Share

ตอนที่1 เที่ยวบินตรงสู่พระนครปี 2500

            ภายในเครื่องบินพาณิชย์ขนาดใหญ่ เสียงประกาศจากกัปตันแว่วมาตามสาย แต่สมาธิของธารามลกำลังจดจ่ออยู่กับตัวอักษรบนหน้ากระดาษของนิยายในมือมากกว่า

            เที่ยวบินนี้คือเส้นทางสู่การป้องกันตำแหน่งแชมป์ขนมหวานระดับโลกที่เธอภาคภูมิใจ แต่ดูเหมือนว่านิยายรักย้อนยุคที่ซื้อมาอ่านฆ่าเวลาเรื่องนี้กำลังทำให้หญิงสาวหัวเสียจนแทบลืมความตื่นเต้นทั้งหมดไปเสียสิ้น

          "รักร้ายแห่งยุคพระนคร 2500"

            ชื่อเรื่องก็ชวนให้นึกถึงความดราม่า แต่เนื้อเรื่องข้างในกลับชวนให้เธออยากจะตะโกนออกมาดัง ๆ

            "ตรรกะป่วยสิ้นดี!" ธารามลขมวดคิ้วมุ่นสบถในใจกับความไม่สมเหตุสมผลของพล็อต "นางร้ายผู้น่าสงสารคนนั้น  เธอมาก่อน! เธอรอพระเอกมาตั้งหลายปี แต่พอพระเอกกลับมาจากเมืองนอกก็กลับหนีบเอาแม่นางเอกแสนซื่อบริสุทธิ์ตามมาด้วยหน้าตาเฉย ปล่อยให้คนรักเก่าที่รอคอยต้องกลายเป็นหมาหัวเน่า ถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นนางมารร้ายขี้หึงที่คอยตามราวี...เหลือเชื่อจริง ๆ!"

            เธอรู้สึกเห็นใจนางร้ายในเรื่องจับใจ อาจเพราะชื่อที่เหมือนกันหรือเพราะชะตากรรมที่ดูไม่ยุติธรรมอย่างร้ายกาจก็ สุดจะคาดเดา

            ขณะที่ธารามลกำลังวิพากษ์วิจารณ์ชะตากรรมของตัวละครอย่างออกรสพลางมองออกไปนอกหน้าต่างนั่นเอง สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นเงาดำทะมึนของนกตัวใหญ่ตัวหนึ่ง...มันกำลังบินมุ่งตรงไปยังปีกของเครื่องบินลำที่เธอนั่งอยู่!

            หัวใจของเธอหล่นวูบ วินาทีก่อนที่ทุกอย่างจะเกิดขึ้น สมองสั่งการให้เธออุทานออกมาสุดเสียง...

            "ซวยแล้ว!"

             ตูมมม!!!

            เสียงกระแทกดังสนั่นพร้อมกับแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงปลุกทุกคนในห้องโดยสารให้ตื่นจากภวังค์ สัญญาณเตือนภัยดังลั่นแข่งกับเสียงกรีดร้องของผู้คน

            ธารามลรู้สึกเหมือนร่างถูกเหวี่ยงไปมาอย่างควบคุมไม่ได้ ไฟบนเพดานกะพริบถี่ก่อนจะดับมืดลง ทิ้งไว้เพียงความโกลาหลและเสียงร้องระงมที่ค่อย ๆ เลือนหายไปพร้อมกับสติของเธอ

            ท่ามกลางความเป็นความตายนั้น ธารามลไม่ได้รู้เลยว่า...การตัดสินใจเดินทางเพื่อไปรักษาแชมป์ขนมหวานในครั้งนี้ จะกลายเป็นเที่ยวบินสุดท้ายในชีวิตเดิมของเธอ และเป็นจุดเริ่มต้นที่พาวิญญาณของเธอทะลุมิติไปยังโลกในนิยายที่เธอเพิ่งอ่านจบ...ในร่างของนางร้ายผู้มีจุดจบอันน่าอนาถ ที่เธอรู้บทสรุปของมันเป็นอย่างดี!

            สติสัมปชัญญะสุดท้ายของธารามลดับวูบลงพร้อมกับเสียงโครมครามสนั่นหวั่นไหว...และกลับคืนมาอีกครั้งท่ามกลางเสียงร้องไห้และเสียงอึกทึกฟังดูสับสนวุ่นวาย

            ธารามลรู้สึกถึงความเปียกชื้นและเหน็บหนาวไปทั่วทั้งร่าง เสื้อผ้าที่สวมอยู่แนบเนื้อหนักอึ้งราวกับฟองน้ำเปียกชุ่ม ร่างกายนี้...มันเล็กและเบาโหวงอย่างน่าประหลาด

          เครื่องบินตก...แต่ทำไมถึงเปียกแบบนี้? หรือเราตกลงไปในทะเล? เธอพยายามนึกทบทวนก่อนสมองจะว่างเปล่า    เพราะความทรงจำสุดท้ายคือความโกลาหลในห้องโดยสารที่กำลังดิ่งลงสู่พื้นดิน

            "โถ...น่าสงสารเด็กเสียจริง" เสียงของป้าคนหนึ่งดังลอดเข้ามาในโสตประสาท "ยังไม่ฟื้นอีกรึ นานแล้วนะ" "บุญรักษาที่น้าชัดแกอยู่แถวนั้นพอดี ไม่งั้นแย่แน่ น้ำในคลองถึงจะไม่ลึกก็เถอะ"

            เสียงจอแจของชาวบ้านที่มุงดูอยู่รอบนอกทำให้ธารามลสับสนวุ่นวายไปหมด

            ผู้คนกำลังแสดงความเห็นใจระคนตำหนิเล็กน้อยต่อชะตาของเด็กน้อยคนหนึ่งที่พลัดตกลงไปในน้ำคลอง แม้ว่าช่วงนี้น้ำจะไม่ลึก อีกทั้งยังมีผู้หวังดีกระโดดลงไปช่วยขึ้นมาได้ทันท่วงที แต่ทว่า...เด็กน้อยคนนั้นกลับยังไม่ได้สติ

            ธารามลพยายามจะลืมตาหรือขยับปากพูด แต่ร่างกายนี้กลับไม่ยอมทำตามคำสั่งของเธอเลยแม้แต่น้อย เหมือนเธอเป็นเพียงวิญญาณที่ถูกจองจำอยู่ในร่างของคนอื่น

            และแล้ว...เสียงร่ำไห้สะอึกสะอื้นที่ดังที่สุด ใกล้ที่สุด และเจ็บปวดที่สุดก็กรีดลึกเข้ามาในใจของเธอ

            "ปลากริม ปลากริมลูกแม่!" เสียงนั้นเรียกชื่อที่กระแทกเข้าสู่ศูนย์กลางความทรงจำของธารามลอย่างจัง! มันคือชื่อของเด็กหญิงผู้อาภัพ...เด็กที่จะเติบโตไปเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว นางร้ายในนิยายเรื่อง "รักร้ายแห่งยุคพระนคร 2500" ที่เธอเพิ่งอ่านจบไป!

            ด้วยความตกใจ ธารามลได้เค้นแรงเฮือกสุดท้ายที่หลงเหลือจากเจ้าของร่าง จึงทำให้เปลือกตาอันหนักอึ้งของเด็กหญิงจึงค่อย ๆ ปรืออย่างเชื่องช้า

            ภาพแรกที่เห็นไม่ใช่ทีมกู้ภัยหรือเพดานโรงพยาบาลแต่เป็นใบหน้าซูบซีดอาบน้ำตาของผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอจำได้แม่นจากคำบรรยายในนิยาย...นี่ต้องเป็นบัว แม่ของนางร้ายแน่  รอบ ๆ ตัวคือชาวบ้านในชุดมอซอและพื้นไม้กระดานเก่าของชานบ้านริมคลอง

            ไม่ใช่แล้ว...นี่มันไม่ใช่ความฝัน! อุบัติเหตุของเครื่องบินไม่ได้จบลงแค่ความตาย แต่มันกลับส่งเธอมายังจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรม...ในร่างของตัวละครที่เธอรู้ดีว่าจะต้องพบจุดจบอย่างไร้ค่าและน่าเวทนามากที่สุด!

            ความคิดนั้นทำให้ร่างเล็กของปลากริมแข็งทื่อไปชั่วขณะ ดวงตากลมโตที่ยังพร่าเลือนเบิกกว้างจ้องมองใบหน้าอาบน้ำตาของผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่ในภพชาตินี้อย่างว่างเปล่า

            เมื่อบัวเห็นว่าบุตรสาวของตนฟื้นแล้วและกำลังมองมาที่ตน สองแขนของหล่อนก็โผเข้ากอดร่างของบุตรสาวแน่นราวกับกลัวว่าแก้วตาดวงใจของตนจะสลายหายไป

            ความอบอุ่นจากร่างกายที่ซูบผอมและแรงสั่นเทาจากเสียงสะอื้น ทำให้ธารามลในร่างปลากริมรู้สึกถึงความจริงอันหนักอึ้งที่กำลังเผชิญ

            "โถ...ลูกแม่ ขวัญเอ๊ยขวัญมานะลูก อย่าเป็นอะไรไปนะ" เสียงของบัวพร่าสั่นเคลืออยู่ข้างหู

            ในเวลาเดียวกันนั่นเอง ฝูงไทยมุงที่ยืนล้อมอยู่ก็มีเสียงฮือฮาขึ้นเล็กน้อยก่อนจะแหวกทางให้ชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่งที่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา เสียงทุ้มต่ำของชายคนนั้นพลันดังขึ้นด้วยความร้อนรน

            ในอ้อมแขนของเขาได้มีร่างเล็กจ้อยของเด็กชายคนหนึ่งนุ่งแต่เสื้อไม่สวมกางเกงอีกทั้งน้ำมูกยังเกรอะกรัง เด็กชายปั้นขลิบกำลังใช้กำปั้นเล็ก ๆ ขยี้ตาที่แดงก่ำจากการร้องไห้ตามผู้เป็นพ่อ

            "บัว! ลูกล่ะ ลูกเป็นยังไงบ้าง" สิงห์ครูมวยผู้ที่แต่ก่อนเป็นนักมวยเลื่องชื่อถามภรรยาเสียงสั่น แววตาที่ปกติมักจะหม่นหมองด้วยความสิ้นหวัง บัดนี้ฉายชัดถึงความตื่นตระหนกและห่วงใยบุตรสาวสุดหัวใจ

            เขาทรุดตัวลงนั่งข้างกายของลูกกับเมีย ยื่นมือที่หยาบกร้านจากการฝึกมวยมาแตะหน้าผากเล็กของบุตรสาวอย่างแผ่วเบาราวกับกลัวว่าร่างนั้นจะบุบสลาย

            ธารามล...ไม่สิ...ปลากริมนิ่งงันไป เธอถูกโอบล้อมไว้ด้วยความรักและความเป็นห่วงที่แท้จริงจากครอบครัวที่เธอไม่เคยรู้จัก ครอบครัวที่ตามบทประพันธ์แล้วมีแต่โชคร้ายรออยู่เบื้องหน้า

            ภาพของแม่ผู้ร้องไห้ปานจะขาดใจ พ่อผู้ยอมละทิ้งความอมทุกข์ของตัวเองเพื่อวิ่งมาดูอาการของเธอ และน้องชายตัวน้อยที่ยังดูแลตัวเองไม่ได้แต่ก็ยังร้องไห้หาพี่สาว...นี่น่ะหรือครอบครัวของนางร้ายในอนาคต?

            ความอบอุ่นที่เธอไม่เคยคาดคิดว่าจะได้รับในสถานการณ์เช่นนี้กลับจุดประกายความมุ่งมั่นบางอย่างขึ้นในหัวใจที่สับสนอลหม่านของวิญญาณหญิงสาว

            ไม่ว่าชะตากรรมในนิยายจะเลวร้ายแค่ไหน เธอจะไม่มีวันยอมให้ครอบครัวที่รักตัวเองอย่างสุดหัวใจนี้ต้องพบกับจุดจบตามเนื้อหาต้นฉบับอย่างเด็ดขาด ในเมื่อสวรรค์ให้โอกาสฉันมีชีวิตอยู่ ฉันจะเปลี่ยนแปลงมันทั้งหมดเอง

          พระเอกในเรื่องนะหรือ ฉันจะเตะมันไปให้ไกล ส่วนนางเอกผู้ใสซื่อประดุจดอกบัวขาว เธอก็จะไม่เอาตัวเองไปเฉียดใกล้ ส่วนตัวร้ายที่หวังหลอกนางร้าย เหอะ ๆ มาดูกันว่าใครจะร้ายกว่า ธารามลในร่างของปลากริมคิดอย่างหมายมาด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฉันนี่แหละนักเลงขนมหวาน "ฟันน้ำนม" แห่งพระนครยุค 2500   ตอนที่พิเศษที่5 นักเลงขนมหวานรุ่นเยาว์ (ตอนจบ)

    หลายปีต่อมา...ในคืนวันศุกร์ที่แสนคึกคักใจกลางย่านพระอาทิตย์...แสงไฟนีออนสีน้ำเงินนวลสาดส่องลงบนป้ายชื่อร้านที่ออกแบบอย่างมีรสนิยม... "พระอาทิตย์ บลูส์" (Phra Athit Blues) นี่คือไพรเวทแจ๊สคลับที่หรูหราและเป็นที่กล่าวขวัญถึงมากที่สุดในพระนคร และเจ้าของคลับแห่งนี้ก็คือสองหนุ่มโสดที่เนื้อหอมมากที่สุด...ข้าวเหนียวและปั้นขลิบ บรรยากาศภายในคลับอบอวลไปด้วยเสียงดนตรีแจ๊สสด ๆ ที่บรรเลงอย่างนุ่มนวลกลิ่นหอมของซิการ์ชั้นดีและเสียงพูดคุยของเหล่าแขกผู้มีระดับ...ทั้งนักธุรกิจ ทูตานุทูตและศิลปินชื่อดัง ข้าวเหนียวในชุดสูทสั่งตัดอย่างดีกำลังยืนพูดคุยกับกลุ่มนักธุรกิจชาวต่างชาติด้วยภาษาอังกฤษที่คล่องแคล่ว...ส่วนปั้นขลิบก็กำลังโปรยเสน่ห์ให้กับกลุ่มคุณหนูไฮโซที่โต๊ะข้างเวที...ซึ่งทั้งสองคนได้ทำหน้าที่เจ้าบ้านอย่างสมบูรณ์แบบ ที่โต๊ะVIP ที่ดี

  • ฉันนี่แหละนักเลงขนมหวาน "ฟันน้ำนม" แห่งพระนครยุค 2500   ตอนพิเศษที่4 เรื่องราวของสองหนุ่มโสดแห่งบ้านสิงหราช

    หลังจากที่สองสหายคู่ซี้อย่างข้าวเหนียวและปั้นขลิบ...ที่ใคร ๆ ต่างก็บอกว่าตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋...ได้เดินทางกลับมาถึงพระนครหลังจากไปทำหน้าที่อาสา พวกเขาก็ได้รับวันหยุดพักผ่อนอย่างเต็มที่ และเมื่อสองหนุ่มโสด...โปรไฟล์ดี...ผู้มีพลังงานล้นเหลือได้กลับคืนสู่เมืองหลวง...ค่ำคืนแห่งความสนุกสนานก็ได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง... และเบื้องหลังรอยยิ้มที่มีเสน่ห์นั้น...พวกเขาก็บังเกิดความคิดที่จะสร้างอาณาจักรของตนเองขึ้นมาบ้างนอกจากจะช่วยดูแลกิจการของครอบครัว ดังนั้นในเย็นวันหนึ่งขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งจิบเครื่องดื่มอยู่ที่เลานจ์หรูของร้านเลอ บัว เบลอ หลังจากที่ช่วยปลากริมดูแลความเรียบร้อยของร้านแล้ว ปั้นขลิบก็ได้เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ "พี่ข้าวเหนียว...พอผมเห็นพี่ปลากริ

  • ฉันนี่แหละนักเลงขนมหวาน "ฟันน้ำนม" แห่งพระนครยุค 2500   ตอนพิเศษที่3 ทหารหนุ่มหัวใจแกร่ง

    หลังจากเรื่องราวภายในครอบครัวผ่านพ้นมาได้ด้วยดีครอบครัวใหญ่แห่งบ้านสิงหราชก็ได้เติบโตและงอกงามขึ้นอย่างมีความสุข มะตูมและนีรนาถมีทายาทชายคนแรกเป็นโซ่ทองคล้องใจ ส่วนปลากริมและเทวากรก็มีลูกสาวตัวน้อยที่น่ารักน่าชัง... ค่ำคืนหนึ่งบนโต๊ะอาหารที่แสนอบอุ่นและคึกคักของบ้านสิงหราช เพชรในยศร้อยตรีกลับมาเยี่ยมบ้านในช่วงวันหยุด เขาได้เห็นภาพความสุขของทุกคนในครอบครัว...และมันก็ทำให้เขาตัดสินใจในเรื่องสำคัญในชีวิตออกมาได้ คืนเดียวกันนั้นหลังจากที่สมาชิกภายในครอบครัวได้แยกย้ายกันไปหมดแล้ว ชายหนุ่มจึงได้ตัดสินใจเข้าไปคุยกับสิงห์และบัวผู้ที่เปรียบเหมือนพ่อแม่เป็นการส่วนตัว... "พ่อครูครับ...แม่บัวครับ..." เขาเริ่มต้นด้วยน้ำเสียงที่แสดงความหนักแน่น "ผมได้อาสาสมัครไปประจ

  • ฉันนี่แหละนักเลงขนมหวาน "ฟันน้ำนม" แห่งพระนครยุค 2500   ตอนพิเศษที่2 โปรโมเตอร์มวยผู้เนื้อหอม

    ท่ามกลางการเติบโตของทุกคน กาลเวลาเองก็ได้เปลี่ยนเด็กชายขี้อายที่ชื่อดิน...ให้กลายเป็นชายหนุ่มผู้สุขุมและน่าเกรงขามในวงการมวยไทย บัดนี้เขาคือโปรโมเตอร์ดิน สิงหราช ผู้ก่อตั้งสิงหราชโปรโมชั่นและเป็นหนึ่งในโปรโมเตอร์หนุ่มที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดของเวทีราชดำเนิน สำนักงานของเขาที่เช่าไว้มุมหนึ่งของสนามมวยไม่ได้ใหญ่โตหรูหรา แต่มันคือศูนย์กลางของความเคลื่อนไหว ผนังห้องเต็มไปด้วยโปสเตอร์รายการมวยที่เขาเคยจัด รูปถ่ายขาวดำของนักมวยในค่ายที่คว้าชัยชนะและกระดานดำขนาดใหญ่ที่ขีดเขียนตารางการซ้อมและรายชื่อคู่มวยไว้จนเต็ม เสียงโทรศัพท์ในห้องทำงานของเขาดังขึ้นแทบจะตลอดทั้งวัน..."ครับพี่...เรื่องน้ำหนักของเจ้าสมิงขาวไม่น่ามีปัญหาครับ...เดี๋ยวผมจะคุมด้วยตัวเอง" เขาพูดสายหนึ่ง ก่อนจะวางหูแล้วรับอีกสาย&nbs

  • ฉันนี่แหละนักเลงขนมหวาน "ฟันน้ำนม" แห่งพระนครยุค 2500   ตอนพิเศษที่1 คำขอแต่งงานที่แลกมากับการเจ็บตัว

    หนึ่งปีผ่านไป...หลังจากที่ทุกคนได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันที่บ้านสิงหราช... บ่ายวันหยุดสุดสัปดาห์วันหนึ่ง บรรยากาศในบ้านดูจะคึกคักและมีพิรุธมากเป็นพิเศษ...โดยที่ทุกคนในครอบครัวสิงหราชต่างก็รู้ดีว่าวันนี้จะเกิดอะไรขึ้น...ยกเว้นเพียงคนเดียว...คือปลากริมที่หารู้เรื่องรู้ราวใด ๆ เทวากรที่ตอนนี้กลายเป็นนักธุรกิจหนุ่มเต็มตัว กำลังยืนอยู่หน้ากระจกด้วยท่าทีที่ประหม่ามากที่สุดในชีวิต ในมือของเขาคือกล่องกำมะหยี่ขนาดเล็กที่บรรจุแหวนหมั้นวงงาม...ซึ่งเขาได้ซักซ้อมแผนการของตนเองกับเหล่าพี่ชายของหญิงสาวในดวงใจเป็นครั้งสุดท้าย แม้ว่าคนทั้งคู่จะเป็นคู่หมายกัน...ทว่าสำหรับเทวากรแล้วเขาอยากจะทำให้ทุกช่วงเวลาของเขากับปลากริมเต็มไปด้วยความหมาย "ผมจะรอจังหวะที่น้องซ้อ

  • ฉันนี่แหละนักเลงขนมหวาน "ฟันน้ำนม" แห่งพระนครยุค 2500   ตอนที่99 (จบ) ใต้ร่มเงาแห่งรัก

    สามปีผ่านไป... กาลเวลาได้นำพาเหล่าเด็กหนุ่มเด็กสาวแห่งบ้านสิงหราชและบ้านเมธาวินเติบโตขึ้นสู่เส้นทางแห่งเกียรติยศและความสำเร็จ มะตูมกับเพชรหลังจากเรียนจบจากโรงเรียนนายร้อย...พวกเขาก็ได้บรรจุเข้ารับราชการเป็นนายตำรวจและนายทหารหนุ่มอนาคตไกล ด้วยผลงานการชกมวยที่สร้างชื่อให้กับประเทศชาติในนามทีมชาติสมัครเล่น จึงทำให้พวกเขาได้รับราชการอยู่ในเขตพระนครทำให้คนทั้งคู่สามารถกลับมาดูแลค่ายมวยและครอบครัวได้เสมอ ส่วนปลากริม...หลังจากที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัย เธอก็ได้เข้ามาดูแลและพัฒนาสูตรอาหารและขนมให้กับกิจการทั้งหมดของครอบครัว ทั้งร้านเลอ บัว เบลอและโรงแรมเมธาวินแกรนด์...ในฐานะคู่หมายอย่างเป็นทางการของเทวากร... 

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status