Share

บทที่ 3

‘พี่ชาย! คุณฟังฉันนะ ให้คุณชวนพ่อแม่ไปยังหลังต้นไม้ใหญ่ตรงนั้นจากนั้นจะมีขอนไม้ผุ ๆ อยู่จำนวนมาก ด้านหลังของพวกมันมีเห็ดและสมุนไพรล้ำค่าอยู่’

แม้ว่าเสี่ยวเฉินจะมีอายุยังน้อยทว่าเขากลับรู้ความมากกว่าเด็กวัยเดียวกันและหลังจากได้ยินจากน้องสาวว่ามีของล้ำค่าดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง

‘น้องสาวของล้ำค่านี่แลกนมให้น้องและข้าวสารได้ไหม’

‘ได้สิพี่ชาย อีกทั้งยังจะแลกเงินได้ด้วยนะ’

ดวงตาของพี่ชายหมาด ๆ สว่างวาบ อีกทั้งไม่ต้องรอให้น้องน้อยพูดซ้ำสอง มือของเจ้าตัวที่กำลังจับมือใหญ่ของคนเป็นพ่อก็พยายามดึงพ่อของตนให้มาทางที่น้องสาวบอก

“เสี่ยวเฉิน ลูกจะพาพ่อไปไหน”

“น้องสาว บอกว่ามีสมุนไพรล้ำค่าอยู่ตรงนั้นฮับ” น้ำเสียงไม่ชัดเจนดังขึ้นทีละประโยค

“ลูกรัก น้องสาวของหนูยังพูดไม่ได้นะครับ” การสนทนาของพ่อกับลูกชายได้หยุดฝีเท้าของจ้าวเหยาให้เหลียวหลังกลับไปทางพวกเขาสลับกับใบหน้าเล็กจ้อยในห่อผ้า

(หมดกัน ๆ พี่ชายคุณขายฉันเสียแล้ว!) เจ้าตัวเล็กส่งเสียงอ้อแอ้ตามประสาพร้อมกันนั้นดวงตากลมก็จ้องตอบแม่หมาด ๆ ของตนด้วย

“เด็กดี ลูกน่ารักเหลือเกิน” หัวใจของจ้าวเหยาอ่อนยวบ

“พ่อ ไป” เสี่ยวเฉินยังคงตื้อ เขาจะไม่ยอมให้เกิดความผิดพลาดไม่อย่างนั้นน้องก็จะไม่มีนมกิน

“ก็ได้ ๆ แต่ลูกแน่ใจนะว่าเป็นน้องสาวบอกมา” หรูจื่อพูดหยอกเย้าอย่างไม่คิดจริงจัง

“ฮับ พ่อไป” เจ้าตัวน้อยพยักหน้าพลางดึงมือของบิดาด้วยกลัวว่าเขาจะไม่เชื่อ

“พ่อไปดูเองตรงนั้นมันรก หนูรอพ่ออยู่ตรงนี้กับแม่นะ” มือใหญ่ของหรูจื่อวางลงบนศีรษะของเขาก่อนจะใช้ไม้เท้าพาตัวเองเดินโขยกเขยกไปทางต้นไม้ใหญ่เบื้องหน้า

สายตาคมของชายหนุ่มกวาดดูโดยทั่วอย่างระมัดระวังก็ยังไม่เห็นสิ่งใด และในขณะที่เจ้าตัวกำลังจะหันกายกลับน้ำเสียงเล็ก ๆ ของบุตรชายก็ดังขึ้นเสียก่อน

“พ่อ หลังขอนไม้ตรงนั้นฮับ” เขาพูดตามที่ได้ยินมาจากคนเป็นน้อง

(เอาเถอะลองเสี่ยงดูก็แล้วกัน) หรูจื่อคิดก่อนจะใช้ไม้ค้ำยันตีลงพื้นเพื่อหวังไล่สัตว์มีพิษก่อนที่เจ้าตัวจะพยายามเดินไปทางหลังขอนไม้ผุ ๆ จำนวนมากและสิ่งที่เขาเห็นก็ทำให้ดวงตาต้องเบิกกว้าง

“ภรรยา! มาดูตรงนี้สิครับ” น้ำเสียงอันแตกตื่นของสามีได้ทำให้จ้าวเหยาไม่อาจรั้งรอ ดังนั้นหล่อนจึงได้กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปทางเขาด้วยความตกใจ

“สามี! เกิดอะไรขึ้น คุณเป็น..” น้ำเสียงของหญิงสาวขาดหาย

“สามี พวกเราไม่ได้ฝันใช่ไหมคะ นะ..นั่นคือเห็ดแดงไม่ใช่เหรอและยังมีเห็ดหูหนูจำนวนไม่น้อยอีกด้วย” จ้าวเหยานิ่งค้างมองภาพดอกเห็ดสีแดงที่กำลังสะท้อนกับแสงแดดด้วยดวงตาฉ่ำน้ำ

“ภรรยา พวกเราไม่ได้ฝันไปหรอกครับ เรามีเงินพอซื้อนมให้เจ้าตัวเล็กแล้ว อีกทั้งยังเหลือพอซื้อผ้ารวมถึงข้าวสารธัญพืชที่ร้านค้าของรัฐด้วย” มือหนาหยาบกระด้างของหรูจื่อโอบไหล่บางของจ้าวเหยากล่าวเสียงสั่น

“แต่สามีคะ คุณคิดว่าพวกเราจะนำเห็ดแดงไปขายที่ไหนถึงจะเลี่ยงสายตาของผู้คน” หลังผ่านพ้นความยินดีคนทั้งคู่ก็ต้องมาหนักอกกับปัญหาที่ยากจะแก้ไข

“เรื่องนี้เอาไว้ให้ผมหาทางเอง เพียงแต่พวกเราไม่อาจขายได้คราวเดียวดังนั้นเห็นทีว่าคงจะค่อย ๆ มาเก็บและยังต้องคอยระวังคนอื่นเอาไว้ด้วย ไม่อย่างนั้นหากมีคนมาพบเห็นพวกเราคงไม่อาจทำเงินจากมันได้อีก”

เจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนของแม่ฟังการสนทนาอย่างเข้าใจถึงสถานการณ์ในตอนนี้เป็นอย่างดี

‘เจ้านาย! ขายให้ผมรับรองว่าจะไม่เกิดปัญหาตามมาในภายหลังด้วย’ เสียงน้ำนมของระบบพูดขึ้น

‘ได้’

ในระหว่างที่หรูจื่อกำลังเก็บเห็ดหลินจือแดงอย่างระมัดระวังอยู่นั้น บุตรชายตัวน้อยก็ส่งเสียงในสิ่งที่ต้องทำให้พ่อกับแม่แสดงความประหลาดใจ

‘พ่อ ผมขอ’ เมื่อลูกชายอยากได้แม้ว่าของสิ่งนี้จะล้ำค่าสักปานใดก็ไม่มีความหมายเท่าคนเป็นลูก

อีกอย่างหรูจื่อคิดว่าการที่เขาพบของล้ำค่าก็เป็นเพราะผลงานของบุตรชาย ดังนั้นเจ้าตัวจึงได้ยื่นเห็ดแดงให้มือน้อยของลูกอย่างไม่เสียดาย

“เสี่ยวเฉินเด็กดี หนูห้ามเอาเข้าปากนะ” จ้าวเหยาเอ่ยเตือนอย่างเอ็นดูยามเมื่อเห็นท่าทางของบุตรชายที่กำลังมองเห็ดในมืออย่างสนใจ

(น้องสาวบอกว่าให้ลองขอมาหนึ่งดอก จากนั้นพ่อแม่จะรู้เองว่าจะต้องทำยังไง) เจ้าตัวเล็กครุ่นคิดพลางมองความว่างเปล่าในมืออย่างตื่นตระหนก “แม่! หาย”

ใบหน้าของคนตัวเล็กซีดขาวดวงตาของเจ้าตัวรื้นขึ้นหยาดน้ำกำลังคลอหน่วยเพราะคิดว่าได้ทำให้นมของน้องน้อยหายไปแล้ว

‘พี่ชาย! ไม่ต้องร้อง ฉันเอาเห็ดมาเอง’ เสียงของน้องสาวคล้ายน้ำทิพย์ปลอบประโลม

‘จริงเหรอ’

แอ้ แอ้ เจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนของแม่ส่งเสียงตอบพลางโบกไม้โบกมือ ฉับพลันความอัศจรรย์ก็บังเกิดเมื่อมีนมผงสามกระป๋อง ข้าวสารขาวอย่างดีถูกวางอยู่บนพื้นดิน ดวงตาของจ้าวเหยาเบิกกว้างก่อนที่หล่อนจะส่งเสียงเรียกหรูจื่อ

ผิดกลับเจ้าตัวน้อยหรูเฉินที่กำลังกระโดดโลดเต้นรอบสิ่งของเหล่านั้น “น้องสาว! น้องสาวเก่ง เก่ง”

หรูจื่อเมื่อได้เห็นสิ่งของที่จู่ ๆ ก็ปรากฏออกมาเจ้าตัวก็มีอาการไม่ต่างจากเมียรัก

‘พี่ชาย! พ่อกับแม่จะกลัวฉันไหม’ น้ำเสียงของหรูฟู่ซิงสั่นเครือ

‘เจ้านาย! อย่ากลัว พวกเขาเป็นคนดี’

‘เป๋าเอ๋อร์ เขาจะไม่คิดว่าฉันเป็นปีศาจหรอกใช่ไหม ฮือ ๆ ฉันไม่อยากถูกเผาทั้งเป็นนะ’ เสียงร้องไห้ของคนในอ้อมแขนได้เรียกสติของจ้าวเหยากับหรูจื่อ

“ภรรยา หรือว่าลูกจะหิว” หรูจื่อสันนิษฐานก่อนที่เจ้าตัวจะพยายามกล่อมคนตัวเล็กอีกแรง

“พ่อ น้องกลัว”

สองสามีภรรยามองหน้ากันแล้วก็สามารถเข้าใจได้ในทันที “ไม่ต้องกลัวนะ พวกเราจะปกป้องลูกเองแต่ว่าการที่ลูกเสกของได้นี่จะต้องเก็บเป็นความลับเข้าใจไหมครับ” หรูจื่อคิดว่าเจ้าตัวเล็กย่อมเข้าใจที่ตนพูด

และดูเหมือนว่าความคิดของเขาจะคิดถูกเพราะหรูฟู่ซิงได้หยุดเสียงของตนลงคงเหลือเพียงเสียงสะอื้นเล็กน้อยกับดวงตาวาวฉ่ำน้ำ

เมื่อหรูฟู่ซิงหยุดร้องไห้ จ้าวเหยาก็รีบวางห่อผ้าของเด็กน้อยลงข้างบุตรชายของตน

“เสี่ยวเฉินเรื่องของน้องสาวลูกห้ามบอกใครนะไม่อย่างนั้นน้องจะเป็นอันตราย” คำพูดยาก ๆ เช่นนี้หญิงสาวก็ไม่รู้ว่าลูกจะฟังเข้าใจหรือไม่ดังนั้นหล่อนจึงได้เปลี่ยนคำพูดใหม่

“ลูกห้ามบอกใครเรื่องน้องสาว ไม่อย่างนั้นจะมีคนมาจับน้องไปเข้าใจไหม” คราวนี้ดูเหมือนว่าเจ้าตัวเล็กจะเข้าใจดังนั้นเขาจึงพยักหน้าอีกทั้งยังเอามือโอบห่อผ้าของน้องน้อยเอาไว้ราวปกป้องอีกด้วย

จ้าวเหยาได้นำสิ่งของทั้งหมดใส่ลงในตะกร้า ส่วนหรูจื่อก็จัดการเก็บเห็ดทั้งหมดเช่นกันเพราะเขาเชื่อว่าเรื่องที่เกิดขึ้นต้องเกี่ยวข้องกับเห็ดแดงอย่างแน่นอน

โดยที่เจ้าตัวยังไม่รู้ว่าเห็ดที่เขาเก็บมาที่นอนนิ่งอยู่ในกระบุงสานด้านหลังได้ถูกเป๋าเอ๋อร์กวาดเข้ามิติไปแล้วทั้งหมด

‘เป๋าเอ๋อร์ เก็บเอาไว้ก่อนอย่าเพิ่งขายนะ ฉันอยากแลกเป็นยาให้ย่าแต่ขอดูนิสัยใจคอของเธอก่อน’

‘ได้เลย เจ้านาย’ เสียงน้ำนมของระบบตอบรับอย่างเชื่อฟัง หากหรูฟู่ซิงฟังให้ดีจะรู้ได้ว่าน้ำเสียงของเป๋าเอ๋อร์นั้นเต็มไปด้วยความสดใสระคนยินดี
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ฉันเกิดใหม่เป็นเด็กถูกทอดทิ้งยุค 70    บทที่ 177

    เพียงไม่นานหลังจากนั้นซุนชิงก็จากไปอย่างสงบ ท่ามกลางครอบครัวที่รักเธอและเธอเองก็รักทุกคนมากที่สุด ซึ่งในตอนนี้ผู้อาวุโสที่สุดทั้งบ้านเหลือเพียงเมิ่งหลิงคนเดียวหญิงชราผมขาวโพลนดวงตาเริ่มขุ่นมัวตามวัยแต่กระนั้นใบหน้าของเธอก็ยังคงสดใสอิ่มเอิบ เมิ่งหลิงเป็นคนโชคดีมากเธอไม่ได้มีโรคประจำตัวเฉกเช่นคนวัยเด

  • ฉันเกิดใหม่เป็นเด็กถูกทอดทิ้งยุค 70    บทที่ 176

    เสียงหัวเราะของทารกตัวน้อยยังคงดังก้องไปทั่วบ้านตระกูลจ้าว ความสดใสของชีวิตใหม่ทำให้ทุกคนรู้สึกถึงความหวัง แต่ในขณะเดียวกันบรรยากาศในบ้านกลับแฝงด้วยความเศร้าจากการที่หยูเทียนเจี๋ยชายชราผู้ได้รับการยกย่องอย่างสูงในตระกูลหรู กำลังเผชิญกับช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตหยูเทียนเจี๋ยเจ็บออด ๆ แอด ๆ มาหลายเดือน

  • ฉันเกิดใหม่เป็นเด็กถูกทอดทิ้งยุค 70    บทที่ 175

    “ย่ารู้อะไรเกี่ยวกับพี่ทุกอย่างนั่นแหละค่ะ” อ้ายอ้ายหัวเราะในช่วงเวลานั้นเหมียวเหมี่ยวที่ต้องเข้ามาวัดไข้ของเขาเธอชะงักเล็กน้อยเมื่อได้ยินเรื่องราวของย่า ครอบครัวนี้ช่างอบอุ่นและเต็มไปด้วยความรัก ต่างจากชีวิตเธอที่ต้องย้ายมาอยู่ในที่ใหม่และไม่มีใครให้ปรึกษาสายตาของเธอเหลือบมองไปยังต้าโถวที่พูดถึงย

  • ฉันเกิดใหม่เป็นเด็กถูกทอดทิ้งยุค 70    บทที่ 174

    เสียงฝีเท้าดังสะท้อนในโถงทางเดินขาวสะอาดในโรงพยาบาลของกองทัพ ต้าโถวนั่งพิงหมอนบนเตียงผู้ป่วยสีหน้าเรียบนิ่งเช่นเคย แม้บาดแผลตามร่างกายจะยังสร้างความเจ็บปวดแต่แววตาคมของเขาก็ไม่ได้แสดงอาการอ่อนแอออกมาเสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับร่างของเหมียวเหมี่ยว พยาบาลสาวหน้าใหม่ที่เดินเข้ามา ท่าทีของเธอรีบร้อนเ

  • ฉันเกิดใหม่เป็นเด็กถูกทอดทิ้งยุค 70    บทที่ 173

    หลังจากการแต่งงานของอ้ายอ้ายและหลานฉีผ่านไปได้ครบหนึ่งปี ชีวิตคู่ของทั้งสองเต็มไปด้วยความสุขและความรักที่มั่นคง อ้ายอ้ายตัดสินใจวางแผนการเดินทางพิเศษครั้งนี้เพื่อตอบแทนครอบครัวเธอต้องการให้ปู่กับย่า รวมถึงสมาชิกทุกคนได้พักผ่อนและสัมผัสกับความสงบสุขของทะเลในประเทศไทย อีกทั้งยังถือโอกาสนี้เป็นการฮันน

  • ฉันเกิดใหม่เป็นเด็กถูกทอดทิ้งยุค 70    บทที่ 172

    หลานฉีที่ยืนอยู่ตรงหน้าใช้เวลาชั่วครู่ประเมินสถานการณ์ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“พวกเรายังต้องค้นหาต่อ แม้มันจะเสี่ยงแต่ผมเชื่อว่าเธอยังรอพวกเราอยู่”ต้าโถวที่ยืนอยู่ข้างเขาพยักหน้าเห็นด้วย “ฉันไม่มีวันทิ้งน้องสาวไว้แน่นอน ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหนก็ตาม”หลังจากพูดคุยกับผู้รอดชีวิต ทีมของหลานฉีได้

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status