Share

บทที่ 2.1 ทวงคืนสถานะ

last update Last Updated: 2025-07-01 11:57:35

บทที่ 2.1

ทวงคืนสถานะ

เมิ่งหว่านชิงหยุดเท้าที่ริมสระบัว ก่อนจะทอดสายตามองไปยังศาลาแปดเหลี่ยมซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

ในความทรงจำเดิมวันนี้ รุ่ยอ๋อง หรือ องค์ชายเก้าหยางเทียนอี้ น้องชายคนโปรดของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันจะมาที่จวนเสวี่ยเพื่อคุยเรื่องงานเลี้ยงต้อนรับคณะทูตกับเสวี่ยเกาเยี่ยน

 ริมฝีปากบางยกยิ้มเจ้าเล่ห์ จดจ้องสายตาไปยังบุรุษวัยยี่สิบต้นๆ ผู้มีรูปร่างโดดเด่น ท่าทีสง่างาม แม้ไม่เคยหน้าแต่เมิ่งหว่านชิงก็คาดเดาได้ในทันทีจะว่าชายผู้นี้จะต้องเป็นรุ่ยอ๋องอย่างแน่นอน 

เท้าเล็กขยับเตรียมกระโจนลงสระบัว ทว่ากลับถูกอวี้หรุนสาวใช้ข้างกายจับแขนเอาไว้เสียก่อน

“คุณหนูจะทำอะไรเจ้าคะ”

“สั่งสอนคนที่รังแกท่านแม่ของข้าอย่างไรเล่า”

พูดจบก็สลัดแขนจากสาวใช้กระโจนลงสระบัวในทันที โดยจงใจทิ้งตัวให้เสียงกระแทกน้ำดังก้องไปทั่วทั้งสวน เพื่อดึงสายตาของคนในศาลาข้างสระฝั่งตรงข้าม

“ช่วยด้วย! ช่วยข้าด้วย!”

อวี้หรุนขมวดคิ้วเล็ก นางจำได้ว่าคุณหนูของตนไม่เพียงเชี่ยวชาญการขี้ม้า ยิงธนู ฟันดาบ เรื่องว่ายน้ำนี้ก็ชำนาญไม่แพ้ผู้ใด เหตุใดตอนนี้จึงทำท่าราวกับจะจมน้ำเล่า

หรือว่าคุณหนู... นางจะเป็นตะคริว

ไม่คิดให้มากความอวี้หรุนก็กระโจนตามลงไปช่วยผู้เป็นนาย หากแต่ยามที่คล้องตัวคนได้แล้ว เด็กหญิงกลับกระซิบบอกให้พานางขึ้นอีกฝั่งของสระ

“คุณหนู ฝั่งทางนี้ใกล้กว่า ข้าน้อยคิดว่า...”

“อย่าพูดมากทำตามที่ข้าสั่ง”

น้ำเสียงเด็ดขาดของเด็กหญิงทำให้อวี้หรุนไม่ถามให้มากความ รีบว่ายน้ำพาคนขึ้นฝั่งตรงข้ามตามคำสั่งในทันที

“ร้องโวยวายดังๆ หน่อย”

เสียงกระซิบบอกแผ่วเบา ก่อนที่จะจงใจไอเสียงดัง อวี้หรุนนั่งนิ่งด้วยความสับสนงุนงง แต่เมื่อสบสายตาแข็งกร้าวของคุณหนูน้อยก็อ้าปากร้องเสียงดังในทันที

“คุณหนู! คุณหนูของบ่าว เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ เป็นบ่าวที่ดูแลท่านไม่ดีเอง บ่าวสมควรตาย คุณหนู!”

เมิ่งหว่านชิงเห็นท่าทาง ร้องโวยวาย อีกทั้งยังมีน้ำตาอาบแก้ม สะอื้นไห้อย่างสมจริงของอวี้หรุนก็ตกใจไปชั่วขณะจนลืมบทแสร้งไอของตนเอง ไม่คิดว่าหญิงสาวมุทะลุ ซื่อตรง อย่างอวี้หรุนจะเล่นใหญ่ แสร้งทำได้ดีขนาดนี้ ทักษะการแสดงช่างยอดเยี่ยมจริงๆ

“คุณหนู ข้าน้อยทำเกินไปหรือไม่”

“ไม่! ทำต่อไป ร้องดังๆ”

สองนายบ่าวกระซิบกระซาบ ก่อนที่คนเป็นบ่าวจะร้องโวยวาย ส่วนคนเป็นนายก็ไอชุดใหญ่ทิ้งตัวก้มหน้ารางกับป่วยหนัก จนคนในศาลาอดที่จะลุกขึ้นมาดูไม่ได้

“ท่านเสวี่ย นางคือ...”

"นางเป็นหลานสาวที่เพิ่งเจ้าจวนมา..."

เมิ่งหว่านชิงได้ยินเสวี่ยเกาเยี่ยนแนะนำคนโดยจงใจเลี่ยงหลบสถานะอันแท้จริงก็แกล้งไออีกครัังก่อนจะชิงแนะนำตนเอง

“ข้าคือบุตรสาวของแม่ทัพเมิ่ง เมิ่งหว่านชิงเจ้าค่ะ แค่กๆ”

เสวี่ยเกาเยี่ยนได้ยินเด็กสาวแนะนำตัวต่อรุ่ยอ๋องก็ขบกรามแน่น ใครบ้างไม่รู้ว่าท่านอ๋องผู้นี้ชื่นชมแม่ทัพเมิ่งที่เป็นวีรบุรุษพิทักษ์ชาติเพียงใด หากรู้ว่าเมื่อวานเขาลงมือกับสองแม่ลูกคู่นี้อย่างไร ต้องเกิดความไม่พอใจขึ้นมาแน่ๆ

คิ้วหนาของท่านอ๋องหนุ่มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ก่อนจะหันไปทางคนติดตามที่ถือเสื้อคลุมของเขาอยู่ โดยไม่ต้องออกคำสั่งเสื้อคลุมขนจิ้งจอกแดงราคาแพงก็ถูกนำไปวางบนตัวของเด็กหญิงที่กำลังไอไม่หยุดตรงหน้า

“เกิดอะไรขึ้น เหตุใดนางจึงตกน้ำได้”

เสวี่ยเกาเยี่ยนหันไปเค้นเสียงถลึงตาถามสาวใช้ติดตามของหลานสาว ทว่าอีกฝ่ายไม่ทันตอบ เด็กหญิงตรงหน้าก็ร่ำไห้รีบหันไปทางสระน้ำ

“แย่แล้ว! อาหารเพียงมื้อเดียวของท่านแม่! อวี้หรุนเจ้ารีบลงน้ำไปเก็บมา อาจยังมีบางอย่างพอให้กินได้อยู่”

“คุณหนู อาหารตกน้ำไปแล้ว กินไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ”

เมิ่งหว่านชิงแสร้งตีหน้าเศร้าน้ำตาไหลพราก ไหล่เล็กสั่นไหว บ่นเสียงเบาด้วยท่าทางชวนเวทนา

“เป็นความผิดของข้า เพราะเห็นว่าเมื่อวานท่านแม่ถูกสั่งงดอาหาร ไม่ได้กินอะไรเลยทั้งวัน พอได้อาหารมาก็รีบวิ่งโดยไม่ระวัง ตอนนี้ตกน้ำไปหมดแล้ว พวกเราจะทำอย่างไรดี”

เด็กหญิงพูดพลางสะอื้นไห้ ดวงตากลมจ้องมองไปในผืนน้ำด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกผิด

“นี่เป็นอาหารมื้อเดียวที่จวนเสวี่ยมอบให้เรา เช่นนั้นวันนี้ท่านแม่จะกินอะไร ข้า... ข้าช่างอกตัญญูยิ่งนัก!!”

รุ่ยอ๋องไม่ใช่บุรุษโง่งม การแสดงที่มีพิรุจมากมายเช่นนี้เขาจะมองไม่ออกได้อย่างไร ทว่าแม้เป็นเรื่องในเรือนของผู้อื่น แต่หญิงสาวตรงหน้าก็นับเป็นหลานตาของอาจารย์เขา อีกทั้งยังเป็นบุตรีของแม่ทัพเมิ่งที่ปกป้องต้าเซี่ยมาถึงเก้ารุ่น เขาย่อมต้องยื่นมือเข้าช่วยเหลือสักหน่อย

“ท่านเสวี่ย เรื่องนี้ท่านควรอธิบายให้ชัดเจนสักหน่อยหรือไม่”

“เอ่อ... คือ...”

“พี่ชายท่านอย่าตำหนิท่านลุงใหญ่เลยเจ้าค่ะ ล้วนเป็นความผิดของชิงเอ๋อร์ เมื่อวานไม่ระวังทำให้ท่านป้าสะใภ้โกรธ ท่านลุงจึงให้ท่านแม่คุกเข่าในโถงบรรพชนและงดอาหารเป็นการลงโทษตามกฎบ้าน”

ปากบอกว่าไม่ให้ตำหนิ แต่ทุกคำที่เอ่ยล้วนชัดเจนว่าเป็นการเอ่ยฟ้อง ช่างเป็นเด็กหญิงที่น่าสนใจจริงๆ รุ่ยอ๋องยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แม้จะเพียงชั่วพริบตาเดียวแต่ก็กลายเป็นภาพที่ทำให้เหล่าบรรดาผู้ติดตามตื่นตกใจจนตาโต

เมื่อครู่ท่านอ๋องกำลังยิ้มหรือ... เป็นไปได้อย่างไร

................................................

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทสุดท้าย (จบ) เจ้าสำคัญที่สุด

    เมื่อกู้อิงโม่อุ้มเสวี่ยชิงเยี่ยนกลับเข้าเรือนไปแล้ว เมิ่งหว่านชิงก็เชิญหยางเทียนอี้ไปที่ศาลาด้านข้าง เพียงแต่เดินมาได้ไม่ไกลร่างเล็กก็ถูกโอบอุ้มจนตัวลอยจากพื้น “ฝ่าบาทจะทรงทำอะไรเพคะ” “ข้าเองก็หวาดกลัว อยากกลับเข้าห้องให้เจ้าปลอบโยนเช่นกัน” ได้ยินคนสูงศักดิ์ใช้อุบายเดียวกับบิดาเลี้ยงเมิ่งหว่านชิงก็อดที่จะขบขันไม่ได้ ก่อนจะสบตาเอ่ยถามสีหน้าจริงจัง “พระองค์ทำเช่นนี้คุ้มแล้วหรือเพคะ” “หากเจ้าหมายถึงเรื่องสละบัลลังก์ ตั้งแต่ต้นข้าก็ไม่เคยต้องการ” “เช่นนั้นพระองค์ต้องการอะไรกันพคะ” “ต้องการเป็นสวามีเพียงคนเดียวของเจ้า” ริมฝีปากบางยกยิ้มขบขันในทันทีที่ได้ยินความต้องการของคนตัวโต หากแต่หยางเทียนอี้กลับขมวดคิ้วแน่นด้วยท่าทีไม่ยินยอม “ชิงชิง ข้าไม่ยอมเป็นอนุหรอกนะ” คิ้วเล็กขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัยตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่นางบอกว่าจะให้เขาเป็นอนุชาย แต่เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ ความสงสัยก็คลายออกในทันที “ท่านแม่ของข้าเพียงแค่เอาคืนความเจ้าเล่ห์ร้ายกาจของท่านอารองกู้เท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจให้เขาเป็นอนุจริงๆ” “ถึงอย่างไรข้าก็ไม่ยินดี ชีวิตนี้ข้าจะมีเพียงเจ้าเป็นภรรยา และก็ไม่ยินยอม

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทสุดท้าย(1) เจ้าสำคัญที่สุด

    หลังจากเดินออกจากท้องพระโรงหยางเทียนอี้ก็กลับไปที่ตำหนักส่วนพระองค์ บรรดาขุนนางต่างเดือดดาลและคิดว่าอย่างไรเสียเขาก็ต้องกลับมาขอร้องและยอมรับข้อเสนอของพวกตน จะมีบุรุษใดไม่รักอำนาจ ไม่ปรารถนาเป็นผู้นั่งบนบัลลังก์มังกร ดังนั้นพวกเขาแค่อดทนรออีกไม่กี่วันก็จะสามารถควบคุมหยางเทียนอี้เอาไว้ในฝ่ามือได้ เพียงแต่สิ่งที่เหล่าขุนนางคิดไม่ถึงก็คือ ตะวันไม่ทันตกดินหยางเทียนอี้ก็นำกำลังส่วนตัวควบม้าออกจากประตูเมืองตะวันออก"เกิดอะไรขึ้น นั่นไม่ใช่ฝ่าบาทของพวกเราหรือ เหตุใดพระองค์จึงออกจากเมืองอย่างกะทันหันเช่นนี้เล่า""เจ้าไม่รู้หรือไร เมื่อเช้านี้พวกขุนนางบีบบังคับให้ฝ่าบาทแต่งตั้งบุตรสาวของตนเองเป็นฮองเฮาและนางสนม พระองค์ไม่ยินยอมเป็นเครื่องมืออำนาจให้คนพวกนั้นจึงได้สละราชบัลลังก์แล้ว""สละราชบัลลังก์! เช่นนี้ต้าเซี่ยของพวกเราจะทำอย่างไร"เพียงสามวันข่าวลือเรื่องขุนนางบีบบังคับฮ่องเต้จนต้องสละราชบัลลังก์ลี้ภัยออกจากเมืองก็ถูกเล่าลือไปทั่วต้าเซี่ย ชาวเมืองต่างวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา ถึงกระทั่งบางคนยังไปรวมกลุ่มกันที่หน้าประตูจวนของขุนนางเพื่อตะโกนด่าทอและสาบแช่ง ทั่วทั้งเมืองหลวงวุ่ยวายเกิดจลาจลกล

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 20.4 ตัดความสัมพันธ์

    องค์ฮ่องเต้หยางเทียนจงได้ยินว่ารุ่ยอ๋องกลับเข้าเมืองมาช่วยเมิ่งหว่านชิงก็หัวเราะเสียงดังก้องอย่างพึงพอใจ น้องชายของเขาผู้นี้เก่งกาจทั้งบุ๋นบู๊ แต่กลับเป็นเพียงบุรุษอ่อนแอ ปล่อยให้สตรีนางหนึ่งควบคุมจิตใจ หนีออกไปได้แล้วอย่างไร เขาแค่ใช้แผนการเล็กๆ น้อยๆ ล่อสตรีแซ่เมิ่งผู้นั้นเข้ามา น้องชายผู้โง่เขลาก็วิ่งกลับมาติดกับเช่นเดิม "บัลลังก์นี้เป็นของข้า ใครก็ไม่สามารถมาแย่งชิงไปได้" กล่าวจบหยางเทียนจงก็เดินผ่านประตูข้างตรงไปยังท้องพระโรง มองเก้าอี้บัลลังก์มังกรด้วยสายตาแดงก่ำ ทั้งยินดี แล้วเศร้าหมองไปพร้อมๆ กัน ภาพในวันวานสะท้อนกลับมาในความทรงจำ ครั้งหนึ่งเบื้องหน้าบนเก้าอี้มังกรตัวนี้เคยมีบิดานั่งอย่างสง่า เก้าอี้หงส์ด้านข้างก็มีมารดาผู้งดงามนั่งเคียงข้าง ทอดสายตารักใคร่อ่อนโยนมองดูเขาและหยางเทียนอี้วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน ริมฝีปากคลี่ยิ้มกว้างอ่อนโยนมองไปที่พื้นกลางห้องโถง "เสด็จพี่อุ้มๆ ข้าเจ็บ" เสียงของหยางเทียนอี้ในวัยเยาว์ยามหกล้มร้องขอให้เขาโอบอุ้มยังคงชัดเจนในความทรงจำ เพียงแต่เมื่อหลับตาลงและลืมขึ้นอีกครั้งทุกอย่างก็ล้วนจางหายเหลือเพียงห้องโถงที่ว่างเปล่าโดดเดี่ยว โดดเดี่ยวแล้ว

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 20.3 ตัดความสัมพันธ์

    "นี่ไม่ใช่รุ่ยอ๋อง!"ทหารที่วิ่งนำทางเข้ามาในคุกหลวงร้องบอก เมิ่งหว่านชิงขมวดคิ้วแน่นไม่คิดว่านางวางแผนการอย่างรัดกุมถึงเพียงนี้กลับยังพลาดท่าให้กับฮ่องเต้ทรราช ดังนั้นจึงรีบสั่งให้คนของตนรีบถอยออกในทันที เพียงแต่ให้นางดำเนินการรวดเร็วมากมายเพียงใด ก็ยังคงช้ากว่าคนวางแผนการ ยามเมื่อออกพ้นประตูคุกหลวงมาก็พบว่าเบื้องหน้าถูกล้อมด้วยทหารจำนวนมาก อีกทั้งคนที่นำทหารมาจับกุมตนยังเป็น..."เกาอู๋ฮั่น!!"มือเรียวกำเข้าหากันแน่น ในชาติก่อนหลังสงครามเมืองประจิมเสร็จสิ้น นางกลับเมืองหลวงก็ถูกเขาลอบวางแผนจับตัวและสังหารอย่างโหดเหี้ยม ไม่คิดว่าในชาตินี้เหตุการณ์ก็ยังคงวนมาให้นางถูกเขาจับกุมอีกเช่นเคย"ฮูหยินคนเก่งของข้า สามีมารับกลับจวนแล้ว""ผู้ใดเป็นฮูหยินของเจ้ากัน!!"เมิ่งหว่านชิงโต้กลับเสียงแข็งกร้าวดุดัน ยิ่งคิดถึงเรื่องราวในชาติก่อน สายตาคมเรียวก็มองชายตรงหน้าด้วยความคับแค้นใจ"เมิ่งหว่านชิง เจ้าใช้สถานะฮูหยินของข้าทูลขอตรานำทัพจากฝ่าบาท เท็จทูลเอาความดีความชอบใส่ตน กล่าวหาว่าข้าเป็นคนไร้ความรับผิดชอบหนีทัพ หากไม่เพราะฮ่องเต้ทรงปรีชาและเชื่อใจตระกูลเกาตอนนี้ตระกูลเกาของข้าถูกประหารทั้งตระกูล

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 20.2 ตัดความสัมพันธ์

    เหตุการณ์รุ่ยอ๋องสังหารเหอไทเฮาแพร่กระจายไปทั่วทั้งแคว้นต้าเซี่ย เมิ่งหว่านชิงที่ได้รับข่าวขบกรามแน่น ตั้งแต่ต้นตัวนางก็ไม่ไว้ใจองค์ฮ่องเต้อยู่แล้ว หากแต่ไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะใช้แผนการใส่ความร้ายแรงเช่นนี้ "ท่านแม่ทัพไม่ทราบว่าท่านเรียกประชุมด่วนเช่นนี้มีเรื่องอันใดหรือขอรับ"รองแม่ทัพฉาง ที่ตอนนี้ยอมรับในตัวเมิ่งหว่านชิงแล้วเอ่ยถามด้วยความเคารพ หญิงสาวจึงหยิบป้ายบัญชาการทหารออกมาวางลงบนโต๊ะเบื้องหน้า สร้างความตื่นตกใจให้กับทุกคนเป็นอย่างยิ่งคืนป้ายบัญชาการ นี่ไม่เท่ากับนางกำลังถอนตัวจากกองทัพหรือ"ท่านแม่ทัพ นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร"รองแม่ทัพตงเอ่ยถามด้วยความร้อนรน ก่อนหน้านี้เขายอมรับว่าดูแคลนที่นางเป็นสตรี แต่หลังจากได้ร่วมทัพแม้เป็นระยะเวลาสั้นๆ กลับทำให้เขานับถือนางจากใจจริง“ข้ามีบางเรื่องต้องจัดการ ตำแหน่งแม่ทัพนี้จึงไม่อาจรับผิดชอบได้อีก"เพราะตัดสินใจที่จะเข้าเมืองไปช่วยหยางเทียนอี้ ดังนั้นเมิ่งหว่านชิงจึงไม่อาจครองตำแหน่งแม่ทัพนี้เอาไว้ได้ ดวงตาเรียวหันไปทางเซี่ยหลิงซางก่อนจะมอบจี้หยกประจำตระกูลเมิ่งและป้ายบัญชาการกองทัพบูรพาให้กับเขา"พี่ชายหลิงซาง ต่อจากนี้ขอฝากกองกำลั

  • ชาตินี้ข้าไม่ขอเป็นสตรีตัวแทน   บทที่ 20.1 ตัดความสัมพันธ์

    “ไทเฮาเสด็จ!”เสียงรายงานดังมาจากด้านหน้าตำหนักรับรอง หยางอี้เทียนขมวดคิ้วหนา แน่นอนว่าเขาในฐานะอดีตองค์ชายการพบปะกับไทเฮานั้นเป็นเรื่องปกติ ทว่าก่อนหน้านี้เขาเป็นคนสั่งการลงทัณฑ์สังหารต้วนอ๋อง พระโอรสเพียงหนึ่งเดียวของเหอไทเฮา แน่นอนว่าด้วยเหตุและผลการพบปะครั้งนี้นับว่าเป็นเรื่องไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องวุ่นวายในภายหลัง รุ่ยอ๋องจึงให้คนออกไปปฏิเสธการเข้าพบของเหอไทเฮา“ไปทูลไทเฮาว่าข้าไม่สะดวกพบพระองค์”สายตาคมมองบรรดาขันทีนางกำนัลที่ถูกส่งมายืนนิ่งไม่ไหวติง ก็เข้าใจอย่างชัดเจนว่านี่ต้องเป็นแผนการยืมมือฆ่าคนแน่ๆ และเป็นเช่นที่เขาคาดการณ์ เมื่อประตูตำหนักรับรองถูกเปิดออก ร่างของสตรีในชุดสูงศักดิ์ปรากฏอยู่เบื้องหน้า“ไทเฮามีเรื่องต้องการสนทนากับรุ่ยอ๋องตามลำพัง พวกกระหม่อมไม่ขออยู่รบกวน ทูลลาพ่ะย่ะค่ะ”พูดจบคนทั้งหมดก็ออกไปยืนที่ด้านนอกตำหนัก ปากบอกว่าไม่ต้องการรบกวน แต่การกระทำชัดเจนว่าเป็นการควบคุมให้คนทั้งสองอยู่ร่วมกันในตำหนัก“ถวายพระพรไทเฮา”“เจ้าสังหารลูกของข้ายังต้องมาเสแสร้งต่อหน้าข้าอีกทำไมกัน”เหอไทเฮากัดฟันเอ่ยเสียงสั่น สองแก้มอาบไปด้วยหยาดน้ำ สองตาแ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status