공유

งานแต่งงานแบบลวกๆ 2

last update 최신 업데이트: 2025-03-25 14:47:55

สวี่ซือเหยายิ้มค้าง ครั้งก่อนนางก็กล่าวเช่นนี้ไม่มีผิดเพี้ยน แต่สุดท้ายก็ยึดเอาทรัพย์สินของนางที่เป็นสินเดิมมารดาไปเป็นของส่วนตัว

 "จริงสิ เจ้าฝากสินเดิมไว้ที่ข้าเป็นอย่างไร หากเอาของไปด้วยหมดนายท่านอาจสงสัยได้ หากเขาเลิกจับตาดูคนในจวนแล้ว ข้าค่อยแอบส่งให้เจ้าทีละชิ้นสองชิ้นเป็นอย่างไร"

 หลี่หวางอี้มอบรอยยิ้มที่เป็นดั่งยาพิษเคลือบน้ำตาลให้เด็กสาวผู้นี้มาหลายปี จนตอนนี้เติบใหญ่เป็นหญิงสาวเต็มตัว สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจปลอม ๆ มาหลายปี ป่านนี้คงเชื่อฟังไปหมดทุกคำเป็นแน่ 

 อย่างไรนางก็จะถูกไล่ออกไปอยู่แล้ว ทรัพย์สินราคาแพงไม่จำเป็นสำหรับหญิงสาวสามัญชนหรอก เก็บไว้นางยังมีประโยชน์กว่า บุตรสาวของนางก็อยู่ในวัยกำลังแต่งเนื้อแต่งตัว หากไปเข้าตาคุณชายสักคนนางก็พลอยสบายไปด้วย ดังนั้นต้องทำให้บุตรสาวของนางโดดเด่นขึ้นมา และเงินก็เป็นสิ่งจำเป็นอย่างช่วยไม่ได้

 "นั่นเป็นความคิดที่ดีมากเจ้าค่ะ" สวี่ซือเหยายิ้มกว้างตอบ หลังสตรีผู้นั้นกลับไปก็มีบ่าวผู้หนึ่งนำของที่ต้องการมาให้ สตรีผู้นี้เคยเป็นผู้ดีตกยาก ตระกูลล้มละลาย และกลายเป็นสาวใช้ในจวน เป็นเพียงไม่กี่คนที่พอจะปฏิบัติต่อนางอย่างไม่ลำเอียงอยู่บ้าง อาจเพราะฉางเหลียนผ่านความทุกข์ยากมาหลายปี ทำให้นางฉลาดพอที่จะแยกได้ว่าใครเป็นคนดี และใครที่ไม่สามารถล่วงเกินได้ เสียแต่ว่าชาติก่อนนางโง่เขลามองไม่เห็นความดีที่ผู้อื่นหยิบยื่นให้

 "คุณหนูต้องการปิ่นนี้หรือเจ้าคะ?" สวี่ซือเหยาก้มมองของในหีบใบเล็กที่ฉางเหลียนนำมา นางจับสำรวจดูสัมผัสมันทุกชิ้น ไม่มีชิ้นไหนถูกสับเปลี่ยนไป อาจเพราะหลี่หวางอี้มั่นใจว่าของเหล่านี้จะต้องตกเป็นของนางจึงไม่ได้ยื่นมาสับเปลี่ยนออกไป

 "ใช่แล้ว ข้ามีเรื่องไหว้วานเจ้าหน่อยได้หรือไม่"

 "อะไรหรือเจ้าคะ"

 "นอกเขตกำแพงเมือง ข้างลำธารจะมีต้นพลับต้นใหญ่ นำหีบสองใบนี้ไปฝังไว้ใกล้ ๆ รากมันให้ข้าที"

 "คุณหนูคิดจะ…" ฉางเหลียนมองคุณหนูใหญ่ด้วยความตกใจ ไม่คิดว่านางจะมีความคิดเป็นของตัวเองเช่นนี้ เพราะตลอดหลายปีมานี้นางเห็นคุณหนูทำตามคำสั่งของฮูหยินรองมาโดยตลอด 

 "ของเหล่านี้เป็นสินเดิมของท่านแม่ ข้าไม่ยอมให้คนอื่นเอาไปหรอก" สวี่ซือเหยาเงยหน้ามองสบตากับสาวใช้อย่างจริงจัง คนในจวนนี้แทบจะไว้ใจใครไม่ได้แต่ฉางเหลียนเป็นคนที่ท่านแม่ของนางเคยช่วยชีวิตไว้นางเชื่อว่าจะไม่ถูกหักหลังเพราะอดีตฉางเหลียนก็เคยเอ่ยเตือนนางทางอ้อมหลายครั้งแล้ว แต่เป็นนางที่โง่งมเอง

 "เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ" ฉางเหลียนรับคำอย่างหนักแน่น ก่อนจะครุ่นคิดหาวิธีนำของเหล่านี้ออกจากจวนไปโดยที่ไม่มีใครรู้เห็น และคงต้องทำในช่วงกลางคืนเท่านั้น 

 "ของในหีบใบหญ้า หากเจ้าได้ออกไปซื้อของก็จงนำติดตัวไปขายวันละสามชิ้น ข้าจะแบ่งค่าตอบแทนให้"

 "ทราบแล้วเจ้าค่ะ ข้าขอตัวก่อน คุณหนูรักษาตัวด้วย"

 สวี่ซือเหยามองตามร่างของสาวใช้ไปด้วยความคาดหวังว่านางจะทำสำเร็จ ถึงหัวหน้าตระกูลจะบัดซบ แต่คนที่ไม่ได้เห็นผิดเป็นชอบก็หลงเหลืออยู่ให้นางได้หายใจหายคอคล่องบ้าง

 ตลอดหลายวันมานี้ฉางเหลียนคอยแอบนำตั๋วเงินมาส่งให้นางในตอนที่ต้องยกสำรับมา หากเวลาใดฮูหยินรองอาสามาเอง สาวใช้คนนั้นก็จะแอบมาที่นี่กลางดึก จนเปลี่ยนของเป็นเงินได้ประมาณหนึ่ง สวี่ซือเหยาก็บอกให้หยุด ไม่เช่นนั้นฮูหยินรองอาจสงสัยได้ ของที่ไม่มีราคาค่างวดอะไรจำต้องฝากไว้ที่หลี่หวางอี้อย่างช่วยไม่ได้ หากมีโอกาสนางจะกลับมาทวงคืนแน่

 และแล้ววันถูกปล่อยตัวก็มาถึง แต่ระยะเวลาเจ็ดวันมานี้นางได้วางแผนทำอะไรหลายอย่าง ซึ่งมีฉางเหลียนคอยช่วยเหลือ แม้จะถูกปล่อยตัวมานางก็ยังถูกสั่งกักบริเวณ แต่บ่าวบางคนทำราวกับนางเป็นนักโทษก็ไม่ปาน สวี่ซือเหยาสมเพชคนเหล่านี้มากกว่าเห็นใจ คิดว่าสกุลสวี่จะคุ้มกะลาหัวได้ตลอดหรือ หากไม่แยกแยะเสียบ้าง ภายหน้าต้องลำบากเพราะการกระทำของตนแน่

 "เปลี่ยนเสื้อผ้าเจ้าค่ะคุณหนู" สาวใช้คนนั้นบอกแล้วออกไปไม่อยู่ช่วย

 สวี่ซือเหยามองชุดสำหรับพิธีมงคลแล้วก็ถอนใจ นางแต่งกายและทำผมด้วยตัวเองอย่างเรียบง่าย กาลก่อนคิดว่าอย่างน้อยตบแต่งไปก็ยังได้อยู่ในเรือนจึงไม่ได้นำอะไรติดตัวออกไปด้วย ใครจะนึกเล่าว่าหลังพิธีกราบไหว้ฟ้าดินแล้วเสร็จ ท่านพ่อก็ขับไล่ไสส่งนางในทันที

 

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ชาติใหม่ข้าจะไม่หวนคืนชะตาเดิม   บทส่งท้าย ครอบครัวพร้อมหน้า ไม่หวนคืนชะตาเดิม...

    พระชายาทำสีหน้าประหลาดใจอยู่เพียงครู่เดียว ก็กลับไปทำสีหน้าอ่อนโยนเช่นปกติของนาง หลายปีที่บุตรชายพลัดพรากไปนั้นจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นบ้างก็ไม่แปลกอะไรเลย นางเคยส่งคนไปตามสืบความเป็นอยู่ในอดีตของเขาแต่ก็รู้เพียงว่าเขาเป็นคนของสำนักคุ้มภัยมาเท่านั้น จึงไม่ได้ใส่ใจสืบหาลึกไปกว่านี้ อีกทั้งบุตรชายก็ไม่มีท่าทีอยากจะตามหาอดีตแม้จะดูเหมือนคนใจลอยอยู่ตลอดเวลาก็ตาม นางลืมคิดไปว่าบุตรชายไม่ได้เติบโตมาด้วยการเลี้ยงดูของนางหรือสามี อาจเป็นคนอ่อนโยนหรือหัวอ่อนกว่าที่คิดก็เป็นได้ ใสซื่อเสียจนไม่น่าเชื่อว่ามีภรรยาแล้ว บุตรชายได้ความซื่อบื้อของสามีนางมากไปจริง ๆ ตัวนางก็ผิดเองที่ไม่รอบคอบสืบหาให้จริงจัง "จำได้หมดแล้วจริง ๆ ใช่หรือไม่" คนพึ่งได้ความทรงจำกลับมาพยักหน้าหงึก ๆ "มาคุยกับแม่ก่อน เป็นคุณหนูบ้านไหน สตรีบ้านใดเล่า" โจวเยี่ยนเฉินเล่าให้มารดาฟังตั้งแต่ต้น รวมถึงเรื่องที่ถูกบ้านเดิมภรรยาปฏิบัติไม่ดีด้วยใส่ทั้งเขาและนาง ฮูหยินอาวุโสจำชื่อตระกูลนี้ได้อย่างแม่นยำเพราะพึ่งมีประกาศลงโทษไปเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง "เจ้าก็พักก่อนเถอะ แม่จะไปคุยกับพ่อให้เอง" นางกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังให้เขาวางใจ

  • ชาติใหม่ข้าจะไม่หวนคืนชะตาเดิม   ฟื้นความทรงจำ 2

    สวี่ซือเหยาทำสีหน้าประหลาดใจ ไม่คิดว่าใครจะมีธุระที่ต้องมาหาถึงจวนพี่ชาย นางกับแม่ทัพจ้าวเจี้ยนไม่ได้เปิดเผยออกไปอย่างสาธารณะว่าเป็นพี่น้องกัน แต่ก็ไม่ได้ปิดบังเช่นกัน แต่ว่านางไม่สนิทชิดเชื้อกับคนในเมืองหลวงเลย อีกทั้งนางได้หวนคืนกลับมาความทรงจำบางอย่างก็ลืมเลือนไป ทำให้ไม่ได้สานความสัมพันธ์กับใครไว้ แต่ว่าใครมาหาก็คงไม่สำคัญเพราะอีกไม่นานสวี่ซือเหยาก็ต้องกลับไปดูแลกิจการที่เมืองเกิดมารดา และที่นั่นทำให้นางรู้สึกมีความสุขกว่าเมืองหลวงที่วุ่นวาย และคงมาเยี่ยมพี่ชายได้นาน ๆ ครั้งเท่านั้น จึงไม่ได้ให้สถานที่ติดต่อใครไว้เลย เมื่อนางจะเดินไปแต่พบว่าพี่ชายไม่ได้เดินตามจึงหันมาถาม "ไม่ไปด้วยกันหรือเจ้าคะ?" "ไม่ไปหรอก แขกของเจ้านี่นา" ไม่รู้พี่ชายท่านนี้ตั้งใจกวนประสาทอะไรนางอีก ในเมื่อตั้งใจให้นางไปลำพังนางก็คงต้องไปลำพัง สวี่ซือเหยาเดินมาถึงเรือนกลาง ในห้องรับรองนั้นมีใครบางคนรอนางอยู่ เห็นเพียงแผ่นหลังกว้างและลายปักประณีตบนชุดเนื้อผ้าชั้นดี "คุณชายท่านนี้มีธุระกับข้าหรือเจ้าคะ" นางเอ่ยทักทายอีกฝ่ายไป แขกผู้นั้นหันมาตามเสียงเรียก สวี่ซือเหยาชะงักนิ่งหลังเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร โจวเยี่

  • ชาติใหม่ข้าจะไม่หวนคืนชะตาเดิม   ฟื้นความทรงจำ 1

    ค่ำคืนแห่งงานเลี้ยงจบลง โจวเยี่ยนเฉินกลับถึงจวนก็เข้านอนด้วยความอ่อนเพลียเล็กน้อย เสียงสตรีที่สวมผ้าคลุมหน้าที่ได้ยินวันนี้ แม้สนทนากันไม่กี่ประโยค แต่ก็คุ้นหูนัก เมื่อหนึ่งปีก่อนเขาฟื้นขึ้นมาโดยที่จำอะไรไม่ได้เลย นอกจากชื่อตัวเอง รู้เพียงว่าพลัดพรากจากพ่อแม่แท้ ๆ มานานหลายปี มีคนไปพบเขาหมดสติอยู่ป่า เนื้อตัวเปรอะเปื้อนและบาดเจ็บหนัก เห็นว่าหน้าตามีความคล้ายคลึงผู้เป็นนายจึงช่วยเหลือไว้ก่อน โจวเยี่ยนเฉินใช้เวลาหนึ่งปีหลังจากนั้นด้วยความรู้สึกเหมือนคนที่ไม่ถูกเติมเต็ม ไม่ว่าในหัวของเขาหรือในใจของเขาล้วนมีช่องว่างบางอย่างที่ไม่สามารถกลบได้ คืนนั้นชายหนุ่มเข้าสู่ห้วงฝันด้วยภาพของสตรีที่ได้พบกันในงานแล้วสลัดออกไปจากหัวไม่ได้ เมฆหมอกบริเวณโดยรอบนั้นหนาตา แต่ภาพตรงหน้ากับชัดเจน บ้านหลังใหญ่โตหลังหนึ่งอย่างผู้มีอันจะกินอยู่อาศัยมีส่วนเล็ก ๆ โดยรอบ หรือบางทีอาจใหญ่กว่านั้นแต่ถูกกำแพงหมอกหนากลืนกินเข้ามา สตรีผู้หนึ่งอุ้มเด็กชายคนหนึ่งไว้ยิ้มร่าหัวเราะ ข้าง ๆ กันนั้นมีเด็กชายอีกคนที่ดูโตกว่าวิ่งวนไปรอบ ๆ นาง จวิ้นอ๋องคล้ายว่าสวมบทบาทเป็นคนในภาพความฝันนี้ ตัวเขายิ้มออกมาตัวที่ห้ามไม่ได้ หัว

  • ชาติใหม่ข้าจะไม่หวนคืนชะตาเดิม   สามีความจำเสื่อม 2

    บิดาของเขายังไม่ได้เร่งรัดหาคู่หมั้นหมายให้ เพราะเห็นว่าบุตรชายคนโตพึ่งได้กลับมาสู่ฐานะที่แท้จริง ยังต้องปรับตัวตามขนบวังหลวงและฐานะใหม่อีกหลายอย่าง ซึ่งสวี่ตงหวนก็ยินดีที่มันเป็นเช่นนั้น เพราะหากน้องเขยเกิดมีสตรีอื่นขึ้นมา เขาคงได้กลายร่างเป็นแม่ทัพมารเป็นแน่ บุรุษร่างกำยำควงดาบเล่นพลางวางแผนอยู่ในหัว น้องสาวตนยังมีเยื่อใยต่อสามี หากทำให้พบกันได้อาจช่วยกระตุ้นความทรงจำให้กลับมา ความประทับใจแรกก็สำคัญ แม้จะเป็นครั้งแรกไม่จริงก็ตาม เอาเถอะ ไม่คณามือข้าหรอก แม่ทัพจ้าวเจี้ยนวิ่งวุ่นอยู่กับการวางแผนจนไม่ได้มาหาน้องสาวกับหลาน ๆ เสียหลายวัน กว่าเขาจะมาพบอีกครั้งได้ เทียบเชิญก็อยู่ในมือสวี่ซือเหยาแล้ว "ตอนนี้ข้าเป็นสามัญชน เข้าไปได้หรือเจ้าคะ" นางเอียงคอถาม มองเทียบเชิญที่วางอยู่ตรงหน้าอย่างไม่แน่ใจ "ไปในฐานะคู่เต้นรำของข้า ไม่เป็นไรหรอก องค์ชายสามยังวิงวอนให้น้องสาวช่วยเป็นคู่ให้เลย" "…ก็พวกเขายังไม่ออกเรือนกันอยู่สองคนนี่เจ้าคะ" นางตอบด้วยสีหน้ามืดมน การหาคู่ควงไปงานเต้นรำหรืองานฉลองในพระราชฐานชั้นนอก หากคู่สามีภรรยาไม่สะดวกไปร่วมงานก็มักพาเครือญาติหรือเพื่อนฝูงไปด้วยแทน ซึ่งส่วนใหญ

  • ชาติใหม่ข้าจะไม่หวนคืนชะตาเดิม   สามีความจำเสื่อม 1

    "เสี่ยวเหยา?" สวี่ตงหวนเอ่ยเรียก เห็นสีหน้านางไม่สู้ดี "ข้าไม่เป็นไร กินต่อเถอะ" นางปรับสีหน้าเรียบเฉยดังเดิมแม้จะรู้สึกร้อน ๆ ที่กระบอกตา เจิ้นหว่านคิดว่าน้องสาวผู้นี้คงตกใจที่อยู่ ๆ ก็ถูกคนแปลกหน้าเข้ามาทัก จึงอธิบายให้ฟังว่าเขาเหล่านั้นเป็นใคร "แม่นางอย่าได้กังวลไป แม้จวิ้นอ๋องจะพึ่งได้รับพระราชทานตำแหน่งมา ก็ไม่บ้าอำนาจเหมือนใครแถวนี้หรอก" สวี่ตงหวนยื่นขาไปเตะหลังเก้าดังปัง แต่คนนั่งอยู่ก็ไม่สะดุ้งสะเทือน "ท่านอ๋องน้อยอาจมีท่าทีเงอะงะไปบ้าง เพราะพึ่งคืนตระกูลเดิมได้ไม่ถึงสองปี ก่อนหน้านี้ก็ไปรบที่ชายแดนใต้มาด้วย ได้รับความดีความชอบพอ ๆ กับพี่เจ้าเลย" "คืนตระกูลเดิมหรือเจ้าคะ?" "บุตรชายฉินอ๋องพลัดพรากไปตั้งแต่ยังเป็นทารกจากเหตุลอบสังหารเมื่อครั้งนั้น ท่านอ๋องตามหาจนหมดหวังแล้ว แต่อยู่ก็มีคนพากลับมา ทำความดีความชอบไว้ก็ได้เลื่อนขั้นทันทีเลย" "เช่นนี้เอง..." ดวงตาของสวี่ซือเหยาร้อนผ่าน นางคิดถึงเขามากเกินกว่าจะพูดออกมาได้ อยากเข้าไปกอดให้หายคิดถึง แต่ก็อย่างที่ปรารถนาไม่ได้สักอย่างเดียว นางไม่เข้าใจด้วยว่าทำไมเขาจึงเมยเฉยเช่นนี้ ไม่รู้ตัวว่ามีนางอยู่ที่นี่เลยหรือ ความรู้สึกน

  • ชาติใหม่ข้าจะไม่หวนคืนชะตาเดิม   พบสามีอีกครั้ง...

    หลายวันต่อมาก็มีประกาศใหญ่โตถึงเรื่องลงโทษขุนนางทำผิดหลายราย ตอนได้ยินพี่ชายพูดว่าเดี๋ยวจัดการเองนางก็สงสัยอยู่ว่าจะทำอย่างไร ตอนนี้ข่าวมาถึงหูนางแล้วว่าฮ่องเต้ทรงริบยศขุนนางของสวี่ซูหยางและขุนนางชั้นผู้น้อยอีกหลายคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เรียกคืนจวนพระราชทาน พบความผิดนำของหลวงไปขาย นำป้ายหยกประจำตำแหน่งไปจำนำ ฉ้อโกงเงินบำนาญข้าราชการชั้นผู้น้อย แค่ที่กล่าวมานี้ก็ต้องโทษประหารได้แล้ว แต่ฝ่าบาทยังมีเมตตาสั่งเนรเทศไปนอกแคว้น จากขุนนางผู้มั่งคั่งถือดี วันนี้ไม่เหลืออะไรเลยสักอย่าง หลักฐานทั้งหมดพี่ชายของนางล้วนสืบเสาะหามา ยื่นเรื่องถึงฝ่าบาทด้วยตัวเอง และยังข้อหาเล็กน้อยอีกมากที่ฟังดูไร้สาระ แต่บิดาของนางกับฮูหยินรองก็ได้ละเมิดทำไปจริง ๆ มิน่าเล่า ถึงเป็นตัวร้ายที่ไล่ต้อนพระเอกจนจนมุมเสียหลายครา รุ่งขึ้นพี่ชายก็มาพบนางอีกครั้งในยามสาย โอ้อวดความดีความชอบให้น้องสาวอย่างนางฟัง หากไม่ได้พบกับครอบครัวน้าชาย สวี่ตงหวนก็เหมือนมีน้องสาวเป็นญาติที่เหลือเพียงคนเดียว แต่อยู่ ๆ ครอบครัวก็ใหญ่ขึ้นมาโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว แล้วจะไม่ให้เขาออกหน้าปกป้องได้อย่างไร "มัวแต่ระลึกความหลังกันเรื่อยเปื่อ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status