Share

ตอนที่2 มิติกับพี่สาวตานี

           หลังจากผ่านเหตุการณ์อันแสนวุ่นวายและน่าตื่นตระหนกจนแทบจะทำให้คนในครอบครัวเสียสติ ธารามลก็ได้ถูกคนเป็นพ่ออุ้มมาที่บ้าน ส่วนคนเป็นแม่ก็รีบหาเสื้อผ้าแห้งมาผลัดเปลี่ยนให้บุตรสาวอย่างทะนุถนอม

            ก่อนที่เธอจะถูกบอกให้นอนพักผ่อนอยู่บนเสื่อผืนเก่าในมุมหนึ่งของบ้านไม้ กลิ่นหอมขมของยาสมุนไพรที่คนเป็นแม่กำลังต้มให้ลอยอบอวลไปทั่ว เป็นกลิ่นที่ยืนยันว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้คือความจริงอันโหดร้าย

            ซึ่งก่อนหน้าที่จะมาที่บ้านพ่อได้พาเธอไปหาหมอยา ประจำท้องที่แห่งนี้ หมอคนนั้นบอกว่าเธอแค่ตกใจแลสำลักน้ำไปมากให้พักผ่อนเยอะ ๆ เดี๋ยวก็หายเป็นปกติ...เป็นปกติอย่างนั้นหรือ? ธารามลถอนหายใจในร่างเล็กจ้อย เธอน่ะไม่ปกติอย่างแรงเลยต่างหาก

            ธารามลคนเดิม...เชฟสาวอนาคตไกลได้ตายไปแล้วพร้อมกับอุบัติเหตุเครื่องบินตก ตอนนี้มีเพียง เด็กหญิงปลากริมลูกสาวคนโตวัยหกขวบของอดีตนักมวยตกอับกับแม่ค้าหาบเร่ขายขนม ที่ต้องดิ้นรนเพื่อไม่ให้ตัวเองและครอบครัวต้องพบกับจุดจบอันน่าอนาถตามบทประพันธ์

            ขณะที่เธอกำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่นั้น ความคิดก็ล่องลอยกลับไปหาชีวิตเก่าที่เธอจากมา...ภาพของห้องครัวสแตนเลสที่สะอาดเอี่ยม เตาอบดิจิทัลที่ควบคุมอุณหภูมิได้แม่นยำ เครื่องผสมแป้งอย่างดี และที่สำคัญที่สุดคือ อุปกรณ์ขนมต่าง ๆ ของตัวเองที่เธอเลือกสรรและทะนุถนอมราวกับเป็นสมบัติล้ำค่า

            เธอกำลังนึกถึงห้องทำขนมและอุปกรณ์เหล่านั้นอย่างละเอียด...พายซิลิโคนด้ามไม้ที่จับถนัดมือ หัวบีบครีมลายกุหลาบที่ใช้ประจำ มีดเล็ก ๆ สำหรับแกะสลักผลไม้ที่คมกริบ...

            ในตอนนั้นเองความรู้สึกประหลาดก็เกิดขึ้น! ขณะที่เธอกำลังนึกถึงภาพพายซิลิโคนอันโปรดอยู่นั้น เธอกลับรู้สึกเหมือนได้สัมผัสถึงน้ำหนักและผิวสัมผัสเรียบลื่นของมันในความคิด...เป็นความรู้สึกที่ชัดเจนจนน่าขนลุก

          อะไรกัน? ปลากริมขมวดคิ้วทั้งที่ยังหลับตา

            เธอเปลี่ยนไปนึกถึงมีดแกะสลักผลไม้เล่มเล็กที่เก็บไว้ในลิ้นชักอย่างดี นึกถึงด้ามจับโลหะเย็น ๆ และความคมของใบมีด...และอีกครั้ง! เธอรู้สึกเหมือนกำลังกำด้ามมีดเล่มนั้นไว้ในมือ...แต่เป็นมือในจินตนาการ

          เป็นไปได้ยังไง...สิ่งที่อยู่ในความคิดจะสัมผัสได้ด้วยอย่างนั้นเหรอ?

            ด้วยความอยากรู้อยากเห็นระคนตื่นเต้น ปลากริมจึงลองรวบรวมสมาธิทั้งหมด เพ่งความคิดไปที่หัวบีบครีมลายกุหลาบ ชิ้นเล็ก ๆ ที่ทำจากสแตนเลสเงาวับอันนั้น เธอคิดอย่างมุ่งมั่น...อยากเห็นมัน...อยากจับมันอีกครั้ง...ออกมาสิ...จะเอาออกมาได้ไหมนะ

            สิ้นความคิดนั้นเองเธอก็รู้สึกเหมือนมีบางอย่างถูกดึงออกจากห้วงความคิดของเธอเบา ๆ และปรากฏขึ้นในมือเล็ก  ของตนที่กำแน่นอยู่ใต้ผ้าห่มผืนบาง!

            ปลากริมสะดุ้งสุดตัว! ลืมตาโพลงด้วยความตกใจ!

            เธอค่อย ๆ คลี่มือของตัวเองออกอย่างเชื่องช้า...และบนฝ่ามือนั้นก็มีหัวบีบครีมสแตนเลสรูปทรงคุ้นตาวางอยู่จริง ๆ!      ไม่เพียงแค่นั้น เพราะว่าสิ่งที่เธอนึกขึ้นก่อนหน้าก็ปรากฏอยู่ตรงนี้ด้วย

            หัวใจดวงน้อยของเด็กหญิงเต้นระรัว! ซึ่งในตอนนี้เธอกำลังตกใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังรีบกำมือและซ่อนมันไว้ใต้ผ้าห่มอีกครั้ง ก่อนจะเหลือบมองไปรอบ ๆ และเห็นว่าคนเป็นแม่กำลังง่วนอยู่หน้าเตาถ่าน ส่วนน้องชายก็นอนหลับอยู่ไม่ไกล       โชคดีที่ไม่มีใครเห็น

            เธอสูดหายใจลึก พยายามทำใจให้สงบ แล้วลองอีกครั้ง... หายไป สิ้นความคิดสิ่งของในมือก็อันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย!

          กลับมา  หลังจากเธอคิดแบบนี้ของทั้งหมดก็ได้กลับมาอยู่ในมือของเธออีกครั้ง!

            คราวนี้ไม่ใช่แค่ความตกใจเพียงอย่างเดียว แต่เป็นความตื่นเต้นจนแทบจะหยุดหายใจอีกด้วย ปลากริมกำหัวบีบครีมไว้แน่น สมองของเธอประมวลผลอย่างรวดเร็ว...ทะลุมิติ...มีของติดตัวมาจากโลกเก่า...

          นี่มัน...หรือว่าสิ่งนี้จะเรียกว่ามิติตามที่เคยอ่านนิยายมาใช่ไหม

            ไม่ใช่แค่ความทรงจำในฐานะเชฟที่ติดตัวมา แต่เธอยังมี คลังสมบัติส่วนตัวที่สามารถหยิบเอาอุปกรณ์จากโลกเก่าของเธอออกมาใช้ได้อีก

            จากความสิ้นหวังเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นประกายแห่งความหวังที่สว่างวาบขึ้นในดวงตากลมโตของเด็กหญิงวัยหกขวบ...สวรรค์ไม่ได้แค่ส่งเธอมาตาย แต่ยังส่งเครื่องมือทำมาหากิน  ชั้นเลิศมาให้เธออีกต่างหาก

            ปฏิบัติการพลิกชะตาของชีวิตในร่างนางร้าย ซึ่งตอนนี้ยังเป็นเพียงเด็กหญิงฟันน้ำนมได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ณ ริมคลองบางกอกน้อยแห่งพระนครยุค 2500

            หลังจากธารามลเริ่มจะยอมรับในชะตากรรมของตัวเองได้แล้วว่าเธอต้องใช้ชีวิตใหม่ในฐานะปลากริม วิญญาณของเธอในร่างเด็กน้อยที่กำลังนั่งนิ่งเพื่อนึกทบทวนถึงเส้นเรื่องเดิมของครอบครัวนางร้ายที่ตัวเองได้มาสิงร่าง...

          ตามเนื้อเรื่องเดิม...จุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมคือหลังจากที่พ่อสิ้นหวังกับการล้มมวยของศิษย์รัก ท่านก็เริ่มดื่มเหล้าเมามายจนไปมีเรื่องกับนักเลงเจ้าถิ่น...ส่วนแม่ก็ตรากตรำทำงานหนักจนล้มป่วยลงในที่สุด...หลังจากนั้น

            ความคิดอันซับซ้อนของผู้ใหญ่ในร่างเด็กต้องหยุดชะงักลง เมื่อมีเสียงเล็ก ๆ ใส ๆ ดังขึ้นข้างตัว

            "พี่จ๋า...หนูหิว"

            เสียงใสแจ๋วของปั้นขลิบทำให้เด็กหญิงร่างผอมที่กำลังผูกผมแกละสองข้างโดยฝีมือแม่ต้องบ่ายหน้าไปมองเขา น้องชายตัวน้อยกำลังยืนมองเธอตาแป๋ว เจ้าตัวกำลังเอามือใส่ปากตามความเคยชินของเด็กวัยสี่ขวบ น้ำมูกใส ๆ ที่เกรอะกรังอยู่ใต้จมูกทำให้ปลากริมนึกเอ็นดูระคนสงสาร

            จริงสิ...จะมัวแต่วางแผนอนาคตอย่างเดียวไม่ได้  ปากท้องของเราในปัจจุบันสำคัญที่สุด

            "ไป...เดี๋ยวพี่หาอะไรให้กินนะ" ปลากริมพูดด้วยเสียงเล็ก ๆ ของตัวเองที่ยังไม่คุ้นชิน ก่อนจะจูงมือน้องชายเดินลงบันได

            ทั้งสองคนชวนกันไปยังดงกล้วยข้างบ้านที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาแต่กลับมีสภาพอย่างที่เธอเห็นจากความทรงจำเดิม...ที่มีแต่ใบกล้วยหาลูกแทบไม่เจอ คงเพราะดินไม่ดีและขาดการดูแล มีเพียงเครือเล็ก ๆ ที่ยังเขียวอื๋ออยู่เพียงเครือเดียวเท่านั้น

            ขณะที่ปลากริมกำลังใช้สายตาของเชฟประเมินว่ากล้วยดิบเครือนั้นจะพอเอาไปทำอะไรได้บ้าง ในจังหวะนั้นเองดวงตาของเด็กหญิงวัยหกขวบก็มองเห็นบางสิ่งที่ทำให้เธอต้องหยุดนิ่ง...

            ใต้ร่มเงาของกอกล้วยตานีที่ใหญ่ที่สุด มีหญิงงามนางหนึ่งในชุดสไบผ้าแถบสีเขียวตองยืนมองเธอกับน้องชายด้วยรอยยิ้มเอ็นดู หญิงผู้นั้นมีรูปโฉมงดงามราวกับนางในวรรณคดี ผมยาวสลวย ผิวพรรณผุดผ่อง แม้จะยืนอยู่ในที่ร่มสลัวแต่กลับดูเหมือนมีรัศมีอ่อน ๆ รอบกาย

            ทางฝั่งนางตานีเองนั้น นางคุ้นเคยกับการเฝ้ามองเด็กทั้งสองคนนี้วิ่งเล่นอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่สายตาของมนุษย์จะมองเห็นตนได้...นางจึงไม่คิดว่าปลากริมจะเห็นตัวเอง และยังคงส่งยิ้มให้อย่างที่เคยทำ

            ทว่า...นางพลันรู้สึกแปลกใจขึ้นมาเล็กน้อยที่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าดวงตากลมโตของเด็กน้อยคนนั้นจะไม่ได้มองทะลุผ่านร่างของตนไปเหมือนทุกที แต่กลับจ้องตรงมาที่นางอย่างชัดเจน

            ปลากริมเองก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน เธอกะพริบตา      ปริบ ๆ ผู้หญิงคนนั้น...สวยเหลือเกิน แต่ทำไมถึงดูโปร่งแสงนิด ๆ นะ? แล้วทำไมถึงมายืนยิ้มอยู่ตรงกอกล้วยตานีที่ใคร ๆ ก็ว่าเจ้าที่แรงนักหนา...

            วินาทีนั้นเองที่เด็กหญิงผู้มีวิญญาณเป็นผู้ใหญ่กับภูตผีสาวเจ้าที่ผู้ใจดีได้สบตากันเป็นครั้งแรก...และต่างก็รับรู้ได้ถึงความไม่ธรรมดาของอีกฝ่าย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฉันนี่แหละนักเลงขนมหวาน "ฟันน้ำนม" แห่งพระนครยุค 2500   ตอนที่พิเศษที่5 นักเลงขนมหวานรุ่นเยาว์ (ตอนจบ)

    หลายปีต่อมา...ในคืนวันศุกร์ที่แสนคึกคักใจกลางย่านพระอาทิตย์...แสงไฟนีออนสีน้ำเงินนวลสาดส่องลงบนป้ายชื่อร้านที่ออกแบบอย่างมีรสนิยม... "พระอาทิตย์ บลูส์" (Phra Athit Blues) นี่คือไพรเวทแจ๊สคลับที่หรูหราและเป็นที่กล่าวขวัญถึงมากที่สุดในพระนคร และเจ้าของคลับแห่งนี้ก็คือสองหนุ่มโสดที่เนื้อหอมมากที่สุด...ข้าวเหนียวและปั้นขลิบ บรรยากาศภายในคลับอบอวลไปด้วยเสียงดนตรีแจ๊สสด ๆ ที่บรรเลงอย่างนุ่มนวลกลิ่นหอมของซิการ์ชั้นดีและเสียงพูดคุยของเหล่าแขกผู้มีระดับ...ทั้งนักธุรกิจ ทูตานุทูตและศิลปินชื่อดัง ข้าวเหนียวในชุดสูทสั่งตัดอย่างดีกำลังยืนพูดคุยกับกลุ่มนักธุรกิจชาวต่างชาติด้วยภาษาอังกฤษที่คล่องแคล่ว...ส่วนปั้นขลิบก็กำลังโปรยเสน่ห์ให้กับกลุ่มคุณหนูไฮโซที่โต๊ะข้างเวที...ซึ่งทั้งสองคนได้ทำหน้าที่เจ้าบ้านอย่างสมบูรณ์แบบ ที่โต๊ะVIP ที่ดี

  • ฉันนี่แหละนักเลงขนมหวาน "ฟันน้ำนม" แห่งพระนครยุค 2500   ตอนพิเศษที่4 เรื่องราวของสองหนุ่มโสดแห่งบ้านสิงหราช

    หลังจากที่สองสหายคู่ซี้อย่างข้าวเหนียวและปั้นขลิบ...ที่ใคร ๆ ต่างก็บอกว่าตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋...ได้เดินทางกลับมาถึงพระนครหลังจากไปทำหน้าที่อาสา พวกเขาก็ได้รับวันหยุดพักผ่อนอย่างเต็มที่ และเมื่อสองหนุ่มโสด...โปรไฟล์ดี...ผู้มีพลังงานล้นเหลือได้กลับคืนสู่เมืองหลวง...ค่ำคืนแห่งความสนุกสนานก็ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง... และเบื้องหลังรอยยิ้มที่มีเสน่ห์นั้น...พวกเขาก็บังเกิดความคิดที่จะสร้างอาณาจักรของตนเองขึ้นมาบ้างนอกจากจะช่วยดูแลกิจการของครอบครัว ดังนั้นในเย็นวันหนึ่งขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งจิบเครื่องดื่มอยู่ที่เลานจ์หรูของร้านเลอ บัว เบลอ หลังจากที่ช่วยปลากริมดูแลความเรียบร้อยของร้านแล้ว ปั้นขลิบก็ได้เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ "พี่ข้าวเหนียว...พอผมเห็นพี่ปลากริ

  • ฉันนี่แหละนักเลงขนมหวาน "ฟันน้ำนม" แห่งพระนครยุค 2500   ตอนพิเศษที่3 ทหารหนุ่มหัวใจแกร่ง

    หลังจากเรื่องราวภายในครอบครัวผ่านพ้นมาได้ด้วยดีครอบครัวใหญ่แห่งบ้านสิงหราชก็ได้เติบโตและงอกงามขึ้นอย่างมีความสุข มะตูมและนีรนาถมีทายาทชายคนแรกเป็นโซ่ทองคล้องใจ ส่วนปลากริมและเทวากรก็มีลูกสาวตัวน้อยที่น่ารักน่าชัง... ค่ำคืนหนึ่งบนโต๊ะอาหารที่แสนอบอุ่นและคึกคักของบ้านสิงหราช เพชรในยศร้อยตรีกลับมาเยี่ยมบ้านในช่วงวันหยุด เขาได้เห็นภาพความสุขของทุกคนในครอบครัว...และมันก็ทำให้เขาตัดสินใจในเรื่องสำคัญในชีวิตออกมาได้ คืนเดียวกันนั้นหลังจากที่สมาชิกภายในครอบครัวได้แยกย้ายกันไปหมดแล้ว ชายหนุ่มจึงได้ตัดสินใจเข้าไปคุยกับสิงห์และบัวผู้ที่เปรียบเหมือนพ่อแม่เป็นการส่วนตัว... "พ่อครูครับ...แม่บัวครับ..." เขาเริ่มต้นด้วยน้ำเสียงที่แสดงความหนักแน่น "ผมได้อาสาสมัครไปประจ

  • ฉันนี่แหละนักเลงขนมหวาน "ฟันน้ำนม" แห่งพระนครยุค 2500   ตอนพิเศษที่2 โปรโมเตอร์มวยผู้เนื้อหอม

    ท่ามกลางการเติบโตของทุกคน กาลเวลาเองก็ได้เปลี่ยนเด็กชายขี้อายที่ชื่อดิน...ให้กลายเป็นชายหนุ่มผู้สุขุมและน่าเกรงขามในวงการมวยไทย บัดนี้เขาคือโปรโมเตอร์ดิน สิงหราช ผู้ก่อตั้งสิงหราชโปรโมชั่นและเป็นหนึ่งในโปรโมเตอร์หนุ่มที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดของเวทีราชดำเนิน สำนักงานของเขาที่เช่าไว้มุมหนึ่งของสนามมวยไม่ได้ใหญ่โตหรูหรา แต่มันคือศูนย์กลางของความเคลื่อนไหว ผนังห้องเต็มไปด้วยโปสเตอร์รายการมวยที่เขาเคยจัด รูปถ่ายขาวดำของนักมวยในค่ายที่คว้าชัยชนะและกระดานดำขนาดใหญ่ที่ขีดเขียนตารางการซ้อมและรายชื่อคู่มวยไว้จนเต็ม เสียงโทรศัพท์ในห้องทำงานของเขาดังขึ้นแทบจะตลอดทั้งวัน..."ครับพี่...เรื่องน้ำหนักของเจ้าสมิงขาวไม่น่ามีปัญหาครับ...เดี๋ยวผมจะคุมด้วยตัวเอง" เขาพูดสายหนึ่ง ก่อนจะวางหูแล้วรับอีกสาย&nbs

  • ฉันนี่แหละนักเลงขนมหวาน "ฟันน้ำนม" แห่งพระนครยุค 2500   ตอนพิเศษที่1 คำขอแต่งงานที่แลกมากับการเจ็บตัว

    หนึ่งปีผ่านไป...หลังจากที่ทุกคนได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันที่บ้านสิงหราช... บ่ายวันหยุดสุดสัปดาห์วันหนึ่ง บรรยากาศในบ้านดูจะคึกคักและมีพิรุธมากเป็นพิเศษ...โดยที่ทุกคนในครอบครัวสิงหราชต่างก็รู้ดีว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้น...ยกเว้นเพียงคนเดียว...คือปลากริมที่หารู้เรื่องรู้ราวใด ๆ เทวากรที่ตอนนี้กลายเป็นนักธุรกิจหนุ่มเต็มตัว กำลังยืนอยู่หน้ากระจกด้วยท่าทีที่ประหม่ามากที่สุดในชีวิต ในมือของเขาคือกล่องกำมะหยี่ขนาดเล็กที่บรรจุแหวนหมั้นวงงาม...ซึ่งเขาได้ซักซ้อมแผนการของตนเองกับเหล่าพี่ชายของหญิงสาวในดวงใจเป็นครั้งสุดท้าย แม้ว่าคนทั้งคู่จะเป็นคู่หมายกัน...ทว่าสำหรับเทวากรแล้วเขาอยากจะทำให้ทุกช่วงเวลาของเขากับปลากริมเต็มไปด้วยความหมาย "ผมจะรอจังหวะที่น้องซ้อ

  • ฉันนี่แหละนักเลงขนมหวาน "ฟันน้ำนม" แห่งพระนครยุค 2500   ตอนที่99 (จบ) ใต้ร่มเงาแห่งรัก

    สามปีผ่านไป... กาลเวลาได้นำพาเหล่าเด็กหนุ่มเด็กสาวแห่งบ้านสิงหราชและบ้านเมธาวินเติบโตขึ้นสู่เส้นทางแห่งเกียรติยศและความสำเร็จ มะตูมกับเพชรหลังจากเรียนจบจากโรงเรียนนายร้อย...พวกเขาก็ได้บรรจุเข้ารับราชการเป็นนายตำรวจและนายทหารหนุ่มอนาคตไกล ด้วยผลงานการชกมวยที่สร้างชื่อให้กับประเทศชาติในนามทีมชาติสมัครเล่น จึงทำให้พวกเขาได้รับราชการอยู่ในเขตพระนครทำให้คนทั้งคู่สามารถกลับมาดูแลค่ายมวยและครอบครัวได้เสมอ ส่วนปลากริม...หลังจากที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัย เธอก็ได้เข้ามาดูแลและพัฒนาสูตรอาหารและขนมให้กับกิจการทั้งหมดของครอบครัว ทั้งร้านเลอ บัว เบลอและโรงแรมเมธาวินแกรนด์...ในฐานะคู่หมายอย่างเป็นทางการของเทวากร... 

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status