ตาที่หลับปรือด้วยอารมณ์ที่เคลิบเคลิ้มของนางลืมขึ้นทันทีเพราะตกใจกับความเจ็บปวดกระทันหันนี้ “ จุ๊!! มิเป็นไรหรอกเชื่อข้า อดทนหน่อยแล้วเจ้าจะติดใจมันยิ่งนัก ”
ระหว่างที่ปลอบประโลมนางเบาๆ เขาก็ค่อยชักนิ้วแกร่งนั้นเข้าออกช้าๆ จนกระทั่งเร่งความเร็วขึ้นจนกลายเป็นกระแทกนางอย่างรุนแรง
เสียงร้องห้ามและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเปลี่ยนเป็นเสียงครวญครางอย่างสุขสมแทน เหลียนฮวาหลับหูหลับตาร้องครวญครางอย่างสุขสมยิ่งนัก นางแอ่นสะโพกอวบเข้าหานิ้วแกร่งของเขาอย่างหยุดไม่อยู่
จนกระทั่งสะโพกอวบของนางกระตุกเกร็งและปลดปล่อยน้ำหวานออกมาเต็มมือของท่านอ๋องหนุ่ม เขารู้ว่านางพร้อมแล้วสำหรับเขา มือหนาปลดผ้าคาดเอวของตนเองออกแล้วโยนทิ้งไปด้านล่าง แล้วแหวกชุดยาวของเขาไปด้านข้าง
เลื่อนกางเกงผ้านุ่มลงไปจนพ้นลำกายอวบใหญ่ของเขาที่มันพรักพร้อมสำหรับนางแล้ว มันรอคอยนางมาหลายวันแล้ว อยากจะลองลิ้มรสชาติของร่องอวบที่ตอดลมเป็นจังหวะรอเขาอยู่เช่นกัน
ท่านอ๋องหนุ่มค่อยยกร่างอวบของนางหันหน้าเข้าหากายแกร่งของเขา แล้วจับเจ้าลูกชายใหญ่ล่ำของเขาสอดเข้าไปในร่องอวบของนางที่ตอดลมเบาๆนั้น
ทันทีที่สัมผัสกันสะโพกหนาเกร็งกระตุกแทบจะเสร็จสม มันรอคอยเพียงนางจริงๆ เขาค่อยๆดันลำกายใหญ่นั้นเข้าไปช้าๆ
ขณะที่เหลียนฮวาส่งเสียงกรีดร้องขึ้นอีกครั้งหนึ่ง “ ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันไม่ไหวจริงๆ เพคะ อ๊ายย อ๊ะ เจ็บมันเจ็บเหลือเกินเพคะ อ๊ายย "
เขาจึงได้ประกบจูบนางอีกครั้งอย่างดูดดื่มทันทีเหลียนฮวาที่ถูกท่านอ๋องหนุ่มล่อลวงด้วยจูบที่ช่ำชองของเขาก็หลงเคลิบเคลิ้มไปกับจูบของเขาอีกครั้ง
ระหว่างนั้นร่างหนาก็สอดลูกชายล่ำใหญ่ของเขานั้นเข้าไปจนมิดลำกายทันที เขาแช่มันไว้เพียงครู่ก็ค่อยๆขยับเข้าออกช้าๆจนค่อยๆเร่งความเร็วขึ้นกระแทกเสยนางและยกสะโพกอวบของนางขึ้นแล้วกดมันกระแทกหาเขาอย่างรุนแรง
สำหรับเหลียนฮวานั้นเมื่อความรู้สึกเจ็บแสบแทบจะขาดใจค่อยๆจางหายไป กลับกลายเป็นความเสียวซ่านที่นางเพิ่งเรียนรู้และกำลังหาทางปลดปล่อยความทรมานนี้ให้หายไป
เมื่อเหลียนฮวานักเรียนฝึกหัดที่หัวไวไม่น้อย จับจังหวะรักของเขาได้ นางก็โยกสะโพกอวบนั้นรับแรงกระแทกของเขาอย่างเร่าร้อน แขนเรียวยกขึ้นกอดลำคอหนาของเขาเอาไว้แล้วโยกขยับรับแรงกระแทกของลำกายแกร่งของเขาอย่างร่านรัก ปากก็ร้องครวญครางเสียงกระเส่า
“ อ๊าย อ๊ะ อ๊าย อ๊าย ท่านอ๋องเพคะ อ๊าาา ” ท่านอ๋องหนุ่มก็ร้องครางในลำคอกระหึ่ม เขาสุขสมยิ่งนัก ตาคมหรี่ปรือขึ้นมองนางอย่างหลงไหล พลางโยกบั้นเอวสอบด้วยจังหวะรัวเร็ว ถี่ยิบ กระแทกๆๆๆ คนใต้ร่างอย่างอดใจไม่ไหว “ โอ้ววว โอ้วววว โอ้ววว โอ้ววว ”
ทั้งสองต่างโยกขย่มกันอย่างเร่าร้อน ขยับสะโพกเข้าหากันอย่างเต็มอกเต็มใจทั้งสองฝ่าย พลางส่งเสียงร้องครวญครางผสานกันเสียงดังไปทั้งห้องนอนนั้น
จนกระทั่งสะโพกอวบของเหลีียฮวากระตุกเกร็งหลายๆครั้งอย่างรุนแรงจนเสร็จสม ตัวของนางอ่อนระทวยนอนเอนกายลงบนฟูกอย่างอ่อนแรง ทั้งสองหอบหายใจเสียงดังอย่างเหน็ดเหนื่อย
จนเมื่อต่างก็นอนเอนกายเคียงข้างกัน จนกระทั่งลมหายใจเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ร่างล่ำสันที่เหมือนรูปสลักที่งดงามที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามหนั่นแน่น ก็ผุดลุกขึ้นแล้วคร่อมร่างอวบอัดของสตรีที่นอนเคียงข้างทันที
เขาจับลูกชายที่เริ่มแข็งขึงขึ้นอีกครั้งของเขาสอดเข้าไปในร่องอวบที่ฉ่ำไปด้วยน้ำรักทั้งของเขาและของเหลียนฮวา คราวนี้ลูกชายตาเดียวของเขานั้นสอดเข้าไปอย่างง่ายดายจนมิดลำกายใหญ่
จากนั้นอ๋องหนุ่มที่ยังไม่อิ่มเอมกับเรือนร่างของสตรีที่นอนทอดร่างอ่อนระทวยอยู่ ก็โยกขย่มนางทันทีอย่างเร่าร้อน เหลียนฮวาที่นอนระทวยอยู่เมื่อครู่ก็เริ่มเสียวซ่านขึ้นมาทีละน้อย
จนเมื่ออดใจไม่ไหวนางจึงได้โยกสะโพกอวบขึ้นรับลำกายแกร่งของเขาอย่างร่านรัก “ ฮวาเอ๋อ…..ยอดรัก ” ท่านอ๋องหนุ่มพึมพำอย่างเผลอหลงลืมตนไป ด้วยอารมณ์รักที่กำลังถึงขีดสุดของเขา
เขาโยกขย่มร่างอวบของเหลียนฮวาอย่างเร่าร้อน ปากก็ร้องครางในลำคอหนาอย่างสุขสมยิ่งนัก ยิ่งนางแอ่นสะโพกอวบรับเขาเป็นจังหวะเดียวกันเหมือนทั้งคู่ค้นหาคู่ของตนเองพบกระนั้น การเริงรักครั้งนี้สุขสมยิ่งนัก
ท่านอ๋องหนุ่มแม้จะผ่านหญิงมากไม่น้อย แต่เขาก็มิเคยสุขสมเท่าเสพสุขกับร่างอวบอัดของหลานสาวแม่นมที่มีฐานะสูงกว่าสาวใช้เพียงแค่เล็กน้อย เขามิอาจจะแต่งงานกับนางได้ เพราะฐานะของนางต่ำต้อยจนเกินไป แต่เขาก็จะเลี้ยงดูนางอย่างดีในเรือนหลังของเขานี้
“ อ๊าาา ซี๊ด อ๊ายย อ๊าายย อ๊ะ อ๊ะ อ๊าาา ” เหลียนฮวาที่เสียวซ่านจนทนไม่ไหว นางร้้องครวญครางเสียบแหบเสียงแห้ง จนความเสียวของนางถึงขีดสุดสะโพกอวบก็กระตุกเกร็งหลายครั้งจนแตกระเบิดอย่างรุนแรง ร่างหนาเมื่อเห็นสตรีใต้ร่างเสร็จสมไปอีกครั้งแล้ว
เขาจึงได้เร่งกระแทกลำกายใหญ่เข้าหาร่องอวบของนางอย่างรุนแรงและรวดเร็วยิ่งขึ้นจนกระทั่งสะโพกหนากระตุกเกร็งหลายครั้งปลดปล่อยสายธารรักอุ่นเข้าไปในร่องอวบของนางจนหมดสิ้น แล้วจึงได้ล้มตัวลงนอนเคียงข้างนาง
มือหนานั้นก็เข้ากุมอกอวบใหญ่ของนางไว้ แล้วบีบเค้นมันเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว เหลียนฮวาที่อ่อนแรงนอนอยู่ข้างเขา หันไปสบตาคมที่จ้องมองนางนิ่งอยู่ ใบหน้าของนางแดงก่ำยิ่งนัก
เมื่อนึกถึงภาพการเริงรักของนางกับเขาที่มันเร่าร้อนรุนแรงและหมดสิ้นความละอายใดๆ ต่อหน้าเขา นางยังจำเสียงร้องครวญครางด้วยเสียงน่าเกลียดของตนเองได้ แถมยังโยกกายเข้าหาเข้าอย่างสิ้นไร้ยางอายใดๆ
ใบหน้าหล่อเหลาของอ๋องหนุ่มเลื่อนเข้ามาจนชิดแก้มนวลที่แดงก่ำนั้น แล้วก้มลงหอมแก้มที่ชื้นเหงื่อของนางฟอดใหญ่ แล้วก็จับใบหน้าหวานของนางหันไปหาเขาแล้วจูบนางทันทีอย่างดูดดื่ม คราวนี้เหลียนฮวาอ้าปากรับลิ้นสากของเขาอย่างเต็มใจ เพราะนางได้ตกเป็นของเขาไปแล้วทั้งตัวและหัวใจก็ยังคงเป็นของเขา
นางไม่เคยที่จะลดความรักความหลงในตัวของเขา นางพยายามตัดใจจากเขาอยู่ แต่เขากลับไม่ปล่อยให้นางได้ทำเช่นนั้นเลย กลับรวบรัดนางจนต้องมานอนร้องครวญครางอยู่ใต้ร่างของเขาเป็นครั้งที่สองแล้ว
และนางเรียนรู้ว่าการเสพสุขระหว่างชายหญิงของนางกับท่านอ๋องหรู่หยางนั้นสุขล้ำเหลือเกิน จึงได้ยอมให้เขาจูบนางอย่างดูดดื่มจนกลายเป็นเร่าร้อนไปอีกครั้ง
เมื่อเขาจูบนางจนพอใจแล้ว จึงได้ผุดลุกขึ้นจับร่างอวบของนางพลิกคว่ำลง แล้วดึงสะโพกอวบอัดที่ขาวผ่องของนางขึ้นจนขาของนางตั้งฉาก มือหนาของเขาบีบเค้นมันเบาๆ อย่างอดใจไม่ไหว แล้วจับลูกชายที่แข็งขึงของตนเองสอดเข้าไปในร่องอวบของนางทันที
แล้วโยกบั้นเอวสอบกระแทกนางจากทางด้านหลังอย่างช้าๆ แล้วก็เร่งจังหวะเป็นเร็วขึ้นเรื่อย ๆ จนกดกระแทกนางอย่่างรุนแรง สะโพกอวบก็โยกรับกายแกร่งเป็นจังหวะเดียวกันอย่างร่านรักยิ่งนัก
“ อ๊าย อ๊าย อ๊ะ อ๊ายย โอ้ววว โอ้วว โอ้ววว ” ทั้งสองต่างผสานเสียงร้องครวญครางเสียงดังก้องขึ้นอีกครั้งหนึ่ง อย่างไม่ได้สนใจว่าจะมีผู้ใดได้ยินเสียงการเริงรักที่ดังสนั่นในห้องนอนนี้เลย
ท่านหมอมาตรวจอาการสตรีทั้งสองนางแล้วก็จัดยาเอาไว้ให้แล้วก็ขอตัวกลับไป โดยมีพ่อบ้านซื่อให้คนตามไปส่งเขาถึงที่จวน เมื่อท่านอ๋องยืนดูสาวใช้ของเมิ่งลี่หลินได้ให้ยานางดื่มเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็ตัดสินจะพานางกลับไปที่จวนพร้อมกับยาที่ท่านหมอจัดเอาไว้ นางกับเขายังไม่ได้เป็นอะไรกัน นางไม่ควรจะนอนค้างคืนในตำหนักของเขา แม้นางจะป่วย แต่ก็พอจะเดินทางกลับจวนของพี่ชายของนางได้อยู่อ๋องหนุ่มจึงได้ตัดสินใจอุ้มเมิ่งลี่หลินที่ตอนแรกนางเหมือนไม่ยินยอมกลับไป อ้างว่านางรู้สึกปวดศีรษะแต่เมื่อท่านหมอยืนยันว่านางกับเหลียนฮวามิได้เป็นอะไรมาก แค่เพียงเหลียนฮวามีแผลฟกช้ำที่ขาของนางฟาดกับสะพานในขณะที่นางกำลังร่วงหล่นลงมาเพียงเท่านั้น ส่วนเมิ่งลี่หลินมิได้มีบาดแผลใด แค่เพียงอาการสำลักน้ำ“ เปิ่นหวางคิดว่าเจ้าควรกลับไปนอนพักผ่อนที่จวนของเจ้าจะดีกว่า กินยาที่ท่านหมอจัดให้แล้วก็นอนพักยาวๆ ให้หายดีแล้ว แล้วเปิ่นหวางจะไปเยี่ยมเจ้าที่จวนของพี่ชายเจ้าจะเหมาะสมกว่า ”แล้วเขาก็ช้อนอุ้มตัวของเมิ่งลี่หลินอย่่างไม่ได้สนใจความไม่พอใจของนาง แล้วก็อุ้มพางนางไปขึ้นรถม้าของเขาแล้วก็พานางกลับไปยังจวน โดยให้สาวใช้ของนางเข้า
ท่านอ๋องหรู่หยางเมื่อเห็นเมิ่งลี่หลินและเหลียนฮวาต่างก็พยายามตะเกียกตะกายอยู่กลางลำธารกันทั้งคู่ เขาก็โดดพุ่งลงไปในน้ำทันทีแล้วรีบว่ายตรงไปที่สตรีทั้งสอง แต่เขาไปถึงตัวของเมิ่งลี่หลินก่อน ส่วนนางเมื่อเห็นเขาก็รีบร้องเรียกและสำลักน้ำไปทันที อ๋องหนุ่มจึงได้รีบว่ายเข้าไปหานางแล้วรีบพาตัวนางขึ้นจากน้ำไปก่อน ส่วนเหลียนฮวาเขาคิดว่าองครักษ์ของเขาที่โดดน้ำตามหลังมาก็คงจะเข้าไปช่วยนางได้ทันและก็เป็นเช่นนั้น องครักษ์หลีกังที่เขาเองแอบมีใจให้กับเหลียนฮวาตั้งแต่ที่ได้พบหน้านางเมื่อเข้ามาอยู่ในจวนนี้ใหม่แล้วและพยายามหักห้ามใจไม่ให้คิดเกินเลยกับนาง ยิ่งนางกลับกลายมาเป็นสตรีของท่านอ๋องเขาจึงยิ่งพยายามหักใจไม่ให้คิดกับนางมากไปกว่านายหญิงคนหนึ่ง และยิ่งสงสารและเห็นใจที่ท่านอ๋องมีสตรีอื่นอีกนาง และก็กลับกลายเป็นความรักที่มิอาจจะเปิดเผยได้ เขาร้อนอกร้อนใจมาก ที่เห็นนางตะเกียกตะกายอยู่กลางลำธาร เขารีบว่ายน้ำตรงไปหาเหลียนฮวาอย่างรวดเร็ว แล้วรีบคว้าตัวของนางเอาไว้ แล้วก็ลากเข้าฝั่งอีกด้านหนึ่งไปทันทีเมื่อเหลียนฮวาถูกองครักษ์หลีกังพาตัวขึ้นริมฝั่งน้ำไปอย่างทุลักทุเลแล้ว นางนั่งลงที่ริมฝั
สามวันต่อมา คุณหนูเมิ่งมาเยี่ยมเยียนท่านอ๋องหรู่หยางที่จวนของเขา แต่พ่อบ้านซื่อที่ออกมาต้อนรับกล่าวว่า“ ท่านคงจะเป็นคุณหนูเมิ่งใช่หรือไม่ ตอนนี้ท่านอ๋องไม่อยู่ขอรับ แต่ท่านอ๋องสั่งเอาไว้แล้ว หากคุณหนูเมิ่งมาพบให้เชิญไปรอในเรือนหลักก่อน ท่านอ๋องเข้าวังหลวงคงจะกลับมาในอีกไม่นานนี้แล้ว หรือไม่คุณหนูจะไปนั่งเล่นที่ศาลากลางบึงบัวก็ได้ขอรับ ข้าจะให้สาวใช้นำน้ำชากับขนมไปรับรอง ” พ่อบ้านซื่อแนะนำ ส่วนเมิ่งลี่หลินรับคำพร้อมกับยิ้มให้เขาอย่างอ่อนหวาน “ ข้าจะไปนั่งเล่นที่ศาลาดีกว่า ลมคงจะเย็นสบายดีกว่าในเรือน ” แล้วนางกับสาวใช้ก็เดินกันไปตามเส้นทางที่พ่อบ้านชี้มือบอก ส่วนพ่อบ้านซื่อก็แยกไปสั่งการให้สาวใช้นำน้ำชาและขนมหวานไปรับรองว่าที่พระชายาที่อีกไม่นานก็คงจะแต่งงานกับท่านอ๋องแล้ว ส่วนเมิ่งลี่หลินเมื่อนั่งเล่นอยู่ในศาลาไดัครู่หนึ่ง นางก็เห็นสตรีนางหนึ่งที่แต่งกายหรูหราด้วยอาภรณ์ราคาแพงกำลังเดินเล่นอยู่ที่ในสวนท่ามกลางดอกไม้หลากสีสันที่ขึ้นไปพุ่มเบ่งบานอยู่เต็มไปหมด สตรีนางนั้นมองไปแล้วแม้แต่สตรีด้วยกันเองยังรู้สึกว่านางงดงามบาดตายิ่งนัก ความระแวงพลันเกิดขึ้นในใจของเมิ่งลี่หลินทันท
ท่านอ๋องหนุ่มไม่ได้สนใจในตัวเหลียนฮวาอีกแล้ว เขาเอาแต่จับจ้องสตรีที่เขาพบนางเข้าโดยไม่คาดคิด นางคือคุณหนูเมิ่งลี่ลหลิน คนรักเก่าของท่านอ๋องเมื่อครั้งเขายังรุ่นหนุ่ม นางกับเขาห่างเหินกันไปโดยที่ไม่ได้เลิกรากัน เพียงแต่ในตอนนั้นต่่างก็ยังอายุน้อยท่านอ๋องกับนางเคยรักกันมาก แต่นางจำต้องย้ายตามพี่ชายของนางไปที่เมืองฉางโจว เพราะพี่ชายของนางไปรับตำแหน่งเจ้าเมืองของที่นั่น แต่บัดนี้เขาย้ายกลับมารับตำแหน่งเจ้ากรมยุติธรรมแล้ว จึงย้ายครอบครัวกลับมาพำนักยังจวนของเขาที่ในเมืองหลวงตามเดิมท่านอ๋องหรู่หยางและสตรีนางนั้นต่่างจับจ้องมองกันเหมือนกับโลกนี้มีเพียงพวกเขาสองคนเพียงเท่านั้น และแล้วท่านอ๋องก็ออกเดินตรงไปหาสตรีนางนั้นที่เขาและนางต่างกำลังจับจ้องกันอย่างไม่คลาดสายตา เขาไม่ได้บอกอะไรกับเหลียนฮวาสักคำ เขาเดินไปสนทนากับสตรีนางนั้นแล้วก็พากันเดินเข้าไปในสวนดอกไม้แล้วก็หายไปเลย ส่วนเหลียนฮวาได้แต่จ้องมองทั้งสองที่พากันเดินลับหายไปจนลับตาโดยที่ตนเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรได้ ในอกของนางปวดแปลบยิ่งนัก ที่เห็นสามีในความลับเดินไปสนทนากับสตรีอื่นแล้วพากันเดินหายไป แถมเมื่อเขาได้พบสตรีนางนั้
“ ป้ารู้เรื่องของเจ้ากับท่านอ๋องแล้ว เมื่อคืนพวกเจ้าอยู่ในห้องนอนด้วยกันบ่าวไพร่มันนินทากันให้สนุกปาก เสียงดังออกไปนอกเรือน ป้าไปถามท่านอ๋องเมื่อเช้าก่อนที่ท่านจะออกไปราชการที่วังหลวงแล้วท่านอ๋องยอมรับกับป้าว่าเขารับเจ้าเป็นอนุ และได้เสียกับเจ้าก่อนหน้านี้แล้ว จึงยอมให้เจ้าแต่งงานกับผู้ใดไม่ได้อีก เหลียนฮวาเกิดอะไรขึ้นไหนกันแน่ " แม่นมเหลียนที่เพิ่งรู้เรื่องที่ท่านอ๋องมอบเรือนหลังนี้ที่หรูหราเกินฐานะคนอาศัยให้เหลียนฮวาก็เพราะนางเป็นสตรีของท่านอ๋อง เหลียนฮวาใบหน้าร้อนผ่าว “ หลายวันก่อนข้าทำขนมแล้วนำไปให้ท่านอ๋องชิม แต่ท่านอ๋องเมื่อชิมขนมของข้าแล้ว เขาดูเหมือนมีอาการผิดปกติ เขาเข้าใจว่าข้าวางยาปลุกกำหนัดเขา แต่ข้าไม่ได้ทำนะเจ้าคะ และก็อย่างที่ท่านป้าทราบเจ้าค่ะ ข้าตกเป็นของท่านอ๋องในบ่ายวันนั้นและเมื่อคืนเขาก็…..มาที่เรือนนี้เจ้าค่ะ ”ป้าของเหลียนฮวาถอนใจ แม้นางจะเป็นแม่นมของท่านอ๋อง แต่นางก็รู้ดีว่าท่านอ๋องผู้นี้ถือตัวนัก การที่จะยอมรับแต่งงานกับเหลียนฮวารับนางเป็นชายานั้นไม่มีทางเป็นไปได้ และแม่นมก็เสียดายความงดงามของเหลียนฮวา อยากให้นางมีโอกาสที่ดีกว่าเป็นอนุในเรือนหลังของ
เมื่อกระแทกนางจนกระทั่งเสร็จสมไปอีกครั้งพร้อมๆกันแล้ว มือหนากดสะโพกอวบของนางลงแนบกับฟูกหนานั้น แล้วยกก้นงอนงามของนางขึ้นเล็กน้อย แล้วสอดลำกายใหญ่ของเขาเข้าไปอีกครั้งจนมิดลำกายนั้น แล้วขย่มนางอย่างรุนแรงอีกครั้ง เขานอนคร่อมร่างล่ำสันบนร่างอวบอัดของนางจากทางด้านหลัง แขนแกร่งทั้งสองข้างก็ยันฟูกนอนเอาไว้เพื่อรับน้ำหนักของตนเองไม่ให้กดลงไปที่คนด้านล่างมากนัก แล้วโยกบั้นเอวขย่มร่างอวบของนางจากทางด้านหลังอย่างเร่าร้อน ทั้งสองต่างโยกขยับเข้าหากันอย่างรุนแรง ด้วยจังหวะรักเดียวกับ ส่วนปากก็ร้องครวญครางอย่างสุขสม เจ้าของจวนควงบั้นเอวกระแทกนางอย่างรุนแรง แล้วก็เหมือนสะโพกหนาของเขามีชีวิตของตัวมันเอง มันขย่มนางอย่างเร่าร้อน เขาสุขสมอย่างที่ไม่เคยมาก่อน เจ้าของจวนหนุ่มร้องครวญครางในลำคอหนาจนแสบไปหมด เมื่อต่างโยกเข้าหากันด้วยจังหวะที่ดุเดือดและเร่าร้อนจนเสร็จสมไปอีกครั้งแล้ว ร่างล่ำสันที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามก็จับสตรีใต้ร่างพลิกไปมาหลายท่วงท่าตามแต่ใจของตนเอง จนกระทั่งลงมานอนกระแทกร่างอวบของนางบนพื้นด้านล่างอย่างอย่างเมามัน เมื่อเสร็จสมเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ได้ จนรอบกายของทั้ง