไว้ได้ก่อนเสมอ... ครั้งนี้ก็เช่นกัน เสร็จจากงานเดินแบบสามวันนี้เธอตั้งใจจะหลบไปพักผ่อนต่างประเทศสักสัปดาห์หรือสองสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับว่าผู้จัดการส่วนตัวของเธอจะจัดการคิวงานให้ลงตัวได้หรือยัง...
ผู้ช่วยผู้กำกับเวทีร้องเรียกนางแบบคิวต่อไป เมลิสาเดินออกไปทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเฉิดฉายสมกับที่เป็นนางแบบค่าตัวราคาแพง แน่นอนว่าชุดฟินาเล่ของวันนี้ก็เป็นเธอที่เป็นคนสวมใส่... เมลิสาเปลี่ยนชุดและออกไปเดินโชว์เสื้อผ้าอยู่อีกหลายชุดจนกระทั่งถึงชุดสุดท้าย เสียงปรบมือกึกก้องให้กับดีไซน์เนอร์คนเก่งโดยมีเมลิสาที่สวมใส่ชุดของเขายืนโพสท่าอยู่ชิดใกล้...แสงไฟแฟลชวูบวาบไปหมด...
เมลิสามองไปรอบๆ ด้วยแววตาเยือกเย็นแล้วก็ประสานสายตาเข้ากับเขา...
เลออง...!
เขานั่งอยู่แถวหน้าของวีไอพี พยักหน้าทักทายเธอเล็กน้อย เมลิสาสูดลมหายใจลึก...พยายามตั้งสติให้อยู่กับงาน รอจนเดินกลับเข้าหลังเวทีไปเธอจึงรีบเปลี่ยนเครื่องแต่งกายและออกมาข้างนอก แต่แทบไม่ต้องมองหาเขาเพราะเลอองมารอท่าอยู่หน้าห้องแต่งตัวแล้ว...
"คุณดูดีมากนะครับตอนอยู่บนเวทีนั่น การเดินของคุณทำให้เสื้อผ้าดูดีขึ้นมากทีเดียว"
"มันเป็นหน้าที่ของนางแบบค่ะ..."
เมลิสาตอบ แววตายังตื่นที่ได้พบเขาโดยไม่คิดฝัน
"เสร็จจากงานนี้แล้ว คุณคงจะเหนื่อยมาก..."
"ก็...ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ มันเป็นงานของเม เมชินแล้ว...ว่าแต่คุณเลอองมาดูแฟชั่นโดยเฉพาะเลยหรือคะ สองวันแรกเมไม่เห็นคุณเลย"
"ผมเพิ่งหาเวลาว่างได้น่ะครับ วันนี้เป็นวันสุดท้าย คิดว่ายังไงก็ต้องหาเวลามาให้ได้..."
เลอองตอบ เมลิสาอยากถามว่าทำไม...แต่ไม่กล้าพอ แต่เลอองก็อ่านใจเธอออกตามเคย
"ผมมาเพราะอยากจะมาเชิญคุณเมลิสาด้วยตัวเอง..."
"เชิญเม...?"
"ใช่ครับ ผมกำลังจะไปทำธุระที่บูดาเปสต์สองสามวัน ไม่ว่าคุณเมพอมีเวลาว่างไปเที่ยวกับผมหรือเปล่า..."
เมลิสาแทบจะกลั้นเสียงกรี๊ดไว้ไม่ทัน...
"ไม่ปฏิเสธก็เป็นอันว่าตกลงนะครับ"
"ตกลงค่ะ ตกลง"
* * * * *เลอองสั่งจองห้องที่วิวดีที่สุดเท่าที่โรงแรมห้าดาวแห่งนี้จะจัดสรรให้ได้ และเขาก็สมใจเมื่อได้ห้องที่หันหน้าเข้าสู่ชายหาดขาวสะอาด กว้าง สะดวกสบายและเป็นส่วนตัว
เป็นส่วนตัว...คือสิ่งที่เขาและเธอต้องการที่สุดยามนี้
“คุณสวยจนผมตะลึงรู้ไหม...เมลิสา”
เลอองเอ่ยขึ้นพลางชูแก้วไวน์ขึ้นเล็กน้อยให้เธอ หลังดินเนอร์ที่แสนโรแมนติกในห้องส่วนตัว เขาพาเธอมานั่งชมวิวทะเลอยู่บนระเบียง เมลิสาอิงแอบแนบชิดอยู่กับร่างสูงใหญ่ของเขาที่เอนหลังในท่าผ่อนคลาย...
การเดินทางมาด้วยกันตามลำพังในครั้งนี้ เพียงแค่สบตาทั้งคู่ก็รู้ว่าต้องการอะไร ความเป็นพิธีรีตองระหว่างลูกค้ากับนางแบบถูกโยนทิ้งไปเหลือเพียงหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่ต่างก็ดึงดูดในกันและกันอย่างถึงที่สุด
“แต่ก็คงสวยสู้หลายคนที่คุณเคยรู้จักไม่ได้”
“ผมไม่เคยคิดเปรียบเทียบใครกับใคร แต่ถ้าต้องให้เลือกจริงๆ คุณก็รู้ว่าผมเลือกคุณ...”
เลอองยกแขนโอบเธอไว้ มือลูบไล้หัวไหล่เปลือยที่นวลเนียน เมลิสาเบียดตัวใกล้เข้าไปอีก รู้สึกว่าอุณหภูมิในร่างกายกำลังระอุทั้งที่อากาศก็เย็นสบาย...
“คุณเลือกเมแค่ในเรื่องงานเท่านั้นเองแหละค่ะ”
“เรื่องส่วนตัวผมก็เลือกคุณ ตอนนี้ผมมีคุณคนเดียว”
เมลิสารู้ว่าเลอองไม่ได้โกหก และทั้งคู่ก็คุยกันแล้วว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้ต่างจะให้อิสระต่อกัน จะไม่มีการเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ
เมลิสาแทบไม่ได้ฟังที่เขาพูด เธอมัวแต่จ้องตาเขาและเผลอยกมือขึ้นลูบไล้ปลายคางสาก วินาทีถัดมาเธอก็โผเข้าหาเขา โน้มท้ายทอยเขาลงมารับจูบของเธออย่างหิวกระหาย ราวกับชายหนุ่มรู้อยู่แล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ เขารีบวางแก้วไวน์ลงอย่างไม่แยแสว่ามันจะหกหรือตกแตกและตวัดรัดร่างผอมบางของเธอให้แนบชิดสนิทกับเรือนร่างกำยำ
“คุณเลออง ช่างพรุ่งนี้เถอะค่ะ วันนี้เมมีคุณอยู่ด้วยก็พอแล้ว”
เมลิสากระซิบเสียงสั่นพร่า เลอองหัวเราะในลำคออย่างพึงใจ ก่อนจะผลักดันร่างของหญิงสาวตรงไปที่โซฟาตัวยาวกลางห้องโดยที่ลิ้นและฝ่ามือไม่หยุดพันตูกันแม้แต่น้อย
เมลิสาครางอย่างคนที่อัดอั้นมานานเมื่อฝ่ามือร้อนผ่าวสอดเข้าใต้ชายกระโปรงที่บัดนี้ถูกดึงร่นมาสูงถึงหน้าขา มือร้อนตรงเข้าสำรวจดินแดนเร้นลับที่ปกปิดไว้เพียงชั้นในลูกไม้เบาบาง เมื่อแผ่นหลังกึ่งเปลือยสัมผัสกับความเย็นของโซฟา เมลิสาโน้มร่างชายหนุ่มให้ตามติดลงมาและสองขาเรียวยาวก็ยกตระหวัดเกี่ยวรัดเอวเขาไว้อย่างรู้งาน...
“เดี๋ยวนี้เลยได้ไหมคะ”
เมลิสาขอร้องแกมสั่ง เสียงกระท่อนกระแท่นด้วยแรงปรารถนา
“ใจร้อนจังเลยคนสวย”
“ได้โปรด เดี๋ยวนี้”
เธอแอ่นสะโพกหาเขาอย่างร้อนแรง เธอฝันถึงชายคนนี้มาหลายคืนหลายสัปดาห์ติดต่อกันจนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน และนาทีนี้สิ่งแรกที่เธอต้องการคือให้เขาเติมเต็มเธอโดยเร็วเพื่อลบพิษปรารถนาที่แผดเผาเธออยู่
“ก็ได้ ถ้าคุณต้องการอย่างนั้นผมจะตามใจ”
เลอองกระซิบบอกเสียงแหบพร่าพอกัน เขาสอดมือลงไปปลดเข็มขัดและรูดซิปกางเกงของตัวเอง เลื่อนมันลงต่ำเพียงเล็กน้อยเพื่อปลดปล่อยกล้ามเนื้อที่กำลังพองใหญ่ดุดัน นิ้วเรียวยาวสำรวจร่างกายของหญิงสาวและพบมันพร้อมอยู่แล้วสำหรับเขา
เมลิสากรีดร้องเสียงยาวเมื่อความกำยำร้อนผ่าวของเขาสอดลึกเข้าสู่กายเธอ แต่เธอยังไม่พอใจ แอ่นกายบดเบียดร่างแกร่งนั้นอย่างเรียกร้อง ชายหนุ่มเริ่มขยับกายสอดรับและรุกอย่างเนิบช้าในตอนแรกและทวีความรุนแรงมากขึ้นตามความต้องการของหญิงสาว เมลิสาจิกเล็บยาวลงบนสะโพกแข็งแรงของเขาราวกับไม่หนำใจกับแรงจังหวะที่เขาถาโถมเข้าใส่ แต่มีหรือที่ชายหนุ่มชำนาญรักอย่างเลอองจะยอมเสียเชิง เขาเพิ่มความหนักหน่วงและถี่กระชั้นจนนางแบบสาวหัวสั่นหัวคลอนและร่ำร้องแต่ชื่อของเขาออกมาด้วยน้ำเสียงขาดห้วงราวสัตว์ป่าที่เจ็บปวดกำลังร้องขอความเมตตาให้พรานหนุ่มปลดปล่อยออกจากความทรมานอันนี้
พรานหนุ่มรู้แล้วว่ามันใกล้ถึงเวลาเมื่อกวางป่าแสนสวยเริ่มนัยน์ตาพร่าพรายและพร่ำเรียกชื่อของเขาสลับเสียงแห่งความกระสันรัญจวนที่ระงับไว้อีกไม่ได้ เขากัดฟัน คำรามห้าวอยู่ในอก มือยึดสะโพกบอบบางนั้นไว้เพื่อเพิ่มแรงกระชั้นเข้าใส่อีกในระลอกสุดท้าย
จนกระทั่งเมลิสาหวีดร้องออกมาอย่างสุดกลั้น พร้อมกับหยาดหยดแห่งความใคร่ของทั้งสองทะลักล้นเปรอะเปื้อน สนามรบบนโซฟาที่ร้อนฉ่าเป็นไฟจึงคลี่คลายลงเหลือเพียงเสียงหอบหายใจที่แสนเหนื่อยอ่อน
“อีกครั้งได้ไหมคะ”
เมลิสาอ้อนวอนอย่างลืมอาย เลอองเลิกคิ้ว และเมื่อเห็นสายตาฉ่ำปรือราวกับคนเป็นไข้ที่กำลังจะตายเพราะถูกไฟฟรารถนาแผดเผา เขาก็รู้ทันทีว่าค่ำคืนนี้ยังอีกยาวนาน...
“มิสเตอร์เดอวีแลล!”พนักงานและบอดี้การ์ดกระโจนเข้าชาร์จตัวหญิงสาวทันทีที่ได้ยินเสียงตะโกนออกมาจากหลังกระถางต้นไม้ต้นหนึ่งหน้าโรงแรม เลอองหันขวับแล้วก็เห็นคนที่เขาไม่คาดคิดว่าจะได้เห็น“ลลิล!”เท้าลลิลแทบจะถูกหิ้วสูงจากพื้นด้วยฝีมือของบอดี้การ์ดร่างใหญ่ เธอดิ้นแทบไม่ได้ด้วยซ้ำแต่ก็ยังพยายามฮึดฮัดต่อสู้“ปล่อยฉันนะ ปล่อยเดี๋ยวนี้!”“ปล่อยเธอ...”ชายหนุ่มสั่ง บอดี้การ์ดทั้งสองจึงยอมปล่อยมือ แววตาของเลอองแสดงอาการยินดีอย่างปิดไม่อยู่ รอยยิ้มกว้างของเขาเตรียมพร้อมที่จะทักทายเธอแต่รอยยิ้มนั้นก็ชะงักค้างทันทีเมื่อลลิลเดินอาด ๆ มาผลักเขาเต็มแรงท่ามกลางความตกตะลึงของทุกสายตาที่มองอยู่แน่นอนว่าเลอองไม่สะเทือนไหวกับแรงผลักนั่นแม้แต่น้อยนิด เขาก้มลงมองคนตรงหน้าที่หน้าตาเหมือนไปกินรังแตนที่ไหนมาด้วยความงุนงง“คุณถือดียังไงมาฝากงานให้ฉัน คุณมายุ่งเรื่องฉันทำไม ไอ้คนทุเรศ!”เสียงอุทานและคำรามดังขึ้นเบา ๆ จากเหล่าบอดี้การ์ดทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นของหญิงสาว ติดที่ว่าเลอองยืนขวางไว้ไม่อย่างนั้นหญิงสาวคงถูกหิ้วปีกออกไปโยนกองบนถนนเป็นแน่ เลอองยังยืนนิ่ง แต่แววตาดีใจหายไปแล้ว เขารู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่
เลอองหัวเราะออกมาเบา ๆ อย่างเหนื่อยอ่อนพลางยุดมือหญิงสาวไว้ก่อนที่จะเลื่อนลงต่ำไปกว่านั้น“คุณนี่ร้อนแรงกว่าที่ผมคิดเยอะเลยนะ เมลิสา”“เฉพาะกับคุณเท่านั้นแหละค่ะ”นางแบบสาวบอก เอียงหน้าซบไหล่เขา"คุณมีเสน่ห์มากเลยนะคะเลออง มาก...จนเมกลัวว่าเมจะหลงคุณจนโงหัวไม่ขึ้น”“แสดงว่าคุณยังไม่หลง”“แล้วอยากให้เมหลงมั้ยล่ะคะ”น้ำเสียงบอกว่าจริงจัง ชายหนุ่มกลับหัวเราะเห็นเป็นเรื่องตลก“ผู้หญิงอย่างเมลิสา พอร์ตแมน ไม่จำเป็นต้องลดตัวลงมาหลงใหลผู้ชายคนไหนหรอก เชื่อผมสิ”เลอองบอก แล้วพลิกตัวจูบหน้าผากเธอแรง ๆ อีกครั้งก่อนจะผละตัวออก ก้าวลงจากเตียง เดินเปลือยกายเข้าห้องน้ำไปนางแบบสาวร้อนผะผ่าวที่ขอบตา หญิงสาวฉลาดพอที่จะรู้ว่านี่คือการปฏิเสธอย่างสุภาพจากเขา...ผู้ชายที่เธอพลาดตกบ่วงเสน่ห์เข้าแล้วทั้งตัวและหัวใจ เมลิสาไม่ใช่คนเข้าใจอะไรยากและรู้ตั้งแต่ต้นว่าเธอกับเลอองจะจบลงอย่างไร แต่เมื่อถึงเวลานี้จริง ๆ ก็อดใจหายไม่ได้...“เมขออนุญาตสูบบุหรี่ได้ไหมคะ”นางแบบสาวเอ่ยถามเมื่อชายหนุ่มเดินกลับออกมาจากห้องอาบน้ำพร้อมผ้าขนหนูพันท่อนล่างหลวม ๆ เลอองบอกเธอว่าตามสบาย เขาเดาว่าเมลิสาคงกำลังหาทางทำใจของตัวเองอยู
“หนูลิล หมู่นี้มีปัญหาอะไรหรือเปล่า พี่ว่าเธอดูเครียดๆ นะ”ศักดารันทร์ถามอย่าห่วงใยระหว่างที่นั่งรอเมลิสาทำงานในตอนสายของวันหนึ่ง“พี่ดาด้าว่าอะไรนะคะ”“พี่ว่าเธอมีปัญหาอะไรกลุ้มใจหรือเปล่า หมู่นี้ดูเครียด ๆ เหม่อ ๆ”“อ่า...พี่ด้าสังเกตเห็นด้วยหรือคะ”“ต๊าย...เธอเห็นพี่เป็นคนใจจืดใจดำขนาดไหนกันล่ะจ๊ะ ก็ต้องสังเกตเห็นสิ คนเจอกันทุกวี่ทุกวัน” ลลิลยิ้มฝืด“ขอบคุณนะคะพี่ด้า ลิลแค่กำลังคิดเรื่องหางานใหม่น่ะค่ะ”“งานใหม่?”ศักดารันทร์ท่าทางตกใจ แม้จะได้เจอกันทุกวันแต่ลลิลก็ไม่ค่อยพูดเรื่องส่วนตัวให้ฟัง ยิ่งจะมาปรับทุกข์เรื่องการทำงานยิ่งไม่เคยได้ยิน จนหลายครั้งเขายังเผลอคิดว่าหญิงสาวคงเป็นคนที่ปราศจากความทะเยอทะยานโดยสิ้นเชิงและคงจะอยู่ทำงานกับเมลิสาไปจนกว่านางแบบสาวจะลาวงการไปเอง...การที่จู่ ๆ ลลิลพูดเรื่องงานใหม่ จึงอยู่เหนือความคาดหมายของศักดารันทร์อย่างมาก “นี่พูดจริงหรือเปล่า หรือแค่อารมณ์ชั่ววูบเพราะเหนื่อย เบื่อ น้อยใจ หรือว่ามีปัญหาอะไรที่พี่ไม่รู้""เปล่าหรอกค่ะพี่ด้า ลิลแค่อยากใช้วิชาความรู้ไปทำงานอื่นที่...เอ่อ...ท้าทายกว่านี้บ้าง”หญิงสาวตอบอย่างขัดเขิน ก็คำว่า 'งานที่ท้าทาย
ใช้เวลาอยู่หลายวันกว่าลลิลจะทำให้หัวใจเต้นเป็นปกติได้ เธอพยายามคิดว่ามันเป็นแค่อุบัติเหตุ เธอแค่เดินไปชนกับผู้ชายมักง่ายนิสัยแย่อย่างนายเลอองที่คงจะไม่มีสติสำนึกรู้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ฝรั่งเศสที่จะเที่ยวได้จูบใครไปทั่วแบบนั้น สัปดาห์นี้เมลิสาไปถ่ายแบบที่ปารีสพอดีและงานนี้นางแบบสาวบอกว่าไม่จำเป็นต้องมีเธอไปด้วย มีแค่ศักดารัณไปคนเดียวก็พอแล้ว ผู้ช่วยสาวจึงเหมือนได้พักไปในตัว และวันนี้เธอก็ตั้งใจว่าจะไปเดินห้างเพื่อซื้อของใช้จำเป็นกำลังจะเดินออกจากเรือนหลังเล็กซึ่งเป็นที่พัก ชายหนุ่มร่างสูงเกินมาตรฐานชายไทยเจ้าของดวงตาสีฟ้าสดใส ก็ปรากฎตัวขึ้นบนทางเดินหินหน้าเรือนนั้น ลลิลกระพริบตาถี่ ๆ ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองในตอนแรก เมื่อแน่ใจว่านี่คือตัวเป็น ๆ ไม่ใช่เธอคิดไปเอง หัวใจหญิงสาวก็เต้นโลดขึ้นมาทันที"อรุณสวัสดิ์...กำลังจะออกไปข้างนอกหรือ"เลอองถอดแว่นตากันแดดออก เขาอยู่ในชุดกึ่งลำลองโทนสีเทาหล่อเหลาตามเคย"คุณมาที่นี่ทำไม คุณเมลิสาไม่อยู่หรอกนะ ไปถ่ายแบบที่ปารีสอาทิตย์นึง""ผมรู้แล้ว"เลอองตอบก่อนกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เรือนพักไม้ทาทับด้วยสีขาว มีต้นไม้ทั้งพืชสวนครัว ไม้ดอกไม้ประดับ ทั้งที่
ลลิลสะบัดฝ่ามือใส่ใบหน้าขาว ๆ ก่อนผลักเขาด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีและผลุนผลันผลักประตูหนีไฟออกไป เลอองไม่รู้สึกระคายอะไรกับรอยตบนั่นเลย แต่กลับยกมือแตะริมฝีปากตัวเองแผ่วเบาไม่อยากเชื่อว่าผู้หญิงที่ดูธรรมดาไปทั้งเนื้อตัวคนนั้นจะกลับมีริมฝีปากที่ให้ความรู้สึกสดและหวานขนาดนี้ ให้ตายสิ...นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ตอนแรกเขาคิดอยากจะช่วย ต่อมาก็อยากจะแหย่...แต่ทำไมกลายเป็นตัวเขาเองที่ควบคุมตัวเองไม่ได้มีอะไรในตัวผู้หญิงคนนี้ที่เย้ายวนเขาอย่างนั้นหรือ...ไม่มีหรอก! ไม่มีอะไรเลยสักอย่างเดียว! เลอองเถียงกับตัวเอง เมื่อเทียบกับผู้หญิงทุกคนที่ผ่านมาและผ่านไปในชีวิต หรือแม้กระทั่งกับเมลิสาที่เขากำลังคบหาอยู่ ผู้ช่วยสาวคนนั้นช่างห่างไกลจากเธอเหล่านั้นราวฟ้ากับเหว... ที่ผ่านมาเขาชอบผู้หญิงผอมบางรูปร่างนางแบบ แต่ลลิลก็แค่ผู้หญิงรูปร่างสมส่วนค่อนไปทางเนื้อนมไข่ เขาชอบผู้หญิงผิวสีน้ำผึ้ง นวลเนียน ดูเซ็กซี่ยามที่พวกเธอเหล่านั้นเนื้อตัวฉาบไปด้วยน้ำมันบำรุงผิว แต่ลลิลคนนี้ผิวขาวเหลืองเหมือนอย่างสาวเอเชียทั่วไป เขาชอบผู้หญิงที่โครงหน้ามีเอกลักษณ์ ดูเก๋และโฉบเฉี่ยว แต่ลลิลคนนี้มีโครงหน้ารูปห
“ช่วงนี้พี่อั๋นก็งานยุ่งมากเลยสินะคะ”“ก็ประมาณนั้นแหละ แล้วลิลล่ะ เป็นยังไงบ้าง”“ลิลก็เรื่อย ๆ ค่ะ แต่ก็กำลังคิดอยู่ว่าจะลองหาอะไรใหม่ ๆ ทำดู”“ฮ้า...จริงหรือเปล่า หมายถึงงานใหม่หรือ” “ยังไม่แน่ใจค่ะ พี่อั๋นอย่าเพิ่งบอกใครนะคะ ห้ามเด็ดขาดเลย”“ได้สิ เรื่องของลิล พี่ไม่บอกใครหรอก”แววตาคมจ้องมองมาตรง ๆ และค้างนิ่งอยู่อย่างนั้น ตอนแรกหญิงสาวก็ยิ้มขอบคุณแต่วินาทีต่อมาเริ่มสัมผัสได้ว่าอรรณพมองเธอด้วยสายตาวาววามแปลก ๆ“ลิล สุดสัปดาห์นี้พอจะว่างบ้างมั้ย พวกพี่กับเพื่อนจะไปปาร์ตี้วันเกิดกันที่หัวหิน แต่พี่ไม่อยากไปคนเดียว กำลังหาเพื่อนไปด้วย”ลลิลอึกอัก ไม่รู้จะตอบเขาไปอย่างไร“อย่าคิดมากนะ พี่แค่หาคนไปด้วยจะได้ไม่เหงา พวกเพื่อน ๆ มันก็ควงแฟนกันไปหมด พี่ยังไม่มีใคร ไปคนเดียวก็ตะหงิด ๆ เราจะอยู่ในงานกันสักพักก็ได้ แล้วถ้าลิลอยากไปเที่ยวหรือไปกินอะไรเป็นพิเศษ พี่ค่อยพาไป...”อรรณพมองลลิลอย่างคาดหวัง จะว่าไปเขาก็เลียบเคียงหญิงสาวมานานแล้วแต่เธอไม่เคยรู้ตัว เห็นทีหนนี้ต้องแสดงออกไปให้ชัด ๆ จะได้รู้ว่าเขาสนใจเธอ“คือว่าลิล...”“อ้าว! คุณ...มาอยู่นี่นี่เอง คุณดาด้าเขาตามหาคุณอยู่น่ะ”เสียงดังทรง