แชร์

ถูกขับไล่ออกจากจวน 1

ผู้เขียน: พิมพ์สีทอง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-27 22:04:28

สตรีผู้ได้ข้ามภพชาติมาหนึ่งครั้ง นำเครื่องประดับส่วนตัวบางชิ้นยัดใส่อกเสื้อเท่าที่นำไปด้วยได้ ช่วงแรกของการตั้งตัวอย่างไรก็ต้องใช้เงิน ต่อให้นางจะกลับมาทวงคืนภายหลังก็อีกพักใหญ่ หลังดึงผ้าคลุมหน้าลงแล้วเปิดประตูออกมา ก็เห็นบ่าวสองคนรออยู่เพื่อนำทาง บ่าวในเรือนยังทำงานไปตามเดิมเสมือนวันนี้ไม่ได้มีพิธีสำคัญอะไร น่าแปลกที่ชาติก่อนนางโง่เง่าถึงขนาดไม่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงนี้ไปได้ ราวกับว่าถูกสวรรค์ปิดตาให้หน้ามืดตามัวเดินในเส้นทางที่ผิด

 มาถึงลานกว้างของสวนด้านหน้าเรือนหลัก ก็ถูกสาวใช้ที่ไม่เห็นหัวดันไหล่ให้นั่งลงที่พื้นอย่างเคย ตั้งแต่มารดาเสียไป ตัวนางก็ไม่มีสาวใช้ส่วนตัวค่อยปรนนิบัติด้วยบิดาบอกว่าไม่จำเป็นตามคำยุยงของแม่เลี้ยง บ่าวไพร่ในเรือนจึงไม่มีความยำเกรงให้นาง ปลายปากกาของนักเขียนช่างน่ากลัวเหลือเกิน แต่ไม่เป็นไรชาตินี้นางรู้ตื่นและรู้แจ้งหมดแล้ว ไม่มีใครมาขีดเขียนชีวิตนางได้อีกแล้ว

 สวี่ซูหยางก้มมองบุตรสาวที่ไม่เคยได้ดั่งใจด้วยสายตาดูแคลน ตรงหน้านางคือแท่นกราบไหว้เทพพระเจ้า ข้างกายคือบุรุษที่นางเคยร่วมเตียง ไม่มีญาติฝ่ายเจ้าบ่าว เช่นนี้เป็นการไม่ให้เกียรติเจ้าสาวอย่างมาก บิดารู้ดีแต่ก็ไม่คิดเชิญด้วยไม่อยากร่วมเป็นแผ่นทองกับสามัญชนที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า ทั้งบุตรสาวยังทำงามหน้าให้เป็นที่อับอาย

บุรุษที่อยู่ข้างกายนางดูประหม่าอย่างเห็นได้ชัด เหลือบมองมาเป็นระยะแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เมื่อครั้งก่อนสวี่ซือเหยาไม่คิดแม้แต่จะชายตาแลเขาด้วยซ้ำ กลับมาครั้งนี้เหมือนถูกเปิดดวงตาให้เห็นโลกมากขึ้นอย่างไรอย่างนั้น

 "ได้ฤกษ์แล้วก็อย่าปล่อยให้เสียเวลาเปล่าเลย พวกเจ้าเริ่มกันได้แล้ว" ฮูหยินรองเข้ามาเจ้ากี้เจ้าการให้รีบคำนับฟ้าดิน บิดาไม่ยอมรับแม้แต่พิธียกน้ำชา ทำให้ชายที่อยู่ข้างกายนางถึงกับมือสั่นเทา

 ไม่รู้เขาโกรธหรือกลัว หรือไม่พอใจเรื่องใด แต่โจวเยี่ยนเฉินก็เก็บสีหน้าได้ดี ชีวิตรักชาติก่อนนางอาละวาดใส่เขาหลังย้ายที่อยู่ กว่าจะยอมรับได้ สามีก็โดนนางหลบหน้าไปแล้วหลายวัน เห็นเขาโกรธแทนเช่นนี้สวี่ซือเหยาก็ดีใจมากแล้ว สวี่ซือเหยาเริ่มพิธีก่อน เขาจึงได้สติทำตาม หลังเสร็จพิธีอันเรียบง่ายและไม่ตรงตามขนบธรรมเนียนนั้น บิดาก็ขับไล่ไสส่งนางออกมาทันที

 "ออกไปเสีย ตั้งแต่วันนี้เจ้าไม่ใช่ลูกสาวของข้า"

 "อะไรนะเจ้าคะ" แม้จะเอ่ยถามอย่างนั้นแต่นางก็ไม่ได้แปลกใจเพราะชาติก่อนก็มีเหตุการณ์เช่นนั้น ชาติก่อนนางร้องไห้โวยวายไม่ยอมรับความจริงว่าถูกขับไล่ออกจากตระกูล แต่ก็ไม่อาจขัดขืนองครักษ์เหล่านั้นได้และถูกจับโยนออกไปอย่างไร้เยื่อใย

 "ออกไปและอย่าได้กลับมาเหยียบที่นี่อีก! การวางตัวของเจ้าไม่มีอะไรสมกับตระกูลขุนนาง อยู่ไปก็ขายขี้หน้า สิ่งที่เจ้ากระทำสร้างความอับอายให้ตระกูลสวี่!" บิดาตะโกนใส่หน้านาง โยนถุงเงินเบาหวิวมาให้พร้อมย่ามใส่ผ้า

 "ท่านพ่อ อย่างน้อย…"

 "ข้าไม่อยากฟังคำแก้ตัว!"

 ข้าจะบอกว่าอย่างน้อยก็ให้ข้าเปลี่ยนเสื้อผ้า…

 เสียงในใจของนางย่อมไม่มีใครได้ยิน สามีของนางกำลังจะอ้าปากค้านก็ไม่ได้เอ่ย ถูกจับโยนออกมานอกจวนทั้งคู่เสียก่อน

 "ท่านพ่อ!" ประตูจวนปิดกระแทกหน้าเสียงดัง 

 สวี่ซือเหยากัดฟันไม่ให้หลุดกรีดร้องออกมาก่อนเพราะความโมโห ไม่รู้ว่าว่าทำไมสวี่ซูหยางถุงได้กลายเป็นคนโง่เขลา ดวงตามืดบอดมองไม่เห็นความจริงบ้างว่าในจวนนี้ใครกันแน่ที่เป็นคนชั่วร้าย นางปรับลมหายใจอยู่ครู่หนึ่งเพราะอย่างไรนี่ก็เป็นเส้นทางเดิมจากชาติก่อน ในเมื่อสวรรค์ให้นางกลับมาฉะนั้นต่อไปนี้นางจะขีดเส้นชีวิตเอง! 

 สวี่ซือเหยาเดินไปเก็บย่าม ถึงนางจะไม่ได้กังวลเรื่องใส่ชุดแดงสะดุดตานี่ออกไปนอกเมือง แต่สายตาที่มองมายามนางเดินผ่านก็น่าอึดอัดใจอยู่ดี 

 "แม่นางสวี่ เป็นอะไรหรือไม่" 

 ประตูด้านหลังจวนร้างคนสัญจร ก็มีแต่ชายผู้นี้ที่หยิบยื่นไมตรีให้ สวี่ซือเหยาเงยหน้ามองสามีตัวเองที่มีใบหน้าหล่อเหลาเหมือนสวรรค์ประทานให้ เพราะนี่เป็นพระเอกในนิยายของเรื่อง แต่ต่อไปนี้นางเอกฝันไปเถอะว่าจะได้สามีนางไปครอบครอง ต่อให้ความจำเสื่อมอีกครั้งนางจะวิ่งไปตามหาเขาถึงเมืองหลวงให้ได้ มาสู้กันสักตั้งสิ นางจะรอดูว่าการย้อนกลับมาครั้งนี้นางจะแก้ไขเนื่อเรื่องได้หรือไม่

 "ข้าไม่เป็นไร"

 "ขออภัยที่ข้าแก้ไขอะไรไม่ได้" โจวเยี่ยนเฉินเอ่ยบอกอย่างรู้สึกผิด ไม่คิดว่าคนตระกูลใหญ่จะโหดร้ายกับบุตรสาวตัวเองเช่นนี้ ใบหน้างามเต็มไปหยาดเหงื่อทว่าดวงตานางกลับทอประกายสดใสจนทำให้เขาเผลอมองอยู่หลายครั้ง

 สวี่ซือเหยาส่ายหน้า ครั้งก่อนนางโวยวายทุบตีเขาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตา แต่ครั้งนี้นางยอมรับได้อย่างใจเย็นแล้วและยังยึดมั่นว่าจะใช้ชีวิตร่วมกับเขาให้ดี ส่วนนางเอกของเรื่องนางไม่มีวันยกสามีให้เด็ดขาด ก่อนอื่นนางต้องสานสัมพันธ์สามีภรรยากับโจวเยี่ยนเฉินให้ดี และหวังว่าเขาจะรักนางจากใจจริงหาใช่ความรับผิดชอบอย่างที่ควรจะเป็น การเกี้ยวบุรุษเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับนางที่ผ่านภพชาติมาถึงสองชาติแล้ว

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ชาติใหม่ข้าจะไม่หวนคืนชะตาเดิม   บทส่งท้าย ครอบครัวพร้อมหน้า ไม่หวนคืนชะตาเดิม...

    พระชายาทำสีหน้าประหลาดใจอยู่เพียงครู่เดียว ก็กลับไปทำสีหน้าอ่อนโยนเช่นปกติของนาง หลายปีที่บุตรชายพลัดพรากไปนั้นจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นบ้างก็ไม่แปลกอะไรเลย นางเคยส่งคนไปตามสืบความเป็นอยู่ในอดีตของเขาแต่ก็รู้เพียงว่าเขาเป็นคนของสำนักคุ้มภัยมาเท่านั้น จึงไม่ได้ใส่ใจสืบหาลึกไปกว่านี้ อีกทั้งบุตรชายก็ไม่มีท่าทีอยากจะตามหาอดีตแม้จะดูเหมือนคนใจลอยอยู่ตลอดเวลาก็ตาม นางลืมคิดไปว่าบุตรชายไม่ได้เติบโตมาด้วยการเลี้ยงดูของนางหรือสามี อาจเป็นคนอ่อนโยนหรือหัวอ่อนกว่าที่คิดก็เป็นได้ ใสซื่อเสียจนไม่น่าเชื่อว่ามีภรรยาแล้ว บุตรชายได้ความซื่อบื้อของสามีนางมากไปจริง ๆ ตัวนางก็ผิดเองที่ไม่รอบคอบสืบหาให้จริงจัง "จำได้หมดแล้วจริง ๆ ใช่หรือไม่" คนพึ่งได้ความทรงจำกลับมาพยักหน้าหงึก ๆ "มาคุยกับแม่ก่อน เป็นคุณหนูบ้านไหน สตรีบ้านใดเล่า" โจวเยี่ยนเฉินเล่าให้มารดาฟังตั้งแต่ต้น รวมถึงเรื่องที่ถูกบ้านเดิมภรรยาปฏิบัติไม่ดีด้วยใส่ทั้งเขาและนาง ฮูหยินอาวุโสจำชื่อตระกูลนี้ได้อย่างแม่นยำเพราะพึ่งมีประกาศลงโทษไปเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง "เจ้าก็พักก่อนเถอะ แม่จะไปคุยกับพ่อให้เอง" นางกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังให้เขาวางใจ

  • ชาติใหม่ข้าจะไม่หวนคืนชะตาเดิม   ฟื้นความทรงจำ 2

    สวี่ซือเหยาทำสีหน้าประหลาดใจ ไม่คิดว่าใครจะมีธุระที่ต้องมาหาถึงจวนพี่ชาย นางกับแม่ทัพจ้าวเจี้ยนไม่ได้เปิดเผยออกไปอย่างสาธารณะว่าเป็นพี่น้องกัน แต่ก็ไม่ได้ปิดบังเช่นกัน แต่ว่านางไม่สนิทชิดเชื้อกับคนในเมืองหลวงเลย อีกทั้งนางได้หวนคืนกลับมาความทรงจำบางอย่างก็ลืมเลือนไป ทำให้ไม่ได้สานความสัมพันธ์กับใครไว้ แต่ว่าใครมาหาก็คงไม่สำคัญเพราะอีกไม่นานสวี่ซือเหยาก็ต้องกลับไปดูแลกิจการที่เมืองเกิดมารดา และที่นั่นทำให้นางรู้สึกมีความสุขกว่าเมืองหลวงที่วุ่นวาย และคงมาเยี่ยมพี่ชายได้นาน ๆ ครั้งเท่านั้น จึงไม่ได้ให้สถานที่ติดต่อใครไว้เลย เมื่อนางจะเดินไปแต่พบว่าพี่ชายไม่ได้เดินตามจึงหันมาถาม "ไม่ไปด้วยกันหรือเจ้าคะ?" "ไม่ไปหรอก แขกของเจ้านี่นา" ไม่รู้พี่ชายท่านนี้ตั้งใจกวนประสาทอะไรนางอีก ในเมื่อตั้งใจให้นางไปลำพังนางก็คงต้องไปลำพัง สวี่ซือเหยาเดินมาถึงเรือนกลาง ในห้องรับรองนั้นมีใครบางคนรอนางอยู่ เห็นเพียงแผ่นหลังกว้างและลายปักประณีตบนชุดเนื้อผ้าชั้นดี "คุณชายท่านนี้มีธุระกับข้าหรือเจ้าคะ" นางเอ่ยทักทายอีกฝ่ายไป แขกผู้นั้นหันมาตามเสียงเรียก สวี่ซือเหยาชะงักนิ่งหลังเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร โจวเยี่

  • ชาติใหม่ข้าจะไม่หวนคืนชะตาเดิม   ฟื้นความทรงจำ 1

    ค่ำคืนแห่งงานเลี้ยงจบลง โจวเยี่ยนเฉินกลับถึงจวนก็เข้านอนด้วยความอ่อนเพลียเล็กน้อย เสียงสตรีที่สวมผ้าคลุมหน้าที่ได้ยินวันนี้ แม้สนทนากันไม่กี่ประโยค แต่ก็คุ้นหูนัก เมื่อหนึ่งปีก่อนเขาฟื้นขึ้นมาโดยที่จำอะไรไม่ได้เลย นอกจากชื่อตัวเอง รู้เพียงว่าพลัดพรากจากพ่อแม่แท้ ๆ มานานหลายปี มีคนไปพบเขาหมดสติอยู่ป่า เนื้อตัวเปรอะเปื้อนและบาดเจ็บหนัก เห็นว่าหน้าตามีความคล้ายคลึงผู้เป็นนายจึงช่วยเหลือไว้ก่อน โจวเยี่ยนเฉินใช้เวลาหนึ่งปีหลังจากนั้นด้วยความรู้สึกเหมือนคนที่ไม่ถูกเติมเต็ม ไม่ว่าในหัวของเขาหรือในใจของเขาล้วนมีช่องว่างบางอย่างที่ไม่สามารถกลบได้ คืนนั้นชายหนุ่มเข้าสู่ห้วงฝันด้วยภาพของสตรีที่ได้พบกันในงานแล้วสลัดออกไปจากหัวไม่ได้ เมฆหมอกบริเวณโดยรอบนั้นหนาตา แต่ภาพตรงหน้ากับชัดเจน บ้านหลังใหญ่โตหลังหนึ่งอย่างผู้มีอันจะกินอยู่อาศัยมีส่วนเล็ก ๆ โดยรอบ หรือบางทีอาจใหญ่กว่านั้นแต่ถูกกำแพงหมอกหนากลืนกินเข้ามา สตรีผู้หนึ่งอุ้มเด็กชายคนหนึ่งไว้ยิ้มร่าหัวเราะ ข้าง ๆ กันนั้นมีเด็กชายอีกคนที่ดูโตกว่าวิ่งวนไปรอบ ๆ นาง จวิ้นอ๋องคล้ายว่าสวมบทบาทเป็นคนในภาพความฝันนี้ ตัวเขายิ้มออกมาตัวที่ห้ามไม่ได้ หัว

  • ชาติใหม่ข้าจะไม่หวนคืนชะตาเดิม   สามีความจำเสื่อม 2

    บิดาของเขายังไม่ได้เร่งรัดหาคู่หมั้นหมายให้ เพราะเห็นว่าบุตรชายคนโตพึ่งได้กลับมาสู่ฐานะที่แท้จริง ยังต้องปรับตัวตามขนบวังหลวงและฐานะใหม่อีกหลายอย่าง ซึ่งสวี่ตงหวนก็ยินดีที่มันเป็นเช่นนั้น เพราะหากน้องเขยเกิดมีสตรีอื่นขึ้นมา เขาคงได้กลายร่างเป็นแม่ทัพมารเป็นแน่ บุรุษร่างกำยำควงดาบเล่นพลางวางแผนอยู่ในหัว น้องสาวตนยังมีเยื่อใยต่อสามี หากทำให้พบกันได้อาจช่วยกระตุ้นความทรงจำให้กลับมา ความประทับใจแรกก็สำคัญ แม้จะเป็นครั้งแรกไม่จริงก็ตาม เอาเถอะ ไม่คณามือข้าหรอก แม่ทัพจ้าวเจี้ยนวิ่งวุ่นอยู่กับการวางแผนจนไม่ได้มาหาน้องสาวกับหลาน ๆ เสียหลายวัน กว่าเขาจะมาพบอีกครั้งได้ เทียบเชิญก็อยู่ในมือสวี่ซือเหยาแล้ว "ตอนนี้ข้าเป็นสามัญชน เข้าไปได้หรือเจ้าคะ" นางเอียงคอถาม มองเทียบเชิญที่วางอยู่ตรงหน้าอย่างไม่แน่ใจ "ไปในฐานะคู่เต้นรำของข้า ไม่เป็นไรหรอก องค์ชายสามยังวิงวอนให้น้องสาวช่วยเป็นคู่ให้เลย" "…ก็พวกเขายังไม่ออกเรือนกันอยู่สองคนนี่เจ้าคะ" นางตอบด้วยสีหน้ามืดมน การหาคู่ควงไปงานเต้นรำหรืองานฉลองในพระราชฐานชั้นนอก หากคู่สามีภรรยาไม่สะดวกไปร่วมงานก็มักพาเครือญาติหรือเพื่อนฝูงไปด้วยแทน ซึ่งส่วนใหญ

  • ชาติใหม่ข้าจะไม่หวนคืนชะตาเดิม   สามีความจำเสื่อม 1

    "เสี่ยวเหยา?" สวี่ตงหวนเอ่ยเรียก เห็นสีหน้านางไม่สู้ดี "ข้าไม่เป็นไร กินต่อเถอะ" นางปรับสีหน้าเรียบเฉยดังเดิมแม้จะรู้สึกร้อน ๆ ที่กระบอกตา เจิ้นหว่านคิดว่าน้องสาวผู้นี้คงตกใจที่อยู่ ๆ ก็ถูกคนแปลกหน้าเข้ามาทัก จึงอธิบายให้ฟังว่าเขาเหล่านั้นเป็นใคร "แม่นางอย่าได้กังวลไป แม้จวิ้นอ๋องจะพึ่งได้รับพระราชทานตำแหน่งมา ก็ไม่บ้าอำนาจเหมือนใครแถวนี้หรอก" สวี่ตงหวนยื่นขาไปเตะหลังเก้าดังปัง แต่คนนั่งอยู่ก็ไม่สะดุ้งสะเทือน "ท่านอ๋องน้อยอาจมีท่าทีเงอะงะไปบ้าง เพราะพึ่งคืนตระกูลเดิมได้ไม่ถึงสองปี ก่อนหน้านี้ก็ไปรบที่ชายแดนใต้มาด้วย ได้รับความดีความชอบพอ ๆ กับพี่เจ้าเลย" "คืนตระกูลเดิมหรือเจ้าคะ?" "บุตรชายฉินอ๋องพลัดพรากไปตั้งแต่ยังเป็นทารกจากเหตุลอบสังหารเมื่อครั้งนั้น ท่านอ๋องตามหาจนหมดหวังแล้ว แต่อยู่ก็มีคนพากลับมา ทำความดีความชอบไว้ก็ได้เลื่อนขั้นทันทีเลย" "เช่นนี้เอง..." ดวงตาของสวี่ซือเหยาร้อนผ่าน นางคิดถึงเขามากเกินกว่าจะพูดออกมาได้ อยากเข้าไปกอดให้หายคิดถึง แต่ก็อย่างที่ปรารถนาไม่ได้สักอย่างเดียว นางไม่เข้าใจด้วยว่าทำไมเขาจึงเมยเฉยเช่นนี้ ไม่รู้ตัวว่ามีนางอยู่ที่นี่เลยหรือ ความรู้สึกน

  • ชาติใหม่ข้าจะไม่หวนคืนชะตาเดิม   พบสามีอีกครั้ง...

    หลายวันต่อมาก็มีประกาศใหญ่โตถึงเรื่องลงโทษขุนนางทำผิดหลายราย ตอนได้ยินพี่ชายพูดว่าเดี๋ยวจัดการเองนางก็สงสัยอยู่ว่าจะทำอย่างไร ตอนนี้ข่าวมาถึงหูนางแล้วว่าฮ่องเต้ทรงริบยศขุนนางของสวี่ซูหยางและขุนนางชั้นผู้น้อยอีกหลายคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เรียกคืนจวนพระราชทาน พบความผิดนำของหลวงไปขาย นำป้ายหยกประจำตำแหน่งไปจำนำ ฉ้อโกงเงินบำนาญข้าราชการชั้นผู้น้อย แค่ที่กล่าวมานี้ก็ต้องโทษประหารได้แล้ว แต่ฝ่าบาทยังมีเมตตาสั่งเนรเทศไปนอกแคว้น จากขุนนางผู้มั่งคั่งถือดี วันนี้ไม่เหลืออะไรเลยสักอย่าง หลักฐานทั้งหมดพี่ชายของนางล้วนสืบเสาะหามา ยื่นเรื่องถึงฝ่าบาทด้วยตัวเอง และยังข้อหาเล็กน้อยอีกมากที่ฟังดูไร้สาระ แต่บิดาของนางกับฮูหยินรองก็ได้ละเมิดทำไปจริง ๆ มิน่าเล่า ถึงเป็นตัวร้ายที่ไล่ต้อนพระเอกจนจนมุมเสียหลายครา รุ่งขึ้นพี่ชายก็มาพบนางอีกครั้งในยามสาย โอ้อวดความดีความชอบให้น้องสาวอย่างนางฟัง หากไม่ได้พบกับครอบครัวน้าชาย สวี่ตงหวนก็เหมือนมีน้องสาวเป็นญาติที่เหลือเพียงคนเดียว แต่อยู่ ๆ ครอบครัวก็ใหญ่ขึ้นมาโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว แล้วจะไม่ให้เขาออกหน้าปกป้องได้อย่างไร "มัวแต่ระลึกความหลังกันเรื่อยเปื่อ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status