Share

บทที่ 1.3 กลับบ้านเดิม

last update Terakhir Diperbarui: 2025-07-01 11:57:11

บทที่ 1.3

กลับบ้านเดิม

“ใกล้ได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว ฮูหยินกับคุณหนูโปรดรอสักครู่ ข้าจะไปรับอาหารที่ห้องครัว อวี้หรุนฝากดูแลฮูหยินกับคุณหนูด้วย”

“อืม! ไม่ต้องห่วง ข้ารับรองว่าจะไม่ยอมให้ใครแตะต้องฮูหยินกับคุณหนูแน่นอน”

อวี้หรุน สาวใช้ติดตามจากจวนแม่ทัพเมิ่งบอกด้วยน้ำเสียงเจือความขุ่นเคืองใจ เมื่อเช้านี้ตอนที่มาถึงจวนตระกูลเสวี่ย เพราะฮูหยินต้องการพบปะพี่น้องเป็นการส่วนตัว นางกับเจียงซินจึงรออยู่ที่ด้านนอก ไม่คาดคิดว่ากลับกลายเป็นเปิดโอกาสให้คนอื่นมารังแกนายทั้งสอง

“ข้ากับชิงเอ๋อร์ไม่เป็นอะไร แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้นเอง”

เสวี่ยชิงเยี่ยนสังเกตเห็นสีหน้าไม่พอใจของสาวใช้คนสนิท ก็คาดเดาความคิดนางได้ในทันที เพื่อไม่ให้นางไปก่อเรื่องใหญ่จึงพูดให้อีกฝ่ายรู้สึกผ่อนคลายลง 

เมิ่งหว่านชิงมองดูอวี้หรุนด้วยสายตารู้สึกผิดอยู่ในที แม้ว่าอวี้หรุนจะมีสถานะเป็นสาวใช้เช่นเดียวกับเจียงซิน ทว่าแท้จริงแล้วนางคือหนึ่งในทหารฝีมือดีของกองทัพตระกูลเมิ่ง เกิดและเติบโตในสนามรบ การต่อสู้ไม่เป็นสองรองใคร ทว่าข้อเสียของนางก็คือนิสัยมุทะลุยอมหักไม่ยอมงอ ยอมตายไม่ยอมถอย สุดท้ายก็ถูกเหลียงฮุ่ยหลินใช้จุดนี้มาเล่นงาน

แน่นอนว่าชาตินี้นอกจากท่านแม่แล้ว อวี้หรุนและเจียงซิน ก็คือคนที่เมิ่งหว่านชิงคิดจะปกป้องเช่นกัน

ตระกูลกู้พวกเจ้าเตรียมตัวไว้เถิด ในไม่ช้าแค้นเก่าเหล่านั้น ข้าจะทวงคืนทั้งหมด

เจียงซินออกไปได้ไม่นานก็กลับมาด้วยสีหน้าที่ขุ่นเคือง สองมือว่างเปล่า ไม่ต้องเอ่ยถามเมิ่งหว่านชิงก็คาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายไปเจอเรื่องใดมา

“ก็แค่อาหารมื้อเดียว ข้าไม่หิว”

เสวี่ยชิงเยี่ยนเอ่ยบอกเพื่อคลายกังวลให้สาวใช้ เพียงแต่สิ่งที่นางไม่คาดคิดก็คือแม้แต่มื้อเย็นก็ถูกสั่งห้ามมาส่งด้วย

“มันเกินไปแล้วนะ ในเมื่อคุยกันดี ๆ ไม่ได้ เช่นนั้นข้าก็จะไปแย่งชิงมาให้สิ้นเรื่อง”

“อวี้หรุน กลับมา!”

เท้าที่กำลังจะก้าวออกจากประตูเรือนของอวี้หรุนหยุดชะงัก ถึงในใจจะไม่ยินดี แต่คำสั่งของนายหญิงนางย่อมไม่อาจขัดขืน

“ที่นี่เป็นตระกูลเสวี่ย พวกเราตอนนี้เป็นผู้อาศัยอย่าได้เสียมารยาท”

เสวี่ยชิงเยี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย สายสัมพันธ์อันบางเบาระหว่างนางและพี่ชายขาดสิ้นในทันที ทว่าตัวนางทนหิวได้แต่กลับไม่อาจทนเห็นลูกสาวเพียงคนเดียวต้องหิว

“ชิงเอ๋อร์แม่...”

“ข้าก็ไม่หิวเจ้าค่ะ”

เด็กหญิงตอบเสียงสดใสหนักแน่น ทว่าแม้ภายนอกจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่ภายในใจกลับคิดวางแผนเอาไว้แล้ว

ก็แค่จวนขุนนางขั้นห้า เทียบกับกองทัพศัตรูที่นางเคยไปสอดแนมขโมยเสบียงอาหารแล้วยังห่างชั้นกันมากนัก คิดงดอาหารนางกับมารดาช่างไม่เจียมตัว

ดังนั้นยามดึกเมิ่งหว่านชิงจึงอ้างว่าตนเองจะออกไปถ่ายเบาและให้อวี้หรุนไปส่ง ทว่ากลับลักลอบเข้าไปในห้องครัวแล้วขโมยหมั่นโถวในเตานึ่งออกมา

“คุณหนู เหตุใดเอาไปเพียงเล็กน้อย ไหน ๆ ก็บุกมาแล้วเอาไปให้มากหน่อยไม่ดีกว่าหรือเจ้าคะ”

“เอาไปมากย่อมถูกสังเกตได้ง่าย ครั้งหน้าคนครัวพวกนี้อาจจะระวังมากขึ้น”

“ข้าเข้าใจแล้ว”

เสวี่ยชิงเยี่ยนมองหมั่นโถวในมือของลูกสาวแล้วขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะส่งสายตาดุไปยังเด็กหญิง เมิ่งหว่านชิงก่อนหน้านี้แม้จะซุกซนแต่ก็ไม่ถึงขั้นดื้อดึงไม่เชื่อฟังเช่นนี้

“บิดาของเจ้าจากไปไม่นาน เจ้าก็ริอ่านเป็นขโมยแล้วหรือ”

“ท่านแม่ข้ารู้ว่าสิ่งนี้ไม่ควรทำ แต่ท่านสำคัญต่อข้ามาก อย่าว่าแต่เป็นโจรขโมย ต่อให้ข้าต้องกลายเป็นคนต่ำช้า ข้าก็จะต้องปกป้องท่าน”

“เด็กโง่ พูดจาอะไรเช่นนั้นกัน”

ได้ยินคำพูดที่หนักแน่นของบุตรสาวในใจของเสวี่ยชิงเยี่ยนก็คล้ายมีระลอกคลื่นก่อตัว เพราะตัวนางอ่อนแอจึงทำให้ลูกสาวต้องลำบาก แขนเรียวดึงคนตัวเล็กมาโอบกอดปลอบโยน

“ชิงเอ๋อร์ แม่ไม่ต้องการให้เจ้าปกป้อง แม่แค่ต้องการเพียงให้เจ้ามีความสุขและปลอดภัยเท่านั้น”

“ความสุขของข้าก็คือรอยยิ้มของท่านแม่ หากท่านต้องการให้ข้ามีความสุขท่านก็ต้องมีความสุข”

“ช่างเจรจานัก”

ท่ามกลางแสงเทียนอันเบาบาง สี่ร่างในโถงบรรพชนคุกเข่ากินหมั่นโถวที่เย็นชืด แต่กลับรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ

ทว่าความอบอุ่นสุขใจมักอยู่ไม่นาน ในเช้าวันต่อมาจ้าวซูซินก็ให้คนมาแจ้งว่าโถงบรรพชนสกปรกต้องทำความสะอาด ให้เสวี่ยชิงเยี่ยนออกมาคุกเข่าที่ลานหน้าเรือนแทน อวี้หรุนที่ได้ยินคำสั่งอันชัดเจนถึงเจตนากลั่นแกล้งก็แทบจะชักดาบวิ่งไปสังหารคน

“ฮูหยินเสวี่ยผู้นี้จงใจกลั่นแกล้งกัน ฮูหยินเพียงท่านสั่งมาคำเดียว ข้า... อวี้หรุน! จะไปสั่งสอนคนในทันที”

“เหลวไหล!!! ที่นี่เป็นเมืองหลวงไม่ใช่สนามรบ ทำร้ายฮูหยินขุนนางเจ้าเองก็จะต้องโทษเช่นกัน”

“ข้าไม่กลัว!”

“แต่ข้ากลัว!”

น้ำเสียงของเสวี่ยชิงเยี่ยนสั่นเครือเล็กน้อย ใบหน้าที่งดงามปานหยกสลักมีหยาดน้ำตาไหลลงอาบแก้ม สร้างความปั่นป่วนสะเทือนใจชวนให้คนหวั่นไหวสงสาร จนแม้แต่อวี้หรุนเองก็หลงลืมโทสะทำสิ่งใดไม่ถูกไปชั่วขณะ

“ฮะ... ฮูหยิน ข้าน้อยผิดไปแล้ว ทะ... ท่านอย่าร้องไห้เลยนะเจ้าคะ”

“อวี้หรุน เจียงซิน ตอนนี้ข้ากับชิงเอ๋อร์มีเพียงพวกเจ้าที่ไว้ใจได้ หากพวกเจ้าเกิดเรื่อง พวกเราสองแม่ลูกจะอยู่อย่างไร”

ได้ยินว่าตนเองสำคัญต่อผู้เป็นนายเพียงใด หัวใจของสองบ่าวก็สั่นระริกทรุดตัวลงคุกเข่าร่ำไห้ด้วยความซาบซึ้งใจ

เพียงแต่สำหรับเมิ่งหว่านชิงแล้ว การถอยและรอตั้งรับเช่นนี้ไม่ใช่วิธีของนาง คนเช่นจ้าวซูซินยิ่งอ่อนแอก็ยิ่งเหยียบย่ำ ยิ่งยินยอมก็ยิ่งซ้ำเติม น้ำตาของมารดาวันนี้นางจะเอาคืนเป็นทบทวี

“ท่านแม่ ข้าขอไปเดินเล่นได้ไหมเจ้าคะ”

“ลุงใหญ่ของเจ้าสั่งลงโทษเพียงแม่ เช่นนั้นอวี้หรุนเจ้าก็พาคุณหนูไปเดินเล่นเถิด”

เมิ่งหว่านชิงอย่างไรเสียก็เป็นเพียงเด็กหญิงวัยสิบสี่ปี หากให้มานั่งคุกเข่าตากแดดตากลมอาจล้มป่วยได้ ดังนั้นเสวี่ยชิงเยี่ยนจึงได้อนุญาตให้นางออกไปเดินเล่นได้ตามคำขอ

“คุณหนูฮูหยินสั่งไว้ไม่ให้พวกเราไปไกลเกินไปนะเจ้าคะ”

“เจ้าไม่ใช่อยากสั่งสอนคนที่รังแกท่านแม่ข้าหรือ”

“คุณหนู ท่านหมายความว่า..."

...................................

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 2.2 ทวงคืนสถานะ

    เมื่อครู่ท่านอ๋องกำลังยิ้มหรือ... เป็นไปได้อย่างไร“อ่อ... ที่แท้ก็เป็นการลงโทษตามกฎบ้านตระกูลเสวี่ยนี่เอง”“เจ้าค่ะ ท่านลุงบอกว่าท่านแม่ไม่เคารพผู้อาวุโส ลบหลู่ท่านป้าสะใภ้”“ผู้อาวุโส? หากลำดับดูแล้วมารดาของนางเป็นบุตรีในภรรยาเอกของท่านอาจารย์ ส่วนฮูหยินของท่านเป็นสะใภ้ของบุตรชายจากภรรยารอง ท่านเสวี่ยดูเหมือนท่านจะลำดับความอาวุโสผิดไปหน่อยนะ”“เป็นกระหม่อมที่เลอะเลือน ขอท่านอ๋องโปรดอภัย”“พี่ชายกล่าวผิดแล้ว หากท่านแม่เป็นผู้อาวุโสของจวนทำไมท่านป้าสะใภ้ถึงได้จัดเรือนเล็กด้านหลังให้พวกเราพัก ไม่ใช่เรือนหลักด้านหน้าเล่าเจ้าคะ”“โอ้ว! ยังให้อยู่ที่เรือนเล็กด้านหลังด้วย กฎบ้านท่านเสวี่ยช่างเยี่ยมยอดจริงๆ”“ข้าเองก็คิดเหมือนพี่ชาย กฎบ้านเสวี่ยยอดเยี่ยมมากจริงๆ บางเรื่องก็ชวนให้ข้ารู้สึกสับสน”“รู้สึกสับสนอย่างนั้นหรือ”รุ่ยอ๋องเอ่ยถามเสียงสูง พลางหันมามองเด็กหญิงตรงหน้าในใจนึกอยากรู้ว่าอีกฝ่ายยังมีละครฉากใดที่ต้องการแสดงให้เขาดูอีก“เจ้าค่ะ ตอนที่ข้ากับท่านแม่มาถึงท่านลุงใหญ่ถามถึงสินเดิมและสมบัติของตระกูลเมิ่งบอกว่าเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว แต่พอข้าบอกว่าตระกูลเมิ่งไม่มีทรัพย์มีเพียงหนี้สิ

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 2.1 ทวงคืนสถานะ

    บทที่ 2.1ทวงคืนสถานะเมิ่งหว่านชิงหยุดเท้าที่ริมสระบัว ก่อนจะทอดสายตามองไปยังศาลาแปดเหลี่ยมซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามในความทรงจำเดิมวันนี้ รุ่ยอ๋อง หรือ องค์ชายเก้าหยางเทียนอี้ น้องชายคนโปรดของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันจะมาที่จวนเสวี่ยเพื่อคุยเรื่องงานเลี้ยงต้อนรับคณะทูตกับเสวี่ยเกาเยี่ยน ริมฝีปากบางยกยิ้มเจ้าเล่ห์ จดจ้องสายตาไปยังบุรุษวัยยี่สิบต้นๆ ผู้มีรูปร่างโดดเด่น ท่าทีสง่างาม แม้ไม่เคยหน้าแต่เมิ่งหว่านชิงก็คาดเดาได้ในทันทีจะว่าชายผู้นี้จะต้องเป็นรุ่ยอ๋องอย่างแน่นอน เท้าเล็กขยับเตรียมกระโจนลงสระบัว ทว่ากลับถูกอวี้หรุนสาวใช้ข้างกายจับแขนเอาไว้เสียก่อน“คุณหนูจะทำอะไรเจ้าคะ”“สั่งสอนคนที่รังแกท่านแม่ของข้าอย่างไรเล่า”พูดจบก็สลัดแขนจากสาวใช้กระโจนลงสระบัวในทันที โดยจงใจทิ้งตัวให้เสียงกระแทกน้ำดังก้องไปทั่วทั้งสวน เพื่อดึงสายตาของคนในศาลาข้างสระฝั่งตรงข้าม“ช่วยด้วย! ช่วยข้าด้วย!”อวี้หรุนขมวดคิ้วเล็ก นางจำได้ว่าคุณหนูของตนไม่เพียงเชี่ยวชาญการขี้ม้า ยิงธนู ฟันดาบ เรื่องว่ายน้ำนี้ก็ชำนาญไม่แพ้ผู้ใด เหตุใดตอนนี้จึงทำท่าราวกับจะจมน้ำเล่าหรือว่าคุณหนู... นางจะเป็นตะคริวไม่คิดให้มากความอวี้หรุนก

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 1.3 กลับบ้านเดิม

    บทที่ 1.3กลับบ้านเดิม“ใกล้ได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว ฮูหยินกับคุณหนูโปรดรอสักครู่ ข้าจะไปรับอาหารที่ห้องครัว อวี้หรุนฝากดูแลฮูหยินกับคุณหนูด้วย”“อืม! ไม่ต้องห่วง ข้ารับรองว่าจะไม่ยอมให้ใครแตะต้องฮูหยินกับคุณหนูแน่นอน”อวี้หรุน สาวใช้ติดตามจากจวนแม่ทัพเมิ่งบอกด้วยน้ำเสียงเจือความขุ่นเคืองใจ เมื่อเช้านี้ตอนที่มาถึงจวนตระกูลเสวี่ย เพราะฮูหยินต้องการพบปะพี่น้องเป็นการส่วนตัว นางกับเจียงซินจึงรออยู่ที่ด้านนอก ไม่คาดคิดว่ากลับกลายเป็นเปิดโอกาสให้คนอื่นมารังแกนายทั้งสอง“ข้ากับชิงเอ๋อร์ไม่เป็นอะไร แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้นเอง”เสวี่ยชิงเยี่ยนสังเกตเห็นสีหน้าไม่พอใจของสาวใช้คนสนิท ก็คาดเดาความคิดนางได้ในทันที เพื่อไม่ให้นางไปก่อเรื่องใหญ่จึงพูดให้อีกฝ่ายรู้สึกผ่อนคลายลง เมิ่งหว่านชิงมองดูอวี้หรุนด้วยสายตารู้สึกผิดอยู่ในที แม้ว่าอวี้หรุนจะมีสถานะเป็นสาวใช้เช่นเดียวกับเจียงซิน ทว่าแท้จริงแล้วนางคือหนึ่งในทหารฝีมือดีของกองทัพตระกูลเมิ่ง เกิดและเติบโตในสนามรบ การต่อสู้ไม่เป็นสองรองใคร ทว่าข้อเสียของนางก็คือนิสัยมุทะลุยอมหักไม่ยอมงอ ยอมตายไม่ยอมถอย สุดท้ายก็ถูกเหลียงฮุ่ยหลินใช้จุดนี้มาเล่นงานแน่

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 1.2 กลับบ้านเดิม

    บทที่ 1.2กลับบ้านเดิม“ครอบครัวเดียวกันอะไร น้องสามีเจ้าแต่งออกไปแล้วก็นับเป็นคนนอก อย่าได้มาคิดยุ่งเกี่ยวกับเงินทองในบ้านเชียว ไม่อย่างนั้นแม้แต่ที่ซุกหัวนอนพวกเราก็ไม่อนุญาตให้เจ้าอยู่”เสวี่ยชิงเยี่ยนได้ยินคำดูแคลนของจ้าวซูซินก็กำมือแน่น สองตาแดงก่ำ ตั้งแต่เล็กเพราะนางเป็นบุตรีของภรรยาเอก ส่วนพี่ชายเป็นบุตรชายของภรรยารอง ทำให้ไม่คุ้นเคยสนิทสนมกันอย่างที่พี่น้องควรจะเป็น แต่ที่ผ่านมานางก็มองอีกฝ่ายเป็นพี่ชายเสมอ แม้แต่ตำแหน่งขุนนางขั้นห้าของเขาในตอนนี้ก็เป็นนางที่ร้องขอสามีให้ทูลขอพระราชทานมาให้ ไม่คิดว่าสุดท้ายกลับได้รับผลตอบแทนเช่นนี้“ตามกฎหมายของต้าเซี่ยเล่มที่สามสิบสอง บทที่หก กล่าวว่าหากสามีตาย ไร้ญาติผู้ใหญ่ให้พึ่งพา ไร้บุตรชายให้พึ่งพิง สตรีต้องกลับคืนตระกูลเดิม สัดส่วนสมบัติและมรดกก็จะถูกจัดแบ่งอย่างเหมาะสมเท่าเทียมกับบุตรคนอื่น ๆ พี่สะใภ้เล่าเรียนในหอเฟยเซียนมาหลายปีเรื่องพวกนี้หลงลืมไปหมดแล้วหรือ”เสวี่ยชิงเยี่ยนในอดีตไม่เพียงเป็นบุตรีภรรยาเอกของท่านราชครู ยังนับเป็นสตรีอันดับหนึ่งที่ผู้คนยกย่อง ด้วยเพียบพร้อมทั้งศักดิ์ฐานะ มารยาท คุณธรรม และความรู้ หากไม่เพราะมีใจรักมั่

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 1.1 กลับบ้านเดิม

    บทที่ 1.1กลับบ้านเดิมเมิ่งหว่านชิง มองดูภาพเบื้องหน้าที่ค่อย ๆ ชัดเจน แล้วแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง“เสวี่ยชิงเยี่ยนพาบุตรสาวกลับบ้านเดิม คารวะพี่ใหญ่ พี่สะใภ้”กลับบ้านเดิม นี่ไม่ใช่เหตุการณ์เมื่อสองปีก่อนที่นางจะแต่งเข้าจวนตระกูลเกาหรืออย่างไร ริมฝีปากของเมิ่งหว่านชิงในวัยสิบสี่ปียกยิ้มกว้างดูเหมือนข้าจะย้อนเวลามาอย่างนั้นสินะหัวใจของนางเต้นระรัวความยินดีเอ่อล้นอยู่ในอก ได้เกิดใหม่อีกครั้ง ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทนผู้ใด ความแค้นในชาติก่อนข้าจะทวงคืนกลับทั้งต้น ทั้งดอก!หากแต่ไม่ทันได้รื้อฟื้นความทรงจำในอดีตเพิ่มเติมเสียงของสตรีเบื้องหน้าก็ดังขึ้น“ชิงเยี่ยน รีบลุกขึ้นเถิด เดินทางไกลเหนื่อยหรือไม่ เสี่ยวถิงยังไม่รีบรินน้ำชาให้น้องสามีข้าอีก โอ้ว! นี่คงเป็นชิงเอ๋อร์ของพวกเราใช่หรือไม่ งดงามแต่เยาว์วัยเหมือนเจ้าไม่มีผิด”เมิ่งหว่านชิงถูกพาดพิงถึงก็จดจำได้ในทันที สองสามีภรรยาตรงหน้านี้ก็คือ เสวี่ยเกาเยี่ยน และ จ้าวซูซิน ลุงและป้าสะใภ้ของนางนั่นเองหึ! ล้วนเป็นพวกหน้าซื่อใจคดในอดีตสองสามีภรรยาบ้านเสวี่ยคู่นี้แสร้งทำดี ตีสองหน้า จนมารดาของนางไว้วางใจนำสมบัติเก้ารุ่นของตระกูลเม

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทนำ หวนคืน

    บทนำหวนคืน“เกาอู๋ฮั่น ท่าน... แค่ก!”น้ำเสียงแผ่วเบาสั่นเครือเอ่ยถาม ก่อนที่จะกระอักเลือดออกมา แต่แม้จะบาดเจ็บปางตายนางก็ยังคงจดจ้องรอคอย... รอคอยคำอธิบายจากชายผู้เป็นสามี ดวงตาคมแดงก่ำจดจ้องใบหน้าของเขาด้วยความปวดร้าวผิดหวัง ในขณะที่สองมือสองเท้าถูกมัดเอาไว้หากแต่อีกฝ่ายกลับทำเพียงยกยิ้มดูแคลน สาวเท้าเข้ามาประชิดแล้วใช้ดาบในมือแทงเข้าที่กลางอกของนาง ด้วยสายตาเยือกเย็น“อั๊ก! ทะ... ทำไมถึงได้...”“ทำไมน่ะหรือ... เมิ่งหว่านชิง สตรีใจทรามหยาบช้าเช่นเจ้า กล้าถามคำถามนี้กับข้าอย่างนั้นหรือ”สตรีใจทรามหยาบช้า คิ้วเรียวเล็กขมวดมุ่น ความเจ็บปวดจากคมดาบเมื่อครู่เทียบกับประโยคนี้ของเขาแล้ว กลับสร้างความเจ็บปวดให้นางมากกว่านับร้อยนับพันเท่า“เกาอู๋ฮั่น เจ้ามันคนไร้คุณธรรม สามปีก่อนข้าก้าวเท้าเข้าจวน ยังไม่ทันเข้าประตูเรือนหอ มารดาของเจ้าก็ร้องขอให้ข้าออกรบแทนเจ้า เจ้าไม่เพียงไม่สำนึกบุญคุณของข้า ยังกล้าร่วมมือกับสตรีหน้าหนาผู้นี้ทรยศข้า!”เมิ่งหว่านชิงตวัดสายตามองไปทางสตรีที่ยืนข้างกายเขา กู้ฮวาหลัน พี่สาวบุญธรรมของนาง“ก่อนหน้านี้เป็นข้าที่ตาบอด ถึงได้มองสตรีงูพิษเช่นเจ้าไม่ออก”“สตรีงูพิษ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status