Share

บทที่ 1.2 กลับบ้านเดิม

last update Last Updated: 2025-07-01 11:56:48

บทที่ 1.2

กลับบ้านเดิม

“ครอบครัวเดียวกันอะไร น้องสามีเจ้าแต่งออกไปแล้วก็นับเป็นคนนอก อย่าได้มาคิดยุ่งเกี่ยวกับเงินทองในบ้านเชียว ไม่อย่างนั้นแม้แต่ที่ซุกหัวนอนพวกเราก็ไม่อนุญาตให้เจ้าอยู่”

เสวี่ยชิงเยี่ยนได้ยินคำดูแคลนของจ้าวซูซินก็กำมือแน่น สองตาแดงก่ำ ตั้งแต่เล็กเพราะนางเป็นบุตรีของภรรยาเอก ส่วนพี่ชายเป็นบุตรชายของภรรยารอง ทำให้ไม่คุ้นเคยสนิทสนมกันอย่างที่พี่น้องควรจะเป็น แต่ที่ผ่านมานางก็มองอีกฝ่ายเป็นพี่ชายเสมอ แม้แต่ตำแหน่งขุนนางขั้นห้าของเขาในตอนนี้ก็เป็นนางที่ร้องขอสามีให้ทูลขอพระราชทานมาให้ ไม่คิดว่าสุดท้ายกลับได้รับผลตอบแทนเช่นนี้

“ตามกฎหมายของต้าเซี่ยเล่มที่สามสิบสอง บทที่หก กล่าวว่าหากสามีตาย ไร้ญาติผู้ใหญ่ให้พึ่งพา ไร้บุตรชายให้พึ่งพิง สตรีต้องกลับคืนตระกูลเดิม สัดส่วนสมบัติและมรดกก็จะถูกจัดแบ่งอย่างเหมาะสมเท่าเทียมกับบุตรคนอื่น ๆ พี่สะใภ้เล่าเรียนในหอเฟยเซียนมาหลายปีเรื่องพวกนี้หลงลืมไปหมดแล้วหรือ”

เสวี่ยชิงเยี่ยนในอดีตไม่เพียงเป็นบุตรีภรรยาเอกของท่านราชครู ยังนับเป็นสตรีอันดับหนึ่งที่ผู้คนยกย่อง ด้วยเพียบพร้อมทั้งศักดิ์ฐานะ มารยาท คุณธรรม และความรู้ หากไม่เพราะมีใจรักมั่นเพียงแม่ทัพเมิ่ง ตำแหน่งฮองเฮาในวันนี้นางก็สามารถครอบครองได้

“บังอาจ!”

เพียะ!!! เสียงฝ่ามือหนาของเสวี่ยเกาเยี่ยนฟาดลงบนใบหน้าของน้องสาวต่างมารดาจนคนล้มลง เมิ่งหว่านชิงรีบเข้าไปประคองคนเป็นแม่ ให้ลุกขึ้น ในใจอยากชักกระบี่สั้นในอกออกมาแทงคนตรงหน้าให้ตกตายเสียเดี๋ยวนี้ แต่เพื่อการใหญ่และอิสรภาพอันแท้จริงของนางและมารดา ความคับแค้นใจนี้จึงจำต้องอดทนเอาไว้

“เสวี่ยชิงเยี่ยน! เจ้ากล้าพูดจาใหญ่โตใส่ภรรยาของข้าผู้เป็นหัวหน้าตระกูลเชียวหรือ”

“เมื่อเป็นเช่นนี้ ในฐานะที่ท่านเป็นหัวหน้าตระกูลคนปัจจุบัน ก็ทำหนังสือขับข้าออกจากตระกูลเถิด ข้า... เสวี่ยชิงเยี่ยนให้สัญญาว่าสมบัติแม้แต่ชิ้นเดียวของตระกูลเสวี่ยข้าก็จะไม่หยิบเอาไป”

“เสวี่ยชิงเยี่ยน!!! เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าหรือ!”

ตั้งแต่เล็กเพราะเสวี่ยชิงเยี่ยนมีฐานะเป็นลูกสาวของฮูหยินเอก ส่วนเขาเป็นเพียงบุตรชายของฮูหยินรอง ทั้งที่เป็นบุตรชายคนโตเพียงคนเดียวของตระกูล ทว่ายามพบหน้านางกลับต้องก้มหัวไว้หน้าให้ถึงแปดส่วน เป็นที่น่าอับอายต่อผู้คน ฝังใจเสวี่ยเกาเยี่ยนมาหลายปี ครั้งนี้ได้เห็นนางตกต่ำต้องก้มหัวให้ตนแม้ในใจจะเสียดายสมบัติตระกูลเมิ่ง แต่ก็รู้สึกสมใจอยู่ไม่น้อย

“เสวี่ยชิงเยี่ยน วันนี้ข้าขอใช้ฐานะของผู้นำตระกูลเสวี่ยขับเจ้า...”

“ไม่ได้!”

ในจังหวะที่เสวี่ยเกาเยี่ยนกำลังจะเอ่ยประโยคที่เมิ่งหว่านชิงรอคอย จ้าวซูซินก็เข้ามารั้งแขนเอ่ยขัดเขาขึ้น ก่อนจะกระซิบเสียงเบาสองสามประโยค สีหน้าของเสวี่ยเกาเยี่ยนก็เปลี่ยนไปในทันที

“ได้! เห็นแก่ที่พี่สะใภ้ของเจ้าขอร้อง เรื่องขับออกจากตระกูลข้าก็จะละเว้นให้ แต่เมื่อครู่เจ้าไม่เคารพผู้อาวุโสนับว่าทำผิดกฎบ้าน ลงโทษให้คุกเข่าที่หอบรรพชนสามวัน เพื่อสำนึกผิด!”

พูดจบสองสามีภรรยาก็เดินจากไป เมิ่งหว่านชิงแม้จะหงุดหงิดที่แผนการไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจ แต่อย่างน้อยก็ได้ทำให้มารดาของนางตาสว่างเห็นธาตุแท้ของสองสามีภรรยาคู่นี้เร็วขึ้น กล่าวได้ว่าลงแรงไปครั้งนี้ไม่ได้กำไรแต่ก็ไม่นับว่าขาดทุน

ยังเหลือเวลาอีกสามเดือนนางจะต้องหาทางช่วยมารดาให้รอดพ้นจากแผนการร้ายของจ้าวซูซินให้ได้

เสวี่ยชิงเยี่ยนประคองบุตรีเข้าไปที่โถงบรรพชน ทันทีที่ดวงตากลมโตมองเห็นป้ายวิญญาณของบิดาและมารดาผู้ล่วงลับไปแล้ว สองตาก็พลันแดงก่ำแสบร้อน หยาดน้ำตาไหลลงอาบแก้ม

“ท่านแม่”

เมิ่งหว่านชิงสัมผัสได้ถึงความเศร้าใจของมารดาจึงเอ่ยเรียกเสียงปลอบโยน เสวี่ยชิงเยี่ยนยกมือขึ้นปาดน้ำตาบนหน้าออก ก่อนจะประคองบุตรสาวนั่งลงคุกเข่าบนฟูกรองด้านหน้า

“ธูปเจ้าค่ะฮูหยิน”

เจียงซิน เป็นสาวใช้ติดตามจากบ้านเดิม เติบโตมาพร้อมกับเสวี่ยชิงเยี่ยน ดังนั้นจึงรู้ใจผู้เป็นนายมากที่สุด ไม่ต้องเอ่ยปากธูปก็ถูกจุดมาให้คนทั้งสอง

เมิ่งหว่านชิงมองสาวใช้คนสนิทของมารดาแล้วชวนให้คิดถึงฮูหยินเอกตระกูลกู้ด้วยความคับแค้นใจ

เพราะมารดาของนางกับสาวใช้เจียงซินผู้นี้มีความผูกพันรู้ใจกันอย่างลึกซึ้ง หลังจากที่มารดาแต่งเข้าจวนตระกูลกู้ เจียงซินจึงถูกเหลียงฮุ่ยหลินภรรยาเอกของกู้เฉินโม่นำมาใช้เป็นเครื่องมือข่มขู่เสวี่ยชิงเยี่ยนอยู่เสมอ

สุดท้ายเพราะไม่อยากเป็นภาระให้ผู้เป็นนายเจียงซินจึงได้ปลิดชีพกระโดดน้ำตาย กลายเป็นความเสียใจของเสวี่ยชิงเยี่ยนตลอดชีวิต

“ท่านพ่อ ท่านแม่ ลูกพาชิงเอ๋อร์มากราบไหว้พวกท่าน”

เมิ่งหว่านชิงก้มลงกราบไหว้บรรพบุรุษพลางขมวดคิ้วขบคิด ในอดีตเพราะต้องการทรัพย์สินของตระกูลเมิ่ง ดังนั้นในช่วงแรกเสวี่ยเกาเยี่ยนและภรรยาจึงดูแลนางกับมารดาเป็นอย่างดี เหตุการณ์ในวันนี้จึงไม่ได้เกิดขึ้นและไม่รู้ว่าจะกระทบต่อเรื่องราวใดในภายหน้าบ้าง

ทว่ากระทบแล้วอย่างไร นางรู้อนาคตก็เพื่อเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เดินซ้ำหนทางเดิม

..................................................

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทสุดท้าย (จบ) เจ้าสำคัญที่สุด

    เมื่อกู้อิงโม่อุ้มเสวี่ยชิงเยี่ยนกลับเข้าเรือนไปแล้ว เมิ่งหว่านชิงก็เชิญหยางเทียนอี้ไปที่ศาลาด้านข้าง เพียงแต่เดินมาได้ไม่ไกลร่างเล็กก็ถูกโอบอุ้มจนตัวลอยจากพื้น “ฝ่าบาทจะทรงทำอะไรเพคะ” “ข้าเองก็หวาดกลัว อยากกลับเข้าห้องให้เจ้าปลอบโยนเช่นกัน” ได้ยินคนสูงศักดิ์ใช้อุบายเดียวกับบิดาเลี้ยงเมิ่งหว่านชิงก็อดที่จะขบขันไม่ได้ ก่อนจะสบตาเอ่ยถามสีหน้าจริงจัง “พระองค์ทำเช่นนี้คุ้มแล้วหรือเพคะ” “หากเจ้าหมายถึงเรื่องสละบัลลังก์ ตั้งแต่ต้นข้าก็ไม่เคยต้องการ” “เช่นนั้นพระองค์ต้องการอะไรกันพคะ” “ต้องการเป็นสวามีเพียงคนเดียวของเจ้า” ริมฝีปากบางยกยิ้มขบขันในทันทีที่ได้ยินความต้องการของคนตัวโต หากแต่หยางเทียนอี้กลับขมวดคิ้วแน่นด้วยท่าทีไม่ยินยอม “ชิงชิง ข้าไม่ยอมเป็นอนุหรอกนะ” คิ้วเล็กขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัยตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่นางบอกว่าจะให้เขาเป็นอนุชาย แต่เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ความสงสัยก็คลายออกในทันที “ท่านแม่ของข้าเพียงแค่เอาคืนความเจ้าเล่ห์ร้ายกาจของท่านอารองกู้เท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจให้เขาเป็นอนุจริงๆ” “ถึงอย่างไรข้าก็ไม่ยินดี ชีวิตนี้ข้าจะมีเพียงเจ้าเป็นภรรยา และก็ไม่ยินยอม

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทสุดท้าย(1) เจ้าสำคัญที่สุด

    หลังจากเดินออกจากท้องพระโรงหยางเทียนอี้ก็กลับไปที่ตำหนักส่วนพระองค์ บรรดาขุนนางต่างเดือดดาลและคิดว่าอย่างไรเสียเขาก็ต้องกลับมาขอร้องและยอมรับข้อเสนอของพวกตน จะมีบุรุษใดไม่รักอำนาจ ไม่ปรารถนาเป็นผู้นั่งบนบัลลังก์มังกร ดังนั้นพวกเขาแค่อดทนรออีกไม่กี่วันก็จะสามารถควบคุมหยางเทียนอี้เอาไว้ในฝ่ามือได้ เพียงแต่สิ่งที่เหล่าขุนนางคิดไม่ถึงก็คือ ตะวันไม่ทันตกดินหยางเทียนอี้ก็นำกำลังส่วนตัวควบม้าออกจากประตูเมืองตะวันออก"เกิดอะไรขึ้น นั่นไม่ใช่ฝ่าบาทของพวกเราหรือ เหตุใดพระองค์จึงออกจากเมืองอย่างกะทันหันเช่นนี้เล่า""เจ้าไม่รู้หรือไร เมื่อเช้านี้พวกขุนนางบีบบังคับให้ฝ่าบาทแต่งตั้งบุตรสาวของตนเองเป็นฮองเฮาและนางสนม พระองค์ไม่ยินยอมเป็นเครื่องมืออำนาจให้คนพวกนั้นจึงได้สละราชบัลลังก์แล้ว""สละราชบัลลังก์! เช่นนี้ต้าเซี่ยของพวกเราจะทำอย่างไร"เพียงสามวันข่าวลือเรื่องขุนนางบีบบังคับฮ่องเต้จนต้องสละราชบัลลังก์ลี้ภัยออกจากเมืองก็ถูกเล่าลือไปทั่วต้าเซี่ย ชาวเมืองต่างวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา ถึงกระทั่งบางคนยังไปรวมกลุ่มกันที่หน้าประตูจวนของขุนนางเพื่อตะโกนด่าทอและสาบแช่ง ทั่วทั้งเมืองหลวงวุ่ยวายเกิดจลาจลกล

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 20.4 ตัดความสัมพันธ์

    องค์ฮ่องเต้หยางเทียนจงได้ยินว่ารุ่ยอ๋องกลับเข้าเมืองมาช่วยเมิ่งหว่านชิงก็หัวเราะเสียงดังก้องอย่างพึงพอใจ น้องชายของเขาผู้นี้เก่งกาจทั้งบุ๋นบู๊ แต่กลับเป็นเพียงบุรุษอ่อนแอ ปล่อยให้สตรีนางหนึ่งควบคุมจิตใจ หนีออกไปได้แล้วอย่างไร เขาแค่ใช้แผนการเล็กๆ น้อยๆ ล่อสตรีแซ่เมิ่งผู้นั้นเข้ามา น้องชายผู้โง่เขลาก็วิ่งกลับมาติดกับเช่นเดิม "บัลลังก์นี้เป็นของข้า ใครก็ไม่สามารถมาแย่งชิงไปได้" กล่าวจบหยางเทียนจงก็เดินผ่านประตูข้างตรงไปยังท้องพระโรง มองเก้าอี้บัลลังก์มังกรด้วยสายตาแดงก่ำ ทั้งยินดี แล้วเศร้าหมองไปพร้อมๆ กัน ภาพในวันวานสะท้อนกลับมาในความทรงจำ ครั้งหนึ่งเบื้องหน้าบนเก้าอี้มังกรตัวนี้เคยมีบิดานั่งอย่างสง่า เก้าอี้หงส์ด้านข้างก็มีมารดาผู้งดงามนั่งเคียงข้าง ทอดสายตารักใคร่อ่อนโยนมองดูเขาและหยางเทียนอี้วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน ริมฝีปากคลี่ยิ้มกว้างอ่อนโยนมองไปที่พื้นกลางห้องโถง "เสด็จพี่อุ้มๆ ข้าเจ็บ" เสียงของหยางเทียนอี้ในวัยเยาว์ยามหกล้มร้องขอให้เขาโอบอุ้มยังคงชัดเจนในความทรงจำ เพียงแต่เมื่อหลับตาลงและลืมขึ้นอีกครั้งทุกอย่างก็ล้วนจางหายเหลือเพียงห้องโถงที่ว่างเปล่าโดดเดี่ยว โดดเดี่ยวแล้ว

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 20.3 ตัดความสัมพันธ์

    "นี่ไม่ใช่รุ่ยอ๋อง!"ทหารที่วิ่งนำทางเข้ามาในคุกหลวงร้องบอก เมิ่งหว่านชิงขมวดคิ้วแน่นไม่คิดว่านางวางแผนการอย่างรัดกุมถึงเพียงนี้กลับยังพลาดท่าให้กับฮ่องเต้ทรราช ดังนั้นจึงรีบสั่งให้คนของตนรีบถอยออกในทันที เพียงแต่ให้นางดำเนินการรวดเร็วมากมายเพียงใด ก็ยังคงช้ากว่าคนวางแผนการ ยามเมื่อออกพ้นประตูคุกหลวงมาก็พบว่าเบื้องหน้าถูกล้อมด้วยทหารจำนวนมาก อีกทั้งคนที่นำทหารมาจับกุมตนยังเป็น..."เกาอู๋ฮั่น!!"มือเรียวกำเข้าหากันแน่น ในชาติก่อนหลังสงครามเมืองประจิมเสร็จสิ้น นางกลับเมืองหลวงก็ถูกเขาลอบวางแผนจับตัวและสังหารอย่างโหดเหี้ยม ไม่คิดว่าในชาตินี้เหตุการณ์ก็ยังคงวนมาให้นางถูกเขาจับกุมอีกเช่นเคย"ฮูหยินคนเก่งของข้า สามีมารับกลับจวนแล้ว""ผู้ใดเป็นฮูหยินของเจ้ากัน!!"เมิ่งหว่านชิงโต้กลับเสียงแข็งกร้าวดุดัน ยิ่งคิดถึงเรื่องราวในชาติก่อน สายตาคมเรียวก็มองชายตรงหน้าด้วยความคับแค้นใจ"เมิ่งหว่านชิง เจ้าใช้สถานะฮูหยินของข้าทูลขอตรานำทัพจากฝ่าบาท เท็จทูลเอาความดีความชอบใส่ตน กล่าวหาว่าข้าเป็นคนไร้ความรับผิดชอบหนีทัพ หากไม่เพราะฮ่องเต้ทรงปรีชาและเชื่อใจตระกูลเกาตอนนี้ตระกูลเกาของข้าถูกประหารทั้งตระกูล

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 20.2 ตัดความสัมพันธ์

    เหตุการณ์รุ่ยอ๋องสังหารเหอไทเฮาแพร่กระจายไปทั่วทั้งแคว้นต้าเซี่ย เมิ่งหว่านชิงที่ได้รับข่าวขบกรามแน่น ตั้งแต่ต้นตัวนางก็ไม่ไว้ใจองค์ฮ่องเต้อยู่แล้ว หากแต่ไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะใช้แผนการใส่ความร้ายแรงเช่นนี้ "ท่านแม่ทัพไม่ทราบว่าท่านเรียกประชุมด่วนเช่นนี้มีเรื่องอันใดหรือขอรับ"รองแม่ทัพฉาง ที่ตอนนี้ยอมรับในตัวเมิ่งหว่านชิงแล้วเอ่ยถามด้วยความเคารพ หญิงสาวจึงหยิบป้ายบัญชาการทหารออกมาวางลงบนโต๊ะเบื้องหน้า สร้างความตื่นตกใจให้กับทุกคนเป็นอย่างยิ่งคืนป้ายบัญชาการ นี่ไม่เท่ากับนางกำลังถอนตัวจากกองทัพหรือ"ท่านแม่ทัพ นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร"รองแม่ทัพตงเอ่ยถามด้วยความร้อนรน ก่อนหน้านี้เขายอมรับว่าดูแคลนที่นางเป็นสตรี แต่หลังจากได้ร่วมทัพแม้เป็นระยะเวลาสั้นๆ กลับทำให้เขานับถือนางจากใจจริง“ข้ามีบางเรื่องต้องจัดการ ตำแหน่งแม่ทัพนี้จึงไม่อาจรับผิดชอบได้อีก"เพราะตัดสินใจที่จะเข้าเมืองไปช่วยหยางเทียนอี้ ดังนั้นเมิ่งหว่านชิงจึงไม่อาจครองตำแหน่งแม่ทัพนี้เอาไว้ได้ ดวงตาเรียวหันไปทางเซี่ยหลิงซางก่อนจะมอบจี้หยกประจำตระกูลเมิ่งและป้ายบัญชาการกองทัพบูรพาให้กับเขา"พี่ชายหลิงซาง ต่อจากนี้ขอฝากกองกำลั

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 20.1 ตัดความสัมพันธ์

    “ไทเฮาเสด็จ!”เสียงรายงานดังมาจากด้านหน้าตำหนักรับรอง หยางอี้เทียนขมวดคิ้วหนา แน่นอนว่าเขาในฐานะอดีตองค์ชายการพบปะกับไทเฮานั้นเป็นเรื่องปกติ ทว่าก่อนหน้านี้เขาเป็นคนสั่งการลงทัณฑ์สังหารต้วนอ๋อง พระโอรสเพียงหนึ่งเดียวของเหอไทเฮา แน่นอนว่าด้วยเหตุและผลการพบปะครั้งนี้นับว่าเป็นเรื่องไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องวุ่นวายในภายหลัง รุ่ยอ๋องจึงให้คนออกไปปฏิเสธการเข้าพบของเหอไทเฮา“ไปทูลไทเฮาว่าข้าไม่สะดวกพบพระองค์”สายตาคมมองบรรดาขันทีนางกำนัลที่ถูกส่งมายืนนิ่งไม่ไหวติง ก็เข้าใจอย่างชัดเจนว่านี่ต้องเป็นแผนการยืมมือฆ่าคนแน่ๆ และเป็นเช่นที่เขาคาดการณ์ เมื่อประตูตำหนักรับรองถูกเปิดออก ร่างของสตรีในชุดสูงศักดิ์ปรากฏอยู่เบื้องหน้า“ไทเฮามีเรื่องต้องการสนทนากับรุ่ยอ๋องตามลำพัง พวกกระหม่อมไม่ขออยู่รบกวน ทูลลาพ่ะย่ะค่ะ”พูดจบคนทั้งหมดก็ออกไปยืนที่ด้านนอกตำหนัก ปากบอกว่าไม่ต้องการรบกวน แต่การกระทำชัดเจนว่าเป็นการควบคุมให้คนทั้งสองอยู่ร่วมกันในตำหนัก“ถวายพระพรไทเฮา”“เจ้าสังหารลูกของข้ายังต้องมาเสแสร้งต่อหน้าข้าอีกทำไมกัน”เหอไทเฮากัดฟันเอ่ยเสียงสั่น สองแก้มอาบไปด้วยหยาดน้ำ สองตาแ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status