Share

บทที่ 1.1 กลับบ้านเดิม

last update Last Updated: 2025-07-01 11:56:12

บทที่ 1.1

กลับบ้านเดิม

เมิ่งหว่านชิง มองดูภาพเบื้องหน้าที่ค่อย ๆ ชัดเจน แล้วแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง

“เสวี่ยชิงเยี่ยนพาบุตรสาวกลับบ้านเดิม คารวะพี่ใหญ่ พี่สะใภ้”

กลับบ้านเดิม นี่ไม่ใช่เหตุการณ์เมื่อสองปีก่อนที่นางจะแต่งเข้าจวนตระกูลเกาหรืออย่างไร ริมฝีปากของเมิ่งหว่านชิงในวัยสิบสี่ปียกยิ้มกว้าง

ดูเหมือนข้าจะย้อนเวลามาอย่างนั้นสินะ

หัวใจของนางเต้นระรัวความยินดีเอ่อล้นอยู่ในอก ได้เกิดใหม่อีกครั้ง ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทนผู้ใด ความแค้นในชาติก่อนข้าจะทวงคืนกลับทั้งต้น ทั้งดอก!

หากแต่ไม่ทันได้รื้อฟื้นความทรงจำในอดีตเพิ่มเติมเสียงของสตรีเบื้องหน้าก็ดังขึ้น

“ชิงเยี่ยน รีบลุกขึ้นเถิด เดินทางไกลเหนื่อยหรือไม่ เสี่ยวถิงยังไม่รีบรินน้ำชาให้น้องสามีข้าอีก โอ้ว! นี่คงเป็นชิงเอ๋อร์ของพวกเราใช่หรือไม่ งดงามแต่เยาว์วัยเหมือนเจ้าไม่มีผิด”

เมิ่งหว่านชิงถูกพาดพิงถึงก็จดจำได้ในทันที สองสามีภรรยาตรงหน้านี้ก็คือ เสวี่ยเกาเยี่ยน และ  จ้าวซูซิน ลุงและป้าสะใภ้ของนางนั่นเอง

หึ! ล้วนเป็นพวกหน้าซื่อใจคด

ในอดีตสองสามีภรรยาบ้านเสวี่ยคู่นี้แสร้งทำดี ตีสองหน้า จนมารดาของนางไว้วางใจนำสมบัติเก้ารุ่นของตระกูลเมิ่งมอบให้อีกฝ่ายช่วยดูแล สุดท้ายไม่เพียงถูกคดโกงไปจนหมดสิ้น แม้แต่ตัวของมารดาก็ยังถูกจ้าวซูซินวางอุบายขายไปเป็นอนุของกู้เฉินโม่ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความแค้นทั้งหมดในอดีตของนาง

“เมิ่งหว่านชิง คารวะท่านลุง ท่านป้าสะใภ้ เจ้าค่ะ”

เด็กหญิงย่อตัวก้มหน้ากล่าวคำนับ ทว่ากลับลอบขบกรามแน่น หากสามารถทำลายจุดเริ่มต้นวันนี้ได้ ก็จะสกัดกั้นเหตุการณ์ในอนาคตได้ทั้งหมด ไม่เพียงช่วยเหลือมารดาให้รอดพ้นจากการแต่งไปเป็นอนุของกู้เฉินโม่ ชีวิตในวันหน้าของนางก็ไม่ต้องเป็นตัวแทนของกู้ฮวาหลันแต่งงานกับเกาอู๋ฮั่น 

คำพูดของกู้ฮวาหลันในชาติก่อนพลันผุดขึ้นมาในความคิด จนเด็กสาวเผลอขบกรามแน่น

“เมิ่งหว่านชิง เจ้ารู้หรือไม่ในคืนแต่งงานของเจ้า พี่สาวคนนี้ดูแลมารดาของเจ้าอย่างไร... ข้าก็แค่ให้นางได้เล่นสนุกกับคนงานในสวนประมาณสักเก้าคนสิบคนก็แค่นั้น... แม่ของเจ้าน่ะเก่งมากทีเดียว มอบความสุขให้คนงานเหล่านั้นถึงสามวันสามคืน ได้ยินว่าแม้แต่ตอนที่นางขาดใจตายคาเตียงไปแล้วพวกเขายังสนุกกันต่ออีกหลายรอบเลยทีเดียว”

“ชิงเอ๋อร์ช่างเป็นเด็กดี มา ๆ ป้าสะใภ้มีของขวัญพบหน้ามอบให้ จากวันนี้ไปพวกเราก็นับเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว”

พูดจบจ้าวซูซินก็หยิบถุงหอมใบหนึ่งออกมามอบให้เด็กหญิงตรงหน้า

“ของเล็ก ๆ น้อย ๆ ไร้ราคาหวังว่าเจ้ากับลูกจะไม่รังเกียจ”

“พี่สะใภ้กล่าวอะไรเช่นนี้ ของขวัญจากท่านจะประเมินค่าได้อย่างไรกัน”

เสวี่ยชิงเยี่ยนนั้นเป็นคนซื่อตรงไร้เล่ห์เหลี่ยมจึงมองแผนการชั่วของผู้อื่นไม่ออก ทว่าเมิ่งหว่านชิงใช้ชีวิตมาถึงสองชาติจะไม่รู้ทันคนได้อย่างไร ดังนั้นในขณะที่มารดากำลังจะล้วงกำไลหยกออกมาจากแขนเสื้อมอบให้อีกฝ่ายเป็นของตอบแทน เด็กหญิงก็รีบคลานเข่าไปกอดคนเป็นป้า พร้อมกับแสร้งร้องไห้จนตัวสั่น

“ท่านป้าสะใภ้ช่างดีเหลือเกิน ข้ากับท่านแม่ตอนนี้หมดตัวแล้ว โชคดีที่มีท่านกับลุงใหญ่ให้เป็นที่พึ่ง”

ได้ยินคำพูดของลูกสาวเสวี่ยชิงเยี่ยนก็ตกใจจนตาโต แม้ว่าเมิ่งชิงหยวนผู้เป็นสามีจะตายไปแล้ว แต่เขาเป็นถึงทายาทแม่ทัพเก้ารุ่น ไม่พูดถึงที่ดิน อาคาร ร้านค้า เพียงแค่คลังเก็บสมบัติก็มีขนาดใหญ่กว่าจวนขุนนางขั้นสามเสียอีก จะกล่าวว่าหมดตัวได้อย่างไร

“ชิงเอ๋อร์ เจ้าพูดเรื่องอะไรกันพวกเรา...”

“อะไรนะ หมดตัวแล้ว! นี่หมายความว่าอย่างไร!!!”

จ้าวซูซินไม่รอให้คนพูดจบก็ลุกขึ้นโวยวาย สีหน้าที่อ่อนโยนเปี่ยมไปด้วยเมตตาพลันแปรเปลี่ยนเป็นขึงขังบึ้งตึง

“ชิงเอ๋อร์!”

เมิ่งหว่านชิงฉวยโอกาสที่จ้าวซูซินลุกขึ้นแสร้งล้มหงายหลัง มารดาที่รักนางดั่งชีวิตก็รีบย่อตัวมาดูนางด้วยความห่วงใยในทันที

“พี่สะใภ้ เหตุใดต้องทำรุนแรงถึงเพียงนี้ด้วย ชิงเอ๋อร์บาดเจ็บตรงไหนหรือไม่”

“รุนแรงอะไรกัน ข้าก็แค่ลุกขึ้น เป็นลูกสาวของเจ้าที่อ่อนแอทรงตัวไม่อยู่เอง”

“น้องสาวเรื่องอื่นยังไม่ต้องเอ่ยถึง ตอนนี้ข้าต้องการคำอธิบายสมบัติเก้ารุ่นของตระกูลเมิ่งอยู่ที่ใดกัน”

เสวี่ยเกาเยี่ยนถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เห็นท่าทางที่เปลี่ยนไปราวพลิกฝ่ามือของคนทั้งสอง เสวี่ยชิงเยี่ยนแม้เป็นคนซื่อตรงก็ไม่ใช่คนโง่งม ย่อมมองจุดประสงค์อีกฝ่ายออกในทันที

“สมบัติของตระกูลสามีจะอยู่ที่ใดแล้วอย่างไร ล้วนไม่เกี่ยวกับพวกท่าน”

“ท่านแม่ เราอย่าปิดบังท่านลุงใหญ่กับท่านป้าสะใภ้เลยนะเจ้าคะ”

“ชิงเอ๋อร์ เจ้า...”

“ที่ผ่านมาตระกูลเมิ่งนำทัพออกศึก ทหารมากมายที่ล้มตายในสนามรบ ท่านพ่อ ท่านปู่ ต่างก็ชดเชยและเลี้ยงดูครอบครัวของพวกเขา ทำให้เงินในจวนแทบไม่พอใช้ แม้แต่อาหารก็มีให้กินแค่วันละมื้อเท่านั้น ในสงครามครั้งสุดท้ายนี้ยังถึงกับเอาจวนไปจำนองแล้ว...”

“อะไรนะ!”

เสียงของสองสามีภรรยาด้านหน้าร้องอย่างตกใจ เช่นเดียวกับเสวี่ยชิงเยี่ยนที่มองลูกสาวปั้นเรื่องใหญ่ด้วยความตื่นตระหนก

“ท่านลุงใหญ่ ท่านป้าสะใภ้ เมื่อครู่ท่านบอกว่าพวกเราล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน เช่นนั้นพวกท่านช่วยไถ่จวนแม่ทัพคืนให้พวกเราได้หรือไม่เจ้าคะ ท่านแม่บอกว่าตอนท่านตามีชีวิตอยู่มีตำแหน่งใหญ่โตเป็นถึงท่านราชครู อาจารย์ขององค์ฮ่องเต้ เงินแค่สามพันตำลึงทองคงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”

“ครอบครัวเดียวกันอะไร น้องสามีเจ้าแต่งออกไปแล้วก็นับเป็นคนนอก อย่าได้มาคิดยุ่งเกี่ยวกับเงินทองในบ้านเชียว ไม่อย่างนั้นแม้แต่ที่ซุกหัวนอนพวกเราก็ไม่อนุญาตให้เจ้าอยู่”

..........................................

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 2.2 ทวงคืนสถานะ

    เมื่อครู่ท่านอ๋องกำลังยิ้มหรือ... เป็นไปได้อย่างไร“อ่อ... ที่แท้ก็เป็นการลงโทษตามกฎบ้านตระกูลเสวี่ยนี่เอง”“เจ้าค่ะ ท่านลุงบอกว่าท่านแม่ไม่เคารพผู้อาวุโส ลบหลู่ท่านป้าสะใภ้”“ผู้อาวุโส? หากลำดับดูแล้วมารดาของนางเป็นบุตรีในภรรยาเอกของท่านอาจารย์ ส่วนฮูหยินของท่านเป็นสะใภ้ของบุตรชายจากภรรยารอง ท่านเสวี่ยดูเหมือนท่านจะลำดับความอาวุโสผิดไปหน่อยนะ”“เป็นกระหม่อมที่เลอะเลือน ขอท่านอ๋องโปรดอภัย”“พี่ชายกล่าวผิดแล้ว หากท่านแม่เป็นผู้อาวุโสของจวนทำไมท่านป้าสะใภ้ถึงได้จัดเรือนเล็กด้านหลังให้พวกเราพัก ไม่ใช่เรือนหลักด้านหน้าเล่าเจ้าคะ”“โอ้ว! ยังให้อยู่ที่เรือนเล็กด้านหลังด้วย กฎบ้านท่านเสวี่ยช่างเยี่ยมยอดจริงๆ”“ข้าเองก็คิดเหมือนพี่ชาย กฎบ้านเสวี่ยยอดเยี่ยมมากจริงๆ บางเรื่องก็ชวนให้ข้ารู้สึกสับสน”“รู้สึกสับสนอย่างนั้นหรือ”รุ่ยอ๋องเอ่ยถามเสียงสูง พลางหันมามองเด็กหญิงตรงหน้าในใจนึกอยากรู้ว่าอีกฝ่ายยังมีละครฉากใดที่ต้องการแสดงให้เขาดูอีก“เจ้าค่ะ ตอนที่ข้ากับท่านแม่มาถึงท่านลุงใหญ่ถามถึงสินเดิมและสมบัติของตระกูลเมิ่งบอกว่าเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว แต่พอข้าบอกว่าตระกูลเมิ่งไม่มีทรัพย์มีเพียงหนี้สิ

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 2.1 ทวงคืนสถานะ

    บทที่ 2.1ทวงคืนสถานะเมิ่งหว่านชิงหยุดเท้าที่ริมสระบัว ก่อนจะทอดสายตามองไปยังศาลาแปดเหลี่ยมซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามในความทรงจำเดิมวันนี้ รุ่ยอ๋อง หรือ องค์ชายเก้าหยางเทียนอี้ น้องชายคนโปรดของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันจะมาที่จวนเสวี่ยเพื่อคุยเรื่องงานเลี้ยงต้อนรับคณะทูตกับเสวี่ยเกาเยี่ยน ริมฝีปากบางยกยิ้มเจ้าเล่ห์ จดจ้องสายตาไปยังบุรุษวัยยี่สิบต้นๆ ผู้มีรูปร่างโดดเด่น ท่าทีสง่างาม แม้ไม่เคยหน้าแต่เมิ่งหว่านชิงก็คาดเดาได้ในทันทีจะว่าชายผู้นี้จะต้องเป็นรุ่ยอ๋องอย่างแน่นอน เท้าเล็กขยับเตรียมกระโจนลงสระบัว ทว่ากลับถูกอวี้หรุนสาวใช้ข้างกายจับแขนเอาไว้เสียก่อน“คุณหนูจะทำอะไรเจ้าคะ”“สั่งสอนคนที่รังแกท่านแม่ของข้าอย่างไรเล่า”พูดจบก็สลัดแขนจากสาวใช้กระโจนลงสระบัวในทันที โดยจงใจทิ้งตัวให้เสียงกระแทกน้ำดังก้องไปทั่วทั้งสวน เพื่อดึงสายตาของคนในศาลาข้างสระฝั่งตรงข้าม“ช่วยด้วย! ช่วยข้าด้วย!”อวี้หรุนขมวดคิ้วเล็ก นางจำได้ว่าคุณหนูของตนไม่เพียงเชี่ยวชาญการขี้ม้า ยิงธนู ฟันดาบ เรื่องว่ายน้ำนี้ก็ชำนาญไม่แพ้ผู้ใด เหตุใดตอนนี้จึงทำท่าราวกับจะจมน้ำเล่าหรือว่าคุณหนู... นางจะเป็นตะคริวไม่คิดให้มากความอวี้หรุนก

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 1.3 กลับบ้านเดิม

    บทที่ 1.3กลับบ้านเดิม“ใกล้ได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว ฮูหยินกับคุณหนูโปรดรอสักครู่ ข้าจะไปรับอาหารที่ห้องครัว อวี้หรุนฝากดูแลฮูหยินกับคุณหนูด้วย”“อืม! ไม่ต้องห่วง ข้ารับรองว่าจะไม่ยอมให้ใครแตะต้องฮูหยินกับคุณหนูแน่นอน”อวี้หรุน สาวใช้ติดตามจากจวนแม่ทัพเมิ่งบอกด้วยน้ำเสียงเจือความขุ่นเคืองใจ เมื่อเช้านี้ตอนที่มาถึงจวนตระกูลเสวี่ย เพราะฮูหยินต้องการพบปะพี่น้องเป็นการส่วนตัว นางกับเจียงซินจึงรออยู่ที่ด้านนอก ไม่คาดคิดว่ากลับกลายเป็นเปิดโอกาสให้คนอื่นมารังแกนายทั้งสอง“ข้ากับชิงเอ๋อร์ไม่เป็นอะไร แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้นเอง”เสวี่ยชิงเยี่ยนสังเกตเห็นสีหน้าไม่พอใจของสาวใช้คนสนิท ก็คาดเดาความคิดนางได้ในทันที เพื่อไม่ให้นางไปก่อเรื่องใหญ่จึงพูดให้อีกฝ่ายรู้สึกผ่อนคลายลง เมิ่งหว่านชิงมองดูอวี้หรุนด้วยสายตารู้สึกผิดอยู่ในที แม้ว่าอวี้หรุนจะมีสถานะเป็นสาวใช้เช่นเดียวกับเจียงซิน ทว่าแท้จริงแล้วนางคือหนึ่งในทหารฝีมือดีของกองทัพตระกูลเมิ่ง เกิดและเติบโตในสนามรบ การต่อสู้ไม่เป็นสองรองใคร ทว่าข้อเสียของนางก็คือนิสัยมุทะลุยอมหักไม่ยอมงอ ยอมตายไม่ยอมถอย สุดท้ายก็ถูกเหลียงฮุ่ยหลินใช้จุดนี้มาเล่นงานแน่

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 1.2 กลับบ้านเดิม

    บทที่ 1.2กลับบ้านเดิม“ครอบครัวเดียวกันอะไร น้องสามีเจ้าแต่งออกไปแล้วก็นับเป็นคนนอก อย่าได้มาคิดยุ่งเกี่ยวกับเงินทองในบ้านเชียว ไม่อย่างนั้นแม้แต่ที่ซุกหัวนอนพวกเราก็ไม่อนุญาตให้เจ้าอยู่”เสวี่ยชิงเยี่ยนได้ยินคำดูแคลนของจ้าวซูซินก็กำมือแน่น สองตาแดงก่ำ ตั้งแต่เล็กเพราะนางเป็นบุตรีของภรรยาเอก ส่วนพี่ชายเป็นบุตรชายของภรรยารอง ทำให้ไม่คุ้นเคยสนิทสนมกันอย่างที่พี่น้องควรจะเป็น แต่ที่ผ่านมานางก็มองอีกฝ่ายเป็นพี่ชายเสมอ แม้แต่ตำแหน่งขุนนางขั้นห้าของเขาในตอนนี้ก็เป็นนางที่ร้องขอสามีให้ทูลขอพระราชทานมาให้ ไม่คิดว่าสุดท้ายกลับได้รับผลตอบแทนเช่นนี้“ตามกฎหมายของต้าเซี่ยเล่มที่สามสิบสอง บทที่หก กล่าวว่าหากสามีตาย ไร้ญาติผู้ใหญ่ให้พึ่งพา ไร้บุตรชายให้พึ่งพิง สตรีต้องกลับคืนตระกูลเดิม สัดส่วนสมบัติและมรดกก็จะถูกจัดแบ่งอย่างเหมาะสมเท่าเทียมกับบุตรคนอื่น ๆ พี่สะใภ้เล่าเรียนในหอเฟยเซียนมาหลายปีเรื่องพวกนี้หลงลืมไปหมดแล้วหรือ”เสวี่ยชิงเยี่ยนในอดีตไม่เพียงเป็นบุตรีภรรยาเอกของท่านราชครู ยังนับเป็นสตรีอันดับหนึ่งที่ผู้คนยกย่อง ด้วยเพียบพร้อมทั้งศักดิ์ฐานะ มารยาท คุณธรรม และความรู้ หากไม่เพราะมีใจรักมั่

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 1.1 กลับบ้านเดิม

    บทที่ 1.1กลับบ้านเดิมเมิ่งหว่านชิง มองดูภาพเบื้องหน้าที่ค่อย ๆ ชัดเจน แล้วแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง“เสวี่ยชิงเยี่ยนพาบุตรสาวกลับบ้านเดิม คารวะพี่ใหญ่ พี่สะใภ้”กลับบ้านเดิม นี่ไม่ใช่เหตุการณ์เมื่อสองปีก่อนที่นางจะแต่งเข้าจวนตระกูลเกาหรืออย่างไร ริมฝีปากของเมิ่งหว่านชิงในวัยสิบสี่ปียกยิ้มกว้างดูเหมือนข้าจะย้อนเวลามาอย่างนั้นสินะหัวใจของนางเต้นระรัวความยินดีเอ่อล้นอยู่ในอก ได้เกิดใหม่อีกครั้ง ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทนผู้ใด ความแค้นในชาติก่อนข้าจะทวงคืนกลับทั้งต้น ทั้งดอก!หากแต่ไม่ทันได้รื้อฟื้นความทรงจำในอดีตเพิ่มเติมเสียงของสตรีเบื้องหน้าก็ดังขึ้น“ชิงเยี่ยน รีบลุกขึ้นเถิด เดินทางไกลเหนื่อยหรือไม่ เสี่ยวถิงยังไม่รีบรินน้ำชาให้น้องสามีข้าอีก โอ้ว! นี่คงเป็นชิงเอ๋อร์ของพวกเราใช่หรือไม่ งดงามแต่เยาว์วัยเหมือนเจ้าไม่มีผิด”เมิ่งหว่านชิงถูกพาดพิงถึงก็จดจำได้ในทันที สองสามีภรรยาตรงหน้านี้ก็คือ เสวี่ยเกาเยี่ยน และ จ้าวซูซิน ลุงและป้าสะใภ้ของนางนั่นเองหึ! ล้วนเป็นพวกหน้าซื่อใจคดในอดีตสองสามีภรรยาบ้านเสวี่ยคู่นี้แสร้งทำดี ตีสองหน้า จนมารดาของนางไว้วางใจนำสมบัติเก้ารุ่นของตระกูลเม

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทนำ หวนคืน

    บทนำหวนคืน“เกาอู๋ฮั่น ท่าน... แค่ก!”น้ำเสียงแผ่วเบาสั่นเครือเอ่ยถาม ก่อนที่จะกระอักเลือดออกมา แต่แม้จะบาดเจ็บปางตายนางก็ยังคงจดจ้องรอคอย... รอคอยคำอธิบายจากชายผู้เป็นสามี ดวงตาคมแดงก่ำจดจ้องใบหน้าของเขาด้วยความปวดร้าวผิดหวัง ในขณะที่สองมือสองเท้าถูกมัดเอาไว้หากแต่อีกฝ่ายกลับทำเพียงยกยิ้มดูแคลน สาวเท้าเข้ามาประชิดแล้วใช้ดาบในมือแทงเข้าที่กลางอกของนาง ด้วยสายตาเยือกเย็น“อั๊ก! ทะ... ทำไมถึงได้...”“ทำไมน่ะหรือ... เมิ่งหว่านชิง สตรีใจทรามหยาบช้าเช่นเจ้า กล้าถามคำถามนี้กับข้าอย่างนั้นหรือ”สตรีใจทรามหยาบช้า คิ้วเรียวเล็กขมวดมุ่น ความเจ็บปวดจากคมดาบเมื่อครู่เทียบกับประโยคนี้ของเขาแล้ว กลับสร้างความเจ็บปวดให้นางมากกว่านับร้อยนับพันเท่า“เกาอู๋ฮั่น เจ้ามันคนไร้คุณธรรม สามปีก่อนข้าก้าวเท้าเข้าจวน ยังไม่ทันเข้าประตูเรือนหอ มารดาของเจ้าก็ร้องขอให้ข้าออกรบแทนเจ้า เจ้าไม่เพียงไม่สำนึกบุญคุณของข้า ยังกล้าร่วมมือกับสตรีหน้าหนาผู้นี้ทรยศข้า!”เมิ่งหว่านชิงตวัดสายตามองไปทางสตรีที่ยืนข้างกายเขา กู้ฮวาหลัน พี่สาวบุญธรรมของนาง“ก่อนหน้านี้เป็นข้าที่ตาบอด ถึงได้มองสตรีงูพิษเช่นเจ้าไม่ออก”“สตรีงูพิษ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status