Share

บทที่ 2

Penulis: กะทิ
ฉันติดตามกระแสข่าวตลอดทั้งวัน ทว่ากลับไม่มีข่าวดังอย่างพวก'ฆาตรกรโรคจิตฆ่าชำแหละคนภายในบ้าน'เลย แม้แต่เทรนด์ค้นหาก็ไม่ขึ้น

ไม่มีข่าวอะไรเลย ฉันได้แต่รอการเข้าไปอยู่ในร่างของเขาครั้งต่อไปอย่างกระวนกระวายใจ

ฉันจะไปโผล่ที่ไหนอีก? ห้องขังหรือว่าห้องสอบปากคำ?

ทว่ามันกลับไม่เป็นไปตามคาด วันนี้ฉันไม่ได้เข้าไปอยู่ในร่างของฆาตกรคนนั้น

วันที่สองก็ด้วย วันที่สามก็เช่นกัน

เกิดอะไรขึ้น เขาตายแล้วหรอ?

หรือว่าเขาถูกตำรวจการุณยฆาตขณะกำลังจับกุม?

ฉันคิดไปคิดมาเลยติดสินใจไปดูเขตคอนโดพักอาศัยของฆาตกร

พอฉันเจอเขตคอนโดนั้น ฉันก็ยัดใต้โต๊ะให้ยามและเขาก็ให้ฉันผ่านเข้าไป ฉันอาศัยภาพทิวทัศน์นอกหน้าต่างที่เห็นเพื่อระบุตำแหน่งตึกและชั้น ผ่านไปครึ่งวันฉันก็พบบ้านของฆาตกร

ทว่ากลับเหนือความคาดหมายของฉัน ประตูบานนั้นถูกกั้นเอาไว้อย่างลวก ๆ ไม่เหมือนกับสถานที่เกิดคดีฆาตกรรมอย่างที่ควรจะเป็นเลย

ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือไม่ ผู้หญิงห้องตรงข้ามก็จูงสุนัขออกมาพอดี พอเธอเห็นฉันก็เอามือทาบอกพร้อมกับขยับขาถอย

"ตกใจแทบแย่ ฉันคิดว่า..."

ฉันทำหน้าทำตาอยากรู้อยากเห็นใส่เธอ "คุณคะ ฉันได้ยินมาว่าห้องนี้มีคนตายหรอ?"

ผู้หญิงคนนั้นทำตาลุกวาว "จะไม่ใช่ได้ไง? ฆาตกรเลือดเต็มหน้าถือมีดออกมา ฉันรีบแจ้งตำรวจ ตำรวจก็มาถึงในสิบนาทีเลย"

"เธอเดาดูสิว่าเกิดอะไรขึ้น?"

ฉันถลึงตาโตเล่นไปตามน้ำ "เกิดอะไรขึ้นหรอคะ?"

เธอผายมือออก "ข้างในมีศพถูกผ่าควักไส้ ส่วนฆาตกรรมหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย!"

"หะ!"

"ในเขตคอนโดมีกล้องวงจรปิดเต็มไปหมด ที่น่าทึ่งคือภาพบันทึกกลับไม่มีอะไรเลย น่าหงุดหงิดจริง ๆ"

เธอบอกกับฉันอีกว่า อันที่จริงห้องตรงข้ามคือบ้านของเหยื่อ

ห้องนั้นเป็นของพี่ชายน้องชายฝาแฝด เป็นคนต่างถิ่น ฐานะทางบ้านไม่เลว พวกเขาเพิ่งสอบติดมหาลัยของเมืองนี้ ทางบ้านเลยซื้อคอนโดห้องนี้ให้

ฆาตกรแอบเข้ามาในบ้านพวกเขาโดยที่ไม่มีใครรู้ ฆาตกรตัดหัวพี่ชาย ส่วนน้องชายโดยฆ่าหั่นศพ

หลังเกิดเหตุ ตำรวจได้ตรวจกล้องวงจรปิดของเขตคอนโดทั้งหมด นอกจากภาพไม่กี่วิที่ปรากฎตรงบันไดตอนฉันอยู่ในร่างเขา ก็ไม่มีภาพบันทึกอื่นของฆาตกรอีกเลย

เขาเหมือนผีตามทวงชีวิต โผล่ขึ้นมาไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยและหายไปอย่างกับหมอกควัน

หลังจากผู้หญิงจูงสุนัขคนนั้นเดินจากไป ฉันก็ยืนลังเลอยู่หน้าประตูพักหนึ่งและตัดสินใจเปิดเข้าไปดู

ประตูไม่ได้ล็อค แค่บิดกลอนประตูก็เปิดออก

ภายในห้องยังมีกลิ่นคาวเลือดจาง ๆ ฉันค่อย ๆ เดินเข้าไปในห้องน้ำ ศพถูกเอาออกไปแล้ว บนพื้นถูกวาดด้วยชอล์คเป็นรูปร่างคน

ฉันนั่งยองเพื่อสังเกตตรงขอบเส้นสีขาวที่วาด หางตาเหลือบไปเห็นกระจกตรงอ่างล้างหน้า ฉันเหงื่อตกในทันที

ฉันเห็นมีดค่อย ๆ ยื่นออกมาจากด้านหลังผนังห้องครัวในภาพสะท้อนของกระจก

มีคนยืนอยู่ตรงนั้น

เขาเดินออกมาจากด้านหลังผนัง ตะคุ่มเดินมาทางฉันช้า ๆ เหมือนแมวย่อง

ถ้าไม่ใช่ฆาตกรแล้วจะเป็นใครอีก?

รอยยิ้มชั่วร้ายเหมือนคนบ้าประดับอยู่บนใบหน้าของเขา และดวงตาของเขาส่องประกายเหมือนกับคนที่เห็นเหยื่อ

ฉันกลับใจเย็นและหายใจเข้าลึกขณะยืนหันหลังให้เขา ฉันอาศัยจังหวะตอนเขาไม่ทันตั้งตัวหันหลังกลับ ออกแรงวิ่งออกไปจนกระแทกสีข้างของเขา

ฆาตกรคนนั้นไม่ทันระวังตัวเลยถูกชนจนเซ ฉันใช้เข่ากระแทกข้อมือขวาของเขาพร้อมกับบิดข้อมือ จนฉันแย่งมีดจากมือเขามาได้

ตอนมัธยมต้นฉันเคยฝึกศาสตร์ป้องกันตัวมาสองสามปี ต่อมายิ่งฝึกก็ยิ่งสนใจมากขึ้น แล้วลงเรียนวิชาต่อสู้ด้วย จนได้รับเหรียญเงินระดับเขต

ท่าถนัดของฉันคือการแย่งมีดด้วยมือเปล่า ตอนเรียนรู้สึกว่าท่านี้เท่มาก สามารถเอาไว้ขู่คนอื่นได้ด้วย ไม่คิดว่าจะมีวันที่ได้ใช้ท่านี้ อีกทั้งยังเป็นตอนหน้าสิ่วหน้าขวาน

ฉันแย่งมีดเขามาได้แล้วและคิดจะวิ่งไปทางประตู เพียงแค่สองก้าวก็ถึงประตู แต่กลับพบว่ามันถูกใส่โซ่คล้องประตูเอาไว้ ฉันเลยช้าไปเพียงเสี้ยววิและถูกฆาตกรคว้าผมหางม้าดึงกลับไป

เขาคว้าผมหางม้าของฉันและจับหัวโขกกับพื้นจนท้ายทอยกระแทก ภาพตรงหน้ามืดสนิท ฉันลุกขึ้นมาไม่ไหว

ฆาตกรแย่งมีดไปจากมือของฉัน เขาเดินข้ามตัวฉันพร้อมกับรอยยิ้มอำมหิตและคุกเข่าลงบนพื้น มืออีกข้างของเขาบีบใต้คางของฉัน

ปลายมีดจรดลูบไล้ไปตามใบหน้า เขาขยับหน้าเข้ามาใกล้จนรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ตรงหน้า

เขาพูด "ใช้ได้เลย เย่ว์เหิง ฝีมือไม่เบาเลยหนิ?"

ฉันไม่มีเวลามาคิดว่าทำไมเขาถึงรู้ชื่อฉัน เพียงแค่รู้สึกถึงคมมีดเย็นเฉียบที่ลากผ่านแก้ม และกดอยู่ที่คอของฉัน

เขาทำท่าเอามีดมาจ่อตรงคอฉัน "ถ้าแทงลงไปมุมนี้ก็จะตัดหลอดลมกับเส้นเลือดใหญ่พร้อมกันพอดี เลือดจะกระเซ็นเหมือนน้ำพุเลยล่ะ โคตรน่าดูเลย ให้ฉันเอามือถือเธอมาถ่ายให้ไหม?"

ไอคนวิกลจริต ฉันกลัวจนร้องไห้

ใครจะรู้ว่าการร้องไห้จะเป็นเหมือนกับการเรียกผี จู่ ๆ ฆาตรกรก็ตัวสั่นขึ้นมาและโยนมีดในมือทิ้งไป สองมือของเขากุมศีรษะตะโกนเสียงดัง ท่าทางเจ็บปวดอย่างมาก

เสียงของเขาสั่นเครือ "เย่ว์เหิง รีบหนีไป"

เป็นโรคหลายบุคลิกงั้นหรอ? ช่างหัวมันสิ ฉันอาศัยจังหวะช่องว่างง้างขาแตะเข้ากลางหว่างขาของเขา

ฆาตรกรกลิ้งบนพื้นขณะกุมกล่องดวงใจ

ฉันคว้ามีดขึ้นมาอีกครั้ง เพราะกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนบุคลิกอีก เพียงชั่วอึดใจ ฉันก็ตัดสินใจจะแทงเขา

ฉันเล็งแทงตรงไปที่หัวใจเขาอย่างไม่ลังเล ทว่าเขากลับหลบได้และหันหน้ามาตะคอกใส่ "เย่ว์เหิง แกจะฆ่าสามีแกงั้นหรอ?"

พอเขาพูดจบก็ตกใจตัวเอง

จากนั้นเขาก็เปิดประตูตู้ด้านหลังตรงห้องรับแขกและยัดตัวเข้าไป

ฉันรีบตามเข้าไปตรวจดูภายในตู้

อืม, ข้างในเป็นกำแพง กำแพงที่แข็งแกร่งและเย็นเฉียบ เขากลับทะลุกำแพงไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ แล้วก็หายตัวไปซะงั้น

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ฉันเข้าไปอยู่ในร่างของฆาตกร 10 นาทีทุกวัน   บทที่ 18

    หลังจากวันนั้น ฉันก็ไม่ได้ติดต่อซือซวี่เป็นเวลานาน บล็อคทั้งเบอร์มือถือและ Lineซือซวี่ใช้แผนทรมานตัวเอง โดยการยืนอยู่หน้าหอชั้นล่างปล่อยให้ตัวเองถูกฝนจนป่วยมีไข้สูง สภาพซูบผอมเหมือนถูกทรมานด้วยความรัก โงนเงนเหมือนไม้เสียบผีอยู่ต่อหน้าฉันฉันยังโมโหเขามาก แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับเล่ห์เหลี่ยมของเขาฉันกับซือซวี่เริ่มคบกัน เดิมคิดว่าพอผ่านพ้นช่วงข้าวใหม่ปลามันไปก็คงจะแยกทางใครทางมัน ไม่คิดว่าเราสองคนจะเข้ากันได้ดีมาก ความรักหวานชื่นยิ่งอยู่ด้วยกันก็ยิ่งคลั่งรักกันมากขึ้น ซือซวี่ยอมออกมาจากหอและเริ่มมาใช้ชีวิตอยู่กับฉันเราเข้ากันได้ดีมาโดยตลอด ตอนซือซวี่ขึ้นปีสี่ เราก็ไปจดทะเบียนสมรสกัน ลงหลักปักฐานในเมืองจิง เขาเรียนต่อปริญญาโท ส่วนการงานของฉันก็เติบโต ผัวหามเมียคอน ชีวิตสุขสมบูรณ์มันเป็นช่วงเวลาที่ฉันมีความสุขที่สุด ได้ทำงานที่ตนเองรัก เลิกงานก็มีคนที่ตัวเองรักอยู่เคียงข้างจนกระทั่งคืนนั้น ฉันโมโหวิ่งออกจากบ้านและถูกเฉิงเหวยเหวินและเฉิงเหวยอู่ลากเข้าไปในพุ่มไม้ในเขตคอนโดมันเกิดขึ้นกับฉันอย่างไม่ทันคาดคิด ฉันพยายามดิ้นรน อยากจะตะโกนให้คนมาช่วย แต่เฉิงเหวยเหวินปิดปากและจมูกข

  • ฉันเข้าไปอยู่ในร่างของฆาตกร 10 นาทีทุกวัน   บทที่ 17

    ฉันกระอักเลือดออกมา ทุรนทุรายดิ้นอยู่บนพื้นในหัวมีเสียงของอู๋รั่วกวังกำลังเยาะเย้ยซือซวี่ "เห็นรึยัง ซือซวี่ เย่ว์เหิงก็ยังตายเหมือนเดิม นายดวงซวยยิ่งกว่าฉัน"ฉันร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา ด่าถออู๋รั่วกวังด้วยคำสบถหยาบคายต่าง ๆ คุณเกลียดซือซวี่ก็ไปทรมานเขาสิ มาฆ่าฉันทำไม?ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตายจริง ๆ ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะดิ้นรน ในช่วงที่กำลังสับสน ฉันเห็นรอยแยกตรงอากาศ รอยแยกนั้นถูกเปิดออก สองคนในชุดแปลกประหลาดกำลังเดินออกมาจากรอยแยกพวกเขาเดินมาหยุดตรงข้าง ๆ ฉันที่กำลังดิ้นทุรนทุรายไม่หยุดพร้อมกับหยิบอุปกรณ์ออกมาด้วยใบหน้านิ่งเฉย จิตสำนึกของอู๋รั่วกวังถูกดูดออกไปก่อนพร้อมกับพูด"ซือซวี่ คุณฆ่าสองฝาแฝดพี่น้องกระกูลเฉิงในสองเส้นเวลาอย่างโหดร้าย ช่างไร้สามัญสำนึกจริง ๆ""คุณยอมสารภาพผิดแล้ว ยังจะกล้าแหกคุกจากสถานกักกันแล้วกลับมายังปี 2024 โดยพลการอีก คุณต้องมีจุดจบเช่นนี้ก็เป็นโทษที่คุณสมควรได้รับ"พอพูดจบ เจ้าหน้าที่หน่วยงานผู้พิทักษ์เส้นเวลาทั้งสองคนก็ตรวจสอบร่างกายของฉันฉันอยากจะตะโกนเรียกพวกเขา แต่หลอดลมถูกตัดจนไม่สามารถพูดได้ เลยได้แต่คร่ำครวญอยู่ในใจ "ฉันไม่ใช

  • ฉันเข้าไปอยู่ในร่างของฆาตกร 10 นาทีทุกวัน   บทที่ 16

    ซือซวี่พาพวกเรามาถึงโรงงานร้างแห่งนั้นใครจะรู้ว่าพอเดินผ่านประตูเข้ามา ประตูเหล็กบานใหญ่อยู่ดี ๆ ก็ปิดเอง ฉันรีบผลักเปิดมัน แต่ว่าประตูถูกล็อคไปแล้ว ผลักยังไงก็ไม่เปิดจากนั้นก็มีปืนยิงออกมาจากไหนก็ไม่รู้ หญิงวัยกลางคนคนนั้นสะดุ้งขึ้นมา เลือดไหลออกมาทั่วร่าง เธอถลึงตาอย่างไม่เชื่อและค่อย ๆ ล้มลงและตายตาค้างนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันเห็นคนเป็น ๆ ตายต่อหน้า ฉันตัวสั่นงันงกค่อย ๆ เอานิ้วไปอังตรงจมูกของเธอ เธอตายแล้ว"ทำไมถึงเป็นแบบนี้..." ฉันหันไปมองซือซวี่ เขากลับทำสีหน้าแน่นิ่งพร้อมกับตะโกนเสียงดัง "ออกมาสิ!"ในที่สุดฆาตกรก็ยอมเปิดเผยใบหน้า ฉันทั้งกลัวทั้งกังวลและอยากรู้จนสั่นไปทั้งตัวซือซวี่กุมมือของฉัน "ผมอยู่ด้วย ไม่ต้องกลัว"แต่ใครจะรู้ว่าคนที่เดินออกมาจากหลังถังน้ำมันขนาดใหญ่กลับเป็นอาจารย์ของซือซวี่ อู๋รั่วกวังอู๋รั่วกวังหัวเราะขณะเดินมาอยู่ตรงหน้าซือซวี่ เขากระดกแว่นขึ้นราวกับกำลังพูดคุยเรื่องทั่วไป "ซือซวี่ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ!"ซือซวี่ในเส้นเวลานี้ยังไม่ได้เข้ามหาลัย ดังนั้นอู๋รั่วกวังไม่ควรจะรู้จักเขาพอลองคิดดูก็เข้าใจได้ไม่ยาก ในเมื่อฆาตกรสามารถเข้ามาในร่างข

  • ฉันเข้าไปอยู่ในร่างของฆาตกร 10 นาทีทุกวัน   บทที่ 15

    เหลือเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมงก่อนที่ซือซวี่จะเสียชีวิต ส่วนฆาตกรที่รอดไปได้ พวกเรายังไม่ทราบข้อมูลอะไรเลยหลังกลับมาจากโรงพยาบาล ซือซวี่กลับไปยังเส้นเวลาเดิมเป็นเวลาหนึ่งวันและรีบกลับมาฉันเองก็รู้สึกหมดคำพูด "ซือซวี่ นายลองคิดดูอีกที นอกจากสองฝาแฝดคู่นั้นแล้ว นายเคยมีเรื่องกับใครอีก"ซือซวี่กุมขมับ รู้สึกจนปัญญาอย่างมาก "นึกไม่ออกจริง ๆ มีแค่เรื่องทะเลาะเล็กน้อย ต้องแค้นฉันขนาดนั้นเลยหรอ?"ถ้าหาตัวฆาตกรไม่ได้จริง ๆ โอกาสที่ฆาตกรจะปล่อยฉันไปน้อยมากมีช่องโหว่ที่สามารถเข้าไปอยู่ในร่างของคนอื่นและสร้างผลกระทบต่อจิตใจสติปัญญาของคนนั้น มันก็ง่ายเหมือนกับการบดขยี้หมดปลวกตัวหนึ่งสำหรับคนที่อ่อนแอเหมือนลูกเจี๊ยบอย่างฉันฉันมองซือซวี่อย่างทุกข์ใจ "นายดูสิ่งที่นายทำไปสิ เดิมทีฉันกว่าจะถูกฆ่าก็อีกตั้ง 10 ปี ตอนนี้เป็นไง นายดั้นด้นมาช่วยฉัน แต่ฉันตอนนี้ใกล้ได้ไปเยี่ยมยมบาลแล้ว"ซือซวี่หัวเราะ พร้อมกับขอบตาบวมแดง "ไม่ต้องกลัว ยังเหลือเวลาอีกตั้ง 1 วันไม่ใช่หรอ?""นายมีวิธีจัดการ?"เขาพยักหน้า "อันที่จริงตอนพวกคุณสองคนเข้ามาในร่างผม ผมสัมผัสรับรู้ได้ ฆาตกรเองก็รู้ตรงจุดนี้""เขาสามารถรอให้ผม

  • ฉันเข้าไปอยู่ในร่างของฆาตกร 10 นาทีทุกวัน   บทที่ 14

    แล้วก็มีบางภาพที่เขาแอบถ่ายฉัน มีทั้งภาพฉันกำลังกินผัดหมี่ซินเจียงรสแซ่บจนปากมันแผล็บ มีทั้งภาพที่ฉันนอนซบอกเขาจนน้ำลายยืด...ใต้โพสต์มีคอมเมนต์ของฉัน 'ซือซวี่ นายอยากตายหรือยังไง (⁠ ⁠≧⁠Д⁠≦⁠)'โพสต์นี้มีคนคอมเมนต์จำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นคอมเมนต์ด่าเขาที่ชอบอวดแฟน ฆ่าคนโสดตายเรียบซือซวี่ตอบกลับด้วยอีโมจิใบหน้าอวดดีนิ้วยังคงเลื่อนไถต่อเนื่อง ฉันเห็นภาพตัวเองกับซือซวี่ไปจดทะเบียนสมรสด้วยกัน ฉันสวมผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวพร้อมกับถือดอกไม้ช่อใหญ่กับซือซวี่ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาโอบไหล่ฉัน ทำหน้ายิ้มเหมือนหมาหน้าโง่ฉันเหลือบมองวันเวลาของโพสต์จดทะเบียนสมรส และคำนวนอายุของเขาอย่างรวดเร็ว พบว่าพอเขาอายุครบกฎหมายกำหนดก็แต่งงานกับฉันแล้วหลังจดทะเบียนสมรสก็จัดงานแต่งอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อนสนิทต่างก็มาร่วมอวยพรซือซวี่กับเย่ว์เหิงหลังแต่งงานแล้ว ซือซวี่ยังคงบันทึกเรื่องราวประจำวันไว้ แม้เขากับภรรยาจะทะเลาะกันบ้างเป็นครั้งคราว แต่โดยรวมแล้วก็ถือเป็นครอบครัวเล็ก ๆ ที่มีความสุขมากซือซวี่หยุดบันทึกเรื่องราวในวันหนึ่งอย่างกะทันหันหลังจากแต่งงานไปได้ปีกว่าผ่านไปไม่นาน ซือซวี่ก็โพสต์เพิ่มอีก 2 โพสต์ซึ่งเข

  • ฉันเข้าไปอยู่ในร่างของฆาตกร 10 นาทีทุกวัน   บทที่ 13

    วันต่อมาฉันตื่นแต่เช้า เตรียมตัวไปหาซือซวี่ตามที่นัดกันไว้ตอนกลางวัน เพื่อเริ่มฝึกขั้นตอนที่สามพอเดินออกจากประตูหอก็พบซือซวี่กำลังนั่งรอฉันอยู่ฉันกำลังจะทักเขา ถามเขาเรื่องผู้หญิงเมื่อวานนี้ ทว่าจู่ ๆ ฉันก็หมดสติ พริบตาก็เข้าไปอยู่ใร่างซือซวี่วัยผู้ใหญ่ตรงหน้าฉันจากนั้น ฉันก็ลืมตาเห็นตัวเองกำลังยืนตาเหลือกและกำลังล้มหมดสติฉันรีบเข้าไปพยุงร่างของตัวเองและช้อนอุ้มตัวเองขึ้นมาในตอนนั้น นาฬิกาข้อมือของซือซวี่ก็ดังขึ้นมา เป็นเสียง AI สาว "จิตสำนึกของหญิงสาวเข้ามาในร่าง ระบุได้ว่าเป็นเย่ว์เหิง ปลอดภัย"เป็นสถานการณ์บ้าบอสิ้นดี ฉันแบกตัวเองมาที่ม้านั่งสาธารณะ พยุงร่างตัวเองให้นั่งตรง สังเกตใบหน้าของตัวเองอย่างละเอียด ฉันรู้สึกแปลกมากหลังกุมใต้คางและสัมผัสใบหน้าตัวเองเดี๋ยวก่อน...ทำไมหน้าซีกซ้ายกับซีกขวาของฉันมันดูไม่สมมาตรล่ะ?ลิปสติกสีแดงเบอร์นี้ไม่เหมาะกับฉันเลย คราวหน้าไม่ทาแล้วผมทรงใหม่ดูดีมากเลยฉันลูบใบหน้าของตัวเองไปมา เคลิบเคลิ้มกับการชื่นชมตัวเอง ทันใดนั้นก็มีมือข้างตีมือฉันให้ออกห่างตีเจ็บมาก ฉันเงยหน้ามองอย่างไม่พอใจ ฉันตกใจกลัวจนหัวใจแทบหยุดเต้นโลกมันแคบเสียจร

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status