“ หม่อมฉันไม่อยากเป็นสตรีของท่านเพคะ แล้วเหตุใดท่านอ๋องไม่ถามหม่อมฉันก่อน ว่าหม่อมฉันสมัครใจอยากจะเป็นสตรีของท่านหรือไม่ ” นางหันไปถามเขาอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่เพิ่งจะได้ยินเข้า
“ เจ้าไม่มีสิทธิ์เลือกอีกแล้ว นับจากเจ้าวางยาปลุกกำหนัดเปิ่นหวาง เจ้าก็เป็นเมียของเปิ่นหวางแล้ว และภรรยาย่อมเป็นสิทธิ์ของสามี เจ้าควรยอมรับมันแต่โดยดี มาเถิด ” แล้วเขาก็ยกร่างของเหลียนฮวาให้ยืนขึ้น เพื่อเผชิญหน้ากับเขา นางไม่ยอมเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา
นางยังไม่ยินยอมและยังงุนงงไม่ทันได้ตั้งตัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยกเรือนให้นางพำนักในตำแหน่งสตรีของเขา มิน่าเล่าเรือนหลังนี้จึงดูเกินฐานะของผู้อาศัยเช่นนาง แถมยังมีข้าวของใหม่ๆของสตรีอีกหลายอย่างอีกด้วย
“ ฮวาเอ๋อ สบตาข้า ข้าต้องการมองเห็นความรู้สึกของเจ้าว่าคิดเช่นไรกับข้ากันแน่ ” มือหนาที่ร้อนรุ่มของเขา เชยคางมนของเหลียนฮวาเพียงเบาๆ ทำให้นางนั้นจำต้องเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา และยิ่งทำให้เหลียนฮวาเห็นดวงตาคมกริบที่จ้องมองนางด้วยดวงตาที่วาววามเหมือนมีเปลวไฟของความปรารถนาลุกโพลงอยู่ในนั้น
“ ฮวาเอ๋อ ไม่ว่าเจ้าจะคิดเช่นไรกับเปิ่นหวาง แต่เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือกอีกแล้ว และอย่าคิดจะหว่านเสน่ห์บุรุษใดอีก เพราะเจ้าคือของๆเปิ่นหวาง ” เขากระซิบบอกนางเบาๆ แล้วก้มลงมาประกบจูบทันที โดยที่นางอ้าปากค้างอยู่เพราะยังตกใจกัับสิ่งที่เกิดขึ้น และนั่นทำให้นางถูกลิ้นสากที่ร้อนรุ่มของเขา สอดเข้าไปในปากอวบอิ่มที่สั่นระริกของนางในทันที
และจูบที่โจนจ้วงอย่างรวดเร็ว และเข้าเกี่ยวพันลิ้นเล็กที่แสนจะนุ่มนิ่มทันที เหมือนเขาหิวโหยนางเหลือเกิน เมื่อได้จูบนางแล้วเขาก็จูบอย่างหิวกระหายเหลือเกิน จูบจนนางแทบจะขาดอากาศหายใจ จูบจนตัวของคนในอ้อมกอดอ่อนระทวยไปหมด
จนต้องเซไปพิงอกแกร่งของเขาเอาไว้เป็นหลักก่อนที่นางจะทรุดลงไปกับพื้นห้อง แต่อ๋องหนุ่มไม่ปล่อยให้นางล้มลงไป เขาช้อนอุ้มร่างอ่อนระทวยของนางเดินตรงไปที่เตียงสี่เสาหลังใหม่ที่เขาสั่งให้ซื้อหามาใหม่พร้อมกับเครื่องเรือนหลายๆชิ้นในเรือนหลังนี้ เพื่อเหมาะสมกับตำแหน่งอนุของเขา หรืออีกนัยหนี่งก็คือเมียคนแรกของเขา แม้จะไม่ใช่ชายาออกหน้าออกตา แต่นางก็เป็นสตรีคนแรกที่เขารับเข้าเรือนหลังของเขา
ตอนแรกเขาไม่ได้คิดจะมองนางเลยสักนิด แต่จะพูดให้ถูกต้องก็คือเขาก็ไม่ได้มองสตรีอื่นๆด้วยเช่นกัน แต่เมื่อได้ตัวของนางในวันนั้นแล้ว กลับกลายเป็นว่าเขาเฝ้าแต่ฝันถึงนาง หลับลงในทุกค่ำคืนในฝันมันมีแต่นาง เหมือนกับร่างกายของเขามันโหยหานางเสียเหลือเกิน และยิ่งมาได้ยินว่าเสด็จแม่ของเขาจะให้นางเข้าถวายตัว เขายิ่งทนไม่ได้
พอเขาทักท้วงเรื่องถวายตัว เสด็จแม่กลับจะให้นางเข้าพิธีคัดเลือกชายาขององค์ชายอื่นอีก เหมือนเสด็จแม่ต้องการให้นางออกเรือนเสียเหลือเกิน และยิ่งทราบจากแม่นมว่านางออกไปทำงานข้างนอกและคุณชายเสิ่นผู้นั้นเทียวรับเทียวส่งนาง
เขายิ่งไม่สบายใจ และไม่คิดจะให้นางไปทำงานข้างนอกอีกแล้ว เพราะนางคือเมียของเขา แม้จะไม่ได้ยกย่องออกหน้าออกตา แต่นางคือเมียที่เขาเลี้ยงดูนางได้สบาย โดยไม่จำเป็นต้องทำงานใดๆทั้งสิ้น
จูบนั้นเรียกร้องและยาวนานจนเหลียนฮวาแทบจะขาดอากาศหายใจ เขาจึงได้ยอมปล่อยปากจิ้มลิ้มของนาง แล้วเปลี่ยนไปไล้เลียซอกคอขาวผ่องนั้นแทน
สตรีในอ้อมกอดที่ตัวอ่อนระทวยจากมนต์สะกดที่แสนจะช่ำชองของชายหนุ่มที่ผ่านสังเวียนรักมานับไม่ถ้วน เพราะอ๋องหรู่หยางก็เช่นเดียวกับบุรุษสูงศักดิ์ทั่วไป
ที่สามารถเรียกสตรีที่เขาพึงใจมาปรนนิบัติได้ตามต้องการ แม้เขาไม่เชิงเป็นชายเจ้าชู้ แต่ก็มิได้ขาดแคลนสตรีงาม และเขาใช้ประสบการณ์ที่ช่ำชองของเขากับนางจนฮวาเอ๋อเคลิบเคลิ้มยิ่งนัก
ยอมให้เขาไล้เลียซอกคอขาวผ่องจนเลยมาถึงเนินอกอวบขาวของนาง เขาจูบที่ร่องอกอวบนั้นฟอดใหญ่แล้วไล้เลียมันจนเปียกชุ่ม มือหนาเอื้อมไปดึงเชือกผ้าเส้นเล็กๆ ที่ผูกตูโต้วผืนบางเบาที่สตรีคนงามสวมเอาไว้เวลาเข้านอน ที่ผูกเอาไว้ด้านหลังจนมันหลุดออกจากกัน แล้วมือหนาก็ค่อยๆ ดึงทั้งชุดนอนผ้าบางเบานี้จนมันเลื่อนหลุดไปจากเรือนร่างอวบอิ่มของเหลียนฮวาช้าๆ
จนในที่สุดอกอวบใหญ่ที่มีผลอิงเถาสั่นระริกเหมือนรอคอยก็ปรากฎแก่สายตาของเขา อกอวบนั้นชิดกันมันใหญ่จนล้นมือหนาของเขาที่ลองกุมมันไว้และบีบเบาๆ เหลียนฮวาครางในคอเบาๆ นางหลับตาพริ้ม ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าหวานที่แหงนหงายไปทางด้านหลังหลับตาพริ้มเหมือนเคลิบเคลิ้มยิ่งนัก
อ๋องหนุ่มจึงได้ช้อนอุ้มร่างอวบอัดของนางที่แทบจะเปลือยให้เขาเห็นหมดทั้งร่างแล้วนั้น เดินดุ่มไปที่เตียงนอนสี่เสาหลังใหญ่ที่อยู่กลางห้องในทันที
เมื่อวางร่างอวบงามของนางลงไปบนฟูนนอนที่หนานุ่มแล้ว อ๋องหนุ่มก็โน้มกายลงบนร่างงามของนาง พลางอ้าปากไล้เลียผลอิงเถานั้นเบาๆ และดูดมันค่อยๆช้า ๆ และเพิ่มแรงดูดดื่มมันเช่นทารกดูดนมมารดากระนั้น
“ อ๊าย อ๊าย อ๊ะ ท่านอ๋องไม่นะเพคะ ไม่นะ อ๊าย อ๊ะ อ๊ายย ” เหลียนฮวารู้สึกเสียวซ่านยิ่งนัก เมื่อผลอิงเถาของนางสัมผัสกับลิ้นร้อนชื้นของเขาที่ดูดดื่มผลอิงเถาของนางอย่างเมามัน
นางแอ่นอกอวบไปมาด้วยความเสียวซ่านที่เพิ่มมากขึ้นทุกที ปากก็ร้องครวญครางเสียงกระเส่ายิ่งนัก นางมิเคยรู้มาก่อนว่าสัมผัสระหว่างชายหญิงมันจะเสียวซ่านจะเย้าย้วนใจ และสุขสมเช่นนี้ ยิ่งเขาดูดดื่มผลอิงเถานางเท่าไหร่ ฮวาเอ๋อยิ่งเสียวมากขึ้นเท่านั้น
“ อ๊าย อ๊ะ อ๊า ท่านอ๋องไม่ ไม่นะ อย่านะ อ๊าย อ๊ายย” ปากก็ร้องห้ามเขาเสียงสั่นแต่ก็ครวญครางไม่หยุด มีหรือท่านอ๋องหนุ่มจะเชื่อฟังนาง เขายิ่งดูดดื่มผลอิงเถาของนางทั้งสองข้างสลับกันไปมาอย่างเร่าร้อน ทั้งดูดดื่ม ทั้งไล้เลีย ทั้งฟอนเฟ้น จนเหลียนฮวาแทบจะขาดใจไปตรงหน้าของเขา
“ ท่านอ๋องเพคะ ไม่นะ อย่านะ อ๊าย อ๊ะ อ๊ายย อ๊ายยยย ” เหลียนฮวาทั้งรองห้ามทั้งครวญครางทั้งแอ่นร่างอวบส่ายไปมาอย่างร่านรักยิ่งนัก
ท่านอ๋องหนุ่มยกยิ้มน้อย ๆ ที่ริมฝีปากหนา เขารู้ว่านางร่านรักยามอยู่บนเตียงผิดกับภาพอ่อนหวานเรียบร้อยที่นางแสดงออกมาให้ผู้อื่นเห็น ร้อนแรงจนเขาถูกใจยิ่งนัก มือหนาลูบไล้นางไปจนทั่วร่างอวบ
ปากก็ปรนเปรอนางไม่หยุด เหลียนฮวาที่อ่อนระทวยจนหมดหนทางที่จะต่อต้านเขา ได้แต่ยอมให้เขากระทำกับนางตามแต่ใจของเขาต่อไป
เมื่อหนาเลื่อนเข้าไปในกระโปรงบางเบาตัวนั้น แล้วเมื่อพบเนินอวบที่เขาเฝ้าจินตนาการถึงมันมาหลายวันแล้ว มือหนาบีบขย้ำมันอย่างมันมือ แล้วก็สอดนิ้วแกร่งเข้าไปหยอกเย้ากับเมล็ดดอกไม้ของนางอย่างยั่วเย้า
เมื่อมันบวมเป่งขึ้นกว่าเดิม เขาก็สอดนิ้วแกร่งเข้าไปช้าๆ มันยังคับแน่นยิ่งนักสมใจของเขา นางยังมิเคยตกเป็นของผู้ใดนอกจากเขาเพียงเท่านั้น
และค่ำคืนนี้นางก็ต้องตกเป็นของเขาอีกครั้งอย่างเต็มใจยิ่ง เสียงนางร้องครวญครางกระเส่า ยิ่งพาให้อารมณ์หนุ่มของเขาเตลิดยิ่งนัก นิ้วแกร่งกระแทกร่องอวบของนางจนมิดลำ “ อ๊าย เจ็บ ฮวาเอ๋อเจ็บมากเลย ท่านอ๋อง ไม่เอาแล้วไม่นะ ” นางกรีดร้องทันที
ท่านอ๋องหนุ่มไม่ได้สนใจในตัวเหลียนฮวาอีกแล้ว เขาเอาแต่จับจ้องสตรีที่เขาพบนางเข้าโดยไม่คาดคิด นางคือคุณหนูเมิ่งลี่ลหลิน คนรักเก่าของท่านอ๋องเมื่อครั้งเขายังรุ่นหนุ่ม นางกับเขาห่างเหินกันไปโดยที่ไม่ได้เลิกรากัน เพียงแต่ในตอนนั้นต่่างก็ยังอายุน้อยท่านอ๋องกับนางเคยรักกันมาก แต่นางจำต้องย้ายตามพี่ชายของนางไปที่เมืองฉางโจว เพราะพี่ชายของนางไปรับตำแหน่งเจ้าเมืองของที่นั่น แต่บัดนี้เขาย้ายกลับมารับตำแหน่งเจ้ากรมยุติธรรมแล้ว จึงย้ายครอบครัวกลับมาพำนักยังจวนของเขาที่ในเมืองหลวงตามเดิมท่านอ๋องหรู่หยางและสตรีนางนั้นต่่างจับจ้องมองกันเหมือนกับโลกนี้มีเพียงพวกเขาสองคนเพียงเท่านั้น และแล้วท่านอ๋องก็ออกเดินตรงไปหาสตรีนางนั้นที่เขาและนางต่างกำลังจับจ้องกันอย่างไม่คลาดสายตา เขาไม่ได้บอกอะไรกับเหลียนฮวาสักคำ เขาเดินไปสนทนากับสตรีนางนั้นแล้วก็พากันเดินเข้าไปในสวนดอกไม้แล้วก็หายไปเลย ส่วนเหลียนฮวาได้แต่จ้องมองทั้งสองที่พากันเดินลับหายไปจนลับตาโดยที่ตนเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรได้ ในอกของนางปวดแปลบยิ่งนัก ที่เห็นสามีในความลับเดินไปสนทนากับสตรีอื่นแล้วพากันเดินหายไป แถมเมื่อเขาได้พบสตรีนางนั้
“ ป้ารู้เรื่องของเจ้ากับท่านอ๋องแล้ว เมื่อคืนพวกเจ้าอยู่ในห้องนอนด้วยกันบ่าวไพร่มันนินทากันให้สนุกปาก เสียงดังออกไปนอกเรือน ป้าไปถามท่านอ๋องเมื่อเช้าก่อนที่ท่านจะออกไปราชการที่วังหลวงแล้วท่านอ๋องยอมรับกับป้าว่าเขารับเจ้าเป็นอนุ และได้เสียกับเจ้าก่อนหน้านี้แล้ว จึงยอมให้เจ้าแต่งงานกับผู้ใดไม่ได้อีก เหลียนฮวาเกิดอะไรขึ้นไหนกันแน่ " แม่นมเหลียนที่เพิ่งรู้เรื่องที่ท่านอ๋องมอบเรือนหลังนี้ที่หรูหราเกินฐานะคนอาศัยให้เหลียนฮวาก็เพราะนางเป็นสตรีของท่านอ๋อง เหลียนฮวาใบหน้าร้อนผ่าว “ หลายวันก่อนข้าทำขนมแล้วนำไปให้ท่านอ๋องชิม แต่ท่านอ๋องเมื่อชิมขนมของข้าแล้ว เขาดูเหมือนมีอาการผิดปกติ เขาเข้าใจว่าข้าวางยาปลุกกำหนัดเขา แต่ข้าไม่ได้ทำนะเจ้าคะ และก็อย่างที่ท่านป้าทราบเจ้าค่ะ ข้าตกเป็นของท่านอ๋องในบ่ายวันนั้นและเมื่อคืนเขาก็…..มาที่เรือนนี้เจ้าค่ะ ”ป้าของเหลียนฮวาถอนใจ แม้นางจะเป็นแม่นมของท่านอ๋อง แต่นางก็รู้ดีว่าท่านอ๋องผู้นี้ถือตัวนัก การที่จะยอมรับแต่งงานกับเหลียนฮวารับนางเป็นชายานั้นไม่มีทางเป็นไปได้ และแม่นมก็เสียดายความงดงามของเหลียนฮวา อยากให้นางมีโอกาสที่ดีกว่าเป็นอนุในเรือนหลังของ
เมื่อกระแทกนางจนกระทั่งเสร็จสมไปอีกครั้งพร้อมๆกันแล้ว มือหนากดสะโพกอวบของนางลงแนบกับฟูกหนานั้น แล้วยกก้นงอนงามของนางขึ้นเล็กน้อย แล้วสอดลำกายใหญ่ของเขาเข้าไปอีกครั้งจนมิดลำกายนั้น แล้วขย่มนางอย่างรุนแรงอีกครั้ง เขานอนคร่อมร่างล่ำสันบนร่างอวบอัดของนางจากทางด้านหลัง แขนแกร่งทั้งสองข้างก็ยันฟูกนอนเอาไว้เพื่อรับน้ำหนักของตนเองไม่ให้กดลงไปที่คนด้านล่างมากนัก แล้วโยกบั้นเอวขย่มร่างอวบของนางจากทางด้านหลังอย่างเร่าร้อน ทั้งสองต่างโยกขยับเข้าหากันอย่างรุนแรง ด้วยจังหวะรักเดียวกับ ส่วนปากก็ร้องครวญครางอย่างสุขสม เจ้าของจวนควงบั้นเอวกระแทกนางอย่างรุนแรง แล้วก็เหมือนสะโพกหนาของเขามีชีวิตของตัวมันเอง มันขย่มนางอย่างเร่าร้อน เขาสุขสมอย่างที่ไม่เคยมาก่อน เจ้าของจวนหนุ่มร้องครวญครางในลำคอหนาจนแสบไปหมด เมื่อต่างโยกเข้าหากันด้วยจังหวะที่ดุเดือดและเร่าร้อนจนเสร็จสมไปอีกครั้งแล้ว ร่างล่ำสันที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามก็จับสตรีใต้ร่างพลิกไปมาหลายท่วงท่าตามแต่ใจของตนเอง จนกระทั่งลงมานอนกระแทกร่างอวบของนางบนพื้นด้านล่างอย่างอย่างเมามัน เมื่อเสร็จสมเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ได้ จนรอบกายของทั้ง
ตาที่หลับปรือด้วยอารมณ์ที่เคลิบเคลิ้มของนางลืมขึ้นทันทีเพราะตกใจกับความเจ็บปวดกระทันหันนี้ “ จุ๊!! มิเป็นไรหรอกเชื่อข้า อดทนหน่อยแล้วเจ้าจะติดใจมันยิ่งนัก ”ระหว่างที่ปลอบประโลมนางเบาๆ เขาก็ค่อยชักนิ้วแกร่งนั้นเข้าออกช้าๆ จนกระทั่งเร่งความเร็วขึ้นจนกลายเป็นกระแทกนางอย่างรุนแรงเสียงร้องห้ามและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดเปลี่ยนเป็นเสียงครวญครางอย่างสุขสมแทน เหลียนฮวาหลับหูหลับตาร้องครวญครางอย่างสุขสมยิ่งนัก นางแอ่นสะโพกอวบเข้าหานิ้วแกร่งของเขาอย่างหยุดไม่อยู่จนกระทั่งสะโพกอวบของนางกระตุกเกร็งและปลดปล่อยน้ำหวานออกมาเต็มมือของท่านอ๋องหนุ่ม เขารู้ว่านางพร้อมแล้วสำหรับเขา มือหนาปลดผ้าคาดเอวของตนเองออกแล้วโยนทิ้งไปด้านล่าง แล้วแหวกชุดยาวของเขาไปด้านข้างเลื่อนกางเกงผ้านุ่มลงไปจนพ้นลำกายอวบใหญ่ของเขาที่มันพรักพร้อมสำหรับนางแล้ว มันรอคอยนางมาหลายวันแล้ว อยากจะลองลิ้มรสชาติของร่องอวบที่ตอดลมเป็นจังหวะรอเขาอยู่เช่นกัน ท่านอ๋องหนุ่มค่อยยกร่างอวบของนางหันหน้าเข้าหากายแกร่งของเขา แล้วจับเจ้าลูกชายใหญ่ล่ำของเขาสอดเข้าไปในร่องอวบของนางที่ตอดลมเบาๆนั้นทันทีที่สัมผัสกันสะโพกหนาเกร็งกระตุกแทบจะเสร็จสม ม
“ หม่อมฉันไม่อยากเป็นสตรีของท่านเพคะ แล้วเหตุใดท่านอ๋องไม่ถามหม่อมฉันก่อน ว่าหม่อมฉันสมัครใจอยากจะเป็นสตรีของท่านหรือไม่ ” นางหันไปถามเขาอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่เพิ่งจะได้ยินเข้า“ เจ้าไม่มีสิทธิ์เลือกอีกแล้ว นับจากเจ้าวางยาปลุกกำหนัดเปิ่นหวาง เจ้าก็เป็นเมียของเปิ่นหวางแล้ว และภรรยาย่อมเป็นสิทธิ์ของสามี เจ้าควรยอมรับมันแต่โดยดี มาเถิด ” แล้วเขาก็ยกร่างของเหลียนฮวาให้ยืนขึ้น เพื่อเผชิญหน้ากับเขา นางไม่ยอมเงยหน้าขึ้นสบตากับเขานางยังไม่ยินยอมและยังงุนงงไม่ทันได้ตั้งตัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยกเรือนให้นางพำนักในตำแหน่งสตรีของเขา มิน่าเล่าเรือนหลังนี้จึงดูเกินฐานะของผู้อาศัยเช่นนาง แถมยังมีข้าวของใหม่ๆของสตรีอีกหลายอย่างอีกด้วย“ ฮวาเอ๋อ สบตาข้า ข้าต้องการมองเห็นความรู้สึกของเจ้าว่าคิดเช่นไรกับข้ากันแน่ ” มือหนาที่ร้อนรุ่มของเขา เชยคางมนของเหลียนฮวาเพียงเบาๆ ทำให้นางนั้นจำต้องเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา และยิ่งทำให้เหลียนฮวาเห็นดวงตาคมกริบที่จ้องมองนางด้วยดวงตาที่วาววามเหมือนมีเปลวไฟของความปรารถนาลุกโพลงอยู่ในนั้น“ ฮวาเอ๋อ ไม่ว่าเจ้าจะคิดเช่นไรกับเปิ่นหวาง แต่เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเลือก
เหลียนฮวาอึ้งงันไป เพราะไม่ใช่ข้าวของเครื่องเรือนในห้องนอนแห่งนี้เพียงเท่านั้น ข้าวของในเรือนหลังนี้ล้วนแต่เป็นเครื่องเรือนชั้นดี มันมีห้องว่างเป็นห้องเล็กทางด้านหลังอีกหนึ่งห้อง มีห้องสุขาอยู่ด้านหลังเรือน ด้านหน้าเป็นห้องโถงกว้างพอสมควรมีระเบียงด้านข้างที่มีอ่างบัวขนาดใหญ่สามอ่าง มีเก้าอี้โยกเอาไว้นั่งเล่นรับลมเย็นๆ ที่ตั้งอยู่ข้างอ่างบัวนั้น เครื่องเรือนในเรือนนี้เหมือนของใหม่ที่ยังไม่ผ่านการใช้งานเลย มีดอกไม้ประดับในเรือนหลังนี้ เหมือนสาวใช้เพิ่งจะมาจัดดอกไม้หลากสีสันใส่แจกันเอาไว้ให้กระนั้นส่วนในห้องนอนใหญ่ที่มีขนาดที่ใหญ่กว่าห้องนอนเดิมของนางที่อยู่ในเรือนของท่านป้ามากเกือบจะเป็นสองเท่า มีเตียงสี่เสาหลังใหญ่ที่มีผ้าม่านโปรงบางสีขาวสลับลูกไม้สีแดงคลุมเอาไว้ทั้งสี่ด้าน ฟูกนอนก็หนานุ่มและมีขนาดใหญ่กว่าฟูกนอนเดิมของนาง มีโต๊ะเครื่องแป้งที่มีเครื่องประทินผิวกระปุกเล็กกระปุกน้อยวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะนั้น มีคันฉ่องบานใหญ่หนึ่งบาน มีเก้าอี้นั่งที่เข้าชุดกัน ส่วนที่หลังฉากกั้นนั้นก็มีตู้เก็บอาภรณ์ที่สลักลวดลายอิงเถาที่มีกิ่งก้านและใบงดงามนัก มีราวไม้สำหรับพาดอาภรณ์และมีถังอา