Share

เริ่มต้นชีวิตใหม่ 1

last update Last Updated: 2025-06-19 16:00:38

“พวกนางคุยกันถูกคอ แม่นางหงเหงาปากมาหลายปีไม่มีเพื่อนคุย พอสบายใจจากเรื่องก่อนหน้านี้พวกเขาก็เดินตลาดเที่ยวไม่หยุดเลย สนิทกันกว่าก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ”

“ท่านพ่อก็เลยกลายเป็นวิญญาณตามติดท่านแม่และไม่มีใครสนใจสินะเจ้าคะ”

จางชิงผิงโดนบุตรสาวโจมตีทางวาจาแทบกระอักเลือด

“จิงเอ๋อร์ ปากคอเจ้าเราะรายขึ้นหรือเปล่า”

“เปล่านี่เจ้าคะ ข้าปากร้ายมาตั้งนานแล้ว แค่ใช้กับคนอื่นไม่ใช่คนในครอบครัว”

ถือว่าข้าโชคดีที่เป็นพ่อเจ้าใช่ไหม แต่เมื่อกี้เจ้าก็เพิ่งจี้ใจดำพ่อตัวเองนะ

หลังจากซื้อเครื่องเรือนและจัดวางเรียบร้อยก็ได้เวลาเข้าอยู่อย่างเป็นทางการ ท่านแม่พอใจบ้านที่พวกนางดูให้มากไม่มีจุดไหนน่าตำหนิเลย อาจเพราะพึ่งผ่านเรื่องยากลำบากกันมา ตอนนี้อะไรที่ดีกว่าก็ได้ทั้งนั้น

ทั้งที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินจัดการเรียบร้อยหมดแล้ว ตอนนี้พวกเขาเป็นพลเมืองชั่วคราวของแคว้นหนาน หลังจากสองสกุลตั้งตัวใหม่ได้ไม่นานก็มีข่าวว่าแคว้นเล่อกับแคว้นฉู่จะทำสงครามกัน ทหารหลายหมื่นนายประชิดกำแพงเมืองของแคว้นเล่อแล้วด้วยซ้ำ ถ้าการ

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ชายพิการผู้นั้น ที่ใครไม่เห็นค่า นางจะเป็นภรรยาของเขาเอง   งานประกวดพืชผล 1

    “ลูกหมายถึงสัตว์แกะสลักพวกนั้นหรือ”เขาทำหน้าผิดหวัง “ไม่ใช่ของกินหรือขอรับ”“หากหลินเอ๋อร์อยากได้ของที่ปั้นเป็นรูปสัตว์ แม่จะซื้อน้ำตาลปั้นให้เจ้าก็ได้ แต่ได้แค่อีกชิ้นเดียวนะ วันนี้กินมากเกินไปแล้ว”“ขอรับ ข้าอยากได้น้ำตาลปั้น” เขาพูดด้วยเสียงที่ยังออกตัวพยัญชนะบางตัวไม่ชัด แต่แค่นี้พ่อแม่อย่างพวกเขาเข้าใจอยู่แล้วผู้เป็นบิดาแอบถอนหายใจเป็นครั้งที่สามแล้ว เขาคิดผิดเสียที่ไหน อาอวี๋ของเขาหรือตามใจลูกอีกจนได้อันสุดท้ายไม่เคยมีจริง ครั้งหน้าข้าจะห้ามพวกเขาแล้ว จะห้ามให้ได้!แล้วไป่จวิ้นก็ห้ามไม่ได้…“อาอวี๋ ที่เมืองข้าง ๆ มีงานประกวดพืชผลเจ้าอยากไปดูไหม”“มันคืออะไรหรือเจ้าคะ”“ใครมีผลผลิตที่ใหญ่และรูปทรงสวยที่สุดจะได้เงินรางวัลด้วย เจ้าเมืองนั้นอยากผลักดันให้เป็นเทศกาลประจำปี เพราะแถวนี้มีพื้นที่การเกษตรอยู่เยอะน่ะ”หากเป็นเรื่องนั้นก็ส่งผลดีกับกิจการของนางไม่มีเหตุผลที่จะไม่ไป ถึงไม่ชนะก็ไม่

  • ชายพิการผู้นั้น ที่ใครไม่เห็นค่า นางจะเป็นภรรยาของเขาเอง   เริ่มต้นชีวิตใหม่ 2

    สกุลจางในปัจจุบันทำการค้าเกี่ยวกับผ้าไหมเต็มตัว ต่อยอดมาจากม้วนผ้าที่นางซื้อไว้ สองปีแรกมารดาของนางกับน้องชายต้องไปทำงานที่ร้านขายผ้าเพื่อเรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ตอนนี้ดำเนินกิจการของตนได้ราบรื่นดีแล้วหงเสวียนซู่ใช้ทักษะการเย็บปักของตนเองออกแบบลายผ้าให้สกุลจาง ได้ค่าจ้างไม่น้อย ถึงแม่สามีจะสนิทสนมกับบ้านนางแต่ก็ไม่ได้ผูกขาดฝีมือตัวเองไว้กับใคร นางยังทำงานปักให้ร้านอื่นด้วย แต่ร้านเหล่านั้นต้องออกแบบลายมาเองการงานและชีวิตครอบครัวอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยมจนจางอวี๋จิงยังรู้สึกงุนงง ชาติที่แล้วนางคงทำความดีไว้มากถึงได้มาเสวยสุขเอาตอนนี้ ความคิดของนางหลังจากทบทวนถึงเรื่องนั้นคือ ทำดีต่อไปอย่าให้ขาดไม่อย่างนั้นชีวิตหน้าของนางต้องลำบากกว่านี้แน่ดูจากความปากกล้าของตนเองเวลาปะทะคารมกับคนอื่นชีวิตคงไม่สงบสุขเท่าไร อีกทั้งตอนวัยเด็กของนางก็ลำบากไม่น้อย“อาอวี๋ มาพักหน่อยเถอะแดดเริ่มแรงแล้ว”สามีตะโกนเรียกจากศาลาหลังเล็กข้างสวน นางเงยหน้าขึ้นได้ครึ่งหนึ่งก็รู้สึกแสบตา ยอมแพ้เดินเข้าไปพักในร่มแต่โดยดีไป่จว

  • ชายพิการผู้นั้น ที่ใครไม่เห็นค่า นางจะเป็นภรรยาของเขาเอง   เริ่มต้นชีวิตใหม่ 1

    “พวกนางคุยกันถูกคอ แม่นางหงเหงาปากมาหลายปีไม่มีเพื่อนคุย พอสบายใจจากเรื่องก่อนหน้านี้พวกเขาก็เดินตลาดเที่ยวไม่หยุดเลย สนิทกันกว่าก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ”“ท่านพ่อก็เลยกลายเป็นวิญญาณตามติดท่านแม่และไม่มีใครสนใจสินะเจ้าคะ”จางชิงผิงโดนบุตรสาวโจมตีทางวาจาแทบกระอักเลือด“จิงเอ๋อร์ ปากคอเจ้าเราะรายขึ้นหรือเปล่า”“เปล่านี่เจ้าคะ ข้าปากร้ายมาตั้งนานแล้ว แค่ใช้กับคนอื่นไม่ใช่คนในครอบครัว”ถือว่าข้าโชคดีที่เป็นพ่อเจ้าใช่ไหม แต่เมื่อกี้เจ้าก็เพิ่งจี้ใจดำพ่อตัวเองนะหลังจากซื้อเครื่องเรือนและจัดวางเรียบร้อยก็ได้เวลาเข้าอยู่อย่างเป็นทางการ ท่านแม่พอใจบ้านที่พวกนางดูให้มากไม่มีจุดไหนน่าตำหนิเลย อาจเพราะพึ่งผ่านเรื่องยากลำบากกันมา ตอนนี้อะไรที่ดีกว่าก็ได้ทั้งนั้นทั้งที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินจัดการเรียบร้อยหมดแล้ว ตอนนี้พวกเขาเป็นพลเมืองชั่วคราวของแคว้นหนาน หลังจากสองสกุลตั้งตัวใหม่ได้ไม่นานก็มีข่าวว่าแคว้นเล่อกับแคว้นฉู่จะทำสงครามกัน ทหารหลายหมื่นนายประชิดกำแพงเมืองของแคว้นเล่อแล้วด้วยซ้ำ ถ้าการ

  • ชายพิการผู้นั้น ที่ใครไม่เห็นค่า นางจะเป็นภรรยาของเขาเอง   อพยพออกจากแคว้น 3

    วันต่อมาพวกเขาเดินเท้าไปดูสถานที่ต่าง ๆ ในเมือง พอเดินต่อเนื่องนาน ๆ ภรรยาของไป่จวิ้นก็เริ่มไม่ไหว ถึงจะแวะพักทุกสองเค่อก็ยังไม่ดีขึ้น สุดท้ายจึงให้รถลากพาไปสังเกตการณ์ตามจุดต่าง ๆ แทนพวกเขาเฝ้าดูเมืองนั้นทั้งกลางวันกลางคืน พูดคุยกับชาวบ้าน ดูวิธีแก้ปัญหาของทางการเวลามีคนก่อความวุ่นวาย สุดท้ายก็เลือกว่าจะอยู่ที่เมืองนี้ นางตัดสินใจแล้วก็ต้องหาที่อยู่อาศัยสองแห่งสำหรับสองครอบครัว รวมถึงที่ดินทำกินจางอวี๋จิงอยากอยู่ให้ห่างใจกลางเมืองหน่อยเพื่อความสงบ พวกเขาจึงดูบ้านว่างใกล้ ๆ หลังเมืองแทน จากตรงนี้ออกไปที่พื้นที่เกษตรด้านนอกใกล้กว่าด้วยที่ดินสินเดิมของจางอวี๋จิงสองที่สามารถซื้อที่ในเมืองนี้ได้แค่แห่งเดียวสำหรับทำการเกษตร แต่ด้วยทรัพยากรที่มีหลังจากนี้นางค่อยถอนทุนคืน และกอบโกยกำไรจากการค้าก็ไม่สาย บวกกับทรัพย์สินของทางฝั่งสามีพวกเขายังซื้อที่ได้อีกหลายแปลง“มีแต่พวกเราที่มีที่ดินทำเกษตรในชื่อตัวเอง คนส่วนใหญ่ต้องเช่าที่ทำกิน ฐานะของเราที่นี่ก็ไม่แย่นะเจ้าคะ”“ถือว่าปานกลางละมั้งนะ” เขาก็ไม่มั่นใจเรื่องนี

  • ชายพิการผู้นั้น ที่ใครไม่เห็นค่า นางจะเป็นภรรยาของเขาเอง   อพยพออกจากแคว้น 2

    จางอวี๋จิงออกมานั่งรับลมจนถึงเช้าทุกครั้งที่ได้นอนค้างแรม ตอนนี้ถึงจะมีคนรู้ว่า พวกเขาย้ายถิ่นก็ไม่เป็นไรแล้ว แคว้นเล่อไม่ส่งคนมาตามหาประชาชนตัวเล็ก ๆ ที่หนีไปคนเดียวหรอกถึงจะเดินทางอย่างเปิดเผยแล้ว แต่จางอวี๋จิงก็ยังรักษาระยะห่างกับคนอื่นอยู่เหมือนเดิม“อีกสองวันน่าจะพ้นเขตป่านี้แล้วเจอถนนสายหลัก ตอนนั้นรถม้าคงไม่โคลงเคลงให้เจ้าเวียนหัวแล้วละนะ” ไป่จวิ้นถือชามอาหารมาให้ภรรยาที่มานั่งปลีกวิเวกอยู่คนเดียว“เรื่องงานไม่ได้อยู่ในหัวข้าแล้วเจ้าค่ะ สภาพข้าตอนนี้ไม่มีเวลาจะไปคิดเรื่องอื่นเลย แค่ทำให้ตัวเองกินข้าวได้บ้างก็เต็มกลืนแล้ว”ไป่จวิ้นขยับเก้าอี้มาชิดใกล้แล้วนั่งอิงแอบกับนาง หวังว่าไออุ่นและความรักจะช่วยปลอบประโลมช่วงเวลายากลำบากนี้ของนางได้ อารมณ์ของหญิงสาวเริ่มแปรปรวน เพราะมีความกดดันร่วมระหว่างเดินทาง กว่านางจะสงบแล้วกลับไปเป็นเหมือนเดิมก็คงหลังจากที่หาที่ลงหลักปักฐานได้อย่างมั่นคงแล้ว“หลังจากไปถึงเมืองแล้วอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม”“...เป็ดน้ำแดง”“ได้ ๆ ข

  • ชายพิการผู้นั้น ที่ใครไม่เห็นค่า นางจะเป็นภรรยาของเขาเอง   อพยพออกจากแคว้น 1

    ตราที่มีอายุมากกว่าสิบปีนี้ยิ่งทำให้คนของทางการเชื่อสนิทใจว่าพวกเขาค้าขายมานานแล้วจริง ๆรถม้าสามคันเคลื่อนตัวออกจากเมืองในเวลาเช้าตรู่ กว่าคนจะรู้ว่าสกุลไป่ไม่อยู่ที่นั่นแล้วก็เป็นหลายวันถัดมา ตอนนั้นพวกเขาก็เดินทางมาถึงเมืองชายแดนแล้ว“ออกมาหน่อยไหม” ไป่จวิ้นเลิกผ้าม่านออกให้เห็นคนข้างในรถม้าคันหน้ามีเขากับภรรยาและบิดาของนางโดยสาร ในตัวรถยังวางของใช้และหีบห่อสัมภาระเอาไว้ปะปนกัน ส่วนคนอื่น ๆ นั่งอยู่คันหลังโดยมีม้วนผ้าอำพรางไว้จางอวี๋จิงถือยาดมสมุนไพรไว้ไม่เคยห่างตัว ตั้งแต่ออกเดินทางนางก็วิงเวียนและอาเจียนบ่อยมาก ทรมานกายแต่ก็ต้องฝืนทนเพื่อให้ผ่านพ้นไปนางไม่มีแม้แต่แรงจะตอบรับสามีจึงพยักหน้าเฉย ๆ“ตอนนี้ยังหน้าซีดอยู่เลย ออกมาก่อนเถอะ สูดอากาศบ้างก็น่าจะดีนะ”“คนคุ้มกันล่ะเจ้าคะ?”“พวกเขาไปรายงานที่สำนักคุ้มภัยแล้ว เสร็จงานแล้ว ไม่อยู่แถวนี้หรอก”สำนักคุ้มภัยทำงานตามชื่อ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าและกองคาราวานที่ต้องการคนคุ้มครอง กองคาราวานที่ใหญ่มาก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status