Share

บทที่ 8

ลมหมุนนั้นพัดจากหลังบ้านของปลากริมผ่านตรอกซอกซอยมุ่งหน้าไปยังตลาดใหญ่ใจกลางชุมชนที่ซึ่งมีศาลไม้มงคลหลังเล็ก ๆ ทาสีแดงสดตั้งอยู่อย่างโดดเด่น...ศาลของ "แม่นางกวัก" เทพแห่งการค้าขายที่พ่อค้าแม่ค้าในตลาดนับถือกันเป็นอย่างมาก

เมื่อมาถึงหน้าศาลลมหมุนนั้นก็คืนร่างเป็นแม่นางตานีผู้งดงาม นางมองเข้าไปในศาลที่บัดนี้มีร่างทิพย์ของสตรีในชุดไทยสไบเฉียงสีแดงสดนั่งพับเพียบในท่ากวักมือเรียกทรัพย์อันเป็นเอกลักษณ์

"พี่นางกวักจ๋า...น้องมีเรื่องมาขอให้พี่ช่วยจ้ะ" แม่นางตานีเอ่ยทักทายสหายเก่าเสียงหวาน

แม่นางกวักลืมตาขึ้น แววตาของนางดูเฉียบคมและเปี่ยมด้วยบารมี ต่างจากแววตาอ่อนโยนของแม่นางตานี "ว่ามาสิน้องตานี มีเรื่องอันใดรึถึงมาหาพี่ถึงที่นี่"

แม่นางตานีจึงเล่าเรื่องของเด็กหญิงปลากริมและความสามารถในการทำขนมอันน่าทึ่ง พร้อมทั้งข้อตกลงที่นางได้ให้ไว้ เมื่อแม่นางกวักได้ยินดังนั้นนางก็พยักหน้าลงอย่างเข้าใจ

"เรื่องเรียกลูกค้านั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับพี่หรอกน้องตานี" นางกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ทรงพลัง

"แต่ว่า...ของที่จะให้พี่ช่วยกวักเรียกน่ะ มันก็ควรจะต้องอร่อยจริงสมคำร่ำลือด้วยนะ เจ้านำขนมนั้นมาให้พี่ได้ทดลองชิมด้วยสิเพื่อประกอบการพิจารณา หากว่าเกิดมันไม่อร่อยขึ้นมาพี่กลัวจะเสียชื่อ"

ทางฝั่งปลากริมหลังจากคล้อยหลังแม่ตานี เธอก็เดินมาทำขนมหลากหลายเมนูกล้วยของตัวเองต่อ แต่ยังไม่ทันไรเสียงของแม่นางตานีก็ดังขึ้นในหัวอีกครั้ง แต่คราวนี้น้ำเสียงฟังดูเกรงใจอยู่หน่อย ๆ

เอ่อ...หนูน้อย คือว่า

มีอะไรหรือพี่สาว? ปลากริมถามกลับในใจ

คือ...เพื่อนพี่ที่เป็นนางกวักน่ะ หล่อนรับปากว่าจะช่วยนะ แต่นางมีข้อแม้ข้อหนึ่ง

ข้อแม้อะไรหรือจ๊ะ?

หล่อนอยากจะชิมฝีมือของเจ้าก่อนน่ะสิ หล่อนบอกว่ากลัวจะเสียชื่อถ้าขนมมันไม่อร่อยจริง

ปลากริมได้ยินดังนั้นก็แทบอยากจะยกมือกุมขมับ...(โอ้โห! ชีวิตนี้ต้องมาเจอการเทสต์งานจากผีด้วยเหรอเนี่ย! )เธอคิด แต่วินาทีต่อมาเด็กหญิงก็ฉีกยิ้มกว้าง

ได้เลยพี่สาว! ดีเสียอีก! ยิ่งมีคนช่วยชิมเยอะ ๆ ก็ยิ่งดี จะได้รู้ไปเลยว่าขนมของปลากริมอร่อยของจริงไม่มีปลอม เธอตอบกลับอย่างมั่นใจ

ดูเหมือนว่า...ภารกิจต่อไปของ "นักเลงขนมหวานฟันน้ำนม" ก็คือการทำขนมไปเสนอขายให้ "ลูกค้า V.I.P." ที่ชื่อว่าแม่นางกวัก

เมื่อตั้งใจแน่วแน่แล้ว ปฏิบัติการ "หลากหลายเมนูกล้วย" จึงเริ่มต้นขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ เพราะเธอรู้ดีว่าแค่กล้วยบวชชีอย่างเดียวคงไม่พอที่จะสร้างความประทับใจให้เทพแห่งการค้าขายได้

"แม่จ๋า พ่อจ๋า เราจะทำขนมเพิ่มอีกสองสามอย่างนะจ๊ะ จะได้เอาไปให้คุณยายกระถินกับเพื่อนของท่านชิมด้วยกันเลย ท่านจะได้ช่วยเราเยอะ ๆ" ปลากริมหันไปบอกพ่อกับแม่ ซึ่งทั้งสองก็พยักหน้ารับอย่างไม่มีข้อสงสัย

จากนั้นครัวหลังบ้านที่คับแคบก็อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมหวานนานาชนิด นอกจากกล้วยบวชชีรูปดอกไม้ที่ทำเสร็จไปแล้วหนึ่งหม้อ ปลากริมก็เริ่มบัญชาการทำเมนูต่อไป

"แม่จ๊ะ กล้วยที่สุกงอมมาก ๆ เราเอามาทำขนมกล้วยกันนะจ๊ะ" ว่าแล้วเธอก็เริ่มนำกล้วยมาบดผสมกับแป้งข้าวเจ้าและกะทิที่เหลืออยู่ บรรจงห่อด้วยใบตองที่ไปขอมาจากพี่สาวนางตานีแล้วนำไปนึ่งในซึ้งร้อน ๆ

"พ่อจ๋า กล้วยที่ยังแข็ง ๆ หน่อย พ่อช่วยฝานเป็นแผ่นบาง ๆ ให้หนูได้ไหมจ๊ะ" เธอหันไปขอความช่วยเหลือจากพ่อ

สิงห์รับคำแล้วใช้มีดฝานกล้วยอย่างตั้งใจ ก่อนที่ปลากริมจะนำไปทอดในน้ำมันร้อนจนเหลืองกรอบ แล้วนำมาคลุกกับน้ำตาลเคี่ยวกลายเป็น "กล้วยฉาบ" มันวาวดูน่ากิน

ไม่ถึงชั่วโมงดีบนแคร่ไม้ไผ่ก็มีขนมจากกล้วยวางเรียงรายอยู่ถึงสามอย่าง คือ กล้วยบวชชีดอกไม้ในถ้วยเล็ก ๆ ขนมกล้วยเนื้อนุ่มที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นจากใบตอง และกล้วยฉาบที่กรอบแก้วแวววาว

จากนั้นเด็กหญิงก็นำขนมอย่างละนิดละหน่อยใส่กระทงใบตองที่ทำขึ้นอย่างสวยงาม จัดเป็น "ชุดขนมทดลองชิม" สองชุด ชุดหนึ่งเธอเดินนำไปวางไว้ที่โคนต้นกล้วยตานีหลังบ้านเพื่อเซ่นแม่นางตานี โดยมีปั้นขลิบตามไปด้วย โดยที่ในปากของเขายังเคี้ยวกล้วยฉาบตุ้ย ๆ ดูน่ารักน่าชัง

หอมหวานชื่นใจทุกลมหายใจจริง ๆ หนูน้อยของข้า เสียงพออกพอใจของแม่นางตานีดังขึ้นในหัวทันทีที่นางรับเครื่องเซ่น

ส่วนอีกชุดหนึ่งปลากริมขอให้พ่อพาไปยังตลาดเพื่อนำไปเซ่นแม่นางกวัก เมื่อไปถึงหน้าศาลเจ้าแม่นางกวักที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางตลาด เด็กหญิงก็บรรจงวางกระทงขนมลงบนแท่นวางของไหว้ แล้วพนมมือไหว้พร้อมกับอธิษฐานในใจ

แม่นางกวักจ๋า...หนูชื่อปลากริมจ้ะ พี่สาวนางตานีแนะนำมา วันนี้หนูก็เลยนำขนมฝีมือตัวเองมาให้พี่สาวชิม ขอพี่สาวนางกวักโปรดพิจารณาด้วยนะจ๊ะ ว่าขนมของหนูพอจะขายดิบขายดีไหม

ทันทีที่อธิษฐานจบ เสียงที่ดูเฉียบคมและทรงพลังกว่าของแม่นางตานีก็ดังขึ้นในหัวของเธอ

หืม...เข้าที

ปลากริมนิ่งรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ

กล้วยบวชชีรสชาติกลมกล่อม มีลูกเล่นที่รูปทรง...ขนมกล้วยเนื้อนุ่มหอมใบตอง...กล้วยฉาบก็กรอบหวานกำลังดี...ใช้ได้

เสียงนั้นวิจารณ์ขนมแต่ละอย่างประดุจมืออาชีพ ก่อนจะกล่าวสรุป

เอาละ...ถือว่าฝีมือเจ้าผ่านการพิจารณา ข้าจะช่วยเจ้าเอง แต่จงจำไว้...คุณภาพต้องคงที่เช่นนี้เสมอ ห้ามให้ข้าต้องเสียชื่ออย่างเด็ดขาด เข้าใจหรือไม่?

"หนูเข้าใจแล้วจ้ะ" ปลากริมเผลอตอบรับออกมาเสียงดังด้วยความดีใจจนสิงห์อดที่จะขนลุกขึ้นมาไม่ได้

ข้อตกลงเป็นอันสมบูรณ์! เสียงแม่นางกวักกล่าวทิ้งท้ายก่อนจะเงียบลง

ปลากริมหันไปยิ้มกว้างให้พ่อของตนที่ยืนมองอยู่ด้วยสีหน้าหวาด ๆ "คุณยายกับเพื่อนท่านชอบขนมของเรามากเลยจ้ะพ่อ! ท่านรับปากแล้วว่าจะช่วย! รับรองว่าขนมบ้านเราขายดีแน่นอน!"

สิงห์มองรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจของลูกสาวตัวน้อยแล้วก็ได้แต่ยิ้มตาม...อนาคตของครอบครัวที่เคยมืดมน บัดนี้ดูเหมือนจะมีแสงสว่างรำไรได้ส่องลงมาถึงพวกเขาแล้ว
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฉันนี่แหละนักเลงขนมหวาน "ฟันน้ำนม" แห่งพระนครยุค 2500   บทที่ 171

    คำตอบที่ชัดเจนนั้น...คือการยืนยันอย่างสมบูรณ์ว่าลูกสาวของเธอได้มองเห็นแม่นางตานีกับแม่นางกวัก สองสหายต่างภพของตัวเอง ภายในค่ำคืนนั้น...หลังจากที่ส่งลูก ๆ เข้านอนเรียบร้อย...ปลากริมก็ได้ตัดสินใจเล่าความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอให้เทวากรผู้เป็นสามีฟังเป็นครั้งแรก... ยกเว้นเรื่

  • ฉันนี่แหละนักเลงขนมหวาน "ฟันน้ำนม" แห่งพระนครยุค 2500   บทที่ 170

    หลายปีต่อมา...ในคืนวันศุกร์ที่แสนคึกคักใจกลางย่านพระอาทิตย์...แสงไฟนีออนสีน้ำเงินนวลสาดส่องลงบนป้ายชื่อร้านที่ออกแบบอย่างมีรสนิยม... "พระอาทิตย์ บลูส์" (Phra Athit Blues) นี่คือไพรเวทแจ๊สคลับที่หรูหราและเป็นที่กล่าวขวัญถึงมากที่สุดในพระนคร และเจ้าของคลับแห่งนี้ก็คือสองหนุ่มโสดที่เนื้อหอม

  • ฉันนี่แหละนักเลงขนมหวาน "ฟันน้ำนม" แห่งพระนครยุค 2500   บทที่ 169

    "ต้องได้สิ!" ข้าวเหนียวตอบอย่างหนักแน่น แม้ในใจจะเริ่มรู้สึกไม่ต่างกัน "นายอย่าลืมสิว่าการทำธุรกิจมันไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ นายก็เห็นแล้วจากตัวอย่างของทั้งพ่อครูและแม่ครู ไหนจะปลากริมกับพี่เขยของนายอีก" คำพูดนี้ได้ทำให้ปั้นขลิบมีไฟขึ้นมาอีกครั้ง "พี่พูดถูก ผมจะมาท้อง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้"

  • ฉันนี่แหละนักเลงขนมหวาน "ฟันน้ำนม" แห่งพระนครยุค 2500   บทที่ 168

    หลังจากที่สองสหายคู่ซี้อย่างข้าวเหนียวและปั้นขลิบ...ที่ใคร ๆ ต่างก็บอกว่าตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋...ได้เดินทางกลับมาถึงพระนครหลังจากไปทำหน้าที่อาสา พวกเขาก็ได้รับวันหยุดพักผ่อนอย่างเต็มที่ และเมื่อสองหนุ่มโสด...โปรไฟล์ดี...ผู้มีพลังงานล้นเหลือได้กลับคืนสู่เมืองหลวง...ค่ำคืนแห่งความสนุกสนาน

  • ฉันนี่แหละนักเลงขนมหวาน "ฟันน้ำนม" แห่งพระนครยุค 2500   บทที่ 167

    สิ้นเสียงตะโกนของลูกน้อง...เสียงปืนกลก็ดังขึ้นจากแนวป่ารกทึบ! พวกเขาถูกซุ่มโจมตี! "หมอบลง! หาที่กำบัง!" เพชรตะโกนสั่งการอย่างไม่ตื่นตระหนก เขายิงต่อสู้เพื่อคุ้มกันให้ลูกน้องได้เข้าที่กำบังอย่างปลอดภัย...ทักษะการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วว่องไวราวกับเงาที่เขาได้มาจากมวยไชยา...ได้ถูกนำมาปรับใ

  • ฉันนี่แหละนักเลงขนมหวาน "ฟันน้ำนม" แห่งพระนครยุค 2500   บทที่ 166

    หลังจากเรื่องราวภายในครอบครัวผ่านพ้นมาได้ด้วยดีครอบครัวใหญ่แห่งบ้านสิงหราชก็ได้เติบโตและงอกงามขึ้นอย่างมีความสุข มะตูมและนีรนาถมีทายาทชายคนแรกเป็นโซ่ทองคล้องใจ ส่วนปลากริมและเทวากรก็มีลูกสาวตัวน้อยที่น่ารักน่าชัง... ค่ำคืนหนึ่งบนโต๊ะอาหารที่แสนอบอุ่นและคึกคักของบ้านสิงหราช เพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status