ลลิลสะบัดฝ่ามือใส่ใบหน้าขาว ๆ ก่อนผลักเขาด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีและผลุนผลันผลักประตูหนีไฟออกไป เลอองไม่รู้สึกระคายอะไรกับรอยตบนั่นเลย แต่กลับยกมือแตะริมฝีปากตัวเองแผ่วเบา
ไม่อยากเชื่อว่าผู้หญิงที่ดูธรรมดาไปทั้งเนื้อตัวคนนั้นจะกลับมีริมฝีปากที่ให้ความรู้สึกสดและหวานขนาดนี้ ให้ตายสิ...นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ตอนแรกเขาคิดอยากจะช่วย ต่อมาก็อยากจะแหย่...แต่ทำไมกลายเป็นตัวเขาเองที่ควบคุมตัวเองไม่ได้
มีอะไรในตัวผู้หญิงคนนี้ที่เย้ายวนเขาอย่างนั้นหรือ...ไม่มีหรอก! ไม่มีอะไรเลยสักอย่างเดียว!
เลอองเถียงกับตัวเอง เมื่อเทียบกับผู้หญิงทุกคนที่ผ่านมาและผ่านไปในชีวิต หรือแม้กระทั่งกับเมลิสาที่เขากำลังคบหาอยู่ ผู้ช่วยสาวคนนั้นช่างห่างไกลจากเธอเหล่านั้นราวฟ้ากับเหว...
ที่ผ่านมาเขาชอบผู้หญิงผอมบางรูปร่างนางแบบ แต่ลลิลก็แค่ผู้หญิงรูปร่างสมส่วนค่อนไปทางเนื้อนมไข่ เขาชอบผู้หญิงผิวสีน้ำผึ้ง นวลเนียน ดูเซ็กซี่ยามที่พวกเธอเหล่านั้นเนื้อตัวฉาบไปด้วยน้ำมันบำรุงผิว แต่ลลิลคนนี้ผิวขาวเหลืองเหมือนอย่างสาวเอเชียทั่วไป เขาชอบผู้หญิงที่โครงหน้ามีเอกลักษณ์ ดูเก๋และโฉบเฉี่ยว แต่ลลิลคนนี้มีโครงหน้ารูปหัวใจ ไม่มีอะไรโดดเด่น นอกเสียจากดวงตากลมเหมือนตากวาง จมูกเล็ก ๆ กับริมฝีปากสีสดที่อิ่มเต็มคู่นั้น เขาเคยชอบทุกอย่างที่ตรงข้ามกับลลิล แต่ว่าเธอ...เลอองตกใจ...นี่เขาจดจำจนแจกแจงลักษณะของผู้หญิงคนนั้นได้ชัดเจนถึงเพียงนี้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ผู้ชายอย่างเลอองไม่สิ้นไร้ไม้ตอกถึงขนาดสนใจผู้หญิงที่ปฏิเสธความหวังดีของเขาถึงสองครั้งสองคราวแบบนี้หรอก ไม่มีทาง
* * * * *
“ไปไหนมาคะเลออง เมมองหาซะทั่วงานเลย”
เมลิสาถามเขาเบา ๆ เมื่อชายหนุ่มเดินกลับมาหาเธอที่ยังอยู่ในห้องจัดงานเลี้ยง
“ไปเข้าห้องน้ำมาน่ะครับ คุณง่วงหรือยัง ผมจะได้ให้คนขับรถเตรียมรถให้เลย”
“อะไรกันคะ จะไล่กลับซะแล้วหรือ”
เมลิสาตัดพ้อ
“ผมเปล่าครับ แต่เกรงใจคนที่มากับคุณ ผู้จัดการส่วนตัวของคุณกับ...ผู้ติดตามคนนั้น”
“ถ้าอย่างนั้นให้คนขับรถของคุณไปส่งพวกเขาก่อนได้ไหมล่ะคะ...ส่วนเม...ขออยู่ต่อกับคุณ...ได้ไหม”
เลอองลังเลเมื่อภาพผู้หญิงอีกคนทำท่าจะซ้อนทับมาอยู่เรื่อย แต่ก็ตอบตกลงในที่สุด เขาไม่ได้เจอกับลลิลอีกเลยในคืนนั้นและเชื่อว่าเธอก็คงจะหลบเลี่ยงเขาอยู่เช่นกัน
ลลิลกลับมาถึงบ้านด้วยรถแท็กซี่เพราะเธอออกจากงานมาก่อน...บ้านที่เธอพักคือเรือนหลังเล็กที่เธอเคยอยู่เป็นส่วนตัวกับแม่ เมื่อแม่จากไปเธอก็อยู่ที่นั่นคนเดียวมาตลอดจนถึงตอนนี้
จูบของเลอองทำให้เธอกระสับกระส่ายอยู่เกือบค่อนคืน...ไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับเธอมาก่อน มันทำให้หัวใจเต้นแรงและใบหน้าร้อนผ่าวทุกทีที่นึกถึง...
เขาเห็นความรักเป็นเรื่องไร้สาระ ก็คงจะเห็นว่าการทำแบบนี้เป็นเรื่องเล่น ๆ ด้วยเช่นกัน แต่ที่ลลิลโมโหนักก็คือเธอดันจดจำสัมผัสเขาได้แม่นยำและมันยังติดตรึงบนริมฝีปากของเธออยู่เลย
* * * * *
เกือบเที่ยงคืนแล้ว แต่ชายหนุ่มเจ้าของเดอวีแลลโฮเทลยังรวบรวมสมาธิให้จดจ่ออยู่กับงานตรงหน้าไม่ได้...
สุดท้ายเลยตัดสินใจยกหูโทรศัพท์หาเพื่อนรักที่ได้ชื่อว่าเชี่ยวชาญเรื่องผู้หญิงที่สุดคนหนึ่งอย่าง โรมิโอ คอลิโอเน่ โดยไม่สนว่าตอนนี้ที่อิตาลีจะเป็นเวลาเท่าใด
“...ใครตายวะแกถึงโทรมาหาฉันป่านนี้”
โรมิโอทักทายมาเป็นคำแรก
เลอองเกือบจะด่ากลับไปแล้วแต่ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของผู้หญิงไม่น่าจะต่ำกว่าสองคนแทรกเข้ามาก่อน เขาจึงได้แต่ถอนหายใจ...นี่คิดถูกแล้วใช่ไหมที่โทรศัพท์มาปรึกษาเรื่อง 'ผู้หญิง' กับหมอนี่“เฮ้ย...ฉันเห็นโฆษณาของแกรนด์ไดมอนด์แล้วนะ เจ๋งไปเลย”
โรมิโอพูดขึ้นมาอย่างเพิ่งนึกขึ้นได้
“อะไรเจ๋ง”
“ก็นางแบบไง...สุดยอดไปเลย แนะนำให้ฉันรู้จักหน่อยได้ไหม”
“เมลิสา...”
“ช่ายยย คนนั้นแหละ แกนี่มันร้ายจริง ๆ...”
"ร้ายยังไง?"
“ก็เรื่องนางแบบของแกไง ถึงฉันจะอยู่ไกลแต่ข่าวซุบซิบก็วิ่งไปได้ทั่วโลกนะจ๊ะนายจ๋า”
เลอองถอนหายใจ และโรมิโอก็ได้ยินชัดเจน เขาจึงหยุดกวนประสาทชั่วคราว
"มีอะไร ทะเลาะกับสาวคนนั้นมาหรือ"
"เปล่า..หนักกว่านั้นอีก"
"หนักกว่านั้น? เธอท้องหรือ" "ไอ้บ้า" เลอองด่าอย่างอดไม่ได้"โอเค ๆ ฉันขอโทษ จะจริงจังล่ะ เล่ามาเลย ฉันฟังอยู่"
โรมิโอเลิกล้อเล่นเมื่อได้ยินน้ำเสียงหมดอาลัยตายอยาก...
"ฉัน...ไปจูบผู้หญิงคนหนึ่งเข้าให้ว่ะ"
โรมิโอเงียบไปนาน...จนเลอองไม่แน่ใจว่าหมอนั่นฟังอยู่หรือเปล่า กำลังจะถามกลับไป เสียงเพื่อนรักก็ตอบกลับมา
"แล้วมันเป็นปัญหาตรงไหน?"
ถ้าเลอองเห็นหน้าโรมิโอตอนนี้ ก็จะเห็นว่าเพื่อนรักของเขากำลังมีสีหน้างุนงงจริง ๆ...
ชายหนุ่มที่อยู่เมืองไทยอึกอัก พยายามหาคำอธิบาย
"ปัญหาก็คือ...ฉันไม่ได้คบหาหรือแม้แต่จะควงกับเขา ฉันแค่อยากจะจูบเพื่อสั่งสอน แต่กลายเป็นว่า...ฉันกลับลืมจูบนี้ไม่ได้..."
"ทำไมล่ะ? แกรู้สึกผิดหรือยังไง"
"ไม่ใช่อย่างนั้น แต่ฉันลืมไม่ได้เพราะ...มัน...ประทับใจ"
เลอองสารภาพ...
เขานึกคำอื่นไม่ออก...
"ประทับใจ? เขาจูบเก่งมากเลยสินะ"
"ไม่ใช่โว้ย...ไม่ใช่เลย แม่นั่นไม่ประสีประสาอะไรเลยสักนิด แต่ฉันกลับหยุดคิดถึงจูบนั้นไม่ได้...มันหมายความว่ายังไงวะไอ้โรมี่..."
"ก็คงหมายความว่าแกติดใจเธอเข้าแล้วล่ะสิ..."
"แต่ฉันมีคุณเมลิสาแล้วนะ!"
"ถ้าอย่างนั้นก็แต่งงานกับเมลิสาซะ แล้วก็ลืมผู้หญิงที่แกจูบ..."
"แต่ฉันไม่เคยคิดจะแต่งงานกับเมลิสา"
เลอองโพล่งออกมา แล้วก็รู้สึกทันทีว่าที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ตัวเองเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวมากแค่ไหน
"นี่...ฉันว่ามันไม่เห็นจะมีอะไรซับซ้อนเลย แกก็คงจะเผลอชอบเขาไปแล้วนั่นล่ะไม่อย่างนั้นจะเก็บเอามาคิดจนต้องโทรศัพท์ข้ามประเทศมาหาฉันทำไม...ส่วนผู้หญิงที่แกคบหาอยู่ด้วย ก็ลองถามใจตัวเองดูอีกทีว่าจะเอายังไง แต่อย่าไปคบใครซ้ำซ้อน ผู้หญิงเขาจะเสียใจ..."
"คนอย่างแกมาสั่งสอนฉันเรื่องคบซ้ำคบซ้อนอย่างนั้นหรือ..."
เลอองว่าเข้าให้ ถ้าเทียบกับโรมิโอ...ผู้ชายอย่างเขาก็กลายเป็นคนรักเดียวใจเดียวไปเลย...
"เอาเหอะ ฉันว่าเรื่องง่าย ๆ แค่นี้แกจัดการได้อยู่แล้ว เท่านี้ก่อนนะ...ฉันมีธุระต้องทำอีกเยอะ..."
โรมิโอตัดบทด้วยน้ำเสียงร่าเริงผิดปกติ เลอองส่ายหน้าให้กับความเจ้าสำราญของหมอนี่...ใครก็บอกว่าผู้ชายอิตาลีรักและซื่อสัตย์ต่อครอบครัว ถ้าอย่างนั้นอย่างเจ้าโรมิโออาจไม่ยอมแต่งงานเลยตลอดชีวิตเพราะไม่สามารถเป็นสามีในอุดมคติแบบนั้นได้
แต่ช่างโรมิโอก่อนเถอะ...ปัญหาของเขาหนักใจกว่า
แกคงจะเผลอชอบเขาไปแล้วล่ะ...
"เป็นไปไม่ได้! ไม่มีทางเสียล่ะ..."
เลอองเผลอร้องออกมาเมื่อนึกถึงข้อสันนิษฐานนี้ของโรมิโอ...
“มิสเตอร์เดอวีแลล!”พนักงานและบอดี้การ์ดกระโจนเข้าชาร์จตัวหญิงสาวทันทีที่ได้ยินเสียงตะโกนออกมาจากหลังกระถางต้นไม้ต้นหนึ่งหน้าโรงแรม เลอองหันขวับแล้วก็เห็นคนที่เขาไม่คาดคิดว่าจะได้เห็น“ลลิล!”เท้าลลิลแทบจะถูกหิ้วสูงจากพื้นด้วยฝีมือของบอดี้การ์ดร่างใหญ่ เธอดิ้นแทบไม่ได้ด้วยซ้ำแต่ก็ยังพยายามฮึดฮัดต่อสู้“ปล่อยฉันนะ ปล่อยเดี๋ยวนี้!”“ปล่อยเธอ...”ชายหนุ่มสั่ง บอดี้การ์ดทั้งสองจึงยอมปล่อยมือ แววตาของเลอองแสดงอาการยินดีอย่างปิดไม่อยู่ รอยยิ้มกว้างของเขาเตรียมพร้อมที่จะทักทายเธอแต่รอยยิ้มนั้นก็ชะงักค้างทันทีเมื่อลลิลเดินอาด ๆ มาผลักเขาเต็มแรงท่ามกลางความตกตะลึงของทุกสายตาที่มองอยู่แน่นอนว่าเลอองไม่สะเทือนไหวกับแรงผลักนั่นแม้แต่น้อยนิด เขาก้มลงมองคนตรงหน้าที่หน้าตาเหมือนไปกินรังแตนที่ไหนมาด้วยความงุนงง“คุณถือดียังไงมาฝากงานให้ฉัน คุณมายุ่งเรื่องฉันทำไม ไอ้คนทุเรศ!”เสียงอุทานและคำรามดังขึ้นเบา ๆ จากเหล่าบอดี้การ์ดทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นของหญิงสาว ติดที่ว่าเลอองยืนขวางไว้ไม่อย่างนั้นหญิงสาวคงถูกหิ้วปีกออกไปโยนกองบนถนนเป็นแน่ เลอองยังยืนนิ่ง แต่แววตาดีใจหายไปแล้ว เขารู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่
เลอองหัวเราะออกมาเบา ๆ อย่างเหนื่อยอ่อนพลางยุดมือหญิงสาวไว้ก่อนที่จะเลื่อนลงต่ำไปกว่านั้น“คุณนี่ร้อนแรงกว่าที่ผมคิดเยอะเลยนะ เมลิสา”“เฉพาะกับคุณเท่านั้นแหละค่ะ”นางแบบสาวบอก เอียงหน้าซบไหล่เขา"คุณมีเสน่ห์มากเลยนะคะเลออง มาก...จนเมกลัวว่าเมจะหลงคุณจนโงหัวไม่ขึ้น”“แสดงว่าคุณยังไม่หลง”“แล้วอยากให้เมหลงมั้ยล่ะคะ”น้ำเสียงบอกว่าจริงจัง ชายหนุ่มกลับหัวเราะเห็นเป็นเรื่องตลก“ผู้หญิงอย่างเมลิสา พอร์ตแมน ไม่จำเป็นต้องลดตัวลงมาหลงใหลผู้ชายคนไหนหรอก เชื่อผมสิ”เลอองบอก แล้วพลิกตัวจูบหน้าผากเธอแรง ๆ อีกครั้งก่อนจะผละตัวออก ก้าวลงจากเตียง เดินเปลือยกายเข้าห้องน้ำไปนางแบบสาวร้อนผะผ่าวที่ขอบตา หญิงสาวฉลาดพอที่จะรู้ว่านี่คือการปฏิเสธอย่างสุภาพจากเขา...ผู้ชายที่เธอพลาดตกบ่วงเสน่ห์เข้าแล้วทั้งตัวและหัวใจ เมลิสาไม่ใช่คนเข้าใจอะไรยากและรู้ตั้งแต่ต้นว่าเธอกับเลอองจะจบลงอย่างไร แต่เมื่อถึงเวลานี้จริง ๆ ก็อดใจหายไม่ได้...“เมขออนุญาตสูบบุหรี่ได้ไหมคะ”นางแบบสาวเอ่ยถามเมื่อชายหนุ่มเดินกลับออกมาจากห้องอาบน้ำพร้อมผ้าขนหนูพันท่อนล่างหลวม ๆ เลอองบอกเธอว่าตามสบาย เขาเดาว่าเมลิสาคงกำลังหาทางทำใจของตัวเองอยู
“หนูลิล หมู่นี้มีปัญหาอะไรหรือเปล่า พี่ว่าเธอดูเครียดๆ นะ”ศักดารันทร์ถามอย่าห่วงใยระหว่างที่นั่งรอเมลิสาทำงานในตอนสายของวันหนึ่ง“พี่ดาด้าว่าอะไรนะคะ”“พี่ว่าเธอมีปัญหาอะไรกลุ้มใจหรือเปล่า หมู่นี้ดูเครียด ๆ เหม่อ ๆ”“อ่า...พี่ด้าสังเกตเห็นด้วยหรือคะ”“ต๊าย...เธอเห็นพี่เป็นคนใจจืดใจดำขนาดไหนกันล่ะจ๊ะ ก็ต้องสังเกตเห็นสิ คนเจอกันทุกวี่ทุกวัน” ลลิลยิ้มฝืด“ขอบคุณนะคะพี่ด้า ลิลแค่กำลังคิดเรื่องหางานใหม่น่ะค่ะ”“งานใหม่?”ศักดารันทร์ท่าทางตกใจ แม้จะได้เจอกันทุกวันแต่ลลิลก็ไม่ค่อยพูดเรื่องส่วนตัวให้ฟัง ยิ่งจะมาปรับทุกข์เรื่องการทำงานยิ่งไม่เคยได้ยิน จนหลายครั้งเขายังเผลอคิดว่าหญิงสาวคงเป็นคนที่ปราศจากความทะเยอทะยานโดยสิ้นเชิงและคงจะอยู่ทำงานกับเมลิสาไปจนกว่านางแบบสาวจะลาวงการไปเอง...การที่จู่ ๆ ลลิลพูดเรื่องงานใหม่ จึงอยู่เหนือความคาดหมายของศักดารันทร์อย่างมาก “นี่พูดจริงหรือเปล่า หรือแค่อารมณ์ชั่ววูบเพราะเหนื่อย เบื่อ น้อยใจ หรือว่ามีปัญหาอะไรที่พี่ไม่รู้""เปล่าหรอกค่ะพี่ด้า ลิลแค่อยากใช้วิชาความรู้ไปทำงานอื่นที่...เอ่อ...ท้าทายกว่านี้บ้าง”หญิงสาวตอบอย่างขัดเขิน ก็คำว่า 'งานที่ท้าทาย
ใช้เวลาอยู่หลายวันกว่าลลิลจะทำให้หัวใจเต้นเป็นปกติได้ เธอพยายามคิดว่ามันเป็นแค่อุบัติเหตุ เธอแค่เดินไปชนกับผู้ชายมักง่ายนิสัยแย่อย่างนายเลอองที่คงจะไม่มีสติสำนึกรู้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ฝรั่งเศสที่จะเที่ยวได้จูบใครไปทั่วแบบนั้นสัปดาห์นี้เมลิสาไปถ่ายแบบที่ปารีสพอดีและงานนี้นางแบบสาวบอกว่าไม่จำเป็นต้องมีเธอไปด้วย มีแค่ศักดารัณไปคนเดียวก็พอแล้ว ผู้ช่วยสาวจึงเหมือนได้พักไปในตัว และวันนี้เธอก็ตั้งใจว่าจะไปเดินห้างเพื่อซื้อของใช้จำเป็นกำลังจะเดินออกจากเรือนหลังเล็กซึ่งเป็นที่พัก ชายหนุ่มร่างสูงเกินมาตรฐานชายไทยเจ้าของดวงตาสีฟ้าสดใส ก็ปรากฎตัวขึ้นบนทางเดินหินหน้าเรือนนั้น ลลิลกระพริบตาถี่ ๆ ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองในตอนแรก เมื่อแน่ใจว่านี่คือตัวเป็น ๆ ไม่ใช่เธอคิดไปเอง หัวใจหญิงสาวก็เต้นโลดขึ้นมาทันที"อรุณสวัสดิ์...กำลังจะออกไปข้างนอกหรือ"เลอองถอดแว่นตากันแดดออก เขาอยู่ในชุดกึ่งลำลองโทนสีเทาหล่อเหลาตามเคย"คุณมาที่นี่ทำไม คุณเมลิสาไม่อยู่หรอกนะ ไปถ่ายแบบที่ปารีสอาทิตย์นึง""ผมรู้แล้ว"เลอองตอบก่อนกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เรือนพักไม้ทาทับด้วยสีขาว มีต้นไม้ทั้งพืชสวนครัว ไม้ดอกไม้ประดับ ทั้งที่ป
ลลิลสะบัดฝ่ามือใส่ใบหน้าขาว ๆ ก่อนผลักเขาด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีและผลุนผลันผลักประตูหนีไฟออกไป เลอองไม่รู้สึกระคายอะไรกับรอยตบนั่นเลย แต่กลับยกมือแตะริมฝีปากตัวเองแผ่วเบาไม่อยากเชื่อว่าผู้หญิงที่ดูธรรมดาไปทั้งเนื้อตัวคนนั้นจะกลับมีริมฝีปากที่ให้ความรู้สึกสดและหวานขนาดนี้ ให้ตายสิ...นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ตอนแรกเขาคิดอยากจะช่วย ต่อมาก็อยากจะแหย่...แต่ทำไมกลายเป็นตัวเขาเองที่ควบคุมตัวเองไม่ได้มีอะไรในตัวผู้หญิงคนนี้ที่เย้ายวนเขาอย่างนั้นหรือ...ไม่มีหรอก! ไม่มีอะไรเลยสักอย่างเดียว! เลอองเถียงกับตัวเอง เมื่อเทียบกับผู้หญิงทุกคนที่ผ่านมาและผ่านไปในชีวิต หรือแม้กระทั่งกับเมลิสาที่เขากำลังคบหาอยู่ ผู้ช่วยสาวคนนั้นช่างห่างไกลจากเธอเหล่านั้นราวฟ้ากับเหว... ที่ผ่านมาเขาชอบผู้หญิงผอมบางรูปร่างนางแบบ แต่ลลิลก็แค่ผู้หญิงรูปร่างสมส่วนค่อนไปทางเนื้อนมไข่ เขาชอบผู้หญิงผิวสีน้ำผึ้ง นวลเนียน ดูเซ็กซี่ยามที่พวกเธอเหล่านั้นเนื้อตัวฉาบไปด้วยน้ำมันบำรุงผิว แต่ลลิลคนนี้ผิวขาวเหลืองเหมือนอย่างสาวเอเชียทั่วไป เขาชอบผู้หญิงที่โครงหน้ามีเอกลักษณ์ ดูเก๋และโฉบเฉี่ยว แต่ลลิลคนนี้มีโครงหน้ารูปห
“ช่วงนี้พี่อั๋นก็งานยุ่งมากเลยสินะคะ”“ก็ประมาณนั้นแหละ แล้วลิลล่ะ เป็นยังไงบ้าง”“ลิลก็เรื่อย ๆ ค่ะ แต่ก็กำลังคิดอยู่ว่าจะลองหาอะไรใหม่ ๆ ทำดู”“ฮ้า...จริงหรือเปล่า หมายถึงงานใหม่หรือ” “ยังไม่แน่ใจค่ะ พี่อั๋นอย่าเพิ่งบอกใครนะคะ ห้ามเด็ดขาดเลย”“ได้สิ เรื่องของลิล พี่ไม่บอกใครหรอก”แววตาคมจ้องมองมาตรง ๆ และค้างนิ่งอยู่อย่างนั้น ตอนแรกหญิงสาวก็ยิ้มขอบคุณแต่วินาทีต่อมาเริ่มสัมผัสได้ว่าอรรณพมองเธอด้วยสายตาวาววามแปลก ๆ“ลิล สุดสัปดาห์นี้พอจะว่างบ้างมั้ย พวกพี่กับเพื่อนจะไปปาร์ตี้วันเกิดกันที่หัวหิน แต่พี่ไม่อยากไปคนเดียว กำลังหาเพื่อนไปด้วย”ลลิลอึกอัก ไม่รู้จะตอบเขาไปอย่างไร“อย่าคิดมากนะ พี่แค่หาคนไปด้วยจะได้ไม่เหงา พวกเพื่อน ๆ มันก็ควงแฟนกันไปหมด พี่ยังไม่มีใคร ไปคนเดียวก็ตะหงิด ๆ เราจะอยู่ในงานกันสักพักก็ได้ แล้วถ้าลิลอยากไปเที่ยวหรือไปกินอะไรเป็นพิเศษ พี่ค่อยพาไป...”อรรณพมองลลิลอย่างคาดหวัง จะว่าไปเขาก็เลียบเคียงหญิงสาวมานานแล้วแต่เธอไม่เคยรู้ตัว เห็นทีหนนี้ต้องแสดงออกไปให้ชัด ๆ จะได้รู้ว่าเขาสนใจเธอ“คือว่าลิล...”“อ้าว! คุณ...มาอยู่นี่นี่เอง คุณดาด้าเขาตามหาคุณอยู่น่ะ”เสียงดังทร
“ผมไม่ได้คิดอย่างนั้น”“ไม่คิด แต่ก็ทำอยู่”“แต่ผู้หญิงทุกคนรวมถึงคุณเมลิสา ต่างก็คบกับผมโดยที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ไม่มีใครเอาเปรียบใคร มันเป็นข้อตกลงของเราสองคน”“คุณพูดเหมือนไม่เคยรักใคร เพราะถ้าคุณรักใครคุณก็คงจะเข้าใจว่าทำไมฉันบอกว่าคุณใจร้าย”เลอองหัวเราะอีก“ความรักน่ะหรือ...ไร้สาระน่า คุณนี่ไร้เดียงสากว่าที่ผมคิดอีกนะ”“ความรักเป็นเรื่องไร้สาระงั้นหรือคะ”“ก็ไม่เชิง...แค่ผมไม่สนใจ”ลลิลแสร้งถอนหายใจอย่างหนักหน่วง มองเขาเหมือนเห็นใจอย่างสุดซึ้ง“ฉันสงสารผู้หญิงของคุณจังเลย ที่ต้องคบหากับผู้ชายที่ไม่รู้จักความรัก เพราะผู้หญิงพวกนั้นก็คงจะไม่มีวันได้รับความรักจากคนอย่างคุณ”เลอองยังยิ้ม แต่แววตากระด้างขึ้น เขาชะโงกหน้ามากระซิบ“แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าผู้หญิงที่คบหากับผมเขาต้องการความรัก...สิ่งที่ผมให้กับพวกเธอเหล่านั้นมันสำคัญแล้วก็...เร้าใจ...ยิ่งกว่าความรักเสียอีก ถ้าพูดขนาดนี้แล้วคุณยังไม่เข้าใจ ไว้สักวันผมจะสาธิตให้ดูเอาไหมล่ะว่าอะไรที่มันน่าสนใจกว่าความรักเพ้อ ๆ ที่คุณว่ามานั่น”ลลิลอึ้ง เขาจงใจกวาดสายตามองเธอเหมือนจะให้ทะลุเข้าไปในเนื้อผ้า“ทุเรศ น่ารังเกียจ!”“ไม่เคยมีใครบอกว่
ลลิลเกริ่นเรื่องหางานใหม่กับมาลินี...และดูว่าแม่ของเมลิสาจะยินดีกับข่าวนี้เป็นอันมากเพราะคิดแล้วว่าผู้ช่วยคนใหม่ อย่างไรก็สามารถจ่ายค่าจ้างได้ถูกกว่าที่จ่ายให้ลลิลแน่ ๆ“ไว้แกรอให้ฉันหาคนใหม่มาให้ลูกเมได้ก่อนก็แล้วกันนะ แล้วค่อยลาออกไป...”“ได้ค่ะคุณมาลินี”“ว่าแต่แกจะไปทำมาหากินอะไร มีงานใหม่ที่ไหนแล้วหรือ”“ยังหรอกค่ะ...ไว้คุณมากับคุณเมหาคนใหม่ได้แล้ว ลิลค่อยมองหางานใหม่ก็แล้วกันค่ะ”“ก็ดี...”มาลินีตอบสั้น ๆ ระยะเวลายาวนานที่หญิงสาวคนนี่้รับใช้ครอบครัวของเธอมาไม่ได้ทำให้เกิดความอาลัยอาวรณ์เลยสักนิด ลลิลนึกน้อยใจอย่างช่วยไม่ได้ แต่ก็ยิ่งทำให้มั่นใจว่าดีแค่ไหนแล้วที่คิดจะออกจากบ้านหลังนี้ เพราะคงไม่มีใครนึกเห็นคุณค่าในตัวเธอขึ้นมาได้แม้จะอยู่ไปจนตายก็ตามแม้แต่เมลิสาเมื่อได้ทราบว่าลลิลอาจจะลาออกในไม่ช้า ก็ยังไม่แม้แต่พูดจารั้งไว้ เพราะเธอกำลังคลั่งไคล้ใหลหลงอยู่กับเลอองจนไม่สนใจเรื่องอื่น...ชีวิตของผู้หญิงอย่างลลิลนี่มันช่างต่ำต้อยจนหาคนมาใยดีไม่ได้เลยจริง ๆ...* * * * *นิตยสารรับสมัครงานเล่มโตถูกกางเต็มโต๊ะเล็ก ๆ ในร้านกาแฟหอมกรุ่นแห่งนั้น ลลิลกำลังนั่งเปิดพลิกทีละหน้าอย่างพินิจพิ
“ดูคุณยังเป็นกังวลนะ เลออง”โรเบิร์ตเอ่ยเสียงเรียบหลังจากสังเกตเห็นว่าตั้งแต่กลับเข้าห้องพักมาในเวลาเกือบสองทุ่ม ชายหนุ่มก็เอาแต่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด สลับถอนหายใจหนัก ๆ เป็นอย่างนี้มาเกือบชั่วโมงแล้ว“ถ้าเป็นเรื่องเมื่อตอนกลางวัน ไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว เพราะว่า...”“ขอบคุณมากครับลุง เรื่องนั้นผมวางใจลุงเสมอ”เลอองชิงบอกก่อน“ถ้าอย่างนั้น ผมควรจะทราบหรือไม่ว่าเรื่องอะไรที่ทำให้คุณกลุ้มอกกลุ้มใจมากขนาดนี้”“มัน...ชัดเจนมากเลยหรือครับ”“พอสมควร”เลขาฯ วัยหกสิบเลื่อนสมุดปกหนังไปอีกทาง และประสานมือใต้คาง เป็นกริยาที่เขามักทำเวลาจะตั้งใจรับฟังเรื่องที่สำคัญของเลอองท่าทางแบบนี้ทำให้เลอองไว้ใจโรเบิร์ตมาเสมอ แต่แปลก...ครั้งนี้เขากลับลังเลที่เอ่ย“คือ...ผมรู้สึกไม่ค่อยดีน่ะ”เลอองเกริ่น ก่อนจะเล่าเรื่องที่ลลิลฉีกเช็คที่เขามอบให้เธอให้โรเบิร์ตฟังคนเป็นเลขาฯ ปล่อยให้เจ้านายเล่าจนจบ นึกแปลกใจเพราะไม่เคยเห็นเลอองเก็บเรื่องเล็กน้อยแบบนี้มาเป็นกังวลแต่ก็ไม่เอ่ยถึงข้อสังเกตนี้ออกไปได้แต่ออกความเห็นอย่างเป็นกลาง“คุณผู้ช่วยคนนั้น เธออาจนึกไม่ถึงว่าจะได้รับคำขอบคุณด้วยวิธีนั้น"“ผมไม่ได้คิดจะดูถูกเธอแม้